หน้าหลัก / รักโบราณ / หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน / ตอนที่ 6 เตรียมดินและเมล็ดพันธุ์

แชร์

ตอนที่ 6 เตรียมดินและเมล็ดพันธุ์

ผู้เขียน: ฟู่จินเฟย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-21 12:38:33

อี้หมิงได้นำเอาเม็ดถั่วเขียวออกมาจากถุงผ้า นางนำไปแช่น้ำปล่อยทิ้งข้ามคืนไว้ แล้ววันพรุ่งจึงจะจำนำออกมาเพาะ เมื่อจัดการทำถั่วเขียวเสร็จ สาวน้อยและมารดาได้นำเอาพริกที่มีทั้งเม็ดที่เน่าเสีย และช้ำ ซึ่งเป็นเม็ดที่แก่แล้วภายในอัดแน่นไปด้วยเมล็ดพริกเต็มเม็ด มาค่อย ๆ ใช้มีดกรีดทีละเม็ด แล้วใส่ในกระด้ง นางตั้งใจจะนำเมล็ดพริกแก่เหล่านี้ออกมาผึ่งตากแดดทำให้แห้ง แล้วจะนำไปเพาะต่อไปนั่นเอง 

ซึ่งวันนี้เธอกับเฟิน เฟิน หลังจากถอนหญ้าที่รกปกคลุมพื้นที่ว่างขนาดเล็กหลังเรือนเล็กเสร็จ ทั้งสองก็ลงมือพรวนดิน โดยอี้หมิงบอกกับเฟิน เฟิน ว่า มันคือขั้นตอนของการเตรียมดิน โดยขุดดินที่อยู่ด้านล่างขึ้นมาพรวนตากแดดไว้ก่อน เป็นการพลิกให้หน้าดินที่อยู่ด้านบนลงไปอยู่ด้านล่าง แล้วใช้ไม้เเหลมเสียบๆ จนพรุนลงไปเป็นการเพิ่มพื้นที่ช่วยทำให้ดินไม่จับกันเป็นก้อนใหญ่ ดินจะได้โปร่ง จะได้มีช่องว่างให้น้ำและอากาศแทรกเข้าไปพอเหมาะ ทำให้ดินมีความเป็นกรดและด่างที่พอดี เป็นการช่วยให้รากของต้นพืชที่จะปลูกชอนชัยหาอาหารได้ดี และที่สำคัญเป็นการฆ่าเชื้อโรคให้กับดินไปในตัวอีกด้วย พืชที่ปลูกจะได้โตเร็ว ๆ 

“โอ้โห!!! พี่หมิงอี้ พี่ไปเอามาจากไหนกัน ใครสอนเจ้ามารึ ครั้งก่อนที่พี่จะสลบไปเรายังเตร็ดแตร่เล่นกัน และยังแย่งอารหารกับคนเร่ร่อนในตลาดด้านกะโน้นอยู่เลยนะ ไม่ยักกะรู้ว่าพี่จะรู้เรื่องพวกนี้ด้วย” เฟิน เฟิน ถามอย่างประหลาดใจ

ด้านอี้หมิงไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มให้เฟิน เฟิน แล้วลงมือใช้ไม้ไผ่ปลายแหลมเสียบลงดินต่อไปเรื่อย ๆ 

” อ่ะ หมิงอี้พริกเสร็จแล้ว “อี้เฟินเอ่ยบอกลูกสาวที่นับวันยิ่งแปลกประหลาด หมิงอี้คนเดิมเคยสนใจงานการเกษตรเสียที่ไหน แม้แต่เธอเองยังไม่มีความรู้ด้านนี้เลย อี้เฟินส่ายหน้ากับความคิดตนเอง

” ดีเลย ต่อไปก็มะเขือเทศ “

“อ่ะ นี่” อี้เฟินยกตะกร้าที่ใส่มะเขือเทศที่บางลูกบ้างก็ช้ำ บางลูกก็เน่าไปแล้วครึ่งซีก มาวางตรงหน้า

อี้หมิงเลือกหยิบขึ้นมาหนึ่งลูกแล้วใช้มีดกรีดลงไปแบะเนื้อออกแล้วคว้านเอาแต่เมล็ดเหลืองๆ ออกมา 

“เราจะะเอาเมล็ดมะเขือเทศนี่ไปตากแดดเหมือนพริก จะได้ใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ได้” อี้หมิงอธิบายกับอี้เฟิน 

“อ่อ ข้าเข้าใจเเล้วล่ะ” ทั้งสองช่วยกันลงมือพลางพูดคุยสัพเพเหระกัน จนในที่สุดก็ได้เมล็ดพันธุ์ออกมา สองแม่ลูกช่วยกันยกกระด้งที่มีเมล็ดพริก และมะเขือเทศที่แผ่กระจายเต็มกระด้งอยู่ ออกไปตากแดดยังลานเล็กหน้าบ้าน เมื่อเสร็จแล้วอี้หมิงก็วกมาหอบยกเอาใบผักทั้งหลายที่มารดาได้มา ไปวางทิ้งไว้ในแปลงผักเพื่อที่จะให้หมักและทำเป็นปุ๋ยธรรมชาติต่อไป ส่วนผักบุ้งบัดนี้ถูกนำมาชำแช่อยู่ในน้ำเป็นที่เรียบร้อย รอเพียงตากหน้าดินเสร็จเท่านั้น 

“หมิงอี้ ไปอาบน้ำอาบท่าเถอะจะได้มาทานข้าวกัน “

อี้เฟินตะโกนบอกลูกสาว วันนี้นางไปรับจ้างล้างจานในโรงเตี๊ยมในตลาดมาได้ค่าตอบแทนเป็นแป้งสาลี แถมยังได้หมูจากอู๋ไป๋ที่ใจดีแบ่งมาให้อีก วันนี้นางจึงจะทำเมนูที่ลูกสาวนางโปรดปรานที่นาน ๆ ได้ทำที เดิมสมัยที่อยู่แคว้นเหลียง นางพลันนึกย้อนไปถึงสมัยที่หลายปีก่อนที่ นางเติมโตในตระกูลขุนนางใหญ่ เมื่อเติบโตเป็นสาวแรกรุ่นก็ได้ขึ้นนั่งตำแหน่งที่สาว ๆ ทั้งเมืองใฝ่ฝัน มีลูกสาวน่ารัก มีสามีที่ดี แต่แล้วราชสำนักเกิดระส่ำระส่าย บ้านเมืองเกิดสงครามทำให้ครอบครัวแตกแยก สามีนางรึ แม้แต่ศพก็หาไม่พบ นางและคนของนางต่างพลัดหลงแตกจากกัน มีเพียงนางและลูกสาวที่โดนกวาดต้อนมายังแคว้นต้าหลี่แห่งนี้ จากชีวิตอันแสนสุขสบายกลับต้องตาลปัตร ระหกระเหินกระเสือกกระสนทำงานงานแลกข้าว เพื่อประทังชีวิตของลูกน้อยและตัวนางเอง เมื่อนึกย้อนอดีตใบหน้าที่คล้อยตามกาลเวลาแต่ยังคงเหลือเค้าโครงความงามอยู่ก็พลันน้ำตารื้นขึ้นมา อี้เฟินถอนหายใจอย่างปลงตกกับโชคชะตาแล้วลงมือทำอาหารต่อ

