Share

บทที่ 8

Author: เบลล่า
มุมมองของมาร์ค

มีคนมาเคาะประตูที่ห้องผม

“เข้ามา" ผมตะโกนบอกไปโดยไม่ละสายตาจากแฟ้มเอกสารที่อยู่ตรงหน้า

ผมได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดในขณะเปิดประตู แล้วมีเสียงของผู้ช่วยของผมลอยเข้ามา "ลักซ์ โว้ค ตอบกลับมาแล้วครับท่าน"

“อืมมม" ผมพึมพำและพยักหน้า "สร้อยคอจะเสร็จเมื่อไหร่?”

“ไม่ใช่เรื่องสร้อยคอครับท่าน แต่เป็นเรื่องข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการที่เราส่งไปให้พวกเขาครับ"

ผมเงยหน้าขึ้นแล้วดันเก้าอี้ไปข้างหลัง "โอ้ จริงด้วย เราจะพบปะพูดคุยกันเพื่อสรุปการส่งมอบเว็บไซต์ได้เมื่อไหร่?” ผมถาม

ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ ที่อเทลิเย่ก็เป็นหุ้นส่วนกับเว็บไซต์ที่ผมจับตามองมาหลายเดือนแล้ว พวกเขาไม่ได้โต้ตอบอะไรมาหลายเดือน แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ ผมสั่งให้ผู้ช่วยของผมส่งอีเมลถึงพวกเขาอยู่เรื่อย ๆ

หลังจากเบลล่ากลับไปแล้ว ผมก็สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับอเทลิเย่ด้วยตัวเอง เบลล่าพูดถูกทุกอย่าง! พวกเขาทำเครื่องประดับออกมาสวยงามมาก คุณภาพอัญมณีเยี่ยมยอด ซึ่งทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจ และทำให้ผมรู้สึกมั่นใจว่าการซื้อเว็บไซต์นี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง การที่มีหนึ่งในบริษัทที่เราดูแลอยู่เข้าไปร่วมงานกับสตูดิโอย่างอเทลิเย่ ก็จะช่วย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 9

    ไฟที่ส่องแสงวูบวาบจากสีหนึ่งไปเป็นอีกสีหนึ่ง เรือนร่างที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อและเบียดกันแน่นอยู่บนพื้นที่เต้นนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผมตั้งตารอในคืนนี้ ผมแค่ต้องการความสงบและค่ำคืนดี ๆ ที่ได้อยู่กับเพื่อน ๆ เท่านั้นในระหว่างที่ผมขับรถมาที่นี่ โจเอลได้โทรหาผม ผมแทบจะไม่ได้ยินเสียงเขาเลยเนื่องจากเสียงดนตรีที่ดังลั่นภายในบาร์ "วิลล์ก็อยู่ที่นี่ด้วยนะ"ผมถามเขาว่า "อะไรนะ?” ประมาณสามครั้งก่อนที่จะได้ยินในที่สุดผมพบเจอพวกเขาในโซนนั่งส่วนตัว ซึ่งเป็นพื้นที่จองสำหรับพวกเราสามคนโดยเฉพาะนี่เป็นที่เดียวที่เราสามารถพูดคุยกัน และในขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันคึกคักภายในบาร์แห่งนี้ผมสั่งให้ผู้ช่วยส่งไฟล์ที่มีข้อมูลของเกรซมาให้ ตอนนี้ผมหันรูปนั้นไปทางโจเอล "นายรู้จักเธอใช่ไหม? พวกนายเคยคบกันนี่"วิลล์พูดสวนขึ้นมาพร้อมกับผิวปาก "ฉันจำเธอได้ เธอคือผู้หญิงที่นอนกับนายในตอนนั้น" เขาหันมาทางผม "นายรู้ไหมว่าฉันเคยขอแชร์ผู้หญิงคนนั้นกับเขาด้วย"“ไอ้นี่" โจเอลหัวเราะและพยักหน้าให้ผม "รู้ รู้จัก แต่เราไม่ได้คบกัน เราแค่ ก็อย่างที่นายรู้นั่นแหละ" เขายักคิ้วแล้วทำหน้าภาคภูมิใจ "เป็นแค่เพื่อนร่วมเตียง เ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 10

