Share

บทที่ 254

Penulis: จิ้งซิง
ตาเฒ่าหลานรีบวิ่งโงนเงนออกมา เปิดประตูแล้วพุ่งไปตรงหน้าเวินซื่อ

ใบหน้าที่แก่ชราไม่รู้ว่ามีน้ำตาไหลรินตั้งแต่เมื่อใด เขามองเวินซื่อตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ ในดวงตาเต็มไปด้วยความอาวรณ์และโศกเศร้า

ผ่านไปสักครู่ เขาถึงได้ส่ายหน้าเชื่องช้า แล้วตื่นขึ้นจากความเพ้อฝันชั่ววูบ “เจ้าไม่ใช่คุณหนูใหญ่ เจ้าไม่ใช่นาง...”

คุณหนูใหญ่สกุลหลานของพวกเขาได้ตายไปแล้ว

ไม่อาจกลับมาได้อีกแล้ว

ตาเฒ่าหลานพึมพำ “คิดว่า เจ้าน่าจะเป็นลูกสาวของคุณหนูใหญ่ คงเป็นคุณหนูเวินซื่อสินะ?”

เวินซื่อพยักหน้า “ข้าเอง ไม่ทราบว่าท่านคือ...?”

นางยังไม่รู้จักสถานะของตาเฒ่าหลาน และไม่รู้ว่าควรเรียกขานเขาว่าอย่างไร

ตาเฒ่าหลานยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ต่อมาทันใดนั้นเขาคุกเข่าลงตรงหน้าเวินซื่อ “หลานถงเซิงคารวะคุณหนูเวินซื่อ ตอนนั้นได้รับความเมตตาจากนายท่าน จึงเป็นพ่อบ้านอยู่ในสกุลหลานหลายสิบปี”

เขาเป็นบ่าวในเรือนเบี้ยของสกุลหลาน ทว่าโชคดีที่เกิดวันเดือนปีเดียวกันกับนายท่าน ดังนั้นนายท่านผู้เฒ่าจึงประทานชื่อถงเซิงให้ กระทั่งประทานชื่อแซ่หลานให้เขา

ดังนั้นหลังจากสกุลหลานสิ้นไปแล้ว เขายังคงใช้แซ่ว่าหลาน ไม่อยากจะลืมผู้เป็นนายในอดีตแ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 255

    ตาเฒ่าหลานที่ได้ยินดังนั้นแปลกใจเล็กน้อย “คุณหนูเวินซื่อพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? หรือเจิ้นกั๋วกงนั่นไล่ท่านออกจากสกุลเวินจริงหรือ?!”เมื่อพูดมาถึงประโยคสุดท้าย ตาเฒ่าหลานเสียงดังขึ้นทันควัน อารมณ์ฉุนเฉียวเวินซื่อส่ายหน้า “ท่านลุงหลานอย่าโมโห เขาไม่ได้ไล่ข้าออกมา แต่ข้าออกมาเองต่างหาก”“เกิดเรื่องใดขึ้นหรือ? ครอบครัวเดียวกันแท้ๆ เหตุใดจึงต้องไปล่ะ?”ตาเฒ่าหลานมองเวินซื่อด้วยสีหน้ากังวลท่าทางจริงใจเช่นนั้นทำให้เวินซื่ออบอุ่นในใจหลังครุ่นคิด นางไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสกุลเวินให้ฟัง เลือกเล่าเพียงเรื่องที่ไม่สำคัญให้ตาเฒ่าหลานฟังเท่านั้น“เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ตอนนี้ข้าหลุดพ้นจากสกุลเวินแล้ว แม้จะออกบวชเป็นชี แต่ได้รับพระเมตตาจากฝ่าบาท ได้รับแต่งตั้งเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ ถือว่าดีมากแล้ว”ดีมากอะไรกัน!บ่อน้ำตาตาเฒ่าหลานเกือบแตกอีกครั้งคุณหนูน้อยของเขาทั้งคน ตอนนี้กลับต้องออกบวชเป็นนางชีเสียแล้วหากไม่ใช่เพราะถูกรังแกอย่างหนักในสกุลเวิน แล้วจะยินดีออกบวชเป็นชี เพื่อออกมาจากสกุลเวินได้อย่างไร? !“ข้ารู้อยู่แล้ว เจ้าเวินเฉวียนเซิ่งนั

