“หมอบ้า!!”เขายกตัวเธอขึ้นมาและวางอย่างเบามือลงที่เตียงนุ่ม ๆ และเริ่มจูบเธออีกครั้ง มือนุ่มของเธอล้วงไปลูบแท่งแกร่งกลางกายของหมอหนุ่มที่กำลังครางในลำคอเพราะสัมผัสของเธอ มือของเขาบีบเคล้นไปที่เนินอกจนมันล้นออกตามร่องนิ้วมือของเขา“อ๊าา หมอคะ นั่นจะทำ อะไร อ๊าา”“ก็บอกแล้วไงว่าจะ "กิน" เตรียมตัวให้ดีคืนนี้ผมจะไม่ให้คุณพักจนกว่าผมจะกินจนอิ่ม"“อ๊าา หมอ อลิศ…เสียวจัง อ๊าา มันวูบวาบ อ๊าา หมอ!! เสียว อึ๊ยยย”เขากระดกลิ้นรัวอยู่ตรงหน้าร่องสวาทนั้นจนเธอแอ่นตัวขึ้นสูง ดูท่าว่าเขาจะมาถูกทางแล้ว เธออ่อนไหวมากจริง ๆ เมื่อลิ้นของเขาเริ่มดันเข้าไปข้างในอลิศก็เสร็จไปก่อนแล้ว เขารู้ได้ทันทีเพราะน้ำที่ไหลออกมาทางร่องนั้นไหลเขาปากของเขา“อ๊าา เสียว!! หมออย่าแกล้งแบบนี้ อ๊าาา”เขาไม่แกล้งเธออีกเพราะความต้องการของเขาก็ยังไม่หมดเช่นกันเมื่อเห็นเธอเสร็จไปแล้วเขาก็ไม่รอช้าที่จะสอดใส่เข้าไปในทันทีและเริ่มกระแทก อลิศโก่งตัวมารับเขาจนสะโพกเธอลอย เขาจับเอาไว้อย่างรู้ทันและเริ่มกระแทกถี่ ๆ“หมอ…อ๊าาา”เขาจับเธออุ้มลงมา ขาสองข้างของอลิศตวัดเกี่ยวรอบเอวเขาเอาไว้เมื่อเขายกทั้งตัวเธอและกระแทกลงมา อลิศเกร็งและจิกนิ้
โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง / ห้องจัดยา“นี่มันสองอาทิตย์แล้วนะ!! ถ้าพวกคุณยังจัดยาผิด ๆ ถูก ๆ ให้ผู้ป่วยแบบนี้ผมคงต้องพิจารณาเรื่องคุณสมบัติการผ่านงานของเด็กฝึกงานชุดนี้สักหน่อยแล้วนะคุณหนิง”“ขอโทษจริง ๆ ค่ะคุณหมอภาส แต่ว่ายาชุดนี้….”“ผมต้องการให้แก้ไขไม่ใช่แก้ตัว อีกสามนาทีหากผู้ป่วยของผมยังไม่ได้รับการแก้ไขผมจะส่งชื่อคุณเข้าห้องพิจารณาด้วย”“แต่คุณหมอคะ”“ผมไม่ได้ขอความคิดเห็นจากคุณ นักศึกษา…เอาเวลาจะแก้ตัวรีบไปจัดการแก้ปัญหาก่อนเสียเถอะ”"อริศรา" หันไปมองตามรองศาสตราจารย์และอาจารย์แพทย์แผนกศัลยกรรมสมองที่ย่ำเท้าด้วยความหงุดหงิดออกไปจากห้องคลังยาที่พวกเธอมีหน้าที่ดูแลอยู่ พวกเธอเป็นเพียงนักศึกษาปีสี่ที่มาฝึกงานในโรงพยาบาลนี้ได้สองสัปดาห์แล้ว“พี่ขอโทษจริง ๆ นะที่ต้องมาโดนอาจาย์หมอภาสดุเอาทั้ง ๆ ที่…”“พี่หนิงรีบเปลี่ยนยาก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวจะถูกดุอีก”“จริงด้วยสิ พี่รีบไปเปลี่ยนก่อนนะ”“อริศรา" หรืออลิศ และ "อุษมา" หรือนิว ถอนหายใจยาวและนั่งลงที่โต๊ะจัดยาอีกครั้งเมื่อทุกอย่างสงบลงไป แม้ว่างานจัดยานี้จะไม่ใช่หน้าที่ของพวกเธอโดยตรงเพียงแค่มาช่วยยกของไปให้เจ้าหน้าที่ด้านนอกเท่านั้นแต่วันนี
