"ว้าแม่ขึ้นมาเสียเที่ยวเลยแต่ใกล้จะได้ฤกษ์แห่ขันหมากอีกสามสิบนาทีนี้แล้วแม่ไปเช็คความเรียบร้อยข้างล่างก่อนนะลูก"
"ได้ค่ะแม่หนูก็เสร็จเรียบดีแล้วแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ" แม่เดินมากอดลูกศรพร้อมกับอดที่จะน้ำตาคลอจะไหลออกมาไม่ได้
"ฮึกแม่ดีใจมากที่ได้ส่งลูกสาวคนเดียวเป็นฝั่งเป็นฝาสักที"
"ฮึกหนูก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เหมือนกันค่ะแม่" สองแม่ลูกกอดกันกลมน้ำตาที่ไหลเป็นน้ำตาแห่งเป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปิติยินดีอีกหนึ่งวันในชีวิตของคนเป็นพ่อแม่
"เอาๆอย่าร้องไห้วันนี้เป็นวันมงคลยิ้มกว้างๆเดียวเครื่องสำอางจะเลอะเอาได้นะลูก" แม่เช็ดน้ำตาให้ลูกศร
"ขอบคุณค่ะแม่ ขอบคุณที่ไม่ว่าหนูจะทำตัวทั้งดีและไม่ดีที่ผ่านมาแม่กับพ่อก็ใหอภัยหนูเสมอมา" ลูกศรที่กอดแม่อยู่ก็พยักหน้ายิ้มให้ท่าน
"แม่กับพ่อภูมิใจในตัวของลูกเสมอนะไม่ว่าเรื่องอะไรแม้กระทั้งเรื่องหลานลูกสาวของแม่ก็เลี้ยงดูออกัสน้อยออกมาได้ดีมากอย่างโทษตัวเองอีกเลยพ่อกับแม่ไม่โกรธลูกแล้วปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไปนะลูก"
"หนูรักแม่ที่สุดเลย"
"ขบวนขันหมากแห่มาแล้ว!" เสียงร้องตะโกนโห่ขันหมากเข้ามาในบ้าน
"ลูกได้เวลาฤกษ์แล้ว แม่ออกไปก่อนนะลูก" แม่รีบเดินออกไปจากห้อง
"ตื่นเต้นไหมลูกศร" ลูกพี่ลูกน้องสาวรุ่นเดียวกันจับมือของลูกศรเอาไว้พร้อมกับนิ้มให้กันนี้ถือว่าเป็นงานแต่งที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดในตำบลนี้เลยแขกเหรื่อที่มาในงานตอนเช้าแค่สองร้อยคนเอาเฉพาะญาติและเพื่อนสนิทของทั้งคู่บ่าวสาวเท่านั้น ส่วนงานตอนเย็นพ่อกับน่าจะเชิญคนรู้จักทั้งจังหวัดมาร่วมงานเลี้ยงฉลองเลยมั้งเนี้ย ยังไม่รวมญาติจากรุงเทพของฝั่งครอบครัวอาเธอร์อีกนับว่าไฮโซจากกรุงเทพได้มาเปิดหูเปิดตาที่บางคนได้เข้ามาร่วมงานตั้งแต่เช้าจนถึงงานเลี้ยงโต๊ะจีนพร้อมหมอลำตอนเย็นอีกด้วย
"อื้อตื่นเต้นมากขอบคุณนะที่อุตส่าห์มาช่วยแต่งหน้าและเป็นเพื่อนตั้งแต่ตีหนึ่ง"
"อื้อหน้าที่ฉันอยู่แล้วน่าลูกศร"
"เจ้าบ่าวมารับตัวเจ้าสาวแล้วนะ"
อาเธอร์รับเอาตัวลูกชายตัวน้อยจากผู้ช่วยแล้วก็ได้ฤกษ์แห่ขบวนขันหมากออกัสถูกย่าจูงมือเอาไว้ไม่ให้ซน อาเธอร์ได้ผ่าด่านเพื่อนเจ้าสาวของลูกศรอย่างหักโดยเฉพาะกลุ่มเรียนหมออย่างแจนสองปอนที่ต่างหากิจกรรมแปลกๆแกล้งให้อาเธอร์ทำกว่าจะผ่านด่านประตูเงินประตูทองไปได้เล่นเอาเหงื่อโซยจนเครื่องสำอางที่ถูกแต่งเลอะเหงื่อออกแล้วทั้งตัวเจ้าบ่าวและเพื่อนสนิทเจ้าบ่าว
"เข้ามาได้เลยค่ะ" อาเธอร์เปิดประตูเข้าไปในห้อง มองเจ้าสาวของเขาที่วันนี้สวยเป็นพิเศษใครว่าเมียกว่าทุกวันด้วยรอยยิ้มภูมิใจ
"สวยมากเลยครับลูกศร"
"แม่สวยมากครับ" เจ้าหนูออกัสโผล่มาพูดแทรกกลางพ่อแม่เรียกเสียงหัวเราะจากบรรดาแขกที่อยู่ในเหตุการณ์
"มีลูกโตทันมาร่วมงานแต่งพ่อแม่ก็ดีอย่างนี้นี่เองนะเนี้ย" แขกในงานพูดขึ้นอย่างเอ็นดูหลานชายตัวน้อยของทุกคนในงาน
"ใช่ๆเห็นด้วยฮ่าๆ"
"ออกไปข้างนอกเถอะเดียวจะได้เวลาฤกษ์สู่ขวัญแล้วลูก" พ่อเข้ามาตาม
"ค่ะครับพ่อ" จากนั้นสามคนพ่อแม่ลูกก็ไปนั่งกลางพิธีบายศรสู่ขวัญจากหมอพราหมณ์ตามพิธีแบบอีสานที่มีบทสวดเฉพาะใส่ไมค์และรสน้ำมนต์ปิดท้ายหลังจากสวดเสร็จ จากนั้นก็ให้บ่าวสาวป้อนต้มไข่กันคนล่ะครึ่งฟองเพื่อแสดงถึงว่าความรักของบ่าวสาวนั้นจะยืนยาวและมั่นคงเพื่อเป็นการอวยพรชีวิตคู่ของกันและกัน
หลังจากนั้นก็เข้าสู่พิธีผูกข้อไม้ข้อมือต่อไป
เริ่มที่พ่อแม่บ่าวเจ้าบ่าวที่ต้องผูกข้อไม้ข้อมือให้ก่อน
"พ่อขอให้อาเธอร์กับหนูลูกศรรักกันมั่นคงอยากนี้ไปนานๆหนักนักเบาหน่อยก็ให้อภัยกันนะลูก"
