แชร์

ตอนที่  7 คุณหมอเลือดเย็น

 

อลิศหันไปมองหน้าที่เย็นชาไร้ความรู้สึกที่พูดเสียงเรียบ ๆ นั้นออกมา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขากับญานิศาถึงได้มีปัญหากับเธอนัก แล้วทำไมยัยนั่นต้องมีปัญหาทุกครั้งที่เธอต้องเป็นคนไปรับยามาให้เขาทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอก็ทำงานของเธอปกติ

“คุณหมอคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวและอลิศเองก็ไม่เคยเอาเรื่องของคุณหมอกิตมาเกี่ยวข้องกับการทำงาน อลิศทำงานเต็มที่ที่ได้รับมอบหมายแต่พวกคุณต่างหากที่ต้องการอะไรกันแน่ ทำไมคนที่ทำผิดยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในโรงพยาบาลได้แต่คนที่ถูกตำหนิและสั่งย้ายแผนกถึงต้องเป็นพวกอลิศ”

“นี่คุณคิดว่าการที่คุณถูกสั่งย้ายมานี่…คือการกลั่นแกล้งงั้นเหรอ”

“แล้วไม่ใช่เหรอคะ พวกคุณแค่สั่งย้ายแต่ไม่ได้อธิบายเหตุผลอะไรให้ทราบเลยนี่คะ”

หมอภาสนั่งลงที่เก้าอี้ของเขาและเป็นครั้งแรกที่เขาถอดแว่นออกมา สายตาของเขาอิดโรยอย่างเห็นได้ชัดเพราะก่อนหน้านี้เขาอยู่ในห้องผ่าตัดมาเกือบแปดชั่วโมงและเมื่อออกมาต้องมาพบความผิดพลาดเดิม ๆ อีกครั้ง และครั้งนี้เขาจะไม่อยู่เฉย ๆ อีกแล้ว

“คุณเข้าใจแบบนั้นมาตลอดเลยสินะถึงได้…ช่างเถอะ เหลืออีกแค่ไม่กี่วัน ฝืนใจหน่อยก็แล้วกัน ออกไปได้แล้ว”

อลิศอดไม่ได้ที่จะหันไปมองใบหน้าหล่อที่ไร้แว่นตาและหันข้างให้เธออยู่ แม้ว่าเขาจะเย็นชาแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหมอภาสคนนี้ หล่อชะมัดเลย!!

“เวลาที่เหลือก็….ฝากด้วยก็แล้วกันค่ะ อลิศเองก็จะพยายามไม่มาให้คุณหมอวุ่นวายและ…จะพยายามไม่ต้องไปจับผิดแฟนคุณหมอให้มากนัก”

“ผมบอกว่า…”

“ขอตัวนะคะ สวัสดีค่ะคุณหมอ”

เขาค่อย ๆ เอนตัวลงกับเก้าอี้และหลับตาลงเพื่อคลายความตึงเครียดอีกครั้งเมื่อเธอเดินออกไปและปิดประตูแล้ว เขาเปิดม่านออกและมองดูบรรยากาศข้างนอกเพื่อสงบจิตใจอีกครั้ง

“ใครเขาฝืนใจกัน เมื่อไหร่จะโตสักทีนะ…..”

สามวันก่อนฝึกงานจบ

“จริงเหรอเนี่ย เรื่องใหญ่เลยนะ”

“ก็มันสะสมน่ะ ก็เลย…”

“พยานหลักฐานแน่นหนาครั้งนี้เชือดจริง”

“ไม่ได้เป็นแล้วสินะคุณนายหมอ”

“พี่หลิว พี่น้ำ มีอะไรกันคะ ซุบซิบอะไร นั่นแน่…คงไม่ได้แอบเม้าเรื่องดาราเมื่อคืนใช่ไหมคะ”

“อลิศ เบา ๆ หน่อย ข่าวใหญ่ฟ้าผ่าแต่เช้าเลยน่ะสิ”

"มีอะไรเหรอคะ"

อลิศและนิวเกาะเค้าน์เตอร์ในช่วงเช้าที่ไม่ค่อยมีคนเดินไปมา เมื่อพี่พยาบาลหลิวและพี่น้ำค่อย ๆ คุยด้วยเสียงที่เบากับพวกเธอ

“เภสัชประจำห้องยา ถูกให้เซ็นใบลาออก”

“อะไรนะคะ!! หรือจะเป็น…อลิศแกว่าใช่ไหม”