วันนี้นางตั้งใจทำเกี๊ยวทอด ส่วนผสมถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย มือที่เริ่มเหี่ยวจุ่มมือลงไปในน้ำสะอาดที่เตรียมไว้ เเขนเสื้อถูกพันเลิกขึ้นเพื่อสะดวกแก่การปรุงอาหาร เริ่มต้นด้วยการนำหมูมาหั่น จากนั่นก็ลงมือสับหมูหยาบ ๆ จนเกิดเป็นเสียงมีดที่กระทบกับเขียงไม้เป็นจังหวะ “ปุก ปุก!!” เมื่อได้หมูสับที่ต้องการ ก็เอื้อมมือหยิบเต้าหู้ที่เหลือมาซอยหั่น ๆ เป็นชิ้นเล็กเต๋าอย่างชำนาญมีด ต่อด้วยซอยสับต้นหอมที่เก็บจากผักที่ร้านเหลือทิ้ง น้ำหมูสับ ตามด้วยเต้าหู้ และหอมซอยเทผสมลงในชามไม้ใหญ่ ใช้มือปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน เมื่อทั้งสามอย่างผสมเข้าที่แล้ว ขึงหยิบแป้งที่เตรียมไว้ค่อยๆ โรยและคลุกเคล้าไปมาจนได้เป็นก้อนแป้งกลมขาดไม่ใหญ่มาก มือค่อย ๆ หยิบแบ่งก้อนออกมาขนาดพอดี นวดคลึงไปมากับมือจนเป็นก้อนกลม ๆ แล้ววางบนไม้ขนาดสี่เหลี่ยม นวดแบออกเป็นแผ่น ๆ ขนาดพอดี ตอนนี้กระทะเหล็กที่ตั้งไว้กำลังร้อนพอดี จนเกิดเป็นเสียงเดือด” ปุด ปุด “นางคุมไฟไม่ให้แรงมาก เมื่อเห็นว่าน้ำมันร้อนได้ที่ก็หล่นแผ่นแป้งลงไปทอด เกิดเป็นเสียง “ฟู่ ฟู่ “เกิดกลิ่นหอมจากการทอดลอยฟรุ้งหอมไปทั่วบ้าน 

” อึก! “อี้หมิงกลืนน้ำลาย จากกลิ่นอาหารที่หอมยั่วยวนกระเพาะน้อย ๆ ของเธอ หลายวันตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาก็ได้กินแต่ข้าวต้มกับผักมาตลอด แต่ข้าวต้มที่นางกินแม่น่าตาธรรมดาแต่รสชาตินั่นหาได้ธรรมดาไม่ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของข้าวและน้ำซุปที่หวานกลมกล่อมกำลังดี จนอดชมในใจไม่ได้ว่าแม่นางในชาตินี้ก็ทำอาหารได้อร่อยเหมือนแม่ของเธอไม่น้อย คิดแล้วก็ทำให้คิดถึงพ่อกับแม่ที่เธอจากมา ป่านนี้จะเป็นเช่นไรบ้างหนอ จะคิดถึงนางกันบ้างไหมนะ

” หมิงอี้ นี่แม่ทำเกี๊ยวทอดที่เจ้าชอบ มาๆ ลูก มาทานกัน” 

อี้หมิงสะดุ้งออกจากภวังค์ที่กำลังคิดถึงบ้าน มองเกี๊ยวทอดตรงหน้าแล้วหยิบขึ้นชิมทันที

“ค่อย ๆ นะลูก พึ่งทำเสร็จกำลังร้อน ๆ อยู่เลย” อี้เฟินบอกยิ้ม ๆ

” หื้มมม อร่อยย! “หลังกัดคำแรกแล้วเคี้ยว อี้หมิงตะลึงกับรสชาติที่ได้สัมผัส นางตาโตเคี้ยวตุ่ย ๆ มือก็ส่งเกี๊ยวทอดเข้าปากไม่หยุดอย่างเอร็ดอร่อย ไม่นานอาหารด้านหน้าก็หมดเกลี้ยง 

อี้เฟินมองลูกสาวที่กำลังเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อยก็ยิ้มหายเหนื่อยจากการทำงานเป็นปลิดทิ้ง ขอแค่ลูกของนางกินอิ่มนอนหลับ ไม่ป่วย ไม่ไข้ เพียงเท่านี้นางก็มีความสุขมากแล้วล่ะ

” อื้มม อร่อยมากเลยทะท่านแม่ ฝีมือท่านไม่ธรรมดานะเนี่ย “อี้หมิงพูดหยอกเย้า

” อ่ะ อะ อร่อยก็กินเยอะ ๆ นะ ไว้ข้าจะทำให้กินใหม่นะอ่ะ “

เมื่อทานเรียบร้อยอี้หมิงจึงอาสาเก็บจานชามไปล้าง เมื่อเรียบร้อย สองแม่ลูกจึงได้แยกย้ายกันเข้านอนสู่นิทราหลังจากดหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งวัน 

🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 7 ขบวนเสด็จ

    หลังตื่นนอน หญิงสาวได้ช่วยอี้เฟินเก็บกวาด ทำอาหารและทานข้าวมื้อเช้าเสร็จ ก็เดินออกมาส่งนางที่ปากทางหมู่บ้านคนอพยพ เพื่อไปทำงานในตลาดที่อยู่อีกฝากของหมู่บ้านไม่ใช่ว่าอี้หมิงไม่อยากช่วยแบ่งเบาภาระของนาง แต่นางขอไว้ด้วยความกลัวว่าจะโดนเจ้าพวกอันธพาลรังแกเหมือนรอบที่แล้ว ที่ลูกนางโดนตีเกือบตาย โดยที่จริงแล้วลูกของนางได้ตายไปแล้ว และอี้หมิงที่ตายในวันเดียวกันในโลกอนาคตจึง ได้มาเกิดแทนในร่างของเธอ โดยที่อี้เฟินนางเองก็ยังไม่รู้ว่าลูกนางได้ตายไปเสียแล้ว” พี่หมิงอี้”” อ้าว เฟิน เฟิน ไปไหนมา”ข้าไปในตลาดมา วันนี้ในตลาดเขาลือกันว่าฮ่องเต้จะเสด็จไปล่าสัตว์ในป่า ข้าเลยจะมาชวนพี่ไปดูขบวนเสด็จด้วยกัน” ขบวนเสด็จหรอ”” อื้อ หึ “เฟิน เฟิน พยักหน้างึก ๆ” ไปสิ “อี้หมิงรู้สึกตื่นเต้น ดีเหมือนกันอยากเห็นด้วยตัวเองซักครั้ง จะว่าไปการที่ได้มาอยู่ตรงนี้ก็ตื่นเต้นดีเหมือนกันแฮะ!! พบเจอผู้คนที่แปลกตา การแต่งตัวที่ผิดแผกไปจากที่เธอเคยเจอ คำพูด การใช้ชีวิต ตอนนี้ถือว่าเธออยู่อย่างธรรมชาติสุด ๆ ไม่มีทีวีให้ดู ไม่มีห้างให้เดินเที่ยว ไม่มีโทรศัพท์ให้ไถเล่นโซเชียล แต่ก็ลำบากชะมัด!! อี้หมิงบ่นในใจ แล้วมิวายก้มล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 8 ทำเลที่ตั้ง

    หลังขบวนเสด็จผ่านไปแล้ว อี้หมิงก็ชวนเฟิน ๆ กลับไปยังเรือนพักหลังเล็กของต้น ภารกิจแรกของสองสาวกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า“เฟิน เฟิน พร้อมมั๊ย!”“ข้าพร้อมแล้วพี่”“สาธุ เทียนตี้ เทียนกง ขอให้ถั่วงอกของลูกออกมาอวบขาว ๆ นะเจ้าคะสาธุ” อี้หมิงยกชามถั่วเขียวที่แช่น้ำข้ามคืนไว้ ยกไหว้วานสิ่งศักสิทธิ์เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย“นั่นพี่ทำอะไรรึ” เฟิน เฟิน ที่เห็นอี้หมิงยกชามที่แช่ถั่วงอกขึ้นเหนือผัวแล้วทำปากขมุกขมิบบ่นพึมพำไปมาจึงอยากใครรู้“อ่อ! ขอพรเอาฤกษ์เอาชัยนะ ช่างเถอะๆ มาๆ เฟิน เฟิน มาลงมือปลูกถั่วงอกของเรากัน”เมื่อวัตถุดิบพร้อม อี้หมิงก็ลงมือปลูกถั่วงอก โดยนางเริ่มโดยการนำกระบุงไม้สานที่ขอยืมเฟิน เฟิน ไว้ และเสื้อเก่า ๆ ที่มีเนื้อผ้าค่อนข้างโปร่งนิ่ม 1 ผืน ไปแช่น้ำให้ชุ่มจนน้ำไหลหยดออกจากผ้าเป็นทาง มือบางบิดผ้าให้มาดเล็กน้อย จากนั้นปูใส่ลงไปในกระบุง หย่อนมือกอบเอาเมล็ดถั่วเขียวที่แช่น้ำทิ้งไว้ข้ามคืนขึ้นมาจากถังไม้ แล้วย้ายมาวางใส่ในกระบุงแทน ค่อยๆ โรยเมล็ดถั่วเขียวให้กระจายกันไม่ซ้อนทับกันหรือกองกันอยู่มุมใดมุมหนึ่งของกระบุง นิ้วเรียวยื่นตามไปค่อย ๆ แผ่ส่วนที่กองกันมากเกินไปให้แผ่กระจายออก พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 9 First impression ฉบับคนจน (1)

    “อ้าว มากันแล้วรึ วันนี้ไปตะเวนเที่ยวไหนกันมาล่ะ!” อี้เฟินที่กำลังทำอาหารเอี้ยวหน้ามามองสองสาว“ไม่ไปโดนต่อยตีที่ไหนมาใช่หรือไม่!”“ไม่จ๊ะ ปลอดภัยไร้รอยข่วน! ป้าอี้เฟิน วันนี้ข้ากับพี่อี้หมิงไปหาทำเลขายของในตลาดมา ได้มาแล้วด้วยนะ”“จริงรึ แล้วหมิงอี้จะขายอะไรล่ะลูก” อี้เฟินที่กำลังลงมือต้มน้ำซุปอยู่หันมาถามลูกสาว“ถั่วงอก นี่ไง ๆ ท่านดูสิ อีก 3 วันก็ขายได้แล้ว”“ฮือ! นั่นเจ้าทำอันใด พิลึกคนจริง นั่นอะไรรึ”อี้เฟินเมื่อเห็นสิ่งที่ลูกสาวชี้เชิญให้ดูก็ขมวดคิ้วแปลกใจ อะไรกันละนั่น“เอาหน่าท่าน เดี๋ยวก็รู้ระหว่างนี้ ทุก 2 ชั่วยาม ต้องคอยรดน้ำบ่อย ๆ อีก 3 วันก็ขายได้แล้วละ แล้วเดี๋ยวข้าก็จะมีเงินมาซื้อของอร่อย ๆ ให้ท่านยังไงล่ะ” อี้หมิงยิ้มอวดซี่ฟันสวยเต็มวงหน้าให้กับอี้เฟิน“อ่ะ ๆ แล้วแต่เจ้าแล้วกัน เฟิน เฟิน วันนี้กินข้าวกับข้าสิ ได้ผักกับเนื้อมาอีกแล้วล่ะ”“พี่ไป๋อู๋ละสิให้ท่านมา”เฟิน เฟินถามยิ้ม ๆ“นี่พี่หมิงอี้ เฟิน เฟิน ว่าถ้าพี่ไม่มีใคร พี่ไป๋อู๋ก็ไม่เลวนะ ขยันทำมาหากิน แต่อ้วนน่าเกียจไปหน่อยแค่นั้นเอง”อ้าว! เจ้าเด็กนี่ บูลลี่แล้ว นึกขำในใจ“ไม่ล่ะ ข้ายังไม่สนใจเรื่องนี้ ขอข้ารวยก่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 10 First impression ฉบับคนจน (2)