"ขอบคุณครับพ่อขอบคุณค่ะพ่อ" ลูกศรกับอาเธอร์ยกมือไหว้พ่อของอาเธอร์
"แม่ขอให้อาเธอร์กับหนูลูกศรถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชรนะลูก ฮึกแม่สัญญาจะเป็นแม่สามีที่ดีของหนูนะลูกศรขอโทษกับสิ่งที่แล้วมาที่แม่ได้เคยทำไม่ได้กับหนูเอาไว้นะต่อไปนี้เริ่มต้นกันใหม่ในฐานะแม่สามีและลูกสะใภ้นะลูกฮื้อ" แม่ของอาเธอร์อดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้ด้วยความรู้สึกผิดคราวเดียวกับความรู้สึกยินดีที่ได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นลูกสะใภ้ของนาง
"หนูก็ขอบคุณแม่ที่รับหนูเป็นลูกสะใภ้ได้กลายเป็นหนึ่งสมาชิกในครอบครัวนะคะฮื้อ" ลูกศรที่ผ่านเรื่องราวหลายอย่างมากับแม่ของสามีก็อดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้ความดีที่อดทนทำมาตลอด4ปีกว่าทำให้เธอสามารถมีวันนี้ได้ความอดทนในการทำความดีสามารถทำให้คนได้รับใจอ่อนเปลี่ยนอคติต่อตัวเราได้จริงๆ
"พอแล้วคุณอย่าพาลูกสะใภ้ร้องไห้เดียวพิธีการจะทำไปต่อไม่ได้นะคุณ" คุณปู่กอดปลอบคุณย่าแล้วพาเดินออกไปจากพิธีให้พ่อแม่ของลูกสะใภ้ได้ผูกข้อไม้ข้อมือต่อ
"พ่อขอฝากลูกสาวคนเดียวของพ่อด้วยนะอาเธอร์ ลูกศรพ่อขอให้หนูเป็นภรรยาที่ดีของลูกเขยพ่อนะลูก ขอให้พวกลูกมีความสุขกันอย่างนี้ตลอดไปนะลูก" พ่ออวยพรหลังจากผูกข้อไม้ข้อมือให้กับลูกสาวลูกเขย
"ผมสัญญาว่าจะดูแลลูกศรกับออกัสให้ดีที่สุดเท่าชีวิตและลมหายใจของผมคุณพ่อไม่ต้องห่วงนะครับ"
"ขอบคุณค่ะพ่อหนูจะเป็นภรรยาที่ดีค่ะ หนูรักพ่อนะคะ"
"แม่ขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขมากๆมีหลานอีกสักคนให้แม่ได้ช่วยเลี้ยงบ้างนะลูก" คุณยายยิ้มให้พร้อมกับบอกความต้องการของท่านกับคู่บ่าวสาว
"ได้ครับผมรับปากจะให้หลานตัวเล็กแก่คุณแม่แน่นอนครับ" อาเธอร์ยิ้มหน้าบานรับคำแม่ยายอย่างแข็งขันเพราะท่านคิดตรงกันกับเขาที่สุดเลย
"ขอบคุณนะคะแม่ หนูรักแม่มากๆค่ะ"
พอพ่อแม่ญาติพี่น้องผูกข้อไม้ข้อมือเสร็จแล้วต่อไปก็ถึงคิวบรรดาเพื่อนๆของบ่าวสาวที่ต่อแถวมาผูกแขนให้บ่าวสาว
"ยินดีกับมึงด้วยนะอาเธอร์ลูกศร" กรรณเพื่อนสนิทของอาเธอร์ผูกแขนให้บ่าวสาวคนแรกในหมู่เพื่อน
"กูก็ยินดีกับมึงมากๆนะอาเธอร์" อาบังบาซิลเป็นคนต่อมา
"ยินดีด้วยอาเธอร์ลูกศร" ตะวันเป็นคนต่อไป
"ยินดีด้วยมากๆขอให้มีลูกเพิ่มอีกสักคนนะอาเธอร์ลูกศร" ไนท์พูดขึ้นถูกใจอาเธอร์ที่สุดในบรรดาเพื่อนสนิท
"แน่นอนอยู่แล้วมึงเตรียมของขวัญรับขวัญหลานคนต่อไปได้เลย" อาเธอร์ยักคิ้วให้เพื่อนสนิทของเขาอย่างถูกใจกับสิ่งที่เพื่อนพูดออกมา
"อาเธอร์ฝากดูแลยัยเซ่อเพื่อนรักของฉันด้วยนะ ห้ามทำให้เพื่อนรักของฉันเสียใจอีกเข้าใจไหม" แจนอวยพรเหมือนคำสั่งกับเจ้าบ่าวมากกว่า
"ขอบคุณมากนะแจนที่อยู่เคียงข้างฉันมาตลอดไม่สิขอบใจพวกแกทุกคนเลยสองปอนด้วยนะฮื้อ" ลูกศรน้ำตาไหลเธอผ่านอะไรมาได้เพราะเหล่าเพื่อนสนิทในกลุ่มมีส่วนช่วยเธอมากมายจนนับไม่ถ้วน
"หยุดชะนีแกหยุดร้องฉันยังไม่ทันได้อวยพรแกเสร็จเลยนะ!" สองพูดขึ้นชี้นิ้วสั่งเจ้าสาว
"เอ่อๆไม่ร้องแล้วรีบอวยพรมาเร็วสินังสอง" ลูกศรกำลังจะซึ่งก็เถียงกับเพื่อนสนิทแทนเสียอย่างนั้น
"ขอให้แกกับอาเธอร์ครองรักกันยาวนานจนแก่ชราไปเลยนะ"
"อืมขอบคุณแกสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมานะสอง"
"ฉันคนสุดท้ายขอให้นังลูกศรกับอาเธอร์สุดหล่อเป็นคู่สามีภรรยาที่รักใคร่ถึงแม้ฉันจะหมั่นไส้จนคลื่นไส้ก็ตามอ่ะนะชะนีได้คนหล่อไปอีกหนึ่ง"
"ฮ่าๆขอบคุณมากนะปอนแกเป็นเพื่อนที่ดีของฉันเสมอมา" จากซึ่งๆเจ้าบ่าวก็ถึงกับเปลี่ยนโหมดอารมณ์หัวเราะขบขำขึ้นมาจากคำพูดของเพื่อนๆ
"ผูกให้กัสด้วยสิครับ กัสอยากได้เหมือนพ่อแม่" ออกัสที่ถูกปล่อยตัวจากบรรดาคนแก่ที่พากันเห่อหลานชายมาได้ก็วิ่งจู่มาหาพ่อแม่ของแก