    ฉันพยายามดิ้นรน ดึงมือตนเอง และด่าทอ ในขณะที่มาร์คลากฉันเข้าไปในโถงทางเดินข้าง ๆ ห้องน้ำชาย ฉันเดินตามเขาอย่างทุลักทุเล ไม่สามารถก้าวเท้าได้ทันเขาเพราะใส่ส้นสูงที่ใส่อยู่แม้แต่ในฝันที่แสนเพ้อเจ้อ ฉันก็ไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่ได้ ฉันหมายถึงตลอดสามปีแห่งการแต่งงานอันอับเฉา ฉันสามารถนับนิ้วด้วยมือข้างเดียวได้เลยว่าเคยเจอเขาที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านกี่ครั้ง ฉันนึกว่าเขาจะอยู่ในที่ทำงานตลอดเวลาเสียอีกนะ แต่ในช่วงนี้ฉันสรุปได้ว่าถ้าเขาไม่อยู่ในที่ทำงาน ก็คงสำเริงสำราญอยู่กับน้องสาวของฉันในโรงแรมหรู ๆ นั่นแหละ“มาร์ค เป็นบ้าอะไรของคุณเนี่ย?” ฉันใช้มือข้างที่ว่างตีนิ้วที่จับข้อมือของฉันอยู่ "ปล่อยมือฉันนะ"เขาไม่ได้พูดอะไร แค่เดินพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับแผ่นหลังที่ดูแข็งอย่างกับหินตั้งแต่ฉันขอหย่ากับเขา เขาก็ดูเหมือนผีที่ตามหลอกหลอนฉันอยู่ตลอดเวลา ฉันไปที่ไหนก็จะต้องเจอเขาที่นั่นฉันครางออกมาเบา ๆ ในขณะที่เขากระแทกหลังฉันและตรึงเข้ากับกำแพง ดวงตาสีฟ้าเข้มของเขาดูลึกล้ำจนยากจะหยั่งถึง และดวงตาคู่นั้นก็เปลี่ยนเป็นสีเข้มชนิดที่คุณคิดว่าสีตาธรรมชาติของเขาเป็นสีดำสนิท“เสียสติไปแล้วหรือไง?” เขาร้อ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 11

    ฉันรู้สึกได้ว่ามือที่เกาะกุมของเขาเริ่มคลายออก จนฉันสามารถดึงมือหลุดออกมาได้ ฉันเดินลากส้นสูงไปข้างหน้าเพื่อพยายามจะหนี แต่ก็ไม่ทันความเร็วของเขา นิ้วของเขาเข้ามาเกาะกุมข้อมือของฉันอีกครั้งและดึงฉันกลับไป เขาตรึงฉันกับกำแพงอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้ตรึงฉันไว้ด้วยดวงตาที่แข็งกร้าว แต่เป็นริมฝีปากของเขาแทนฉันเกือบลืมหายใจเมื่อริมฝีปากของเขาประกบลงบนริมฝีปากของฉัน ให้ความรู้สึกอบอุ่นและนุ่มนวล ฉันหลับตาลงอย่างไม่รู้สึกตัว ปล่อยให้ริมฝีปากของเขาโลมไล้ไปตามริมฝีปากของฉัน จริง ๆ แล้วฉันรู้สึกเพลิดเพลินกับการที่ริมฝีปากของเขาประกบอยู่บนริมฝีปากของฉัน ฉันแทบไม่รู้สึกตัวราวกับต้องมนต์สะกดจากรสจูบนี้ แขนของชายหนุ่มโอบรัดอยู่ตรงรอบเอวฉัน จากนั้นดึงตัวฉันเข้าไปแนบตัวเขามากขึ้น ความร้อนผ่าวบนตัวเขาทำให้เรือนร่างของฉันรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาเลยลิ้นของเขาชอนไชเพื่อแทรกเข้ามา ฉันเผยอปากแล้วลิ้นนั้นก็เลื้อยเข้ามาภายใน ให้ความรู้สึกเปียกแฉะและ-ดวงตาของฉันเบิกโพลง ร่างกายแข็งทื่อ แล้วฟันของฉันก็กัดลงบนลิ้นของเขาโดยสัญชาตญาณ เกิดอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย?“คุณเป็นบ้าอะไรซิดนีย์?!” เขาดึงตัวออกแล้วปล่อยฉัน