""อะไรนะ!!""อลิศกับนิวหันมามองหน้าเพื่อนสาวสองคนที่พึ่งย้ายแผนกไปช่วยที่ฝ่ายเทคนิคการแพทย์ พวกเธอหันมามองหน้าอลิศอย่างเข้าใจเพราะก่อนหน้านี้พวกเธอก็โดนมาก่อน“ใช่ ฟังไม่ผิดหรอก ไม่ว่าพี่หนิงจะช่วยเราเอาไว้กี่ครั้ง ยัยเภสัชหญิงนั่นก็พยายามจะหาทางแกล้งพวกแกให้ได้เพราะฉันกับจอยเจอมาแล้ว”“แกหมายถึงเภสัชคนไหน”“เภสัชที่ชื่อนิศา สวย ๆ ในห้องยานั่นยังไงล่ะ”""อ๋อ….""อลิศและนิวตอบรับพร้อมกันเพราะทุกครั้งที่พวกเธอเข้าห้องนั้นไปก็จะเจอเภสัชสาวสวยคนนั้นนั่งอยู่ในห้องอยู่ก่อนแล้วและมักจะหันมาเพียงแค่พยักหน้ารับไหว้พวกเด็กฝึกงานเท่านั้นจากนั้นก็แทบจะไม่พูดอะไรอีก และเป็นคนที่นิวเลียนแบบท่าเดินเชิดของเธอเมื่อครู่นี้“เห็นว่าว่ากันว่าเธอชอบหมอภาส”“อะไรนะอีตาหมอปากหมา..”“อลิศ!!”“อุ่ย แหะ ๆ โทษที ๆ ไหนเล่ามาสิ”“อืม นั่นแหละ แล้วทุกครั้งที่จัดยาผิดพลาดก็จะเป็นเคสของคนไข้ของหมอคนนี้แหละ พวกฉันโดนมาสามครั้งจนไม่ไหวเลยต้องขอย้ายแผนก นี่ถ้าพวกแกไม่ไหวก็ลองปรึกษาพี่หนิงดูนะเพราะครั้งก่อนพวกฉันก็ปรึกษาพี่หนิงแล้วแกก็เป็นคนหาแผนกให้ลง แกเข้าใจอยู่แล้วแต่ที่พวกเราไม่ทันได้บอกเพราะเราไม่รู้ว่าแม่นั่นจะรั
เธอยิ้มหวานส่งให้หมอภาสที่ยืนแข็งทื่อและทำตัวไม่ถูกกับอารมณ์ของอลิศที่เปลี่ยนไปรวดเร็วแต่เมื่อนิศาเดินเข้ามาและอลิศหันไปทักทายเธอเขาจึงรีบขยับแว่นเพื่อปรับอารมณ์อีกครั้ง“พี่นิศา ไม่เฝ้าห้องยาเหรอคะมาทำอะไรที่นี่คะ”“ไม่ใช่ธุระของเด็กฝึกงานที่จะมาถาม”“อ้อ อลิศไม่ได้จะถามแบบนั้นค่ะ ก็ก่อนหน้านี้มันเคยมีปัญหาว่ายาที่พวกอลิศจัดเอาไว้ก่อนส่งไปไม่มีปัญหาแต่พอส่งไปถึงเค้าน์เตอร์กลับถูกสับเปลี่ยน อลิศก็เลยกลัวโดนแกล้งอีกน่ะค่ะ หมอภาสเองก็พึ่งเตือนว่าผิดพลาดสามครั้งในหนึ่งสัปดาห์ อลิศไม่อยากให้มันผิดพลาดบ่อย โดยเฉพาะเคสผู้ป่วยของคุณหมอภาส ไม่ต้องห่วงนะคะคุณหมอจากนี้อลิศจะดูแลเรื่องยาให้คุณหมอด้วยตัวเองค่ะ จะได้ไม่ผิดพลาด”“นี่เธอ….”“ขอตัวก่อนนะคะผู้ป่วยคงรอยาแล้ว รออลิศนะคะหมอภาส”อลิศรีบหันไปและเบ้ปากเพราะความเมื่อยที่พยายามยิ้มนั้นทันทีพร้อมกับรีบเดินหนีไปทันทีก่อนที่ใครระหว่างสองคนนี้จะพูดอะไรขึ้นมาแต่ก็ไม่มีเพราะหมอภาสเองกำลังตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าแต่นิศาพยายามเก็บอาการเพราะกลัวว่าหมอภาสจะมองเธอไม่ดี“หมอภาสคะ อย่าไปฟังนะคะเด็กนั่นพูดจาเรื่อยเปื่อย”“คุณมีธุระอะไรที่นี่งั้นเหรอคุณนิศา