"ได้ครับมาพ่อกับแม่จะผูกแขนให้ออกัสเหมือนเรา" พ่ออุ้มลูกมานั่งตักแล้วให้แม่ของลูกผูกแขนให้แกตามที่เรียกร้องจากพ่อแม่
งานช่วงกลางคืน"ก่อนที่จะทำการแสดงหมอลำในค่ำคืนนี้พวกเราอยากให้คู่บ่าวสาวของงานขึ้นมาบนเวทีเพื่อเล่าเรื่องราวความรักของคนทั้งคู่ให้กับแขกในงานได้รับรู้หน่อยครับ" เสียงพิธีกรประกาศเรียกบ่าวเช้าที่ยืนถ่ายรูปกับแขกที่มาในงานในค่ำคืนนี้"ขอสัมภาษณ์ความเป็นมาของเส้นทางรักในครั้งนี้หน่อยนะครับ ก่อนอื่นหมออาเธอร์กับหมอลูกศรรู้จักกันได้ยังไงครับ" พิธีกรยื่นไมค์ให้กับเจ้าบ่าวเป็นคนตอบก่อน"ผมเจอหน้าเธอครั้งแรกในร้านกาแฟหน้ามหาลัยครับ วันนั้นลูกศรนัดผมผ่านเพื่อนของเธอ เราคุยกันเรื่องสำคัญทำให้มีเรื่องให้เจอและสนิทกันจนก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมาใน4ปีที่ผ่านมาครับ""ว้าวรักตอนเรียนมหาลัยโรแมนติกมากๆเลยครับ เอาล่ะผมว่าใครๆก็คงอยากเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวบอกรักกันและหอมแก้มกันโชว์ความหวานให้พวกเราดูหน่อยนะครับ""อาเธอร์ฉันรักนายนะ" ลูกศรหอมแก้มเจ้าบ่าว"ลูกศรฉันก็รักเธอนะ" อาเธอร์ก็หอมแก้มเจ้าสาวแสนสวยของเขา"ว้าวปรบมือให้คู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับเจ้าของงานในคืนนี้ด้วยนะครับ" เสียงปรบมือแสดงยินดีดังกระหึ่มก่อนที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะพากันเดินลงจากเวทีไปนั่งยังโต๊ะของครอบครัวเสียงดนตรี
หลังจากงานแต่งงานที่บ้านนอกจบลง ลูกศรกับอาเธอร์ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะคนนึงมีงานอีกคนมีเรียนทำให้จำเป็นต้องกลับกรุงเทพเลยฉากลาจากของตายายหลานชายวัยสามขวบก็เรียกเสียงร้องไห้งอแงไม่อยากกลับของออกัสเหมือนเดิมกว่าจะหายงอแงก็จนถึงบ้านที่กรุงเทพนั้นแหละตอนนี้ลูกศรนอนอยู่ในห้องนอนที่คอนโดหรูของอาเธอร์ที่หยุดงานขอฮันนีมูนในคอนโดหรูกลางกรุงแห่งนี้โดยที่เจ้าลูกชายตัวป่วนไปโรงเรียน"ลูกศรเธอต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ในคืนเข้าหอนะ" อาเธอ์กอดรัดเอวบางเอาไว้แน่นซบหน้ากับบ่าเล็กคอเคลียร์ปากพ้นจูบไปเรื่อยจนถึงซอกคอ"สัญญาเหรอเรื่องอะไรนะทำไมยักกะจำไม่ได้""ลูกศรอย่ามาแกล้งเซไสอย่างนี้นะ เธอบอกจะขึ้นให้ฉันต้องทำตามสัญญานะบนโซฟานี้มองเห็นวิวตึกสูงข้างนอกอ้าส์วิวดีเหมาะกับการผลิตน้องสาวให้ออกัสมากๆเลยที่รัก""ท่าทางแบบนี้หักล้างใบหน้าหล่อๆของนายมากอาเธอร์ อย่ามาทำหน้าตาหื่นกามลามกแบบนี้ใส่ฉันนะ""ฮ่าๆฉันหื่นใส่เมียตัวเองผิดตรงไหนเนี้ยลูกศรยัยบ๊อง" อาเธอร์ดีดหน้าผากของลูกศรเบาอย่างหมั่นเขียวแล้วตวาดอุ้มร่างบางไปยังโซฟาที่เขาหมายมาดอย่างที่พูดออกมาเสื้อยืดสีขาวถูกถอดออกไปพร้อมโยนทิ้งอย่างไม่สนทิศทางตามด้วยกาง
3เดือนต่อมา..."อาเธอร์ฉันซื้อเนคไทด์ใหม่มาให้ลองเปิดดูซิว่านายจะชอบลายที่ฉันเลือกมาให้ไหม" วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ปกติลูกศรต้องไปทำงานแต่อาเธอร์อนุญาตให้ทำงานได้แค่วันเสาร์เท่านั้น ส่วนในวันอาทิตย์ให้เธอได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวบ้าง"ว้าวไหนดูซิว่าเธอจะเลือกแบบไหนให้สามีที่รักคนนนี้" อาเธอร์รับเอากล่องที่ภรรยาสาวยื่นให้กับเขา"เร็วๆรีบเปิดดูซิ" ลูกศรตื่นเต้นกับปฏิกิริยาของคนเป็นสามีอย่างเร่งเร้าให้เขารีบเปิดกล่องดู"ดูเธอจะตื่นเต้นมากเลยนะลูกศร เดือนนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดของฉันนี้น่ามีอะไรกัน" อาเธอร์งงกับท่าทางของเมียตัวเองแต่ก็ยอมเปิดกล่องที่ลูกศรเอามาให้นี้ พอเปิดฝากล่องออกมาก็เจอกับ..."ที่ตรวจครรภ์นี้น่าลูกศร ธะเธอท้องแล้วเหรอเนี้ยโอ้สุดยอด" คนเป็นพ่อที่ขยันทำลูกแทบทุกคืนไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตามยังคงพยายามหื่นใส่ลูกศรทุกคืนโดยให้เหตุผลกับเธอเสมอว่าต้องมีน้องตัวน้อยๆให้ออกัส"ใช่ได้3เดือนแล้วนายดีใจมากไหมรอมานานหลายเดือนแล้วนี้น่า""ดีใจที่สุดเลยลูกศร ฉะฉันต้องไปบอกออกัสไม่สิพ่อแม่ของเราด้วยว่าพวกท่านกำลังจะได้มีหลานเพิ่มแล้วไปก่อนนะ" คนเป็นพ่อรีบวิ่งเอาที่ตรวจภรรค์ไปบอกข่าว
