หลังจากที่ทำการเก็บของต่างๆ ใส่มิติเรียบร้อยแล้ว เธอก็เข้าบ้านเพื่ออาบน้ำ แล้วก็หาข้าวกินเพราะวันนี้เธอมัวแต่วุ่นวายกับการซื้อของเตรียมตัวเลยลืมการกินข้าวไปเสียสนิทเลย
พออาบน้ำกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็เข้าห้องแล้วล้มตัวลงบนที่นอนแล้วทำการเข้ามิติเพื่อทำการตรวจของที่ซื้อมาว่าขาดเหลืออะไรอีกบ้างหรือเปล่า เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรขาดเหลือแล้ว เธอเลยคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยไปทำการซื้อพวกเครื่องประดับ หรือของทำอาหารกับของทำขนมต่างๆ เพิ่มอีกสักหน่อยอย่างไรการมีเยอะเอาไว้ก็ย่อมดีกว่าขาดอิงอิงเธอใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมานานหลายปีนอกจากเป็นหมอที่มีฝีมือเก่งกาจแล้ว เธอยังมีฝีมือทำอาหารแล้วก็ทำขนมอีกด้วย เพราะเวลาว่างอิงอิงมักจะเลือกทำอาหารไม่ก็ขนมหวานอยู่เสมอๆ ซึ่งไม่ว่าใครกินก็ต้องเอ่ยปากชมเรื่องฝีมือการทำอาหารแล้วก็ฝีมือการทำขนมหวานของเธอ และยังบอกอีกว่าต่อให้เธอลาออกจากการเป็นหมอมาเปิดร้านอาหารหรือร้านทำขนมหวานก็คงจะขายได้ดีไม่ต่างกัน
และเมื่อตรวจดูของในมิติเสร็จเรียบร้อยดีแล้วเธอก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย อาจจะเป็นเพราะวันนี้เธอใช้พลังงานในร่างกายไปเยอะมากเกินไปจริงๆเช้าวันต่อมา หญิงสาวร่างบางที่เริ่มรู้สึกตัวหลังจากที่นอนหลับไปนาน ก่อนจะเริ่มพลิกตัวไปมาเพื่อบิดขี้เกียจแล้วรีบกระเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงดูดวิญญาณตัวโปรดของเธอ “ฮึ่ม!กี่โมงแล้วเนี่ย” เธอหยิบสมาร์ทโฟนยี่ห้อผลไม้รุ่นใหม่ตัวดังขึ้นมาเพื่อดูเวลา “ห๋า…! นี่เที่ยงแล้วเหรอเนี่ย ทำไมฉันถึงได้นอนตื่นสายมากขนาดนี้เนี่ย” เธอได้แต่บ่นตัวเองก่อนจะรีบจากที่นอน ไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำทันที ผ่านไปครึ่งชั่วโมง อิงอิงก็อาบน้ำกินข้าวเตรียมตัวออกจากบ้านเพื่อไปซื้อของที่เธอต้องการเพิ่มทันที เธอขับรถออกจากตัวบ้านเพื่อไปตลาดอีกรอบซึ่งคราวนี้เธอใช้เงินเก็บที่มีในบัญชีเหมาทุกอย่างเหมือนเดิม แต่เธอเหมาพวกของทำอาหารกับทำขนมเป็นพิเศษ แล้วก็เข้าร้านทองเพื่อเหมาพวกทองแท่งต่างๆ ไปด้วยก่อนจะไปร้านหนังสือเพื่อเหมาหนังสือการเกษตร หนังสือเรียนทั้งไทย และสากล หนังสือการสอนลงทุนต่างๆ หรือจะเป็นหนังสือต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ และไม่จำเป็นต้องใช้ (เผื่อเอาไว้อ่านเวลาที่เธอว่างและเบื่อๆ) ก่อนจะไปร้านอาหารต่างๆทั้งร้านโปรด และร้านที่เห็นว่าน่าจะอร่อยเธอก็เหมามาหมดทุกอย่าง เมื่อเธอได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วก็ได้แต่ขับรถกลับบ้านเพื่อพักผ่อน