เขามองเธอด้วยสายตานิ่ง ๆ แต่ลุ่มลึกเกินคาดเดา อลิศไม่ชอบเขาเอาเสียเลยเพราะตั้งแต่เธอฝึกงานอยู่ที่นี่เกือบเดือน พบเขาไม่กี่ครั้งและทุกครั้งก็เจอแต่ปัญหาซึ่งเขาก็ไม่เคยให้โอกาสใครได้อธิบาย เพียงแค่ด่า ต่อว่าและเดินออกไป“คุณพูดอะไร ก็ยานี่….”“คุณก็ดูก่อนสิคะแล้วค่อยด่า”“นี่คุณ!! หัดมีมารยาทหน่อย คุณเด็กกว่าผมตั้งกี่ปี”“ก็เงียบแล้วหัดฟังบ้างสิคะ!! กำลังจะพูดอยู่นี่ยังไงถ้าคุณไม่เงียบแล้วฟังจะรู้เรื่องไหมล่ะคะ”หมอภาสโกรธจนหน้าแดงก่ำ ชีวิตเป็นอาจารย์แพทย์มาเกือบสามปียังไม่เคยมีครั้งไหนหรือคนไหนกล้าตะเบ็งเสียงหรือตะคอกเขาแบบที่เธอกำลังทำมาก่อน“สองนาที”“ก็แค่นั้นแหละ ฟังคนอื่นบ้างจะตายหรือยังไง”“พูดมาได้แล้ว!!”“โอ๊ย!! พูดแล้วค่ะ คุณหมอดูนี่ค่ะ”อลิศวางถุงยาที่เขาบอกว่าผิดลงที่โต๊ะของเขาซึ่งนั่นยิ่งทำให้เขามีโทสะที่รุนแรงขึ้น เขาไม่รู้เลยว่าเธอต้องการจะพูดอะไร“อะไร โยนถุงยาใส่ผมแล้วคิดว่าผมจะเข้าใจอะไร คุณจะบอกว่าผมเป็นคนใส่ร้ายคุณโดยการใส่ยานี่ลงในถาดหรือไง”“ใช่ค่ะ”“นี่คุณ!! มากไปแล้วนะ!!”“ก็เพราะหมอเป็นแบบนี้ไงล่ะคะ ฟังอะไรก็ฟังไม่จบไม่เคยฟังอะไรเลยและคิดว่าสิ่งที่ตัวเองคิดถูกอย
สิ่งที่หมอศุภกิตต์พูดออกมาดังพอที่คนในกาแฟนั้นจะได้ยินจนหมด และทุกสายตาก็กลับมาจดจ้องอยู่ที่อลิศแทนเมื่อถูกคุณหมอหนุ่มเนื้อหอมของโรงพยาบาลมาขอเป็นแฟนในร้านกาแฟของโรงพยาบาล“เอ่อ….”“พี่ว่าเราไปหาที่นั่งก่อนดีไหม”“ค่ะ ดีค่ะ”อลิศทำตัวไม่ถูกเธอทั้งดีใจ ทั้งอายและก็ตกใจเมื่อคนที่เป็นรักแรกของเธอมาเอ่ยปากขอคบกับเธอ ก่อนหน้านี้เธอแอบเอาขนม คุกกี้และของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปให้เขาตลอด เจอบ้างไม่เจอบ้างแล้วแต่โอกาสมาจนถึงวันนี้ไม่นึกว่าเขาจะมองเห็นความพยายามของเธอจนได้ อลิศนั่งลงเพื่อสงบจิตใจแต่คุณหมอกลับเลือกจะมานั่งข้าง ๆ เธอ“พี่สั่งให้แล้วนะ”“ค่ะ”“แล้วคำตอบล่ะ”“คะ??”“ที่พี่ถามไปเมื่อกี้นี้ไงลืมแล้วเหรอ”“คุณหมอคะ…คือ…เมื่อกี้นี้พูด…จริงเหรอคะ”“เอ๊าน้องอลิศครับมีใครจะพูดเล่นกันเรื่องนี้ล่ะ”“ตะ…ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ที่…”“หมายถึงพี่น่ะเหรอ พี่ชอบอลิศมานานแล้วตั้งแต่อลิศเรียนปีสองแต่ตอนนั้นพี่ต้องทำงานแล้วพึ่งเป็นหมอเต็มตัวช่วงนั้นก็เลยไม่มีเวลาน่ะ ว่ายังไง อลิศจะลองให้โอกาสพี่สักครั้งได้ไหมครับ”“ให้โอกาสงั้นเหรอคะ อลิศ….ไม่คิดแบบนั้น คือว่าที่จริงแล้ว…”“ครับ”อลิศคิดไม่ถึงว่าจะมีวันน