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 256

    “อู๋โยว อย่าเสียใจเพราะคนที่ไม่รักท่านเพียงคนเดียว”เป่ยเฉินหยวนมองดูน้ำตาที่ไหลรินจากหางตาเวินซื่อ หลังจากยกมือเช็ดให้นางอย่างแผ่วเบา จึงกล่าวอย่างสงสาร “เพราะเขาไม่คู่ควร”คำพูดนี้พูดไปถึงกลางใจของเวินซื่อทันที“ท่านพูดถูก เขาไม่คู่ควร!”เวินซื่อสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเก็บความโศกเศร้าไว้ในใจ“คุณหนูน้อย อย่าเสียใจ แม้ท่านจะไม่ใช่บุตรสาวสกุลเวินอีกแล้ว แต่ท่านเป็นบุตรสาวสกุลหลาน ท่านเป็นสายเลือดของคุณหนูใหญ่”แน่นอนว่าเป็นคนสกุลหลานที่แท้จริงหลังจากเรื่องเจ็บปวดจบลง ตาเฒ่าหลานก็ดีใจเพราะเรื่องนี้มากเดิมทีนึกว่าคนสกุลหลานจะไม่มีทายาทแล้ว แต่ตอนนี้เมื่อมีคุณหนูน้อย สกุลหลานมีทายาทแล้ว!“ท่านลุงหลาน ท่านพูดถูก ข้าหลุดพ้นจากสกุลเวินแล้ว แต่ยังไม่ออกจากสกุลหลาน”เมื่อก่อนเพราะคนฝั่งท่านตาเกิดเรื่องแต่แรก จึงทำให้ความสัมพันธ์ของนางกับสกุลท่านตาไม่ลึกซึ้งแต่ตอนนี้นางรู้สึกมีที่พึ่งพิงขึ้นมาอย่างประหลาดนางเป็นลูกสาวหลานจื่อจวิน แน่นอนว่าต้องแซ่หลานด้วยเวินซื่อยิ้มพร้อมกล่าว “เจิ้นกั๋วกงลบชื่อข้าออกจากบันทึกลำดับญาติตระกูลเวินพอดี ตอนนี้ต่อให้ข้าจะนำชื่อเข้าบันทึกลำดับญาติ ก็ต้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 257

    ยังจำเป่ยเฉินซื่อจื่อเพียงคนเดียวหลังจากตระกูลถูกฆ่าล้างตระกูลได้ตาเฒ่าหลานหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆ ๆ ๆ ช่างเป็นวาสนาต่อกัน นึกไม่ถึงว่าหลังจากผ่านมานานหลายปี สกุลหลานกับจวนเป่ยเฉินอ๋องจะกลับมาผูกสัมพันธ์กันอีกครั้ง”“สกุลหลาน...กับสัมพันธ์จวนเป่ยเฉินอ๋อง?”เป่ยเฉินหยวนสงสัยเล็กน้อยเพราะตอนจวนเป่ยเฉินอ๋องถูกฆ่าล้างตระกูล เขาเพิ่งคลอด เพราะฉะนั้นจึงไม่รู้เรื่องราวมากมายเกี่ยวกับจวนเป่ยเฉินอ๋องในอดีตแต่ฟังจากคำพูดของพ่อบ้านเฒ่าสกุลหลาน ดูเหมือนเขาจะรู้อะไรบางอย่าง“ถูกต้อง มารดาของพระองค์กับคุณหนูใหญ่ของพวกเราเป็นสหายกัน ตอนนั้นทั้งสองคนสนิทกันมาก มักไปมาหาสู่กัน ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างสกุลหลานกับจวนเป่ยเฉินอ๋องจึงดีมากพ่ะย่ะค่ะ”ขณะที่ฟังคำพูดของตาเฒ่าหลาน เวินซื่อและเป่ยเฉินหยวนหันไปสบตาอีกฝ่ายตาเฒ่าหลานหัวเราะชอบใจ “กระทั่งก่อนที่พระองค์และคุณหนูน้อยจะคลอด คุณหนูใหญ่และพระชายายังเคยหมั้นหมายพวกท่านไว้ตั้งแต่อยู่ในท้อง ดูว่าใครคลอดเด็กชายใครคลอดเด็กหญิง แม้แต่ของแทนใจก็ยังมี”แม้แต่สวรรค์ยังเข้าข้างข้า!เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ เป่ยเฉินหยวนแทบจะหัวเราะออกมาเขานึกไม่ถึง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 258

