คนเลว!เลวที่สุด!ร่างกายของหลินเซียงอ่อนปวกเปียก แต่ก็ยังออกแรงดิ้นรนตอนกลางวันเขายังช่วยเซี่ยหว่านอยู่เลย ตอนกลางคืนกลับมาตักตวงความสุขจากเธออะไรกัน?เซี่ยหว่านสนองความต้องการของเขาไม่ได้เหรอ?หน้าผากของลู่สือเยี่ยนมีเหงื่อซึมออกมา เขาจับร่างเธอกดไว้ด้านใต้ ด้วยการกระทำที่รุนแรงและแข็งกร้าว “เซียงเซียง เชื่อฟังหน่อย ไม่งั้นเราจะลำบากกันทั้งคู่นะ”หลินเซียงตาแดง “ไป ไปให้พ้น!”เธอทุบเขา “คุณไม่ได้มีคนที่ต้องรับผิดชอบหรอกเหรอ? ไปหาเธอสิ ไปเลย”ลู่สือเยี่ยนไม่อยากได้ยินคำพูดเหล่านั้นจากเธอ จึงประกบจูบเธออีกครั้งเสียงสะอื้นในห้องดังขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นครวญคราง อุณหภูมิทวีความร้อนระอุ การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปกลางดึกทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบหลินเซียงหันหลังให้เขา “ค่าจ้างหย่าเพิ่มอีกห้าสิบล้าน”ลมหายใจของลู่สือเยี่ยนหนักหน่วงขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบกลับอะไรหลินเซียงหลับตาลง ขนตาเป็นแพยาวสั่นระริก ยิ่งใกล้ชิดกับเขามากเท่าไหร่ แผลในใจของเธอก็ยิ่งบาดลึกขึ้นเท่านั้นความหนาวเย็นปกคลุมร่างเสียจนเจ็บปวด อดไม่ได้ที่จะขดตัวทันใดนั้น แขนที่แข็งแรงก็โอบรอบเอวเธอร่างกา
เมื่อคำพูดจบลง บรรยากาศก็เงียบสงัดหลินเซียงกะพริบตา ยิ้ม ยกมือขึ้นผลักเขาออกห่าง “ลู่สือเยี่ยน ทำแบบนี้ไม่มีประโยชน์หรอก”อยากหย่าก็อยากหย่า อยากนอนด้วยก็อยากนอนด้วย โลกนี้มีใครใจกว้างขนาดนั้นด้วยเหรอ?หลินเซียงลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟันทันทีในที่สุด ลู่สือเยี่ยนก็สงบสติอารมณ์ลงได้ แต่ยังไม่วายรู้สึกหงุดหงิดอีกครั้งเมื่อหลินเซียงออกมา ลู่สือเยี่ยนก็จากไปแล้วเธอไม่มีแสดงสีหน้าใด ๆ เดินไปที่ห้องครัว ต้มบะหมี่กินไปได้สองคำ ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาซ่งจั่ว“สวัสดีครับ คุณหลิน”หลินเซียงพูดว่า “วันนี้ฉันขอลาหยุดนะคะ รบกวนคุณซ่งแล้ว”ซ่งจั่วตกใจ ถามว่า “ขอถามหน่อยได้ไหมครับ ว่าคุณหลินขอลาหยุดเพราะอะไร?”หลินเซียง “ไปหย่าค่ะ”ซ่งจั่วเงียบ “...”เขาถามละลาบละล้วงเกินไปจริง ๆ“ได้ครับ ผมจะช่วยคุยให้”“ขอบคุณค่ะ”พอวางสายแล้ว หลินเซียงก็ลุกไปล้างจานจากนั้นก็เริ่มเก็บห้อง ทำความสะอาดยกใหญ่ พอมองไปยังห้องที่ดูสะอาดตามากขึ้น ก็รู้สึกว่ามีอะไรผิดแปลกสายตาเหลือบไปเห็นแก้วน้ำคู่บนโต๊ะรกสายตาหลินเซียงรีบหาลังเปล่าที่ไม่ได้ใช้ใบหนึ่ง แล้วโยนข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นของอีกคนหนึ่
