ลูกศรจับเวลาเอาไว้สักห้านาทีจนแน่ใจแล้วอริสไปออกไปจากบริเวณห้องน้ำแล้วค่อยออกมาแล้วไปทำงานของตัวเองต่อ
ในหัวของเธอก็คิดแต่เรื่องที่พึ่งได้รับรู้คิดว่าเธอควรจะแก้ปัญหานี้เองหรือบอกอาเธอร์ให้เขาช่วยปัญหาแต่อีกใจก็ไม่อยากบอกเขาเพราะกลัวว่าคนใจร้อนจะทำให้เรื่องราวใหญ่ดตอย่างที่อริสเตือนจุลนั้นแหละ
"คุณหมอลูกศรมีสมาธิหน่อยสิค่ะเย็บแผลพลาดขึ้นมาคนไข้จะร้องเรียกเราได้นะคะ" เสียงเข้มของพยาบาลอาวุธโสที่ทำงานมานานนับสิบกว่าปีเตือนน้องหมอใหม่อย่าดุๆ
"อะเอ่อขอโทษค่ะ หมอจะมีสมาธิให้มากกว่านี้" ลูกศรตั้งใจเย็บแผลให้เรียบร้อยที่สุดตัดเรื่องรบกวนภายในจิตใจออกตั้งใจทำงานตามหน้าที่ของตัวเองที่ได้รับมอบหมายตรงหน้าให้ดี
หลังเลิกงานประมาณสี่โมงเย็นลูกศรขับรถตรงกลับบ้านด้วยจิตใจที่ไม่ค่อยมีสมาธิยังดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น
"เฮ้อเอาไงดีนะยัยลูกศรบอกอาเธอร์ดีไหมนะ" บ้านของอาเธอร์กับโรงพยาบาลของเขาห่างกันแค่ยี่สิบนาทีก็ถึงแล้วเรียกว่าใกล้กว่าทุกวันมากจะถึงบ้านไวไปไหมเนี้ยคนยิ่งตัดสินใจไม่ได้อยู่ด้วย
"ก๊อก ก๊อก ก๊อก" เสียงเคาะกระจกรถเรียกให้คนที่กำลังใช้ความคิดอยู่ในหัวสะดุ้งตกใจขึ้นมา อาเธอร์ทำมือท่าเปิดประตูทำให้ลูกศรต้องตัดสินใจเอาน่าค่อยๆกล่อมเขาน่าจะไม่ทำอะไรรุนแรงมากนะปิดวันนี้ได้เกิดวันนึงเข้ารู้เรื่องเขาจะพลอยโกรธหาว่าเธอเข้าข้างจุลแล้วจะทะเลาะกันใหญ่โตอีกคงต้องบอกเขาตอนนี้ดีกว่าเกิดเหตุการณ์มารู้เองทีหลังและลูกศรกลัวจะจัดการให้จุลหยุดไม่ได้ด้วยตัวเอง
"เป็นอะไรมีเคสเยอะเหรอวันนี้หน้าเครียดๆเชียวนะลูกศร"
"ไม่ใช่นายก็รู้ว่าฉันเป็นแค่แพทย์ทั่วไปแถมพึ่งทำงานได้แค่วันที่สองพวกเขาไม่ได้ให้งานยากอะไรฉันหรอกน่าอย่าไปสั่งห้ามพวกเขานะท่านรอง ฉันอยากเก่งก็ต้องเรียนรู้งานเยอะๆนะ"
"ก็ได้ครับเมียท่านรองจะทำตามที่เธอสั่งทุกอย่าง ลูกศรเวลานี้พึ่งสี่โมงครึ่งพาลูกออกไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะกันไหม"
"ก็ดีไปออกกำลังกายให้เหงื่อออกจะได้หายเครียดไปเปลี่ยนชุดกันเถอะ"
สามคนพ่อแม่ลูกออกมาวิ่งยังสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยคนในหมู่บ้านในตอนเย็นที่แดดเริ่มจางแล้วทำให้อากาศไม่ร้อนมากอย่างช่วงบ่ายเหมาะกับการออกกำลังกายกลางแจ้ง
"พ่อกัสอยากเล่นกับหมาเหมือนตอนไปบ้านตายาย" ออกัสที่จับวิ่งอยู่ตรงกลางระหว่างพ่อแม่บอกความต้องการของตัวเองออกมาเมื่อมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งจูงมาเล่นอยู่ในสนามหญ้า
"เดียวแม่ไปถามพี่เขาให้นะครับลูกรอดูก่อนว่าพี่เขาจะอนุญาตไหม ถ้าไม่อนุญาตออกัสก็ไปเล่นของเล่นตรงนู้นกับเพื่อนๆหลายคนที่เล่นอยู่ตรงนู้นกันนะครับ"
"ก็ได้ครับแม่" ออกัสพยักหน้าเชื่อฟังว่าแล้วลูกศรก็เดินเข้าไปหาหญิงสาวคนนั้น
"น้องค่ะพี่ขอให้ลูกชายตัวน้อยของพี่มาเล่นกับลูกหมาของน้องด้วยได้ไหมคะ" ลูกศรยิ้มให้กับหญิงสาวน่าจะวัยมหาลัยอย่างเป็นมิตร น้องเขามองไปยังนิ้วที่ลูกศรชี้ให้ดู
"ได้ค่ะพี่ เอ๊ะนั้นใช่น้องออกัสของคุณป้าหลินบ้านเจ้าของโรงพยาบาลไหมคะ"
"ใช่ค่ะน้องรู้จักลูกชายพี่ด้วยเหรอคะ"
"รู้จักสิค่ะก็คุณป้าหลินเป็นเพื่อนของแม่หนู คุณป้าพาน้องออกัสมาเล่นที่บ้านหลายครั้งอยู่"
"ถ้าอย่างนั้นพี่ฝากน้องออกัสให้มาเล่นกับหมาของน้องด้วยนะคะ"
"ได้เลยค่ะพี่เรียกหนูว่าจีน่าก็ได้ค่ะ"
"ขอบคุณมากนะคะน้องจีนาเรียกพี่ว่าลูกศรนะ"
"ค่ะพี่ลูกศร" ลูกศรเดินกลับไปจูงออกัสมาให้เล่นกับหมาของน้องจีน่าตามที่แกต้องการโดยมีพ่อแม่นั่งอยู่ม้านั่งห่างๆแต่ยังอยู่ในระยะสายตาที่มองเห็น
"เล่นกับน้องเบาๆนะออกัส"
"ครับแม่" ลูกศรเดินมานั่งลงข้างอาเธอร์เอาล่ะเวลานี้คงเหมาะสมที่สุดที่จะเล่าเรื่องที่ได้ยินอดีตผู้ช่วยเลขาของเขาคุยโทรศัพท์เมื่อกลางวันนี้"
