เขายืนบังอลิศเอาไว้ซึ่งเธอก็ไม่ได้จะกลัวหมอกิตเลยแม้แต่น้อยและจับแขนหมอภาสเอาไว้ เมื่อหมอกิตโกรธจนหน้าแดงและต้องการคุยกับเธอ“อลิศ พี่ถามว่า….”“ถามตัวเองก่อนเถอะค่ะ ทำไมหมอกิตออกมาจากห้องคนเดียวล่ะคะ”“แล้วจะให้พี่ออกมากับใคร”“ยังจะถามอีกเหรอคะ เมื่อคืนหมอกิตไม่ได้เข้าห้องไปกับจอยงั้นเหรอคะ ที่อลิศกับหมอภาสเห็นพวกคุณแทบจะยืนขี่กันหน้าห้องอยู่แล้ว”“อลิศ!! ทำไมพูดไม่เพราะแบบนี้”“หมอภาสคะ อลิศ…”“เงียบไปเลย เอากระเป๋าเข้าห้องไปก่อน”“ไม่เอาค่ะ อลิศจะพูดกับเขาให้รู้เรื่อง”“ยังไม่ต้อง…หมอกิต อีกยี่สิบนาทีผมกับอลิศจะลงไปคุยกับคุณที่ห้องอาหารก็แล้วกัน เวลานี้น่าจะกินกันครบแล้ว”“ทำไมผมต้อง….”หมอภาสใช้มือกันอลิศเอาไว้จนมิดเพื่อไม่เปิดโอกาสให้หมอกิตได้คุยกับเธออีก สายตาของหมอภาสนิ่งและเยือกเย็นจนหมอกิตไม่กล้าพูดมาก ในเมื่อพวกเขารู้เรื่องของจอยเมื่อคืนแล้ว….“ก็ได้ ผมจะลงไปรอพวกคุณข้างล่าง”หมอกิตเดินผ่านทั้งคู่ไป หมอภาสกันอลิศเอาไว้ไม่ให้เธอมองหน้าหมอกิตได้อีกเพราะเขากลัวว่าเธอจะเผลอร้องไห้ออกมา เขาหันกลับมามองเธอที่ก้มหน้าอยู่ข้างหลังเขา“อลิศ เป็นอะไร….คุณทำอะไรเนี่ย”เขาหันไปและตะคอกค
“วะ…ว่ายังไงนะ”“แพน ไปเถอะ”“เดี๋ยวก่อน!! อลิศนี่หมายความว่ายังไง เธอจะเหมาหมอทั้งโรงพยาบาลเลยงั้นเหรอ พึ่งรู้นะว่าเธอสำส่อนขนาดนี้”“เพี๊ยะ!!”“อลิศ!!”หมอกิตและหมอภาสเดินกลับมา ฝ่ามือบางฟาดไปที่หน้าบอบบางของแพนจนเกิดรอยแดง ตอนนี้ไม่เพียงแค่พวกเธอแต่คนอื่น ๆ ด้านนอกก็เริ่มหันมามองแล้วว่าด้านในนี้เกิดอะไรขึ้น“อลิศ…แกตบฉันเหรอ”“หนึ่ง แพนเธอเข้าใจผิดที่บอกว่าฉันเหมาหมอทั้งโรงพยาบาลเพราะว่าฉันกับหมอกิตแค่คบกันเป็นแฟน และความสัมพันธ์นั้น มันจบไปตั้งแต่เมื่อคืนที่เขาเข้าห้องไปกับเพื่อนของเธอแล้ว”“อลิศ เรา…”“พอเถอะจอย เรื่องก็เกิดขึ้นแล้วนอนก็นอนด้วยกันแล้วนี่”“เราขอโทษ”“สองก็คือเรื่องส่วนตัวของฉันไม่จำเป็นต้องบอกกับเธอทุกเรื่อง พอสักทีกับท่าทีเสแสร้งอ่อนแอและเป็นคุณหนูที่น่าสงสารนี่ แพนเธอก็รู้ว่าคนอย่างฉันไม่ได้ยอมให้ใครมายืนด่าง่าย ๆ ตบนี้แค่สั่งสอนเรื่องที่เธอพูดออกมาวันนี้ หากไม่มีอะไรแล้ว พวกเธอก็กลับเถอะ ครั้งนี้ฉันจะลืมไปเสียว่ามันเคยเกิดขึ้น”“ลืมเหรอ อลิศเธอก็รู้ว่าฉัน…ฉันชอบคุณหมอภาส”อลิศยืนกอดอกและหันไปชี้ให้หมอภาสไปนั่งรอกับหมอกิต สายตาเธอดุเอาเรื่องทั้งเขาทั้งหมอกิตจึง