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 12

    หากตรงหน้าเป็นชายอื่น ฉันคงชื่นชอบริมฝีปากที่รุกคืบเข้ามาอย่างดุดัน และฉันควรตอบสนองมันอย่างเร่าร้อนไปเสียแล้ว แต่นี่ไม่ใช่คนแปลกหน้าหรือชู้รัก แต่เป็นมาร์คฉันรับรู้ได้เลยว่ามันลำบากยิ่งนักทั้งดันร่างกายเขาออกไปและดึงเขาเอามาใกล้ ฉันอยากจะกัดลิ้นหรือริมฝีปากของเขาเหมือนที่ทำตอนแรก แต่ฉันก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ความรู้สึกนี้เป็นสิ่งที่ชวนสับสนจริง ๆ ฉันอยากให้เขาหยุดและถอยห่างจากฉันไป แต่ฉันก็กลัวเหลือเกินว่าเขาจะหยุดไปจริง ๆ บ้อบอเสียไม่มีแต่ฉันก็ยังคงดิ้นรนอยู่เช่นนั้น ฉันหลับตาปี๋ พยายามจะพูดบางสิ่งออกไปถึงแม้ว่าปากของเขาจะประกบอยู่บนปากของฉันก็ตาม ลิ้นสอดใส่เข้ามาด้านในอยู่เช่นนั้น เรือนร่างของเขากดทับอยู่บนตัวฉัน ฉันรู้สึกได้ถึงความนูนตรงเป้ากางเกงที่แนบอยู่ตรงหน้าขาฉันขัดขืนมากขึ้นเป็นทวีคูณ และกรีดร้องดังขึ้นอยู่ในอกเสียงกรีดร้องเหือดหายอยู่ในลำคอ แล้วทันใดนั้นมือของเขาก็คล้ายออกจากร่างกาย ฉันไม่รู้สึกถึงความร้อนผ่าวบนตัวเขาอีกต่อไปฉันปัดเป่าความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยนั้นออกไป เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นร่างทะมึนยืนอยู่ตรงหน้าฉัน หน้าอกของฉันกระเพื่อมขึ้นลงเพื่อพยายามจะหา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 13

    คนที่มีไหวพริบคงล่าหลบให้พ้นทาง แล้วปล่อยคู่รักเจ้าปัญหานี้ไว้เพียงลำพัง แต่ชายผู้นี้...สายตาของฉันจับจ้องไปที่เจ้าของร้านคนนี้ เขาเดินไปข้างหน้าด้วยท่าทีที่ดูคุกคามไม่แพ้กัน ร่างกายของเขาดูตึงแน่น...ตื่นตัว"ผมรู้ว่าคุณเป็นใครนะ มาร์ค ตอร์เรส ประธานบริษัทจีที กรุป และผมรู้อยู่แล้วว่าคุณทำให้ผมหมดตัวได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดความตั้งใจที่จะปกป้องผู้หญิงไร้ทางสู้คนนี้ได้ คุณคงจะเดินวางมาดเข้ามาแล้วทำร้ายแขกของผมได้ ไม่ว่าเธอจะเป็นภรรยาของคุณหรือไม่ก็ตาม" คำพูดของเขามีน้ำเสียงอย่างหนึ่งแฝงอยู่ นั่นคือการคุกคามที่ไม่จำเป็นต้องออกมาเป็นคำพูดบรรยากาศเปลี่ยนแปลงไป และดูเหมือนมาร์คจะตกตะลึงกับคำตอบของชายคนนั้น จากนั้น เขาก็หันหลังกลับอย่างกะทันหันพร้อมหัวเราะร่า“ตลกเป็นบ้าเลย เจ้าหมอนี่" ดูท่าเขาจะสร่างเมาแล้ว "รู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว แต่ยังกล้าเสนอหน้าเข้ามาอีกนะ? คงเบื่อที่จะทำงานร้านนี้แล้วใช่เปล่า?”ตายแล้ว ฉันปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเจ้าของร้านไม่ยอมถอยไปแน่ และเมื่อโดนข่มขู่เช่นนี้ มาร์คก็ถอยไปไม่ได้เช่นกัน ฉันไม่สามารถให้คนแปลกหน้าต้องมาหมดเนื้อหมดตัวเพียงเพราะปัญ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 14

    อากาศหนาวเย็นในยามค่ำพัดมากระทบใบหน้าของฉัน ในขณะที่เราทั้งคู่รีบเดินออกจากประตู และขนบริเวณแขนก็ลุกซู่ ฉันยังคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องที่เจ้าของร้านคนนั้น เป็นคนเดียวกับที่เจอที่บ้านของฉันนั่นเองฉันมีสิทธิ์จะโทรเรียกตำรวจมาจับเขาทันที และบางทีอาจเรียกตำรวจมาตรวจค้นสถานที่แห่งนี้ด้วย ฉันหมายถึงเขามีปืนในวันนั้นแต่ฉันไม่มีหลักฐาน ฉันตัวสั่นเทา ตัวสั่นจากความรู้สึกที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เมื่อนึกถึงความรู้สึกของโลหะที่จ่ออยู่ข้างหลังฉันในขณะที่ฉันยังจมอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่นั้น มาร์คก็ผลักฉันเข้าไปในรถ เขารัดเข็มขัดนิรภัยรอบตัวฉันอย่างลวก ๆ และรีบร้อน ราวกับว่าฉันยังเป็นเด็กเล็ก ๆ ที่เขาต้องพากลับบ้านเป็นการด่วน“คุณจะพาฉันไปไหน?!” ฉันดึงเข็มขัดนิรภัยอย่างเก้ ๆ กัง ๆ พร้อมกับร้องถามในขณะที่เขายังเคลื่อนไหวอยู่ เขาเดินอ้อมรถไป รถสั่นเล็กน้อยในขณะที่เขาก้าวเข้ามาด้านในและปิดประตูอย่างแรงใบหน้าตั้งตรง จ้องมองไปข้างหน้าโดยไม่แยแสกับคำถามที่ฉันถามเขาเลย“มาร์ค คุณจะพาฉันไปไหน?!” ฉันถามเขาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก“กลับบ้านไง! เราจะกลับบ้านกัน!” เขาตะโกนบอกทันใดนั้น โทรศัพท์ของเขาก