“ญานิศา ที่เดินมาหาหมอภาสบ่อย ๆ คนนั้นแหละ”

อลิศฟังเรื่องนี้แล้วรู้สึกงุนงงแต่เช้า เธอคงไม่ได้ฟังผิดไปหรอกใช่ไหมว่าญานิศาพึ่งจะถูกสั่งให้ออกจากงานแบบฟ้าผ่าก่อนที่เธอจะจบโปรเจคฝึกงานอีกแค่สามวัน

“มันเกิดอะไรขึ้นคะ”

“ที่จริงไม่มีใครบอกหรอกว่าเรื่องมันเกิดเพราะอะไรแต่ว่าแฟนพี่ทำงานในแผนกกล้องวงจรปิด เขาบอกว่าเป็นหมอภาสที่ไปรวบรวมหลักฐานจากกล้องย้อนหลังและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดทั้งก่อนและหลังจากที่เด็กฝึกงานเปลี่ยนไปหลายชุด สาเหตุก็เพราะมีแค่ยาที่จ่ายให้ผู้ป่วยของหมอภาสเท่านั้นที่มีปัญหา เขาเลยลงไปจัดการเอง”

“ว่ายังไงนะคะ คุณหมอภาสคนนั้นเหรอคะ”

“ใช่แล้ว แฟนพี่บอกอีกว่าหมอภาสใช้เวลาตรวจสอบอยู่หลายวันและให้แฟนพี่ตัดคลิปบางส่วนที่ต้องใช้ออกมา เขารวบรวมข้อมูลน่าจะหลังจากที่พวกเธอย้ายมาที่นี่แล้ว เขาเสนอรายงานนี้ไปที่ผู้บริหารโดยตรงดังนั้นข้างล่างนี่ก็ไม่รู้เรื่อง แต่คนในแผนกรวมถึงตัวเภสัชคนนั้น รู้แล้วว่าเป็นใคร”

“ที่แท้ ที่เขาสั่งย้ายพวกเรามาที่นี่….เป็นเพราะปกป้องพวกเรางั้นเหรอ”

“อาจารย์ภาสน่ะไม่ชอบพูดแต่ชอบทำ เขาปากร้ายแต่ใจดีสุด ๆ เราถึงสบายใจถ้าวันไหนหมอภาสอยู่เคสที่เร่งด่วนจะถูกแก้ไขหมดยังไงล่ะ”

“อลิศ แก….”

“วันนี้คุณหมอภาส…เข้ามากี่โมงคะ”

“วันนี้…น่าจะช่วงบ่าย ๆ เลยค่ะเห็นว่ามีผ่าตัด”

“ขอบคุณค่ะพี่หลิว”

อลิศเดินเข้ามาในห้องที่พวกเธอใช้พักและวางของในห้องทำงาน นิวปิดประตูตามเข้ามาหลังจากที่เธอเข้ามาแล้ว อลิศค่อย ๆ นั่งลงและคิดเรื่องที่พี่ ๆ พยาบาลเล่าให้ฟัง

ที่แท้ทั้งหมดนี่ก็เป็นสิ่งที่หมอภาสคิดเอาไว้ก่อนแล้ว เขาแค่อยากรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดและมีช่วงเวลาที่เปรียบเทียบกันระหว่างตอนที่พวกเธอทำงานที่นั่นและตอนที่ย้ายออกมาทำให้ญานิศาไร้ข้อแก้ตัวและหมดหนทางจะหาเรื่องพวกเธอได้อีก

“อลิศ แกคิดว่าเราควรไปขอโทษคุณหมอภาสสักหน่อยไหมก่อนที่จะจบการฝึกงาน”

“ฉัน…พึ่งจะทะเลาะกับเขาเมื่อวันก่อนนี้เองนึกไม่ถึงว่าคนที่ช่วยพวกเรา…จะเป็นเขามาตลอด”

“เราเข้าใจคุณหมอผิดมาตลอดเลยคิดว่าเขาปกป้องพี่นิศา ที่ไหนได้รอเชือดแบบเลือดเย็นสุด ๆ เลยเห็นว่าแกร้องไห้ต่อหน้าผู้บริหารแต่หมอภาสก็ไม่ได้ช่วยเธอเลยสักนิด”

“แกรู้ได้ยังไง”