"อาเธอร์คือว่าฉันมีเรื่องที่จะคุยกับนาย"
"เรื่องอะไรทำไมเธอต้องเกริ่นมาซะยืดยาวเลยลูกศร"
"เรื่องของอดีตผู้ช่วยเลขาของนายกับจุล" อาเธอร์ตวาดสายตามองลูกศรอย่างสงสัย
"เรื่องผู้หญิงคนนั้นมันเกี่ยวอะไรกับไอ้นั้นที่มันตามตอแยเธอ" อาเธอร์มองลูกศรอย่างรอคำตอบ
"ก็เรื่องที่ฉันจะเล่าให้นายฟังต่อจากนี้ขอให้นายใจเย็นๆจะทำอะไรอย่าให้มากเกินไปจะได้ไหมขอร้องเอาไว้ก่อนนะอาเธอร์" ลูกศรจับมือของอาเธอร์เอาไว้อย่างขอร้อง
"พวกมันรวมหัวกันเพื่อทำให้เราผิดใจกันเหรอลูกศร" ลูกศรถอดหายใจพร้อมพยักหน้าแล้วตัดสินใจเล่าเรื่องที่ได้ยินในวันนี้ให้กับอาเธอร์รับฟังทั้งหมด
"ฟังนะที่ฉันบังเอิญได้ยินอริสคุยโทรศัพท์กับจุลที่โรงพยาบาลวันนี้คือ..." ลูกศรเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับอาเธอร์ฟังอย่างละเอียด
"แม้งฉันจะไปเอาเรื่องจนกว่ามันจะเลิกสร้างความวุ่นวายให้กับเราสองคนและเลิกคิดจะแย้งเธอไปจากฉันสักที"
"นายไปสืบเรื่องราวให้แน่ชัดแล้วเราค่อยไปหาเขากันนะอาเธอร์" ลูกศรลูบมือของอาเธอร์เพื่อหวังปลอบให้เขาใจเย็นลงค่อยๆคิดแก้ปัญหาด้วยสติในครั้งนี้
"เฮ้อฉันไม่อยากให้เธอเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้แล้วลูกศร เดียวฉันจะจัดการเองคนเดียว" อาเธอร์ไม่อยากให้ลูกศรไปเจอผู้ชายที่คิดจะแย้งเธอไปจากเขาอีกครั้ง กระทืบมันไปครั้งก่อนไม่จำยังจะจองล้างจองผลาญชีวิตคู่คนอื่นเขาอีกมันจะโดนหนักกว่าเดิมเป็นเท่าตัวแน่
"แต่ฉันคิดว่าตัวเองจำเป็นต้องไปคุยกับจุลให้รู้เรื่องนะอาเธอร์เพราะที่จริงมันเป็นเรื่องของฉันกับเขาที่ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง"
"เฮ้อ...เธอแน่ใจเหรอว่าแค่จะไปคุยเท่านั้นใช่ไหมลูกศร" อาเธอร์ถอดหายใจแสดงออกมาว่าเขาไม่อยากยินยอมให้เธอเจอจุลกับเขาด้วยแต่ก็สุดที่จะห้ามปรามเธอได้แล้วตอนนี้
"ใช่แค่คุยเท่านั้นและมีนายอยู่ด้วยใกล้ๆนะอาเธอร์" อาเธอร์ที่ปกติจะใจร้อนตอนนี้ก็ต้องใจเย็นลงเพราะสองแม่ลูกที่เขาต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ดีพอสำหรับพวกเขาทั้งสองคน
"ก็ได้เราจะไปเจอหมอนั้นกันเพื่อพูดคุยอย่างสันติให้เรื่องราวระหว่างพวกเราสองคนกับไอ้นั้นจบลงสักทีนะลูกศร"
"อืมเราสองคนจะไปเคลียร์เรื่องนี้ด้วยกันให้เรื่องมันจบด้วยดีโดยไม่มีผลกระทบร้ายแรงกับทุกฝ่าย" อาเธอร์จับมือของลูกศรกุมเอาไว้มองสบตากันด้วยรอยยิ้มแสดงความเข้าใจกันออกมาให้อีกฝ่ายรับรู้
ผู้หญิงหน้าตาน่ารักแต่ไม่ได้สวยเด่นมากมายอย่างที่หลายคนนิยามกันออกมาแต่กับทำให้หนุ่มฮอตระดับเดือนมหาลัยที่มีผู้หญิงสวยเด่นที่คนต่างยกย่องกันมากมายให้เลือกคบในหลายปีที่ผ่านมาในรั้วมหาลัย แต่ใครจะรู้ว่าผู้หญิงน่ารักคนนี้ทำให้เขารู้สึกรักขึ้นมาทีละน้อยอย่างไม่รู้ตัวตลอดเกือบสี่ปีตั้งแต่เธอมาบอกกับเขาว่าขอความเห็นจะเก็บลูกในท้องเอาไว้ไหมจนถึงตอนนี้ ที่เราช่วยกันเลี้ยงดูสั่งสอนเจ้าหนูจนเป็นเด็กที่ใครๆเห็นต่างก็พากันเอ็นดูเพราะลูกได้รับความรักเต็มเปี่ยมจากพ่อแม่แม้จะไม่ได้อยู่ในสถานะของคนรักกันจนก่อเกิดความรักต่อกันกลายเป็นคู่รักจริงๆ นี้สินะรักที่ไม่ใช่แค่เรื่องหน้าตาภายนอกแต่สำคัญที่เราอยู่กับใครแล้วสบายใจเมื่อทำผิดพลาดก็พร้อมจะปรับปรุงตัวใหม่เพื่อคนที่เรารักอาเธอร์พึ่งจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งก็ตอนนี้
"พ่อแม่กัสมาแล้ว" ออกัสที่ร่ำลากับพี่จีน่าเจ้าของหมาน้อยที่แกได้นั่งเล่นกับมันจนพอใจแล้วและพี่สาวบอกว่าต้องกลับบ้านแล้วเจ้าหนูเลยวิ่งกลับมาหาพ่อแม่ที่นั่งคุยกันรอแกอยู่
