Home / รักโบราณ / หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน / ตอนที่ 6 เตรียมดินและเมล็ดพันธุ์

Share

ตอนที่ 6 เตรียมดินและเมล็ดพันธุ์

last update Last Updated: 2025-02-21 12:38:33

อี้หมิงได้นำเอาเม็ดถั่วเขียวออกมาจากถุงผ้า นางนำไปแช่น้ำปล่อยทิ้งข้ามคืนไว้ แล้ววันพรุ่งจึงจะจำนำออกมาเพาะ เมื่อจัดการทำถั่วเขียวเสร็จ สาวน้อยและมารดาได้นำเอาพริกที่มีทั้งเม็ดที่เน่าเสีย และช้ำ ซึ่งเป็นเม็ดที่แก่แล้วภายในอัดแน่นไปด้วยเมล็ดพริกเต็มเม็ด มาค่อย ๆ ใช้มีดกรีดทีละเม็ด แล้วใส่ในกระด้ง นางตั้งใจจะนำเมล็ดพริกแก่เหล่านี้ออกมาผึ่งตากแดดทำให้แห้ง แล้วจะนำไปเพาะต่อไปนั่นเอง 

ซึ่งวันนี้เธอกับเฟิน เฟิน หลังจากถอนหญ้าที่รกปกคลุมพื้นที่ว่างขนาดเล็กหลังเรือนเล็กเสร็จ ทั้งสองก็ลงมือพรวนดิน โดยอี้หมิงบอกกับเฟิน เฟิน ว่า มันคือขั้นตอนของการเตรียมดิน โดยขุดดินที่อยู่ด้านล่างขึ้นมาพรวนตากแดดไว้ก่อน เป็นการพลิกให้หน้าดินที่อยู่ด้านบนลงไปอยู่ด้านล่าง แล้วใช้ไม้เเหลมเสียบๆ จนพรุนลงไปเป็นการเพิ่มพื้นที่ช่วยทำให้ดินไม่จับกันเป็นก้อนใหญ่ ดินจะได้โปร่ง จะได้มีช่องว่างให้น้ำและอากาศแทรกเข้าไปพอเหมาะ ทำให้ดินมีความเป็นกรดและด่างที่พอดี เป็นการช่วยให้รากของต้นพืชที่จะปลูกชอนชัยหาอาหารได้ดี และที่สำคัญเป็นการฆ่าเชื้อโรคให้กับดินไปในตัวอีกด้วย พืชที่ปลูกจะได้โตเร็ว ๆ 

“โอ้โห!!! พี่หมิงอี้ พี่ไปเอามาจากไหนกัน ใครสอนเจ้ามารึ ครั้งก่อนที่พี่จะสลบไปเรายังเตร็ดแตร่เล่นกัน และยังแย่งอารหารกับคนเร่ร่อนในตลาดด้านกะโน้นอยู่เลยนะ ไม่ยักกะรู้ว่าพี่จะรู้เรื่องพวกนี้ด้วย” เฟิน เฟิน ถามอย่างประหลาดใจ

ด้านอี้หมิงไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มให้เฟิน เฟิน แล้วลงมือใช้ไม้ไผ่ปลายแหลมเสียบลงดินต่อไปเรื่อย ๆ 

” อ่ะ หมิงอี้พริกเสร็จแล้ว “อี้เฟินเอ่ยบอกลูกสาวที่นับวันยิ่งแปลกประหลาด หมิงอี้คนเดิมเคยสนใจงานการเกษตรเสียที่ไหน แม้แต่เธอเองยังไม่มีความรู้ด้านนี้เลย อี้เฟินส่ายหน้ากับความคิดตนเอง

” ดีเลย ต่อไปก็มะเขือเทศ “

“อ่ะ นี่” อี้เฟินยกตะกร้าที่ใส่มะเขือเทศที่บางลูกบ้างก็ช้ำ บางลูกก็เน่าไปแล้วครึ่งซีก มาวางตรงหน้า

อี้หมิงเลือกหยิบขึ้นมาหนึ่งลูกแล้วใช้มีดกรีดลงไปแบะเนื้อออกแล้วคว้านเอาแต่เมล็ดเหลืองๆ ออกมา 

“เราจะะเอาเมล็ดมะเขือเทศนี่ไปตากแดดเหมือนพริก จะได้ใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ได้” อี้หมิงอธิบายกับอี้เฟิน 

“อ่อ ข้าเข้าใจเเล้วล่ะ” ทั้งสองช่วยกันลงมือพลางพูดคุยสัพเพเหระกัน จนในที่สุดก็ได้เมล็ดพันธุ์ออกมา สองแม่ลูกช่วยกันยกกระด้งที่มีเมล็ดพริก และมะเขือเทศที่แผ่กระจายเต็มกระด้งอยู่ ออกไปตากแดดยังลานเล็กหน้าบ้าน เมื่อเสร็จแล้วอี้หมิงก็วกมาหอบยกเอาใบผักทั้งหลายที่มารดาได้มา ไปวางทิ้งไว้ในแปลงผักเพื่อที่จะให้หมักและทำเป็นปุ๋ยธรรมชาติต่อไป ส่วนผักบุ้งบัดนี้ถูกนำมาชำแช่อยู่ในน้ำเป็นที่เรียบร้อย รอเพียงตากหน้าดินเสร็จเท่านั้น 

“หมิงอี้ ไปอาบน้ำอาบท่าเถอะจะได้มาทานข้าวกัน “

อี้เฟินตะโกนบอกลูกสาว วันนี้นางไปรับจ้างล้างจานในโรงเตี๊ยมในตลาดมาได้ค่าตอบแทนเป็นแป้งสาลี แถมยังได้หมูจากอู๋ไป๋ที่ใจดีแบ่งมาให้อีก วันนี้นางจึงจะทำเมนูที่ลูกสาวนางโปรดปรานที่นาน ๆ ได้ทำที เดิมสมัยที่อยู่แคว้นเหลียง นางพลันนึกย้อนไปถึงสมัยที่หลายปีก่อนที่ นางเติมโตในตระกูลขุนนางใหญ่ เมื่อเติบโตเป็นสาวแรกรุ่นก็ได้ขึ้นนั่งตำแหน่งที่สาว ๆ ทั้งเมืองใฝ่ฝัน มีลูกสาวน่ารัก มีสามีที่ดี แต่แล้วราชสำนักเกิดระส่ำระส่าย บ้านเมืองเกิดสงครามทำให้ครอบครัวแตกแยก สามีนางรึ แม้แต่ศพก็หาไม่พบ นางและคนของนางต่างพลัดหลงแตกจากกัน มีเพียงนางและลูกสาวที่โดนกวาดต้อนมายังแคว้นต้าหลี่แห่งนี้ จากชีวิตอันแสนสุขสบายกลับต้องตาลปัตร ระหกระเหินกระเสือกกระสนทำงานงานแลกข้าว เพื่อประทังชีวิตของลูกน้อยและตัวนางเอง เมื่อนึกย้อนอดีตใบหน้าที่คล้อยตามกาลเวลาแต่ยังคงเหลือเค้าโครงความงามอยู่ก็พลันน้ำตารื้นขึ้นมา อี้เฟินถอนหายใจอย่างปลงตกกับโชคชะตาแล้วลงมือทำอาหารต่อ

