“อะไรนะ?”ซ่งซ่งเห็นหลินเซียงสะบัดผมลุกขึ้น ยิ้มตาหยี เมื่อเห็นเธอเดินไปหาหนุ่มหล่อผู้ย้อมผมสีเทา ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นทันทีเยี่ยมไปเลย!ทิ้งผู้ชายเลว ๆ ซะ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่!ฉินโหย่วหานสวมหูฟังข้างหนึ่งไว้ที่หู ปรับแต่งซาวด์เพลงด้วยมือข้างหนึ่ง สีหน้าเจ้าเล่ห์อารมณ์ร้าย ยามเม้มริมฝีปากยิ้ม ความทรงเสน่ห์ก็แผ่ซ่านไปทั่วหญิงสาวหลายคนจ้องมองการกระทำของเขาพร้อมกับส่งเสียงกรี๊ดหลินเซียงเบียดฝูงชนเข้าไป แล้วตรงเข้าไปหาเขา “สุดหล่อ ดื่มด้วยกันสักหน่อยไหมจ๊ะ?”ฉินโหย่วหานใช้มือข้างหนึ่งประคองหูฟัง ไม่ได้ยินคำพูดของหลินเซียงเลย เอาแต่หลุบตาลง เคลื่อนไหวโยกย้ายช้า ๆ สบาย ๆ ควบคุมเพลงต่อไปอย่างไม่สนใจทำไมไอ้หมอนี่ถึงทำเมินคนอื่นกันนะ?แก้มของหลินเซียงแดงก่ำ จู่ ๆ ก็ยื่นมือไปแย่งหูฟังเขามาวางไว้ข้าง ๆ ทันที “นี่ ฉันกำลังคุยกับนายอยู่นะ!”เสียงเพลงดังกระหึ่ม แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเงียบสงบลงทันทีทุกคนหันไปมองหลินเซียงฉินโหย่วหานก็เช่นกันไม่เคยมีใครกล้าแย่งของที่อยู่ในมือเขา!เขาจ้องมองเธออย่างไม่พอใจ “คุณว่าอะไรนะ?”หลินเซียงทำท่ากระดกแก้วดื่ม “ดื่มด้วยกันไหมจ๊ะ?”
เซี่ยหว่านนั่งอยู่ข้างๆ เขา กำลังใช้โทรศัพท์ดูสูตรอาหาร เหมือนจะเห็นกับข้าวอะไรบางอย่างน่าสนใจ จึงขยับหน้าจอเข้าไปใกล้ลู่สือเยี่ยน “สือเยี่ยน มาทำเมนูนี้กันไหม แต่เราต้องแวะซูเปอร์มาร์เก็ตก่อนนะ ของในตู้เย็นน่าจะไม่พอ”คิ้วของลู่สือเยี่ยนขมวดเข้าหากันเล็กน้อย จู่ ๆ ก็พูดว่า “จอด”คนขับรถจอดรถทันทีเซี่ยหว่านมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ “สือเยี่ยน ทำไมล่ะ?”แต่ลู่สือเยี่ยนกลับพูดกับคนขับ “ช่วยส่งคุณเซี่ยกลับบ้านอย่างปลอดภัยด้วยนะ”เขาหันไปมองเซี่ยหว่าน “ผมยังมีธุระ ต้องไปจัดการก่อน”พูดจบก็เปิดประตูรถออกไปทันที“สือเยี่ยน...”เซี่ยหว่านเรียกเขา แต่เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมาเซี่ยหว่านกำโทรศัพท์แน่น ใบหน้าเย็นเยียบลงอย่างรวดเร็ว!เธอเห็นแล้ว ลู่สือเยี่ยนเพิ่งกดดูโพสต์ของเพื่อน และเห็นหลินเซียง เขาเลยรีบไป!ทั้ง ๆ ที่เพิ่งสัญญาว่าจะไปกินข้าวที่บ้านเธอแท้ ๆ!หรือว่าหลินเซียงคนนี้จะครอบครองพื้นที่หัวใจของเขาเข้าแล้วจริง ๆ?ไม่!เธอจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด!...ในบาร์แสงไฟสลัว บรรยากาศคึกคักหลินเซียงฉุดแขนฉินโหย่วหานลากกลับไปที่โต๊ะทันที แล้วตบไหล่ซ่งซ่ง “ดูสิ ฉันพาเขา