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 15

    โทรศัพท์สว่างขึ้น และเบลล่าโทรมาอีกครั้ง เขาปล่อยมือที่จับไหล่ฉันไว้แล้วรับสายโทรศัพท์นั้น และนั่นคือสัญญาณที่ฉันต้องออกไปแล้วฉันก้าวลงจากรถ มองผ่านกระจกมองข้างที่ปรับลงมา เห็นเขาเอาโทรศัพท์แนบไว้ระหว่างหูกับไหล่ ในขณะเสียบกุญแจเพื่อติดเครื่องยนต์ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็วางโทรศัพท์ลงและหันหน้ามาทางฉัน มือของเขากำพวงมาลัยไว้แน่นพร้อมตรงดิ่งไปหาคนรักของเขา“วันอาทิตย์นี้เป็นวันเกิดพ่อคุณ ไปรอผมอยู่ที่บ้าน แล้วเราค่อยไปด้วยกัน!” พอพูดจบเขาก็พับกระจกมองข้าง แล้วขับรถออกไปฉันเฝ้ามองด้วยความรำคาญใจ หงุดหงิด และสะอิดสะเอียน ในขณะที่รถของเขาแล่นหายไปในความมืดมิดของรัตติกาลอย่างรวดเร็ว“ไปให้พ้นเลย ไอ้ผู้ชายเฮงซวย!” ฉันสะดุ้งเมื่อจู่ ๆ ได้ยินเสียงตะโกนของเกรซดังขึ้นท่ามกลางคืนมืด ฉันอดยิ้มไม่ได้เมื่อเธอก้าวออกมาข้างหน้า และยังก่นด่าเขาต่อไป“อุบาทว์! ไปเลย ไปขึ้นเตียงกับเมียน้อยของแกเลย!” เกรซร้องตะโกนในยามค่ำคืน ป่านนี้รถของมาร์คคงไปส่องแสงให้ความหวังอยู่ที่ปลายอุโมงค์อีกข้างหนึ่งแล้ว“เบาได้เบา สาว" ฉันหัวเราะคิกคักแล้วส่ายหัว "เขาไม่ได้ยินเสียงของเธอหรอก"“ต้องได้ยินสิ" เธอบ่นพึมพำ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 16

    เมื่อรถจอดหน้าคฤหาสน์ของพ่อ ฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับการเผชิญหน้าที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉันรู้ว่าพ่อคงไม่พอใจที่เห็นฉันไม่ได้มาพร้อมกับมาร์ค พ่อต้องการให้ฉันวิ่งไล่ตามมาร์คเหมือนลูกหมาหลงทางอยู่ตลอดเวลา ต้องยอมรับว่าฉันได้วิ่งไล่ตามเขามาสักพักหนึ่งแล้ว ฉันถึงขั้นเปลี่ยนชีวิตตนเองเพื่อเอาใจพวกเขา ฉันสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วก้าวเท้าออกจากรถฉันเดินไปที่ลานบ้านของคฤหาสน์หลังนั้น ซึ่งอยู่ติดกับสวนที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ฉันรู้สึกชื่นชมสวนนี้ตอนที่มาครั้งแรก ฉันชอบใช้เวลาอยู่ที่นั่นทุกครั้งที่พวกเขาเอาอกเอาใจเบลล่าอยู่ สวนนี้สวยงามมากกว่าเดิมอย่างที่เราอยากจะให้เป็น ฉันแน่ใจว่าแม่จะต้องประสาทเสียกับการสั่งให้คนสวนตัดโน่นแต่งนี่ให้ได้ดังใจในบริเวณนั้นมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย คนรับใช้เดินไปเดินมาเพื่อดูแลแขกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งนั่งล้อมโต๊ะอยู่ โดยแต่ละคนต่างสวมเสื้อผ้าและเครื่องประดับอันหรูหรา มีเด็กสาวกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ข้างพุ่มไม้หลากสีสัน พร้อมทั้งมีแก้วไวน์อยู่ในมือ พวกเธอเด็ดดอกไม้เล่นในขณะพูดคุยกัน และเอามือปิดปากเบา ๆ ในขณะหัวเราะฉันเห็นพ่อกำลังพูดคุยอยู่กับแ

