ไม่นานรถตู้ที่นั่งกันมาก็จอดลงบนชั้นในชั้นวีไอพีที่มีลิฟต์ส่วนตัวเอารถขึ้นมายังชั้นวีไอพีได้เลยไม่ต้องผ่านประตูหน้าโรงพยาบาลเพื่อปิดไม่ให้เรื่องราวเล็ดรอดออกไปให้คนนอกรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดในขึ้นครั้งนี้
"เตียงผู้ป่วยมาแล้วค่ะท่านรอง" อาเธอร์เดินลงมายืนเองยกมือห้ามทีมแพทย์ที่กำลังจะเข้ามารุมล้อมแผลภายนอกเล็กน้อยให้ดูเป็นเรื่องราวบาตเจ็บสาหัสใหญ่โตไปได้
"อย่าโทรไปรายงานท่านประธานนะเดียวผมกลับบ้านไปบอกท่านเองพวกคุณไม่ต้องโทรไปรบกวนเวลาพักผ่อนเข้าใจไหม ถ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของผมจะตัดเงินเดือนพวกคุณทุกคนที่รู้เรื่องนี้"
"รับทราบค่ะครับท่านรอง" ทีมแพทย์ไม่ว่าคนหนุ่มหรือคนแก่ต่างก็กลัวลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลในโหมดหน้าตึงสั่งเสียงเฉียบขาดอย่างนี้ทุกคน
"พวกคุณไม่ต้องมารักษาผมจะให้ภรรยาของผมเป็นคนดูแลเองเธอก็เป็นหมอเหมือนกันไม่ต้องห่วงนะแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเองเถอะ"
"เอ่อถือว่าลุงขอร้องนะอาเธอร์ควรจะแสกนตรวจดูภายในว่าเป็นอะไรหรือเปล่าให้ละเอียดก่อนนะ" หัวหน้าทีมแพทย์ที่อาวุธโสที่สุดเอ่ยออกมาอย่างไม่ไว้ในด้วยคนตรงหน้าเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ถึงไม่รายงานเจ้านายแต่ก็ต้องเน้นย้ำความปลอดภัยเป็นพิเศษกับอาเธอร์
"ก็ได้ครับลุงหมอ" อาเธอร์นั่งให้ลูกศรช่วยเย็บแผลที่แขนและทำแผลที่ได้รับบาตเจ็บจาการต่อยตีกันมาเสร็จแล้วก็ยอมเดินไปห้องตรวจเอกซเรย์ดูภายในร่างกายว่ามีอะไรได้รับบาตเจ็บถึงข้างในไหม
สองชั่วโมงต่อมาผลตรวจก็ออกมาว่าทุกอย่างปกติดีไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วนอกจากบาตแผลภายนอกเล็กน้อยที่เห็นเท่านั้น
"นอนให้น้ำเกลือสักคืนหน่อยนะอาเธอร์ถึงแม้จะไม่ได้เป็นอะไรก็ตามแต่เพื่อความสบายใจของฉันนะ" ลูกศรจับมือคนรักอย่างขอร้อง
"เฮ้อก็ได้ลูกศร"
"เดียวฉันจะนอนเฝ้านายเองนะคืนนี้"
"ตามใจเธอทุกอย่าง" ลูกศรเดินไปบอกพยาบาลให้เข้าน้ำเกลือให้อาเธอร์บอกว่าเขาจะนอนพักหนึ่งคืนที่นี้
"เธอไปนอนได้แล้วไม่ต้องมานั่งเฝ้าฉันก็จะหลับเหมือนกัน" อาเธอร์ไล่คนตัวเล็กให้ไปนอนบนเตียงเสริมที่มีในห้องพักวีไอพีเพื่อเฝ้าไข้
"ก็ได้ปิดไฟแล้วนะนายนอนหลับเถอะ" ลูกศรยอมเชื่อฟังอาเธอร์ขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างว่าง่าย
อาเธอร์เหลือบมองไปยังลูกศรที่นอนลืมตาอยู่หันมามองเขาเช่นกัน
"ฉันจะไม่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากที่เธอออกมาจากห้องนั้นนะลูกศรไม่ต้องมาถามเข้าใจไหม ลืมเรื่องไอ้หมอนั้นมันไปซะฉันจัดการทุกอย่างให้จบได้แล้ว"
"นายจะปิดบังฉันทำไมเนี้ยอยากรู้ก็ไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้เลิกพูดถึงเรื่องนี้กันเถอะ ฉันเพลียมากแล้วนอนก่อนนะ" อาเธอร์ตัดบทสนทนาจากลูกศรเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะคุยเรื่องนี้ให้จบ เมื่อเขาไม่ยอมบอกให้เธอรู้ด้วยลูกศรก็ไม่สามารถบังคับเขาได้เลยเลิกสนใจอย่างที่เขาบอกเธอ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูปลุกคนทั้งคู่ให้รู้สึกตัวตื่นจากการหลับใหล
"พ่อแม่กัสมาแล้วครับ" เจ้าหนูสะพายกระเป๋าในชุดนักเรียนเข้ามาในห้องพักไข้ของพ่อ จากทีแรกที่กำลังทานข้าวเช้าปู่ก็ได้รับโทรศัพท์จากคนที่โรงพยาบาลว่าพ่อนอนอยู่โรงพยาบาลส่วนสาเหตุให้ปู่มาถามเอากับพ่อต่อหน้าเอาเอง ทำให้เจ้าหนูที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเตรียมจะไปโรงเรียนต้องขาดเรียนเพื่อมาหาพ่อที่อยู่ๆก็ถึงกับต้องนอนโรงพยาบาล
"อะอ้าวออกัสมาได้ไงเนี้ยลูกไม่ไปโรงเรียนเหรอ"