"เอ้าไม่เคยดื่มก็ต้องลอง พวกเรากำลังจะเป็นหมอเต็มตัวกันแล้วกลัวอะไร" เธอพยายามดันแก้วออกหากจากตัวแต่เหมือนว่าเพื่อนสาวในกลุ่มจะไม่ยอมให้ปฏิเสธพยายามยื้อจะให้เธอดื่มเข้าไป "ไม่เอาเดี่ยวเมาแล้วกลับหอไม่ได้""กลัวอะไรมีแต่เพื่อนร่วมรุ่นทั้งนั้น อีกอย่างเธอต้องออกไปทำงานก็ต้องมีงานเลี้ยงสรรค์สังเข้าสังคมเรื่องดื่มต้องหัดเอาไว้ศร" "กะก็ได้"ลูกศรจำใจยกแก้วกลั่นใจดื่มแอลกอฮอล์ที่ตัวเองไม่เคยแตะต้องมาก่อนในชีวิตรสชาติคอมบาดคอจนแทบกลืนลงไม่ไหวแต่ก็ขืนแรงยุของกลุ่มเพื่อนไม่ได้แล้วมีแต่ต้องฝืนดื่มให้หมดแก้ว "เก่งมากเพื่อนสาวชะนีน้อยผู้เรียบร้อยของกลุ่มเรา" หนุ่มตี๋เพื่อนเก้งในกลุ่มของลูกศรปรบมืออย่างถูกอกถูกใจที่ยุยงลูกศรดื่มได้สำเร็จ "ศรรู้สึกว่าแผ่นดินกำลังไหว ทำยังไงดี!" คนที่โดนเพื่อนแกล้งมอมเหล้าตะโกนโวยวายขึ้นมาดังรั้นโต๊ะในงานเลี้ยงรุ่นของพี่ปีสุดท้ายในการเรียนหมอของคณะ "ฮ่าๆไอ้ศรใจเย็นแก้วเดียวถึงกับเมาโวยวายเลยเหรอเพื่อน" สาวน้อยชื่อว่าลูกศรหันไปมองเพื่อนผ่านเลนส์แว่นตาหนาเตอะของเธอพยายามเพ็งเล็งคนพูดว่าคือใครเพราะสมองของลูกศรตอนนี้มันเบลอไปหมดจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว "แกเป็นใคร" คนเมา
ลูกศรรู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัวเหมือนคนผ่านสนามรบมาจะขยับตัวลุกขึ้นก็แทบไม่ไหว "ตื่นแล้วเหรอ" เสียงทุ้มไม่คุ้นหูของคนที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ดังขึ้นเหนือหัวของลูกศร "อาเธอร์" เมื่อสมองประมวลเหตุการเมื่อคืนที่งานเลี้ยงรุ่นจนมาจบที่บนเตียงนี้ของเธอและเขาอย่างที่เห็น "ใช่ฉันเอง ว่าแต่เธอชื่ออะไรฉันยังไม่รู้จักชื่อของเธอเลย" คนตัวสูงถามผู้หญิงที่เขานอนด้วยความไม่ได้ตั้งเมื่อคืน "ระเราชื่อลูกศร" ลูกศรรู้สึกว่าแก้มของเธอร้อนผ่าวมันต้องแดงแน่แค่คิดก็อายแทบแทรกแผ่นดินแล้ว "เรียนคณะแพทย์ปีเดียวกันเหรอทำไมไม่ค่อยคุ้นหน้าเลย" อาเธอร์มองหน้าเธออย่างพิจารณา "ใช่ค่ะ แต่ปกติเราใส่แว่นตอนนี้ไม่ใส่เธอคงไม่คุ้นหน้าได้" "ก็คงจะเป็นอย่างนั้น" คนตัวสูงยักไหล่ด้วยความไม่แคร์เท่าไหร่ ส่วนลูกศรได้แต่ยิ้มเจื่อนๆอย่างทำตัวไม่ถูกจะลุกขึ้นแล้วไปแต่งตัวเพื่อออกจากห้องกลับหอพักแต่รู้สึกว่าจะลุกขึ้นเองไม่ไหวตอนนี้"คือว่ารบกวนพยุงเราไปห้องน้ำหน่อยได้ไหม" อาเธอร์พยักหน้ารับแล้วลุกออกจากเตียงเพื่อพยุงลูกศรตามที่เธอเรียกร้อง "ได้เดินไหวแน่นะ" ลูกศรพยักหน้ายืนยันว่าเธอไหวแล้วค่อยๆก้าวขาสั่นๆเดินเข้าห้องน้ำเอง พอเข้าม
"เรื่องจริงเหรอ" เสียงของอาเธอร์สั่นอย่างคนที่ได้ฟังเรื่องตลกร้ายที่กำลังพยายามควบคุมอารมณ์ให้มันเป็นแค่เรื่องแกล้งหยอกกันเล่นไม่เป็นความจริง "จริงนี้ผลตรวจ" ลูกศรหยิบเอกสารใบรับรองพร้อมกับยาพร้อมกับยาบำรุงครรภ์ที่ได้มาวันนี้ "เชี้ยเรื่องจริงวะ" อาเธอร์หยิบเอกสารขึ้นมาอ่านให้ละเอียดไม่ต้องถามอะไรก็รู้ว่าเด็กมาในคืนงานเลี้ยงรุ่นแน่นอน "ระเราอยากถามอาเธอร์ว่าจะทำยังไงกันดีกับเด็กในท้องที่มาถามความเห็นเพราะเราสองคนเป็นคนทำให้เขาเกิดมาเลยต้องถามความเห็นของนายด้วย" ร่างสูงรู้สึกเหมือนกำลังโดนต่อยเพราะตอนนี้ในหัวของเขามันมึนไปหมดจนแทบจะคิดอะไรไม่ออกแล้ว "เดี๋ยวขอตั้งสติสักยี่สิบนาทีไม่สิสามสิบนาทีเลยแล้วกัน" อาเธอร์ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้ลูกศรพูดอะไรอีกเมื่อเห็นอาการของอาเธอร์ที่ไม่ต่างจากจินตนาการของตัวเองที่คิดมาแล้วว่าเขาต้องเป็นแบบนี้ทำให้ลูกศรยกน้ำผึ้งมะนาวขึ้นดื่มรอเวลาที่เขาจะตั้งสติได้แล้วให้คำตอบกับเธอ เราทั้งสองคนต่างก็เงียบทั้งสองฝ่าย ลูกศรมองคนที่เดินผ่านไปมานอกร้านผ่านกระจกร้านคาเฟ่เป็นการฆ่าเวลาและคิดเอาไว้ว่าจะเลือกทางไหนให้กับตัวเองจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง "เธอ
หลังลงวอร์ดโชคดีที่ไม่ต้องขึ้นเวรต่อแล้วจุุดมุ่งหมายต่อไปของลูกศรคือซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อไปซื้อของสดมาตุนเอาไว้ในตู้เย็นแต่ว่ายังไม่ทันได้กดเข้าแอปเรียกรถแท็กซี่ก็มีรถยุโรปคันหรูขับมาจอดเทียบอยู่ตรงหน้าเสียก่อน ลูกศรทำท่าจะขยับเดินถอยห่างเพื่อไม่ให้ตัวเองกีดขวางเจ้าของรถแต่ว่ากระจกรถกับเปิดพร้อมกับเสียงเรียกจากคนขับภายในรถ "เธอขึ้นรถมา" ลูกศรมองคนเรียกอย่างไม่ค่อยชอบใจที่อยู่ๆเขาก็มาสั่งเธอแล้วเรื่องเมื่องานที่เขาทำให้เสียใจก็ยังไม่หายยังจะโผล่หน้ามาเจอกับเธออีก "ไม่ไป ฉันจะไปทำธุระส่วนตัวไม่ว่างไปกับนายหรอก" ลูกศรปฎิเสธคนที่ไม่อยากเห็นแม้กระทั้งหน้าของเขาตอนนี้ "ลูกศร! ขึ้นมาอย่าพูดยากเห็นไหมว่าคันหลังเขาบีบแตรไล่เธอแล้ว" อาเธอร์ใช้น้ำเสียงกดดันใส่เธออย่างเป็นคนผิดเสียเต็มประดาลทำเอาลูกศรรู้สึกเดือดดาลโกรธขึ้นมาหน่อยๆ "ฉันไม่ได้พูดยาก แต่ไม่ไปคือไม่ไปแล้วนายก็เป็นคนจอดรถขวางทางคนอื่นเองนะอาเธอร์!" ลูกศรเถียงกับเขาไปอย่างไม่ยอมให้อีกฝ่ายมากล่าวหาเธอ "เฮ้อฉันก็ไม่อยากยุ่งกับเธอนักหรอกรู้เอาไว้ซะถ้าไม่มีเรื่องลูกฉันก็ไม่คิดจะตื้อให้เสียเวลาเหรอวะ" อาเธอร์บ่นออกอาการรำคาญเต็มทนกับลู
“เดี๋ยว” อาเธอร์พูดขึ้นขนาดที่ลูกศรกำลังจะเปิดประตูลงจากรถเพื่อขึ้นห้องในหอของคณะแพทย์ที่อยู่ข้างโรงพยาบาล “มีอะไรอีก” ลูกศรรู้ว่าตัวเธอกำลังพาลอย่างคนไม่มีเหตุผลแต่มันก็อดไม่ได้ที่จะอ่อนไหวและไม่พอใจกับข้อตกลงที่ว่าเขาสามารถมีแฟนหรือแม้กระทั้งแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ “ถ้าฉันเสนอให้เธอย้ายไปอยู่คอนโดด้วยกัน” “ไหนนายบอกว่าเราจะไม่เกี่ยวข้องกันนอกจากเรื่องลูก” “อย่าพึ่งเข้าใจผิด ฉันแค่กลัวว่าเธอจะไม่สะดวกยิ่งเวลาที่ท้องเริ่มโตกว่านี้จะลำบากและรบกวนคนอื่นหรือเปล่า” พอได้ยินแบบนั้นไม่ใช่ว่าตัวเธอจะไม่ได้คิดเอาไว้แต่ตอนนี้คิดว่าอยู่หอจะสะดวกในการไปฝึกงานในโรงพยาบาลมากกว่าในช่วงนี้ “อีกเดือนเดียวก็เรียนจบแล้ว ฉันทนได้ค่อยไปหาเช่าข้างนอกอยู่ก็ได้” “เอาแบบนี้ถ้าจบแล้วเธอก็ย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกับฉันจะได้สะดวกและช่วยดูแลเธอตอนท้องแก่ใกล้คลอด”“อืมเอาอย่างนั้นก็ได้ ขอบคุณที่มาส่งนะไปแล้ว” ลูกศรเปิดประตูลงจากรถขึ้นห้องความจริงหอพักแพทย์ของมหาลัยเธอก็สะดวกสบายดีห้องพักมีให้แบบเดี่ยวไม่ต้องนอนกับใครมีห้องครัวสำหรับเอาไว้ทำอาหารเล็กๆด้วยถือว่าครบไม่ต่างกับลูกในคอนโดข้างนอกราคาแพงๆเล
3เดือนต่อมา..."อาเธอร์ฉันซื้อเนคไทด์ใหม่มาให้ลองเปิดดูซิว่านายจะชอบลายที่ฉันเลือกมาให้ไหม" วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ปกติลูกศรต้องไปทำงานแต่อาเธอร์อนุญาตให้ทำงานได้แค่วันเสาร์เท่านั้น ส่วนในวันอาทิตย์ให้เธอได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวบ้าง"ว้าวไหนดูซิว่าเธอจะเลือกแบบไหนให้สามีที่รักคนนนี้" อาเธอร์รับเอากล่องที่ภรรยาสาวยื่นให้กับเขา"เร็วๆรีบเปิดดูซิ" ลูกศรตื่นเต้นกับปฏิกิริยาของคนเป็นสามีอย่างเร่งเร้าให้เขารีบเปิดกล่องดู"ดูเธอจะตื่นเต้นมากเลยนะลูกศร เดือนนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดของฉันนี้น่ามีอะไรกัน" อาเธอร์งงกับท่าทางของเมียตัวเองแต่ก็ยอมเปิดกล่องที่ลูกศรเอามาให้นี้ พอเปิดฝากล่องออกมาก็เจอกับ..."