    “นี่มัน...”“ห้องลับแห่งนี้ ตาแก่อย่างข้าขุดขึ้นมาเมื่อสิบกว่าปีก่อน เพราะสิ่งของที่นายท่านเก็บไว้มีมากเกินไป อีกทั้งล้ำค่า ไม่กล้าเอาไว้ในหมู่บ้าน กลัวใครจะมาเห็นเข้า ดังนั้นข้าจึงขนย้ายสิ่งของเหล่านั้นมาซ่อนไว้ในป่าแห่งนี้ทีละน้อย”ตาเฒ่าหลานเช็ดฝุ่นบนชั้นหนังสืออย่างระมัดระวังเวินซื่อเดินเข้าไป ค่อยๆ กวาดมองสิ่งของในห้องลับหนึ่งรอบสมบัติที่สกุลหลานเก็บไว้มีไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นหนังสือที่เคยอยู่ในหอหนังสือสกุลหลาน“นึกถึงยามนั้น สกุลใหญ่ร้อยปีในเมืองหลวง มีจอหงวนถึงสามรุ่น ในยามรุ่งโรจน์ไม่มีสกุลใดเทียบเคียง ยามนั้นไม่รู้มีผู้ศึกษาเล่าเรียนมากน้อยเพียงใดแก่งแย่งกันเพื่อให้ได้หนังสือเขียนมือของนายท่านผู้เฒ่า ตอนนี้ของเหล่านั้นกลับต้องมาอยู่ในห้องลับที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันตั้งสิบกว่าปี”หากวันนี้ไม่ใช่เพราะเวินซื่อมาเยือน ตาเฒ่าหลานคิดว่าหลังจากเขาตาย สิ่งของเหล่านี้ก็ไม่มีวันได้เห็นเดือนเห็นตะวันเวินซื่อได้ยินดังนั้น ในใจรู้สึกโศกเศร้ากับชะตากรรมของสกุลหลานการล่มสลายของสกุลหลานไม่ได้ถูกปรักปรำพวกเขาแค่เลือกข้าง ในยามที่ชัยชนะใกล้มาเยือน กลับเจอกับการแก้แค้นของฝ่ายตรงข้าม

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 259

    เป่ยเฉินหยวนเอ่ยขึ้นอย่างเหมาะเจาะและใส่ใจ“หากเป็นไปได้ ถ้างั้นคงต้องรบกวนท่านอ๋องแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ตอนนี้ตาเฒ่าหลานแทบอยากจะย้ายไปทันทีน่าเสียดายที่ในบ้านเขายังมีของให้ต้องจัดการอีกไม่น้อย ดังนั้นต้องรออีกสองสามวันตาเฒ่าหลานจึงย้ายไปวัดจินหนานต่อมาเป่ยเฉินหยวนสั่งให้คนห่อหนังสือเหล่านั้นทั้งหมดแล้วช่วยเวินซื่อส่งกลับอารามสุ่ยเยว่จากนั้นสั่งให้ทหารจากกองทัพธงดำสองคนเฝ้าอยู่ที่นี่ก่อนจากไปเป่ยเฉินหยวนสั่งเสียงเรียบ “ปกป้องท่านลุงหลานให้ดี หากมีมือสังหารฆ่าได้ไม่เว้น หากคนสกุลเวินมาเยือน...ดูปฏิกิริยาของคนชราก่อน”“พ่ะย่ะค่ะ”แม้ท่าทีที่ตาเฒ่าหลานมีต่อเวินซื่อจะดีมากแต่เป่ยเฉินหยวนก็อยากดู ว่าอดีตพ่อบ้านสกุลหลานผู้นี้ จะปฏิบัติต่อคุณชายทั้งหลายของสกุลเวิน ซึ่งมีสายเลือดของคุณหนูใหญ่ของเขาเช่นกันอย่างไรเวินซื่อไม่รู้ว่าเป่ยเฉินหยวนช่วยนางระวังเรื่องพวกนี้นางกลับไปถึงอารามสุ่ยเยว่ แล้วปิดประตูขนย้ายหนังสือที่เป็นมรดกเหล่านั้นเข้าไปในมิติของหยกทันทีแม้หนังสือที่อยู่ในห้องลับจะถูกรักษาเป็นอย่างดี แต่ผ่านเวลามายาวนานจึงเสียหายบางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เวินซื่อจัดการหนังสือเหล