จู่ ๆ หมอกิตก็หัวเราะออกมาราวกับคนบ้าและหันไปมองหน้าหมอภาสที่ยังนั่งอยู่ตรงข้าม เขาเพียงแค่มองหมอกิตแต่ไม่ได้พูดอะไร“ญานิศา….หึ ฉันน่าจะนึกออกนะ เพราะแบบนี้นายก็เลยตรวจกล้องที่แผนกของฉันด้วยสินะ มิน่าล่ะ”หมอภาสแค่ขยับแว่นเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะหันไปพูดกับเขา“ถ้าหากนายไม่ทำประเจิดประเจ้อและพาเธอไปทำในที่ลับตาคน ต่อให้มีกล้องก็ทำอะไรพวกนายไม่ได้”“นั่นสินะ ฉันนี่มันโง่จริง ๆ อดใจไม่ไหวจนเกิดเรื่องมาขนาดนี้ ฉลาดสู้นายไม่ได้เลยจริง ๆ นึกไม่ถึงเลยว่าชอบเธอมานานขนาดนี้แต่ใครจะคิดว่าไม่ใช่คนง่าย ๆ เลย”“นายพูดอะไรนะ ลองพูดใหม่สิ!!”หมอภาสพึ่งจะเริ่มเปลี่ยนสายตาเป็นโกรธก็ตอนนี้เองเมื่อได้ยินหมอกิตพูดถึงอลิศ“ไม่ต้องตกใจไปหรอก ฉันพยายามเข้าหาเธอทุกทางตอนแรกก็คิดว่าจะเป็นคนสบาย ๆ และเข้าหาง่าย ๆ เพราะเธอเป็นคนแบบนั้น นายก็เห็นนี่ว่าเธอเป็นผู้หญิงแรง ๆ ใครจะคิดว่าจะหวงเนื้อหวงตัวขนาดนั้น น่าเสียดายนะแต่ก็ดีแล้วที่เป็นนายและยังดีที่เธอไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกรวิศให้พวกเราเสียเพื่อน”“ฉันลบไฟล์กล้องวงจรปิดนั่นหมดแล้ว หลักฐานที่โรงพยาบาลก็ไม่มีแล้ว วางใจได้”“ขอบใจนายมาก จากนี้ก็…ฝากดูแลน้องสาวคนนั้น
อลิศล้มตัวลงซบที่ไหล่เขาทันทีเพราะความอ่อนเพลียจากความปวดท้อง เขาเก็บของของเธอเข้าไปในกระเป๋าและเริ่มเก็บของของตัวเองระหว่างที่เธอนอนพักอยู่ที่เตียง เมื่อเสร็จแล้วเขาจึงโทรให้พนักงานมาช่วยยกกระเป๋า ส่วนเขาต้องอุ้มเธอออกมาจากห้องพักและพาไปที่รถ“รอเดี๋ยวนะผมจะปรับเบาะให้”“อือ….หมอ….”“ยังปวดอยู่เหรอ”“อลิศหิว”“งั้นรีบไปกันเถอะ วันนี้อาหารทะเลก็งดก่อน…อะไร”เขาถามเมื่อเธอเกาะแขนเขา“อาหารทะเลไม่น่าจะทำให้ปวดท้องนะคะ อลิศอยากกินข้าวผัดปูค่ะ”“ก็ได้ ๆ งั้นปล่อยมือก่อนจะได้รีบไป”เธอปล่อยให้เขาจัดการเลื่อนเบาะไฟฟ้าในรถหรูให้เอนลงเพื่อจะได้นอนสบาย ๆ เขาเอาเสื้อสูทของเขามาห่มให้เธอแทนผ้าห่มเพราะในรถของเขาไม่มีของพวกนี้เลยนอกจากกระเป๋ายาและสูทสำหรับออกงานฉุกเฉินร้านอาหารริมทะเล“…อากาศดีจัง ลมข้างนอกก็น่าจะเย็นสบาย ทำไมเราไม่ไปนั่งข้างนอกกันล่ะคะ ในนี้หนาวจะตาย”“ป่วยอยู่ออกไปตากลมมากไม่ดีเดี๋ยวจะไม่สบาย”“อือ…ทำไมหมอต้องดุขนาดนี้ล่ะคะ”“ไม่ได้ดุผมพูดเรื่องจริง ถ้าไม่เป็นห่วงจะพูดแบบนี้เหรอ”“คนที่เขาเป็นห่วงกัน…เขาพูดกันดี ๆ นะคะหมอพูดคำหวาน ๆ เหมือนคนอื่นไม่เป็นเหรอคะ”“จะกินอะไร รีบสั่ง