หลังจากที่ทำการเก็บของต่างๆ ใส่มิติเรียบร้อยแล้ว เธอก็เข้าบ้านเพื่ออาบน้ำ แล้วก็หาข้าวกินเพราะวันนี้เธอมัวแต่วุ่นวายกับการซื้อของเตรียมตัวเลยลืมการกินข้าวไปเสียสนิทเลยพออาบน้ำกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็เข้าห้องแล้วล้มตัวลงบนที่นอนแล้วทำการเข้ามิติเพื่อทำการตรวจของที่ซื้อมาว่าขาดเหลืออะไรอีกบ้างหรือเปล่า เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรขาดเหลือแล้ว เธอเลยคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยไปทำการซื้อพวกเครื่องประดับ หรือของทำอาหารกับของทำขนมต่างๆ เพิ่มอีกสักหน่อยอย่างไรการมีเยอะเอาไว้ก็ย่อมดีกว่าขาดอิงอิงเธอใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมานานหลายปีนอกจากเป็นหมอที่มีฝีมือเก่งกาจแล้ว เธอยังมีฝีมือทำอาหารแล้วก็ทำขนมอีกด้วย เพราะเวลาว่างอิงอิงมักจะเลือกทำอาหารไม่ก็ขนมหวานอยู่เสมอๆ ซึ่งไม่ว่าใครกินก็ต้องเอ่ยปากชมเรื่องฝีมือการทำอาหารแล้วก็ฝีมือการทำขนมหวานของเธอ และยังบอกอีกว่าต่อให้เธอลาออกจากการเป็นหมอมาเปิดร้านอาหารหรือร้านทำขนมหวานก็คงจะขายได้ดีไม่ต่างกันและเมื่อตรวจดูของในมิติเสร็จเรียบร้อยดีแล้วเธอก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย อาจจะเป็นเพราะวันนี้เธอใช้พลังงานในร่างกายไปเยอะมากเกินไปจริงๆเช้าวันต่อมาหญ
เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เข้ามิติทันทีจัดการปลูกสมุนไพรหายากที่ทำการซื้อเมล็ดมา แล้วก็ผักผลไม้ต่างๆแบ่งปลูกเป็นแปลงๆ เมื่อทำเสร็จเธอก็ตักน้ำในแม่น้ำลำธารที่ไหลมานั่นแหละมารด พอเธอเทน้ำลงไปต้นไม้ก็โตไวจนเธอตกใจไม่คิดว่าน้ำนี้จะเป็นน้ำวิเศษแบบนี้เธอเลยปลูกนั่นปลูกนี่จนเพลิน จนลืมเวลาข้างนอกไปเสียสนิทพอเธอออกมาข้างนอกมิติก็มีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าบ้านกับโกดังที่เธอสั่งทำมาส่งเรียบร้อย ไหนจะมีเฟอร์นิเจอร์ที่ว่างจัดไว้ตรงพื้นที่บ้านเธอจนเต็มไปหมดนี่อีก เธอไม่อยากเสียเวลาจึงรีบจัดการนำทุกอย่างเข้ามิติทันทีแล้วรีบขับรถออกไปยังสถานที่ที่บ้านมาส่งมาถึงก็ไม่มีคนอยู่แล้วเธอจึงนำบ้านกับโกดังเข้ามิติทันที แล้วขับรถออกจากจุดนั้นเพื่อจะกลับบ้าน แต่ทว่ายังไม่ทันจะถึงบ้านเลยด้วยซ้ำเธอก็ถูกรถที่อยู่อีกฝั่งขับสวนเลนมาชนจนทำให้เธอเกิดเสียชีวิตดับอนาถคาที่!…30%40%70%ทำการโอนย้ายสำเร็จ…ปัง ปัง ปัง!“นังตัวไร้ค่า เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ นังจอมล้างผลาญ จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนห้ะ!” เสียงยัยแก่ที่ไหนมาบ่นเนี่ย?! แต่ยังไม่ทันที่อิงอิงจะได้ตอบอะไรออกมาก็มีความทรงจำของใครคนหนึ่งพุ่งเข้าหัวสมองเธออย
“ นี่เจ้าจะไปไหน? ข้าสั่งให้เจ้าไปทำงานบ้านไม่ใช่หรือไง แต่นี่เจ้ากล้าต่อปากต่อคำกับคนอย่างข้าเหรอ! นังตัวไร้ค่า นังคนไร้ประโยชน์!!! ” นางจางพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว นางโมโหจนอยากจะดึงทึ้งร่างของนางให้แหลกเป็นชิ้นๆเลยด้วยซ้ำ“ แม่สามี ที่ผ่านมาข้ายอมแล้วก็เชื่อฟังท่านกับพ่อสามีมาตลอด แต่เหตุใดแม่สามีถึงไม่เห็นใจข้าบ้างเล่า? ” เธอพูดออกมาด้วยความรู้สึกข้างในเหมือนความรู้สึกที่ยังตกค้างของเจ้าของร่างคนเก่า“ หึ! เพราะคนอย่างเจ้ามันก็เป็นแค่อีตัวที่ไร้ประโยชน์ยังไงล่ะ ถ้าลูกชายของข้าได้แต่งงานกับคนที่ข้าหามาให้ป่านนี้บ้านจางก็คงจะสบายกันไปตั้งนานแล้ว ” “ ถ้าเป็นอย่างนั้นแม่สามีก็ให้สามีเขียนใบหย่าให้กับคนไร้ประโยชน์อย่างข้าไปเถิด ข้าเองก็สุดจะทนแล้วเหมือนกัน เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไรไปก็ไม่มีใครเห็นค่าอยู่ดี ”“ หน็อย! ทำปากดีไปเถอะ รอลูกชายของข้ากลับมาก่อนเถอะ ข้าจะให้ลูกชายของข้าหย่าร้างกับหล่อนเสีย แต่ยังไงกว่าลูกชายข้าจะกลับมาหล่อนก็อย่าทำตัวให้มันไร้ประโยชน์นัก รีบออกไปทำงานบ้านให้เรียบร้อยเสีย ถ้าไม่ทำก็อย่าคิดว่าจะได้กินข้าว หึ! ” ทันทีที่พูดจบนางจางก็เดินจากไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เธอได้