วันนี้นางตั้งใจทำเกี๊ยวทอด ส่วนผสมถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย มือที่เริ่มเหี่ยวจุ่มมือลงไปในน้ำสะอาดที่เตรียมไว้ เเขนเสื้อถูกพันเลิกขึ้นเพื่อสะดวกแก่การปรุงอาหาร เริ่มต้นด้วยการนำหมูมาหั่น จากนั่นก็ลงมือสับหมูหยาบ ๆ จนเกิดเป็นเสียงมีดที่กระทบกับเขียงไม้เป็นจังหวะ “ปุก ปุก!!” เมื่อได้หมูสับที่ต้องการ ก็เอื้อมมือหยิบเต้าหู้ที่เหลือมาซอยหั่น ๆ เป็นชิ้นเล็กเต๋าอย่างชำนาญมีด ต่อด้วยซอยสับต้นหอมที่เก็บจากผักที่ร้านเหลือทิ้ง น้ำหมูสับ ตามด้วยเต้าหู้ และหอมซอยเทผสมลงในชามไม้ใหญ่ ใช้มือปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน เมื่อทั้งสามอย่างผสมเข้าที่แล้ว ขึงหยิบแป้งที่เตรียมไว้ค่อยๆ โรยและคลุกเคล้าไปมาจนได้เป็นก้อนแป้งกลมขาดไม่ใหญ่มาก มือค่อย ๆ หยิบแบ่งก้อนออกมาขนาดพอดี นวดคลึงไปมากับมือจนเป็นก้อนกลม ๆ แล้ววางบนไม้ขนาดสี่เหลี่ยม นวดแบออกเป็นแผ่น ๆ ขนาดพอดี ตอนนี้กระทะเหล็กที่ตั้งไว้กำลังร้อนพอดี จนเกิดเป็นเสียงเดือด” ปุด ปุด “นางคุมไฟไม่ให้แรงมาก เมื่อเห็นว่าน้ำมันร้อนได้ที่ก็หล่นแผ่นแป้งลงไปทอด เกิดเป็นเสียง “ฟู่ ฟู่ “เกิดกลิ่นหอมจากการทอดลอยฟรุ้งหอมไปทั่วบ้าน 

” อึก! “อี้หมิงกลืนน้ำลาย จากกลิ่นอาหารที่หอมยั่วยวนกระเพาะน้อย ๆ ของเธอ หลายวันตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาก็ได้กินแต่ข้าวต้มกับผักมาตลอด แต่ข้าวต้มที่นางกินแม่น่าตาธรรมดาแต่รสชาตินั่นหาได้ธรรมดาไม่ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของข้าวและน้ำซุปที่หวานกลมกล่อมกำลังดี จนอดชมในใจไม่ได้ว่าแม่นางในชาตินี้ก็ทำอาหารได้อร่อยเหมือนแม่ของเธอไม่น้อย คิดแล้วก็ทำให้คิดถึงพ่อกับแม่ที่เธอจากมา ป่านนี้จะเป็นเช่นไรบ้างหนอ จะคิดถึงนางกันบ้างไหมนะ

” หมิงอี้ นี่แม่ทำเกี๊ยวทอดที่เจ้าชอบ มาๆ ลูก มาทานกัน” 

อี้หมิงสะดุ้งออกจากภวังค์ที่กำลังคิดถึงบ้าน มองเกี๊ยวทอดตรงหน้าแล้วหยิบขึ้นชิมทันที

“ค่อย ๆ นะลูก พึ่งทำเสร็จกำลังร้อน ๆ อยู่เลย” อี้เฟินบอกยิ้ม ๆ

” หื้มมม อร่อยย! “หลังกัดคำแรกแล้วเคี้ยว อี้หมิงตะลึงกับรสชาติที่ได้สัมผัส นางตาโตเคี้ยวตุ่ย ๆ มือก็ส่งเกี๊ยวทอดเข้าปากไม่หยุดอย่างเอร็ดอร่อย ไม่นานอาหารด้านหน้าก็หมดเกลี้ยง 

อี้เฟินมองลูกสาวที่กำลังเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อยก็ยิ้มหายเหนื่อยจากการทำงานเป็นปลิดทิ้ง ขอแค่ลูกของนางกินอิ่มนอนหลับ ไม่ป่วย ไม่ไข้ เพียงเท่านี้นางก็มีความสุขมากแล้วล่ะ

” อื้มม อร่อยมากเลยทะท่านแม่ ฝีมือท่านไม่ธรรมดานะเนี่ย “อี้หมิงพูดหยอกเย้า

” อ่ะ อะ อร่อยก็กินเยอะ ๆ นะ ไว้ข้าจะทำให้กินใหม่นะอ่ะ “

เมื่อทานเรียบร้อยอี้หมิงจึงอาสาเก็บจานชามไปล้าง เมื่อเรียบร้อย สองแม่ลูกจึงได้แยกย้ายกันเข้านอนสู่นิทราหลังจากดหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งวัน 

🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 7 ขบวนเสด็จ

    หลังตื่นนอน หญิงสาวได้ช่วยอี้เฟินเก็บกวาด ทำอาหารและทานข้าวมื้อเช้าเสร็จ ก็เดินออกมาส่งนางที่ปากทางหมู่บ้านคนอพยพ เพื่อไปทำงานในตลาดที่อยู่อีกฝากของหมู่บ้านไม่ใช่ว่าอี้หมิงไม่อยากช่วยแบ่งเบาภาระของนาง แต่นางขอไว้ด้วยความกลัวว่าจะโดนเจ้าพวกอันธพาลรังแกเหมือนรอบที่แล้ว ที่ลูกนางโดนตีเกือบตาย โดยที่จริงแล้วลูกของนางได้ตายไปแล้ว และอี้หมิงที่ตายในวันเดียวกันในโลกอนาคตจึง ได้มาเกิดแทนในร่างของเธอ โดยที่อี้เฟินนางเองก็ยังไม่รู้ว่าลูกนางได้ตายไปเสียแล้ว” พี่หมิงอี้”” อ้าว เฟิน เฟิน ไปไหนมา”ข้าไปในตลาดมา วันนี้ในตลาดเขาลือกันว่าฮ่องเต้จะเสด็จไปล่าสัตว์ในป่า ข้าเลยจะมาชวนพี่ไปดูขบวนเสด็จด้วยกัน” ขบวนเสด็จหรอ”” อื้อ หึ “เฟิน เฟิน พยักหน้างึก ๆ” ไปสิ “อี้หมิงรู้สึกตื่นเต้น ดีเหมือนกันอยากเห็นด้วยตัวเองซักครั้ง จะว่าไปการที่ได้มาอยู่ตรงนี้ก็ตื่นเต้นดีเหมือนกันแฮะ!! พบเจอผู้คนที่แปลกตา การแต่งตัวที่ผิดแผกไปจากที่เธอเคยเจอ คำพูด การใช้ชีวิต ตอนนี้ถือว่าเธออยู่อย่างธรรมชาติสุด ๆ ไม่มีทีวีให้ดู ไม่มีห้างให้เดินเที่ยว ไม่มีโทรศัพท์ให้ไถเล่นโซเชียล แต่ก็ลำบากชะมัด!! อี้หมิงบ่นในใจ แล้วมิวายก้มล

    Last Updated : 2025-02-21
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 8 ทำเลที่ตั้ง

    หลังขบวนเสด็จผ่านไปแล้ว อี้หมิงก็ชวนเฟิน ๆ กลับไปยังเรือนพักหลังเล็กของต้น ภารกิจแรกของสองสาวกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า“เฟิน เฟิน พร้อมมั๊ย!”“ข้าพร้อมแล้วพี่”“สาธุ เทียนตี้ เทียนกง ขอให้ถั่วงอกของลูกออกมาอวบขาว ๆ นะเจ้าคะสาธุ” อี้หมิงยกชามถั่วเขียวที่แช่น้ำข้ามคืนไว้ ยกไหว้วานสิ่งศักสิทธิ์เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย“นั่นพี่ทำอะไรรึ” เฟิน เฟิน ที่เห็นอี้หมิงยกชามที่แช่ถั่วงอกขึ้นเหนือผัวแล้วทำปากขมุกขมิบบ่นพึมพำไปมาจึงอยากใครรู้“อ่อ! ขอพรเอาฤกษ์เอาชัยนะ ช่างเถอะๆ มาๆ เฟิน เฟิน มาลงมือปลูกถั่วงอกของเรากัน”เมื่อวัตถุดิบพร้อม อี้หมิงก็ลงมือปลูกถั่วงอก โดยนางเริ่มโดยการนำกระบุงไม้สานที่ขอยืมเฟิน เฟิน ไว้ และเสื้อเก่า ๆ ที่มีเนื้อผ้าค่อนข้างโปร่งนิ่ม 1 ผืน ไปแช่น้ำให้ชุ่มจนน้ำไหลหยดออกจากผ้าเป็นทาง มือบางบิดผ้าให้มาดเล็กน้อย จากนั้นปูใส่ลงไปในกระบุง หย่อนมือกอบเอาเมล็ดถั่วเขียวที่แช่น้ำทิ้งไว้ข้ามคืนขึ้นมาจากถังไม้ แล้วย้ายมาวางใส่ในกระบุงแทน ค่อยๆ โรยเมล็ดถั่วเขียวให้กระจายกันไม่ซ้อนทับกันหรือกองกันอยู่มุมใดมุมหนึ่งของกระบุง นิ้วเรียวยื่นตามไปค่อย ๆ แผ่ส่วนที่กองกันมากเกินไปให้แผ่กระจายออก พ

    Last Updated : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 9 First impression ฉบับคนจน (1)

    “อ้าว มากันแล้วรึ วันนี้ไปตะเวนเที่ยวไหนกันมาล่ะ!” อี้เฟินที่กำลังทำอาหารเอี้ยวหน้ามามองสองสาว“ไม่ไปโดนต่อยตีที่ไหนมาใช่หรือไม่!”“ไม่จ๊ะ ปลอดภัยไร้รอยข่วน! ป้าอี้เฟิน วันนี้ข้ากับพี่อี้หมิงไปหาทำเลขายของในตลาดมา ได้มาแล้วด้วยนะ”“จริงรึ แล้วหมิงอี้จะขายอะไรล่ะลูก” อี้เฟินที่กำลังลงมือต้มน้ำซุปอยู่หันมาถามลูกสาว“ถั่วงอก นี่ไง ๆ ท่านดูสิ อีก 3 วันก็ขายได้แล้ว”“ฮือ! นั่นเจ้าทำอันใด พิลึกคนจริง นั่นอะไรรึ”อี้เฟินเมื่อเห็นสิ่งที่ลูกสาวชี้เชิญให้ดูก็ขมวดคิ้วแปลกใจ อะไรกันละนั่น“เอาหน่าท่าน เดี๋ยวก็รู้ระหว่างนี้ ทุก 2 ชั่วยาม ต้องคอยรดน้ำบ่อย ๆ อีก 3 วันก็ขายได้แล้วละ แล้วเดี๋ยวข้าก็จะมีเงินมาซื้อของอร่อย ๆ ให้ท่านยังไงล่ะ” อี้หมิงยิ้มอวดซี่ฟันสวยเต็มวงหน้าให้กับอี้เฟิน“อ่ะ ๆ แล้วแต่เจ้าแล้วกัน เฟิน เฟิน วันนี้กินข้าวกับข้าสิ ได้ผักกับเนื้อมาอีกแล้วล่ะ”“พี่ไป๋อู๋ละสิให้ท่านมา”เฟิน เฟินถามยิ้ม ๆ“นี่พี่หมิงอี้ เฟิน เฟิน ว่าถ้าพี่ไม่มีใคร พี่ไป๋อู๋ก็ไม่เลวนะ ขยันทำมาหากิน แต่อ้วนน่าเกียจไปหน่อยแค่นั้นเอง”อ้าว! เจ้าเด็กนี่ บูลลี่แล้ว นึกขำในใจ“ไม่ล่ะ ข้ายังไม่สนใจเรื่องนี้ ขอข้ารวยก่

    Last Updated : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 10 First impression ฉบับคนจน (2)