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 260

    “หรือมิติแห่งนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามความคิดของข้า?”แต่เมื่อครู่นางแค่อยากเตรียมชั้นหนังสือเพียงไม่กี่อันเท่านั้นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ขนาดนี้ อาจเกิดขึ้นเพราะปัจจัยอื่น จึงทำให้มันขยายใหญ่ขึ้นกะทันหันเวินซื่อนึกย้อนถึงสิ่งที่ได้กระทำเมื่อครู่อย่างละเอียด แต่น่าเสียดายที่ไม่มีเบาะแสใดเลยสุดท้ายจึงส่ายหัว ปล่อยเรื่องนี้ไว้ก่อนดีกว่ามีการเลื่อนระดับในครั้งแรก ก็ต้องมีการเลื่อนระดับในครั้งที่สองรอให้เลื่อนระดับในครั้งต่อไปค่อยมาดูว่าตกลงเกิดจากสาเหตุใดเวินซื่อกลับเข้าไปในบ้านหลังเล็ก อ่อ ไม่ ตอนนี้ต้องเรียกว่าอาคารหลังใหญ่เมื่อนางเข้าไป พบว่าแม้อาคารจะมีเจ็ดชั้นแต่ส่วนใหญ่แบ่งออกเป็นสามส่วนส่วนที่หนึ่งคือที่ว่างในชั้นหนึ่งและชั้นสอง ด้านในมีสมุนไพรวางอยู่มากมาย ชั้นหนึ่งเป็นสมุนไพรทั่วไป และมีแท่นผสมยา แท่นตำยาและแท่นปรุงยา อีกทั้งมีโต๊ะเอาไว้เขียนตำรับยาบนนั้นมีพู่กัน หมึก กระดาษ แท่นฝนไว้พร้อมสรรพ ไม่จำเป็นให้นางต้องไปหาซื้อจากข้างนอกชั้นสองเป็นสมุนไพรมีพิษชนิดต่างๆ ส่วนอุปกรณ์ที่เหลือเหมือนกับชั้นหนึ่งไม่ผิดเพี้ยนแค่มองชั้นสองก็รู้ว่าเป็นส่วนที่เอาไว้ให้นางศึกษาเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 261

    ความหนาวเย็นแล่นผ่านหัวใจของเวินเยวี่ยวูบหนึ่ง น้ำเสียงของนางสั่นเครือเล็กน้อย “ถ้าเจ้าฆ่าข้า คนของข้าจะต้องหั่นเจ้าเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน ถึงแม้จะต้องตามล่าไปจนถึงสุดหล้าฟ้าเขียวก็ตาม”หากไม่ได้รับรู้ความจริงจากจินซือถูมาก่อน เกรงว่าเวินซื่อคงเกือบจะหลงเชื่อคำลวงของนางแล้ว“จริงหรือ? เช่นนั้นก็ให้พวกเขามาเถิด ส่วนเจ้า ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตายง่ายดายเช่นนั้นหรอก ก่อนจะฆ่าเจ้า เจ้าต้องช่วยข้าอีกสักเล็กน้อย”ตอนแรกเวินเยวี่ยยังไม่เข้าใจว่าที่เวินซื่อกล่าวหมายความว่าอย่างไรแต่เพียงไม่นาน นางก็เข้าใจแล้ว“สิ่งใดกัน? เจ้าเอาอะไรวางลงบนตัวข้า?!”ทันใดนั้น เวินเยวี่ยก็ตื่นตระหนกเมื่อครู่มีบางอย่างไต่ไปมาบนร่างกายของนาง!ตอนนี้ก็ยังอยู่!เวินเยวี่ยขยับตัวไปมาภายในกรงอย่างรุนแรงพยายามที่จะสลัดสิ่งที่กำลังไต่ไปมาบนร่างกายของนางออกไปทว่าตอนนี้ มีเพียงเวินซื่อที่อยู่นอกกรงเท่านั้นที่มองเห็นแมงมุมสีดำตัวนั้นกำลังไต่ไปทั่วร่างกายของนางแมงมุมตัวนั้นมีขนาดใหญ่เท่ากำปั้น แม้จะมีเพียงตัวเดียว แต่มันก็ใหญ่จนน่าหวาดกลัวโชคดีที่เวินเยวี่ยถูกปิดตาเอาไว้ มิฉะนั้นนางคงจะตกใจจนหน้า

