“อลิศยังไม่เหนื่อย คุณหมอก็ห้ามหยุด!!” อีกคนหนึ่งก็ไม่ยอมพูดในสิ่งที่ทำเพื่อคนอื่น..... ส่วนอีกคนก็เข้าใจผิดเพราะความไม่เข้าใจ..... สุดท้าย.....ก็ไม่ต่างกับระเบิดเวลา!!.... แต่แล้ว!!.....เรื่องที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คนสองคนที่เอาแต่ทะเลาะกัน.... “จะไปไหนแต่เช้าเหรอ” “หมอภาสคะ คือ….เมื่อคืนนี้อลิศ…” “คุณคิดจะรับผิดชอบผมยังไง” “คะ??” "อลิศ"จะจัดการยังไงกับพี่หมอภาสที่ "คลั่งรัก" แต่ก็ "ปากร้าย" คนนี้ดีนะ....... นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรัก ไม่มีปมดราม่านะคะ เป็นแนวสุขนิยมรักเดียวพลอตเรื่องไม่ซับซ้อนไม่ต้องเดามากมาย อ่านคลายเครียดกันนะคะ
View Moreอลิศล้มตัวลงซบที่ไหล่เขาทันทีเพราะความอ่อนเพลียจากความปวดท้อง เขาเก็บของของเธอเข้าไปในกระเป๋าและเริ่มเก็บของของตัวเองระหว่างที่เธอนอนพักอยู่ที่เตียง เมื่อเสร็จแล้วเขาจึงโทรให้พนักงานมาช่วยยกกระเป๋า ส่วนเขาต้องอุ้มเธอออกมาจากห้องพักและพาไปที่รถ“รอเดี๋ยวนะผมจะปรับเบาะให้”“อือ….หมอ….”“ยังปวดอยู่เหรอ”“อลิศหิว”“งั้นรีบไปกันเถอะ วันนี้อาหารทะเลก็งดก่อน…อะไร”เขาถามเมื่อเธอเกาะแขนเขา“อาหารทะเลไม่น่าจะทำให้ปวดท้องนะคะ อลิศอยากกินข้าวผัดปูค่ะ”“ก็ได้ ๆ งั้นปล่อยมือก่อนจะได้รีบไป”เธอปล่อยให้เขาจัดการเลื่อนเบาะไฟฟ้าในรถหรูให้เอนลงเพื่อจะได้นอนสบาย ๆ เขาเอาเสื้อสูทของเขามาห่มให้เธอแทนผ้าห่มเพราะในรถของเขาไม่มีของพวกนี้เลยนอกจากกระเป๋ายาและสูทสำหรับออกงานฉุกเฉินร้านอาหารริมทะเล“…อากาศดีจัง ลมข้างนอกก็น่าจะเย็นสบาย ทำไมเราไม่ไปนั่งข้างนอกกันล่ะคะ ในนี้หนาวจะตาย”“ป่วยอยู่ออกไปตากลมมากไม่ดีเดี๋ยวจะไม่สบาย”“อือ…ทำไมหมอต้องดุขนาดนี้ล่ะคะ”“ไม่ได้ดุผมพูดเรื่องจริง ถ้าไม่เป็นห่วงจะพูดแบบนี้เหรอ”“คนที่เขาเป็นห่วงกัน…เขาพูดกันดี ๆ นะคะหมอพูดคำหวาน ๆ เหมือนคนอื่นไม่เป็นเหรอคะ”“จะกินอะไร รีบสั่ง
จู่ ๆ หมอกิตก็หัวเราะออกมาราวกับคนบ้าและหันไปมองหน้าหมอภาสที่ยังนั่งอยู่ตรงข้าม เขาเพียงแค่มองหมอกิตแต่ไม่ได้พูดอะไร“ญานิศา….หึ ฉันน่าจะนึกออกนะ เพราะแบบนี้นายก็เลยตรวจกล้องที่แผนกของฉันด้วยสินะ มิน่าล่ะ”หมอภาสแค่ขยับแว่นเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะหันไปพูดกับเขา“ถ้าหากนายไม่ทำประเจิดประเจ้อและพาเธอไปทำในที่ลับตาคน ต่อให้มีกล้องก็ทำอะไรพวกนายไม่ได้”“นั่นสินะ ฉันนี่มันโง่จริง ๆ อดใจไม่ไหวจนเกิดเรื่องมาขนาดนี้ ฉลาดสู้นายไม่ได้เลยจริง ๆ นึกไม่ถึงเลยว่าชอบเธอมานานขนาดนี้แต่ใครจะคิดว่าไม่ใช่คนง่าย ๆ เลย”“นายพูดอะไรนะ ลองพูดใหม่สิ!!”