Latest chapter

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 427

    มุมมองของนักเขียนยังไงมันก็ต้องเกิดขึ้นนั่นคือคำพูดที่ชารอนบอกตัวเองซ้ำๆ เพื่อลดความรู้สึกผิดที่เพิ่มขึ้นบ่อยครั้งที่เธอคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าเธอแค่พูดความจริงเกี่ยวกับเรื่องตั้งครรภ์ของเธอ และใช้ชีวิตกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น การอยู่กับไอเดนไม่คุ้มค่ากับความรู้สึกผิด หลุมดำที่ไม่มีวันสิ้นสุดที่เธอกำลังจมลงไปตอนนี้เธอเข้าใกล้กำหนดคลอดปลอมมากขึ้น ไอเดนก็แสดงความรักต่อเธอมากขึ้น พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าที่เคยเป็น บางครั้งเธอสงสัยว่าการตายของเด็กผู้หญิงที่น่าสงสารคนนั้นทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร มันก็ไม่คุ้มค่า เพราะเธอไม่มีความสุข เธอมีทุกสิ่งที่เธอต้องการ การเอาใจใส่ของไอเดนอย่างเต็มที่ เต็มที่เท่าที่เขาจะทำได้กับการสอบสวนที่เขาทุ่มเทให้เมื่อใดก็ตามที่เขาไม่ได้อยู่กับชารอน ช่วยเธอทำอาหาร หรือส่งอาหารที่เขาสั่งให้เธอ หรือทำความสะอาดบ้านเพราะเธอไม่ต้องการให้แม่บ้านมาอีกต่อไป เขาก็จะอยู่ที่สถานี ไขคดีของเอมี่ มองหาคำตอบที่อยู่ใต้หลังคาบ้านของตนเองตอนนี้ ชารอนไม่ได้ต่อสู้กับความรู้สึกผิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการตายของเอมี่เท่านั้น แต่เธอยังไม่มี

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 426

    ไอเดนผมควรจะฟังอาน่า ผมควรจะซ่อนตัวเฉยๆ ตอนที่ผมตามเธอไป ผมไม่ควรต่อสู้กับคนพวกนั้น ผมควรจะควบคุมความโกรธของตัวเอง... ที่สำคัญที่สุด ช่วงเวลาหยุดชะงักสั้นๆ ช่วงเวลาไม่กี่วินาทีที่ผมหยุดและบอกเธอว่าผมเป็นพ่อของเธอ ผมไม่ควรทำแบบนั้น ผมควรจะพาเธอออกจากที่นั่นไปที่ปลอดภัยทันที ถ้าผมไม่ได้ใช้เวลาเหล่านั้นอย่างผิดๆ บางทีเอมี่ก็คงยังอยู่ที่นี่ แต่ผมเห็นแก่ตัวมาก ทั้งๆ ที่ผมอ้างว่ารักและห่วงใยเธอเดนนิสพูดถูก เขาห่วงใยเธอมากกว่าผมนัก เขาเติบโตมากับเธอ เขาเลี้ยงดูเธอและเฝ้าดูเธอเติบโตมาตั้งแต่แรกเกิด ผมไม่มีทางรักเธอได้มากกว่าเขามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมสามารถและควรจะทำแตกต่างออกไป ทำได้ดีกว่านี้ แต่มันสายเกินไปแล้วเธอจากไปแล้วขณะที่ผมจ้องมองภาพถ่ายเพียงภาพเดียวที่เราถ่ายด้วยกันตอนที่เธอยังอยู่ในโรงพยาบาล มันยังคงยากที่จะเชื่อมันเพิ่งจะเกือบปีเท่านั้นตั้งแต่ผมรู้ว่าเธอเป็นลูกของผม ตั้งแต่ผมสามารถอุ้มเธอและดูเธอหัวเราะและยิ้มและกวนผมเรื่องการพบตัวเอง และตอนนี้เธอจากไปแล้วเหรอ?ผมหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น ตลกเป็นบ้าความตายโหดร้ายแบบนี้เหรอ? พันมือเย็นเยียบที่กัดกร่อนรอบตัวคนที่พวกเขาไม

