หลันเล่อหันซ้ายทีขวาที“ข้าหิวแล้วกินก่อนได้ไหม”หยิบซาลาเปามายัดเข้าไปในปาก หานจงดึงซาลาเปาไว้ได้ทัน“ยานี่ยังไม่ได้เคี่ยวแล้วจะต้องกินยาก่อนอาหาร องค์หญิงท่านจะต้องอดทน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ชาวปาเอ่อถัวได้ชื่อว่ามีความอดทนยิ่ง”หลันเล่อยืดอกยิ้มกว้าง“แน่นอนอยู่แล้ว ชาวปาเอ่อถัวไม่ได้อ่อนแอเพียงนั้น”ยอมหันหลังให้ซาเปาเสีย ต้าหมิงคุนเบือนหน้าหนีกลัวว่าหลันเล่อจะเห็นรอยยิ้มหานจงถือสนมุนไพรไปยังกองไฟก่อนจะลงมือเคี่ยวยา“ท่านอาฝ่าบาท”ต้าหมิงคุนกำลังจะก้าวขาจากไป“มีสิ่งใดอีก”“ท่านอาหิวจนตาลายทำไมไม่กินเสียก่อน นี่มันเลยเวลาเที่ยงมาเกือบชั่วยามแล้ว”“เจ้าอดข้าอด ข้ากินอวดเจ้า เจ้าจะยอมทนอดได้หรือ”หลันเล่อยิ้มกว้าง“เช่นนั้นข้าคิดว่าเราไม่ควรกินยาในตอนนี้ไว้เย็นค่อยกินทีเดียว ตอนนี้กินซาลาเปาก่อน”ต้าหมิงคุนรู้ทันอาการบ่ายเบี่ยงของหลันเล่อ“บอกมาเจ้าตั้งใจจะไม่กินยาตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม ที่พูดมาทั้งหมดเพราะไม่อยากดื่มยา”“โสมซานซีนั่นข้ารู้จักมันดี มีรสเฝื่อนข้าไม่ค่อยจะชอบรสชาติของมัน ข้าหลักแหลมเพียงนี้รู้จักวิเคราะห์ ท่านอายังกล้าแดกดันข้าอีกหรือ”ต้าหมิงคุนถอนหายใจ“ไม่ชอบก็ต้องกิน
หานจงยกมือขึ้นกุมท้อง เกือบจะปล่อยยาในถ้วยร่วงหลุดมือ“องค์หญิงรองเจ้านี่แน่จริงๆ ข้านับถือเจ้ายิ่งนัก จัดการพยัคฆ์ร้ายจน กลายเป็นแมวมิน่าล่ะ ใบหน้าโหดเหี้ยมของเขาเลยกลายเป็นจืดชืดไปเสียเพราะเจ้านี่เองที่เป็นต้นเหตุ” ต้าหมิงคุนที่ มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าช่างโหดร้าย และเย็นชาที่สุดแต่กลับมาถูกองค์หญิงรองจับตัดเขี้ยวเล็บเสียสิ้น“เจ้าวางใจได้รับรองข้าไม่บอกใคร”หานจง ซ่อนยิ้มก่อนจะส่งถ้วยยาในมือให้ หลันเล่อเบือนหน้าหนี“ขมไหม”“ไม่ขม แค่เฝื่อนๆ ”ยิ้มแหย๋ๆ“ข้ารอมันเย็นก่อนจะดีไหม”“เย็นเกินไปมันจะรสชาติแย่ ดื่มเสียตอนนี้อีกอย่างเจ้าชวนข้าคุยจนมันหายร้อนไปแล้ว”ยิ้มด้วยความเอ็นดู“ข้า ๆๆ ”ต้าหมิงคุน มาตอนไหนดึงถ้วยยากระดกจนหมดถ้วยก่อนจะสอดมือเข้าที่ท้ายทอยของหลันเล่อดึงร่างบางแนบชิดกดริมฝีปากส่งยาอุ่นๆ เข้าไปในปาก หลันเล่อเบิกตาโพลงอ้าปากค้างตกตะลึงจนลืมว่าจะต้องทำอย่างไร หานจงเบือนหน้าหนีเสีย“อือ ๆๆๆ ปะปล่อย”ผลักร่างสูงออกห่าง“ท่านอา ฝ่าบาท ท่านผิดสัญญา”“ไม่ใช่สัญญาแค่ข้อตกลง เจ้าเตรียมไปร่างข้อตกลงเพิ่มในบรรทัดท้ายสุด ภายใต้ข้อกำหนดว่า ข้าจะยินดีทำตามข้อตกลงหากเจ้าไม่ดื้อด้าน