หมอภาสพึ่งจะเริ่มเปลี่ยนสายตาเป็นโกรธก็ตอนนี้เองเมื่อได้ยินหมอกิตพูดถึงอลิศ“ไม่ต้องตกใจไปหรอก ฉันพยายามเข้าหาเธอทุกทางตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นคนสบาย ๆ และเข้าหาง่าย ๆ เพราะเธอเป็นคนแบบนั้น นายก็เห็นนี่ว่าเธอเป็นผู้หญิงแรง ๆ ใครจะคิดว่าจะหวงเนื้อหวงตัวขนาดนั้น น่าเสียดายนะแต่ก็ดีแล้วที่เป็นนายและยังดีที่เธอไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกรวิศให้พวกเราเสียเพื่อน”“ฉันลบไฟล์กล้องวงจรปิดนั่นหมดแล้ว หลักฐานที่โรงพยาบาลก็ไม่มีแล้ว วางใจได้”“ขอบใจนายมาก จากนี้ก็…ฝากดูแลน้องสาวคนนั้น
“วะ…ว่ายังไงนะ”“แพน ไปเถอะ”“เดี๋ยวก่อน!! อลิศนี่หมายความว่ายังไง เธอจะเหมาหมอทั้งโรงพยาบาลเลยงั้นเหรอ พึ่งรู้นะว่าเธอสำส่อนขนาดนี้”“เพี๊ยะ!!”“อลิศ!!”หมอกิตและหมอภาสเดินกลับมา ฝ่ามือบางฟาดไปที่หน้าบอบบางของแพนจนเกิดรอยแดง ตอนนี้ไม่เพียงแค่พวกเธอแต่คนอื่น ๆ ด้านนอกก็เริ่มหันมามองแล้วว่าด้านในนี้เกิดอะไรขึ้น“อลิศ…แกตบฉันเหรอ”“หนึ่ง แพนเธอเข้าใจผิดที่บอกว่าฉันเหมาหมอทั้งโรงพยาบาลเพราะว่าฉันกับหมอกิตแค่คบกันเป็นแฟน และความสัมพันธ์นั้น มันจบไปตั้งแต่เมื่อคืนที่เขาเข้าห้องไปกับเพื่อนของเธอแล้ว”“อลิศ เรา…”“พอเถอะจอย เรื่องก็เกิดขึ้นแล้วนอนก็นอนด้วยกันแล้วนี่”“เราขอโทษ”“สองก็คือเรื่องส่วนตัวของฉันไม่จำเป็นต้องบอกกับเธอทุกเรื่อง พอสักทีกับท่าทีเสแสร้งอ่อนแอและเป็นคุณหนูที่น่าสงสารนี่ แพนเธอก็รู้ว่าคนอย่างฉันไม่ได้ยอมให้ใครมายืนด่าง่าย ๆ ตบนี้แค่สั่งสอนเรื่องที่เธอพูดออกมาวันนี้ หากไม่มีอะไรแล้ว พวกเธอก็กลับเถอะ ครั้งนี้ฉันจะลืมไปเสียว่ามันเคยเกิดขึ้น”“ลืมเหรอ อลิศเธอก็รู้ว่าฉัน…ฉันชอบคุณหมอภาส”อลิศยืนกอดอกและหันไปชี้ให้หมอภาสไปนั่งรอกับหมอกิต สายตาเธอดุเอาเรื่องทั้งเขาทั้งหมอกิตจึง
เขายืนบังอลิศเอาไว้ซึ่งเธอก็ไม่ได้จะกลัวหมอกิตเลยแม้แต่น้อยและจับแขนหมอภาสเอาไว้ เมื่อหมอกิตโกรธจนหน้าแดงและต้องการคุยกับเธอ“อลิศ พี่ถามว่า….”