    "หมิงอี้ หมิงอี้ ลูก สายแล้ว ตื่นเถิด" อี้เฟินหลังจากที่ทำอาหาร เก็บกวาดบ้านเสร็จ ก็เดินไปเก็บกระด้งไม้ไผ่ที่ตากเม็ดพริก และมะเขือเทศเข้ามาด้านในบ้าน หลังจากตากผึ่งแดดไว้ข้ามวันก็แห้งได้ที่ทีเดียว เมื่อเสร็จงานทุกอย่างแล้วยังไม่เห็นหมิงอี้ตื่น จึงได้เดินเข้ามาตาม "อื้อออ เมื่อยชะมัด" อี้หมิงบิดตัวไปมา แล้วพูดเสียงอู้อี้ ตั่งเตียงแข็ง ๆ นี้ทำปวดไปทั่วทั้งตัวเลยจริง ๆ "สายแล้วลูก ป่ะไปล้างหน้าล้างตา ประเดี๋ยวออกไปวัดกับข้า" หลังจากที่นอนครุ่นคิดทั้งคืน ในฐานะที่นางเป็นแม่ นางก็ควรที่จะช่วยลูกสาวอย่างสุดความสามารถ ตั้งแต่อพยพมาหมิงอี้ไม่ค่อยจะร้องขอสิ่งใดจากนางมากนัก ตั้งแต่นางเติบโตมาก็พบเจอฐานะที่ยากจนแล้ว ซ้ำร้ายมีเพียงนางที่เป็นแม่ดูแลมาเพียงคนเดียว พ่อของนางรึ พลันคิดแล้วน้ำตารื้นเอ่อออกมาจากนัยน์ตา ช่างเถอะ! เรื่องมันผ่านมาแล้ว จะกลับไปสู่สูงสุดเช่นเดิมกลับมองไม่เห็นทางเลยจริง ๆครานี้เมื่อลูกสาวนางร้องขอเพียงเสื้อผ้าดี ๆ ซักชุด นางจึงต้องไปพบคนผู้หนึ่งที่คิดว่าพอจะช่วยนางได้ "วัดหรอ" "ใช่ๆ ลุกไปล้างหน้าล้างตาเจ้าให้สดชื่นก่อนนะ " ใช้มือลูบศีรษะทุยอย่างเอ็นดู ลูกสาวนางต่อให้จ

    Last Updated : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 11 First impression ฉบับคนจน (3)

    ด้านอี้หมิง เมื่อไม่รู้จะทำอะไร ก็เดินสำรวจไปรอบ รอบ ๆ จนมาได้ยินเสียงคุยกัน น้ำเสียงเคร่งเครียด พลันเท้าหยุดชะงัก! ค่อย ๆ ย่องไปฟังอย่างอัตโนมัติ"ท่านอาสาม ท่านคิดเช่นนั้นรึ"'เอ๊ะ!! ทำไมคุ้น ๆ ชายชุดดำคนนั่นจัง อี้หมิงคิดในใจ มือเรียวยังเกาะที่แผ่นหิน เงี่ยหูฟังแต่ก็ได้ยินไม่ค่อยถนัดนัก อี้หมิงกำลังมองชายชุดดำสามคนที่ควบม้าผ่านเธอมาระหว่างทาง และชายอีกคนที่สวมใส่ชุดสีขาว ท่าทางดูสงบ แต่สง่า ผ่าเผยกำยำ กำลังพูดคุยกันน่าเคร่งเครียด"อะไรทำให้ท่านคิดเช่นนั้นกัน""ถึงแม้น้องรองจะเป็นเงียบๆ ดูไม่มีพิษไม่มีภัย แต่เจ้าก็อย่าชะล่าใจไปล่ะ ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อน อย่าหาว่าข้าไม่เตือนแล้วกัน""หลายวันมานี้มีคนกลุ่มหนึ่งสวมรอยเป็นกองกำลังของข้า ออกปล้นตามเขตชายแดนที่ปล้นไปส่วนใหญ่ล้วนเป็นเสบียงข้าว และอาหาร" ชายที่ดูจะอายุน้อยสุดแต่ท่าทางมีอำนาจเอ่ยขึ้น"แถมแต่งตัวคล้ายทหารของหวางจื่อไม่ผิดเพี้ยน ข้าตามมาหลายคราแล้ว แต่พวกมันปลิดชีพฆ่าตัวเองหมด ตามสืบไม่ได้เลย" ชายร่างสูงใหญ่กำยำอีกคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวล"ฮือ หวางจื่อๆ ๆ ชื่อคุ้น ๆ คืออะไรน๊า จิ๊!" อี้หมิงคุ้น ๆ กับคำว่า หว่างจื่อ แต่นางนึกจำคว

    Last Updated : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 12 First impression ฉบับคนจน (จบ)

    "ฮึ กวางน้อยที่ไหน""หึ! ช่างเถอะ แค่เด็กเร่ร่อนหนะ!" หวางจื่อชินเอ่ย เขามองเห็นนางตั้งแต่แรกแล้วหล่ะ"ฟรู่~~" อี้หมิงเป่าปากออกมา ใจเต้นตึกๆ"เจ้าแอบดูผู้ใดกัน ฮึ"เปล่า ๆ ท่านเสร็จแล้วรึ เป็นอี้หมิงเอ่ยเบี่ยงเบนความสนใจของมารดา"เสร็จแล้วล่ะ เหลือแต่พาเจ้าไปพบนางนั่นแหละ ป่ะ" สองแม่ลูกเดินจับจูงกันเข้าไปในห้อง ๆ ที่มีหญิงนางหนึ่งนั่งรออยู่หนิงเยว่เมื่อมองเห็นสองแม่ลูกจับจูงกันมา ก็นึกเวทนาในใจ"มา ๆ หลานข้า โตเป็นสาวแล้วสิ" ลุกเดินไปหาสาวน้อย ที่ถึงแม้อยู่ในชุดมอมแมมแต่ความงามของใบหน้ายังปรากฎให้เห็นอยู่ ถ้าแต่งตัวดีขึ้นมาหน่อยคงจะงามมิน้อยอี้หมิง มองมารดาเป็นการถามกลาย ๆ ว่าหญิงตรงหน้าคือใคร"อ่อ นางคือน้าเจ้าหนะ" อี้เฟินไม่ได้บอกลงรายละเอียดให้หญิงสาวรู้ที่มาที่ไป"สวัสดีค่ะ" อี้หมิงยกมือไหว้อัตโนมัติ"ฮื้อ" หนิงเยว่เห็นท่าทางหลานสาวก็ฉงน มองอี้เฟินด้วยสีหน้างง งวย"อะอ่อ! นางพึ่งโดนอันธพาลในเมืองทำร้ายมาหนะ พึ่งฟื้นขึ้นมาเลยเลอะเลือนไปบ้าง" อี้เฟินรีบคว้ามือของหมิงอี้ลง"โถ่วเอ๊ยเด็กน้อย ชะตาเจ้าช่างอาภัพจริงๆ คนพวกนั้นก็กะไรต้องตีกันถึงขนาดนี้เลยหรอ" หนิงเยว่ลูบตัวอี้หมิงไปมาอ