"ครับลูกกลับบ้านเรากันเถอะค่ำแล้ว" อาเธอร์จับมือเล็กของลูกมากุมลูกศรก็ลุกขึ้นเดินมาจับมือเล็กอีกข้างของลูกมากุมเช่นกันเดินเคียงข้างกันกลับบ้านของพวกเรากัน
"ได้ที่อยู่ของเขาแล้วครับท่านรอง" ผู้ช่วยคนใหม่ของอาเธอร์ที่เขาได้คัดเลือกขึ้นมาเองใหม่มีทั้งฝีมือในการทางวิชาการและมีความรู้เรื่องวิชาการป้องกันตัวทุกแขนงมาได้ถึงสองคนเพื่อเป็นมือซ้ายมือขวา"ออกไปเตรียมรถและคนรอฉันอีกครึ่งชั่วโมงเราจะเดินทางไปหาตัวมัน" พอผู้ช่วยคนใหม่ออกไปแล้ว อาเธอร์ก็กดโทรหาลูกศรที่น่าจะเลิกเรียนแล้วพอดีและยังไม่ลืมโทรหาคุณย่าให้ท่านพาออกัสเข้านอนก่อนเลยเพราะพ่อแม่มีธุระต้องกลับดึกในคืนนี้"เตรียมใจของเธอให้พร้อมนะลูกศร" อาเธอร์พูดขึ้นขนาดที่ลูกศรขึ้นมานั่งบนรถข้างเขา ส่วนรถของเธอที่ขับมาเรียนวันนี้ให้คนขับรถของเขาขับตามมาด้านหลัง "ไม่ต้องหรอกห่วงน่า นี้นายเอาคนไปด้วยเยอะไปไหมเนี้ยอาเธอร์" ลูกศรมองรถอีกสองคันที่ขับตามมาเห็นคนเต็มคันรถที่ตามมาส่วนคันนี้มีแค่เธอกับเขาและคนขับเพียงสามคนในรถตู้คันหรูนี้"เอาไปเผื่อไว้ทางนั้นก็ไม่ได้กระจอกอย่างที่คาดคิดเอาไว้แต่แรกหรอกนะลูกศร""ก็ได้ฉันเชื่อนาย" "เด็กดี" อาเธอร์จับหัวลูกศรซบลงบนอกกอดเธอเอาไว้แน่นหลับตาลง"อยากให้ถึงที่หมายในเร็วๆเรื่องนี้จะได้จบลงซะที จะได้กลับบ้านไปหาลูกกันเนอลูกศร" อาเธอร์ว่าขึ้นแค่ทำงานบริหารและร่ว
ไม่นานรถตู้ที่นั่งกันมาก็จอดลงบนชั้นในชั้นวีไอพีที่มีลิฟต์ส่วนตัวเอารถขึ้นมายังชั้นวีไอพีได้เลยไม่ต้องผ่านประตูหน้าโรงพยาบาลเพื่อปิดไม่ให้เรื่องราวเล็ดรอดออกไปให้คนนอกรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดในขึ้นครั้งนี้"เตียงผู้ป่วยมาแล้วค่ะท่านรอง" อาเธอร์เดินลงมายืนเองยกมือห้ามทีมแพทย์ที่กำลังจะเข้ามารุมล้อมแผลภายนอกเล็กน้อยให้ดูเป็นเรื่องราวบาตเจ็บสาหัสใหญ่โตไปได้"อย่าโทรไปรายงานท่านประธานนะเดียวผมกลับบ้านไปบอกท่านเองพวกคุณไม่ต้องโทรไปรบกวนเวลาพักผ่อนเข้าใจไหม ถ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของผมจะตัดเงินเดือนพวกคุณทุกคนที่รู้เรื่องนี้" "รับทราบค่ะครับท่านรอง" ทีมแพทย์ไม่ว่าคนหนุ่มหรือคนแก่ต่างก็กลัวลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลในโหมดหน้าตึงสั่งเสียงเฉียบขาดอย่างนี้ทุกคน"พวกคุณไม่ต้องมารักษาผมจะให้ภรรยาของผมเป็นคนดูแลเองเธอก็เป็นหมอเหมือนกันไม่ต้องห่วงนะแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเองเถอะ""เอ่อถือว่าลุงขอร้องนะอาเธอร์ควรจะแสกนตรวจดูภายในว่าเป็นอะไรหรือเปล่าให้ละเอียดก่อนนะ" หัวหน้าทีมแพทย์ที่อาวุธโสที่สุดเอ่ยออกมาอย่างไม่ไว้ในด้วยคนตรงหน้าเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ถึงไม่รายงานเจ้านายแต่ก็
ตกกลางคืน"ออกัสนอนกับพ่อแม่ไม่ได้เหรอครับ" เจ้าหนูคอตกกอดหุ่นยนต์ซุปเปอร์แมนเอาไว้ยู้ปากอย่างแงงอนไม่ยินยอม"ไม่ได้ห้องลูกเสร็จแล้วคืนนี้จะต้องเป็นคืนแรกที่ออกัสต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่โดยการนอนคนเดียวนะลูก" คนเป็นพ่อยังแค้นเจ้าลูกชายที่มาขัดจังหวะหวานซึ้งระหว่างขอคนเป็นแม่แต่งงานอยู่บอกเสียงแข็งอย่างไม่ยินยอมใจอ่อนให้เจ้าหนูวัยสามขวบกว่าๆคนนี้ได้นอนกับพ่อแม่ในคืนนี้"กัสเป็นเด็กนะพ่อ" เจ้าหนูแสนฉลาดตอบโต้พ่อของแกอย่างไม่ยินยอมเช่นกัน"ลูกโตแล้วนะออกัสไปโรงเรียนแล้วควรแยกห้องนอนคนเดียวได้แล้ว""แต่พี่ป.1บอกว่ากัสเป็นเด็กที่สุดเลยนะพ่อยังไม่โตเล้ยยย" อาเธอร์ถึงกับอยากบิดหูเจ้าหนูตรงหน้านี้เขาเป็นที่สุดท่องเอาไว้อาเธอร์ลูกเราเหมือนเราโว้ยจะอดทนไม่ไหวแล้วเนี้ย"ฮึกฮ่าๆพอๆทั้งพ่อทั้งลูกเลิกเถียงกันได้แล้ว มาครับออกัสมาแม่อุ้มพาไปดูห้องใหม่กัน ถ้าลูกเห็นแล้วยังอยากนอนกับพ่อแม่อยู่แม่ก็จะไม่บังคับลูกนะจ๊ะ" แม่อุ้มเจ้าหนูพาเดินไปยังทิศทางห้องนอนใหม่ของแกชั้นบนของบ้านเพื่อตัดปัญหาที่ผู้ชายหน้าตาเหมือนกันแต่ต่างกันที่ขนาดยืนเท้าใส่เอวเถียงกันไม่หยุดจนจะดึกดื่นเลยเวลานอนของลูกไปแล้ว"ทีกับแม่