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 425

    มุมมองของนักเขียนณ วินาทีนั้น โลกของอาน่าก็พังทลายลงต่อหน้าต่อตาเธอ"คุณหมอหมายความว่ายังไงที่เธอไปแล้ว?" ดวงตาเอ่อล้นขณะที่เธอกำเสื้อคุลมของแพทย์ "บอกกับฉันสิคุณหมอ บอกฉันว่าเอมี่จะไม่เป็นอะไร""ผมเสียใจด้วยครับ คุณอนาสตาเซีย" แพทย์พูด รู้สึกสงสารเด็กผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้ เธอไม่สมควรได้รับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากสิ่งที่เธอต้องเผชิญ"อาน่า" เดนนิสกลืนน้ำลายขณะดึงเธอออกมาเมื่อเธอไม่ยอมปล่อยเสื้อของแพทย์"ปล่อยฉัน" เธอตะโกนและผลักเดนนิสออกไปจากเธอ "ไปให้พ้น"เดนนิสกำลังจะเดินกลับไปหาเธอเมื่อแพทย์ยกมือขึ้นเพื่อหยุดเดนนิส เขาฉีกยิ้มเล็กน้อยให้เขา แสดงว่าไม่เป็นไรอาน่าค่อยๆ ทรุดตัวลงบนพื้น แขนโอบรอบตัวเองขณะที่เธอคร่ำครวญ "ไม่"จากนั้นเธอก็ส่ายหัว "ไม่ เอมี่จะทิ้งแม่ไปไม่ได้นะลูก” เธอร้องไห้ขณะวิ่งไปตามทางเดินก่อนที่ใครจะหยุดเธอได้ เธอก็เปิดประตูห้องของเอมี่ เธอวิ่งไปข้างๆ เอมี่และดึงผ้าปูที่นอนออกจากร่างของเธอ"เอมี่" เธอตบแก้มของเธอเบาๆ "เอมี่ ตื่นสิ แม่มาแล้ว เอมี่ลูก" เธอเรียกซ้ำ ๆ ร่างกายสั่นเทาไปกับการร้องไห้ น้ำตาหยดลงบนใบหน้าของเอมี่และชุดคนไข้ที่เธอยั

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 424

    มุมมองนักเขียนขณะที่ไอเดนรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆ ไหลลงมาตามแขนด้านข้างของเธอ หัวใจก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เขาทรุดตัวลงคุกเข่า และวางร่างไร้เรี่ยวแรงของเอมี่ลงบนพื้น"เอมี่ ไม่นะ พ่ออยู่นี่แล้ว" เขาพึมพำอย่างกระวนกระวายขณะที่กดมือลงบนด้านข้างเพื่อห้ามเลือดดวงตาของเอมี่เปิดอยู่ แต่ดูเหมือนไร้ชีวิตชีวา เอมี่พยายามพูดอะไรบางอย่าง เธอพยายามถามเขาว่าเขาเป็นพ่อของเธอจริงๆ หรือไม่ เธอมีพ่อสองคนจริงๆ หรือไม่ แต่เธอขยับริมฝีปากไม่ได้ และสายตาของเธอก็พร่ามัวอย่างรวดเร็ว"เอมี่ เอมี่ หนูจะไม่เป็นอะไร อดทนไว้" ไอเดนพูดอย่างรวดเร็วขณะดึงเสื้อของเขาออกและผูกไว้รอบเอวของเธอ หวังอย่างแรงกล้าว่าเลือดจะหยุดไหล แต่กลับแย่ลงมีเสียงเอะอะเล็กน้อย มีเสียงฝีเท้าหลายคู่ขณะที่เดนนิสรีบเข้ามาในอาคารพร้อมกับตำรวจเมื่อเห็นตำรวจ ชายสองคนก็รีบลุกขึ้นและเดินออกจากอาคาร ตำรวจสองคนรีบตามพวกเขาไปทันทีไอเดนไม่ได้ละสายตาจากเอมี่เลยแม้แต่วินาทีเดียว "ได้โปรด เอมี่ ได้โปรด" เขาพึมพำอย่างสิ้นหวัง "อย่าจากพ่อไป" เขาเฝ้าดู หัวใจแตกสลายขณะที่ดวงตาของเอมี่ค่อยๆ หลับลง"เกิดอะไรขึ้นวะ?!" เดนนิสระเบิดเสียงออกมาขณะรีบเข้ามา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 423

    มุมมองนักเขียน“ไม่!”ไอเดนและเดนนิสพูดออกมาพร้อมกันอนาสตาเซียมองสลับไปมาระหว่างทั้งสองคน ยิ่งโกรธมากขึ้น "หมายความว่าไงว่าไม่?""อาน่า คุณ…"“ฉันไม่…”แต่ละคนเริ่มพูดอีกครั้ง และมันก็แทรกกัน"ฉันไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้น!" เธอหยุดพวกเขาด้วยการยกมือทั้งสองข้างขึ้น "ฉันจะไปเอง แค่นี้!" เธอพูดจบแล้วคว้ากระเป๋าผ่านมากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วหลังจากที่พวกเขาได้รับวิดีโอ พวกเขาหาเงินมาได้สำเร็จ แต่พวกเขาก็ยังไม่มีใครที่จะเอาเงินไปส่งที่สถานที่ที่กำหนด เพราะไอเดนและเดนนิสไม่เห็นด้วยกันชายสองคนพยายามพูดให้เธอเปลี่ยนใจไอเดนเข้าใจมุมมองของเดนนิส ไม่ใช่ว่าเขามีเงินเหลือเฟือที่จะเอาไปให้คนลักพาตัว เขาแค่อยากได้ลูกสาวคืน เมื่อเธอปลอดภัยในอ้อมแขนของพวกเขาแล้ว พวกเขาค่อยให้ทางการและหน่วยรักษาความปลอดภัยทุกประเภทเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ไม่ใช่เพื่อแลกกับความปลอดภัยของเอมี่ "มาเถอะ อาน่า เราทำได้ คุณอยู่กับจัสตินที่นี่เถอะนะ" เขาพูดขณะที่สายตาของเขาจ้องไปที่จัสตินที่กำลังดิ้นอยู่ในเปลของเขา ขณะที่เขามองดูพวกเขาอย่างสงสัย"ไม่!" อาน่าไม่ยอม "พวกคุณเสียเวลามากพอแล้ว"อนาสตาเซียพยายามอดทน แต่พวกเขา