หลินเซียงตกใจ “จะไปไหน?”สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเคร่งเครียด เปิดประตูรถด้านข้างคนขับแล้วก็ผลักเธอเข้าไป ท่าทางค่อนข้างรีบร้อนเมื่อเขาขึ้นรถ หลินเซียงก็ถามพลางขมวดคิ้ว “เรากำลังจะไปไหนกัน?”ลู่สือเยี่ยนตอบ “คุณย่าอาการกำเริบ”คุณย่าลู่?ในใจของหลินเซียงนึกถึงภาพคุณย่าที่ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมผู้น่ารักคนนั้น ความรู้สึกในใจพลันซับซ้อนเล็กน้อยตลอดทาง เธอไม่ได้พูดอะไรมาก จนกระทั่งรถจอดที่บ้านพักคนชรา ลู่สือเยี่ยนเดินนำหน้า หลินเซียงเดินตามหลังหลังจากลัดเลาะผ่านทางเดินยาว ก็มาถึงอาคารเล็ก ๆ ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ผู้ดูแลหลายคนที่อยู่ข้างในกำลังสับสนว่าควรจะรับมืออย่างไรดี ได้ยินเสียงร้องไห้โวยวายของหญิงชราดังมาแต่ไกล“หลานสะใภ้ ฉันอยากเจอหลานสะใภ้ ฮือ ๆ... หลานสะใภ้…”หลินเซียงได้ยินคำพูดเหล่านั้นแล้วก็ตกตะลึงเล็กน้อยผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมมักจะจำอะไรไม่ได้เลย เธอคิดว่าคุณย่าลู่คงลืมเธอไปแล้ว ไม่นึกว่าเวลาผ่านมานานขนาดนี้แล้ว อีกฝ่ายกลับยังจำเธอได้พวกเขารีบเดินเข้าไปในบ้านพักคนชรา คุณย่าลู่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ร้องหาหลานสะใภ้ตลอดเวลา“คุณย่า”ลู่สือเยี่ยนเดินเ
ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้วแล้ววางสายทันที จากนั้นก็เดินออกไปในสวน เซี่ยหว่านมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคุณย่าลู่แล้วเธอถือขนมมาร์ชเมลโลว์ไว้ในมือ ส่งให้คุณย่าลู่ “คุณย่าคะ ดูแมวตัวนี้สิ น่ารักไหมคะ?”คุณย่าลู่เห็นขนมมาร์ชเมลโลว์ก็ตาเป็นประกาย แต่ไม่ได้เอื้อมมือไปรับ กลับกระตุกมือหลินเซียงแทน“หลานสะใภ้ ซื้อขนมมาร์ชเมลโลว์ให้ย่าหน่อย ย่าไม่ชอบแมว ย่าชอบกระต่ายมากกว่า”เมื่อเซี่ยหว่านปรากฏตัว เส้นประสาทของหลินเซียงก็ตึงเครียดขึ้นโดยไม่รู้ตัวแต่เมื่อเสียงคุณย่าลู่ดังขึ้น หัวใจของเธอก็คลายความตึงเครียดลงทันที ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกผุดขึ้นมา ทำให้เธอรู้สึกเศร้าระคนอยากร้องไห้“ได้ค่ะ ไว้ฉันจะซื้อให้นะคะ”คุณย่าลู่ยิ้มแป้น “หลานสะใภ้น่ารักที่สุด”เซี่ยหว่านถือขนมมาร์ชเมลโลว์ มือแข็งค้างอยู่กลางอากาศเธอค่อย ๆ หดมือกลับ แล้วมองไปที่หลินเซียง “คุณย่าดูจะชอบคุณมากเลยนะคะ”หลินเซียงตอบกลับอย่างจืดชืด “คุณย่าแค่บังเอิญถูกชะตาฉันเท่านั้นเองค่ะ”เซี่ยหว่านยิ้ม ก้มหน้าลง แววตาแวบหนึ่งฉายความไม่พอใจเธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?หมายความว่าคุณย่าลู่ไม่ถูกชะตาเธออย่างนั้นเหรอ?“คุณย่าครับ”ทั