    "หมิงอี้ หมิงอี้ ลูก สายแล้ว ตื่นเถิด" อี้เฟินหลังจากที่ทำอาหาร เก็บกวาดบ้านเสร็จ ก็เดินไปเก็บกระด้งไม้ไผ่ที่ตากเม็ดพริก และมะเขือเทศเข้ามาด้านในบ้าน หลังจากตากผึ่งแดดไว้ข้ามวันก็แห้งได้ที่ทีเดียว เมื่อเสร็จงานทุกอย่างแล้วยังไม่เห็นหมิงอี้ตื่น จึงได้เดินเข้ามาตาม "อื้อออ เมื่อยชะมัด" อี้หมิงบิดตัวไปมา แล้วพูดเสียงอู้อี้ ตั่งเตียงแข็ง ๆ นี้ทำปวดไปทั่วทั้งตัวเลยจริง ๆ "สายแล้วลูก ป่ะไปล้างหน้าล้างตา ประเดี๋ยวออกไปวัดกับข้า" หลังจากที่นอนครุ่นคิดทั้งคืน ในฐานะที่นางเป็นแม่ นางก็ควรที่จะช่วยลูกสาวอย่างสุดความสามารถ ตั้งแต่อพยพมาหมิงอี้ไม่ค่อยจะร้องขอสิ่งใดจากนางมากนัก ตั้งแต่นางเติบโตมาก็พบเจอฐานะที่ยากจนแล้ว ซ้ำร้ายมีเพียงนางที่เป็นแม่ดูแลมาเพียงคนเดียว พ่อของนางรึ พลันคิดแล้วน้ำตารื้นเอ่อออกมาจากนัยน์ตา ช่างเถอะ! เรื่องมันผ่านมาแล้ว จะกลับไปสู่สูงสุดเช่นเดิมกลับมองไม่เห็นทางเลยจริง ๆครานี้เมื่อลูกสาวนางร้องขอเพียงเสื้อผ้าดี ๆ ซักชุด นางจึงต้องไปพบคนผู้หนึ่งที่คิดว่าพอจะช่วยนางได้ "วัดหรอ" "ใช่ๆ ลุกไปล้างหน้าล้างตาเจ้าให้สดชื่นก่อนนะ " ใช้มือลูบศีรษะทุยอย่างเอ็นดู ลูกสาวนางต่อให้จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 11 First impression ฉบับคนจน (3)

    ด้านอี้หมิง เมื่อไม่รู้จะทำอะไร ก็เดินสำรวจไปรอบ รอบ ๆ จนมาได้ยินเสียงคุยกัน น้ำเสียงเคร่งเครียด พลันเท้าหยุดชะงัก! ค่อย ๆ ย่องไปฟังอย่างอัตโนมัติ"ท่านอาสาม ท่านคิดเช่นนั้นรึ"'เอ๊ะ!! ทำไมคุ้น ๆ ชายชุดดำคนนั่นจัง อี้หมิงคิดในใจ มือเรียวยังเกาะที่แผ่นหิน เงี่ยหูฟังแต่ก็ได้ยินไม่ค่อยถนัดนัก อี้หมิงกำลังมองชายชุดดำสามคนที่ควบม้าผ่านเธอมาระหว่างทาง และชายอีกคนที่สวมใส่ชุดสีขาว ท่าทางดูสงบ แต่สง่า ผ่าเผยกำยำ กำลังพูดคุยกันน่าเคร่งเครียด"อะไรทำให้ท่านคิดเช่นนั้นกัน""ถึงแม้น้องรองจะเป็นเงียบๆ ดูไม่มีพิษไม่มีภัย แต่เจ้าก็อย่าชะล่าใจไปล่ะ ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อน อย่าหาว่าข้าไม่เตือนแล้วกัน""หลายวันมานี้มีคนกลุ่มหนึ่งสวมรอยเป็นกองกำลังของข้า ออกปล้นตามเขตชายแดนที่ปล้นไปส่วนใหญ่ล้วนเป็นเสบียงข้าว และอาหาร" ชายที่ดูจะอายุน้อยสุดแต่ท่าทางมีอำนาจเอ่ยขึ้น"แถมแต่งตัวคล้ายทหารของหวางจื่อไม่ผิดเพี้ยน ข้าตามมาหลายคราแล้ว แต่พวกมันปลิดชีพฆ่าตัวเองหมด ตามสืบไม่ได้เลย" ชายร่างสูงใหญ่กำยำอีกคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวล"ฮือ หวางจื่อๆ ๆ ชื่อคุ้น ๆ คืออะไรน๊า จิ๊!" อี้หมิงคุ้น ๆ กับคำว่า หว่างจื่อ แต่นางนึกจำคว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 12 First impression ฉบับคนจน (จบ)

    "ฮึ กวางน้อยที่ไหน""หึ! ช่างเถอะ แค่เด็กเร่ร่อนหนะ!" หวางจื่อชินเอ่ย เขามองเห็นนางตั้งแต่แรกแล้วหล่ะ"ฟรู่~~" อี้หมิงเป่าปากออกมา ใจเต้นตึกๆ"เจ้าแอบดูผู้ใดกัน ฮึ"เปล่า ๆ ท่านเสร็จแล้วรึ เป็นอี้หมิงเอ่ยเบี่ยงเบนความสนใจของมารดา"เสร็จแล้วล่ะ เหลือแต่พาเจ้าไปพบนางนั่นแหละ ป่ะ" สองแม่ลูกเดินจับจูงกันเข้าไปในห้อง ๆ ที่มีหญิงนางหนึ่งนั่งรออยู่หนิงเยว่เมื่อมองเห็นสองแม่ลูกจับจูงกันมา ก็นึกเวทนาในใจ"มา ๆ หลานข้า โตเป็นสาวแล้วสิ" ลุกเดินไปหาสาวน้อย ที่ถึงแม้อยู่ในชุดมอมแมมแต่ความงามของใบหน้ายังปรากฎให้เห็นอยู่ ถ้าแต่งตัวดีขึ้นมาหน่อยคงจะงามมิน้อยอี้หมิง มองมารดาเป็นการถามกลาย ๆ ว่าหญิงตรงหน้าคือใคร"อ่อ นางคือน้าเจ้าหนะ" อี้เฟินไม่ได้บอกลงรายละเอียดให้หญิงสาวรู้ที่มาที่ไป"สวัสดีค่ะ" อี้หมิงยกมือไหว้อัตโนมัติ"ฮื้อ" หนิงเยว่เห็นท่าทางหลานสาวก็ฉงน มองอี้เฟินด้วยสีหน้างง งวย"อะอ่อ! นางพึ่งโดนอันธพาลในเมืองทำร้ายมาหนะ พึ่งฟื้นขึ้นมาเลยเลอะเลือนไปบ้าง" อี้เฟินรีบคว้ามือของหมิงอี้ลง"โถ่วเอ๊ยเด็กน้อย ชะตาเจ้าช่างอาภัพจริงๆ คนพวกนั้นก็กะไรต้องตีกันถึงขนาดนี้เลยหรอ" หนิงเยว่ลูบตัวอี้หมิงไปมาอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 13 ให้อาหารโฆษณาวัตถุดิบ