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 262

    เวินซื่อแสดงสีหน้าเย็นชา มองดูเวินเยวี่ยที่กำลังจะถูกแมงมุมพิษกัดตายในกรงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์“พอแล้ว กลับมาเถอะ”แมงมุมพิษถอนเขี้ยวพิษออกในทันที รีบไต่ลงจากร่างกายของเวินเยวี่ยอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กลับมาอยู่ข้างกายเวินซื่ออย่างว่าง่าย“ไปสร้างรังเถิด ที่นี่ไม่ต้องการเจ้าแล้ว”เวินซื่อยื่นนิ้วออกไปแตะที่แมงมุมพิษตัวนั้นเบาๆ จากนั้นก็ปล่อยให้มันจากไปแมงมุมพิษตัวนี้เป็นสิ่งที่จินซือถูส่งมา พร้อมกับแมลงพิษอีกหลายชนิดตอนนี้ก็เหมือนกับตะขาบพิษของพั่วจวิน หลังจากที่ถูกเวินซื่อป้อนด้วยน้ำทิพย์แล้ว พวกมันทั้งหมดก็ยอมรับนางเป็นนาย และต่างก็ไปหาที่สร้างรังอยู่ในมิติเมื่อเห็นใบหน้าของเวินเยวี่ยเปลี่ยนจากสีขาวเป็นเขียว จากเขียวเป็นม่วง และกำลังจะเปลี่ยนเป็นสีดำ ใกล้จะตายเพราะพิษแล้ว เวินซื่อก็ค่อยๆ หยิบยาถอนพิษออกมา ผสมกับน้ำแล้วสาดลงบนใบหน้าของเวินเยวี่ยโดยตรง“ความอดทนของข้ามีขีดจำกัด หากเจ้าไม่อยากถูกพิษจนตาย ทางที่ดีควรเอาศพของท่านแม่ข้าออกมา”เวินเยวี่ยลุกขึ้นยืนด้วยร่างกายสั่นเทา ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ที่มากกว่านั้นคือความเกลียดชังที่มีต่อเวินซื่อทันใดนั้น นางก็หัวเรา

Bab terbaru

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 550

    ถึงขั้นเอาอีกฝ่ายมาข่มขู่เวินจื่อเยวี่ย ทำให้เวินจื่อเยวี่ยต้องเลือกระหว่างนางและหลินเนี่ยนฉือแล้วนางสารเลวที่ยังไม่เดินผ่านประตูเข้ามาจะเอาอะไรมาเทียบกับนาง!เวินเยวี่ยโกรธจัดจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในเสี้ยววินาทีที่ก้มศีรษะลง สายตาอาบยาพิษช่างน่าสะพรึงกลัว“ยุแยงตะแคงรั่ว?”เวินซื่อแค่รู้สึกว่าคำพูดของเวินจื่อเยวี่ยน่าขบขันมาก “มีเพียงคนที่มีหัวใจเท่านั้นถึงจะรู้สึกว่าใคร ๆ ก็เป็นเช่นนี้”นางเหลือบมองเวินเยวี่ยแวบหนึ่งอย่างเฉยชา ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ท่านคิดว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะใช้พวกท่านไปก่อกวนความสงบของนางหรือ? ฝันไปเถอะ พวกท่านยังไม่คู่ควร”“เหอะ พูดเสียน่าฟัง ถ้าไม่ใช่เพราะจดหมายที่เจ้าเขียนไปฟ้อง หลินเนี่ยนฉืออยู่ที่อู๋โจวอยู่ดี ๆ จะเข้ามาที่เมืองหลวงทำไม? แล้วยังต้องการถอนหมั้นกับข้าอีก?!”ถึงตอนนี้เวินจื่อเยวี่ยยังคงเชื่อว่าเวินซื่อไปพูดอะไรกับหลินเนี่ยนฉือ ถึงทำให้หลินเนี่ยนฉือทำเช่นนั้น“ท่านคิดว่าข้อมูลในใต้หล้านี้มีสิ่งใดที่สามารถปิดบังได้อย่างนั้นหรือ? จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกท่านได้ทำเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้า ไร้ยางอายมาไม่น้อย แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงตั้งน

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 549

    อูฐผอมซูบยังตัวใหญ่กว่าม้าการจะทำลายจวนเจิ้นกั๋วกงอันใหญ่โตแห่งนี้โดยอาศัยแมลงเพียงไม่กี่ตัว มันเป็นไปไม่ได้เลยแน่นอน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงเพียงแต่ราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปอย่างเช่นการหมั้นหมายระหว่างจวนเจิ้นกั๋วกงและสกุลหลินเมื่อจวนเจิ้นกั๋วกงถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับชาวต่างเผ่า เวินเฉวียนเซิ่งจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชำระล้างให้หลุดพ้นจากข้อกล่าวหานี้และวิธีการที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นการดึงผู้คนให้เข้ามาพัวพันมากขึ้นสกุลหลินที่ยังมีการหมั้นหมายกับจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นกลุ่มแรกที่รับศึกหนัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินซื่อ และจะกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เวินเฉวียนเซิ่งดึงสกุลหลินให้ลงมาพัวพันด้วยดังนั้นก่อนจะยุติการหมั้นหมายระหว่างหลินเนี่ยนฉือและเวินจื่อเยวี่ย เวินซื่อยังไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้ทว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถแตะต้องจวนเจิ้นกั๋วกงได้ แต่การมีเวินเยวี่ยเพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย“หมั้น...หมั้นหมาย?”ในขณะนี้ เสียงที่สับสนของเวินเยวี่ยก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของ เวินจื่อเยวี่ย“พี่สาม ท่านหมั้นกับใครตั้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 548