หลังจากที่สำรวจบ้านในมิติเสร็จแล้วเธอก็เดินไปสำรวจทางโกดังต่อ ซึ่งทางด้านหน้าของโกดังสินค้าก็จะเป็นหน้าจอโฮโลแกรมบ่งบอกถึงสิ่งของวัตถุดิบที่อยู่ภายในโกดัง และทุกอย่างได้ถูกจัดเก็บเป็นโซนๆ เช่น โซนเนื้อสัตว์ หรือผัก และผลไม้เป็นต้น ซึ่งเธอคิดว่าแบบนี้ก็สะดวกไม่น้อยเลยเนื่องด้วยร่างกายนี้ที่เดินได้ไม่นานก็รู้สึกเหนื่อยหอบเป็นอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะแต่เดิมร่างนี้ขาดสารอาหารเป็นเวลานานไหนจะสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงดีอีกด้วย เธอเลยคิดว่าจะเดินไปที่ลำธารแล้วลองดื่มน้ำนั้นดูเพราะอยากจะรู้สรรพคุณว่านอกจากพืชผักที่ปลูกจะโตไวแล้ว จะช่วยรักษาร่างกายได้อย่างที่เคยได้ยินมาหรือเปล่า? ไม่รอช้าเธอก็เดินมาถึงลำธารพร้อมกับนั่งลงวักน้ำเข้าปากทันทีและผลสรุปก็คือร่างกายที่อ่อนแรงของเธอดีขึ้นมากกว่าเดิมไม่น้อยเลย อีกทั้งเธอยังรู้สึกว่ามีเรี่ยวแรงขึ้นมากด้วยโครก คราก!แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำอะไรเสียงท้องของเธอก็ร้องประท้วงออกมาเสียก่อน เธอจึงได้แต่จำใจเดินกลับเข้าบ้านเพื่อไปหาอะไรกินรองท้องเสียก่อน แล้วค่อยออกจากมิติไปทำอย่างอื่นต่อหลังจากที่เธอเตรียมตัวอะไรเรียบร้อยแล้วก็ได้ทำการออกจากมิติทันที เธอคิดว
เธอขึ้นเขามาได้ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ซึ่งก็ถือว่าเข้ามาลึกพอสมควรเลยทีเดียว เธอก็ทำการเทน้ำที่กรอกมาจากลำธารในมิติแล้วปีนขึ้นไปบนต้นใหม่ที่อยู่ใกล้ๆเพื่อรอดูว่าจะมีสัตว์มาติดหรือเปล่ารอไม่นานเธอก็เห็นหมูป่าตัวใหญ่น้ำหนักประมาณเกือบ100กิโลมากินน้ำที่เธอเทไว้ เธอจึงนำธนูที่สั่งทำตอนไปตลาดออกมา แล้วเล็งไปที่หมูป่าตัวนั้นฟิ้ว! ฉึก!พอเห็นหมูป่าสิ้นใจตายเธอก็ทำการเก็บหมูป่าใส่ในมิติแล้วเดินออกจากป่าทันทีเพราะเห็นว่าเป็นเวลาเริ่มเย็นแล้ว หากช้ากว่านี้จะมืดค่ำเอาได้แล้วจะเป็นอันตรายกว่าเดิมเดินออกมาถึงทางออกป่าเธอก็นำหมูป่าออกจากมิติแล้วทำการลากกลับบ้านเพื่อตบตาคนอื่น ชาวบ้านที่อยู่ตามข้างทางก็มองด้วยสายตาตกใจ ปนอิจฉา เพราะด้วยความที่ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานของพวกชาวบ้านพอดี แต่เธอก็ไม่ได้สนใจทำเพียงก้มหน้าก้มตาลากหมูป่าไปจนถึงหน้าบ้านจนได้ เธอมีอาการเหนื่อยหอบนิดหน่อย ตอนแรกเธอก็ตกใจที่ลากหมูหนักประมาณ100กิโลไหว แต่ก็เข้าใจว่าคงเป็นเพราะน้ำวิเศษในมิตินั่นแหละ!เมื่อถึงหน้าบ้านไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงนางจางวิ่งตึงตังออกมาจากตัวบ้าน“ นังอิงอิง นังตัวขี้เกียจ นี่เจ้าออกไปไหนมาห้ะ?! ทำไมเจ้าถึงไ
