ลู่สือเยี่ยนไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าลู่ถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ตอนนี้ก็ทำได้แค่รับฟังอย่างเงียบ ๆ"ผมรู้แล้วครับคุณย่า ผมจะทะนุถนอมเธอให้ดี"คุณย่าลู่ฮึดฮัด "แบบนี้สิถึงจะถูก"พูดจบก็ปล่อยมือออกจากหูของลู่สือเยี่ยนหูของเขาแดงเถือกไปหมดหลินเซียงแอบอยู่หลังพุ่มไม้ไม่ไกลนัก เห็นภาพนี้แล้วก็เม้มริมฝีปากตอนแรกเธอยังรู้สึกสะใจแต่ไม่นานความรู้สึกนั้นก็เปลี่ยนเป็นความหดหู่ ไม่ว่าอย่างไรคุณย่าลู่ก็ยังเป็นคุณย่าของลู่สือเยี่ยนอยู่วันยังค่ำ แม้ว่าจะสั่งสอนเขา แต่ก็ไม่มีทางทำให้เขาเป็นอะไรไปจริง ๆคำพูดที่พูดออกมา ไม่ต้องพูดถึงลู่สือเยี่ยน แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่เชื่อช่างเถอะไม่มีอะไรต้องเสียใจเลยหลินเซียงกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่ในตอนนั้นก็มีเสียงที่นุ่มนวลดังขึ้น "คุณย่าคะ"ร่างกายของหลินเซียงสะดุ้งเล็กน้อย เธอหันกลับไปมอง ก็เห็นเซี่ยหว่านเดินเข้ามาจากทางประตูเธอสวมชุดเดรสยาวสีครีมยาวกรอมข้อเท้า แต่ขาอีกข้างที่ใส่ขาเทียมก็ยังคงเห็นได้ชัดผมยาวสลวยทิ้งลงอยู่บนบ่า แต่งหน้าอ่อน ๆ ดูเรียบง่ายและอ่อนหวาน คุณย่าลู่มองเธอ "เธอเป็นใคร?"เซี่ยหว่านเปิดฝาขนมในมือออก ยื่นให้เธอแล้ว
"หลานสะใภ้!"คุณย่าลู่ราวกับเพิ่งนึกถึงเธอขึ้นมาได้ ยิ้มอย่างมีความสุขแล้วยื่นมือไปหาเธอ "เธอไปไหนมา ไม่อยากอยู่คุยเล่นกับย่าแล้วเหรอ?"หลินเซียงเดินเข้าไปจับมือเธอไว้ "เปล่าเลยค่ะ เราตกลงกันไว้แล้วไม่ใช่เหรอคะ ฉันจะไปซ่อน แล้วคุณย่าก็สั่งสอนเขา"คุณย่าลู่ตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า "ใช่ ใช่ เจ้าสามรังแกเธอ ย่าต้องสั่งสอนเขา"ลู่สือเยี่ยนจ้องมองใบหน้าของเธอด้วยสายตามืดมน "คุณมาฟ้องคุณย่าเหรอ?"หลินเซียงเลิกคิ้ว "ทำไม ไม่ได้เหรอคะ?"สีหน้าของลู่สือเยี่ยนมืดมนลงไปอีกคุณย่าลู่ไม่รอช้า ตบเขาเบา ๆ ที่หลัง "เพิ่งพูดจบก็ลืมแล้วเหรอ มองเมียตัวเองด้วยสายตาแบบนี้ได้ยังไง?!"ลู่สือเยี่ยน "..."หลินเซียงหันไปมองคุณย่าลู่ "คุณย่า คุณย่าดีกับฉันจังเลยค่ะ"คุณย่าลู่หัวเราะคิกคัก "ย่าชอบเธอ แน่นอนว่าต้องดีกับเธอมาก ๆ สิ ลองชิมอันนี้ดู ขนมนี้คนรับใช้ในบ้านเพิ่งทำมาฝากน่ะ อร่อยมากเลย"พูดจบก็หยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่ง แล้วจ่อไปที่ริมฝีปากของหลินเซียงเมื่อคำพูดของเธอจบลง หลินเซียงก็ตกใจเล็กน้อย เผลอเหลือบมองไปทางเซี่ยหว่าน เห็นว่าสีหน้าของเธอดูไม่ค่อยดีนักหลินเซียงพูดว่า "ขอบคุณค่ะคุณย่า""ก