ขุนศึกร่างใหญ่เหลือบตามองหลันเล่อ“น้อมบัญชาฝ่าบาท”เกี้ยวใหญ่เคลื่อนออกจากที่พำนักไปทันทีตามด้วยเหล่าทหารมากมาย“ท่านอา หากถึงวังหลวงแคว้นหานท่านยังจะต้องส่งคนอารักขาข้าแบบนี้หรือไม่”“ เจ้าถามทำไมกัน”“ข้าก็แค่อยากจะมีอิสระได้เที่ยวชมแค้วนหานตามใจ ความจริงมีเพียงอาจารย์ข้าก็คิดว่าน่าจะพอแล้ว”“ยังไม่ทันจะถึงแคว้นหานเจ้าก็ตั้งใจจะหนีออกนอกวังหลวง ข้าไม่แปลกใจเลยที่ค่ำคืนนั้นเจ้าพบข้า จำไว้ที่แคว้นหาน หญิงงามหรือผู้คนในวังหลวงเราไม่นิยมออกเที่ยวเตร่ยามค่ำคืน”ยกมือขึ้นเท้าคางรอฟังต้าหมิงคุนอธิบายด้วยสายตาใคร่รู้ต้าหมิงคุนกลับเงียบเสีย“ท่านอาฝ่าบาท ท่านมีเรื่องใดจะสั่งสอนข้าอีกโปรดบอกหลันเล่อก่อนที่จะถึงแคว้นหาน หลันเล่อจะได้ซึมซับไว้แล้วค่อยๆ เรียนรู้” ต้าหมิงคุนผลักหน้าขาวผากเบาๆ“อย่าทำเป็นใส่ใจ ข้ารู้ดีว่าเจ้าเพียงแค่แสร้งทำใส่ใจ ความจริงตั้งใจหาทางที่จะหลบเลี่ยงกฎระเบียบของวังหลวงแคว้นหาน”“ว้า ท่านอาฝ่าบาทรู้ได้อย่างไร หลันเล่ออุตส่าห์แสร้งทำเป็นตั้งใจฟัง”“ข้าอายุมากกว่าเจ้าหลายขวบปี เรื่องเหล่านี้ข้าเคยทำมาก่อนเจ้า”“เห็นไหมเล่า ท่านอาก็ยังเคยทำแล้วจะมาห้ามข้าทำไมกัน”“ห้ามเ
“ฝ่าบาท เพิ่งจะหยุดขบวนพักฝ่าบาทจะไปไหนกัน”“ข้า ให้พวกเจ้าตามอารักขาฮองเฮาที่กำลังจะไปอาบน้ำ ที่แหล่งน้ำข้างหน้า”ตี่หลุงทำสีหน้าประหลาดใจ ต้าหมิงคุนทำเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือร้อยวันพันปีเข้าเคยเอาใจใคร คนอย่างต้าหมิงคุนเคยใส่ใจใครเช่นเดียวกับที่ทำกับองค์หญิงรองคนนี้“ฝ่าบาทจะไปนานหรือไม่”จื่อจื่อเอ่ยปากถามเบาๆ ด้วยความสงสัย“จนกว่า ฮองเฮาจะเบื่อ จื่อจื่อหากหายเหนื่อยแล้วให้ทั้งขบวนตามไปที่แหล่งน้ำด้านหน้าเลยไม่ต้องรอข้าย้อนกลับมาข้าจะรอที่นั่น”จื่อจื่อประสานมือ“ย้าาาา”กอดรวบเอวบางของหลันเล่อแนบลำตัวก่อนจะ ควบม้าไปข้างหน้าที่เห็นทิวไม้ลิบๆ ไกลแสนไกล“ท่านอาฝ่าบาท”หลันเล่อทำเสียงอ่อนในทำนองสำนึกผิด“ทำไมอีก” เสียงเข้มทั้งๆที่ไม่อยากจะทำท่าทีเช่นนี้“ข้า ทำให้ท่านอาต้องลำบากแล้วก็ทำให้ทั้งขบวนต้องลำบาก”ต้าหมิงคุนทำสีหน้าเรียบเฉย“ข้าเต็มใจหากไม่พาเจ้าไปเจ้าไม่ยอมแต่งกับข้าหนีกลับปาเอ่อถัวเสียตอนนี้ก็แย่ในเมื่อยังไม่ทันข้ามเข้าไปในเขตของแคว้นหาน”ภายใต้น้ำเสียงราบเรียบนั้นหลันเล่อสัมผัสได้ถึงความจริงใจไม่ได้เสแสร้งเอนกายพิงอกกว้างนิ่ง ต้าหมิงคุนกลับรู้สึกว่าเขาไม่ควรฉวยโอกาสกับหลันเล