“ นั่นนะสิ นี่เจ้าไม่คิดจะกตัญญูต่อข้ากับตาแก่เลยใช่ไหมนังตัวไร้ค่า!” นางจางพูดโวยวายออกมาเสียงดังทำให้ชาวบ้านเริ่มมามุงดูด้วยความสนใจ“ ที่ผ่านมาข้ากตัญญูต่อท่านแม่กับท่านพ่อสามีมาโดยตลอด แล้วพวกท่านล่ะเคยสนใจใยดีข้าบ้างหรือไม่เล่า? ” เธอเอ่ยถามด้วยความเจ็บใจ“ เจ้ามันก็แค่นังตัวไร้ค่า กล้าต่อปากต่อคำกับข้าเหรอ! ถ้าไม่คิดจะกตัญญูต่อข้ากับตาแก่ก็ออกจากบ้านจางไปสะ!” แต่ทันทีที่นางจางพูดจบท่านพ่อสามีก็เดินออกมาจากบ้านพอดี“ เกิดอะไรขึ้น? ” จริงๆแล้วตอนที่อยู่ในบ้านเขาได้ยินเรื่องทั้งหมดแต่ก็ยังแสร้งเอ่ยถามออกมาหน้าตาเฉย ทั้งที่ปกติแล้วเขาก็หลับตาข้างหนึ่งแสร้งทำเป็นไม่เห็นมาตลอด แต่มาวันนี้คงจะแสร้งทำเป็นไม่เห็นต่อไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว“ ข้าก็บอกท่านแม่แล้วไงว่าถ้าหากอยากได้เนื้อหมูป่าของข้าไปให้บุตรชายคนโตของท่านแม่แล้วล่ะก็ ท่านแม่ก็แค่จ่ายเงินค่าหมูป่าให้ข้าก็พอ ข้าคิดราคาไม่แพงหรอกเจ้าค่ะ ” เธอเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น“ แต่นี่เนื้อหมูที่เจ้าล่ามาได้ เจ้าก็ต้องนำมาแบ่งให้บ้านจางเพื่อแสดงความกตัญญูต่อท่านแม่กับท่านพ่อสามี แล้วทำไมท่านแม่ยังจะต้องจ่ายเงินให้เจ้าด้วย? ” ทันทีที่พี่สะใภ้ผู้นี
“ วันนี้พวกเราตัดสินใจแล้วว่าจะทำเรื่องหย่าขาดให้กับฮุ่ยหมิ่นกับเยว่อิง ” ท่านพ่อสามีกล่าวออกมา“ นี่ ฮุ่ยหมิ่นรู้เรื่องนี้หรือเปล่า? ” ทันทีที่หัวหน้าหมู่บ้านพูดออกพาทุกคนก็ต่างเงียบ ยกเว้นนางจาง“ รู้หรือไม่รู้แล้วอย่างไร? สุดท้ายลูกชายของข้าก็ต้องเชื่อฟังแม่อย่างข้าอยู่ดี ” นางจางเอ่ยออกมาอย่างไม่ไว้หน้าใคร“ แล้วเจ้าล่ะเยว่อิง จะยินยอมเรื่องการหย่าขาดนี้หรือเปล่า? ” หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยถามด้วยความเห็นใจ เพราะถ้าเกิดหย่าร้างขึ้นมาจริงๆเยว่อิงก็จะต้องเป็นหม้าย เพราะยุคสมัยนี้หญิงหม้ายนั้นผู้คนยังไม่ได้ยอมรับกันมากนัก“ ในเมื่อท่านพ่อสามีกับท่านแม่สามีต่างก็คิดเห็นไปในทางเดียวกัน ข้าก็เห็นพร้องตามนั้นน่ะแหละเจ้าค่ะ ขอแค่นอกจากหนังสือหย่าร้างแล้ว ข้าขอเพิ่มหนังสือตัดขาดไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกไม่ว่าจะรวยหรือจะจน ต่างคนต่างอยู่ ถ้าฝ่ายไหนมารบกวนอีกฝ่ายให้ต้องรำคาญใจก็สามารถเรียกร้องเงินจากอีกฝั่งที่มารบกวนได้จำนวน 2,000 ตำลึงทอง ” เธอเอ่ยตอบออกไป“ หึได้! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ก็แค่หญิงที่กำลังจะเป็นหม้าย อย่ามั่นใจตัวเองไปหน่อยเลย หากวันไหนลำบากขึ้นมาต่อให้มากราบขอร้องพวกข้าหรือคนบ้าน
“ ได้ๆ ยังไงเดี๋ยวข้าขอตัวก่อน ต้องไปดูบ้านกับหาคนมาจัดการหมูป่าพวกนี้อีก ” หัวหน้าพูดจบก็สั่งให้คนช่วยอุ้มหมูป่าไปที่บ้านตนเอง พร้อมกับเดินออกจากบ้านจางทันทีส่วนนางจาง กับคนครอบครัวจางก็ได้ยืนขบเคี้ยวเขี้ยวฟันกันด้วยความเจ็บใจและเสียดาย เพราะตั้งใจว่าหลังจากที่ทุกคนกลับออกไปจะทำการแย่งหมูป่าตัวนั้นมาเป็นของตัวเอง แต่ก็ไม่ทันเพราะเยว่อิงได้ให้หัวหน้าหมู่บ้านจัดการกับเนื้อหมูป่าพวกนี้เสียแล้วส่วนเยว่อิงก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรคนพวกนี้อยู่แล้ว ก็เดินเข้าไปเก็บของบางอย่างที่จำเป็นอยู่ในห้อง พอเก็บหมดก็เดินออกจากห้องแล้วจากไปจากบ้านจางพร้อมกับคิดว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะมาเหยียบที่บ้านหลังนี้!..