Share

บทที่ 3

มุมมองของมาร์ค

ผมขับรถเข้าไปในทางเข้าบ้านด้วยความเหนื่อยล้า เป็นวันยาวนานอีกวันหนึ่งทั้งจากการทำงานและเรื่องสนุก ๆ ที่ทำให้ผมหมดแรง และสิ่งเดียวที่ผมต้องการก็คือการผ่อนคลายและพักผ่อน ผมก้าวออกจากรถแล้วคลายเนกไทออก อยากเดินเข้าไปด้านในเต็มทนและได้พักผ่อนในที่สุด เมื่อก้าวเข้าไปในบ้าน ผมมองเห็นซิดนีย์นั่งอยู่ตรงนั้น จ้องมองผมด้วยสายตาอันว่างเปล่าเหมือนเคย ผมแทบจะไม่ชายตามองเธอเลยในขณะที่มุ่งตรงไปที่ห้องทำงาน

“ฉันต้องการหย่า" ซิดนีย์พูดออกมาก่อนที่จะผมจะเดินไปถึงห้องทำงานด้วยซ้ำไป

หย่าหรือ? คำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวผมก็คือคำว่าไร้สาระ และช่างเป็นอะไรที่ไร้สาระจริง ๆ ธุรกิจครอบครัวของพ่อแม่ซิดนีย์ได้ให้บริษัทจีที กรุป ซึ่งเป็นบริษัทของผมยืมไปใช้ นี่เป็นสัญญาที่ให้ประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายในทุกแง่มุม ซิดนี่ย์เป็นเพียงผู้หญิงที่ผมแต่งงานด้วย ที่ต้องพึ่งพาผมและพ่อแม่ของเธอเพื่อความอยู่รอด

หย่าหรือ? เห็นได้ชัดว่านี่เป็นวิธีใหม่ในการเรียกร้องความสนใจของเธอ อย่างที่เธอชอบทำนั่นแหละ เดิมทีเธอมีท่าทีน่าสงสาร ซึ่งเพียงพอจะทำให้คนนอกเชื่อว่าเธอได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเกิดเรื่องอย่างนั้นเลยก็ตาม เรารักษาภาพลักษณ์ของคู่สามีภรรยาเอาไว้ตลอดสามปีที่ผ่านมา

ตอนนี้เธอกำลังเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีใหม่ ผมไม่มีทางหลงกลหรอก

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมเข้าไปในห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารเช้าก่อนออกไป แต่สิ่งที่ผมเห็นมีเพียงโต๊ะอันว่างเปล่า ผมขมวดคิ้วในขณะถามหนึ่งในคนงานที่พอจะหาได้ ซึ่งกำลังเดินวนเวียนอยู่แถวนั้น

“เธอไปไหน? แล้วอาหารของฉันอยู่ที่ไหน?”

“เช้านี้ ยังไม่เห็นเธอเลยค่ะ ท่าน" คนงานคนนั้นตอบ ซึ่งต่อมาผมได้รับรายงานจากคนที่เห็นเธอออกจากห้องไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางเมื่อคืนนี้ ข้าวของส่วนใหญ่ก็หายไปจากห้องด้วย

อ๋อ บางทีเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับเรื่องการหย่าที่เธอเอ่ยถึงก็ได้ เธอคาดหวังจะให้ผมหลงเชื่อหรือพูดคุยกับเธอในเรื่องนี้หรือ?

ผมยักไหล่ให้กับความคิดนั้น พร้อมหยิบกระเป๋าเอกสารและเสื้อแจ็กเกตขึ้นมา จากนั้นเดินตรงออกไป เธอน่าจะแค่ออกไปที่บ้านพ่อแม่นั่นแหละ เธอจะไปไหนได้อีกล่ะ? พวกเขาคงกำลังอบรมสั่งสอนให้เธอเป็นภรรยาที่ดีอยู่ แล้วคงส่งตัวเธอกลับมาเองแหละ

ผมละสายตาจากแฟ้มเอกสารที่อยู่ตรงหน้า เมื่อผู้ช่วยเดินเข้ามาในห้องทำงาน เขาวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะตรงหน้าผมโดยไม่พูดอะไร พร้อมกับโค้งคำนับแบบลวก ๆ

“ผมคิดว่าคุณต้องดูสิ่งนี้นะครับ" เขาพูดก่อนจะก้าวถอยหลังไป

ผมถอดแว่นตาออกแล้วดึงแฟ้มเอกสารเข้ามาใกล้ ๆ โดยพลิกเปิดออกเพื่อดูคำที่เขียนไว้ตัวหนา ๆ ว่า "ขั้นตอนดำเนินการหย่าร้าง" ผมขมวดคิ้วในขณะตรวจดูเอกสารต่อไป เธอเซ็นชื่อไว้ในเอกสารพวกนั้นเรียบร้อยแล้ว

“ขอบใจ ออกไปได้แล้ว" ผมบอกกับผู้ช่วยซึ่งโค้งคำนับให้ผมอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ซิดนี่ย์ได้ดำเนินการขั้นแรกในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นเกมที่ดูชาญฉลาดสำหรับเธอ แต่สำหรับผมแล้วนี่เป็นอะไรที่ไร้สาระ เธอคิดหรือว่าผมจะมีเวลาสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้?