"พวกลูกจะไปจัดงานแต่งงานที่บ้านต่างจังหวัดของหนูลูกศรเหรอ" คุณย่าของออกัสถามลูกชายกับลูกสะใภ้ของท่านที่เล่าเรื่องงานแต่งงานของทั้งคู่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้อย่างปุ๊บปั๊บแบบแต่งงานสายฟ้าแลบ"ใช่ครับ รบกวนคุณแม่ให้ไปหาฤกษ์ให้ผมกับลูกศรภายในสองเดือนนี้เลยได้ไหมครับ" คนใจร้อนที่ครั้งนี้ลูกศรไม่คิดจะห้ามเขาพร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้า"โอ้ยแกใจร้อนไปไหมเจ้าอาเธอร์" คุณปู่ของออกัสอดที่จะแซวลูกชายของตัวเองไม่ได้พร้อมกับรอยยิ้มเหมือนกันเพราะว่าท่านก็รอคอยให้ครอบครัวของลูกชายสมบูรณ์จริงๆสักที"ไม่ร้อนหรอกครับพ่อ ผมกับลูกศรเสียเวลาที่จะได้แต่งงานกันมา4ปีแล้วนะพ่อกับแม่ก็รู้ดี""นั้นสิเนอะเอาจริงถ้าเริ่มนับตั้งแต่ลูกว่ามาตอนนี้ก็ช้าไปจริงๆนั้นแหละเจ้าอาเธอร์แล้วหนูลูกศรบอกพ่อแม่ของหนูหรือยังจ๊ะ" "ยังค่ะคุณแม่เดียวคุยเสร็จจากตรงนี้ หนูค่อยโทรบอกพวกท่านเลยนะคะ""ได้ๆถ้างั้นกลางเดือนนี้แม่จะไปคุยเรื่องสินสอดทองหมั่นพร้อมกันกับพวกลูกในวันที่กลับบ้านของหนูในกลางเดือน" "ได้ค่ะคุณแม่" เมื่อตกลงกันได้คุณย่าของออกัสก็ออกไปพร้อมกับคุณปู่เพื่อไปหาพระอาจารย์ดังที่พวกท่านนับถือให้หาฤกษ์ภายในสองเดือนให้ตามที่
"ว้าแม่ขึ้นมาเสียเที่ยวเลยแต่ใกล้จะได้ฤกษ์แห่ขันหมากอีกสามสิบนาทีนี้แล้วแม่ไปเช็คความเรียบร้อยข้างล่างก่อนนะลูก""ได้ค่ะแม่หนูก็เสร็จเรียบดีแล้วแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ" แม่เดินมากอดลูกศรพร้อมกับอดที่จะน้ำตาคลอจะไหลออกมาไม่ได้"ฮึกแม่ดีใจมากที่ได้ส่งลูกสาวคนเดียวเป็นฝั่งเป็นฝาสักที""ฮึกหนูก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เหมือนกันค่ะแม่" สองแม่ลูกกอดกันกลมน้ำตาที่ไหลเป็นน้ำตาแห่งเป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปิติยินดีอีกหนึ่งวันในชีวิตของคนเป็นพ่อแม่"เอาๆอย่าร้องไห้วันนี้เป็นวันมงคลยิ้มกว้างๆเดียวเครื่องสำอางจะเลอะเอาได้นะลูก" แม่เช็ดน้ำตาให้ลูกศร"ขอบคุณค่ะแม่ ขอบคุณที่ไม่ว่าหนูจะทำตัวทั้งดีและไม่ดีที่ผ่านมาแม่กับพ่อก็ใหอภัยหนูเสมอมา" ลูกศรที่กอดแม่อยู่ก็พยักหน้ายิ้มให้ท่าน"แม่กับพ่อภูมิใจในตัวของลูกเสมอนะไม่ว่าเรื่องอะไรแม้กระทั้งเรื่องหลานลูกสาวของแม่ก็เลี้ยงดูออกัสน้อยออกมาได้ดีมากอย่างโทษตัวเองอีกเลยพ่อกับแม่ไม่โกรธลูกแล้วปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไปนะลูก""หนูรักแม่ที่สุดเลย""ขบวนขันหมากแห่มาแล้ว!" เสียงร้องตะโกนโห่ขันหมากเข้ามาในบ้าน"ลูกได้เวลาฤกษ์แล้ว แม่ออกไปก่อนนะลูก" แม่รีบเด
งานช่วงกลางคืน"ก่อนที่จะทำการแสดงหมอลำในค่ำคืนนี้พวกเราอยากให้คู่บ่าวสาวของงานขึ้นมาบนเวทีเพื่อเล่าเรื่องราวความรักของคนทั้งคู่ให้กับแขกในงานได้รับรู้หน่อยครับ" เสียงพิธีกรประกาศเรียกบ่าวเช้าที่ยืนถ่ายรูปกับแขกที่มาในงานในค่ำคืนนี้"ขอสัมภาษณ์ความเป็นมาของเส้นทางรักในครั้งนี้หน่อยนะครับ ก่อนอื่นหมออาเธอร์กับหมอลูกศรรู้จักกันได้ยังไงครับ" พิธีกรยื่นไมค์ให้กับเจ้าบ่าวเป็นคนตอบก่อน"ผมเจอหน้าเธอครั้งแรกในร้านกาแฟหน้ามหาลัยครับ วันนั้นลูกศรนัดผมผ่านเพื่อนของเธอ เราคุยกันเรื่องสำคัญทำให้มีเรื่องให้เจอและสนิทกันจนก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมาใน4ปีที่ผ่านมาครับ""ว้าวรักตอนเรียนมหาลัยโรแมนติกมากๆเลยครับ เอาล่ะผมว่าใครๆก็คงอยากเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวบอกรักกันและหอมแก้มกันโชว์ความหวานให้พวกเราดูหน่อยนะครับ""อาเธอร์ฉันรักนายนะ" ลูกศรหอมแก้มเจ้าบ่าว"ลูกศรฉันก็รักเธอนะ" อาเธอร์ก็หอมแก้มเจ้าสาวแสนสวยของเขา"ว้าวปรบมือให้คู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับเจ้าของงานในคืนนี้ด้วยนะครับ" เสียงปรบมือแสดงยินดีดังกระหึ่มก่อนที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะพากันเดินลงจากเวทีไปนั่งยังโต๊ะของครอบครัวเสียงดนตรี