    “ท่าน…!”เวินเยวี่ยลมแทบจับเมื่อได้ยินที่เวินซื่อพูดนางข่มไฟโทสะเอาไว้ “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่คนของกองทัพธงดำเสียหน่อย ให้ท่านมาทำการค้นหา ไม่น่าจะเหมาะสมกระมัง?”เวินเยวี่ยฝืนยิ้ม “ท้ายที่สุดแล้วบุญคุณความแค้นระหว่างพี่หญิงห้ากับเยวี่ยเอ๋อร์นั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งกันทั่วทุกคน ถ้าเกิด…”ประโยคสุดท้ายนี้ไม่ได้พูดออกมาทั้งหมด แต่ก็สามารถเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจถ้าเกิดเวินซื่อเข้าไปวางกลอุบายบางอย่างเพื่อใส่ร้ายนางแล้วจะทำเช่นไร?เวินซื่อหันหน้าไปเผชิญหน้ากับเวินเยวี่ย รอยยิ้มเล็ก ๆ เผยออกมาบนใบหน้าอันบริสุทธิ์ผุดผ่องและงดงามของนาง “ข้าไม่ต่ำช้าไร้ยางอายเหมือนเจ้า”ใบหน้าของเวินเยวี่ยสลดลงเพราะดำด่าของนางทันทีแต่วินาทีต่อมาก็ได้ยินเวินซื่อพูดว่า “แต่ว่านี่มันก็เป็นปัญหาจริง ๆ ในเมื่อคุณหนูหกสกุลเวินเป็นกังวลเช่นนี้ เช่นนั้นข้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็ขอยืนค้นหาอยู่ที่ประตูแล้วกัน”ยืนค้นหาอยู่ที่ประตูหรือ?แล้วจะค้นหาอย่างไร?ขณะที่เวินเยวี่ยและคนอื่น ๆ กำลังงุนงง เวินซื่อก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะหยิบขวดหยกขวดหนึ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนางฉางเสี่ยวหานก้าวเข้าไปรับขวดหยกจากมือของเว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 547

    “เหลวไหลสิ้นดี!”แววอันตรายฉายผ่านดวงตาอันคมกริบของเวินเฉวียนเซิ่งในทันใดเขาจ้องไปที่รถม้าที่เวินซื่อนั่งอยู่ สายตามองทะลุช่องว่างของม่านหน้าต่าง พลางชี้ตรงไปที่เวินซื่อ “เวินซื่อ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้ากำลังใส่ร้ายขุนนางในราชสำนักซึ่งเป็นความผิดร้ายแรง!”“หากเจ้าไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นลูกสาวของข้า ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ เด็ดขาด!”“เจิ้นกั๋วกงไม่จำเป็นต้องใจร้อนขู่ขวัญเช่นนี้”ว่าแล้วเวินซื่อก็ยกมือขึ้นเปิดม่านรถแล้ว เดินออกมาจากด้านในอย่างช้า ๆเสี่ยวหานก้าวไปข้างหน้าอย่างมีไหวพริบ ทำตามสาวใช้เหล่านั้น เอื้อมมือออกไปช่วยประคองธิดาศักดิ์สิทธิ์ของนางลงจากรถม้าช้า ๆหลังจากลงสู่พื้นและยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว เวินซื่อก็เงยหน้าขึ้นมองเวินเฉวียนเซิ่งผ่านกองทัพธงดำ นางยิ้มเล็กน้อย “ถ้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่มีหลักฐาน วันนี้จะกล้านำกองกำลังไปปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของท่านได้อย่างไร”การทำงานตามคำสั่งส่วนตัวของอ๋องผู้สำเร็จราชการเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำงานตามพระราชโองการของฝ่าบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเวินซื่อยกมือขึ้น รับพระราชโองการจากมือของกองทัพ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 546