"ปู่ย่าพากัสมาเยี่ยมพ่อครับแม่" เจ้าหนูเดินเข้าไปใกล้ทำท่าให้แม่อุ้มขึ้นไปนั่งบนเตียงที่แม่นั่งอยู่
"แม่พึ่งตื่นเดียวขอไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็ลงไปซื้อของบำรุงให้กับพ่อด้วย ออกัสไปกับแม่ได้ไหมครับ" ลูกศรกำลังเปิดทางให้อาเธอร์ได้อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับพ่อแม่ของเขาได้รับรู้
"ได้ครับแม่กัสไปด้วย" จากนั้นสองแม่ลูกก็ลงไปหาซื้อของด้านล่างโรงพยาบาลโดยปล่อยให้พ่อปู่ย่าได้คุยกันตามลำพัง
"ว่ามาเกิดอะไรขึ้นแล้วแขนแกไปโดนอะไรมาเจ้าอาเธอร์"
"ผมถูกยิงครับพ่อแม่คือเรื่องที่เกิดขึ้นจาก..." อาเธอร์เล่าเรื่องทุกอย่างให้พ่อกับแม่เขาฟังโดยไม่ปิดบัง
"ลูกก็ยังใจร้อนเหมือนเดิม พ่อคิดว่าแกมีออกัสแล้วจะเลิกใจร้อนได้เด็ดขาดที่ไหนได้ก็ยังฟิวขาดไปต่อยดีกับเขาจนเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทางนี้จะแจ้งความอะไรไหม"
"มันไม่กล้าหรอกครับเพราะตัวมันเองก็มีความผิดเหมือนกันพ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะเกิดข่าวลือจนเสียภาพลักษณ์ของผมในฐานะผู้บริหารนะครับ"
"ถ้าแกแน่ใจก็พักเถอะพ่อต้องไปประชุมต่อแล้ว" ท่านประธานเจ้าของโรงพยาบาลเมื่อแน่ใจแล้วว่าลูกชายไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วก็ไปทำงานของตัวเองต่อ
"ออกัสซื้อของกินมาแล้วครับพ่อ" ออกัสเปิดประตูถือถุงอาหารถุงเล็กเข้ามานำหน้าแม่ที่เดินตามหลังแกมา
"แม่ก็ต้องเข้าไปดูบัญชีที่ร้านเสื้อเหมือนกันไปก่อนนะลูก"
"ครับแม่ไปเถอะไม่ต้องเป็นห่วงผมอีกหน่อยก็ถอดสายน้ำเกลือได้แล้วจะกลับไปพักหยุดงานสักหนึ่งวันรู้สึกปวดแขนคงทำงานไม่ไหวแน่วันนี้"
"จ้าแม่ไปแล้ว หนูลูกศรแม่ฝากดูแลอาเธอร์ด้วยนะจ๊ะลูก"
"ได้ค่ะคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ" จากร่ำลาว่าที่ลูกสะใภ้แล้วคุณย่าก็รีบออกไปตอนนี้ในห้องเหลือเพียงสามคนพ่อแม่ลูก
"ออกัสซื้ออะไรมาฝากพ่อด้วยครับลูกเอามาดูซิ" จากนั้นคนป่วยอย่างพ่อก็เป็นฝ่ายป้อนของกินที่ซื้อมาให้กับลูกชายตัวน้อยแทนอย่างงงๆตกลงใครป่วยกันแน่เนี้ยเจ้าหนูจอมกินจุ
ในห้องนอนของเราออกัสที่ว่าง่ายเพราะรู้ว่าพ่อป่วยเลยไม่งอแงจะเล่นซนเหมือนทุกวันนอนเฝ้าไข้พ่อไม่นานก็หลับสนิทแทนพ่อไปเรียบร้อยแล้ว
"ลูกศร"
"ว่าไง" ลูกศรเงยหน้าทำงานอยู่ถึงแม้วันนี้จะขาดเรียนแต่ก็ยังเอางานมาทำเพื่อเคลียร์ให้เสร็จไวๆ
"ฉันคิดว่าตัวเองเป็นพ่อที่ดีแล้ว"
"ใช่นายเป็นอย่างนั้นจริงๆนะอาเธอร์เป็นพ่อที่ดีของออกัสมากๆเลย" ลูกศรยิ้มเห็นด้วยกับคนป่วยที่พูดออกมา
"แต่ตอนนี้อยากเป็นสามีที่ดีเพิ่มจะได้ไหมลูกศร" อาเธอร์ลุกขึ้นจากเตียงนอน เขาเดินไปหาลูกศรที่นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพร้อมกับคุกเข่าลงตรงหน้าเธอจุมมือเอาไว้ทั้งสองข้าง
"เราแต่งงานกันนะลูกศร" อาเธอร์เอากล่องแหวนขึ้นมาเปิดตรงหน้าสายตาเว้าวอนหวานซึ้งมองมายังเธอ
"ฮึกนายแน่ใจจริงๆเหรอ"
"ฉันไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้แล้วลูกศร ถึงแม้ว่าสถานที่ตอนนี้จะไม่เหมาะเท่าไหร่แต่ฉันไม่อยากรอสถานที่อะไรนั้นแล้วอยากเร่งถามเธอในตอนนี้ให้ได้คำตอบ"
"อืมถ้านายแน่ใจ ฉันก็ตกลง" ลูกศรยิ้มน้ำตาแห่งความยินดีไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
"อย่าร้องไห้สินี้มันเป็นเรื่องน่ายินดีของเราสองคนนะที่รัก"
"แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ดีของเรามากๆที่รัก แต่ว่าคนมันซึ่งจนน้ำตาไหลนายเคยได้ยินไหมอาเธอร์" ลูกศรอดที่จะบ่นอาเธอร์ไม่ได้ขึ้นมา
"โอเคเธอร้องไห้ก็เพราะกำลังดีใจนะ"
"ดีใจที่สุดอยู่แล้วอาเธอร์ใครจะรู้ว่าฉันจะถูกนายขอแต่งงานจริงๆอย่างนี้"
"ฉันก็ดีใจมากเหมือนกัน รักเธอมากนะลูกศร"
"ฉันก็รักนายมากเหมือนกันอาเธอร์"
