“เซียงเซียง อย่าดื่มโง่แบบนี้สิ” ตอนแรกซ่งซ่งตกใจมากพออยู่แล้ว แต่ตอนนี้เมื่อเห็นหลินเซียงสภาพย่ำแย่ เธอกลับกลัวยิ่งกว่าเดิมหลินเซียงผลักเธอออก “ถ้าฉันไม่ดื่มให้หมด เขาจะปล่อยฉันไปเรอะ?”พูดจบก็ดื่มเหล้าอีกแก้วรอยยิ้มบนใบหน้าฉินโหย่วหานจางหายไปทีละน้อย แววตาเย็นชาลงกว่าเดิม และยังแวบผ่านความสนใจขึ้นมาเลือนลาง!เหอะ!ผู้หญิงคนนี้ ก่อนหน้านี้กล้าได้กล้าเสีย ห้าวมาแย่งของจากมือเขาไป แต่ตอนนี้กลับขี้ขลาดขนาดนี้แต่ดูจากท่าทางของเธอแล้ว เหมือนกำลังยืมเหล้าของเขาเพื่อใช้คลายความเศร้าซะมากกว่า“พอแล้ว!”ฉินโหย่วหานพูดประโยคหนึ่งอย่างหงุดหงิดแต่หลินเซียงไม่ยอมหยุด เหล้าตรงหน้ามีแปดแก้ว เธอดื่มไปแล้วห้าแก้ว“ยังไม่หมดดด หยุดม่ายด้ายย”หลินเซียงส่ายหัว ตอนนี้สายตาของเธอพร่าเบลอเอามาก ๆ แล้ว แต่มือก็ยังหยิบแก้วเหล้าขึ้นมากระดกดื่มต่ออย่างแม่นยำ“ผมบอกให้พอไง!”ฉินโหย่วหานผุดลุกขึ้นฉับพลัน จับข้อมือเธอ แล้วแย่งแก้วเหล้าในมือเธอไปโยนทิ้งแก้วเหล้ากระแทกกับพื้น แตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันที!ร่างกายของหลินเซียงสั่นคลอนซ่งซ่งรีบเข้าไปประคองเธอ “เซียงเซียง ไม่ต้องดื่มแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว พวก
ลู่สือเยี่ยนกอดเอวหลินเซียง มองดูใบหน้าของเธอที่แดงก่ำจากความเมา ขมวดคิ้ว "เซียงเซียง ผมจะพาคุณกลับบ้าน""คุณเป็นใคร?"วิสัยทัศน์ของหลินเซียงพร่ามัว รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกกอด เริ่มดิ้นรนโดยสัญชาตญาณทันทีลู่สือเยี่ยนตอบกลับด้วยความอดทน "ผมอาเยี่ยน"เมื่อหลินเซียงได้ยินสิ่งที่เขาพูด เห็นได้ชัดว่าตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยายามดิ้นรนยิ่งกว่าเดิม "ไร้สาระ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ออกไป!"ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนขรึมลงทันทีเส้นโค้งเจ้าเล่ห์หยักลึกอยู่ที่มุมปากของฉินโหย่วหาน "พี่ใหญ่ ไม่ได้ยินที่เธอพูดเหรอ? เธอไม่อยากให้คุณแตะต้องตัวเธอ"ลู่สือเยี่ยนเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา "คนนอกอย่างคุณไม่ต้องสอดรู้มายุ่งเรื่องผัวเมีย"ฉินโหย่วหานแค่นยิ้ม ผัวเมีย?แต่เมื่อเขาเห็นหลินเซียงเอาแต่ดิ้นรนให้หลุดพ้นอยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกโกรธอย่างอธิบายไม่ได้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น "แต่สำหรับผมแล้วดูไม่เหมือนเลยว่ะ ไหนล่ะ โชว์ทะเบียนสมรสของคุณเพื่อพิสูจน์ว่าพวกคุณเป็นผัวเมียกันจริง ๆ หน่อยซิ ไม่งั้น ผมคงปล่อยให้เธอกลับไปกับคุณไม่ได้”ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนเคร่งขรึม ดวงตาเต็มไปด้วยแสงอันมืดมน หยิบสมุดทะเบียนสมรส