หลังจากที่หัวหน้าหมู่บ้านจัดการหาบ้านที่ว่างให้เธอได้แล้ว บ้านหลังนี้อยู่ท้ายหมู่บ้านห่างไกลจากบ้านคนในหมู่บ้านคนอื่นมากพอสมควรและสภาพบ้านก็ดีมีรั้วสูงชันล้อมรอบบ้าน ตัวบ้านมีขนาดหลังไม่ใหญ่มากที่ดินของบ้านหลังนี้ขนาดเกือบ10หมู่ได้พอเธอเห็นก็ถูกใจเป็นอย่างมาก แต่บ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่มานานตัวบ้านจึงมีหญ้ารกชัฎขึ้นสูงแล้วตัวบ้านก็มีหยากไย่เกาะอยู่เต็มตัวบ้านไปหมด หัวหน้าหมู่บ้านจึงพาชาวบ้านมาช
“ เอาล่ะ เดี๋ยวอีกสัก2-3 วันเจ้าก็นำผักพวกนี้ไปขายเถอะ ผักสดๆพวกนี้คงขายได้แพงนัก ” เธอเอ่ยบอกกับเฟยหลงในแคว้นเว่ยนี้พื้นที่เพาะปลูกนั้นปลูกได้ยากยิ่ง การจะกินผักที่สดนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย เธอจึงไม่แปลกใจที่เฟยหลงจะตกใจเรื่องที่ปลูกผักออกมาได้แถมยังภายในไม่กี่วันอีกด้วยหลังจากผ่านมาหลายสัปดาห์ตอนนี้รั้วก็ล้อมเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ไหนจะกิจการขายผักของเธออีกเรียกว่าทำเงินให้เธอเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีเหลาอาหารมาติดต่อขอซื้อผักสดกับเธอเป็นจำนวนหนึ่ง ซึ่งเธอก็ตอบรับหมด เพียงแต่เธอให้เฟยหลงทำการขุดพรวนดินเพื่อปลูกผักเพิ่มเป็นจำนวนมาก“ พวกเจ้าทั้งสามคนเป็นคนที่ข้าไว้ใจข้าถือว่าพวกเจ้าเป็นคนในครอบครัวของข้า…”เธอเอ่ยพูดกับพวกเขาด้วยความรู้สึกจากใจจริงๆ เนื่องด้วยตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ก็มีเพียงคนพวกนี้ที่คอยอยู่กับเธอมานานที่สุด ถึงจะเพราะเธอซื้อตัวพวกเขามาก็เถอะ แต่สิ่งที่เยว่อิงพูดมานั้นทำให้คนทั้งสามคนนั้นรู้สึกซาบซึ้งอย่างสุดหัวใจ พวกเขาทั้งสามคนก็รักและจงรักภักดีต่อเยว่อิงมาตลอด หากแต่ว่าเธอก็สามารถรับรู้ได้“ ข้ามีความลับบางอย่างที่ไม่ต้องการให้คนภายนอกรู้ อยากจะปิดบังแต่ก็ไม่อาจปิด
เยว่อิงได้ยินเสียงเกวียนก็เลยหันกลับไปมอง“ อ้าว ท่านหัวหน้าหมู่บ้านสวัสดีเจ้าค่ะ ” เมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงได้เอ่ยทักทายออกมา“ วันนี้ข้านำสัญญาซื้อขายอะไรมาให้เจ้า แล้วก็พาช่างมาหาเจ้าด้วย ” หัวหน้าพูดเพื่อคลายความสงสัยให้แก่เธอ“ อ้อ สวัสดีเจ้าค่ะท่านลุง ” เธอเอ่ยทักทายช่างที่จะมาทำรั้วบ้านให้“ สวัสดีๆ เจ้าเรียกข้าว่า ลุงหม่า ก็ได้ ” พูดออกมาอย่างใจดี“ เจ้าค่ะท่านลุงหม่า ”“ เชิญท่านหัวหน้าหมู่บ้านกับท่านลุงหม่าเข้ามาในบ้านก่อนเจ้าค่ะ ” เธอเอ่ยบอกกับทั้งสอง แล้วหันไปพูดกับเฟยหลงต่อ“ เฟยหลง เจ้าไปบอกลี่ซือทีว่าให้นำชากับของว่างมาให้แขกด้วย ” “ ขอรับ ” เฟยหลงพูดจบก็รีบเดินเข้าบ้านไปหาลี่ซือ“ เชิญเข้าบ้านก่อนเจ้าค่ะ ” เยว่อิงก็เดินนำทั้งสองคนไปยังห้องโถงทันที“ อืม ภายในรั้วบ้านร่มรื่นมาก บ้านเจ้าก็จัดได้เป็นอย่างดีจริงๆ ” ลุงหม่าเอ่ยชม พร้อมกับพยักหน้าพอใจ“ ขอบคุณเจ้าค่ะ เชิญพวกท่านนั่งลงก่อน ” เธอผายมือชักชวนให้ทุกคนนั่งลงหลังจากที่นั่งกันแล้ว ก็เริ่มคุยเรื่องงานกันทันที“ ก็ไม่มีอะไรมาก ที่พวกข้ามาวันนี้ก็เพื่อที่จะมาคุยรายละเอียดเรื่องการล้อมรั้วนั่นแหละ ” ลุงหม่าก็เริ่มเปิดเ