    Last Updated : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 13 ให้อาหารโฆษณาวัตถุดิบ

    “เฮ้อ! คิดไม่ออก ถ้าขายแค่ถั่วงอกเราอาจจะขายได้นะ เฟิน เฟิน แต่มันจะไม่ยั่งยืนหนะสิ เราต้องสร้างจุดสนใจผู้คนจะได้ขายได้เยอะ ๆ แบบให้ปังๆ”“ห๊ะ แล้วจะทำยังไงดีละพี่หมิงอี้”หมิงอี้เมื่อคิดไม่ออก ก็ได้แต่ถอนหายใจ ช่างเถอะต้องลองดูก่อนแล้วกัน ไม่ลองก็ไม่รู้“ป่ะ ข้าจะไปปลูกผักบุ้ง แล้วก็กล้าพริก กะมะเขือเทศจะไปกับข้ามั๊ย”“เฟิน เฟิน อย่าพึ่งกลับนะรอบกินข้าวกับข้าก่อน”อี้เฟินตะโกนบอกสาวน้อย“ได้จ๊ะ”สองสาวช่วยกันขนผักบุ้งแล้วก็กระด้งที่ตากเมล็ดพริก กับมะเขือเทศออกมานั่งที่ตั่งด้านนอก อี้หมิงใช้มือค่อย ๆ กอบเอาเมล็ดพริกแยกใส่ถุงไว้ อีกถุงก็ใส่เมล็ดมะเขือเทศไว้ แล้วเดินถือผักบุ้งที่ชำไว้เดินตรงไปยังแปลงผักขนาดเล็กที่พรวนตากดินไว้กับเฟิน เฟินสองสาวลงมือช่วยกันตักน้ำจากลำธารมารดแปลงดินจนเปียกชุ่ม แล้วปักชำผักบุ้งที่ตอนนี้แตกรากสีขาวออกมาบ้างแล้วลงในดิน ส่วนที่เหลือก็หว่านเมล็ดพริกและมะเขือเทศไปบนดิน โดยหว่านแยกฝั่งกันแล้วใช้ฟางข้าวปิดทับตักน้ำราดรดลงไปบนฟางข้าวอีกทีจนเปียกชุ่มสองมือยกขึ้นปัดกันไปมา แล้วเท้าสะเอวมองดูผลงานของตัวเอง วันนี้ปลูกแปลงแค่นี้ไปก่อน วันหน้าค่อยขยายแล้วกันนะ ตอนนี้ข

    Last Updated : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 14 เปิดร้านวันแรก [1]

    เมื่อล้างถ้วยชาม เก็บกวาดเรือนหลังเล็ก ไปจนถึงอาบน้ำเสร็จ ภายนอกเรือนก็ถูกโรยปกคลุมไปด้วยความมืดเสียแล้ว บ้านเรือนหลายหลังทยอยดับตะเกียงเตรียมเข้าสู่นิทรา แต่สองแม่ลูกที่อยู่ในเรือนหลังเล็กแห่งนี้ยังไม่มีทีท่าจะง่วงนอนเลยสักนิด ด้วยตื่นเต้นกับกิจการที่จะเริ่มต้นในวันพรุ่งนี้ หญิงทั้งสองคนนั่งเปิดกระสอบที่ใช้เพาะถั่วงอกให้อ้าออกไว้ ตั้งใจว่าพรุ่งนี้เช้าตรู่ ค่อยเก็บถั่วออกออกมาแล้วล้างทำความสะอาดเพื่อเตรียมไปขายที่ตลาด เสร็จแล้วก็ช่วยมารดายกหม้อ ตะหลิวและถ้วยชามเตรียมออกมาวางไว้กลางบ้าน พร้อมสำหรับการเปิดร้านในวันพรุ่งนี้~เอ้กอี้เอ้กเอ้กก~"ฮื้อ เช้าแล้ว ฮื้ออออ อืออ ฮ่าวว"ร่างบางลุกบิดขี้เกียจทั้งที่ตาทั้งสองข้างยังปิดอยู่ เตียงนี้นอนทีไรก็ยังปวดเมื่อยเหมือนเดิมทุกทีเลย บ่นอุบ! ในใจกับตัวเอง"ปึ๊ก ปึ๊ก พี่หมิงอี้ พี่หมิงอี้ ป้าอี้เฟิน ปึ๊ก ปึ๊ก""หือ!" อี้หมิงที่กำลังหาวก็ตาโต นี่เธอว่าเธอตื่นเช้าแล้วนะ นี่เจ้าเด็กเฟิน เฟิน ตื่นเช้ากว่าอีกหรือนี่ แล้วลุกไปจุดตะเกียงเดินไปเปิดประตูบ้านให้สาวน้อย“แฮะๆ! เฟิน เฟิน ตื่นเต้นนอนไม่หลับ ดูนี่สิ เฟิน เฟิน สวยมั๊ย” สาวน้อยหมุนซ้าย หมุนขวาไปม

    Last Updated : 2025-02-23

Latest chapter

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 71 กิจการรุงเรือง [2]

    "สมุนไพรที่เจ้าต้องการ เจ้าต้องการมากเพียงใด เรือนข้าเป็นตระกูลพ่อค้าเก่าแก่มีสมุนไพรเก็บอยู่มากมาย ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่นัก หากมิรังเกียจข้าอยากบริจาคให้ ถือว่าช่วยชาวเมืองหลี่แล้วกัน"อี้หมิงเผยรอยกว้างสวยเต็มวงหน้าทันที เดินอ้อมโต๊ะออกมา มือคว้าจับที่แขนแกร่ง แหงนเงยใบหน้าพูดกับบุรุษรูปงามหากแต่ใบหน้าช่างไร้อารมณ์และเย็นชายิ่งนักในสายตาของเธออย่างดีใจ ผู้ใดกันจะปล่อยให้โอกาสเช่นนี้หลุดลอยไป มีผู้เสนอวัตถุดิบให้แถมไม่คิดเงิน เธอคงมิใช่คนสมองหมูถึงเพียงนั้นที่จะปล่อยให้โอกาสทองนี้หลุดไปโดยง่ายเป็นแน่"ขอบคุณท่านมาก ข้ายินดีรับโอกาสอันสุดแสนพิเศษนี้ไว้ แต่ร้านเราไม่เอาเปรียบท่านแน่นอนในเมื่อท่านยินดีบริจาคสมุนไพรให้กับเรา ไว้ข้าขอเลี้ยงอาหารซักมื้อตอบแทนท่านและสหายแล้วกัน""เช่นนั้นเจ้าเขียนเทียบสมุนไพรที่จะใช้มาเถิด เดี๋ยวให้จางหยางจัดการมาส่งที่เรือนให้ในวันพรุ่ง""อี้หมิง เจ้าเขียนเทียบมาเลยข้าจะคัดของดี ๆ มาให้นะ"จางหยางที่เพลิดเพลินกับการมองร่างอ้อนแอ่นตรงหน้าพูดเจื้อยแจ้วจัดการงานต่าง ๆ ก็ถึงคราวได้เอ่ยออกมาอย่างกระตือรือร้น"ขอบคุณท่านมากจางหยาง มู่เฉินด้วย ข้าฝากด้วยนะ"รอยย