“เราไปไหว้พระขอพรกัน” ลี่หลันเล่อ รีบก้าวเดินลงไปก่อนใคร นักบวชชราเดินมาหยุดที่ลี่หลันเล่อ“แม่นางน้อยผู้นี้ กำลังจะเผชิญบาปเคราะห์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง”ลี่หลันเล่อหุบยิ้ม นักบวชชราหันมองต้าหมิงคุน“คุณชายท่านนี้สิ่งที่ท่านทำกับนาง จะสร้างบาปเคราะห์ให้กับนางและสร้างบาดแผลให้กับท่าน”ต้าหมิงคุนยิ้ม“ขอบคุณไต้ซือที่ตักเตือนแต่ข้ากับนางไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน”ก้าวเดินเข้าไปด้านในดึงมือเมิ่งเม่ยให้ตามเข้าไปด้วยตรงหน้ารูปแกะสลักของพระโพธิสัตว์“ไท่จือท่านตั้งใจพาข้ามาขอพรอย่างนั้นหรือ”หันไปยิ้มกับเมิ่งเม่ย ที่ประนมมือ“เจ้าอธิษฐานว่าอย่างไร”เมิ่งเม่ยยิ้มเอียงอาย“เกรงว่าจะไม่ต่างจากไท่จือ”“ข้าอธิษฐานให้ข้าได้เคียงคู่กับเจ้า”เมิ่งเม่ยก้มหน้าเขินอายยิ่งกว่าเดิมลี่หลันเล่อ ทรุดกายลงด้านหลัง ประนมมืออธิษฐานในใจเมิ่งเม่ยก้มลงกราบเงยหน้าขึ้นก่อนจะมองหาลี่หลันเล่อ“คุณหนูลี่เจ้าอธิษฐานว่าอย่างไร”ลี่หลันเล่อก้มลงกราบก่อนเงยหน้าขึ้นมองเมิ่งเม่ยกับต้าหมิงคุนที่กุมมือเมิ่งเม่ยอยู่“ข้า อธิษฐานให้ข้า ข้า…”“เจ้าก็คงอธิษฐานให้ ไท่จือมีใจกับเจ้า”ลี่หลันเล่อยิ้มบางๆ“ข้าอธิษฐานแบบไหนก็ไม่แปลกแต
เมิ่งเม่ยบ่นเบาๆ“ไปกันเถิด”ต้าหมิงคุนไม่ต่อคำรีบชวนเมิ่งเม่ยกลับวังหลวง…………………………………………………………………เอื้อมมือตั้งใจจะลูบหลังให้เมื่อเห็นว่าหลันเล่อสำลักน้ำแต่คิดได้ว่าไม่อาจแตะตัวหลันเล่อตามข้อตกลง อาภรณ์ถูกสวมอย่างเรียบร้อย“ฮัดเช๊ย ฮัดเซ๊ย” หลันเล่อส่งเสียงจาม ต้าหมิงคุนถอดเสื้อคลุม ออกทว่าช้าไปกว่าถงหมิ่นที่ห่มเสื้อคลุมของเขาในมือให้กับหลันเล่อเสียก่อนแล้ว“ข้าบอกกี่ครั้งแล้ว ว่าไม่ให้แช่น้ำนานเช่นนี้ องค์หญิงรองท่านแต่ไหนแต่ไรมักจะ เป็นหวัดบ่อยๆ เพราะชอบแช่น้ำ” ต้าหมิงคุนรีบผูกเชือกรัดเสื้อคลุมอย่างรวดเร็วไม่ให้เห็นว่าเขาช้ากว่าถงหมิ่น“ข้าแค่ อยากจะแช่น้ำเสียบ้างหลายวันมานี้ไม่เคยได้อาบน้ำ”“อืม หากไปถึงแคว้นหานองค์หญิงคงจะแช่น้ำเย็นบ่อยๆ ไม่ได้เพราะที่นั่นอากาศค่อนข้างเย็น”“ความจริงข้าสำลักน้ำ ฮัดเช๊ยยย”ถงหมิ่นเลิกคิ้วสูง“นั่นอย่างไรเล่าข้าจะสอนเจ้าว่ายน้ำก็ไม่ยอมถึงต้องเป็นแบบนี้”“หานจง หานจง”หานจงวิ่งเข้ามา พร้อมกับจื่อจื่อที่เพิ่งจะมาถึงเหมือนกัน“หา สมุนไพรแก้หวัดให้ฮองเฮาด้วย นางเป็นหวัด”หานจงประสานมือ“ยาอีกแล้วหรือ ไม่น้าท่านอาข้าไม่ชอบดื่มยา”ส่งเสียงออดอ้อน ถงหม