“ถามตัวเองก่อนเถอะค่ะ ทำไมหมอกิตออกมาจากห้องคนเดียวล่ะคะ”“แล้วจะให้พี่ออกมากับใคร”“ยังจะถามอีกเหรอคะ เมื่อคืนหมอกิตไม่ได้เข้าห้องไปกับจอยงั้นเหรอคะ ที่อลิศกับหมอภาสเห็นพวกคุณแทบจะยืนขี่กันหน้าห้องอยู่แล้ว”“อลิศ!! ทำไมพูดไม่เพราะแบบนี้”“หมอภาสคะ อลิศ…”“เงียบไปเลย เอากระเป๋าเข้าห้องไปก่อน”“ไม่เอาค่ะ อลิศจะพูดกับเขาให้รู้เรื่อง”“ยังไม่ต้อง…หมอกิต อีกยี่สิบนาทีผมกับอลิศจะลงไปคุยกับคุณที่ห้องอาหารก็แล้วกัน เวลานี้น่าจะกินกันครบแล้ว”“ทำไมผมต้อง….”หมอภาสใช้มือกันอลิศเอาไว้จนมิดเพื่อไม่เปิดโอกาสให้หมอกิตได้คุยกับเธออีก สายตาของหมอภาสนิ่งและเยือกเย็นจนหมอกิตไม่กล้าพูดมาก ในเมื่อพวกเขารู้เรื่องของจอยเมื่อคืนแล้ว….“ก็ได้ ผมจะลงไปรอพวกคุณข้างล่าง”หมอกิตเดินผ่านทั้งคู่ไป หมอภาสกันอลิศเอาไว้ไม่ให้เธอมองหน้าหมอกิตได้อีกเพราะเขากลัวว่าเธอจะเผลอร้องไห้ออกมา เขาหันกลับมามองเธอที่ก้มหน้าอยู่ข้างหลังเขา“อลิศ เป็นอะไร….คุณทำอะไรเนี่ย”เขาหันไปและตะคอกค
อลิศรีบลุกจากเตียงทันทีและเริ่มเก็บของรวมถึงชุดของเธอและค่อย ๆ ย่องเข้าห้องน้ำเมื่อเธอสวมชุดเสร็จแล้วเดินออกจากห้องน้ำก็พบว่าคุณหมอภาสยืนรอเธออยู่หน้าห้องน้ำเขาสวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำแค่ตัวเดียว“จะไปไหนแต่เช้าเหรอ”“หมอภาสคะ คือ….เมื่อคืนนี้อลิศ…”“คุณคิดจะรับผิดชอบผมยังไง”“คะ??”อลิศหันมาถลึงตามองเขาอีกครั้งอย่างไม่เชื่อสายตาและไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องนี้ออกมา ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้เธอเป็นคนเสียหายหรอกเหรอ แต่คนที่กำลังถามหาความรับผิดชอบอยู่ตรงนี้…กลับเป็นเขางั้นเหรอ“เอ่อ…หมอคะ เมื่อกี้นี้คุณบอกว่า…”“คุณทำให้ผมเสียหาย แล้วคิดจะกินทิ้งกินขว้างแบบนี้เลยเหรอง่ายไปหน่อยมั้ง”“เดี๋ยวนะคะอลิศยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยค่ะหมอ ใจเย็น ๆ แล้วค่อย ๆ คุยกันนะคะ”เขาเดินเข้ามาดึงรวบตัวเธอมากอดและอุ้มไปที่เตียงอีกครั้ง อลิศตอนนี้ได้สติเต็มที่ ความทรงจำเมื่อคืนนี้เริ่มกลับมาครบถ้วนก็ตอนที่หมอภาสอุ้มเธอกลับมาที่เตียงนี้อีกครั้งนี่เอง“หมอคะ….”“ผมถามคุณคำเดียว คุณจำเรื่องเมื่อคืนนี้ได้บ้างไหม”อลิศสบตาเขา ในตอนเช้าที่เขาไม่สวมแว่นและมีแค่เสื้อคลุมตัวเดียวเมื่อเธอได้มองแบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาช่างน่ามองมากจร