หลังจากงานแต่งงานที่บ้านนอกจบลง ลูกศรกับอาเธอร์ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะคนนึงมีงานอีกคนมีเรียนทำให้จำเป็นต้องกลับกรุงเทพเลยฉากลาจากของตายายหลานชายวัยสามขวบก็เรียกเสียงร้องไห้งอแงไม่อยากกลับของออกัสเหมือนเดิมกว่าจะหายงอแงก็จนถึงบ้านที่กรุงเทพนั้นแหละตอนนี้ลูกศรนอนอยู่ในห้องนอนที่คอนโดหรูของอาเธอร์ที่หยุดงานขอฮันนีมูนในคอนโดหรูกลางกรุงแห่งนี้โดยที่เจ้าลูกชายตัวป่วนไปโรงเรียน"ลูกศรเธอต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ในคืนเข้าหอนะ" อาเธอ์กอดรัดเอวบางเอาไว้แน่นซบหน้ากับบ่าเล็กคอเคลียร์ปากพ้นจูบไปเรื่อยจนถึงซอกคอ"สัญญาเหรอเรื่องอะไรนะทำไมยักกะจำไม่ได้""ลูกศรอย่ามาแกล้งเซไสอย่างนี้นะ เธอบอกจะขึ้นให้ฉันต้องทำตามสัญญานะบนโซฟานี้มองเห็นวิวตึกสูงข้างนอกอ้าส์วิวดีเหมาะกับการผลิตน้องสาวให้ออกัสมากๆเลยที่รัก""ท่าทางแบบนี้หักล้างใบหน้าหล่อๆของนายมากอาเธอร์ อย่ามาทำหน้าตาหื่นกามลามกแบบนี้ใส่ฉันนะ""ฮ่าๆฉันหื่นใส่เมียตัวเองผิดตรงไหนเนี้ยลูกศรยัยบ๊อง" อาเธอร์ดีดหน้าผากของลูกศรเบาอย่างหมั่นเขียวแล้วตวาดอุ้มร่างบางไปยังโซฟาที่เขาหมายมาดอย่างที่พูดออกมาเสื้อยืดสีขาวถูกถอดออกไปพร้อมโยนทิ้งอย่างไม่สนทิศทางตามด้วยกาง
3เดือนต่อมา..."อาเธอร์ฉันซื้อเนคไทด์ใหม่มาให้ลองเปิดดูซิว่านายจะชอบลายที่ฉันเลือกมาให้ไหม" วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ปกติลูกศรต้องไปทำงานแต่อาเธอร์อนุญาตให้ทำงานได้แค่วันเสาร์เท่านั้น ส่วนในวันอาทิตย์ให้เธอได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวบ้าง"ว้าวไหนดูซิว่าเธอจะเลือกแบบไหนให้สามีที่รักคนนนี้" อาเธอร์รับเอากล่องที่ภรรยาสาวยื่นให้กับเขา"เร็วๆรีบเปิดดูซิ" ลูกศรตื่นเต้นกับปฏิกิริยาของคนเป็นสามีอย่างเร่งเร้าให้เขารีบเปิดกล่องดู"ดูเธอจะตื่นเต้นมากเลยนะลูกศร เดือนนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดของฉันนี้น่ามีอะไรกัน" อาเธอร์งงกับท่าทางของเมียตัวเองแต่ก็ยอมเปิดกล่องที่ลูกศรเอามาให้นี้ พอเปิดฝากล่องออกมาก็เจอกับ..."ที่ตรวจครรภ์นี้น่าลูกศร ธะเธอท้องแล้วเหรอเนี้ยโอ้สุดยอด" คนเป็นพ่อที่ขยันทำลูกแทบทุกคืนไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตามยังคงพยายามหื่นใส่ลูกศรทุกคืนโดยให้เหตุผลกับเธอเสมอว่าต้องมีน้องตัวน้อยๆให้ออกัส"ใช่ได้3เดือนแล้วนายดีใจมากไหมรอมานานหลายเดือนแล้วนี้น่า""ดีใจที่สุดเลยลูกศร ฉะฉันต้องไปบอกออกัสไม่สิพ่อแม่ของเราด้วยว่าพวกท่านกำลังจะได้มีหลานเพิ่มแล้วไปก่อนนะ" คนเป็นพ่อรีบวิ่งเอาที่ตรวจภรรค์ไปบอกข่าว
3เดือนต่อมา..."อาเธอร์ฉันซื้อเนคไทด์ใหม่มาให้ลองเปิดดูซิว่านายจะชอบลายที่ฉันเลือกมาให้ไหม" วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ปกติลูกศรต้องไปทำงานแต่อาเธอร์อนุญาตให้ทำงานได้แค่วันเสาร์เท่านั้น ส่วนในวันอาทิตย์ให้เธอได้ใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวบ้าง"ว้าวไหนดูซิว่าเธอจะเลือกแบบไหนให้สามีที่รักคนนนี้" อาเธอร์รับเอากล่องที่ภรรยาสาวยื่นให้กับเขา"เร็วๆรีบเปิดดูซิ" ลูกศรตื่นเต้นกับปฏิกิริยาของคนเป็นสามีอย่างเร่งเร้าให้เขารีบเปิดกล่องดู"ดูเธอจะตื่นเต้นมากเลยนะลูกศร เดือนนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดของฉันนี้น่ามีอะไรกัน" อาเธอร์งงกับท่าทางของเมียตัวเองแต่ก็ยอมเปิดกล่องที่ลูกศรเอามาให้นี้ พอเปิดฝากล่องออกมาก็เจอกับ..."