    ให้อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนมาหนุนหลังนางแล้วอย่างไรต่อ เขาไม่เชื่อว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนผู้สง่างามจะบังคับเขาให้ถอนหมั้นได้อย่างนั้นหรือ!เมื่อเวินเฉวียนเซิ่งได้ยินเวินจื่อเยวี่ยพูด ก็มองเขาแวบหนึ่งอย่างเย็นชา “เจ้าควรคิดหาวิธีช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าก่อนดีกว่า ถ้าครั้งนี้พี่ใหญ่ของเจ้าตาย ก็อย่าได้คิดเรื่องหมั้นหมายเลย ข้าเวินเฉวียนเซิ่ง ไม่มีลูกชายที่ใจไม้ไส้ระกำอย่างเจ้า”ใบหน้าของเวินจื่อเยวี่ยขรึมลงทันทีเขารู้ว่าลูกชายคนโปรดของบิดาไม่ใช่เขา แต่เป็นพี่ใหญ่ที่บิดาเลี้ยงดูอย่างสุดชีวิตจิตใจแต่เขานึกไม่ถึงว่ามาถึงขั้นนี้แล้ว บิดาจะยังโหดร้ายถึงเพียงนี้ เอาการหมั้นหมายของเขามาข่มขู่เขาเวินจื่อเยวี่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแต่ในขณะนี้ พ่อบ้านนั้นพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ท่านกั๋วกง คุณชายสาม ครั้งนี้ผู้ที่นำกองทัพธงดำมาไม่ใช่ท่านอ๋องขอรับ”เมื่อได้ยินคำพูดนี้เวินเฉวียนเซิ่งก็หันกลับไปหาพ่อบ้าน “ไม่ใช่เป่ยเฉินหยวนหรอกหรือ? แล้วใครล่ะ?”นอกจากฮ่องเต้น้อยและเป่ยเฉินหยวนเองแล้ว ยังมีใครอีกที่สามารถระดมกองทัพธงดำ ถึงขั้นกล้าปิดล้อมจวนเจิ้นกั๋วกงของเขาได้?ขณะที่เวินเฉวียนเซิ่งกำลังครุ่นคิดในหัวว

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 545

    “เสี่ยวหาน ให้ข้าดูหน้าเจ้าหน่อยสิ”หลังจากขับไล่เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยออกไปแล้ว เวินซื่อก็ดึงฉางเสี่ยวหานเข้ามา“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตบไม่โดนหน้า ข้าหลบได้นิดหน่อย แค่ตบโดนหัวเท่านั้น”ถึงกระนั้น การตบของเวินจื่อเยวี่ยก็หนักหน่วงมาก จนศีรษะของฉางเสี่ยวหานถึงกับสั่นคลอนในตอนนั้น ใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้“เจ้าไม่ต้องกังวล การตบครั้งนี้ข้าจะต้องเอาคืนเขาอย่างแรงแน่นอน”สีหน้าของเวินซื่อเคร่งขรึมลง น้ำเสียงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งฉางเสี่ยวหานลุกขึ้นกล่าวว่า “ไม่ ๆ ๆ ไม่ต้องหรอกธิดาศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครู่ท่านช่วยตบคืนแทนเสี่ยวหานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรอีกเจ้าค่ะ”ฉางเสี่ยวหานรู้จักคนในเมืองหลวงน้อยมาก แต่หลังจากติดตามเวินซื่อมาเป็นเวลานาน ก็ได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ธิดาศักดิ์สิทธิ์พูดกับสองพ่อลูกคู่นั้นเมื่อครู่ ก็ย่อมสามารถคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้อย่างง่ายดายคนหนึ่งคืออดีตบิดาของธิดาศักดิ์สิทธิ์ อีกคนคืออดีตพี่ชายของธิดาศักดิ์สิทธิ์ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นย่ำแย่มากพออยู่แล้ว หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ต้องทะเลาะกับพี่ชายหนักขึ้นด้วยเรื่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 544

    เขาขบริมฝีปากล่างแน่น กัดปากของตัวเองแตกเหมือนไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้เลือดไหลลงจากมุมปากช้า ๆ“หลินเนี่ยนฉือล่ะ?”เวินจื่อเยวี่ยเอ่ยปากถามขึ้นทันใด“ข้าอยากพบนาง”“นางไม่อยากพบท่าน”เวินซื่อเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบ“ข้าบอกว่าข้าอยากพบนาง!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดลั่นอย่างฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด พลางปัดมือของจางเสี่ยวหานออกมือของจางเสี่ยวหานถูกตีเจ็บ ตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อนางรู้ตัวก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง คว้าเพียงหนังสือถอนหมั้นฉบับนั้นไว้ส่วนจี้หยกก็ร่วงลงสู่พื้นดัง “ตุ้บ” ตามมาด้วยเสียงแตกหักดังขึ้น จี้หยกแยกออกเป็นสองส่วนทันทีเวินจื่อเยวี่ยที่ยังอยู่ในอาการฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเสียงนี้อย่างกะทันหัน ก็ก้มหน้าลงมอง เกิดความสับสนขึ้นโดยพลันเขารีบเก็บจี้หยกขึ้นมา เมื่อมองดูรอยแตกหักนั้น ก็ไม่อาจยับยั้งไฟโทสะที่อัดอั้นอยู่เต็มอกไว้ได้ เพียงชั่วครู่ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ฉางเสี่ยวหาน...“ใครให้เจ้าทำของของข้าพัง! เจ้าอยากตายหรือไง?!”“อะไรนะ? ไม่ใช่ข้า เป็นท่านต่างหากที่ปัดมือของข้าเอง...”“สาวใช้ต่ำต้อยอย่างเจ้ายังกล้าเถียงอีก!”เวินจื่อเยวี่ยลุกพรวดขึ้น สีหน้ามีรอยพยายาท ยกมือขึ้นตบหน้าฉางเส