ที่ตรวจครรภ์นี้น่าลูกศร ธะเธอท้องแล้วเหรอเนี้ยโอ้สุดยอด" คนเป็นพ่อที่ขยันทำลูกแทบทุกคืนไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตามยังคงพยายามหื่นใส่ลูกศรทุกคืนโดยให้เหตุผลกับเธอเสมอว่าต้องมีน้องตัวน้อยๆให้ออกัส"ใช่ได้3เดือนแล้วนายดีใจมากไหมรอมานานหลายเดือนแล้วนี้น่า""ดีใจที่สุดเลยลูกศร ฉะฉันต้องไปบอกออกัสไม่สิพ่อแม่ของเราด้วยว่าพวกท่านกำลังจะได้มีหลานเพิ่มแล้วไปก่อนนะ" คนเป็นพ่อรีบวิ่งเอาที่ตรวจภรรค์ไปบอกข่าว
หลังจากงานแต่งงานที่บ้านนอกจบลง ลูกศรกับอาเธอร์ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะคนนึงมีงานอีกคนมีเรียนทำให้จำเป็นต้องกลับกรุงเทพเลยฉากลาจากของตายายหลานชายวัยสามขวบก็เรียกเสียงร้องไห้งอแงไม่อยากกลับของออกัสเหมือนเดิมกว่าจะหายงอแงก็จนถึงบ้านที่กรุงเทพนั้นแหละตอนนี้ลูกศรนอนอยู่ในห้องนอนที่คอนโดหรูของอาเธอร์ที่หยุดงานขอฮันนีมูนในคอนโดหรูกลางกรุงแห่งนี้โดยที่เจ้าลูกชายตัวป่วนไปโรงเรียน"ลูกศรเธอต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ในคืนเข้าหอนะ" อาเธอ์กอดรัดเอวบางเอาไว้แน่นซบหน้ากับบ่าเล็กคอเคลียร์ปากพ้นจูบไปเรื่อยจนถึงซอกคอ"สัญญาเหรอเรื่องอะไรนะทำไมยักกะจำไม่ได้""ลูกศรอย่ามาแกล้งเซไสอย่างนี้นะ เธอบอกจะขึ้นให้ฉันต้องทำตามสัญญานะบนโซฟานี้มองเห็นวิวตึกสูงข้างนอกอ้าส์วิวดีเหมาะกับการผลิตน้องสาวให้ออกัสมากๆเลยที่รัก""ท่าทางแบบนี้หักล้างใบหน้าหล่อๆของนายมากอาเธอร์ อย่ามาทำหน้าตาหื่นกามลามกแบบนี้ใส่ฉันนะ""ฮ่าๆฉันหื่นใส่เมียตัวเองผิดตรงไหนเนี้ยลูกศรยัยบ๊อง" อาเธอร์ดีดหน้าผากของลูกศรเบาอย่างหมั่นเขียวแล้วตวาดอุ้มร่างบางไปยังโซฟาที่เขาหมายมาดอย่างที่พูดออกมาเสื้อยืดสีขาวถูกถอดออกไปพร้อมโยนทิ้งอย่างไม่สนทิศทางตามด้วยกาง
งานช่วงกลางคืน"ก่อนที่จะทำการแสดงหมอลำในค่ำคืนนี้พวกเราอยากให้คู่บ่าวสาวของงานขึ้นมาบนเวทีเพื่อเล่าเรื่องราวความรักของคนทั้งคู่ให้กับแขกในงานได้รับรู้หน่อยครับ" เสียงพิธีกรประกาศเรียกบ่าวเช้าที่ยืนถ่ายรูปกับแขกที่มาในงานในค่ำคืนนี้"ขอสัมภาษณ์ความเป็นมาของเส้นทางรักในครั้งนี้หน่อยนะครับ ก่อนอื่นหมออาเธอร์กับหมอลูกศรรู้จักกันได้ยังไงครับ" พิธีกรยื่นไมค์ให้กับเจ้าบ่าวเป็นคนตอบก่อน"ผมเจอหน้าเธอครั้งแรกในร้านกาแฟหน้ามหาลัยครับ วันนั้นลูกศรนัดผมผ่านเพื่อนของเธอ เราคุยกันเรื่องสำคัญทำให้มีเรื่องให้เจอและสนิทกันจนก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมาใน4ปีที่ผ่านมาครับ""ว้าวรักตอนเรียนมหาลัยโรแมนติกมากๆเลยครับ เอาล่ะผมว่าใครๆก็คงอยากเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวบอกรักกันและหอมแก้มกันโชว์ความหวานให้พวกเราดูหน่อยนะครับ""อาเธอร์ฉันรักนายนะ" ลูกศรหอมแก้มเจ้าบ่าว"ลูกศรฉันก็รักเธอนะ" อาเธอร์ก็หอมแก้มเจ้าสาวแสนสวยของเขา"ว้าวปรบมือให้คู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับเจ้าของงานในคืนนี้ด้วยนะครับ" เสียงปรบมือแสดงยินดีดังกระหึ่มก่อนที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะพากันเดินลงจากเวทีไปนั่งยังโต๊ะของครอบครัวเสียงดนตรี