    “เฮ้อ! คิดไม่ออก ถ้าขายแค่ถั่วงอกเราอาจจะขายได้นะ เฟิน เฟิน แต่มันจะไม่ยั่งยืนหนะสิ เราต้องสร้างจุดสนใจผู้คนจะได้ขายได้เยอะ ๆ แบบให้ปังๆ”“ห๊ะ แล้วจะทำยังไงดีละพี่หมิงอี้”หมิงอี้เมื่อคิดไม่ออก ก็ได้แต่ถอนหายใจ ช่างเถอะต้องลองดูก่อนแล้วกัน ไม่ลองก็ไม่รู้“ป่ะ ข้าจะไปปลูกผักบุ้ง แล้วก็กล้าพริก กะมะเขือเทศจะไปกับข้ามั๊ย”“เฟิน เฟิน อย่าพึ่งกลับนะรอบกินข้าวกับข้าก่อน”อี้เฟินตะโกนบอกสาวน้อย“ได้จ๊ะ”สองสาวช่วยกันขนผักบุ้งแล้วก็กระด้งที่ตากเมล็ดพริก กับมะเขือเทศออกมานั่งที่ตั่งด้านนอก อี้หมิงใช้มือค่อย ๆ กอบเอาเมล็ดพริกแยกใส่ถุงไว้ อีกถุงก็ใส่เมล็ดมะเขือเทศไว้ แล้วเดินถือผักบุ้งที่ชำไว้เดินตรงไปยังแปลงผักขนาดเล็กที่พรวนตากดินไว้กับเฟิน เฟินสองสาวลงมือช่วยกันตักน้ำจากลำธารมารดแปลงดินจนเปียกชุ่ม แล้วปักชำผักบุ้งที่ตอนนี้แตกรากสีขาวออกมาบ้างแล้วลงในดิน ส่วนที่เหลือก็หว่านเมล็ดพริกและมะเขือเทศไปบนดิน โดยหว่านแยกฝั่งกันแล้วใช้ฟางข้าวปิดทับตักน้ำราดรดลงไปบนฟางข้าวอีกทีจนเปียกชุ่มสองมือยกขึ้นปัดกันไปมา แล้วเท้าสะเอวมองดูผลงานของตัวเอง วันนี้ปลูกแปลงแค่นี้ไปก่อน วันหน้าค่อยขยายแล้วกันนะ ตอนนี้ข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 14 เปิดร้านวันแรก [1]

    เมื่อล้างถ้วยชาม เก็บกวาดเรือนหลังเล็ก ไปจนถึงอาบน้ำเสร็จ ภายนอกเรือนก็ถูกโรยปกคลุมไปด้วยความมืดเสียแล้ว บ้านเรือนหลายหลังทยอยดับตะเกียงเตรียมเข้าสู่นิทรา แต่สองแม่ลูกที่อยู่ในเรือนหลังเล็กแห่งนี้ยังไม่มีทีท่าจะง่วงนอนเลยสักนิด ด้วยตื่นเต้นกับกิจการที่จะเริ่มต้นในวันพรุ่งนี้ หญิงทั้งสองคนนั่งเปิดกระสอบที่ใช้เพาะถั่วงอกให้อ้าออกไว้ ตั้งใจว่าพรุ่งนี้เช้าตรู่ ค่อยเก็บถั่วออกออกมาแล้วล้างทำความสะอาดเพื่อเตรียมไปขายที่ตลาด เสร็จแล้วก็ช่วยมารดายกหม้อ ตะหลิวและถ้วยชามเตรียมออกมาวางไว้กลางบ้าน พร้อมสำหรับการเปิดร้านในวันพรุ่งนี้~เอ้กอี้เอ้กเอ้กก~"ฮื้อ เช้าแล้ว ฮื้ออออ อืออ ฮ่าวว"ร่างบางลุกบิดขี้เกียจทั้งที่ตาทั้งสองข้างยังปิดอยู่ เตียงนี้นอนทีไรก็ยังปวดเมื่อยเหมือนเดิมทุกทีเลย บ่นอุบ! ในใจกับตัวเอง"ปึ๊ก ปึ๊ก พี่หมิงอี้ พี่หมิงอี้ ป้าอี้เฟิน ปึ๊ก ปึ๊ก""หือ!" อี้หมิงที่กำลังหาวก็ตาโต นี่เธอว่าเธอตื่นเช้าแล้วนะ นี่เจ้าเด็กเฟิน เฟิน ตื่นเช้ากว่าอีกหรือนี่ แล้วลุกไปจุดตะเกียงเดินไปเปิดประตูบ้านให้สาวน้อย“แฮะๆ! เฟิน เฟิน ตื่นเต้นนอนไม่หลับ ดูนี่สิ เฟิน เฟิน สวยมั๊ย” สาวน้อยหมุนซ้าย หมุนขวาไปม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23

บทล่าสุด

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 41 หนามยอกต้องเอาหนมบ่ง [2]

    "หน่วยราดตะเวนเงาของเรารายงานว่า ถ้ำนอกเมืองที่ชายป่าติดวัดฉงเซิ้ง มีข้าวเปลือกน่าจะหลายร้อยตันทีเดียวซ่อนอยู่ภายในถ้ำ ปากถ้ำมีกลุ่มคนเฝ้าอยู่ตลอดเวลา"~ปึก!~ เสียงมือตบโต๊ะอย่างแค้นใจของเฉิงอี้ดังลั่น"ข้านึกอยู่แล้วเชียว มันเป็นใคร""ตอนนี้ข้าให้ทหารเงาเราสืบอยู่ คาดว่าไม่นานน่าจะพบว่ามันเป็นใคร""เรื่องนี้เห็นทีจะช้าไม่ได้ เป็นเช่นนางว่าบัดนี้ชาวเมืองเดือดร้อน ราคาข้าวสูงขึ้นทุกวัน เราต้องชิงลงมือก่อนที่พวกมันจะปล่อยข้าวทั้งหมดออกมาขาย""เจ้ามีแผนการรึ"เฉิงอี้นิ่งเงียบไปซักพักแล้วจึงนั่งลงที่ตั่งโต๊ะ ก่อนจะเอ่ยบอกจางหยางถึงแผนการที่วางไว้ในใจ"งานนี้เห็นทีหนามหยอกต้องเอาหนามบ่งแล้วล่ะ"เฉิงอี้กอดอกอย่างใช้ความคิด "จางหยางเจ้าให้คนสนิทเราไปปล่อยข่าวว่ามีพ่อค้าต่างเมือง แคว้นแถบทะเลทราย ต้องการข้าวจำนวนมาก มีเท่าไหร่รับซื้อหมดและยินดีให้ราคาสูงกว่าท้องตลาด เจ้าทำยังไงก็ได้ให้คนของเราปั่นราคาข้าวให้สูงขึ้นไปอีก""ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าจะเร่งให้พวกมันนำข้าวทั้งหมดออกมาขายให้เร็วขึ้นใช่รึไม่""ใช่! และเจ้าจงไปเตรียมข้าวในคลังส่วนหนึ่งไว้""ได้ ข้าจะเร่งไปจัดการให้""เจ้าประวิงเวลาไว้ซักสอ