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 422

    อนาสตาเซียในเวลาเพียงวันเดียว ฉันต้องนั่งฟังการสอบปากคำมากกว่าที่ฉันเคยฟังมาทั้งชีวิตพนักงานทุกคนในร้านและแม้แต่ผู้คนที่เดินผ่านไปมาก็ถูกสอบถามอย่างสุภาพ พวกเขาถูกถามว่าบังเอิญเจอผู้หญิงกับเด็กหรือไม่ พวกเขาถามพร้อมกับบอกลักษณะของผู้หญิงและเอมี่ แต่ไม่มีใครเลย แม้แต่คนเดียวที่เห็นพวกเขา มันเหมือนกับว่าพวกเขาหายตัวไปในอากาศธาตุฉันหยุดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่ได้เอมี่ที่น่าสงสาร เธอเพิ่งจะออกจากเตียงโรงพยาบาลที่ต้องนอนอยู่เป็นเดือนๆ เท่านั้น กลับถูกลักพาตัวโดยคนโชคร้ายบางคน มันไม่ยุติธรรมกับเธอเลยพวกเขาจะได้อะไรจากเรื่องนี้?ฉันสงสัยว่าตอนนี้ลูกเป็นอย่างไร คนพวกนั้นพาลูกไปไว้ที่ไหน? ลูกจได้กินอะไรไหม? หิวน้ำไหม? ลูกต้องหนาวแน่ๆฉันเหลือบมองยาของเธอที่ยังคงวางอยู่บนเคาน์เตอร์โดยไม่มีใครแตะต้อง รอให้เอมี่มาใช้ ฉันใช้เวลาทั้งคืนมองแต่ของพวกนั้น และในบางจุด แม้แต่จัสตินก็เริ่มร้องไห้ เขาคงสังเกตเห็นว่าพี่สาวของเขาไม่อยู่แล้วไอเดนและเดนนิสยังคงออกไปตามหาเธอ ทั้งคู่พิมพ์โปสเตอร์ที่มีรูปของเอมี่พร้อมเงินรางวัลสำหรับผู้ที่พบเธอในเวลาไม่กี่ชั่วโมง พวกเขาติดโปสเตอร์ตามสถานที่ต่างๆพวกเขาทำ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 421

    อนาสตาเซีย"เอมี่ถูกลักพาตัวไป"นั่นเป็นคำที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้ยินในชีวิตนี้ แม้ว่าฉันจะค้นหาเอมี่อย่างตื่นตระหนกก่อนที่เดนนิสจะมาถึง ฉันก็ไม่เคยคิดว่าเธอจะถูกลักพาตัว สิ่งที่ฉันคิดคือเธอเดินออกไป หลงทาง และอยู่ที่ไหนสักแห่ง หวาดกลัว หนาว และโดดเดี่ยวกลับกลายเป็นเอมี่ถูกพาตัวไปแล้ว"ทำไม?" ฉันร้องไห้ในอ้อมแขนของเดนนิส น้ำตาไหลออกมาอย่างหนักหน่วงจนหยุดไม่ได้"ทำไมถึงได้มีใครมาพาตัวลูกสาวของฉันไป เดนนิส ทำไม?""ผมเองไม่รู้ครับ ที่รัก คุณต้องใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ" เขาประคองฉันขณะเดินไปหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งฉันจะใจเย็นได้อย่างไร ในเมื่อใครบางคนที่ใจร้าย มือเย็น และดวงตาน่ากลัวพาตัวลูกสาวของฉันไปที่ไหนก็ไม่รู้? ฉันจะใจเย็นได้อย่างไร?เขาคุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนสั้นๆ"ผมสงสัยว่าลูกสาวของผมเพิ่งถูกลักพาตัวครับ" เขาเริ่ม "ขอภาพจากกล้องวงจรปิดได้ไหมครับ?" จากนั้นเขาก็มองไปรอบ ๆ "ผมเชื่อว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่แถวนี้ ใช่ไหมครับ?” "มีครับ" หนึ่งในนั้นตอบ "คุณสามารถขอดูได้ครับ เชิญตามผมมาครับ"เราเดินตามพวกเขาเข้าไปในห้องด้านหลังร้าน และแม้ว่าเราจะเดินผ่านร้า