"ว้าแม่ขึ้นมาเสียเที่ยวเลยแต่ใกล้จะได้ฤกษ์แห่ขันหมากอีกสามสิบนาทีนี้แล้วแม่ไปเช็คความเรียบร้อยข้างล่างก่อนนะลูก""ได้ค่ะแม่หนูก็เสร็จเรียบดีแล้วแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ" แม่เดินมากอดลูกศรพร้อมกับอดที่จะน้ำตาคลอจะไหลออกมาไม่ได้"ฮึกแม่ดีใจมากที่ได้ส่งลูกสาวคนเดียวเป็นฝั่งเป็นฝาสักที""ฮึกหนูก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เหมือนกันค่ะแม่" สองแม่ลูกกอดกันกลมน้ำตาที่ไหลเป็นน้ำตาแห่งเป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปิติยินดีอีกหนึ่งวันในชีวิตของคนเป็นพ่อแม่"เอาๆอย่าร้องไห้วันนี้เป็นวันมงคลยิ้มกว้างๆเดียวเครื่องสำอางจะเลอะเอาได้นะลูก" แม่เช็ดน้ำตาให้ลูกศร"ขอบคุณค่ะแม่ ขอบคุณที่ไม่ว่าหนูจะทำตัวทั้งดีและไม่ดีที่ผ่านมาแม่กับพ่อก็ใหอภัยหนูเสมอมา" ลูกศรที่กอดแม่อยู่ก็พยักหน้ายิ้มให้ท่าน"แม่กับพ่อภูมิใจในตัวของลูกเสมอนะไม่ว่าเรื่องอะไรแม้กระทั้งเรื่องหลานลูกสาวของแม่ก็เลี้ยงดูออกัสน้อยออกมาได้ดีมากอย่างโทษตัวเองอีกเลยพ่อกับแม่ไม่โกรธลูกแล้วปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไปนะลูก""หนูรักแม่ที่สุดเลย""ขบวนขันหมากแห่มาแล้ว!" เสียงร้องตะโกนโห่ขันหมากเข้ามาในบ้าน"ลูกได้เวลาฤกษ์แล้ว แม่ออกไปก่อนนะลูก" แม่รีบเด
"พวกลูกจะไปจัดงานแต่งงานที่บ้านต่างจังหวัดของหนูลูกศรเหรอ" คุณย่าของออกัสถามลูกชายกับลูกสะใภ้ของท่านที่เล่าเรื่องงานแต่งงานของทั้งคู่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้อย่างปุ๊บปั๊บแบบแต่งงานสายฟ้าแลบ"ใช่ครับ รบกวนคุณแม่ให้ไปหาฤกษ์ให้ผมกับลูกศรภายในสองเดือนนี้เลยได้ไหมครับ" คนใจร้อนที่ครั้งนี้ลูกศรไม่คิดจะห้ามเขาพร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้า"โอ้ยแกใจร้อนไปไหมเจ้าอาเธอร์" คุณปู่ของออกัสอดที่จะแซวลูกชายของตัวเองไม่ได้พร้อมกับรอยยิ้มเหมือนกันเพราะว่าท่านก็รอคอยให้ครอบครัวของลูกชายสมบูรณ์จริงๆสักที"ไม่ร้อนหรอกครับพ่อ ผมกับลูกศรเสียเวลาที่จะได้แต่งงานกันมา4ปีแล้วนะพ่อกับแม่ก็รู้ดี""นั้นสิเนอะเอาจริงถ้าเริ่มนับตั้งแต่ลูกว่ามาตอนนี้ก็ช้าไปจริงๆนั้นแหละเจ้าอาเธอร์แล้วหนูลูกศรบอกพ่อแม่ของหนูหรือยังจ๊ะ" "ยังค่ะคุณแม่เดียวคุยเสร็จจากตรงนี้ หนูค่อยโทรบอกพวกท่านเลยนะคะ""ได้ๆถ้างั้นกลางเดือนนี้แม่จะไปคุยเรื่องสินสอดทองหมั่นพร้อมกันกับพวกลูกในวันที่กลับบ้านของหนูในกลางเดือน" "ได้ค่ะคุณแม่" เมื่อตกลงกันได้คุณย่าของออกัสก็ออกไปพร้อมกับคุณปู่เพื่อไปหาพระอาจารย์ดังที่พวกท่านนับถือให้หาฤกษ์ภายในสองเดือนให้ตามที่
ตกกลางคืน"ออกัสนอนกับพ่อแม่ไม่ได้เหรอครับ" เจ้าหนูคอตกกอดหุ่นยนต์ซุปเปอร์แมนเอาไว้ยู้ปากอย่างแงงอนไม่ยินยอม"ไม่ได้ห้องลูกเสร็จแล้วคืนนี้จะต้องเป็นคืนแรกที่ออกัสต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่โดยการนอนคนเดียวนะลูก" คนเป็นพ่อยังแค้นเจ้าลูกชายที่มาขัดจังหวะหวานซึ้งระหว่างขอคนเป็นแม่แต่งงานอยู่บอกเสียงแข็งอย่างไม่ยินยอมใจอ่อนให้เจ้าหนูวัยสามขวบกว่าๆคนนี้ได้นอนกับพ่อแม่ในคืนนี้"กัสเป็นเด็กนะพ่อ" เจ้าหนูแสนฉลาดตอบโต้พ่อของแกอย่างไม่ยินยอมเช่นกัน"ลูกโตแล้วนะออกัสไปโรงเรียนแล้วควรแยกห้องนอนคนเดียวได้แล้ว""แต่พี่ป.1บอกว่ากัสเป็นเด็กที่สุดเลยนะพ่อยังไม่โตเล้ยยย" อาเธอร์ถึงกับอยากบิดหูเจ้าหนูตรงหน้านี้เขาเป็นที่สุดท่องเอาไว้อาเธอร์ลูกเราเหมือนเราโว้ยจะอดทนไม่ไหวแล้วเนี้ย"ฮึกฮ่าๆพอๆทั้งพ่อทั้งลูกเลิกเถียงกันได้แล้ว มาครับออกัสมาแม่อุ้มพาไปดูห้องใหม่กัน ถ้าลูกเห็นแล้วยังอยากนอนกับพ่อแม่อยู่แม่ก็จะไม่บังคับลูกนะจ๊ะ" แม่อุ้มเจ้าหนูพาเดินไปยังทิศทางห้องนอนใหม่ของแกชั้นบนของบ้านเพื่อตัดปัญหาที่ผู้ชายหน้าตาเหมือนกันแต่ต่างกันที่ขนาดยืนเท้าใส่เอวเถียงกันไม่หยุดจนจะดึกดื่นเลยเวลานอนของลูกไปแล้ว"ทีกับแม่