จีที กรุปไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจของผมเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการทำงานหนักและความทุ่มเทตลอดหลายปีอีกด้วย นี่เป็นบริษัทหุ้นนอกตลาดขนาดใหญ่มีฐานอยู่ในยุโรป ซึ่งมีมุ่งเน้นในการลงทุนในหลากหลายภาคส่วน อย่างเช่น สินค้าอุปโภคบริโภค การบริการ แฟชั่น การแพทย์ และเทคโนโลยี ด้วยโครงการลงทุนที่มีมากกว่า 250 โครงการภายใต้การดูแลของเรา เราเป็นกำลังสำคัญที่โลกธุรกิจต้องให้การยอมรับนับถือ

นี่เป็นการระดมทุนรอบที่สาม เราจำเป็นต้องได้รับเงินจำนวนมหาศาลถึงห้าพันล้านบาทจากนักลงทุนทั่วโลก นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับบริษัท และเดือนถัดไปจะเป็นเดือนที่วุ่นวายมาก เนื่องจากผมต้องเดินทางไปทั่วโลก เพื่อพบปะกับนักลงทุนที่มีศักยภาพตั้งแต่นิวยอร์กจนถึงโตเกียว และจากลอนดอนไปจนถึงฮ่องกง หกเดือนต่อจากนี้ชีวิตผมจะเต็มไปด้วยการประชุม การนำเสนองาน และการเจรจาต่อรอง

แล้วมีคนนำเอกสารไร้สาระมาวางไว้บนโต๊ะทำงาน

ผมคว้าเอกสารพวกนั้นอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วเดินไปที่เครื่องทำลายเอกสารที่อยู่ในมุมห้องทำงาน ยัดเอกสารพวกนั้นเข้าไปในเครื่องทำลายเอกสาร แล้วมองดูเครื่องจักรทำลายไปทีละฉบับ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่ง เพื่อกลับไปทำในสิ่งที่มีความสำคัญกว่าร้อยเท่า

นี่เป็นสามเดือนที่ยาวนานและวุ่นวายกับการระดมทุนเพื่อจีที กรุป ในที่สุด ผมก็ได้กลับบ้านเพื่อพบว่าซิดนีย์ยังไม่ได้กลับมา จมูกของผมเริ่มหายใจติดขัดเมื่อผลักประตูห้องนอนของเธอเปิดออก และทุกสิ่งทุกอย่างมีแต่ฝุ่นปกคลุมเต็มไปหมด ผมจึงรู้ได้ทันทีว่าห้องนั้นถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานานแล้ว

เธอยังไม่กลับมาอีกหรือ?

ผมเดินออกไปอย่างโกรธเกรี้ยว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดหมายเลขโทรศัพท์ของเธอเพื่อโทรออก

“ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกปิดให้บริการแล้ว" เสียงตอบรับอัตโนมัติดังขึ้นผ่านลำโพงออกมา

ผมกดหมายเลขโทรศัพท์นั้นอีกครั้ง

“ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกปิด-” ผมตัดสายทิ้งพร้อมกับกัดฟันกรอด

“ไปตามตัวเธอมาเดี๋ยวนี้" ผมหันไปบอกผู้ช่วย “ติดต่อพ่อแม่ของเธอ ทำทุกอย่างที่จำเป็นต้องทำ"

ชายคนนั้นโค้งคำนับอย่างรีบร้อนแล้วรีบออกไป ในขณะที่ผมถอยกลับเข้ามาในห้องทำงานด้วยความรู้สึกทั้งเหนื่อยและอ่อนล้า เธอได้เติมเชื้อเพลิงให้กับความรู้สึกที่แย่อยู่แล้วให้ลุกโชนขึ้นมามากขึ้น ผมเข้าไปในห้องอาบน้ำ เปิดก๊อกน้ำ ปล่อยให้สายน้ำเย็น ๆ ไหลรดลงมาบนหัว โดยหวังว่าความเย็นยะเยือกทั้งหมดนั้นจะช่วยขจัดความอ่อนล้าและความหงุดหงิดออกไปได้

ในที่สุด ผู้ช่วยก็กลับมาพร้อมบอกว่าพ่อแม่ของซิดนีย์ก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ไหนเหมือนกัน และไม่ได้ข่าวจากเธอมานานมากแล้วด้วย อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังรู้สึกว่าการหายตัวไปของซิดนีย์เป็นส่วนหนึ่งของแผนการอันซับซ้อนเพื่อจัดการกับผม ซึ่งดูเหมือนว่าจะใช้ได้ผล เพราะมันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก

ผมสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้จริง ๆ จัง ๆ ก็หลังจาก 3 เดือนต่อจากนี้ เมื่อผมกลับจากการเดินทางครั้งที่สอง ซึ่งก่อนจะขึ้นเครื่องนั้น ผมได้กำชับกับผู้ช่วยว่า "ตามหาเธอให้พบก่อนที่ฉันจะกลับมา ถ้าทำไม่ได้ก็เตรียมตัวตกงานได้เลย"

ผู้ช่วยพยักหน้ารับคำแล้วรีบกุลีกุจอไปช่วยยกกระเป๋าเดินทาง ผมหยุดชะงักเพื่อหันกลับไปมอง เนื่องจากมีบางสิ่งบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะตรงมุมห้องที่ดูสะดุดตา เมื่อผมเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบว่าเป็นแหวนแต่งงาน แหวนวงนั้นเดิมทีตั้งใจจะมอบให้เบลล่า แต่ลงเอยมาอยู่บนนิ้วของซิดนีย์

แหวนวงนั้นไม่มีความหมายสำหรับผมอีกต่อไปนับตั้งแต่วันนั้นเมื่อสามปีก่อน ซึ่งควรจะเป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุดในชีวิต เจ้าสาวของผมไม่ใช่เบลล่าที่เป็นหญิงรัก แต่เป็นซิดนีย์พี่สาวของเธอ ผมรู้สึกโง่มากในตอนนั้น ผมยืนอยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายที่มาร่วมพิธีราวกับไม่มีอะไรผิดปกติ ผมแค่ต้องทำให้งานในวันนั้นดำเนินต่อไป และผมก็บอกให้ซิดนีย์รู้อย่างชัดเจนแล้วว่าผมจะไม่ยอมรับเธอเป็นภรรยา ส่วนอยากเป็นภรรยาของผมต่อหรือไม่ก็สุดแล้วแต่เธอ

ทันทีที่ผมก้าวลงจากแท่นพิธี และส่งยิ้มปลอม ๆ ให้กับแขกเหรื่อและช่างภาพที่ยืนอยู่ทั่วทุกมุมแล้ว ผมก็กระโจนขึ้นรถ แล้วถอดแหวนบ้า ๆ วงนั้นออกจากนิ้ว จริง ๆ แล้วผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมเอาไปวางไปตรงไหนหลังจากวันนั้น ผมอาจจะโยนมันทิ้งไปเพราะความรำคาญก็ได้

แต่ซิดนีย์ตัดสินใจที่จะสวมแหวนแต่งงานเอาไว้ ตอนนี้ ผมเห็นแหวนวงนั้นวางฝุ่นเกาะอยู่ ผมอดคิดไม่ได้ว่าบางทีซิดนีย์อาจเอาจริงกับการหย่าร้างก็ได้

ผมกัดฟันกรอดอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากโต๊ะตัวนั้น ปล่อยแหวนไร้ประโยชน์ไว้ตรงนั้นแล้วเดินออกประตูไป ผมยังมีงานอีกมากมายต้องทำมากกว่ามาจดจ่อกับเรื่องน้ำเน่านี้

ผมมาถึงสนามบิน หยิบแว่นกันแดดออกมาสวมทันทีก่อนจะก้าวออกจากรถ ผมค่อนข้างเป็นที่รู้จักของผู้คน และก็มักจะมีผู้คนเข้ามาหาหรือมาจ้องมองผมบ่อย ๆ เพราะพวกเขาจำผมได้จากที่เคยเห็นทางทีวีหรือช่องทางอื่น ๆ

“ขอโทษที คุณใช่คนนั้นใช่ไหมคะ?” หรืออะไรทำนองนั้น แว่นกันแดดเป็นเพียงการอำพรางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังทำหน้าที่ได้ดีในระดับหนึ่ง โดยผมต้องเพิ่มเครื่องแต่งกายที่ปกปิดตัวตนอีกหน่อย ถึงแม้ว่าบางครั้งผมจะพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม และพยายามพูดคุยอะไรสั้น ๆ แต่วันนี้ผมไม่ค่อยมีอารมณ์ที่จะทำอย่างนั้นเลย

ผมเดินตรงไปที่ประตูขื้นเครื่องท่ามกลางฝูงชนแสนพลุกพล่านในสนามบิน พร้อมกับดูนาฬิกาข้อมือไปด้วย มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านผมไป กลิ่นน้ำหอมของเธอฟุ้งกระจายไปทั่วใบหน้า แล้วโชยเข้าจมูกอย่างช้า ๆ กลิ่นส้มหวานและดอกไม้ช่างเป็นกลิ่นคุ้นเคยเหลือเกิน กลิ่นนั้นทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวในอดีตอย่างแปลกประหลาด

ผมค่อย ๆ หยุดเดิน พร้อมพยายามกลั้นความรู้สึกอยากหันหน้าไปมองเอาไว้ แต่ก็อดไม่ได้ ร่างของเธอค่อย ๆ เดินห่างออกไปทางด้านหลัง และก็บอกไม่ได้ว่าเธอเป็นคนที่ผมรู้จักหรือเปล่า

ผมจำไม่ได้ว่าเคยเห็นใบหน้านั้นมาก่อนไหม

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status