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 40 หนามหยอกต้องเอาหนามบ่ง [1]

    เมื่อเห็นชายตรงหน้ายังเงียบ อี้หมิงจึงปฏิบัติการเกลี้ยกล่อมทันที ตอนนี้อยากได้เครื่องพ่น อยากขายน้ำหมัก อยากได้เงินเยอะๆ แต่ก็กลัวๆ เอาว่ะลองซักตั้ง!"ตอนนี้เจ้าทำอะไรมากไม่ได้แล้วล่ะ แมลงมันระบาดไปทั่วแล้ว เพราะงั้นเจ้าต้องเร่งทำถังพ่นนี้ให้กับข้า จะได้รีบช่วยชาวบ้านผ่อนหนักให้เป็นเบาได้"เงียบ! เฉิงอี้ยังคงเงียบรอฟังเสียงเจื้อยแจ้วของหญิงตรงหน้าต่อไป"อีกอย่างตอนนี้ข้าวแพงมากเจ้าก็เห็น ประชาชนเดือดร้อน บางคนแทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้ออยู่แล้ว ถ้าเรากำจัดโรคระบาดนี้ได้นะ ราคาน่าจะลดลงมากโขทีเดียว"เฉิงอี้ค่อย ๆ คิดตาม ยังไงชาวเมืองหลี่ประชาชนของเขาต่างสำคัญอันดับหนึ่ง ข้อนี้เขาเกือบลืมนึกไป ต่อให้หญิงสาวตรงหน้าเป็นคนทำ แต่ตอนนี้คงตามน้ำไปก่อน เมื่อนางยับยั้งโรคระบาดนี้ได้ค่อยสังหารนางก็ยังไม่สาย "หึ"นึกแล้วใบหน้าหล่อเหลาของเฉิงอี้พลันแสยะยิ้มออกมา~พรึบ!~คิดได้ดังนั้นเฉิงอี้ก็ลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปที่ประตู"ตามมาสิ!" เยส! ปิดดิว! อี้หมิงอุทานในใจ"เดี๋ยว! มาแก้มัดให้ข้าก่อน!" อี้หมิงรีบตะโกนไล่หลัง~แอด~ "ปึก!" เมื่อประตูถูกเปิดจากด้านในทำให้จางหยางที่กำลังแอบฟังโดยแนบหูกลับประตูเสียห

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 39 อุปกรณ์กำจัดเพลี้ย [2]

    "เจ้าต้องการอะไร!" อี้เฉินกอดอก กวาดสายตาดุจพญาเหยี่ยวมองมาที่ร่างบางที่นั่งอยู่"ข้าอยากได้ถังพ่นยา""จะเอาไปทำอะไร""ขะ ข้า จะเอาไปพ่นน้ำหมักหนะ จะไปพ่นฆ่าเจ้าแมลงที่ระบาดอยู่ตอนนี้ไง" ชายตรงหน้าทำให้อี้หมิงพูดตะกุกตะกัก น่าแปลกที่ชายคนนี้มีรังสีบางอย่างที่ไม่เหมือนคนทั่วไป รึเธอคิดไปเองกันนะ"เล่าต่อสิ" เฉิงอี้เริ่มสนใจในสิ่งที่นางเล่า"คือข้าขอพู่กันกับกระดาษ" อี้หมิงเรียกร้องขอกระดาษกับพู่กันเพื่อจะวาดสิ่งที่ตนต้องการ เฉิงอี้ยิ่งสนใจในตัวนางมากยิ่งขึ้น นางรู้หนังสือรึ น่าสนใจดีแฮะ!พรึบ! ตึก! กระดาษและแท่นหมึกพร้อมพู่กันโดนมือหนาคว้ามาวางลงตรงด้านหน้าหญิงสาว อี้หมิงไม่รอช้าลงมือใช้พู่กันขีดเขียน วาดไปมาทันทีภาพหญิงสาวร่างบอบบาง ใบหน้ารูปไข่เรียวเล็ก ผิวขาวต่างจากหญิงชาวบ้านทั่วไปแม้สวมใส่ชุดเก่า ๆ ธรรมดากลับบดบังความงามที่ซ่อนอยู่ของหญิงตรงหน้าไม่ได้ นี่ข้าชมนางรึ! หึ! ไม่มีทาง! เฉิงอี้สบัดศรีษะไปมาเบาๆ อย่างนึกขันตัวเอง"อ่ะ เสร็จแล้วล่ะ" อี้หมิงเลื่อนกระดาษไปตรงหน้าให้ชายหนุ่มได้ดูอะไรล่ะเนี่ย หน้าตาประหลาดจริง! "นี่คือ..หน้าตาประหลาดจริง" เฉิงอี้มองหน้านวลอย่างฉงน"ถังพ่น

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 38 อุปกรณ์กำจัดเพลี้ย [1]