“คุณชายครับ ซุปแก้เมาได้แล้ว”เวลานี้เสียงคนรับใช้ก็ดังขึ้น"เอาเข้ามาเลย"ลู่สือเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มคนรับใช้วางซุปแก้เมาค้างไว้บนโต๊ะข้างเตียง ก้มศีรษะลงแล้วเดินออกจากห้องไปปิดประตูลู่สือเยี่ยนจับตัวหลินเซียงไว้โดยตรงแล้วพูดว่า "หลินเซียง ดื่มซุปแก้เมาค้างหน่อย แล้วจะรู้สึกดีขึ้น"หลินเซียงยังคงดิ้นรนต่อไป “ไม่ ไม่เอา ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันอยากกลับบ้าน”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า "ผมจะพาคุณกลับบ้านก็ต่อเมื่อคุณดื่มหมดแล้ว"หลินเซียงคอเอียง ล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ๆ "ฉันไม่กลับบ้าน ฉันอยากอยู่ในบ้านพื้นที่สามร้อยตารางเมตร!"ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้วเพราะเริ่มปวดหัวกับการรับมือ "นี่ไง นับจากนี้ไป คุณจะได้อยู่ที่นี่"หลินเซียง “คุณเป็นใครอ่ะ?”“ดูให้ดีสิว่าผมเป็นใคร”ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธอพร้อมกับบีบคางให้เชยขึ้นหลินเซียงหยุดดิ้นรนและมองดูอย่างจริงจัง หลังจากนั้นไม่นานก็พูดว่า "โอ้ หน้าคุ้นจังเลย คุณหน้าเหมือนสามีเก่าขี้โกงของฉันชะมัด"ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้ว "เรายังไม่ได้หย่ากัน"“เอาน่า เรียกงั้นไปเลย ยังไงเราก็จะหย่ากันเร็ว ๆ นี้แล้ว” หลินเซียงยกไม้ยกมือ “หลังหย่าแล้ว ฉันก็จะมีหนุ่ม
หลินเซียงต้องการลุกขึ้น แต่เขากลับดึงเธอล้มนอนลงตามเดิม"จะทำอะไรน่ะ..."เธอยังพูดไม่ทันจบ จูบอันดุเดือดของชายหนุ่มก็ทาบประทับลงมาหลินเซียงพยายามผลักเขาออก แต่เขากลับจับมือเธอแล้วกดไว้เหนือศีรษะจูบนั้นทวีความหนักหน่วงยิ่งขึ้น เรื่อยไล้ลามลงไปที่ลำคอ กระดูกไหปลาร้า...ลมหายใจของทั้งคู่เริ่มกระเส่ารุนแรงหลินเซียงมองเพดานห้องที่ได้รับตกแต่งอย่างประณีต หางตาเริ่มแดงก่ำ "ลู่สือเยี่ยน ฉันไม่ใช่เครื่องระบายอารมณ์ของคุณนะ ถ้ายังจำได้ว่าฉันเคยช่วยชีวิตคุณไว้ครั้งหนึ่ง ก็ปล่อยฉันไปเถอะ"อย่าทำแบบนี้เลยเธอรู้สึกแย่มากเมื่อตกอยู่ในสภาวะนี้ทั้ง ๆ ที่เขากำลังจะไปรับผิดชอบผู้หญิงคนอื่น แต่ก็ยังมาพัวพันกับเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยเขาไม่ได้ขอหย่าเองหรอกเหรองั้นก็ทำมันให้เด็ดขาดไปเลยสิลู่สือเยี่ยนหายใจรดลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอ แล้วออกแรงมากขึ้นอีกหน่อย แต่สุดท้ายเขาก็ปล่อยเธอแล้วเดินลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำหลินเซียงค่อย ๆ ปล่อยมือลงแล้วหลับตา พ่นลมหายใจออกแรง ๆ แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหดหู่เธอหวังเหลือเกินว่าเขาจะพูดว่าไม่หย่าแล้ว เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ
"ไปเถอะ"ลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นบังสายตาเธอหลินเซียงมองเขา “ไปไหน"ลู่สือเยี่ยนมองเธอจากมุมสูง "อยากไปสำนักงานเขตไม่ใช่เหรอ?"หลินเซียงก้มหน้า ไม่พูดอะไร แล้วก็ลุกขึ้นเดินตามเขาออกจากวิลล่าตระกูลลู่เมื่อหันกลับไปมองคฤหาสน์หรูหราอลังการหลังใหญ่โต หลินเซียงอดพูดไม่ได้ว่า "น่าเสียดายจัง ต่อไปคงไม่ได้มาที่นี่อีกแล้ว"เธอชอบที่นี่มากเลยนะ"คุณมาได้ตลอด"ลู่สือเยี่ยนพูดแทรกขึ้นทันทีหลินเซียงมองเขา ตาประสานสบกับนัยน์ตาสีดำสนิทของเขา ก่อนจะหัวเราะแล้วพูดว่า "ไม่มาหรอก เกิดมาเจอคุณกับเซี่ยหว่านกำลังพลอดรักกัน ฉันคงอึดอัดแย่"ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้ว ท่าทีเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกเขาไม่มองหน้าเธออีกต่อไป เปิดประตูรถแล้วก้าวขึ้นไปนั่งหลินเซียงขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ แต่คนขับกลับไม่กล้าสตาร์ทรถเธอมองเขาด้วยหางตาด้วยความสงสัย "เป็นอะไร ไปสิ"หน้าผากคนขับมีเหงื่อซึมออกมา "คุณ… คุณไปนั่งข้างหลังดีกว่าครับ"หลินเซียงหันกลับไปมองลู่สือเยี่ยน เห็นว่าสีหน้าของเขามืดมนยิ่งกว่าเดิม เธอยิ้มขำ "ตอนแรกฉันนั่งข้างหลัง คุณก็บอกให้ฉันย้ายมานั่งข้างคนขับ แต่ตอนนี้ดันไม่ให้ฉันนั่งอีก คุณนี่มันเอาแน่เอ
หลินเซียงวางสาย หันไปมองลู่สือเยี่ยน "ฉันต้องกลับบริษัทด่วน"ลู่สือเยี่ยนสีหน้าเย็นชา "ไปหย่าก่อน"หลินเซียงหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ รีบอธิบาย "หย่าน่ะจะหย่าเมื่อไหร่ก็ได้ แต่งานฉันไม่สามารถทิ้งได้นะ คุณก็รู้ดีนี่ว่าฉันจำเป็นต้องหาเลี้ยงชีพด้วยงานนี้"ดวงตาคมราวฟีนิกซ์สีเข้มของลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธอ ครู่หนึ่งจึงออกคำสั่ง "กลับบริษัท"คนขับรถหักพวงมาลัยเปลี่ยนทางทันทีเมื่อลงจากรถ หลินเซียงเดินจ้ำอ้าวไปที่ลิฟต์ ลิฟต์ลงมาถึงพอดี เธอจึงเดินเข้าไปโดยไม่สนใจชายที่อยู่ข้างหลัง กดปุ่มปิดประตูทันที แต่เมื่อประตูใกล้จะปิด มือข้างหนึ่งกลับยื่นเข้ามา ประตูลิฟต์รับรู้ถึงสิ่งกีดขวางจึงเปิดออกอัตโนมัติหลินเซียง "..."น่ารำคาญจริง ๆข้าง ๆ ไม่ได้มีลิฟต์อีกตัวหรือไงทำไมต้องขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันกับเธอด้วยร่างสูงใหญ่ของลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามา พื้นที่ภายในลิฟต์แคบลงทันทีหลินเซียงยืนชิดมุม เปิดไฟล์ในโทรศัพท์ไปพลาง ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดของโปรเจ็กต์อย่างละเอียด เพื่อเตรียมตัวตอบคำถามกับหัวหน้าแผนกโดยไม่ผิดพลาดประตูลิฟต์เปิดออกอย่างรวดเร็ว หลินเซียงเดินออกไปโดยที่ไม่เงยหน้ามองลู่สือเยี่ยนจ้องม