ที่ตรวจครรภ์นี้น่าลูกศร ธะเธอท้องแล้วเหรอเนี้ยโอ้สุดยอด" คนเป็นพ่อที่ขยันทำลูกแทบทุกคืนไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ตามยังคงพยายามหื่นใส่ลูกศรทุกคืนโดยให้เหตุผลกับเธอเสมอว่าต้องมีน้องตัวน้อยๆให้ออกัส"ใช่ได้3เดือนแล้วนายดีใจมากไหมรอมานานหลายเดือนแล้วนี้น่า""ดีใจที่สุดเลยลูกศร ฉะฉันต้องไปบอกออกัสไม่สิพ่อแม่ของเราด้วยว่าพวกท่านกำลังจะได้มีหลานเพิ่มแล้วไปก่อนนะ" คนเป็นพ่อรีบวิ่งเอาที่ตรวจภรรค์ไปบอกข่าว
หลังจากงานแต่งงานที่บ้านนอกจบลง ลูกศรกับอาเธอร์ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะคนนึงมีงานอีกคนมีเรียนทำให้จำเป็นต้องกลับกรุงเทพเลยฉากลาจากของตายายหลานชายวัยสามขวบก็เรียกเสียงร้องไห้งอแงไม่อยากกลับของออกัสเหมือนเดิมกว่าจะหายงอแงก็จนถึงบ้านที่กรุงเทพนั้นแหละตอนนี้ลูกศรนอนอยู่ในห้องนอนที่คอนโดหรูของอาเธอร์ที่หยุดงานขอฮันนีมูนในคอนโดหรูกลางกรุงแห่งนี้โดยที่เจ้าลูกชายตัวป่วนไปโรงเรียน"ลูกศรเธอต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ในคืนเข้าหอนะ" อาเธอ์กอดรัดเอวบางเอาไว้แน่นซบหน้ากับบ่าเล็กคอเคลียร์ปากพ้นจูบไปเรื่อยจนถึงซอกคอ"สัญญาเหรอเรื่องอะไรนะทำไมยักกะจำไม่ได้""ลูกศรอย่ามาแกล้งเซไสอย่างนี้นะ เธอบอกจะขึ้นให้ฉันต้องทำตามสัญญานะบนโซฟานี้มองเห็นวิวตึกสูงข้างนอกอ้าส์วิวดีเหมาะกับการผลิตน้องสาวให้ออกัสมากๆเลยที่รัก""ท่าทางแบบนี้หักล้างใบหน้าหล่อๆของนายมากอาเธอร์ อย่ามาทำหน้าตาหื่นกามลามกแบบนี้ใส่ฉันนะ""ฮ่าๆฉันหื่นใส่เมียตัวเองผิดตรงไหนเนี้ยลูกศรยัยบ๊อง" อาเธอร์ดีดหน้าผากของลูกศรเบาอย่างหมั่นเขียวแล้วตวาดอุ้มร่างบางไปยังโซฟาที่เขาหมายมาดอย่างที่พูดออกมาเสื้อยืดสีขาวถูกถอดออกไปพร้อมโยนทิ้งอย่างไม่สนทิศทางตามด้วยกาง
งานช่วงกลางคืน"ก่อนที่จะทำการแสดงหมอลำในค่ำคืนนี้พวกเราอยากให้คู่บ่าวสาวของงานขึ้นมาบนเวทีเพื่อเล่าเรื่องราวความรักของคนทั้งคู่ให้กับแขกในงานได้รับรู้หน่อยครับ" เสียงพิธีกรประกาศเรียกบ่าวเช้าที่ยืนถ่ายรูปกับแขกที่มาในงานในค่ำคืนนี้"ขอสัมภาษณ์ความเป็นมาของเส้นทางรักในครั้งนี้หน่อยนะครับ ก่อนอื่นหมออาเธอร์กับหมอลูกศรรู้จักกันได้ยังไงครับ" พิธีกรยื่นไมค์ให้กับเจ้าบ่าวเป็นคนตอบก่อน"ผมเจอหน้าเธอครั้งแรกในร้านกาแฟหน้ามหาลัยครับ วันนั้นลูกศรนัดผมผ่านเพื่อนของเธอ เราคุยกันเรื่องสำคัญทำให้มีเรื่องให้เจอและสนิทกันจนก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมาใน4ปีที่ผ่านมาครับ""ว้าวรักตอนเรียนมหาลัยโรแมนติกมากๆเลยครับ เอาล่ะผมว่าใครๆก็คงอยากเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวบอกรักกันและหอมแก้มกันโชว์ความหวานให้พวกเราดูหน่อยนะครับ""อาเธอร์ฉันรักนายนะ" ลูกศรหอมแก้มเจ้าบ่าว"ลูกศรฉันก็รักเธอนะ" อาเธอร์ก็หอมแก้มเจ้าสาวแสนสวยของเขา"ว้าวปรบมือให้คู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับเจ้าของงานในคืนนี้ด้วยนะครับ" เสียงปรบมือแสดงยินดีดังกระหึ่มก่อนที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะพากันเดินลงจากเวทีไปนั่งยังโต๊ะของครอบครัวเสียงดนตรี