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 70 กิจการรุ่งเรือง [1]

    ผ่านไปเพียงชั่วยามเหล่าบรรดาลูกค้าที่มาให้ร้านเทียนฝูได้รับใช้ก็ทยอยเดินกลับ จนลูกค้าคนสุดท้ายก้าวย่างออกไป"เฮ้อ ปิดจ๊อบสักที อื้อ"ร่างบางชูแขนขึ้นเหนือศีรษะ ยืดตัวบิดขี้เกียจไปมา ก่อนจะเอนศีรษะซบลงที่บ่าเฉิงอี้อย่างลืมตัว'ฟู่'ลมหายใจหนัก ๆ ถูกผ่อนออกมา ก่อนจะปิดเปลือกตาลงนิ่ง ๆ หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการจับพู่กันไปมาทั้งวัน แม้ชายที่นั่งข้างเคียง จะอาสาช่วยเขียนอยู่บ้างแต่ก็ยังคงเมื่อยอยู่ไม่น้อย'อึก'เฉิงอี้กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ รู้สึกราวเวลารอบข้างหยุดหมุน คิ้วคมขมวดเล็กน้อย เกร็งตัวขึ้นทันทียามที่ศีรษะทุยเอนซบลงมา สตรีนางนี้หาได้รู้ที่ต่ำที่สูงไม่ นางช่างไม่รู้รึไรการกระทำตอนนี้ของนางต้องโทษถึงประหารเชียว ตาคมเหลือบมองใบหน้าขาวผ่อง ไล้ลงมาที่จมูกเล็กโด่งเป็นสัน ปากบางชมพูจิ้มลิ้มราวดอกเหมยบาน เฉิงอี้เจ้าคงสติฟั่นเฟืองเสียแล้วกระมังถึงได้เผลอมองว่านางช่างน่ารักยิ่งนักยามเมื่อหลับตาพริ้ม พอได้สติจากภวังค์จึงค่อย ๆ ยื่นนิ้วออกไปค่อย ๆ จิ้มออกแรงเขี่ยศีรษะเล็ก ๆ ให้พ้นจากบ่าแกร่งของตน ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยลุกขึ้นเดินตรงไปหาจางหยาง และมู่เฉินด้วยสีหน้าเย็นชาดังเดิม หากแต่เพียงผู้ใด

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 69 ร้านเทียนฝู : ขายน้ำหมักวันแรก [3]

    ร่างของชายอวบอ้วนพุงย้วย ที่กำลังพยายามก้มลงไปในโอ่งดิน ช่างดูทุละทุเลยิ่งนักในสายตาทุกคน มือด้านซ้ายใช้ค้ำดันโอ่ง ส่วนด้านขวาล้วงเข้าลงไปด้านในโอ่ง และด้วยส่วนสูงที่ต่างจากโอ่งไม่มากนัก ทำให้ใบหน้าของเขาแนบลงไปกับปากโอ่ง มือคว้ากำเข้าที่ลำต้นของผักบุ้งอวบคราแรกออกแรงดึงเบา ๆ ตามความคิดที่ว่ามันถูกปักไว้เพื่อพรางตาผู้คน 'เอ๋ หึ ปักมาแน่นกันเชียวนะ คิดว่าเท่านี้ข้าจะเชื่อรึ'ครานี้ก้มลงและกำลำต้นผักบุ้งแน่นกว่าเดิม ก่อนจะออกแรงดึงอย่างแรง ~ฮ่า ๆ มาดูกันคนเจ้าเล่ห์อย่างพวกเจ้าคิดจะมาหลอกลวงข้ารึ~"ฮึบ! ฮึบ"ออกแรงดึงสองครั้งต้นผักบุ้งก็ยังไม่ติดมือขึ้นมา ครานี้กำแน่นกว่าเดิม ใบหน้าเกร็งยู่ เม้มปากแน่น ย่อตัวออกแรงแล้วดึงขึ้นเต็มแรง"เฮ้ยย!"ต้นผักบุ้งขาดออกตามแรงดึง ร่างอวบอ้วนเซหงายหลัง ดวงตาเบิกโพล่งมู่เฉินที่เห็นร่างอ้วนท่วมเซหงายหลังมาทางตนจึงใจดี ยกเท้าขึ้นค้ำยันหลังไว้ ก่อนจะออกแรงถีบออกไป ร่างชายอ้วนจากตกใจคราแรกที่จะหงายหลังยังไม่ทันหาย กลับต้องตกใจอีกรอบเมื่อครานี้เซถลากลับมาด้านหน้า"เฮ้ยๆ"มือปล่อยผักบุ้งทิ้ง มือสองข้างรีบคว้าจับปากโอ่งเพื่อยั้งตัวไว้ "แฮ่ก ๆ เกือบไปแล้ว

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 68 ร้านเทียนฝู : ขายน้ำหมักวันแรก [2]

