“ นั่นนะสิ นี่เจ้าไม่คิดจะกตัญญูต่อข้ากับตาแก่เลยใช่ไหมนังตัวไร้ค่า!” นางจางพูดโวยวายออกมาเสียงดังทำให้ชาวบ้านเริ่มมามุงดูด้วยความสนใจ
“ ที่ผ่านมาข้ากตัญญูต่อท่านแม่กับท่านพ่อสามีมาโดยตลอด แล้วพวกท่านล่ะเคยสนใจใยดีข้าบ้างหรือไม่เล่า? ” เธอเอ่ยถามด้วยความเจ็บใจ
“ เจ้ามันก็แค่นังตัวไร้ค่า กล้าต่อปากต่อคำกับข้าเหรอ! ถ้าไม่คิดจะกตัญญูต่อข้ากับตาแก่ก็ออกจากบ้านจางไปสะ!” แต่ทันทีที่นางจางพูดจบท่านพ่อสามีก็เดินออกมาจากบ้านพอดี
“ เกิดอะไรขึ้น? ” จริงๆแล้วตอนที่อยู่ในบ้านเขาได้ยินเรื่องทั้งหมดแต่ก็ยังแสร้งเอ่ยถามออกมาหน้าตาเฉย ทั้งที่ปกติแล้วเขาก็หลับตาข้างหนึ่งแสร้งทำเป็นไม่เห็นมาตลอด แต่มาวันนี้คงจะแสร้งทำเป็นไม่เห็นต่อไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
“ ข้าก็บอกท่านแม่แล้วไงว่าถ้าหากอยากได้เนื้อหมูป่าของข้าไปให้บุตรชายคนโตของท่านแม่แล้วล่ะก็ ท่านแม่ก็แค่จ่ายเงินค่าหมูป่าให้ข้าก็พอ ข้าคิดราคาไม่แพงหรอกเจ้าค่ะ ” เธอเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น
“ แต่นี่เนื้อหมูที่เจ้าล่ามาได้ เจ้าก็ต้องนำมาแบ่งให้บ้านจางเพื่อแสดงความกตัญญูต่อท่านแม่กับท่านพ่อสามี แล้วทำไมท่านแม่ยังจะต้องจ่ายเงินให้เจ้าด้วย? ” ทันทีที่พี่สะใภ้ผู้นี้พูดจบชาวบ้านที่มุงดูอยู่ก็ต่างพากันพยักหน้าออกมาว่าเห็นด้วยกับคำพูดของนาง ซึ่งนางก็ไม่แปลกใจเพราะยุคนี้ที่เธอทะลุมิติมาอยู่นั้นถือความกตัญญูเป็นใหญ่ แต่ทว่าเรื่องนี้ใช้ไม่ได้กับเธอ เพราะว่าเธอไม่คิดจะสนใจ
“ แล้วเหตุใดข้าจะต้องเอาเนื้อหมูป่าที่ล่ามาได้อย่างยากลำบากไปให้พวกท่านด้วย กตัญญูหรือ?ไม่น่าขำไปหน่อยหรือยังไง ที่ผ่านมาข้าก็กตัญญูต่อพวกท่านบ้านจางไปยังไม่พอหรือยังไง? ข้านอนป่วยเกือบตายไปแล้ว แต่ยังดีที่ยังมีชีวิตรอดกลับมาได้ พวกท่านเคยรู้กันบ้างหรือเปล่า?! ” เยว่อิงเอ่ยออกมาอย่างอัดอั้น ความเจ็บปวดไหลทะลักออกมาจนแทบจะรับไม่ไหว
“ พอได้แล้ว เรื่องแค่นี้จะต้องมาทะเลาะกันให้คนอื่นเห็นแล้วเก็บไปไปเรื่องขบขันหรือยังไง! ” เสียงพ่อสามีเอ่ยห้าม
“ ตาแก่ นังตัวไร้ค่านี่ไม่คิดจะกตัญญูต่อพวกเรา เราก็ให้นางออกจากบ้านจางไปเถอะ ให้อยู่ที่นี่ต่อไปก็ไร้ประโยชน์แถมยังเปลืองข้าวเปลืองน้ำที่บ้านเราอีก ” นางจางเห็นว่าเรื่องเป็นแบบนี้ก็รีบหาเรื่องขับไล่เธอออกจากบ้านทันที