“เซียงเซียง อย่าดื่มโง่แบบนี้สิ” ตอนแรกซ่งซ่งตกใจมากพออยู่แล้ว แต่ตอนนี้เมื่อเห็นหลินเซียงสภาพย่ำแย่ เธอกลับกลัวยิ่งกว่าเดิมหลินเซียงผลักเธอออก “ถ้าฉันไม่ดื่มให้หมด เขาจะปล่อยฉันไปเรอะ?”พูดจบก็ดื่มเหล้าอีกแก้วรอยยิ้มบนใบหน้าฉินโหย่วหานจางหายไปทีละน้อย แววตาเย็นชาลงกว่าเดิม และยังแวบผ่านความสนใจขึ้นมาเลือนลาง!เหอะ!ผู้หญิงคนนี้ ก่อนหน้านี้กล้าได้กล้าเสีย ห้าวมาแย่งของจากมือเขาไป แต่ตอนนี้กลับขี้ขลาดขนาดนี้แต่ดูจากท่าทางของเธอแล้ว เหมือนกำลังยืมเหล้าของเขาเพื่อใช้คลายความเศร้าซะมากกว่า“พอแล้ว!”ฉินโหย่วหานพูดประโยคหนึ่งอย่างหงุดหงิดแต่หลินเซียงไม่ยอมหยุด เหล้าตรงหน้ามีแปดแก้ว เธอดื่มไปแล้วห้าแก้ว“ยังไม่หมดดด หยุดม่ายด้ายย”หลินเซียงส่ายหัว ตอนนี้สายตาของเธอพร่าเบลอเอามาก ๆ แล้ว แต่มือก็ยังหยิบแก้วเหล้าขึ้นมากระดกดื่มต่ออย่างแม่นยำ“ผมบอกให้พอไง!”ฉินโหย่วหานผุดลุกขึ้นฉับพลัน จับข้อมือเธอ แล้วแย่งแก้วเหล้าในมือเธอไปโยนทิ้งแก้วเหล้ากระแทกกับพื้น แตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันที!ร่างกายของหลินเซียงสั่นคลอนซ่งซ่งรีบเข้าไปประคองเธอ “เซียงเซียง ไม่ต้องดื่มแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว พวก
ลู่สือเยี่ยนกอดเอวหลินเซียง มองดูใบหน้าของเธอที่แดงก่ำจากความเมา ขมวดคิ้ว "เซียงเซียง ผมจะพาคุณกลับบ้าน""คุณเป็นใคร?"วิสัยทัศน์ของหลินเซียงพร่ามัว รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกกอด เริ่มดิ้นรนโดยสัญชาตญาณทันทีลู่สือเยี่ยนตอบกลับด้วยความอดทน "ผมอาเยี่ยน"เมื่อหลินเซียงได้ยินสิ่งที่เขาพูด เห็นได้ชัดว่าตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยายามดิ้นรนยิ่งกว่าเดิม "ไร้สาระ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ออกไป!"ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนขรึมลงทันทีเส้นโค้งเจ้าเล่ห์หยักลึกอยู่ที่มุมปากของฉินโหย่วหาน "พี่ใหญ่ ไม่ได้ยินที่เธอพูดเหรอ? เธอไม่อยากให้คุณแตะต้องตัวเธอ"ลู่สือเยี่ยนเหลือบมองเขาอย่างเย็นชา "คนนอกอย่างคุณไม่ต้องสอดรู้มายุ่งเรื่องผัวเมีย"ฉินโหย่วหานแค่นยิ้ม ผัวเมีย?แต่เมื่อเขาเห็นหลินเซียงเอาแต่ดิ้นรนให้หลุดพ้นอยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกโกรธอย่างอธิบายไม่ได้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น "แต่สำหรับผมแล้วดูไม่เหมือนเลยว่ะ ไหนล่ะ โชว์ทะเบียนสมรสของคุณเพื่อพิสูจน์ว่าพวกคุณเป็นผัวเมียกันจริง ๆ หน่อยซิ ไม่งั้น ผมคงปล่อยให้เธอกลับไปกับคุณไม่ได้”ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนเคร่งขรึม ดวงตาเต็มไปด้วยแสงอันมืดมน หยิบสมุดทะเบียนสมรส