หลินเซียงละสายตา หันหลังเดินออกจากบ้านพักคนชรา…… “ขอบคุณนะ สือเยี่ยน อยู่ดี ๆ ฉันก็รู้สึกเจ็บขายังไงไม่รู้”เซี่ยหว่านจับแขนลู่สือเยี่ยน ค้ำจุนร่างกายของตัวเอง แล้วพูดด้วยเสียงและสีหน้าเหยเกลู่สือเยี่ยนจ้องไปที่ขาเทียมของเธอ แล้วพูดเสียงแผ่ว “ต้องใช้รถเข็นไหม?”เซี่ยหว่านส่ายหัวพร้อมกับยิ้ม “ไม่เป็นไร อาการเจ็บทำนองนี้เกิดขึ้นทุกวัน อดทนหน่อยก็หายแล้ว คงเป็นอาการข้างเคียงจากการบาดเจ็บเมื่อสองปีก่อน…”พูดไปก็เบิกตากว้าง เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองพูดอะไรไป จึงรีบพูดต่อ “สือเยี่ยน อย่าคิดมากนะ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันแค่…”“เดี๋ยวผมไปส่งคุณเอง” ลู่สือเยี่ยนพูดขัดจังหวะ แล้วประคองเธอเดินออกไปเซี่ยหว่านก้มหน้าลงเล็กน้อย เมื่อครู่นี้เธอเห็นหลินเซียง จึงแกล้งทำเป็นขาเจ็บ เพื่อให้ลู่สือเยี่ยนเข้ามาประคองตัวเองจากมุมมองของหลินเซียง อีกฝ่ายต้องเข้าใจผิดคิดว่าลู่สือเยี่ยนกำลังกอดเธออยู่แน่ ๆถึงแม้นั่นจะเป็นแค่ความเข้าใจผิดแต่เธอก็ต้องทำอะไรสักอย่างเธอต้องทำให้หลินเซียงรู้ว่า เธอกับลู่สือเยี่ยนต่างหากที่เกิดมาคู่กัน หลินเซียงเป็นแค่คนที่เข้ามาแทรกกลาง!เธอโลภจะตักตว
“เซียงเซียงเพื่อนรัก ออกไปเที่ยวกันไหม ฉันไปเจอบาร์บาร์หนึ่งล่ะ” เสียงตื่นเต้นของซ่งซ่งดังขึ้นหลินเซียงสูดหายใจลึก ๆ แล้วพูดว่า “ได้ ส่งตำแหน่งมาให้ฉันหน่อย”“ได้เลย รออยู่นะ”จากนั้นก็วางสายไปหลินเซียงเงยหน้าขึ้นมองดวงอาทิตย์อีกครั้ง ความเจ็บปวดที่หัวใจยังไม่จางไป เธอหัวเราะเยาะตัวเองเขายังไปนอนกับเซี่ยหว่านเลย แล้วเธอยังต้องสนใจอะไรอีก?ได้ค่าจ้างหย่ามาเมื่อไหร่ เธอจะต้องมีหนุ่มน้อยหน้าใสขนาบซ้าย และมีหนุ่มน้อยหน้าหวานขนาบขวา สบายใจไร้กังวล!ตอนนี้ คิดว่าทดลองสัมผัสชีวิตแบบนั้นล่วงหน้าก็ไม่เสียหายไม่ใช่เหรอ?เฟยหลินบาร์เมื่อหลินเซียงไปถึง ซ่งซ่งก็ยืนรออยู่ที่หน้าประตูก่อนแล้ว เมื่อเห็นเธอ ก็รีบเข้ามาต้อนรับแล้วสวมกอดอย่างแรง“เซียงเซียงสวยจัง ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วัน ดูสิสวยขึ้นเป็นกองเลย”หลินเซียงถูกเพื่อนสาวยกยอก็หัวเราะ “เธอนี่ปากหวานที่สุดเลย”ซ่งซ่งคล้องแขนเธอแล้วเดินเข้าไปในบาร์ “ฉันได้ยินมาว่าดีเจของที่นี่งานดีมากเลยล่ะ เธอต้องชอบแน่ ๆ”หลินเซียงพูด “เธอลืมไปแล้วหรือ ฉันแต่งงานแล้วนะ”ซ่งซ่งหัวเราะ “จำไปทำไม? ผู้ชายคนนั้นจำได้ที่ไหนล่ะว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่แต่ง