หลินเซียง : [ซ่งซ่ง ช่วยส่งตารางงานของประธานบริษัทเฉิงต๋าให้ฉันหน่อยได้ไหม?]ซ่งซ่ง : [เดี๋ยวจะลองหาดู!]หลินเซียงปิดโทรศัพท์ รอคอยอย่างเงียบ ๆภายในห้องทำงานส่วนตัวของประธานบริษัทซ่งจั่วเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ลู่สือเยี่ยนฟัง แล้วถามว่า "ท่านประธานครับ เราควรนัดหมายกับคนของเฉิงต๋าเพื่อเจรจาความร่วมมือใหม่ดีไหม?"ลู่สือเยี่ยน "ไม่ต้อง"ซ่งจั่วตกใจ "แต่เรื่องนี้ถ้าจัดการไม่ดี คุณหนูลู่อาจจะตกงานได้เลยนะครับ"เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเหตุที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เธอรับผิดชอบโปรเจกต์ ถ้าเธอจัดการไม่ดี และยังหาตัวผู้ที่ปล่อยข้อมูลรั่วไหลไม่ได้ คนที่ต้องรับผิดชอบก็คงหนีไม่พ้นเธอการถูกไล่ออกก็ยังถือเป็นโทษสถานเบา แต่ถ้าข่าวที่เธอปล่อยความลับของบริษัทออกสู่ภายนอกแพร่สะพัดออกไป เธอก็คงจะทำงานในวงการนี้ไม่ได้อีกต่อไปลู่สือเยี่ยนมองเอกสารบนโต๊ะ สีหน้าสงบเย็นชา "เธอจัดการได้แน่"น้ำเสียงของเขาหนักแน่น ราวกับรู้จักเธอเป็นอย่างดีเขาก็รู้จักเธอเป็นอย่างดีจริง ๆ นั่นแหละด้วยนิสัยของเธอ เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะยอมรับในความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อซ่งจั่วมองเขา อารมณ์ซับซ้อน กำลังจะหย่ากันอย
ฉินโหย่วหานมองเธอด้วยความประหลาดใจ วันนั้นที่บาร์ เธอเหมือนไม่ใช่คนเดียวกันนี้เลย ตอนนั้นเธอเมาจนแทบจะควบคุมสติไม่ได้ เหมือนคนบ้า"ไม่เป็นไร"ฉินโหย่วหานตอบกลับ พลางมองเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วพูดต่อ "ครั้งนี้คุณก็ไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินอีกใช่หรือเปล่า?"หลินเซียงยิ่งรู้สึกอึดอัดเข้าไปใหญ่ "ครั้งนี้ฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ค่ะ ถ้าอย่างนั้นคุณถอดเสื้อตัวนอกออกก็ได้ ไว้ฉันจะเอากลับไปซักให้"ฉินโหย่วหานอดหัวเราะไม่ได้ "ให้ถอดตรงนี้เลยเหรอ"หลินเซียงขมวดคิ้ว "ฉันหลินเซียง มาจากบริษัทดีเคกรุ๊ปสาขาเมืองอวิ๋ คุณสามารถส่งเสื้อผ้ามาที่บริษัทของฉันได้ เดี๋ยวฉันซักเสร็จแล้วจะส่งคืนให้ค่ะ"การขีดเส้นแบ่งขอบเขตและรักษาระยะห่างชัดเจนมากหลินเซียง...ฉินโหย่วหานท่องชื่อของเธอเงียบ ๆ แล้วตอบกลับ “โอเค ผมจำได้แล้ว"พูดจบก็หันหลังตั้งท่าจะเดินจากไปหลินเซียงถอนหายใจโล่งอก ยังดีที่ผู้ชายคนนี้ไม่เอาเรื่อง เธอไม่อยากมีปัญหากวนใจเพิ่มอีกชั้นสอง จากราวบันไดเซี่ยหว่านมองลงไปด้านล่าง ดวงตาของเธอวูบไหวฉายแววแปลกใจ หลินเซียงมาที่นี่ได้ยังไงเธอเข้ามาในงานได้ยังไงเถอะดูจากการที่ไม่มีคนอื่นอยู่เคียงข้าง