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 420

    เดนนิสผมขมวดคิ้วขณะรับสายของเธอ “โทรมา…""เอมี่อยู่ที่ไหน เดนนิส? เธออยู่ที่ไหน?" เธอถามอย่างกระวนกระวาย จากนั้นเธอก็พูดรวดเดียวว่าเอมี่กำลังจะถูกลักพาตัว"อะไรนะ?" ผมทำกระทะที่อยู่ในมือหล่นลงบนเคาน์เตอร์ "เดี๋ยวก่อนนะ? เอมี่ของผม? เมื่อไหร่?""ตอนนี้ เดนนิส ตอนนี้ พาพวกเขาไปที่ปลอดภัยเดี๋ยวนี้ เธออยู่ที่ไหน?""ลูกอยู่... คืองี้นะ? เดี๋ยวผมโทรกลับ" ผมพูดก่อนที่จะวางสายและรีบโทรหาอาน่าผมเดินไปเดินมาในครัว มือซ้ายเท้าสะเอว ส่วนมือขวาถือโทรศัพท์แนบหูขณะรอเธอรับสาย"เดนนิส? คุณต้องการให้พวกเราซื้ออะไรให้ไหม?""ที่รัก" ผมถอนหายใจทันทีที่เธอรับสาย รู้สึกโล่งใจชั่วขณะที่เธอปลอดภัยเอมี่ก็จะปลอดภัยเช่นกัน ผมคิด แต่ผมก็ยังถามว่า "พวกคุณอยู่ที่ไหน? กำลังเดินทางกลับมาหรือเปล่า? เอมี่อยู่กับคุณไหม?"เธอพาเอมี่ไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นหลังจากที่เธอเห็นเราทะเลาะกัน เนื่องจากเอมี่ชอบซื้อของมาก เธอจึงคิดว่ามันเป็นกิจกรรมที่เหมาะสมที่จะทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นและซื้อของเข้าบ้านด้วย ผมอยู่บ้านและตัดสินใจทำอาหารเย็น"เดนนิส" เธอพูดซ้ำ และผมบอกได้เลยว่าเธอไม่ได้จดจ่อกับ

  • หย่า…มารักฉันเลย   บทที่ 419

    คลาร่าแสงสลัวจากหน้าจอแล็ปท็อปเป็นแหล่งกำเนิดแสงเพียงอย่างเดียวในห้องใต้ดินขนาดใหญ่เสียงอินเตอร์คอมดังขึ้น และฉันก็รับสายทันที"มีเบาะแสเข้ามาอีกแล้ว คลาร่า" เธอพูดด้วยน้ำเสียงสงบตามปกติ"ส่งมาเลย" ฉันพูดขณะเปิดแท็บที่ฉันรับข้อความหรือโทรศัพท์ที่ไม่ระบุชื่อที่เราได้รับ"วัยรุ่นและแม่ที่ถูกทำร้าย ที่อยู่แนบมา ด่วน" เธอสรุปขณะที่ข้อความปรากฏขึ้น"ขอบคุณมาก" ฉันพูด รับข้อความจากเธอ "ฉันจะส่งต่อให้ทีมช่วยเหลือเอง"ฉันสแกนที่อยู่ก่อนที่จะอ่านข้อความยาวๆ ที่ใครบางคนคงพิมพ์อย่างกระวนกระวายข้อความถูกพิมพ์โดยเด็กอายุสิบสามปีที่ถูกบังคับให้ติดต่อมา เพราะแม่ที่ว่างงานของเขากลัวเกินกว่าจะหนีพ่อเลี้ยงที่ทำร้ายเขา พ่อเลี้ยงของเขาไม่อยู่ในรัฐในขณะนี้ และพวกเขาต้องการความช่วยเหลือก่อนที่เขาจะกลับมาในคืนนี้ฉันพิมพ์รายละเอียดลงในแชทที่ปลอดภัยของเราอย่างรวดเร็ว ทำเครื่องหมายว่าเป็นลำดับความสำคัญสูง และส่งต่อไปยังทีมช่วยเหลือฉันทำงานที่บ้านการกุศลเพียงไม่กี่เดือนก่อนที่จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งมาที่นี่ และจนถึงตอนนี้ก็ดีมากวันหนึ่ง หัวหน้าองค์กรการกุศลที่ฉันทำงานอยู่ก่อนหน้านี้โทรหาฉันและ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status