อลิศที่ยืนตัวแข็งทื่อถึงกับต้องหันไปมองพวกเขาอีกครั้ง“นี่…อื้ออ”ทั้งสองคนที่สุดทางเดินหันมามองแต่ทางเดินก็ไร้ผู้คน ไม่มีใครอยู่“อ๊าา อย่าเลียตรงนี้สิคะ เปิดห้องเร็วเข้าที่นี่ไม่ใช่คอนโดคุณนะคะหมอกิตเร็วเถอะค่ะจอยทนไม่ไหวอยากจะกินคุณแล้ว”“อย่ารีบร้อนสิ ไหนบอกว่าคืนนี้จะทำทั้งคืนไงล่ะคนสวย”“คุณนี่มันร้ายนะคะ พอรู้ว่าจะมาที่นี่ก็เตรียมตัวเลยสินะ”“พูดมากรีบไปเถอะผมทนไม่ไหวแล้ว”“อ๊าา…หมอกิตคะ อ๊า”น้ำตาอลิศไหลลงไปโดนฝ่ามือของหมอภาสที่ปิดปากเธออยู่ทำให้เขารู้ว่าเธอคงเจ็บปวดมากแค่ไหนที่ต้องมาเห็นภาพของแฟนหนุ่มในสภาพนี้ เขาพึ่งตามมาในตอนเย็นนี้เองแต่ก็พอจะรู้ว่าหมอกิตหายไปจากปาร์ตี้และเขาเห็นแล้วว่าอลิศเองก็กำลังจะขึ้นมา แต่ไม่คิดว่าสองคนนั้นจะ…..“อลิศ คุณ….ไหวไหม”“ฮือ…”“เข้ามาก่อนไหม”เขาเปิดห้องแล้วเธอจึงรีบวิ่งเข้าไป เมื่อครู่นี้เขาดึงตัวเธอเข้ามาที่ซอกของห้องพักได้ทันก่อนที่หมอกิตจะหันมาเห็นพวกเขา แต่นึกไม่ถึงว่าจะทำให้อลิศได้รับฟังเรื่องที่ไม่สมควรจะได้ฟัง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หมอกิตหักหลังเธอ และไม่ใช่กับใครที่ไหน แต่เป็นเพื่อนของเธอเองที่ย้ายไปที่แผนกของเขา หมอภาสปิดประตูและถ
ราวกับทุกอย่างตรงหน้าหยุดลงกะทันหัน และดูเหมือนกับบางอย่างในร่างกายของทั้งคู่เต้นเป็นจังหวะเดียวกันเมื่อหมอภาสค่อย ๆ บดริมฝีปากหนาที่ถูกเธอกัดเมื่อครู่นี้ลงไปและละเมียดสอนเธอเบา ๆ อย่างใจเย็นอลิศค่อย ๆ ใช้มือเรียวโอบรอบคอของหมอภาสเบา ๆ ลิ้นหนาค่อย ๆ ส่งเข้าไปในปากเธออย่างระมัดระวังเพราะเขาไม่อยากถูกกัดอีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นแบบนั้น เธอเรียนรู้ได้ไวเกินกว่าที่เขาจะคิด“อลิศ พอแค่นี้ก่อนไหม”เธอดันตัวเขาล้มลงไปที่เตียงอย่างไม่ทันตั้งตัวและขึ้นมาคร่อมตัวเขาทันทีพร้อมกับก้มลงจูบเขาอีกครั้ง หมอภาสรู้สึกว่าความอดทนของเขาขาดผึงลงในตอนนี้เองที่เธอตัดสินใจ เขาจับร่างบางพลิกลงไปและเปลี่ยนเป็นคนเดินเกมเองในทันที“คุณแน่ใจแล้วนะ ถ้าเรามาถึงขั้นนี้ จะถอยตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว อลิศ ผมให้โอกาสคุณ….”แต่เธอไม่ให้โอกาสเขาได้พูดเลยเมื่อเธอลุกขึ้นมาและจูบเขาอีกครั้ง เดรสสวยถูกเขากระชากออกมา ไหล่ขาวเนียนปรากฏแก่สายตา หมอภาสถอดแว่นออกแล้วและเริ่มดึงเสื้อเชิ้ตของเขาโดยมีเธอที่ช่วยปลดกระดุมให้ ปากของทั้งคู่แทบจะไม่ห่างกันเมื่อเริ่มปลดปล่อยสิ่งที่กีดขวางทางออก“อ๊าา….นี่มันอะไร”“ใจเย็น ๆ เราพึ่งเริ่ม ไม่ต้องรีบ”