ไม่นานรถตู้ที่นั่งกันมาก็จอดลงบนชั้นในชั้นวีไอพีที่มีลิฟต์ส่วนตัวเอารถขึ้นมายังชั้นวีไอพีได้เลยไม่ต้องผ่านประตูหน้าโรงพยาบาลเพื่อปิดไม่ให้เรื่องราวเล็ดรอดออกไปให้คนนอกรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดในขึ้นครั้งนี้"เตียงผู้ป่วยมาแล้วค่ะท่านรอง" อาเธอร์เดินลงมายืนเองยกมือห้ามทีมแพทย์ที่กำลังจะเข้ามารุมล้อมแผลภายนอกเล็กน้อยให้ดูเป็นเรื่องราวบาตเจ็บสาหัสใหญ่โตไปได้"อย่าโทรไปรายงานท่านประธานนะเดียวผมกลับบ้านไปบอกท่านเองพวกคุณไม่ต้องโทรไปรบกวนเวลาพักผ่อนเข้าใจไหม ถ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของผมจะตัดเงินเดือนพวกคุณทุกคนที่รู้เรื่องนี้" "รับทราบค่ะครับท่านรอง" ทีมแพทย์ไม่ว่าคนหนุ่มหรือคนแก่ต่างก็กลัวลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลในโหมดหน้าตึงสั่งเสียงเฉียบขาดอย่างนี้ทุกคน"พวกคุณไม่ต้องมารักษาผมจะให้ภรรยาของผมเป็นคนดูแลเองเธอก็เป็นหมอเหมือนกันไม่ต้องห่วงนะแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเองเถอะ""เอ่อถือว่าลุงขอร้องนะอาเธอร์ควรจะแสกนตรวจดูภายในว่าเป็นอะไรหรือเปล่าให้ละเอียดก่อนนะ" หัวหน้าทีมแพทย์ที่อาวุธโสที่สุดเอ่ยออกมาอย่างไม่ไว้ในด้วยคนตรงหน้าเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ถึงไม่รายงานเจ้านายแต่ก็
"ได้ที่อยู่ของเขาแล้วครับท่านรอง" ผู้ช่วยคนใหม่ของอาเธอร์ที่เขาได้คัดเลือกขึ้นมาเองใหม่มีทั้งฝีมือในการทางวิชาการและมีความรู้เรื่องวิชาการป้องกันตัวทุกแขนงมาได้ถึงสองคนเพื่อเป็นมือซ้ายมือขวา"ออกไปเตรียมรถและคนรอฉันอีกครึ่งชั่วโมงเราจะเดินทางไปหาตัวมัน" พอผู้ช่วยคนใหม่ออกไปแล้ว อาเธอร์ก็กดโทรหาลูกศรที่น่าจะเลิกเรียนแล้วพอดีและยังไม่ลืมโทรหาคุณย่าให้ท่านพาออกัสเข้านอนก่อนเลยเพราะพ่อแม่มีธุระต้องกลับดึกในคืนนี้"เตรียมใจของเธอให้พร้อมนะลูกศร" อาเธอร์พูดขึ้นขนาดที่ลูกศรขึ้นมานั่งบนรถข้างเขา ส่วนรถของเธอที่ขับมาเรียนวันนี้ให้คนขับรถของเขาขับตามมาด้านหลัง "ไม่ต้องหรอกห่วงน่า นี้นายเอาคนไปด้วยเยอะไปไหมเนี้ยอาเธอร์" ลูกศรมองรถอีกสองคันที่ขับตามมาเห็นคนเต็มคันรถที่ตามมาส่วนคันนี้มีแค่เธอกับเขาและคนขับเพียงสามคนในรถตู้คันหรูนี้"เอาไปเผื่อไว้ทางนั้นก็ไม่ได้กระจอกอย่างที่คาดคิดเอาไว้แต่แรกหรอกนะลูกศร""ก็ได้ฉันเชื่อนาย" "เด็กดี" อาเธอร์จับหัวลูกศรซบลงบนอกกอดเธอเอาไว้แน่นหลับตาลง"อยากให้ถึงที่หมายในเร็วๆเรื่องนี้จะได้จบลงซะที จะได้กลับบ้านไปหาลูกกันเนอลูกศร" อาเธอร์ว่าขึ้นแค่ทำงานบริหารและร่ว
ลูกศรจับเวลาเอาไว้สักห้านาทีจนแน่ใจแล้วอริสไปออกไปจากบริเวณห้องน้ำแล้วค่อยออกมาแล้วไปทำงานของตัวเองต่อในหัวของเธอก็คิดแต่เรื่องที่พึ่งได้รับรู้คิดว่าเธอควรจะแก้ปัญหานี้เองหรือบอกอาเธอร์ให้เขาช่วยปัญหาแต่อีกใจก็ไม่อยากบอกเขาเพราะกลัวว่าคนใจร้อนจะทำให้เรื่องราวใหญ่ดตอย่างที่อริสเตือนจุลนั้นแหละ"คุณหมอลูกศรมีสมาธิหน่อยสิค่ะเย็บแผลพลาดขึ้นมาคนไข้จะร้องเรียกเราได้นะคะ" เสียงเข้มของพยาบาลอาวุธโสที่ทำงานมานานนับสิบกว่าปีเตือนน้องหมอใหม่อย่าดุๆ"อะเอ่อขอโทษค่ะ หมอจะมีสมาธิให้มากกว่านี้" ลูกศรตั้งใจเย็บแผลให้เรียบร้อยที่สุดตัดเรื่องรบกวนภายในจิตใจออกตั้งใจทำงานตามหน้าที่ของตัวเองที่ได้รับมอบหมายตรงหน้าให้ดีหลังเลิกงานประมาณสี่โมงเย็นลูกศรขับรถตรงกลับบ้านด้วยจิตใจที่ไม่ค่อยมีสมาธิยังดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น"เฮ้อเอาไงดีนะยัยลูกศรบอกอาเธอร์ดีไหมนะ" บ้านของอาเธอร์กับโรงพยาบาลของเขาห่างกันแค่ยี่สิบนาทีก็ถึงแล้วเรียกว่าใกล้กว่าทุกวันมากจะถึงบ้านไวไปไหมเนี้ยคนยิ่งตัดสินใจไม่ได้อยู่ด้วย"ก๊อก ก๊อก ก๊อก" เสียงเคาะกระจกรถเรียกให้คนที่กำลังใช้ความคิดอยู่ในหัวสะดุ้งตกใจขึ้นมา อาเธอร์ทำมือท่าเปิดประต