หลินเซียงหันกลับมา "คุณย่า เขารังแกฉันอีกแล้ว"ทำให้คุณย่าลู่ยกมือตีลู่สือเยี่ยนโดยไม่ลังเลลู่สือเยี่ยน "..."สีหน้าของเขาเย็นชา ขณะจ้องมองหลินเซียงด้วยสายตาราวกับจะแทงเธอให้เป็นรูพรุนคุณย่าลู่พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "เจ้าสาม สมองแกนี่ไม่จดไม่จำอะไรเลยจริง ๆ ขืนยังรังแกหลานสะใภ้ไม่เลิก ฉันจะบอกให้เธอเลิกกับแกซะ!"ลู่สือเยี่ยนหลับตาลง เพื่อข่มอารมณ์ไว้หลินเซียงยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะหันไปพูดกับคุณย่า "คุณย่าเหนื่อยหรือยังคะ ง่วงไหมคะ?"คุณย่าลู่ส่ายหน้า "ไม่ง่วง ย่ายังอยากเดินเล่นอยู่"แต่พูดจบก็หาววอดยกใหญ่หลินเซียงเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นทันที "งั้นเราไปคุยเล่นกันในห้องดีไหมคะ ฉันจะเล่านิทานให้คุณย่าฟังเอง""ได้เลย"เมื่อได้ยินว่ามีนิทานให้ฟัง คุณย่าลู่ก็ตอบตกลงทันทีหลินเซียงเดินเข้าไปแทรกกลางระหว่างลู่สือเยี่ยน และเข็นรถเข็นไปที่ตึกเล็กลู่สือเยี่ยนจ้องมองตามแผ่นหลังของเธอ ดวงตาหมองคล้ำ"สือเยี่ยน"เซี่ยหว่านเดินเข้ามา เสียงของเธอเบาเหมือนซ่อนความเศร้าเอาไว้ลู่สือเยี่ยนหันกลับไปมอง เห็นว่าดวงตาของเธอแดงก่ำ ชัดเจนว่าเพิ่งร้องไห้มา "เป็นอะไรไป?"เซี่ยหว่านยิ้มอย่างขมขื
หลินเซียงหันไปทางเซี่ยหว่าน "คุณเซี่ย คุณเชื่อคำพูดของผู้ชายเลว ๆ แบบนี้เหรอคะ? แม้แต่คุณเองยังปกป้องตัวเองไม่ได้เลย แต่กลับใช้ฉันเป็นเครื่องกำบัง คุณไม่รู้สึกละอายใจหน่อยเหรอ?"เธอได้ยินการสนทนาทั้งหมดโดยบังเอิญเธอแทบพูดไม่ออกเพราะตกใจกับคำพูดที่ไร้ยางอายของลู่สือเยี่ยนเขารักเซี่ยหว่านมากจริง ๆ สินะรักจนไม่ลังเลที่จะลากเธอที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเข้ามาเกี่ยวข้องช่วงเวลาที่ผ่านมา ความกังวลใจและฝันร้ายยามค่ำคืนของเธอล้วนเกิดขึ้นเพราะมีเขาเป็นต้นเหตุเขาไม่ยอมให้เธอมีความสุข ถ้าอย่างนั้นทุกคนก็ไม่ควรมีความสุข!ยังไงซะ เธอก็เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ไม่กลัวตาย แต่พวกเขาเองก็ต้องถูกฝังกลบไปพร้อมกันกับเธอ!ความโกรธเกรี้ยวเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของหลินเซียง รู้สึกโกรธแค้นลู่สือเยี่ยนมากขึ้นสายตาของเซี่ยหว่านเย็นยะเยือก "คุณหลิน คุณไม่รู้เรื่องราวก่อนหน้าก็ไม่ควรวิพากวิจารณ์ส่งเดช ตระกูลลู่อาจจะดูดีมีหน้าตาในสังคม แต่สือเยี่ยนไม่เคยมีความสุขเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฉันอาจจะช่วยอะไรสือเยี่ยนไม่ได้ แต่หวังว่าคุณจะไม่สร้างความวุ่นวายให้เขา"หลินเซียงหัวเราะเสียงเย็น "กลัวฉันสร้างความวุ่นวา