"สวมแหวนกันเถอะที่รัก" อาเธอร์สวมแหวนให้กับลูกศรพร้อมกับก้มจูบนิ้วที่สวมแหวนเนินนาน ก่อนจะผละออกแล้วรั้นใบหน้าของลูกศรเข้ามาใกล้ประกบปากจูบอย่างดูดดื่มลิ้นเกี่ยวพันกัน
"พ่อกัสปวดอึครับ พาลูกไปห้องน้ำด้วย" ร่างเล็กของเจ้าหนูมาเขย่าขากางเกงพ่อ
"โอ้ยระบบขับถ่ายของลูกมันจะมาได้จังหวะทุกครั้งไปไหนเนี้ยออกัสขัดจังหวะพ่อแม่ประจำเลยนี้นะลูก" ถึงปากจะบ่นแต่พ่อก็ต้องทำหน้าที่พาลูกไปเข้าห้องน้ำโดยด่วนกลัวว่าจะราดก่อนถึงโถส้วม
ตกกลางคืน"ออกัสนอนกับพ่อแม่ไม่ได้เหรอครับ" เจ้าหนูคอตกกอดหุ่นยนต์ซุปเปอร์แมนเอาไว้ยู้ปากอย่างแงงอนไม่ยินยอม"ไม่ได้ห้องลูกเสร็จแล้วคืนนี้จะต้องเป็นคืนแรกที่ออกัสต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่โดยการนอนคนเดียวนะลูก" คนเป็นพ่อยังแค้นเจ้าลูกชายที่มาขัดจังหวะหวานซึ้งระหว่างขอคนเป็นแม่แต่งงานอยู่บอกเสียงแข็งอย่างไม่ยินยอมใจอ่อนให้เจ้าหนูวัยสามขวบกว่าๆคนนี้ได้นอนกับพ่อแม่ในคืนนี้"กัสเป็นเด็กนะพ่อ" เจ้าหนูแสนฉลาดตอบโต้พ่อของแกอย่างไม่ยินยอมเช่นกัน"ลูกโตแล้วนะออกัสไปโรงเรียนแล้วควรแยกห้องนอนคนเดียวได้แล้ว""แต่พี่ป.1บอกว่ากัสเป็นเด็กที่สุดเลยนะพ่อยังไม่โตเล้ยยย" อาเธอร์ถึงกับอยากบิดหูเจ้าหนูตรงหน้านี้เขาเป็นที่สุดท่องเอาไว้อาเธอร์ลูกเราเหมือนเราโว้ยจะอดทนไม่ไหวแล้วเนี้ย"ฮึกฮ่าๆพอๆทั้งพ่อทั้งลูกเลิกเถียงกันได้แล้ว มาครับออกัสมาแม่อุ้มพาไปดูห้องใหม่กัน ถ้าลูกเห็นแล้วยังอยากนอนกับพ่อแม่อยู่แม่ก็จะไม่บังคับลูกนะจ๊ะ" แม่อุ้มเจ้าหนูพาเดินไปยังทิศทางห้องนอนใหม่ของแกชั้นบนของบ้านเพื่อตัดปัญหาที่ผู้ชายหน้าตาเหมือนกันแต่ต่างกันที่ขนาดยืนเท้าใส่เอวเถียงกันไม่หยุดจนจะดึกดื่นเลยเวลานอนของลูกไปแล้ว"ทีกับแม่
"พวกลูกจะไปจัดงานแต่งงานที่บ้านต่างจังหวัดของหนูลูกศรเหรอ" คุณย่าของออกัสถามลูกชายกับลูกสะใภ้ของท่านที่เล่าเรื่องงานแต่งงานของทั้งคู่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้อย่างปุ๊บปั๊บแบบแต่งงานสายฟ้าแลบ"ใช่ครับ รบกวนคุณแม่ให้ไปหาฤกษ์ให้ผมกับลูกศรภายในสองเดือนนี้เลยได้ไหมครับ" คนใจร้อนที่ครั้งนี้ลูกศรไม่คิดจะห้ามเขาพร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้า"โอ้ยแกใจร้อนไปไหมเจ้าอาเธอร์" คุณปู่ของออกัสอดที่จะแซวลูกชายของตัวเองไม่ได้พร้อมกับรอยยิ้มเหมือนกันเพราะว่าท่านก็รอคอยให้ครอบครัวของลูกชายสมบูรณ์จริงๆสักที"ไม่ร้อนหรอกครับพ่อ ผมกับลูกศรเสียเวลาที่จะได้แต่งงานกันมา4ปีแล้วนะพ่อกับแม่ก็รู้ดี""นั้นสิเนอะเอาจริงถ้าเริ่มนับตั้งแต่ลูกว่ามาตอนนี้ก็ช้าไปจริงๆนั้นแหละเจ้าอาเธอร์แล้วหนูลูกศรบอกพ่อแม่ของหนูหรือยังจ๊ะ" "ยังค่ะคุณแม่เดียวคุยเสร็จจากตรงนี้ หนูค่อยโทรบอกพวกท่านเลยนะคะ""ได้ๆถ้างั้นกลางเดือนนี้แม่จะไปคุยเรื่องสินสอดทองหมั่นพร้อมกันกับพวกลูกในวันที่กลับบ้านของหนูในกลางเดือน" "ได้ค่ะคุณแม่" เมื่อตกลงกันได้คุณย่าของออกัสก็ออกไปพร้อมกับคุณปู่เพื่อไปหาพระอาจารย์ดังที่พวกท่านนับถือให้หาฤกษ์ภายในสองเดือนให้ตามที่
"ว้าแม่ขึ้นมาเสียเที่ยวเลยแต่ใกล้จะได้ฤกษ์แห่ขันหมากอีกสามสิบนาทีนี้แล้วแม่ไปเช็คความเรียบร้อยข้างล่างก่อนนะลูก""ได้ค่ะแม่หนูก็เสร็จเรียบดีแล้วแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ" แม่เดินมากอดลูกศรพร้อมกับอดที่จะน้ำตาคลอจะไหลออกมาไม่ได้"ฮึกแม่ดีใจมากที่ได้ส่งลูกสาวคนเดียวเป็นฝั่งเป็นฝาสักที""ฮึกหนูก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เหมือนกันค่ะแม่" สองแม่ลูกกอดกันกลมน้ำตาที่ไหลเป็นน้ำตาแห่งเป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปิติยินดีอีกหนึ่งวันในชีวิตของคนเป็นพ่อแม่"เอาๆอย่าร้องไห้วันนี้เป็นวันมงคลยิ้มกว้างๆเดียวเครื่องสำอางจะเลอะเอาได้นะลูก" แม่เช็ดน้ำตาให้ลูกศร"ขอบคุณค่ะแม่ ขอบคุณที่ไม่ว่าหนูจะทำตัวทั้งดีและไม่ดีที่ผ่านมาแม่กับพ่อก็ใหอภัยหนูเสมอมา" ลูกศรที่กอดแม่อยู่ก็พยักหน้ายิ้มให้ท่าน"แม่กับพ่อภูมิใจในตัวของลูกเสมอนะไม่ว่าเรื่องอะไรแม้กระทั้งเรื่องหลานลูกสาวของแม่ก็เลี้ยงดูออกัสน้อยออกมาได้ดีมากอย่างโทษตัวเองอีกเลยพ่อกับแม่ไม่โกรธลูกแล้วปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไปนะลูก""หนูรักแม่ที่สุดเลย""ขบวนขันหมากแห่มาแล้ว!" เสียงร้องตะโกนโห่ขันหมากเข้ามาในบ้าน"ลูกได้เวลาฤกษ์แล้ว แม่ออกไปก่อนนะลูก" แม่รีบเด
งานช่วงกลางคืน"ก่อนที่จะทำการแสดงหมอลำในค่ำคืนนี้พวกเราอยากให้คู่บ่าวสาวของงานขึ้นมาบนเวทีเพื่อเล่าเรื่องราวความรักของคนทั้งคู่ให้กับแขกในงานได้รับรู้หน่อยครับ" เสียงพิธีกรประกาศเรียกบ่าวเช้าที่ยืนถ่ายรูปกับแขกที่มาในงานในค่ำคืนนี้"ขอสัมภาษณ์ความเป็นมาของเส้นทางรักในครั้งนี้หน่อยนะครับ ก่อนอื่นหมออาเธอร์กับหมอลูกศรรู้จักกันได้ยังไงครับ" พิธีกรยื่นไมค์ให้กับเจ้าบ่าวเป็นคนตอบก่อน"ผมเจอหน้าเธอครั้งแรกในร้านกาแฟหน้ามหาลัยครับ วันนั้นลูกศรนัดผมผ่านเพื่อนของเธอ เราคุยกันเรื่องสำคัญทำให้มีเรื่องให้เจอและสนิทกันจนก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมาใน4ปีที่ผ่านมาครับ""ว้าวรักตอนเรียนมหาลัยโรแมนติกมากๆเลยครับ เอาล่ะผมว่าใครๆก็คงอยากเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวบอกรักกันและหอมแก้มกันโชว์ความหวานให้พวกเราดูหน่อยนะครับ""อาเธอร์ฉันรักนายนะ" ลูกศรหอมแก้มเจ้าบ่าว"ลูกศรฉันก็รักเธอนะ" อาเธอร์ก็หอมแก้มเจ้าสาวแสนสวยของเขา"ว้าวปรบมือให้คู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับเจ้าของงานในคืนนี้ด้วยนะครับ" เสียงปรบมือแสดงยินดีดังกระหึ่มก่อนที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะพากันเดินลงจากเวทีไปนั่งยังโต๊ะของครอบครัวเสียงดนตรี
หลังจากงานแต่งงานที่บ้านนอกจบลง ลูกศรกับอาเธอร์ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะคนนึงมีงานอีกคนมีเรียนทำให้จำเป็นต้องกลับกรุงเทพเลยฉากลาจากของตายายหลานชายวัยสามขวบก็เรียกเสียงร้องไห้งอแงไม่อยากกลับของออกัสเหมือนเดิมกว่าจะหายงอแงก็จนถึงบ้านที่กรุงเทพนั้นแหละตอนนี้ลูกศรนอนอยู่ในห้องนอนที่คอนโดหรูของอาเธอร์ที่หยุดงานขอฮันนีมูนในคอนโดหรูกลางกรุงแห่งนี้โดยที่เจ้าลูกชายตัวป่วนไปโรงเรียน"ลูกศรเธอต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ในคืนเข้าหอนะ" อาเธอ์กอดรัดเอวบางเอาไว้แน่นซบหน้ากับบ่าเล็กคอเคลียร์ปากพ้นจูบไปเรื่อยจนถึงซอกคอ"สัญญาเหรอเรื่องอะไรนะทำไมยักกะจำไม่ได้""ลูกศรอย่ามาแกล้งเซไสอย่างนี้นะ เธอบอกจะขึ้นให้ฉันต้องทำตามสัญญานะบนโซฟานี้มองเห็นวิวตึกสูงข้างนอกอ้าส์วิวดีเหมาะกับการผลิตน้องสาวให้ออกัสมากๆเลยที่รัก""ท่าทางแบบนี้หักล้างใบหน้าหล่อๆของนายมากอาเธอร์ อย่ามาทำหน้าตาหื่นกามลามกแบบนี้ใส่ฉันนะ""ฮ่าๆฉันหื่นใส่เมียตัวเองผิดตรงไหนเนี้ยลูกศรยัยบ๊อง" อาเธอร์ดีดหน้าผากของลูกศรเบาอย่างหมั่นเขียวแล้วตวาดอุ้มร่างบางไปยังโซฟาที่เขาหมายมาดอย่างที่พูดออกมาเสื้อยืดสีขาวถูกถอดออกไปพร้อมโยนทิ้งอย่างไม่สนทิศทางตามด้วยกาง