    "เชิญนั่งเจ้าค่ะ ท่านป้า" อี้หมิงเผยมือเชื้อเชิญลูกค้าให้นั่งลงเพื่อที่จะได้สอบถาม ถึงผืนนา และเมื่อสนใจ ก็จะได้ทำสัญญาให้แล้วเสร็จ"ท่านป้า ท่านป้าเพียงแค่สนใจน้ำหมักของข้า รึวันนี้จะให้ร้านเทียนฝูของเรารับใช้เจ้าคะ""ช่วยด้วยเถิดนังหนู นาข้าวข้าใกล้ตายเต็มทีแล้ว เท่าไหร่ก็เต็มใจจ่าย ใบข้าวล้วนเหลือง แห้งเหี่ยวลงทุกวันจริงเชียว"หญิงตรงหน้าเอื้อมมือมาจับมือของนางอย่างขอร้อง ก่อนเอ่ยด้วยสีหน้าอมทุกข์ ดวงตามีกระแสความท้อแท้พาดผ่าน น้ำเสียงเจือสะท้อนความหนักใจออกมาเฉิงอี้เห็น และได้รับฟังความทุกข์ของชาวบ้านก็เกิดสะท้อนในอก ด้วยหลากหลายอารมณ์รู้สึก ถึงแม้นว่าจะสามารถคลี่คลายสถาการณ์ราคาข้าวได้แล้ว แต่ยังมีโรคระบาดที่ยังไม่มีทีท่าจะทุเลาลงเลยสักนิด หวังก็แต่หญิงประหลาดที่เคียงข้างตนยามนี้จะสามารถแก้ปัญหาได้ดังเช่นนางเอ่ย ก่อนจะถอนสายตากลับมามองหญิงชาวบ้านตรงหน้าอย่างสนใจ"ช่วยได้แน่นอนท่านป้า ว่าแต่ท่านป้าจะให้ข้าช่วย ขอถามผืนนาท่านที่ต้องการให้ช่วย มีอยู่เท่าใดกัน""เอ่อ ไม่เยอะหรอก"ลูกค้านางทำสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ"เท่าไหร่เจ้าคะ""เอ่อ 10 หมู่ถ้วน เจ้าพอจะช่วยข้าได้รึไม่"10 หมู่ โฮ

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 67 ร้านเทียนฝู : ขายน้ำหมักวันแรก [2]

    อี้หมิง ใช้สองมือน้อย ๆ ออกแรงผลัก แต่ต่อให้ดันอย่างไรชายหน้านิ่งก็หาได้ขยับเขยื้อนไม่ นี่มันคนรึหินผากันนะ "นี่ เจ้า!""เงียบ จะขายรึไม่ ข้ากำลังช่วยเจ้าอยู่"เฉิงอี้ที่เริ่มหงุดหงิดหันไปใช้สายตาคมดุจพญาเหยี่ยวที่และใบหน้างดงามหล่อเหล่าที่เรียบนิ่งขู่ร่างบางที่ขยับขยุกขยิกไปมาทำให้แขนนางถูไถไปมากับแขนแกร่งของตนอย่างไม่ตั้งใจ อี้หมิงชะงักเล็กน้อย ฮึ! ดีเช่นกันให้เจ้าคนหล่อหน้านิ่งนี่ช่วยขายก็ดี ข้าจะได้ไม่เปลืองแรง ลองดูสักตั้งก็ได้ "นี่ ๆ เจ้า ไปนั่งข้างนางได้เยี่ยงไร ออกมาเลย ๆ"อู๋ไป๋เอ่ยรัวออกมาอย่างร้อนรน เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ดูจากอาภรณ์ที่สวมใส่ก็รู้ว่ามาจากตระกูลที่ร่ำรวย เข้าใกล้หญิงที่ตนหมายปอง"อู๋ไป๋ ๆ ไม่เป็นไร ๆ คุณชายท่านนี้มาช่วยข้าขายก็ดี เราจะได้ขายหมดเร็ว ๆ ไง นะ ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลไปหรอก แค่ขายของเท่านั่น "อี้หมิงพูดกับอู๋ไป๋ก่อนหันมามองเจ้าคนหน้านิ่งที่บัดนี้หันมามองที่เธอเช่นกัน จะว่าไปหนุ่มยุคนี้นี่ช่างหน้าตาดีเสียจริง ใบหน้าเช่นนี้นี่ยุคปัจจุบันน่าจะเป็นดาราดังได้สบายเลยหล่ะ รึไอดอลก็ได้เลยนะเนี่ย"ฮ่า ฮ่า ฮึบ ฮ่า"หมิงอี้หลุดขำออกมาเสียมิได้ เจ้าตัวพยายามกล

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 66 ร้านเทียนฝู : ขายน้ำหมักวันแรก [1]

    บัดนี้เข้ายามเฉินแล้ว (07.30 น.) แต่กลับยังไร้เงาผู้คน อี้หมิงแอบใจเสียมิน้อย ไม่ต่างจากเฟิน เฟิน และอู๋ไป๋ ที่บัดนี้ต่างกระวนกระวายไม่แพ้กันแต่ก็ยังมิได้มีผู้ใดเอื้อนเอ่ยประโยคใด ๆ ออกมา ของที่อยู่บนรถเข็นในที่สุดก็ทยอยถูกยกลงจนหมด ป้ายชื่อร้านที่หยิบติดมือมาด้วยถูกอู๋ไป๋นำไปปักไว้ด้านหน้า ส่วนโอ่งทั้ง 4 ใบ เหล่าคนงานและบุรุษทั้งสามที่ขอมาด้วยต่างช่วยกันเข็นย้ายวางเรียงอย่างเป็นระเบียน โต๊ะไม้ถูกยกออกมาเพื่อวางแท่นหมึกและกระดาษ ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแต่ก็ยังไร้เงาผู้คนจนทำให้เจ้าของร้านสาวอดใจเสียมิได้ส่วนอี้เฟิน กับเฟิน เฟิน ทั้งสองกำลังช่วยกันติดเตาเพื่อทำซุปถั่วงอก และผัดยอดอ่อนผักบุ้ง เพื่อแจกให้ผู้คนที่มาซื้อน้ำหมักได้ลิ้มลองรสชาติของผักร้านเทียนฝู นับว่าเป็นกลยุทธ์การขายที่แปลกอีกอย่างหนึ่งของร้านลูกสาวนาง ที่ใช้ได้ผลมาแล้ว"อ้าวเฮ้ย! นั่นผู้ใดกันมาทำสิ่งใดที่แปลงนาของข้า"เสียงชายเจ้าของแปลงนาตะโกนถามไถ่ใคร่สงสัยมาแต่ไกล ก่อนที่เจ้าตัวจะแบกจอบเดินมาถึง"อ้าว ท่านลุง ข้าเอง! วันนี้พวกข้ามาตั้งร้านขายน้ำหมักหนะ""อ้าวเรอะ!"ชายเจ้าของแปลงนาไล่สายตามองดูข้าวของที่ตั้งเรียงรายใต

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 65 จัดเตรียมของออกบูธขายสินค้า [2]