“พี่หลิวบอกฉันก่อนที่จะเดินตามแกเข้ามา หมอภาสเลือดเย็นมากเลยนะ แสดงว่าเขารู้มาตลอดว่าพี่นิศาคือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ฉันเริ่มรู้สึกผิดกับคุณหมอแล้วล่ะ ด่าเขาไปเสียเยอะแยะเลย อลิศทำไมแกหน้าซีดขนาดนั้นล่ะ”

“ไม่มีอะไรหรอก เอาเป็นว่าเหลืออีกสามวันก็ทำตัวดี ๆ แล้วก็เตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาสักหน่อยก็แล้วกันวันงานเลี้ยงจบโปรเจคนี้น่ะ”

“อืม เห็นด้วย เฮ้อ…คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆ คนนิ่ง ๆ ขรึม ๆ แบบนั้นเวลาเอาจริงขึ้นมาโคตรโหดเลย”

นิวเดินไปหยิบเอกสารและเดินออกจากห้องไปแล้วเพื่อจะไปให้เจ้าหน้าที่เซ็น อลิศที่นั่งอยู่ในห้องรู้สึกเหมือนกับสับสนบางอย่าง

ตอนนี้แม้ว่าเธอจะคบหาอยู่กับหมอกิตที่เป็นรักครั้งแรกของเธอ แต่เธอกลับรู้สึกอึดอัดเมื่อหมอกิตเริ่มรุกเข้าหาเธอแบบรวดเร็วจนเธอตั้งรับไม่ทัน และยังมีเรื่องในโรงพยาบาลนี้อีก

“ให้จบเรื่องนี้ไปก่อนก็แล้วกันค่อยว่ากันใหม่”

ห้องพักคุณหมอ

“ก๊อก ก๊อก”

“เข้ามาได้”

หมอภาสหันไปถอดเสื้อกาวน์แขวนเอาไว้และเมื่อหันมาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นกาแฟและขนมที่อลิศยกเข้ามาให้เขา

“นี่อะไร”

“เอ่อ…อลิศกับนิวจะฝึกงานจบแล้วค่ะ ก็เลยอยากเลี้ยงกาแฟคุณหมอสักแก้ว”

“เลี้ยงกาแฟ??”

“ค่ะ ยังมีขนมด้วยค่ะ ไม่รู้ว่าคุณหมอชอบแบบไหน…ก็เลยซื้อมาเยอะเลย”

“ให้หมอทุกคนในแผนกเลยเหรอ”

“เอ่อ…”

“ขอบใจนะ แต่ว่าผม…ไม่กินคาปูชิโน่น่ะ”

“อ้าว…ว่าแล้วเชียว”

หมอภาสที่เปิดคอมพิวเตอร์และพิมพ์บางอย่างส่งไปที่ห้องยาเพื่อสั่งงานหันมามองหน้าเธอที่ผิดหวังเล็กน้อยที่ซื้อกาแฟผิดมาให้เขา

“ช่างเถอะ ก็พอกินได้ขอบใจมาก”

“ไม่ค่ะ ๆๆ คุณหมอปกติแล้วดื่มกาแฟอะไรเหรอคะ”

“ผม…”

เขาหันไปมองหน้าเธอที่ทำหน้าอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็ก ๆ แล้วนึกขำกึ่งตกใจที่จู่ ๆ วันนี้เธอยอมมาหาเขาในห้องนี้ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาแทบจะไม่เห็นเธอเลย

ตั้งแต่วันที่เขากับเธอมีปากเสียงกันวันก่อน แต่เขาก็เดาได้ไม่ยากเพราะว่าเขาเองก็พึ่งรู้ว่าเจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการเรื่องกล้องวงจรปิดที่พึ่งทำงานด้วยนั้นเป็นแฟนของพยาบาลแผนกของเขาเอง

“คะ คุณหมอ”

“คือว่าผมดื่มแค่กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล”

“กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล โอเคค่ะ งั้นรอสักครู่นะคะเดี๋ยวจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

“เอ่อ…ไม่ต้องรีบวิ่งเดี๋ยวจะ….หกล้ม”

แต่อลิศวิ่งออกไปจากห้องของเขาแล้วพร้อมกับปิดประตูให้ เขาหันมาส่ายหน้าและอดยิ้มให้กับท่าทางเมื่อครู่นี้ของเธอไม่ได้เลย เป็นท่าทางที่เขาเคยเห็นเมื่อก่อนเป็นประจำ แต่ตอนนี้แทบจะไม่เห็นอีกเลย

“ไม่เคยจำได้เลยสินะ ถ้าไม่ใช่เรื่องของหมอกิต”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status