“ คนพวกนั้นไปแล้วขอรับ” หลังจากที่เฟยหลงออกไปดูก็ไม่มีใครอยู่แล้ว“พวกเจ้าคงสงสัยว่าคนพวกนั้นเป็นใครใช่หรือไม่” เธอเอ่ยถามทั้งสามคนคนทั้งสามก็ไม่ได้พูดตอบอะไร“ เอาล่ะ ข้าจะบอกให้พวกเจ้าได้รู้ คนพวกนั้นคือบ้านสามีเก่าข้าเองแต่ตอนนี้พวกเราตัดขาดไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกแล้ว ถ้าคนพวกนั้นมายุ่งพวกเจ้าก็ไล่ไปได้เลยไม่ต้องไปสนใจ ” ทั้งสามคนจดจำหน้าตาคนพวกนั้นได้เป็นอย่างดี แล้วก็พอจะคาดเดาได้ว่าคนพวกนี้เคยทำไม่ดีกับเจ้านายของตน ถ้าคนพวกนั้นยังมายุ่งวุ่นวายอีกเจอกันคราวหน้าพวกเขาทั้งสามคนจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น ซึ่งก็ได้แต่คิดอยู่ในใจสภาพร่างกายทั้งสามคนไม่ได้อ่อนแอเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากเธอนำน้ำวิเศษใส่โอ่งให้คนในบ้านได้ไว้ใช้ชำระล้างและดื่มกิน“ เฟยหลงเจ้าไปถางหญ้า ขุดดินพรวนดินไว้ข้าสักหน่อยเถอะ ข้าว่าจะปลูกผักเพิ่มอีกสัก2-3 ชนิด หากผักโตเยอะไม่ทันกินเราจะได้นำไปขายกัน ลี่อินเจ้าก็ไปช่วยเฟยหลงลงผักสักหน่อยสิ ““ ขอรับนายหญิง ” “ เจ้าค่ะนายหญิง ”“ ลี่ซือแล้วนี่ซินอี๋นอนแล้วหรือ? ” เธอพูดกับเฟยหลงกับลี่อินจบ ก็หันมาถามลี่ซือ“ ข้าอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อมให้คุณหนู พอชงนมอุ่มๆกล่อมนอนสักพั
เช้าวันต่อมาหลังจากที่เมื่อคืนกินมื้อเย็น เธอก็ให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน เมื่อเธอตื่นมาก็เห็นทุกคนตื่นมาทำงานบ้านกันเรียบร้อยแล้ว“ ทานข้าวเช้าเจ้าค่ะนายหญิง ” ลี่ซือเมื่อเห็นเธอก็รีบยกอาหารเช้าขึ้นมาวางเรียงบนโต๊ะอาหารทันที“ อืม พวกเจ้าก็มาทานข้าวเช้ากันก่อนเถอะ เพราะเดี๋ยวสายๆข้าจะไปติดต่อข้อซื้อที่ดินแล้วก็หาคนมาล้อมรั้วใหม่” เธอเอ่ยบอกแก่ทั้งสามคน“ ให้ข้าไปด้วยหรือไม่ขอรับ ” เฟยหลงเอ่ยถาม“ไม่ต้องหรอก ข้าไปคนเดียวก็พอ พวกเจ้าอยู่บ้านก็ดูลูกข้ากับบ้านให้ดีเล่า” “ ได้ขอรับ/เจ้าค่ะ ” หลังจากพูดคุยกันจบทุกคนก็ลงมือกินอาหารเช้ากันทันทีบ้านหัวหน้าหมู่บ้านก๊อก ก๊อก ก๊อก“ นั่นใครมาล่ะ รอสักครู่เดี๋ยวข้าจะไปเปิดประตูให้ ” เสียงเมียหัวหน้าหมู่บ้านตะโกนออกมา เธอก็ไม่ได้ตอบอะไรแค่ยืนรอเงียบๆ ไม่นานประตูก็เปิดออก“ อ้าว เยว่อิงหรอกรึ มาหาตาแก่ใช่หรือไม่? ” นางหลี่เอ่ยถามพร้อมกับทำสีหน้าสงสัย“ ใช่เจ้าค่ะ หัวหน้าหมู่บ้านอยู่หรือไม่เจ้าคะ ”“อยู่ๆ เจ้านั่งรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวข้าจะไปตามให้ ” พูดจบก็เดินเข้าไปในตัวบ้านรอไม่นานหัวหน้าหมู่บ้านก็ออกมา“ อ้าว เยว่อิงหรอกรึ มาที่นี่มีอะไรให้