ลู่สือเยี่ยนนิ่งันไปชั่วขณะเขายกมือขึ้นหมายจะเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอ แต่เธอกลับหลบหลีกหลินเซียงยกมือขึ้นปาดน้ำตามั่วซั่ว "อย่ามาแตะฉัน"ลู่สือเยี่ยนกลืนน้ำลายลงคอ แล้วจ้องมองเธออย่างจริงจัง "หลินเซียง คุณ..."เขาเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จนแล้วจนรอดก็พูดไม่ออก ได้แต่จ้องมองเธอนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้นความเจ็บปวดที่หน้าอกทำให้เขารู้สึกอึดอัด เมื่อเห็นความน้อยใจและความโศกเศร้าในดวงตาเธอ เขาทั้งรู้สึกสับสนและตื่นตระหนกหลินเซียงสูดหายใจเข้าลึก "ลู่สือเยี่ยน เราหย่ากันดี ๆ ได้ไหม ขอร้องล่ะ คุณมีคนเก่ง ๆ รอบตัวมากมาย พวกเขาต้องปกป้องเซี่ยหว่านได้แน่ ๆ ฉันแค่อยากใช้ชีวิตที่สงบสุข ชีวิตของฉันสามารถอยู่ได้โดยที่ไม่มีคุณ"ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนเม้มเป็นเส้นตรงกลับกัน ถ้าชีวิตของเขาไม่มีเธอล่ะ จะเป็นยังไง?จู่ ๆ ภาพความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอในปีที่ผ่านมาก็ผุดขึ้นในหัวเธอเป็นผู้บริสุทธิ์แต่เธอบริสุทธิ์อย่างที่เห็นจริง ๆ เหรอ?ตอนแรกที่รู้ตัวตนของเขา ทำไมเธอถึงไม่ยอมหย่า?อารมณ์ฟุ้งซ่านในดวงตาของลู่สือเยี่ยนค่อย ๆ กลับมาสงบ เขายืดตัวตรงแล้วปิดปร
เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตู เธอก็ชะงักไปทำไมเป็นเขาอีกแล้ว?หลินเซียงกำไม้เบสบอลในมือแน่น แล้วหันหลังเดินหนีไปเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดประตู ไม่มีทางที่จะเปิดประตูให้เขาไปตลอดชีวิตแต่พอเห็นหน้าผู้ชายเฮงซวยคนนี้แล้วก็รู้สึกหงุดหงิดหลินเซียงเข้าไปในครัว ต้มมาม่า ก่อนจะหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาแล้วหาซีรีส์ดูความคิดของเธอถูกดึงดูดไปที่ซีรีส์ทันที ไม่สนใจเลยว่าคนที่รออยู่หน้าประตูจะเป็นอย่างไรเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นอีกครั้งหลินเซียงคิดว่าเป็นลู่สือเยี่ยนอีก จึงไม่สนใจ เดินไปล้างหน้าล้างตาแล้วเตรียมตัวเข้านอนแต่คราวนี้เสียงกริ่งประตูกลับดังไม่หยุดหลินเซียงรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก จึงเดินไปเปิดประตูด้วยความหงุดหงิด "ฉันบอกคุณแล้วไงว่า..."แต่เธอยังพูดไม่จบ พอเห็นตำรวจสองคนที่สวมเครื่องแบบเจ้าพนักงานยืนอยู่หน้าประตู เธอถึงกับอึ้งไปทันที"พวกคุณ..."ตำรวจทั้งสองมองหน้ากัน แล้วเบี่ยงตัวหลบไปคนละนิด ตำรวจคนหนึ่งชี้ไปทางผู้ชายที่นั่งกองอยู่บนพื้นแล้วถาม "เขาเป็นสามีคุณหรือเปล่า?"หลินเซียงงงเล็กน้อย "ไม่ใช่ค่ะ""ผมเอง"ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงอ่อย แล้ว