“อะไรนะ?”ซ่งซ่งเห็นหลินเซียงสะบัดผมลุกขึ้น ยิ้มตาหยี เมื่อเห็นเธอเดินไปหาหนุ่มหล่อผู้ย้อมผมสีเทา ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นทันทีเยี่ยมไปเลย!ทิ้งผู้ชายเลว ๆ ซะ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่!ฉินโหย่วหานสวมหูฟังข้างหนึ่งไว้ที่หู ปรับแต่งซาวด์เพลงด้วยมือข้างหนึ่ง สีหน้าเจ้าเล่ห์อารมณ์ร้าย ยามเม้มริมฝีปากยิ้ม ความทรงเสน่ห์ก็แผ่ซ่านไปทั่วหญิงสาวหลายคนจ้องมองการกระทำของเขาพร้อมกับส่งเสียงกรี๊ดหลินเซียงเบียดฝูงชนเข้าไป แล้วตรงเข้าไปหาเขา “สุดหล่อ ดื่มด้วยกันสักหน่อยไหมจ๊ะ?”ฉินโหย่วหานใช้มือข้างหนึ่งประคองหูฟัง ไม่ได้ยินคำพูดของหลินเซียงเลย เอาแต่หลุบตาลง เคลื่อนไหวโยกย้ายช้า ๆ สบาย ๆ ควบคุมเพลงต่อไปอย่างไม่สนใจทำไมไอ้หมอนี่ถึงทำเมินคนอื่นกันนะ?แก้มของหลินเซียงแดงก่ำ จู่ ๆ ก็ยื่นมือไปแย่งหูฟังเขามาวางไว้ข้าง ๆ ทันที “นี่ ฉันกำลังคุยกับนายอยู่นะ!”เสียงเพลงดังกระหึ่ม แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเงียบสงบลงทันทีทุกคนหันไปมองหลินเซียงฉินโหย่วหานก็เช่นกันไม่เคยมีใครกล้าแย่งของที่อยู่ในมือเขา!เขาจ้องมองเธออย่างไม่พอใจ “คุณว่าอะไรนะ?”หลินเซียงทำท่ากระดกแก้วดื่ม “ดื่มด้วยกันไหมจ๊ะ?”
เซี่ยหว่านนั่งอยู่ข้างๆ เขา กำลังใช้โทรศัพท์ดูสูตรอาหาร เหมือนจะเห็นกับข้าวอะไรบางอย่างน่าสนใจ จึงขยับหน้าจอเข้าไปใกล้ลู่สือเยี่ยน “สือเยี่ยน มาทำเมนูนี้กันไหม แต่เราต้องแวะซูเปอร์มาร์เก็ตก่อนนะ ของในตู้เย็นน่าจะไม่พอ”คิ้วของลู่สือเยี่ยนขมวดเข้าหากันเล็กน้อย จู่ ๆ ก็พูดว่า “จอด”คนขับรถจอดรถทันทีเซี่ยหว่านมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ “สือเยี่ยน ทำไมล่ะ?”แต่ลู่สือเยี่ยนกลับพูดกับคนขับ “ช่วยส่งคุณเซี่ยกลับบ้านอย่างปลอดภัยด้วยนะ”เขาหันไปมองเซี่ยหว่าน “ผมยังมีธุระ ต้องไปจัดการก่อน”พูดจบก็เปิดประตูรถออกไปทันที“สือเยี่ยน...”เซี่ยหว่านเรียกเขา แต่เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมาเซี่ยหว่านกำโทรศัพท์แน่น ใบหน้าเย็นเยียบลงอย่างรวดเร็ว!เธอเห็นแล้ว ลู่สือเยี่ยนเพิ่งกดดูโพสต์ของเพื่อน และเห็นหลินเซียง เขาเลยรีบไป!ทั้ง ๆ ที่เพิ่งสัญญาว่าจะไปกินข้าวที่บ้านเธอแท้ ๆ!หรือว่าหลินเซียงคนนี้จะครอบครองพื้นที่หัวใจของเขาเข้าแล้วจริง ๆ?ไม่!เธอจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด!...ในบาร์แสงไฟสลัว บรรยากาศคึกคักหลินเซียงฉุดแขนฉินโหย่วหานลากกลับไปที่โต๊ะทันที แล้วตบไหล่ซ่งซ่ง “ดูสิ ฉันพาเขา