3เดือนต่อมา..."อาเธอร์ฉันซื้อเนคไทด์ใหม่มาให้ลองเปิดดูซิว่านายจะชอบลายที่ฉันเลือกมาให้ไหม" วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ปกติลูกศรต้องไปทำงานแต่อาเธอร์อนุญาตให้ทำงานได้แค่วันเสาร์เท่านั้น ส่วนในวันอาทิตย์ให้เธอได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวบ้าง"ว้าวไหนดูซิว่าเธอจะเลือกแบบไหนให้สามีที่รักคนนนี้" อาเธอร์รับเอากล่องที่ภรรยาสาวยื่นให้กับเขา"เร็วๆรีบเปิดดูซิ" ลูกศรตื่นเต้นกับปฏิกิริยาของคนเป็นสามีอย่างเร่งเร้าให้เขารีบเปิดกล่องดู"ดูเธอจะตื่นเต้นมากเลยนะลูกศร เดือนนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดของฉันนี้น่ามีอะไรกัน" อาเธอร์งงกับท่าทางของเมียตัวเองแต่ก็ยอมเปิดกล่องที่ลูกศรเอามาให้นี้ พอเปิดฝากล่องออกมาก็เจอกับ..."ที่ตรวจครรภ์นี้น่าลูกศร ธะเธอท้องแล้วเหรอเนี้ยโอ้สุดยอด" คนเป็นพ่อที่ขยันทำลูกแทบทุกคืนไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตามยังคงพยายามหื่นใส่ลูกศรทุกคืนโดยให้เหตุผลกับเธอเสมอว่าต้องมีน้องตัวน้อยๆให้ออกัส"ใช่ได้3เดือนแล้วนายดีใจมากไหมรอมานานหลายเดือนแล้วนี้น่า""ดีใจที่สุดเลยลูกศร ฉะฉันต้องไปบอกออกัสไม่สิพ่อแม่ของเราด้วยว่าพวกท่านกำลังจะได้มีหลานเพิ่มแล้วไปก่อนนะ" คนเป็นพ่อรีบวิ่งเอาที่ตรวจภรรค์ไปบอกข่าว
"เอ้าไม่เคยดื่มก็ต้องลอง พวกเรากำลังจะเป็นหมอเต็มตัวกันแล้วกลัวอะไร" เธอพยายามดันแก้วออกหากจากตัวแต่เหมือนว่าเพื่อนสาวในกลุ่มจะไม่ยอมให้ปฏิเสธพยายามยื้อจะให้เธอดื่มเข้าไป "ไม่เอาเดี่ยวเมาแล้วกลับหอไม่ได้""กลัวอะไรมีแต่เพื่อนร่วมรุ่นทั้งนั้น อีกอย่างเธอต้องออกไปทำงานก็ต้องมีงานเลี้ยงสรรค์สังเข้าสังคมเรื่องดื่มต้องหัดเอาไว้ศร" "กะก็ได้"ลูกศรจำใจยกแก้วกลั่นใจดื่มแอลกอฮอล์ที่ตัวเองไม่เคยแตะต้องมาก่อนในชีวิตรสชาติคอมบาดคอจนแทบกลืนลงไม่ไหวแต่ก็ขืนแรงยุของกลุ่มเพื่อนไม่ได้แล้วมีแต่ต้องฝืนดื่มให้หมดแก้ว "เก่งมากเพื่อนสาวชะนีน้อยผู้เรียบร้อยของกลุ่มเรา" หนุ่มตี๋เพื่อนเก้งในกลุ่มของลูกศรปรบมืออย่างถูกอกถูกใจที่ยุยงลูกศรดื่มได้สำเร็จ "ศรรู้สึกว่าแผ่นดินกำลังไหว ทำยังไงดี!" คนที่โดนเพื่อนแกล้งมอมเหล้าตะโกนโวยวายขึ้นมาดังรั้นโต๊ะในงานเลี้ยงรุ่นของพี่ปีสุดท้ายในการเรียนหมอของคณะ "ฮ่าๆไอ้ศรใจเย็นแก้วเดียวถึงกับเมาโวยวายเลยเหรอเพื่อน" สาวน้อยชื่อว่าลูกศรหันไปมองเพื่อนผ่านเลนส์แว่นตาหนาเตอะของเธอพยายามเพ็งเล็งคนพูดว่าคือใครเพราะสมองของลูกศรตอนนี้มันเบลอไปหมดจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว "แกเป็นใคร" คนเมา
ลูกศรรู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัวเหมือนคนผ่านสนามรบมาจะขยับตัวลุกขึ้นก็แทบไม่ไหว "ตื่นแล้วเหรอ" เสียงทุ้มไม่คุ้นหูของคนที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ดังขึ้นเหนือหัวของลูกศร "อาเธอร์" เมื่อสมองประมวลเหตุการเมื่อคืนที่งานเลี้ยงรุ่นจนมาจบที่บนเตียงนี้ของเธอและเขาอย่างที่เห็น "ใช่ฉันเอง ว่าแต่เธอชื่ออะไรฉันยังไม่รู้จักชื่อของเธอเลย" คนตัวสูงถามผู้หญิงที่เขานอนด้วยความไม่ได้ตั้งเมื่อคืน "ระเราชื่อลูกศร" ลูกศรรู้สึกว่าแก้มของเธอร้อนผ่าวมันต้องแดงแน่แค่คิดก็อายแทบแทรกแผ่นดินแล้ว "เรียนคณะแพทย์ปีเดียวกันเหรอทำไมไม่ค่อยคุ้นหน้าเลย" อาเธอร์มองหน้าเธออย่างพิจารณา "ใช่ค่ะ แต่ปกติเราใส่แว่นตอนนี้ไม่ใส่เธอคงไม่คุ้นหน้าได้" "ก็คงจะเป็นอย่างนั้น" คนตัวสูงยักไหล่ด้วยความไม่แคร์เท่าไหร่ ส่วนลูกศรได้แต่ยิ้มเจื่อนๆอย่างทำตัวไม่ถูกจะลุกขึ้นแล้วไปแต่งตัวเพื่อออกจากห้องกลับหอพักแต่รู้สึกว่าจะลุกขึ้นเองไม่ไหวตอนนี้"คือว่ารบกวนพยุงเราไปห้องน้ำหน่อยได้ไหม" อาเธอร์พยักหน้ารับแล้วลุกออกจากเตียงเพื่อพยุงลูกศรตามที่เธอเรียกร้อง "ได้เดินไหวแน่นะ" ลูกศรพยักหน้ายืนยันว่าเธอไหวแล้วค่อยๆก้าวขาสั่นๆเดินเข้าห้องน้ำเอง พอเข้าม