"เซียงเซียง"ลมหายใจร้อนผ่าวราดรดซอกคอของเธอ ผิวหนังบริเวณนั้นบอบบางและไวต่อความรู้สึก ความรู้สึกเสียวซ่าปรากฏขึ้นมา ราวกับมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านหลินเซียงดิ้นรนอย่างหนัก "ลู่สือเยี่ยน ปล่อยฉัน!"คำพูดที่เธอพูดไปก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้สนใจเลยเหรอ?ปล่อยให้เดือนนี้ผ่านไปอย่างสงบไม่ได้หรือไง?ทำไมต้องมาวุ่นวายกับเธออีก?ทำให้เธอคิดว่าเขายังรักเธออยู่หลินเซียงยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ดิ้นรนออกแรงมากขึ้น แต่ลู่สือเยี่ยนเองก็กอดเธอแน่นขึ้น เช่นเดียวกัน ลมหายใจร้อนผ่าวประทับลงบนผิวหนังหลินเซียงเหนื่อยแล้ว เริ่มหายใจหอบ "ทำแบบนี้หมายความว่าไง?"แต่ลู่สือเยี่ยนเอาแต่กอดเธอไว้เฉย ๆ ไม่ยอมพูดอะไรหลินเซียงผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์เขาลู่สือเยี่ยนถามเสียงอ่อน "เซียงเซียง คุณเอามือถือผมไปทำไม?"แต่หลินเซียงไม่พูดอะไร พอหาโทรศัพท์เขาเจอก็คว้าเอานิ้วของเขามาปลดล็อกหน้าจอ หาเบอร์ของเซี่ยหว่านแล้วกดโทรออกลู่สือเยี่ยนเห็นดังนั้นก็รีบแย่งโทรศัพท์คืนแล้ววางสายทันที ก่อนจะโยนโทรศัพท์ออกไปไกล ๆ"คุณ..."หลินเซียงเห็นดังนั้นก็โกรธมาก"ลู่สือเยี่ยน คุณไม่ได้ชอบเซี่ยหว่านหรอกเหรอ?
หลินเซียงหลับตาลงและพูดต่อ "ถ้าคุณไม่อยากหย่า งั้นก็ลุกขึ้นก่อน เดี๋ยวฉันไปทำซุปแก้เมาค้างมาให้"เสียงพึมพำของลู่สือเยี่ยนหยุดชะงัก เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ ราวกับจะทบทวนว่าคำพูดของเธอเป็นจริงหรือเท็จหลินเซียงจ้องมองเขาอย่างสงบหลังจากนั้นไม่นาน ปลายจมูกของลู่สือเยี่ยนก็แตะลงบนตัวเธออย่างแผ่วเบา “ไม่หย่าจริงนะ?”"อืม"หลินเซียงอดทนต่อความสั่นไหวภายในใจ พยายามตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาดูเหมือนลู่สือเยี่ยนจะโล่งใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น จึงยอมปล่อยเธอแต่โดยดีหลินเซียงยืนขึ้น เดินตรงไปที่ห้องครัวลู่สือเยี่ยนเอื้อมมือออกไปนวดขมับพร้อมกับขมวดคิ้ว“ลู่สือเยี่ยน ซุปแก้เมาได้แล้ว”ทันใดนั้น เสียงของหลินเซียงก็ดังขึ้นการแสดงออกของลู่สือเยี่ยนแข็งค้าง เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เขาเงยหน้าขึ้น วินาทีต่อมา น้ำเย็นจัดจากกะละมังก็ถูกเทราดลงบนตัวเขาโดยตรงลู่สือเยี่ยนหลับตาลงทันที ปล่อยให้น้ำไหลลงมาตามร่างกาย โซฟาและพรมเปียกโชกไปหมดหลินเซียงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "หายเมาหรือยังล่ะ?"หากคิดว่าทำตัวเมาแล้วบุกมาหาเธอถึงที่บ้าน เธอจะถือเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?เธอจำทุกสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ได้
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด
เสียงของคุณย่าลู่ดังขึ้น ทุกคนในห้องนั่งเล่นต่างก็ตกตะลึง!สีหน้าของลู่สือเยี่ยนตึงเครียดขึ้น เขาคุกเข่าครึ่งตัวอยู่ข้างหน้าคุณย่าลู่แล้วถามว่า “คุณย่าครับ ตอนนี้คุณย่าจำอะไรได้แล้วเหรอครับ?”คุณย่าลู่เอามือลูบหัวเขา “ย่าต้องจำได้อยู่แล้วสิ ย่ายังไม่แก่จนความจำเลอะเลือนซะหน่อย ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่าน แล้วทำไมวันนี้ถึงไม่พาเธอมาด้วย?”ลู่สือเยี่ยนรู้สึกถึงความผิดปกติอย่างรวดเร็ว เขาชี้ไปที่หลินเซียงแล้วถามว่า “แล้วคุณย่าจำเธอได้ไหมครับ?”คุณย่าลู่มองตามนิ้วมือของเขาไป แล้วส่ายหัว “ไม่รู้จัก เธอเป็นใคร? คนใช้ใหม่ของบ้านเราเหรอ?”หลินเซียงได้ยินคำพูดของเธอ เหมือนกับถูกตบหน้าอย่างแรง ก่อนหน้านี้ตอนที่คุณย่าลู่ความจำเสื่อม เธอมักจะคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนใช้ของบ้านตระกูลลู่ และยังดีกับหลินเซียงเป็นพิเศษแต่ตอนนี้กลับกัน!ลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ผมจะพาคุณย่าไปโรงพยาบาลครับ”คุณย่าลู่ขมวดคิ้ว ใบหน้าที่แก่ชราเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ “ไปโรงพยาบาลทำไม? ย่ารู้สึกว่าย่าสบายดีนะ”ลู่สือเยี่ยน “ตรวจร่างกายคุณย่านิดหน่อย เชื่อผมเถอะครับ”คุณย่าลู่ก็ยังไม่ค่อยเต็มใจ
หลังจากที่ลู่สือเยี่ยนพูดจบ เขาก็ไม่ได้วางสาย ได้ยินเสียงเขาเปิดประตูรถลงจากรถ ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบหลินเซียงกำโทรศัพท์แน่น ยื่นมือไปกดปุ่มปิดประตูอีกครั้งครั้งนี้ประตูลิฟต์ปิดลง หัวใจที่สั่นไหวก็ค่อยผ่อนคลายลงอย่างเฉียบพลัน"ประตูลิฟต์ปิดแล้ว" หลินเซียงพูด ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ว่าขาของตัวเองอ่อนแรงแค่ไหน!ลู่สือเยี่ยนพูดว่า "อย่าออกจากลิฟต์ก่อนถึงชั้นหนึ่งนะ""อืม"หลินเซียงตอบ ยังไม่วางสายโชคดีที่ลิฟต์มาถึงชั้นหนึ่งอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ไม่มีใครทำงานล่วงเวลาในตึกแล้วเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก หลินเซียงก็เห็นลู่สือเยี่ยนยืนอยู่ที่ประตู เธอวิ่งออกไปทันที!ลู่สือเยี่ยนกอดเธอไว้พลางปลอบเบา ๆ "ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะตรวจสอบให้ชัดเจน"ด้วยกลิ่นอายที่สดชื่นของเขา หลินเซียงจึงผ่อนคลายลง ตามมาด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรง!จมูกของเธอรู้สึกแสบร้อน น้ำตาเกือบไหล แต่เธอก็อดทนไว้!ลู่สือเยี่ยนประกองกอดเธอแล้วออกจากอาคารพอก้าวขึ้นรถ ความอบอุ่นจากเครื่องทำความร้อนทำให้ร่างกายที่เย็นเยือกเริ่มอุ่นขึ้นลู่สือเยี่ยนจับมือเธอ ถามว่า "คุณเห็นใครหรือเปล่า?"หลินเซียงส่ายหัว "ไม่มีนะ"แล้วถา