“ อืม… สะใภ้ใหญ่เจ้ารีบวิ่งไปเรียกหัวหน้าหมู่บ้านมาที่นี่เถอะ ” พ่อสามีพยักหน้าเห็นด้วยแล้วเอ่ยพูดออกมา
นางจางยิ้มออกมาอย่างสาแก่ใจได้แต่คิดว่านังตัวไร้ค่าคงจะยอมขอร้องอ้อนวอนแก่พวกนางเป็นแน่ แต่ทว่าเมื่อเห็นว่านางไม่แสดงอาการอะไรออกมาเลยนอกจากยืนรอนิ่งๆก็ยิ่งแสดงอาการฉุนเฉียว
รอไม่นานหัวหน้าหมู่บ้านก็มา
“ เรียกข้ามาวันนี้มีเรื่องอะไรรึ แล้วนี่พวกเจ้ามามุงดูอะไรกันเยอะแยะ?” หัวหน้ามองคนบ้านจางแล้วเอ่ยถาม
“ วันนี้พวกเราตัดสินใจแล้วว่าจะทำเรื่องหย่าขาดให้กับฮุ่ยหมิ่นกับเยว่อิง ” ท่านพ่อสามีกล่าวออกมา“ นี่ ฮุ่ยหมิ่นรู้เรื่องนี้หรือเปล่า? ” ทันทีที่หัวหน้าหมู่บ้านพูดออกพาทุกคนก็ต่างเงียบ ยกเว้นนางจาง“ รู้หรือไม่รู้แล้วอย่างไร? สุดท้ายลูกชายของข้าก็ต้องเชื่อฟังแม่อย่างข้าอยู่ดี ” นางจางเอ่ยออกมาอย่างไม่ไว้หน้าใคร“ แล้วเจ้าล่ะเยว่อิง จะยินยอมเรื่องการหย่าขาดนี้หรือเปล่า? ” หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยถามด้วยความเห็นใจ เพราะถ้าเกิดหย่าร้างขึ้นมาจริงๆเยว่อิงก็จะต้องเป็นหม้าย เพราะยุคสมัยนี้หญิงหม้ายนั้นผู้คนยังไม่ได้ยอมรับกันมากนัก“ ในเมื่อท่านพ่อสามีกับท่านแม่สามีต่างก็คิดเห็นไปในทางเดียวกัน ข้าก็เห็นพร้องตามนั้นน่ะแหละเจ้าค่ะ ขอแค่นอกจากหนังสือหย่าร้างแล้ว ข้าขอเพิ่มหนังสือตัดขาดไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกไม่ว่าจะรวยหรือจะจน ต่างคนต่างอยู่ ถ้าฝ่ายไหนมารบกวนอีกฝ่ายให้ต้องรำคาญใจก็สามารถเรียกร้องเงินจากอีกฝั่งที่มารบกวนได้จำนวน 2,000 ตำลึงทอง ” เธอเอ่ยตอบออกไป“ หึได้! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ก็แค่หญิงที่กำลังจะเป็นหม้าย อย่ามั่นใจตัวเองไปหน่อยเลย หากวันไหนลำบากขึ้นมาต่อให้มากราบขอร้องพวกข้าหรือคนบ้าน
“ ได้ๆ ยังไงเดี๋ยวข้าขอตัวก่อน ต้องไปดูบ้านกับหาคนมาจัดการหมูป่าพวกนี้อีก ” หัวหน้าพูดจบก็สั่งให้คนช่วยอุ้มหมูป่าไปที่บ้านตนเอง พร้อมกับเดินออกจากบ้านจางทันทีส่วนนางจาง กับคนครอบครัวจางก็ได้ยืนขบเคี้ยวเขี้ยวฟันกันด้วยความเจ็บใจและเสียดาย เพราะตั้งใจว่าหลังจากที่ทุกคนกลับออกไปจะทำการแย่งหมูป่าตัวนั้นมาเป็นของตัวเอง แต่ก็ไม่ทันเพราะเยว่อิงได้ให้หัวหน้าหมู่บ้านจัดการกับเนื้อหมูป่าพวกนี้เสียแล้วส่วนเยว่อิงก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรคนพวกนี้อยู่แล้ว ก็เดินเข้าไปเก็บของบางอย่างที่จำเป็นอยู่ในห้อง พอเก็บหมดก็เดินออกจากห้องแล้วจากไปจากบ้านจางพร้อมกับคิดว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะมาเหยียบที่บ้านหลังนี้!..