“คุณชายครับ ซุปแก้เมาได้แล้ว”เวลานี้เสียงคนรับใช้ก็ดังขึ้น"เอาเข้ามาเลย"ลู่สือเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มคนรับใช้วางซุปแก้เมาค้างไว้บนโต๊ะข้างเตียง ก้มศีรษะลงแล้วเดินออกจากห้องไปปิดประตูลู่สือเยี่ยนจับตัวหลินเซียงไว้โดยตรงแล้วพูดว่า "หลินเซียง ดื่มซุปแก้เมาค้างหน่อย แล้วจะรู้สึกดีขึ้น"หลินเซียงยังคงดิ้นรนต่อไป “ไม่ ไม่เอา ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันอยากกลับบ้าน”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า "ผมจะพาคุณกลับบ้านก็ต่อเมื่อคุณดื่มหมดแล้ว"หลินเซียงคอเอียง ล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ๆ "ฉันไม่กลับบ้าน ฉันอยากอยู่ในบ้านพื้นที่สามร้อยตารางเมตร!"ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้วเพราะเริ่มปวดหัวกับการรับมือ "นี่ไง นับจากนี้ไป คุณจะได้อยู่ที่นี่"หลินเซียง “คุณเป็นใครอ่ะ?”“ดูให้ดีสิว่าผมเป็นใคร”ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธอพร้อมกับบีบคางให้เชยขึ้นหลินเซียงหยุดดิ้นรนและมองดูอย่างจริงจัง หลังจากนั้นไม่นานก็พูดว่า "โอ้ หน้าคุ้นจังเลย คุณหน้าเหมือนสามีเก่าขี้โกงของฉันชะมัด"ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้ว "เรายังไม่ได้หย่ากัน"“เอาน่า เรียกงั้นไปเลย ยังไงเราก็จะหย่ากันเร็ว ๆ นี้แล้ว” หลินเซียงยกไม้ยกมือ “หลังหย่าแล้ว ฉันก็จะมีหนุ่ม
หลินเซียงต้องการลุกขึ้น แต่เขากลับดึงเธอล้มนอนลงตามเดิม"จะทำอะไรน่ะ..."เธอยังพูดไม่ทันจบ จูบอันดุเดือดของชายหนุ่มก็ทาบประทับลงมาหลินเซียงพยายามผลักเขาออก แต่เขากลับจับมือเธอแล้วกดไว้เหนือศีรษะจูบนั้นทวีความหนักหน่วงยิ่งขึ้น เรื่อยไล้ลามลงไปที่ลำคอ กระดูกไหปลาร้า...ลมหายใจของทั้งคู่เริ่มกระเส่ารุนแรงหลินเซียงมองเพดานห้องที่ได้รับตกแต่งอย่างประณีต หางตาเริ่มแดงก่ำ "ลู่สือเยี่ยน ฉันไม่ใช่เครื่องระบายอารมณ์ของคุณนะ ถ้ายังจำได้ว่าฉันเคยช่วยชีวิตคุณไว้ครั้งหนึ่ง ก็ปล่อยฉันไปเถอะ"อย่าทำแบบนี้เลยเธอรู้สึกแย่มากเมื่อตกอยู่ในสภาวะนี้ทั้ง ๆ ที่เขากำลังจะไปรับผิดชอบผู้หญิงคนอื่น แต่ก็ยังมาพัวพันกับเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยเขาไม่ได้ขอหย่าเองหรอกเหรองั้นก็ทำมันให้เด็ดขาดไปเลยสิลู่สือเยี่ยนหายใจรดลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอ แล้วออกแรงมากขึ้นอีกหน่อย แต่สุดท้ายเขาก็ปล่อยเธอแล้วเดินลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำหลินเซียงค่อย ๆ ปล่อยมือลงแล้วหลับตา พ่นลมหายใจออกแรง ๆ แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกหดหู่เธอหวังเหลือเกินว่าเขาจะพูดว่าไม่หย่าแล้ว เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะ
"ไปเถอะ"ลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นบังสายตาเธอหลินเซียงมองเขา “ไปไหน"ลู่สือเยี่ยนมองเธอจากมุมสูง "อยากไปสำนักงานเขตไม่ใช่เหรอ?"หลินเซียงก้มหน้า ไม่พูดอะไร แล้วก็ลุกขึ้นเดินตามเขาออกจากวิลล่าตระกูลลู่เมื่อหันกลับไปมองคฤหาสน์หรูหราอลังการหลังใหญ่โต หลินเซียงอดพูดไม่ได้ว่า "น่าเสียดายจัง ต่อไปคงไม่ได้มาที่นี่อีกแล้ว"เธอชอบที่นี่มากเลยนะ"คุณมาได้ตลอด"ลู่สือเยี่ยนพูดแทรกขึ้นทันทีหลินเซียงมองเขา ตาประสานสบกับนัยน์ตาสีดำสนิทของเขา ก่อนจะหัวเราะแล้วพูดว่า "ไม่มาหรอก เกิดมาเจอคุณกับเซี่ยหว่านกำลังพลอดรักกัน ฉันคงอึดอัดแย่"ลู่สือเยี่ยนขมวดคิ้ว ท่าทีเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกเขาไม่มองหน้าเธออีกต่อไป เปิดประตูรถแล้วก้าวขึ้นไปนั่งหลินเซียงขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ แต่คนขับกลับไม่กล้าสตาร์ทรถเธอมองเขาด้วยหางตาด้วยความสงสัย "เป็นอะไร ไปสิ"หน้าผากคนขับมีเหงื่อซึมออกมา "คุณ… คุณไปนั่งข้างหลังดีกว่าครับ"หลินเซียงหันกลับไปมองลู่สือเยี่ยน เห็นว่าสีหน้าของเขามืดมนยิ่งกว่าเดิม เธอยิ้มขำ "ตอนแรกฉันนั่งข้างหลัง คุณก็บอกให้ฉันย้ายมานั่งข้างคนขับ แต่ตอนนี้ดันไม่ให้ฉันนั่งอีก คุณนี่มันเอาแน่เอ
หลินเซียงวางสาย หันไปมองลู่สือเยี่ยน "ฉันต้องกลับบริษัทด่วน"ลู่สือเยี่ยนสีหน้าเย็นชา "ไปหย่าก่อน"หลินเซียงหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ รีบอธิบาย "หย่าน่ะจะหย่าเมื่อไหร่ก็ได้ แต่งานฉันไม่สามารถทิ้งได้นะ คุณก็รู้ดีนี่ว่าฉันจำเป็นต้องหาเลี้ยงชีพด้วยงานนี้"ดวงตาคมราวฟีนิกซ์สีเข้มของลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธอ ครู่หนึ่งจึงออกคำสั่ง "กลับบริษัท"คนขับรถหักพวงมาลัยเปลี่ยนทางทันทีเมื่อลงจากรถ หลินเซียงเดินจ้ำอ้าวไปที่ลิฟต์ ลิฟต์ลงมาถึงพอดี เธอจึงเดินเข้าไปโดยไม่สนใจชายที่อยู่ข้างหลัง กดปุ่มปิดประตูทันที แต่เมื่อประตูใกล้จะปิด มือข้างหนึ่งกลับยื่นเข้ามา ประตูลิฟต์รับรู้ถึงสิ่งกีดขวางจึงเปิดออกอัตโนมัติหลินเซียง "..."น่ารำคาญจริง ๆข้าง ๆ ไม่ได้มีลิฟต์อีกตัวหรือไงทำไมต้องขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันกับเธอด้วยร่างสูงใหญ่ของลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามา พื้นที่ภายในลิฟต์แคบลงทันทีหลินเซียงยืนชิดมุม เปิดไฟล์ในโทรศัพท์ไปพลาง ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดของโปรเจ็กต์อย่างละเอียด เพื่อเตรียมตัวตอบคำถามกับหัวหน้าแผนกโดยไม่ผิดพลาดประตูลิฟต์เปิดออกอย่างรวดเร็ว หลินเซียงเดินออกไปโดยที่ไม่เงยหน้ามองลู่สือเยี่ยนจ้องม