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 543

    เวินจื่อเยวี่ยมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ท่านพ่อ พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”เวินจื่อเยวี่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าน่าจะเข้าใจ เจ้าสาม”“ข้าไม่เข้าใจ!”เวินจื่อเยวี่ยตวาดออกมาทันใด พลางจ้องมองไปที่บิดาของเขาอย่างไม่ละสายตาเวินเฉวียนเซิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “แค่การหมั้นหมายเท่านั้น พ่อรู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจยอมรับ แต่พี่ใหญ่ของเจ้ามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ถ้ายังไม่เอายากลับไปอีก เขาจะต้องตายในไม่ช้า”“เจ้าสาม เจ้าจะทนเห็นพี่ใหญ่ของเจ้าตายไปได้จริงหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขาได้ถามด้วยเสียงอันสั่นเครือเล็กน้อย “ก็เลยต้องเสียสละการหมั้นของข้าเพื่อช่วยพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ? ทั้ง ๆ ที่เรายังมีวิธีอื่นอีก แต่ท่านก็ยังยืนกรานที่จะขอร้องเวินซื่อ?!”“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือ?”สีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลง น้ำเสียงแย่มาก “ไม่ว่าจะเป็นบัวหิมะก็ดี เห็ดหลินจือสีม่วงอายุหนึ่งร้อยปีก็ดี หรือหญ้าฝรั่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยซ้ำก็ดี เจ้าคิดว่ามีสิ่งไหนหาง่ายบ้าง?!”“หากพี่ใหญ่ของเจ้ายังยืดเวลาได้อีกครึ่งค่อนเดือน พ่อก็จะไม่รีบร้อนเช่นนี้! แต่นี่พี่ใหญ่ของเจ้าอาจตายได้

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 542

    นางมองเวินเฉวียนเซิ่งอย่างเย็นชา “ท่านไม่มีคุณสมบัตินี้ตั้งนานแล้ว”“เวินซื่อ! จงระวังท่าทีในการพูดจาของเจ้าด้วย แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกของเจ้ากับพ่อจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง อย่าลืมว่ายังมีเลือดของสกุลเวินไหลเวียนอยู่ในตัวเจ้า”“ใครบอกว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้?”เวินซื่อยิ้มเยาะ “ความสัมพันธ์นี้จะเปลี่ยนไปในไม่ช้า แต่ตอนนี้ขอวกกลับเข้าประเด็นก่อน ท่านเจิ้นจั๋วกง ท่านยังไม่ได้บอกตัวเลือกของท่านเลย ท่านวางแผนที่จะเลือกใครกันแน่?”ล้มเหลวในการเล่นกับอารมณ์ ล้มเหลวในการข่มขู่กลับมาสู่เงื่อนไขข้อแรกสุดอีกครั้ง สายตาของเวินเฉวียนเซิ่งเย็นชาลงระดับหนึ่งในทันใดเวินซื่อดูเหมือนจะมองไม่เห็นเลย เร่งรัดเขาด้วยอารมณ์ที่ดีมาก“ข้ามีเวลาไม่มากนัก ท่านเจิ้นจั๋วกงรีบตัดสินใจโดยเร็วที่สุดเถอะ มิฉะนั้นก็จะไม่มีการเจรจาใด ๆ อีกแล้ว”นางหันไปมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยรอยยิ้มตาหยี “‘พี่ใหญ่แสนดี’ ของข้าก็น่าจะมีเวลาไม่เพียงพอใช่ไหม?”“ถุย!”เวินจื่อเยวี่ยถ่มน้ำลายใส่นางอย่างรุนแรง “พี่ใหญ่ไม่มีน้องสาวที่ชั่วร้ายอย่างเจ้า!”“ถูกต้อง ข้าชั่วร้าย แต่ก็เทียบไม่ได้กับเว

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status