สามวันที่เหลือนี้อลิศช่วยงานของหมอภาสได้มากทีเดียวทั้งช่วยตรวจสอบยาและเตรียมยาสำหรับผู้ป่วยที่จะออกจากโรงพยาบาลโดยที่เขาไม่ต้องตรวจซ้ำพยาบาลที่กำลังยุ่งกับเรื่องอื่นมีเธอช่วยก็ผ่อนแรงไปได้มากจนตอนนี้หมอภาสแทบจะเดินติดกับอลิศเวลาที่จะมีผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล“เดี๋ยวคุณสั่งเพิ่มโดสของยาแก้ปวด อ้อแล้วก็เพิ่มปลาสเตอร์กันน้ำไปด้วยกันแผลปริระหว่างที่ผู้ป่วยรอนัดอีกครั้ง”“ทราบแล้วค่ะคุณหมองั้นอลิศส่งรายการไปที่ห้องยาเลยนะ”“อ้อเดี๋ยวนะอลิศ คุณช่วยเพิ่มยาทาป้องกันรอยแผลเป็นไปด้วยผมเกือบลืมไปเลยคนไข้ค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องรอยแผลเป็นหลังจากการผ่าตัดน่ะ”“ได้ค่ะ แต่ว่ายานี้ต้องทาหลังจากที่เปลี่ยนเป็นปลาสเตอร์ธรรมดาแล้วนะคะคุณหมอจะจ่ายให้ตอนนี้เลยเหรอ”“เอ่อ นั่นสิ…ดูผมสิ มั่วไปหมดแล้ว เอาเป็นว่า…”“งั้นให้เธอกินยาไปก่อนดีไหมคะ ยาตัวนี้แก้ผลข้างเคียงได้หากว่าเธอกลัว นัดครั้งหน้าตอนที่แกะปลาสเตอร์เปลี่ยนเป็นแบบธรรมดาแล้วค่อยสั่งจ่ายอีกครั้ง”“ได้ เอาตามคุณว่ามาเลย ไปเถอะ ฝ่ายการเงินน่าจะมาถึงตอนก่อนเที่ยงจะได้ไม่เสียเวลาคุณไปทานข้าว”“ได้ค่ะคุณหมอ ไม่มีรายการอื่นเพิ่มแล้วใช่ไหมคะ”“ไม่มีแล้วรีบไป
อลิศหันไปมองหน้าที่เย็นชาไร้ความรู้สึกที่พูดเสียงเรียบ ๆ นั้นออกมา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขากับญานิศาถึงได้มีปัญหากับเธอนัก แล้วทำไมยัยนั่นต้องมีปัญหาทุกครั้งที่เธอต้องเป็นคนไปรับยามาให้เขาทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอก็ทำงานของเธอปกติ“คุณหมอคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวและอลิศเองก็ไม่เคยเอาเรื่องของคุณหมอกิตมาเกี่ยวข้องกับการทำงาน อลิศทำงานเต็มที่ที่ได้รับมอบหมายแต่พวกคุณต่างหากที่ต้องการอะไรกันแน่ ทำไมคนที่ทำผิดยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในโรงพยาบาลได้แต่คนที่ถูกตำหนิและสั่งย้ายแผนกถึงต้องเป็นพวกอลิศ”“นี่คุณคิดว่าการที่คุณถูกสั่งย้ายมานี่…คือการกลั่นแกล้งงั้นเหรอ”“แล้วไม่ใช่เหรอคะ พวกคุณแค่สั่งย้ายแต่ไม่ได้อธิบายเหตุผลอะไรให้ทราบเลยนี่คะ”หมอภาสนั่งลงที่เก้าอี้ของเขาและเป็นครั้งแรกที่เขาถอดแว่นออกมา สายตาของเขาอิดโรยอย่างเห็นได้ชัดเพราะก่อนหน้านี้เขาอยู่ในห้องผ่าตัดมาเกือบแปดชั่วโมงและเมื่อออกมาต้องมาพบความผิดพลาดเดิม ๆ อีกครั้ง และครั้งนี้เขาจะไม่อยู่เฉย ๆ อีกแล้ว“คุณเข้าใจแบบนั้นมาตลอดเลยสินะถึงได้…ช่างเถอะ เหลืออีกแค่ไม่กี่วัน ฝืนใจหน่อยก็แล้วกัน ออกไปได้แล้ว”อลิศอดไม่ได้ที่จะหันไปมองใบหน้า
Comments