    ~เปร่ง เปร่ง ตุบ ตุบ เปร่ง เปร่ง~ เสียนค้อนเหล็กตีกระทบเข้ากับแท่งเหล็กสีแดงที่วางพาดอยู่ ทั้งสามคนยืนมองเข้าไปในร้านตีดาบอย่างขลาดกลัว ในร้านมองเข้าไปมีแต่เหล่าชายฉกรรจ์ทั้งนั้น ~เปร่ง เปร่ง ตุบ ตุบ เปร่ง เปร่ง~"ท่าน ท่าน พี่ชาย พี่ชาย"'อึก! อี้หมิงกลืนน้ำลายกับกล้ามหน้าอกและกล้ามท้องที่บัดนี้มีเหงื่อไหลตามร่องลอนกล้ามลงมา ใบหน้าหล่อเหลามีเหงื่อผุดขึ้นจนผมเปียกลู่ลงมาปิดหน้าคมคาย หล่อมาก นี่เป็นดาราได้เลยนะเนี่ย อี้หมิงคิดในใจ อร้าย! หยุดคิดอี้หมิง'~เปร่ง เปร่ง เปร่ง~ ชายตรงหน้ายังก้มเงื้อมค้อนเหล็กต่อไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกจากร่างบางซักนิด"ไอ้บ้า หยุดก่อน"อี้หมิงเมื่อเห็นว่าเรียกยังไงชายตรงหน้าก็ไม่มีท่าทีที่สนใจตนก็ตะโดฝกนขึ้นตุบ!"เฮ้ย" อี้หมิงกระโดดหลบค้อนเหล็กที่ถูกโยนลงพื้นเมื่อครู่ได้ผลชายหน้าตาหล่อเหลาที่เปลือยอกล่ำๆหน้าตาดูไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป และหน้าตาดูคุ้น ๆ ตาของอี้หมิงหยุดตีเหล็ก และทิ้งค้อนเหล็กลงพื้นก่อนที่จะมองหน้าเธอด้วยสายตาหงุดหงิดแล้วเดินอาด ๆ หายลับเข้าไปด้านหลังจางหยางเมื่อเห็นหญิงสาวก็จำนางได้ทันที หญิงงามชุดขาวที่ขายผักที่ท้ายตลาด นางมาทำอะไรที่นี

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 37 น้ำหมักกำจัดโรค [7]

    อี้หมิง และเฟิน เฟิน รวมถึงอู๋ไป๋ก็ไม่พลาดที่จะไปดูการไล่แมลงขององค์รัชทายาทเช่นกัน ~คุณหนูๆ เดินช้าๆ เดี๋ยวได้หกล้มหรอกเจ้าค่ะ~~ก็ข้ารีบไปหาไท่จื่อหนิ เจ้าก็เร็ว ๆ เข้าสิ~ เสียงพูดคุยของสองนายบ่าวดังขึ้นขณะที่กำลังเดินฝ่าเหล่าชาวบ้านเพื่อตรงเข้าไปหาองค์รัชทายาทที่นั่งอยู่ในซุ้มที่ทำขึ้นชั่วคราวเพื่อดูผลงานของตน "ถวายพระพรฝ่าบาท หลี่เม่ยวันนี้จะมาขอชื่มชมผลงานของฝ่าบาทด้วยเพคะ""อืม!" เฉิงอี้ครางรับในลำคอ สายตาคมยังทอดมองเหล่าทหารที่เริ่มลงไปในแปลงข้าวพร้อมถือที่จับแมลงที่ทำจากผ้าคนละอันตั้งเรียงแถวหน้ากระดานเพื่อรอคำสั่งให้ลงมือจากจางหยาง "น่าสนใจดีแฮะ ฮ่า ฮ่า" อี้หมิงอุทานออกมาเมื่อเห็นท่าทีของเหล่าทหารเสียงหัวเราะของอี้หมิง ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ไป เริ่มหันมามองแล้วต่อว่าเธอ~นางเป็นบ้าไปแล้วรึกะไร ยืนหัวเราะอยู่ได้~เฟิน เฟิน เมื่อได้ยินก็กระตุกแขนอี้หมิงให้เลิกหัวเราะซักที "พี่หมิงอี้ หยุดหัวเราะได้แล้ว ประเดี๋ยวทั้งหัวข้าและพี่ได้หลุดออกจากบ่ากันพอดี" เฟิน เฟิน ที่มองเห็นเหล่าทหารองครักษ์เริ่มหันมาจับจ้องที่พวกตนก็รีบกระซิบอี้หมิงทันทีเฮือก! อี้หมิงหันไปมองตามสายตาเฟิน เ

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 36 น้ำหมักกำจัดโรค [6]

    ~กึก กึก กึก กึก ตึก กึก กึก กึก~~เสียงอะไรกันแต่เช้า เฮ้ยย!~~โห! นั่นทหารวังหนิ กำลังไปไหนกันหนะ~~เกิดศึกสงครามรึ เฮ้ย ข้าต้องเก็บของ ๆ เกิดศึกๆ~~นี่ๆ! หยุด! ศึกสงครามอะไรกัน ปากอัปมงคลจริงเชียว พวกเจ้าดูสิ ! ไม่มีคนไหนถือดาบเลยซักคน~~แฮะๆ จริงด้วย แล้วไม่ใช่ศึกสงครามแล้วจะเดินทัพไปที่ใดกันเล่า~ "หมิงอี้ ๆ มาดูนี่ๆ ตื่นมาดูนี่เร็ว" อี้เฟินรีบมาปลุกบุตรสาวให้ลุกขึ้นไปดูเหล่าทัพทหารที่กำลังเดินผ่านหมู่บ้านไป"อื้อ ดูอะไรรึ" อี้หมิงที่ยังสะลึมสะลือ หย่อนขาลงจากเตียงแล้วก้าวตามมารดาทั้งที่เปลือกตายังลืมไม่เต็มที่"เฮ้ย! ทหาร ทหารจริงๆ ทหาร!" อี้หมิงเมื่อลืมตาเห็นเหล่าทหารที่ใส่เกาะเดินขบวนอย่างพร้อมเพรียงเป็นแถวยาวมุ่งหน้าออกจากเมืองก็ตาโตทันที เหมือนในละครที่ดูเลยอ่ะ โห!"ใช่ๆ ทหารๆ " เฟิน เฟิน ที่ออกมาดูที่หน้าบ้านเช่นกันเดินเข้ามาหาอี้หมิง"พวกเขาไปไหนกัน มีสงครามหรอ" อี้หมิงหันไปถามมารดาอย่างใคร่รู้"ข้าว่าไม่น่าใช่นะ ดูแต่ละนายสิ ไม่มีหอกดาบเลย" ~ข้าได้ยินมาว่าไท่จื่อ เกณฑ์กำลังทหารของพระองค์มาช่วยไล่พวกเจ้าแมลงร้ายที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้หนะ ขอบคุณเทียนกงที่ส่งผู้มีบุญมาเกิดใ

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 34 น้ำหมักกำจัดโรค [5]