“ท่านอา ข้านานๆ...จะมีสหายสักคน”“เจ้าเป็นฮองเฮาและเป็นฮองเฮาของข้า ขอให้เจ้าจำข้อนี้ไว้ให้ดี จะต้องวางตัวให้เหมาะที่จะเป็นฮองเฮา”เสียงเข้มจนหลันเล่อสลดลงในทันทีวังหลวงแคว้นหาน“พระนาง”“ฝ่าบาทพักค้างแรมที่ด่านชายแดน คงอีกหลายวันจึงจะถึงวังหลวง”“เหตุใดฝ่าบาทไม่เร่งเดินทางกลับวังหลวง”ถามด้วยความสงสัย“พระนาง คนของเราที่ส่งไปสอดแนมฝ่าบาท ส่งข่าวมาว่า...ฝ่าบาททรงตามใจฮองเฮายิ่งนัก นางอยากเล่นน้ำอยากค้างแรมก็ต้องตามใจ ไม่ยอมเร่งเดินทาง”“ฮองเฮา นางบ้าใครกัน คือฮองเฮา”สาวใช้รีบคุกเข่าจนศีรษะจรดพื้น“ ข้าน้อยได้ยินคนเขาพูดกันว่า ฝ่าบาททรงแต่งตั้งฮองเฮามาจากเผ่าปาเอ่อถัวก่อนแล้ว และนำนางกลับมาที่แคว้นหานด้วยนั่นเองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้การเดินทางล้าช้า” ดวงตากลมเบิกโพลงด้วยความรู้สึกโกรธอย่างที่สุดจนแทบจะกรีดร้องออกมาดังๆ แต่ด้วยความเป็นเมิ่งเม่ยจึง ได้แต่กัดฟันจนเป็นสันนูน“เตรียมการเดินทาง ข้าตั้งใจออกไปรับฝ่าบาทด้วยตัวเอง”“พระนางงง…. จะออกไปรับทำไมเจ้าคะในเมื่อฝ่าบาทกำลังเดินทางมาที่นี่”“ข้าจะได้ไปร่วมแสดงความยินดีกับฝ่าบาทเรื่องฮองเฮา แล้วอีกอย่างเป็นการให้เกียรติฮองเฮา เพราะข้ามา
“จื่อจื่อ วันนี้ยังไม่อาจเดินทางต่อได้ ฮองเฮาทรงประชวร หากเร่งเดินทางเกรงว่าจะทำให้อาการป่วยไข้ยิ่งแย่ลงไป”จื่อจื่อเหลือบตามองหลันเล่อที่ริมฝีปากแล้วดวงตาแดงระเรื่อด้วยพิษไข้“จื่อจื่อน้อมบัญชาฝ่าบาท”ก้าวขาจากไป“ท่านอาหลันเล่อขอโทษ”น้ำเสียงออดอ้อน…………………………………………………………………………………….“ข้าขอโทษ ไท่จือข้าไม่ได้ ตั้งใจ” ต้าหมิงคุน ผลักร่างบางออกห่างเมื่อลี่หลันเล่อช่วยดึงตัวเขาออกมาจากชั้นเก็บตำราในห้องเก็บตำรา ที่ล้มลงมาทับร่างสูงของต้าหมิงคุนจนรู้สึกเจ็บปวดที่ท่อนขาและไม่อาจขยับมันได้ ด้านนอกมืดมิดไร้ซึ่งสรรพเสียง“เจ้า ทำให้ข้าต้องพบกับโชคร้ายและจะต้องพบกับเรื่องโชคร้ายเมื่อต้องพบกับเจ้า”“ไท่จือเป็นท่านที่ดึงตัวข้าเข้ามาในนี้ จนห้องถูกปิดจากด้านนอก” ต้าหมิงคุนยิ้มมุมปาก“เจ้าทำตัวไม่น่าไว้ใจ วังหลวงไม่ใช่ที่วิ่งเล่น เจ้ายามโพล้เพล้ยังกล้าเข้ามาในวังหลวงด้วยสาเหตุใดกันแน่”“ขะขะข้า” จะบอกอย่างไรว่าแอบเข้ามาเพื่อตั้งใจวางของขวัญวันเกิด หยกสีขาวแกะสลักรูปกระต่ายน้อยน่าเอ็นดู ที่ตั้งใจทำขึ้นมาให้กับต้าหมิงคุนด้วยมือของตัวเอง เผื่อว่าวันพรุ่งนี้ที่เป็นวันคล้ายวันเกิดต้าหมิงคุนจะตื่นขึ