3เดือนต่อมา..."อาเธอร์ฉันซื้อเนคไทด์ใหม่มาให้ลองเปิดดูซิว่านายจะชอบลายที่ฉันเลือกมาให้ไหม" วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ปกติลูกศรต้องไปทำงานแต่อาเธอร์อนุญาตให้ทำงานได้แค่วันเสาร์เท่านั้น ส่วนในวันอาทิตย์ให้เธอได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวบ้าง"ว้าวไหนดูซิว่าเธอจะเลือกแบบไหนให้สามีที่รักคนนนี้" อาเธอร์รับเอากล่องที่ภรรยาสาวยื่นให้กับเขา"เร็วๆรีบเปิดดูซิ" ลูกศรตื่นเต้นกับปฏิกิริยาของคนเป็นสามีอย่างเร่งเร้าให้เขารีบเปิดกล่องดู"ดูเธอจะตื่นเต้นมากเลยนะลูกศร เดือนนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดของฉันนี้น่ามีอะไรกัน" อาเธอร์งงกับท่าทางของเมียตัวเองแต่ก็ยอมเปิดกล่องที่ลูกศรเอามาให้นี้ พอเปิดฝากล่องออกมาก็เจอกับ..."ที่ตรวจครรภ์นี้น่าลูกศร ธะเธอท้องแล้วเหรอเนี้ยโอ้สุดยอด" คนเป็นพ่อที่ขยันทำลูกแทบทุกคืนไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตามยังคงพยายามหื่นใส่ลูกศรทุกคืนโดยให้เหตุผลกับเธอเสมอว่าต้องมีน้องตัวน้อยๆให้ออกัส"ใช่ได้3เดือนแล้วนายดีใจมากไหมรอมานานหลายเดือนแล้วนี้น่า""ดีใจที่สุดเลยลูกศร ฉะฉันต้องไปบอกออกัสไม่สิพ่อแม่ของเราด้วยว่าพวกท่านกำลังจะได้มีหลานเพิ่มแล้วไปก่อนนะ" คนเป็นพ่อรีบวิ่งเอาที่ตรวจภรรค์ไปบอกข่าว
หลังจากงานแต่งงานที่บ้านนอกจบลง ลูกศรกับอาเธอร์ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะคนนึงมีงานอีกคนมีเรียนทำให้จำเป็นต้องกลับกรุงเทพเลยฉากลาจากของตายายหลานชายวัยสามขวบก็เรียกเสียงร้องไห้งอแงไม่อยากกลับของออกัสเหมือนเดิมกว่าจะหายงอแงก็จนถึงบ้านที่กรุงเทพนั้นแหละตอนนี้ลูกศรนอนอยู่ในห้องนอนที่คอนโดหรูของอาเธอร์ที่หยุดงานขอฮันนีมูนในคอนโดหรูกลางกรุงแห่งนี้โดยที่เจ้าลูกชายตัวป่วนไปโรงเรียน"ลูกศรเธอต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ในคืนเข้าหอนะ" อาเธอ์กอดรัดเอวบางเอาไว้แน่นซบหน้ากับบ่าเล็กคอเคลียร์ปากพ้นจูบไปเรื่อยจนถึงซอกคอ"สัญญาเหรอเรื่องอะไรนะทำไมยักกะจำไม่ได้""ลูกศรอย่ามาแกล้งเซไสอย่างนี้นะ เธอบอกจะขึ้นให้ฉันต้องทำตามสัญญานะบนโซฟานี้มองเห็นวิวตึกสูงข้างนอกอ้าส์วิวดีเหมาะกับการผลิตน้องสาวให้ออกัสมากๆเลยที่รัก""ท่าทางแบบนี้หักล้างใบหน้าหล่อๆของนายมากอาเธอร์ อย่ามาทำหน้าตาหื่นกามลามกแบบนี้ใส่ฉันนะ""ฮ่าๆฉันหื่นใส่เมียตัวเองผิดตรงไหนเนี้ยลูกศรยัยบ๊อง" อาเธอร์ดีดหน้าผากของลูกศรเบาอย่างหมั่นเขียวแล้วตวาดอุ้มร่างบางไปยังโซฟาที่เขาหมายมาดอย่างที่พูดออกมาเสื้อยืดสีขาวถูกถอดออกไปพร้อมโยนทิ้งอย่างไม่สนทิศทางตามด้วยกาง
งานช่วงกลางคืน"ก่อนที่จะทำการแสดงหมอลำในค่ำคืนนี้พวกเราอยากให้คู่บ่าวสาวของงานขึ้นมาบนเวทีเพื่อเล่าเรื่องราวความรักของคนทั้งคู่ให้กับแขกในงานได้รับรู้หน่อยครับ" เสียงพิธีกรประกาศเรียกบ่าวเช้าที่ยืนถ่ายรูปกับแขกที่มาในงานในค่ำคืนนี้"ขอสัมภาษณ์ความเป็นมาของเส้นทางรักในครั้งนี้หน่อยนะครับ ก่อนอื่นหมออาเธอร์กับหมอลูกศรรู้จักกันได้ยังไงครับ" พิธีกรยื่นไมค์ให้กับเจ้าบ่าวเป็นคนตอบก่อน"ผมเจอหน้าเธอครั้งแรกในร้านกาแฟหน้ามหาลัยครับ วันนั้นลูกศรนัดผมผ่านเพื่อนของเธอ เราคุยกันเรื่องสำคัญทำให้มีเรื่องให้เจอและสนิทกันจนก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมาใน4ปีที่ผ่านมาครับ""ว้าวรักตอนเรียนมหาลัยโรแมนติกมากๆเลยครับ เอาล่ะผมว่าใครๆก็คงอยากเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวบอกรักกันและหอมแก้มกันโชว์ความหวานให้พวกเราดูหน่อยนะครับ""อาเธอร์ฉันรักนายนะ" ลูกศรหอมแก้มเจ้าบ่าว"ลูกศรฉันก็รักเธอนะ" อาเธอร์ก็หอมแก้มเจ้าสาวแสนสวยของเขา"ว้าวปรบมือให้คู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับเจ้าของงานในคืนนี้ด้วยนะครับ" เสียงปรบมือแสดงยินดีดังกระหึ่มก่อนที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะพากันเดินลงจากเวทีไปนั่งยังโต๊ะของครอบครัวเสียงดนตรี