บ้านท้ายหมู่บ้าน“ พวกเจ้าไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ ห้องของพวกเจ้าอยู่ทางด้านขวา ถัดจากห้องริมสุดนะ ” เธอเอ่ยบอกกับทั้งสองคนหลังจากทาสผู้หญิงทั้งสองคนที่เธอซื้อมาเดินออกไป เธอก็นำน้ำในมิติมาหยอดใส่ปากของชายที่นอนอยู่ในรถม้าทันที รอไม่นานผู้ชายของเธอคนนี้ก็รู้สึกตัว“ เป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นหรือไม่? ” เธอเอ่ยถามออกมาทันทีที่เห็นชายผู้นี้รู้สึกตัว“ ดีขึ้นแล้วขอรับ ”“ อย่างนั้นก็ดีแล้ว เช่นนั้นเจ้าเข้าไปอาบน้ำพักผ่อนในห้องพักทางด้านขวามือริมสุดเถิด ” “ ขอรับ ” หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันพักผ่อน แล้วเย็นนี้ค่อยมาคุยถามไถ่ชื่อแซ่อีกทีเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วเยว่อิงก็ทำการเข้ามิติมาดูลูกสาว แต่เมื่อเปิดประตูห้องนอนแต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเท้าเข้าไปก็ได้ยินเสียงเด็กน้อย“ อ๊อ แอ่ แอ่ แอ๊ ” เธอไม่รอช้าก็รีบก้าวเท้าเข้าไปในห้องก็เห็นเด็กน้อยพลิกตัวเล่นไปมาอยู่คนเดียว พร้อมกับส่งเสียงอ้อแอ้ไปด้วย“ แม่มาแล้วจ้ะคนเก่ง ตื่นมาก็ไม่งอแงเลย ” เธอก้มลงหอมแก้มลูกดังฟอด“ ป่ะ แม่จะพาลูกไปอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อม แล้วจะพาออกไปเล่นข้างนอก ” เยว่อิงก็พาเด็กน้อยไปอาบน้ำ แต่เหมือนจะเป็นการเล่นน้ำของเด็กน
หลังจากที่เยว่อิงเอาลูกสาวตัวน้อยเข้านอนแล้วก็ไปจัดการอาบน้ำของตัวเองบ้าง แล้วเตรียมเข้านอนเช่นเดียวกัน06:27 น.เยว่อิงตื่นมาทำมื้อเช้าเมื่อเสร็จก็มานั่งกินให้อิ่ม แล้วรีบไปจัดการตัวเองอย่างไว เพราะจะได้ไปถึงในตัวเมืองไม่ร้อนนัก เยว่อิงตัดสินใจว่าจะไม่เอาลูกสาวออกไปปล่อยให้นอนเล่นอยู่ในมิติไปก่อน แล้วเธอค่อยแว้บเข้ามาดูเป็นระยะๆเมื่อคิดได้ดังนั้นเธอ ก็สะพายตะกร้าล็อกประตูแล้วออกจากบ้านไปเยว่อิงเดินเท้าออกมาจากตัวหมู่บ้านเมื่อเห็นว่าถนนเส้นนี้ไม่มีคนเลยก็นำจักรยานออกมารีบปั่นจักรยานเข้าตัวเมืองทันทีเมืองเป่ยเยว่อิงนำจักรยานเก็บเข้ามิติก่อนที่จะเดินเข้ามาต่อแถว เพื่อที่จะเข้าภายในเมืองแต่หลังจากที่ทำการจ่ายเงินที่หน้าประตูแล้ว(เงินที่นำมาจ่ายก็มาจากการขายหมูนั่นแหละ) เยว่อิงก็เดินไปร้ายขายสมุนไพรทันทีแต่เนื่องจากเธอไม่รู้ว่าร้านไหนให้ราคายุติธรรมกับเธอ เธอเลยเดินเข้าร้านสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุด“ ไปไป๊! ไปนั่งขอทานที่อื่น ไป๊! ร้านของข้าสกปรกหมดแล้ว ” ทันทีที่เธอเดินมาถึงหน้าร้านก็ถูกพนักงานไล่ออกมาเสียงดัง เนื่องจากวันนี้เธอต้องออกจากหมูบ้านเธอเกรงว่าถ้าหากเธอใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ชาวบ้านอ
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายคล้อยหลังจากที่เยว่อิงได้นอนพักผ่อนไปเธอก็มีเรี่ยวมีแรงเพิ่มมากขึ้นพร้อมที่จะขึ้นเชิงเขาลูกใหญ่ด้านหลังบ้านแล้วเยว่อิงเตรียมสะภายตระกร้าไว้ด้านหลังพร้อมกับนำธนู มีด แล้วก็เตรียมน้ำในมิติใส่กระบอกไม้ไผ่ติดไว้ในตระกร้าด้วย พร้อมเธอก็ปิดประบ้านประตูรั้วให้เรียบร้อยแล้วเริ่มเดินทางขึ้นเขาทันทีเดินขึ้นเขามาได้ลึกระยะหนึ่งเธอก็นั่งพักเหนื่อยกินน้ำกินท่า แต่อยู่ดีๆเธอก็ได้ยินเสียงร้องดังมาตามสายลมซึ่งตอนแรกเธอก็คิดว่าตนเองหูฝาด แต่พอได้ยินนานๆเข้าเธอก็รีบลุกขึ้นหาต้นตอของเสียงเด็กที่ร้องทันทีเยว่อิงเดินมาตามทิศทางของเสียงเด็กที่ร้อง สุดท้ายเธอก็เจอเด็กอยู่ในห่อผ้าแถมยังมีหน้าตาน่ารัก จ่ำม่ำ ผิวขาวใสอมชมพูมีจี้วางทิ้งไว้อยู่ข้างๆตัวเด็กน้อยด้วย เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเธอจึงรีบย่อตัวนั่งลงอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาแล้วรีบลงจากเขาอย่างเร่งรีบบ้านท้ายหมู่บ้าน ติดเชิงเขาลูกใหญ่ตอนนี้เยว่อิงได้ทำการป้อนนมชงจากในมิติ ก่อนจะทำการเช็ดตัวทำความสะอาดแล้วเปลี่ยนใส่ผ้าอ้อม ใส่เสื้อผ้าให้เด็กน้อย แล้วพาเจ้าตัวน้อยเข้าไปในมิติก่อนจะนำที่นอนเด็กมาไว้ในห้องนอนใหญ่ของเธอ แล้วทำการเปิดเครื่องปรับอ
ทันทีที่ร่างสูงได้ยินเสียงครางกระเส่าของโฉมสะคราญก็รีบเอ่ยออกมาทันที“ อืม… เจ้าอย่าพึ่งรีบสิ รอข้าก่อน ” ร่างสูงเอ่ยตอบร่างบางระหงษ์พร้อมกับถอดกางเกงทหารออกแล้วนำแท่งหยกอุ่นๆที่มีน้ำสวาทเฉอะแฉะอยู่ที่ปลายหัวมาถูไถที่ร่องบุปผางาม จนร่างบางร้องออกมาด้วยความเสียวกระสัน“ อื้อ อ๊ะ อ้า… อืม ” เมื่อเห็นว่าร่องบุปผาเฉอะแฉะ และมีน้ำไหลออกตามหว่างขาเยอะแล้วร่างสูงก็ไม่รอช้านำแท่งหยกร้อนจ่อ แล้วก็กดลงไปที่ร่องงามนั้นทันที“ อืม…! อ่า ” ร่องบุปผางามของหญิงร่านราคะผู้นี้ยังคงเหมือนเดิมดั่งทุกครั้งที่เคยทำ ยังคงรัดแท่งร้อนของเขาแน่นจนแทบจะแตกเหมือนเดิม ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกถูกใจและหลงใหลร่างกายของหล่อนมากร่างสูงไม่รอช้าก่อนจะขยับแท่งร้อนที่อยู่ภายในร่องบุปผาอย่างเนิบนาบ แล้วค่อยๆขยับเร่งจังหวะเปลี่ยนเป็นการกระแทกอย่างรุนแรงจนร่างบางถึงกับหัวสั่นหัวคลอนก็ว่าได้แต่ยิ่งร่างสูงขยับเร็วและแรงเท่าไหร่ ร่างบางก็ยังคงร้องครวญครางออกมาเสียงหวานกระเส่าด้วยความเสียวกระสันตลอด“ อา!… ฮะ ฮุ่ยหมิ่น ข้าเสียว ม… ไม่ไหวแล้ว ” ร่างบางเสร็จไปรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่อาจรู้ได้แต่ทว่าร่างสูงยังคงจับร่างโฉมสะคราญเป
ทางด้านเยว่อิงตั้งแต่อาบน้ำเสร็จก็นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจหลังจากที่ใช้แรงกายและใจจนรู้สึกเหนื่อยอ่อนมาทั้งวัน ส่วนทางบ้านจางนั้นยังไม่มีใครได้นอนเลยสักคน!ทางบ้านจาง“ นี่สะใภ้ใหญ่ ไปทำกับข้าวมื้อเย็นมาสิ! หรือเจ้าจะรอให้ข้าไปทำให้พวกเจ้ากินหรือยังไง ห๋า! ” หลังจากที่เยว่อิงออกจากบ้านไปภายในบ้านก็วุ่นวายมากเนื่องจากปกติเยว่อิงจะเป็นคนที่ต้องทำรับผิดชอบทำหน้าที่ต่างๆทุกอย่าง แต่ตอนนี้คนทำก็ไม่อยู่แล้ว ฉะนั้นหน้าที่จึงตกมาอยู่ที่สะใภ้ใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย“ เจ้าค่ะท่านแม่ ข้าจะรีบไปทำเดี๋ยวนี้ล่ะ ” นางหลิวหรือสะใภ้ใหญ่ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนเข้ามาภายในครัวเพื่อทำอาหารให้ทุกคนกินอย่างไม่เต็มใจ! (แต่นี่มันก็แค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นล่ะ)เรื่องภายในบ้านจางเยว่อิงไม่มีทางได้รับรู้เพราะมัวแต่นอนหลับพักผ่อน แต่ถึงรู้ก็ใช่ว่าเธอจะสนใจตัดภาพมาที่ค่ายทหาร“ สหายชจาง คุณหนูเสิ่นมาหานายน่ะ ตอนนี้กำลังยืนรอนายอยู่ข้างนอกนู่น ” สหายร่วมรบคนนี้ชื่อ โจวหลี่ไค เป็นสหายที่รู้ใจจางฮุ่ยหมิ่นมากที่สุด“ อืม ขอบใจมากสหายโจว ” จางฮุ่ยหมิ่นกล่าว พร้อมกับพยักหน้าตอบรับสหายด้านข้างห้องพักที่ลับสายตาผู้คน ภายในค่า