“เหอะ ๆ ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง”“อลิศ มีอะไรเหรอ”“ที่แท้พวกเขาก็เป็นแฟนกันนี่เองถึงว่าล่ะถึงได้สั่งให้พวกเราย้ายแผนก ที่แท้ก็คงกลัวแฟนตัวเองโดนสอบสวนสินะ ทุเรศที่สุด”“อลิศแกเบาเสียงหน่อย”“เอาเถอะ ทนอีกแค่สองเดือนก็จะไปให้พ้น ๆ ที่นี่แล้ว”เธอนั่งดื่มน้ำจนหมดและหันไปมองสายตาที่หันมามองเธอแวบหนึ่งของหมอภาส เขายังไม่ได้ถอดชุดสำหรับผ่าตัดสีฟ้าออก อลิศหันไปมองและเบ้ปากไปทางอื่นก่อนจะบีบแก้วกระดาษในมือและโยนทิ้งถังขยะ“อลิศ จะไปไหน”“กลับห้องทำงาน”“ไปด้วยสิ”หมอภาสที่หรี่ตามองพวกเธอที่เดินออกไปจากที่นั่งในห้องเบรกและกำลังจะเดินตามอลิศไปแต่พยาบาลที่เค้าน์เตอร์เรียกเขาเอาไว้ก่อน“คุณหมอคะ ช่วยเซ็นเอกสารตรงนี้หน่อยค่ะ คนไข้จะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ค่ะ”“อย่าลืมตรวจสอบเอกสารให้ดีก่อนที่คนไข้จะออกจากโรงพยาบาล เคสนี้ต้องนัดมาตรวจเพิ่ม”สามสี่วันที่เหลืออลิศก็ยังทำงานตามที่ได้รับมอบหมายตามปกติ เธอรู้สึกสนุกกับงานและคุ้นเคยกับพี่ ๆ พยาบาลในแผนกนี้แล้วเพราะทุกคนต่างก็เป็นกันเองกับพวกเธอและยังรู้ว่าเธอเป็นแฟนสาวของคุณหมอกิตที่มักจะแวะมาหาเธอและรับเธอไปนั่งกินข้าวด้วยที่ห้องอาหารของแพทย์“น่าอิจฉาจั
อลิศหันไปมองหน้าที่เย็นชาไร้ความรู้สึกที่พูดเสียงเรียบ ๆ นั้นออกมา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขากับญานิศาถึงได้มีปัญหากับเธอนัก แล้วทำไมยัยนั่นต้องมีปัญหาทุกครั้งที่เธอต้องเป็นคนไปรับยามาให้เขาทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอก็ทำงานของเธอปกติ“คุณหมอคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวและอลิศเองก็ไม่เคยเอาเรื่องของคุณหมอกิตมาเกี่ยวข้องกับการทำงาน อลิศทำงานเต็มที่ที่ได้รับมอบหมายแต่พวกคุณต่างหากที่ต้องการอะไรกันแน่ ทำไมคนที่ทำผิดยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในโรงพยาบาลได้แต่คนที่ถูกตำหนิและสั่งย้ายแผนกถึงต้องเป็นพวกอลิศ”“นี่คุณคิดว่าการที่คุณถูกสั่งย้ายมานี่…คือการกลั่นแกล้งงั้นเหรอ”“แล้วไม่ใช่เหรอคะ พวกคุณแค่สั่งย้ายแต่ไม่ได้อธิบายเหตุผลอะไรให้ทราบเลยนี่คะ”หมอภาสนั่งลงที่เก้าอี้ของเขาและเป็นครั้งแรกที่เขาถอดแว่นออกมา สายตาของเขาอิดโรยอย่างเห็นได้ชัดเพราะก่อนหน้านี้เขาอยู่ในห้องผ่าตัดมาเกือบแปดชั่วโมงและเมื่อออกมาต้องมาพบความผิดพลาดเดิม ๆ อีกครั้ง และครั้งนี้เขาจะไม่อยู่เฉย ๆ อีกแล้ว“คุณเข้าใจแบบนั้นมาตลอดเลยสินะถึงได้…ช่างเถอะ เหลืออีกแค่ไม่กี่วัน ฝืนใจหน่อยก็แล้วกัน ออกไปได้แล้ว”อลิศอดไม่ได้ที่จะหันไปมองใบหน้า