"ว้าแม่ขึ้นมาเสียเที่ยวเลยแต่ใกล้จะได้ฤกษ์แห่ขันหมากอีกสามสิบนาทีนี้แล้วแม่ไปเช็คความเรียบร้อยข้างล่างก่อนนะลูก""ได้ค่ะแม่หนูก็เสร็จเรียบดีแล้วแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ" แม่เดินมากอดลูกศรพร้อมกับอดที่จะน้ำตาคลอจะไหลออกมาไม่ได้"ฮึกแม่ดีใจมากที่ได้ส่งลูกสาวคนเดียวเป็นฝั่งเป็นฝาสักที""ฮึกหนูก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เหมือนกันค่ะแม่" สองแม่ลูกกอดกันกลมน้ำตาที่ไหลเป็นน้ำตาแห่งเป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปิติยินดีอีกหนึ่งวันในชีวิตของคนเป็นพ่อแม่"เอาๆอย่าร้องไห้วันนี้เป็นวันมงคลยิ้มกว้างๆเดียวเครื่องสำอางจะเลอะเอาได้นะลูก" แม่เช็ดน้ำตาให้ลูกศร"ขอบคุณค่ะแม่ ขอบคุณที่ไม่ว่าหนูจะทำตัวทั้งดีและไม่ดีที่ผ่านมาแม่กับพ่อก็ใหอภัยหนูเสมอมา" ลูกศรที่กอดแม่อยู่ก็พยักหน้ายิ้มให้ท่าน"แม่กับพ่อภูมิใจในตัวของลูกเสมอนะไม่ว่าเรื่องอะไรแม้กระทั้งเรื่องหลานลูกสาวของแม่ก็เลี้ยงดูออกัสน้อยออกมาได้ดีมากอย่างโทษตัวเองอีกเลยพ่อกับแม่ไม่โกรธลูกแล้วปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไปนะลูก""หนูรักแม่ที่สุดเลย""ขบวนขันหมากแห่มาแล้ว!" เสียงร้องตะโกนโห่ขันหมากเข้ามาในบ้าน"ลูกได้เวลาฤกษ์แล้ว แม่ออกไปก่อนนะลูก" แม่รีบเด
"พวกลูกจะไปจัดงานแต่งงานที่บ้านต่างจังหวัดของหนูลูกศรเหรอ" คุณย่าของออกัสถามลูกชายกับลูกสะใภ้ของท่านที่เล่าเรื่องงานแต่งงานของทั้งคู่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้อย่างปุ๊บปั๊บแบบแต่งงานสายฟ้าแลบ"ใช่ครับ รบกวนคุณแม่ให้ไปหาฤกษ์ให้ผมกับลูกศรภายในสองเดือนนี้เลยได้ไหมครับ" คนใจร้อนที่ครั้งนี้ลูกศรไม่คิดจะห้ามเขาพร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้า"โอ้ยแกใจร้อนไปไหมเจ้าอาเธอร์" คุณปู่ของออกัสอดที่จะแซวลูกชายของตัวเองไม่ได้พร้อมกับรอยยิ้มเหมือนกันเพราะว่าท่านก็รอคอยให้ครอบครัวของลูกชายสมบูรณ์จริงๆสักที"ไม่ร้อนหรอกครับพ่อ ผมกับลูกศรเสียเวลาที่จะได้แต่งงานกันมา4ปีแล้วนะพ่อกับแม่ก็รู้ดี""นั้นสิเนอะเอาจริงถ้าเริ่มนับตั้งแต่ลูกว่ามาตอนนี้ก็ช้าไปจริงๆนั้นแหละเจ้าอาเธอร์แล้วหนูลูกศรบอกพ่อแม่ของหนูหรือยังจ๊ะ" "ยังค่ะคุณแม่เดียวคุยเสร็จจากตรงนี้ หนูค่อยโทรบอกพวกท่านเลยนะคะ""ได้ๆถ้างั้นกลางเดือนนี้แม่จะไปคุยเรื่องสินสอดทองหมั่นพร้อมกันกับพวกลูกในวันที่กลับบ้านของหนูในกลางเดือน" "ได้ค่ะคุณแม่" เมื่อตกลงกันได้คุณย่าของออกัสก็ออกไปพร้อมกับคุณปู่เพื่อไปหาพระอาจารย์ดังที่พวกท่านนับถือให้หาฤกษ์ภายในสองเดือนให้ตามที่
ตกกลางคืน"ออกัสนอนกับพ่อแม่ไม่ได้เหรอครับ" เจ้าหนูคอตกกอดหุ่นยนต์ซุปเปอร์แมนเอาไว้ยู้ปากอย่างแงงอนไม่ยินยอม"ไม่ได้ห้องลูกเสร็จแล้วคืนนี้จะต้องเป็นคืนแรกที่ออกัสต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่โดยการนอนคนเดียวนะลูก" คนเป็นพ่อยังแค้นเจ้าลูกชายที่มาขัดจังหวะหวานซึ้งระหว่างขอคนเป็นแม่แต่งงานอยู่บอกเสียงแข็งอย่างไม่ยินยอมใจอ่อนให้เจ้าหนูวัยสามขวบกว่าๆคนนี้ได้นอนกับพ่อแม่ในคืนนี้"กัสเป็นเด็กนะพ่อ" เจ้าหนูแสนฉลาดตอบโต้พ่อของแกอย่างไม่ยินยอมเช่นกัน"ลูกโตแล้วนะออกัสไปโรงเรียนแล้วควรแยกห้องนอนคนเดียวได้แล้ว""แต่พี่ป.1บอกว่ากัสเป็นเด็กที่สุดเลยนะพ่อยังไม่โตเล้ยยย" อาเธอร์ถึงกับอยากบิดหูเจ้าหนูตรงหน้านี้เขาเป็นที่สุดท่องเอาไว้อาเธอร์ลูกเราเหมือนเราโว้ยจะอดทนไม่ไหวแล้วเนี้ย"ฮึกฮ่าๆพอๆทั้งพ่อทั้งลูกเลิกเถียงกันได้แล้ว มาครับออกัสมาแม่อุ้มพาไปดูห้องใหม่กัน ถ้าลูกเห็นแล้วยังอยากนอนกับพ่อแม่อยู่แม่ก็จะไม่บังคับลูกนะจ๊ะ" แม่อุ้มเจ้าหนูพาเดินไปยังทิศทางห้องนอนใหม่ของแกชั้นบนของบ้านเพื่อตัดปัญหาที่ผู้ชายหน้าตาเหมือนกันแต่ต่างกันที่ขนาดยืนเท้าใส่เอวเถียงกันไม่หยุดจนจะดึกดื่นเลยเวลานอนของลูกไปแล้ว"ทีกับแม่