หลังจากที่หัวหน้าหมู่บ้านจัดการหาบ้านที่ว่างให้เธอได้แล้ว บ้านหลังนี้อยู่ท้ายหมู่บ้านห่างไกลจากบ้านคนในหมู่บ้านคนอื่นมากพอสมควรและสภาพบ้านก็ดีมีรั้วสูงชันล้อมรอบบ้าน ตัวบ้านมีขนาดหลังไม่ใหญ่มากที่ดินของบ้านหลังนี้ขนาดเกือบ10หมู่ได้พอเธอเห็นก็ถูกใจเป็นอย่างมาก แต่บ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่มานานตัวบ้านจึงมีหญ้ารกชัฎขึ้นสูงแล้วตัวบ้านก็มีหยากไย่เกาะอยู่เต็มตัวบ้านไปหมด หัวหน้าหมู่บ้านจึงพาชาวบ้านมาช
ทางด้านเยว่อิงตั้งแต่อาบน้ำเสร็จก็นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจหลังจากที่ใช้แรงกายและใจจนรู้สึกเหนื่อยอ่อนมาทั้งวัน ส่วนทางบ้านจางนั้นยังไม่มีใครได้นอนเลยสักคน!ทางบ้านจาง“ นี่สะใภ้ใหญ่ ไปทำกับข้าวมื้อเย็นมาสิ! หรือเจ้าจะรอให้ข้าไปทำให้พวกเจ้ากินหรือยังไง ห๋า! ” หลังจากที่เยว่อิงออกจากบ้านไปภายในบ้านก็วุ่นวายมากเนื่องจากปกติเยว่อิงจะเป็นคนที่ต้องทำรับผิดชอบทำหน้าที่ต่างๆทุกอย่าง แต่ตอนนี้คนทำก็ไม่อยู่แล้ว ฉะนั้นหน้าที่จึงตกมาอยู่ที่สะใภ้ใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย“ เจ้าค่ะท่านแม่ ข้าจะรีบไปทำเดี๋ยวนี้ล่ะ ” นางหลิวหรือสะใภ้ใหญ่ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนเข้ามาภายในครัวเพื่อทำอาหารให้ทุกคนกินอย่างไม่เต็มใจ! (แต่นี่มันก็แค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นล่ะ)เรื่องภายในบ้านจางเยว่อิงไม่มีทางได้รับรู้เพราะมัวแต่นอนหลับพักผ่อน แต่ถึงรู้ก็ใช่ว่าเธอจะสนใจตัดภาพมาที่ค่ายทหาร“ สหายชจาง คุณหนูเสิ่นมาหานายน่ะ ตอนนี้กำลังยืนรอนายอยู่ข้างนอกนู่น ” สหายร่วมรบคนนี้ชื่อ โจวหลี่ไค เป็นสหายที่รู้ใจจางฮุ่ยหมิ่นมากที่สุด“ อืม ขอบใจมากสหายโจว ” จางฮุ่ยหมิ่นกล่าว พร้อมกับพยักหน้าตอบรับสหายด้านข้างห้องพักที่ลับสายตาผู้คน ภายในค่า