อาหารมาส่งแล้ว หมอภาสจึงเรียกอลิศมากินข้าวและจัดยาให้เธอกิน ไม่นานเขาก็ขอตัวไปอาบน้ำและเดินกลับเข้ามาในห้องนอนที่เธอนอนขดตัวอยู่กับถุงประคบร้อนที่เขาทำเอาไว้ก่อนอาบน้ำ“ปวดมากเลยเหรอ”“ค่ะ ปกติไม่ได้ปวดมากขนาดนี้”“คงเพราะ…หักโหมไปน่ะแล้วเจอสภาวะที่จะเป็นประจำเดือนพอดี หรือจะให้ฉีดยาแก้ปวดหน่อยไหม”“ไม่เอาค่ะ นอนพักก็น่าจะดีขึ้น คุณหมอคะ…มานอนกอดอลิศหน่อยสิคะ”“ไม่ปวดเหรอ ยิ่งกอดก็ยิ่งจะปวดนะ เอาถุงน้ำร้อนมาผมจะเอาไปเปลี่ยนให้ เดี๋ยววัดไข้หน่อย”เธอยกถุงน้ำร้อนส่งให้เขาอีกครั้ง เมื่อเขาเปลี่ยนน้ำร้อนมาให้แล้วเธอก็ขดตัวและซุกตัวเข้าหาเขาทันที เมื่อมองเธอในตอนนี้แล้วก็ไม่ได้ต่างกับลูกแมวเชื่อง ๆ ตัวหนึ่งเลย เขาวัดไข้ให้เธออีกครั้ง“ไข้ลดแล้วเหลือแค่ปวดท้องใช่ไหม จิบน้ำอุ่นหน่อย”“ไม่เอาแล้วจิบจนลวกปากไปหมดแล้ว อยากนอนพักแล้วค่ะ”“ปกติปวดแบบนี้ทุกครั้งเลยไหม วันไหนว่างน่าจะไปตรวจหน่อยนะ”“หมอจะตรวจให้อลิศเหรอคะ”“ผมเป็นหมอศัลยกรรม ไม่ใช่หมอสูติฯเอาไว้ไปโรงพยาบาลแล้วตรวจอีกทีเดี๋ยวผมจะหาคิวของคุณหมอให้ นอนพักเถอะเดี๋ยวจะปิดไฟให้”“แล้วพรุ่งนี้หมอต้องไปที่โรงพยาบาลแต่เช้าเลยเหรอคะ”“ใช่ มี
“อลิศ อาา!!!”นึกไม่ถึงว่าเธอจะคล่องขนาดนี้เมื่อสะโพกเธอเริ่มเบียดและขยับราวกับกำลังขี่ม้าอยู่ หมอภาสต้องระบายความเสียวด้วยมือและนิ้วที่กอบกุมหน้าอกของเธอและเริ่มดูดรวงยอดน้ำผึ้งที่ชูชันอยู่ตรงหน้า อลิศร้องครางเสียงดังเมื่อถูกเขาสัมผัสจุดที่อ่อนไหวที่สุด“หมอคะ อลิศจะเสร็จ!! อ๊าา มันเสียวมาก”เขาเอนตัวลงเล็กน้อยแต่ปากยังไม่หยุดดูดหน้าอกอวบนั้นและเริ่มขยับสะโพกขึ้นมารับจังหวะจากอลิศ เธอใกล้จะบ้าเต็มทีแล้วเมื่อถูกเขาใช้มือจับไปที่บั้นท้ายและจับเธอกระแทกลงมารับลำเอ็นแข็งแกร่งของเขาจนมิดด้าม“อ๊าาา หมอคะ อลิศ…เสร็จแล้ว!! อ๊าาา”เขาเองก็เช่นกันเมื่อส่งเธอถึงสวรรค์แล้วเขาก็ให้เธอพักด้วยการให้เธอนอนหงายแล้วเขาก็จัดการยกขาข้างหนึ่งของเธอพาดมาที่ไหล่และสอดเข้าไปอีกครั้งอลิศเสียวจนจุกที่ท้องน้อยเมื่อเขากระแทกแรง ๆ เข้ามาครั้งแรกจนเผลอร้องออกมา แต่หมอภาสที่กำลังจะถึงสวรรค์แล้วเขาเลยไม่ทันได้สังเกตสีหน้าของแฟนสาว“อาาา…..อลิศ ผม….อึ๊ยย!!!”ร่างหนาค่อย ๆ พาดตัวลงมาซบที่หน้าอกอวบของอลิศอย่างหมดเรี่ยวแรง เธอรับรู้ได้ว่าหมอภาสเหนื่อยมากเมื่อเขานอนหอบหมดแรงอยู่ในท่านั้นพร้อมกับเหงื่อที่ไหลเต็มหลัง“
“อลิศ มาตั้งแต่เมื่อไหร่”เธอมองไปที่กล่องข้าวที่เธออุตส่าห์ทำด้วยตัวเองมาเพื่อเขาแต่กลับถูกทิ้งไปในถังขยะ เธอตั้งคำถามกับตัวเองก่อนจะเดินขึ้นมาหลังจากที่ฟังเรื่องราวจากจอย ตอนแรกเธอไม่คิดจะเชื่อทั้งหมด“เราอยากจะเตือนอลิศอีกเรื่อง”“อะไรเหรอ แต่เราบอกจอยไว้ก่อนนะว่าไม่ต้องห่วงว่าเราจะกลับไปหาหมอกิตเพราะจบก็คือจบ”“ไม่ใช่ ไม่ใช่เรื่องของพี่กิต แต่เป็น…เรื่องแพน”“แพนงั้นเหรอ”อลิศมองหน้าหมอภาสและเดินเข้าไปใกล้ ๆ เขาพร้อมกับหันไปมองกล่องข้าวที่พึ่งถูกทิ้งลงไปในถังขยะ“ข้าวของอลิศมันไม่อร่อยหรือว่ามันทำผิดอะไรเหรอคะหมอถึงได้โยนทิ้งถังขยะแบบนี้”“อะไรนะ กล่องข้าวนี่ เป็นของคุณงั้นเหรอ”“คุณหมอคะ คุณพูดอะไรแปลก ๆ นะคะ ถ้าไม่ใช่อลิศแล้วจะเป็นของใครล่ะคะ หรือว่าในโรงพยาบาลนี้ยังมีคนอื่นที่ทำอาหารมาส่งให้คุณหมอโดยที่คุณหมอไม่ได้บอกอลิศอีก”“อลิศ ฟังก่อนนะ คือเรื่องนี้ไม่ใช่อย่างที่….”“ก๊อก ก๊อก ขออนุญาตค่ะคุณหมอ”เสียงของพยาบาลเดินนำคนอีกสามคนเดินเข้ามาซึ่งอลิศคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะพึ่งคุยกับจอยเรื่องของเธอมาเมื่อครู่นี้เอง“แพน!!”“อลิศ มาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ”“แพน เพื่อนเหรอลูก”ผู้หญิงส
อลิศแทบอยากจะเดินเข้าไปชกหน้าเขา นี่เขาไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าเธอกำลังไม่พอใจและหึงเขากับผู้หญิงอีกคนหนึ่งอยู่ และผู้หญิงคนนั้นเองก็แสดงออกชัดเจนว่าต้องการแย่งเขาไปจากเธอ“หมอคะ นี่หมอ….โง่เหรอถึงได้…ถามออกมาแบบนี้ อลิศรู้แล้วว่าแพนป่วยแต่เนื้องอกนั่นไม่ใช่เนื้อร้ายนี่คะ แล้วหมอคนอื่นไม่มีเหรอคะทำไมเธอต้องเลือกเฉพาะเจาะจงเฉพาะคุณให้ทำการผ่าตัดให้ด้วย”“อลิศ!! พอที!!”อลิศหันมามองหน้าหมอภาสที่ขึ้นเสียงดุกับเธออีกครั้ง วันนี้เขาเหนื่อยกับเรื่องที่โรงพยาบาลมามากพอแล้ว ไม่คิดว่ากลับมายังมาเจอความเอาแต่ใจของอลิศที่ไม่เข้าใจอะไรเลยอยู่ตรงนี้อีก เขาทำไปเพราะหน้าที่รับผิดชอบไม่ได้คิดอย่างอื่น แต่เธอกลับไม่ไว้ใจเขาเลยและเอาแต่โวยวายใส่เขา“นี่คุณ…ขึ้นเสียงกับอลิศเหรอคะ”“ผม…คุณฟังเหตุผลก่อนสิผมเป็นหมอนะ ไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธคนไข้”“ปฏิเสธไม่ได้ ก็ได้ค่ะเข้าใจก็ได้ งั้นเชิญคุณรักษาเธอไปเถอะค่ะอลิศจะไม่ถามอะไรเกี่ยวกับคนไข้คนนี้ของคุณอีกแล้ว”“อลิศ…อลิศคุณจะไปไหน”“จะไปนอน!!”“เดี๋ยวสิ ยังคุยไม่จบเลยนะทำไมไม่ฟังเหตุผลบ้างเลยล่ะ…ไม่หิวข้าวเหรอนี่ก็ค่ำแล้ว หาอะไรกินก่อนเถอะ อลิศ!!”“ไม่ค่ะ ถ้าคุณ