    "หมิงอี้ พวกข้ามาแล้วล่ะ"อี้หมิงเงยหน้ามองเสียงทุ่มห้าว อ่า! เป็นมู่เฉินกับสหายของเขานั่นเอง มองเลยไหล่หนาบึกบึนของมู่เฉินและจางหยางไปก็พบเข้ากับใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นักของชายอีกคน"อ้าว มาพอดีเลย ท่านแม่ เฟิน เฟิน อู๋ไป๋ นี่สหายข้า มู่เฉิน นี่จางหยาง แล้วนี่.."อี้หมิงเว้นจังหวะพูด ด้วยไม่แน่ใจว่าหากเอ่ยออกไปชายหนุ่มจะแย้งกลับมารึไม่ จากหลายคราที่เจอกันนับว่าห่างไกลคำว่าสหายอยู่มากโข"อ๋อ นี่เฉิงอี้"เป็นมู่เฉินที่เอ่ยความกระจ่าง"อ๋อ แล้วกินข้าวกินปลากันมารึยังล่ะ ถ้ายังพอดีเลย มากินด้วยกันสิ หากไม่รังเกียจ ข้าเตรียมอาหารเสร็จพอดี ร้อน ๆ เลยนะ"อี้เฟิน กล่าวต้อนรับสหายของบุตรสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แม้นในใจจะคุ้น ๆ กับใบหน้าของชายหนุ่มนามเฉิงอี้อยู่มิน้อย ใบหน้าเช่นนี้คับคล้ายคับคราว่าเคยพบเจอที่ใดมาก่อน ก่อนจะปัดความคิดทิ้งไปหันมาสนใจบุตรสาวและสหายของนางแทน ที่บัดนี้กำลังช่วยกันยกโอ่งผักขึ้นใส่รถที่เตรียมไว้ "ฮ่า เสร็จเสียที เล่นเอาเหงื่อตกเช่นกันนะเนี่ย!"อู๋ไป๋ยกมือขึ้นซับเหงื่อที่ผุดออกมาที่หน้าผากกว้าง ในขณะที่ทุกคนสภาพเช่นเดิม ไม่มีแม้แต่เหงื่อเลยซักนิด คนพวกนี้ไร้เหงื่

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 64 จัดเตรียมของออกบูธขายสินค้า [1]

    "ฮ่า ฮ่า เฉิงอี้ ๆ ฮ่า ฮ่า ยอมแล้ว ๆ ข้า ฮ่า ๆ จะไม่ทำอีกแล้ว ฮ่า ฮ่า หยุด ที ฉะ ฮ่า ฮ่า"ร่างสูงใหญ่ขององครักษ์หนุ่มบัดนี้ ถูกมัดยืนติดเสาหลักไม้กลางตำหนักใหญ่ใบหน้าเบ้บิด ส่งเสียงหัวเราะห่าวอกมาไม่ขาด จนใบหน้าคมคายที่ยามปกติจะนึ่งขรึมแทบตลอดเวลาบัดนี้กลับแดงก่ำ น้ำหูน้ำตาไหลยามเมื่อเจ้าตัวส่งเสียงหัวเราะขำขันออกมาอย่างเสียมิได้ยามเมื่อขนนกยาวใหญ่ปัดป่ายไปมาตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น รักแร้ ใบหู ใบหน้าบทลงโทษจากเฉิงอี้หาใช่การต่อยตี รึลงดาบ ใช้โซ่แส้ไม่ หากแต่เป็นการจับมัดแล้วใช้ขนนกปัดป่ายไปมาถึงจะสาสมกับองครักษ์หนุ่มของตน หากใช้วิธีทางทหารละก็จางหยางที่เปรียบดังเช่นก้อนหินผา เกรงว่าจะไม่สะทกสะเทือนซักเพียงใดนัก"อึก!"มู่เฉินที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น กลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เมื่อเห็นการลงโทษจากองค์ชายของตน หากแม้นเป็นการลงโทษทางทหารพวกตนหาได้หวั่นใจไม่ แต่ใช้วิธีนี้บอกตรง ๆ ว่าตนขยาดยิ่งนัก"ต่อไปพวกเจ้าจะสนใจหญิงงามมากกว่าข้าอีกรึไม่"เฉิงอี้เอ่ยถามอย่างเอาแต่ใจ ทั้งสามเติบใหญ่มาด้วยกัน เขาล้วนได้รับความสนใจและปกป้องจากองครักษ์หนุ่มมาตลอด แม้นสถานะแตกต่างแต่เฉิงอี

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 63 กระดาษและแท่นหมึก [2]

    "เจ้าจะเอาหนังสือไปทำสิ่งใดกัน"อี้หมิงเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงห้าวที่ถามขึ้นอย่างมีความหวัง"ข้าจะเอาไปจดทำบัญชีวันพรุ่งนี้หนะ วันพรุ่งร้านของข้าจะไปเปิดรับกำจัดโรคระบาดในแปลงนา เลยจำเป็นต้องทำบัญชี""ข้าไม่เข้าใจ เหตุใดถึงต้องทำบัญชีเล่า จัดการการเงินของร้านรึ"เป็นจางหยางที่กอดอกฟังเงียบ ๆ เอ่ยถามขึ้นมาอย่างใคร่สงสัย"อ่อ นั่นส่วนนึง ข้าจะเปิดให้ลงบัญชีมัดจำไว้ได้ก่อนครึ่งนึงหนะสำหรับชาวบ้านคนไหนที่ยังไม่มั่นใจในร้านของข้า ""อ๋อ เป็นเช่นนี้ น่าสนใจจริงเชียว งั้นพวกข้าขอไปดูเจ้าขายได้รึไม่ การค้าขายเช่นนี้ข้ายังมิเคยเห็นผู้ใดทำมาก่อน ช่างน่าสนใจเสียจริง"มู่เฉินเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น ก่อนจะหันไปหาเฉิงอี้ผู้เป็นนายด้วยสีหน้าอ้อนวอนไม่เว้นแม้แต่องครักษ์หนุ่มที่มองมาเช่นกัน"แล้วแต่พวกเจ้าสิ แต่ข้ามิไป"พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปจากที่อี้หมิงยืนอยู่ ท่าทางของชายหนุ่มสร้างความฉงนให้กับทั้งสามคนที่ยังยืนอยู่ไม่น้อย แต่เพียงชั่วครู่ ชายทั้งสองที่ยังยืนอยู่กับเธอก็เอ่ยเสนอความช่วยเหลือออกมา"หากเจ้ามิรังเกียจ ข้ายังพอมีแท่นหมึกและกระดาษเหลืออยู่บ้าง หวังว่าจะช่วยเจ้าได้อยู่มิน้อย""ดีเลย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status