หลินเซียงรู้สึกใจสั่นระรัวเสียงน้ำไหลในห้องน้ำดังขึ้น หลินเซียงจึงโล่งใจเล็กน้อยเธอค่อย ๆ ผ่อนคลายและกอดตัวเองขณะกำลังจะหลับ เตียงข้าง ๆ ก็ยุบลงไป ร่างกายของลู่สือเยี่ยนที่ยังเปียกชื้นจากน้ำ เข้ามากอดเธอแน่น หลินเซียงไม่ขยับหรือดิ้นรน ลู่สือเยี่ยนจูบที่ไหล่เธอเบา ๆ "ราตรีสวัสดิ์ ที่รัก"ขนตาของหลินเซียงกระตุกเล็กน้อย แต่เธอก็ยังไม่ตอบสนองอะไร…วันรุ่งขึ้น หลินเซียงไปทำงานก็พบว่าสวี่ซิงเย่มาถึงแล้ว เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด ดูสดใสและมีเสน่ห์ เป็นหนุ่มน้อยที่สดใสสวี่ซินหรานกำลังคุยกับเขาอยู่และสวี่ซิงเย่ก็ตอบด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นเธอมาถึง สวี่ซิงเย่รีบลุกขึ้นยืนและเดินมาหาเธอ "คุณหลิน อรุณสวัสดิ์ครับ!"หลินเซียงยิ้มบาง "ตอนนี้เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้ว นายเรียกฉันว่าหลินเซียงก็ได้"สวี่ซิงเย่เกาจมูกด้วยความเขินอายเล็กน้อย "หลินเซียง""อืม อรุณสวัสดิ์ค่ะ" หลินเซียงพยักหน้าเล็กน้อยสวี่ซินหรานนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย "ถ้าไม่รู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว ฉันนึกว่าพวกเธอเป็นแฟนกันซะอีก"เมื่อได้ยินแบบนั้น สวี่ซิงเย่ขมวดคิ้ว พูดว่า "อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ ผมกั
“ลู่สือเยี่ยน คุณเป็นอะไรมากไหม?”หลินเซียงรู้สึกงงกับเขา!เธอไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เขากลับจะยัดเยียดให้เธอไปเปิดห้องกับผู้ชายคนอื่น?เขาเป็นบ้าหรือเปล่า?ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างเงียบ ๆ แล้วพูดว่า “หลินเซียง ห้ามรับของจากผู้ชายคนอื่น และห้ามชอบผู้ชายคนอื่นด้วย ถ้าผมรู้ คุณอาจไม่ตาย แต่ผู้ชายคนนั้นต้องตายแน่!”เขาเตือนอย่างจริงจังด้วยความเคร่งขรึม ดวงตาของเขาแสดงความต้องการครอบครองเธออย่างไม่มีปิดบังหลินเซียงกัดริมฝีปาก มองเขาด้วยสายตาซับซ้อนถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาแสดงออกแบบนี้เธอคงดีใจมาก!แต่หลังจากผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาแล้ว เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ เธอกลับไม่รู้สึกอะไร!เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย “ตอนนี้ฉันไปอาบน้ำได้แล้วใช่ไหม? ทำงานมาทั้งวัน เหนื่อยมากจริง ๆ”ลู่สือเยี่ยนมองเธออีกสักพัก แล้วปล่อยเธอไปหลินเซียงเดินไปที่ห้องน้ำลู่สือเยี่ยนเรียกคนใช้มาเก็บเค้กเมื่อหลินเซียงออกมา เธอก็เห็นเขานั่งอยู่บนโซฟา บนโต๊ะมีขี้ผึ้งวางอยู่“ทายา”เมื่อเห็นเธอหันมามอง เขาพูดเสียงต่ำหลินเซียงกัดริมฝีปาก แล้วพูดว่า “ฉันทาเองได้”พูดจบ เธอก็เดินไปหยิบขี้ผึ้งแต่ลู่สือเยี่ยนมือไวกว่