"ว้าแม่ขึ้นมาเสียเที่ยวเลยแต่ใกล้จะได้ฤกษ์แห่ขันหมากอีกสามสิบนาทีนี้แล้วแม่ไปเช็คความเรียบร้อยข้างล่างก่อนนะลูก""ได้ค่ะแม่หนูก็เสร็จเรียบดีแล้วแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ" แม่เดินมากอดลูกศรพร้อมกับอดที่จะน้ำตาคลอจะไหลออกมาไม่ได้"ฮึกแม่ดีใจมากที่ได้ส่งลูกสาวคนเดียวเป็นฝั่งเป็นฝาสักที""ฮึกหนูก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้เหมือนกันค่ะแม่" สองแม่ลูกกอดกันกลมน้ำตาที่ไหลเป็นน้ำตาแห่งเป็นน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปิติยินดีอีกหนึ่งวันในชีวิตของคนเป็นพ่อแม่"เอาๆอย่าร้องไห้วันนี้เป็นวันมงคลยิ้มกว้างๆเดียวเครื่องสำอางจะเลอะเอาได้นะลูก" แม่เช็ดน้ำตาให้ลูกศร"ขอบคุณค่ะแม่ ขอบคุณที่ไม่ว่าหนูจะทำตัวทั้งดีและไม่ดีที่ผ่านมาแม่กับพ่อก็ใหอภัยหนูเสมอมา" ลูกศรที่กอดแม่อยู่ก็พยักหน้ายิ้มให้ท่าน"แม่กับพ่อภูมิใจในตัวของลูกเสมอนะไม่ว่าเรื่องอะไรแม้กระทั้งเรื่องหลานลูกสาวของแม่ก็เลี้ยงดูออกัสน้อยออกมาได้ดีมากอย่างโทษตัวเองอีกเลยพ่อกับแม่ไม่โกรธลูกแล้วปล่อยให้เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไปนะลูก""หนูรักแม่ที่สุดเลย""ขบวนขันหมากแห่มาแล้ว!" เสียงร้องตะโกนโห่ขันหมากเข้ามาในบ้าน"ลูกได้เวลาฤกษ์แล้ว แม่ออกไปก่อนนะลูก" แม่รีบเด
"พวกลูกจะไปจัดงานแต่งงานที่บ้านต่างจังหวัดของหนูลูกศรเหรอ" คุณย่าของออกัสถามลูกชายกับลูกสะใภ้ของท่านที่เล่าเรื่องงานแต่งงานของทั้งคู่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้อย่างปุ๊บปั๊บแบบแต่งงานสายฟ้าแลบ"ใช่ครับ รบกวนคุณแม่ให้ไปหาฤกษ์ให้ผมกับลูกศรภายในสองเดือนนี้เลยได้ไหมครับ" คนใจร้อนที่ครั้งนี้ลูกศรไม่คิดจะห้ามเขาพร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้า"โอ้ยแกใจร้อนไปไหมเจ้าอาเธอร์" คุณปู่ของออกัสอดที่จะแซวลูกชายของตัวเองไม่ได้พร้อมกับรอยยิ้มเหมือนกันเพราะว่าท่านก็รอคอยให้ครอบครัวของลูกชายสมบูรณ์จริงๆสักที"ไม่ร้อนหรอกครับพ่อ ผมกับลูกศรเสียเวลาที่จะได้แต่งงานกันมา4ปีแล้วนะพ่อกับแม่ก็รู้ดี""นั้นสิเนอะเอาจริงถ้าเริ่มนับตั้งแต่ลูกว่ามาตอนนี้ก็ช้าไปจริงๆนั้นแหละเจ้าอาเธอร์แล้วหนูลูกศรบอกพ่อแม่ของหนูหรือยังจ๊ะ" "ยังค่ะคุณแม่เดียวคุยเสร็จจากตรงนี้ หนูค่อยโทรบอกพวกท่านเลยนะคะ""ได้ๆถ้างั้นกลางเดือนนี้แม่จะไปคุยเรื่องสินสอดทองหมั่นพร้อมกันกับพวกลูกในวันที่กลับบ้านของหนูในกลางเดือน" "ได้ค่ะคุณแม่" เมื่อตกลงกันได้คุณย่าของออกัสก็ออกไปพร้อมกับคุณปู่เพื่อไปหาพระอาจารย์ดังที่พวกท่านนับถือให้หาฤกษ์ภายในสองเดือนให้ตามที่
ตกกลางคืน"ออกัสนอนกับพ่อแม่ไม่ได้เหรอครับ" เจ้าหนูคอตกกอดหุ่นยนต์ซุปเปอร์แมนเอาไว้ยู้ปากอย่างแงงอนไม่ยินยอม"ไม่ได้ห้องลูกเสร็จแล้วคืนนี้จะต้องเป็นคืนแรกที่ออกัสต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่โดยการนอนคนเดียวนะลูก" คนเป็นพ่อยังแค้นเจ้าลูกชายที่มาขัดจังหวะหวานซึ้งระหว่างขอคนเป็นแม่แต่งงานอยู่บอกเสียงแข็งอย่างไม่ยินยอมใจอ่อนให้เจ้าหนูวัยสามขวบกว่าๆคนนี้ได้นอนกับพ่อแม่ในคืนนี้"กัสเป็นเด็กนะพ่อ" เจ้าหนูแสนฉลาดตอบโต้พ่อของแกอย่างไม่ยินยอมเช่นกัน"ลูกโตแล้วนะออกัสไปโรงเรียนแล้วควรแยกห้องนอนคนเดียวได้แล้ว""แต่พี่ป.1บอกว่ากัสเป็นเด็กที่สุดเลยนะพ่อยังไม่โตเล้ยยย" อาเธอร์ถึงกับอยากบิดหูเจ้าหนูตรงหน้านี้เขาเป็นที่สุดท่องเอาไว้อาเธอร์ลูกเราเหมือนเราโว้ยจะอดทนไม่ไหวแล้วเนี้ย"ฮึกฮ่าๆพอๆทั้งพ่อทั้งลูกเลิกเถียงกันได้แล้ว มาครับออกัสมาแม่อุ้มพาไปดูห้องใหม่กัน ถ้าลูกเห็นแล้วยังอยากนอนกับพ่อแม่อยู่แม่ก็จะไม่บังคับลูกนะจ๊ะ" แม่อุ้มเจ้าหนูพาเดินไปยังทิศทางห้องนอนใหม่ของแกชั้นบนของบ้านเพื่อตัดปัญหาที่ผู้ชายหน้าตาเหมือนกันแต่ต่างกันที่ขนาดยืนเท้าใส่เอวเถียงกันไม่หยุดจนจะดึกดื่นเลยเวลานอนของลูกไปแล้ว"ทีกับแม่