ไม่นานรถตู้ที่นั่งกันมาก็จอดลงบนชั้นในชั้นวีไอพีที่มีลิฟต์ส่วนตัวเอารถขึ้นมายังชั้นวีไอพีได้เลยไม่ต้องผ่านประตูหน้าโรงพยาบาลเพื่อปิดไม่ให้เรื่องราวเล็ดรอดออกไปให้คนนอกรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดในขึ้นครั้งนี้"เตียงผู้ป่วยมาแล้วค่ะท่านรอง" อาเธอร์เดินลงมายืนเองยกมือห้ามทีมแพทย์ที่กำลังจะเข้ามารุมล้อมแผลภายนอกเล็กน้อยให้ดูเป็นเรื่องราวบาตเจ็บสาหัสใหญ่โตไปได้"อย่าโทรไปรายงานท่านประธานนะเดียวผมกลับบ้านไปบอกท่านเองพวกคุณไม่ต้องโทรไปรบกวนเวลาพักผ่อนเข้าใจไหม ถ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของผมจะตัดเงินเดือนพวกคุณทุกคนที่รู้เรื่องนี้" "รับทราบค่ะครับท่านรอง" ทีมแพทย์ไม่ว่าคนหนุ่มหรือคนแก่ต่างก็กลัวลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลในโหมดหน้าตึงสั่งเสียงเฉียบขาดอย่างนี้ทุกคน"พวกคุณไม่ต้องมารักษาผมจะให้ภรรยาของผมเป็นคนดูแลเองเธอก็เป็นหมอเหมือนกันไม่ต้องห่วงนะแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเองเถอะ""เอ่อถือว่าลุงขอร้องนะอาเธอร์ควรจะแสกนตรวจดูภายในว่าเป็นอะไรหรือเปล่าให้ละเอียดก่อนนะ" หัวหน้าทีมแพทย์ที่อาวุธโสที่สุดเอ่ยออกมาอย่างไม่ไว้ในด้วยคนตรงหน้าเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ถึงไม่รายงานเจ้านายแต่ก็
"ได้ที่อยู่ของเขาแล้วครับท่านรอง" ผู้ช่วยคนใหม่ของอาเธอร์ที่เขาได้คัดเลือกขึ้นมาเองใหม่มีทั้งฝีมือในการทางวิชาการและมีความรู้เรื่องวิชาการป้องกันตัวทุกแขนงมาได้ถึงสองคนเพื่อเป็นมือซ้ายมือขวา"ออกไปเตรียมรถและคนรอฉันอีกครึ่งชั่วโมงเราจะเดินทางไปหาตัวมัน" พอผู้ช่วยคนใหม่ออกไปแล้ว อาเธอร์ก็กดโทรหาลูกศรที่น่าจะเลิกเรียนแล้วพอดีและยังไม่ลืมโทรหาคุณย่าให้ท่านพาออกัสเข้านอนก่อนเลยเพราะพ่อแม่มีธุระต้องกลับดึกในคืนนี้"เตรียมใจของเธอให้พร้อมนะลูกศร" อาเธอร์พูดขึ้นขนาดที่ลูกศรขึ้นมานั่งบนรถข้างเขา ส่วนรถของเธอที่ขับมาเรียนวันนี้ให้คนขับรถของเขาขับตามมาด้านหลัง "ไม่ต้องหรอกห่วงน่า นี้นายเอาคนไปด้วยเยอะไปไหมเนี้ยอาเธอร์" ลูกศรมองรถอีกสองคันที่ขับตามมาเห็นคนเต็มคันรถที่ตามมาส่วนคันนี้มีแค่เธอกับเขาและคนขับเพียงสามคนในรถตู้คันหรูนี้"เอาไปเผื่อไว้ทางนั้นก็ไม่ได้กระจอกอย่างที่คาดคิดเอาไว้แต่แรกหรอกนะลูกศร""ก็ได้ฉันเชื่อนาย" "เด็กดี" อาเธอร์จับหัวลูกศรซบลงบนอกกอดเธอเอาไว้แน่นหลับตาลง"อยากให้ถึงที่หมายในเร็วๆเรื่องนี้จะได้จบลงซะที จะได้กลับบ้านไปหาลูกกันเนอลูกศร" อาเธอร์ว่าขึ้นแค่ทำงานบริหารและร่ว
ลูกศรจับเวลาเอาไว้สักห้านาทีจนแน่ใจแล้วอริสไปออกไปจากบริเวณห้องน้ำแล้วค่อยออกมาแล้วไปทำงานของตัวเองต่อในหัวของเธอก็คิดแต่เรื่องที่พึ่งได้รับรู้คิดว่าเธอควรจะแก้ปัญหานี้เองหรือบอกอาเธอร์ให้เขาช่วยปัญหาแต่อีกใจก็ไม่อยากบอกเขาเพราะกลัวว่าคนใจร้อนจะทำให้เรื่องราวใหญ่ดตอย่างที่อริสเตือนจุลนั้นแหละ"คุณหมอลูกศรมีสมาธิหน่อยสิค่ะเย็บแผลพลาดขึ้นมาคนไข้จะร้องเรียกเราได้นะคะ" เสียงเข้มของพยาบาลอาวุธโสที่ทำงานมานานนับสิบกว่าปีเตือนน้องหมอใหม่อย่าดุๆ"อะเอ่อขอโทษค่ะ หมอจะมีสมาธิให้มากกว่านี้" ลูกศรตั้งใจเย็บแผลให้เรียบร้อยที่สุดตัดเรื่องรบกวนภายในจิตใจออกตั้งใจทำงานตามหน้าที่ของตัวเองที่ได้รับมอบหมายตรงหน้าให้ดีหลังเลิกงานประมาณสี่โมงเย็นลูกศรขับรถตรงกลับบ้านด้วยจิตใจที่ไม่ค่อยมีสมาธิยังดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น"เฮ้อเอาไงดีนะยัยลูกศรบอกอาเธอร์ดีไหมนะ" บ้านของอาเธอร์กับโรงพยาบาลของเขาห่างกันแค่ยี่สิบนาทีก็ถึงแล้วเรียกว่าใกล้กว่าทุกวันมากจะถึงบ้านไวไปไหมเนี้ยคนยิ่งตัดสินใจไม่ได้อยู่ด้วย"ก๊อก ก๊อก ก๊อก" เสียงเคาะกระจกรถเรียกให้คนที่กำลังใช้ความคิดอยู่ในหัวสะดุ้งตกใจขึ้นมา อาเธอร์ทำมือท่าเปิดประต