    "พี่หมิงอี้ท่านยิ้มอะไรกัน""ไม่มีอะไร ๆ ฮ่า ฮ่า " อี้หมิงที่ชอบใจกับเรตติ้งของตัวเองก็ยังหลุดหัวเราะออกมาไม่หยุด "อ่ะนี่! เงินเจ้า แหม๋ สาวน้อยเจ้าช่างเป็นที่ชมชอบของชายเมืองหลี่จริงเชียวดูสิ วุ่นวายข้าต้องออกไปจัดการอีกแล้ว"ฟางหนิงอวี๋วางเงินลงบนฝ่ามือบางแล้วพูดเสียงสะบัดหยอกเย้าอี้หมิงอย่างหมั่นไส้ในความนิยมของนาง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตั้งแต่เด็กสาวมาเต้นระบำให้ร้านนาง กำไรของร้านก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนหลั่งไหลเข้ามากินดื่มในร้านของนางจำนวนมากและยิ่งไม่ต้องพูดถึงวันที่มีสาวน้อยตรงหน้ามาแสดงเต้นระบำทำเอาร้านนางแทบแตกเลยทีเดียว "พ่อบ้านจาง เร็วเข้า ๆ นั่น ๆ ปีนโต๊ะร้านข้าแล้ว เร็วๆ""อะเอ่อ นายท่านทั้งหลายๆ ใจเย็น ๆนะ สาวงามของข้าเต้นระบำได้เพียงวันละรอบเท่านั้นจ๊ะ พวกท่านใจเย็นๆ นะอ่ะ อ่ะ ลงจากโต๊ะข้าก่อนนายท่าน"~ทำไมกัน ข้ายินดีจ่าย จะเอาเท่าไหร่ก็ว่ามา!~~ข้าด้วย ข้าด้วย~"เอ่อ ใจเย็นๆ นะนายท่าน ท่านรอรอบหน้าเถอะนะ ไม่งั้นถ้าท่านยังเป็นเช่นนี้นางจะไม่มาเต้นระบำให้พวกท่านดูอีกเป็นแน่ นางค่อนข้างขี้กลัวเสียงดังนะ!" ฟางหนิงอวี๋ใช้พัดสวยป้องกระซิบพูดปดกับชายหนุ่มในร้าน ~จริงหรอ

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 33 น้ำหมักกัจัดโรค [4]

    ~!ฝ่าบาท~กง กง ขันขีใกล้ชิตฮ่องเต้วิ่งกุลีกุจอตรวเข้ามาหาพระองค์ที่กำลังชมความงามของดอกบัวที่กำลังอวดกันเบ่งบานทั่วทั้งสระกลางตำหนักอี๋เหอ"อ้าวกงกง เจ้ารีบร้อนมาเข้ามาเช่นนี้มีเรื่องอันใดกันเล่า""ทูลฝ่าบาท ตอนนี้นายอำเภอและขุนนางฝ่ายบุ๋นเข้ามาขอเข้าเฝ้าด่วน โรคระบาดตอนนี้ควบคุมไม่ได้แล้วพะยะค่ะ""เป็นเช่นนั้ไปนรึ! ไป ไป เห็นทีครานี้แคว้นเราจะไม่สงบอีกต่อไปสินะ""ฝ่าบาทค่อย ๆ เดินเพคะ ระวัง ๆ เพคะ" "ไปตามไท่จื่อมาด้วย ให้มาหารือด้วยกัน""พะยะค่ะ""เป่าหนิง เจ้าจงเร่งไปตามไท่จื่อมาเร็วเข้า"กงกงเมื่อได้รับคำสั่งก็รีบสั่งเป่าหนิงรองขันทีให้รีบไปยังตำหนักบูรพาของรัชทายาททันทีไม่นานก็ปรากฏร่างองอาจของรัชทายาทหนุ่มเดินอย่างองอาจ เข้ามาแล้วนั่งประจำที่ข้างฮ่องเต้ผู้เป็นบิดา "เฉินอ๋องล่ะ""องค์ชายไม่อยู่ตำหนักพะยะค่ะ นางกำนัลรายงานว่าออกไปธุระนอกเมือง"กงกงรายงานก้มหน้างุด เหงื่อเม็ดเล็กๆ มีผุดซึมขึ้นที่หน้าแต่ก็ไม่กล้ายกผ้าขึ้นมาเช็ด"ดีจริง ๆ เฉินอ๋อง ยามข้าต้องการตัวกลับหายไปทำธุระนอกเมือง! เอ้า ว่ามาพวกเจ้ามีเรื่องอันใด""เรียนฝ่าบาท สองสามวันมานี้จวนของกระหม่อมมีชาวเมืองมาตีกลองร้

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 32 น้ำหมักกำจัดโรค [3]

    ผ่านไปไม่นานอี้เฟินก็ให้คนงานชายกลิ้งโอ่งที่ล้างทำความสะอาดเสร็จแล้วมาให้อี้หมิง"ระวังๆ ค่อย ๆ กลิ้ง อย่างนั้นแหละ อ่ะวางตรงนี้ๆ พี่หมิงอี้โอ่งได้แล้วจ๊ะ""ดีเลยข้าจะผสมน้ำหมักแล้วนะ" อี้หมิงพับแขนเสื้อของนางขึ้น ใช้ปิ่นรวบปักผมเป็นมวยเรียบร้อย ส่วนนิ้วมือเรียวเกี่ยวเอาปอยผมที่ตกลงมาคลอเคลียที่ใบหน้างามเกี่ยวทัดไว้ที่ใบหู'สาธุ ทีกงขอให้น้ำหมักของหนูสำเร็จทีเถอะ' อี้หมิงภาวนาเอาฤกษ์เอาชัยในใจ"มา! มาเริ่มกัน"อี้หมิงเริ่มจากการเทน้ำตาลทรายแดงลงไปก่อน จากนั้นใช้กระบวยตักน้ำมะพร้าวเทลงไป ตามด้วยน้ำส้มสายชู และเทเหล้าลงไปผสม มือเรียวจับไม้พายคนผสมให้ส่วนผสมที่ใส่ลงไปเข้ากัน เมื่อเห็นว่าเข้ากันดีแล้วอี้หมิงจึงใส่พริกไทยที่ผ่านการโขลกละเอียดเรียบร้อยแล้วลงไปเป็นส่วนผสมสุดท้าย คนผสมให้เข้ากันอีกรอบ แล้วปิดฝาโอ่งไว้"เสร็จแล้วเหลือรอแค่เวลาแล้วหล่ะ"อี้หมิงปัดมือไปมาเมื่อการผสมน้ำหมักจบลง ทีนี้ก็แค่รอให้ครบ 7 วันแล้วมาดูกันว่าน้ำหมักนี้ของเธอจะใช้ได้รึไม่"หมิงอี้เสร็จแล้วหรอ" อู๋ไป๋ยื่นหน้าเข้าไปมองใกล้ ๆ "เสร็จแล้วหล่ะ" เมื่อหมักน้ำหมักเสร็จเรียบร้อย อี้หมิงก็เดินไปดูอุปกรณ์ที่จะเตรียมเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status