ไม่นานรถตู้ที่นั่งกันมาก็จอดลงบนชั้นในชั้นวีไอพีที่มีลิฟต์ส่วนตัวเอารถขึ้นมายังชั้นวีไอพีได้เลยไม่ต้องผ่านประตูหน้าโรงพยาบาลเพื่อปิดไม่ให้เรื่องราวเล็ดรอดออกไปให้คนนอกรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดในขึ้นครั้งนี้"เตียงผู้ป่วยมาแล้วค่ะท่านรอง" อาเธอร์เดินลงมายืนเองยกมือห้ามทีมแพทย์ที่กำลังจะเข้ามารุมล้อมแผลภายนอกเล็กน้อยให้ดูเป็นเรื่องราวบาตเจ็บสาหัสใหญ่โตไปได้"อย่าโทรไปรายงานท่านประธานนะเดียวผมกลับบ้านไปบอกท่านเองพวกคุณไม่ต้องโทรไปรบกวนเวลาพักผ่อนเข้าใจไหม ถ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งของผมจะตัดเงินเดือนพวกคุณทุกคนที่รู้เรื่องนี้" "รับทราบค่ะครับท่านรอง" ทีมแพทย์ไม่ว่าคนหนุ่มหรือคนแก่ต่างก็กลัวลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลในโหมดหน้าตึงสั่งเสียงเฉียบขาดอย่างนี้ทุกคน"พวกคุณไม่ต้องมารักษาผมจะให้ภรรยาของผมเป็นคนดูแลเองเธอก็เป็นหมอเหมือนกันไม่ต้องห่วงนะแยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเองเถอะ""เอ่อถือว่าลุงขอร้องนะอาเธอร์ควรจะแสกนตรวจดูภายในว่าเป็นอะไรหรือเปล่าให้ละเอียดก่อนนะ" หัวหน้าทีมแพทย์ที่อาวุธโสที่สุดเอ่ยออกมาอย่างไม่ไว้ในด้วยคนตรงหน้าเป็นลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ถึงไม่รายงานเจ้านายแต่ก็
"ได้ที่อยู่ของเขาแล้วครับท่านรอง" ผู้ช่วยคนใหม่ของอาเธอร์ที่เขาได้คัดเลือกขึ้นมาเองใหม่มีทั้งฝีมือในการทางวิชาการและมีความรู้เรื่องวิชาการป้องกันตัวทุกแขนงมาได้ถึงสองคนเพื่อเป็นมือซ้ายมือขวา"ออกไปเตรียมรถและคนรอฉันอีกครึ่งชั่วโมงเราจะเดินทางไปหาตัวมัน" พอผู้ช่วยคนใหม่ออกไปแล้ว อาเธอร์ก็กดโทรหาลูกศรที่น่าจะเลิกเรียนแล้วพอดีและยังไม่ลืมโทรหาคุณย่าให้ท่านพาออกัสเข้านอนก่อนเลยเพราะพ่อแม่มีธุระต้องกลับดึกในคืนนี้"เตรียมใจของเธอให้พร้อมนะลูกศร" อาเธอร์พูดขึ้นขนาดที่ลูกศรขึ้นมานั่งบนรถข้างเขา ส่วนรถของเธอที่ขับมาเรียนวันนี้ให้คนขับรถของเขาขับตามมาด้านหลัง "ไม่ต้องหรอกห่วงน่า นี้นายเอาคนไปด้วยเยอะไปไหมเนี้ยอาเธอร์" ลูกศรมองรถอีกสองคันที่ขับตามมาเห็นคนเต็มคันรถที่ตามมาส่วนคันนี้มีแค่เธอกับเขาและคนขับเพียงสามคนในรถตู้คันหรูนี้"เอาไปเผื่อไว้ทางนั้นก็ไม่ได้กระจอกอย่างที่คาดคิดเอาไว้แต่แรกหรอกนะลูกศร""ก็ได้ฉันเชื่อนาย" "เด็กดี" อาเธอร์จับหัวลูกศรซบลงบนอกกอดเธอเอาไว้แน่นหลับตาลง"อยากให้ถึงที่หมายในเร็วๆเรื่องนี้จะได้จบลงซะที จะได้กลับบ้านไปหาลูกกันเนอลูกศร" อาเธอร์ว่าขึ้นแค่ทำงานบริหารและร่ว
ลูกศรจับเวลาเอาไว้สักห้านาทีจนแน่ใจแล้วอริสไปออกไปจากบริเวณห้องน้ำแล้วค่อยออกมาแล้วไปทำงานของตัวเองต่อในหัวของเธอก็คิดแต่เรื่องที่พึ่งได้รับรู้คิดว่าเธอควรจะแก้ปัญหานี้เองหรือบอกอาเธอร์ให้เขาช่วยปัญหาแต่อีกใจก็ไม่อยากบอกเขาเพราะกลัวว่าคนใจร้อนจะทำให้เรื่องราวใหญ่ดตอย่างที่อริสเตือนจุลนั้นแหละ"คุณหมอลูกศรมีสมาธิหน่อยสิค่ะเย็บแผลพลาดขึ้นมาคนไข้จะร้องเรียกเราได้นะคะ" เสียงเข้มของพยาบาลอาวุธโสที่ทำงานมานานนับสิบกว่าปีเตือนน้องหมอใหม่อย่าดุๆ"อะเอ่อขอโทษค่ะ หมอจะมีสมาธิให้มากกว่านี้" ลูกศรตั้งใจเย็บแผลให้เรียบร้อยที่สุดตัดเรื่องรบกวนภายในจิตใจออกตั้งใจทำงานตามหน้าที่ของตัวเองที่ได้รับมอบหมายตรงหน้าให้ดีหลังเลิกงานประมาณสี่โมงเย็นลูกศรขับรถตรงกลับบ้านด้วยจิตใจที่ไม่ค่อยมีสมาธิยังดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น"เฮ้อเอาไงดีนะยัยลูกศรบอกอาเธอร์ดีไหมนะ" บ้านของอาเธอร์กับโรงพยาบาลของเขาห่างกันแค่ยี่สิบนาทีก็ถึงแล้วเรียกว่าใกล้กว่าทุกวันมากจะถึงบ้านไวไปไหมเนี้ยคนยิ่งตัดสินใจไม่ได้อยู่ด้วย"ก๊อก ก๊อก ก๊อก" เสียงเคาะกระจกรถเรียกให้คนที่กำลังใช้ความคิดอยู่ในหัวสะดุ้งตกใจขึ้นมา อาเธอร์ทำมือท่าเปิดประต