ทันทีที่ร่างสูงได้ยินเสียงครางกระเส่าของโฉมสะคราญก็รีบเอ่ยออกมาทันที“ อืม… เจ้าอย่าพึ่งรีบสิ รอข้าก่อน ” ร่างสูงเอ่ยตอบร่างบางระหงษ์พร้อมกับถอดกางเกงทหารออกแล้วนำแท่งหยกอุ่นๆที่มีน้ำสวาทเฉอะแฉะอยู่ที่ปลายหัวมาถูไถที่ร่องบุปผางาม จนร่างบางร้องออกมาด้วยความเสียวกระสัน“ อื้อ อ๊ะ อ้า… อืม ” เมื่อเห็นว่าร่องบุปผาเฉอะแฉะ และมีน้ำไหลออกตามหว่างขาเยอะแล้วร่างสูงก็ไม่รอช้านำแท่งหยกร้อนจ่อ แล้วก็กดลงไปที่ร่องงามนั้นทันที“ อืม…! อ่า ” ร่องบุปผางามของหญิงร่านราคะผู้นี้ยังคงเหมือนเดิมดั่งทุกครั้งที่เคยทำ ยังคงรัดแท่งร้อนของเขาแน่นจนแทบจะแตกเหมือนเดิม ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกถูกใจและหลงใหลร่างกายของหล่อนมากร่างสูงไม่รอช้าก่อนจะขยับแท่งร้อนที่อยู่ภายในร่องบุปผาอย่างเนิบนาบ แล้วค่อยๆขยับเร่งจังหวะเปลี่ยนเป็นการกระแทกอย่างรุนแรงจนร่างบางถึงกับหัวสั่นหัวคลอนก็ว่าได้แต่ยิ่งร่างสูงขยับเร็วและแรงเท่าไหร่ ร่างบางก็ยังคงร้องครวญครางออกมาเสียงหวานกระเส่าด้วยความเสียวกระสันตลอด“ อา!… ฮะ ฮุ่ยหมิ่น ข้าเสียว ม… ไม่ไหวแล้ว ” ร่างบางเสร็จไปรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่อาจรู้ได้แต่ทว่าร่างสูงยังคงจับร่างโฉมสะคราญเป
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายคล้อยหลังจากที่เยว่อิงได้นอนพักผ่อนไปเธอก็มีเรี่ยวมีแรงเพิ่มมากขึ้นพร้อมที่จะขึ้นเชิงเขาลูกใหญ่ด้านหลังบ้านแล้วเยว่อิงเตรียมสะภายตระกร้าไว้ด้านหลังพร้อมกับนำธนู มีด แล้วก็เตรียมน้ำในมิติใส่กระบอกไม้ไผ่ติดไว้ในตระกร้าด้วย พร้อมเธอก็ปิดประบ้านประตูรั้วให้เรียบร้อยแล้วเริ่มเดินทางขึ้นเขาทันทีเดินขึ้นเขามาได้ลึกระยะหนึ่งเธอก็นั่งพักเหนื่อยกินน้ำกินท่า แต่อยู่ดีๆเธอก็ได้ยินเสียงร้องดังมาตามสายลมซึ่งตอนแรกเธอก็คิดว่าตนเองหูฝาด แต่พอได้ยินนานๆเข้าเธอก็รีบลุกขึ้นหาต้นตอของเสียงเด็กที่ร้องทันทีเยว่อิงเดินมาตามทิศทางของเสียงเด็กที่ร้อง สุดท้ายเธอก็เจอเด็กอยู่ในห่อผ้าแถมยังมีหน้าตาน่ารัก จ่ำม่ำ ผิวขาวใสอมชมพูมีจี้วางทิ้งไว้อยู่ข้างๆตัวเด็กน้อยด้วย เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเธอจึงรีบย่อตัวนั่งลงอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาแล้วรีบลงจากเขาอย่างเร่งรีบบ้านท้ายหมู่บ้าน ติดเชิงเขาลูกใหญ่ตอนนี้เยว่อิงได้ทำการป้อนนมชงจากในมิติ ก่อนจะทำการเช็ดตัวทำความสะอาดแล้วเปลี่ยนใส่ผ้าอ้อม ใส่เสื้อผ้าให้เด็กน้อย แล้วพาเจ้าตัวน้อยเข้าไปในมิติก่อนจะนำที่นอนเด็กมาไว้ในห้องนอนใหญ่ของเธอ แล้วทำการเปิดเครื่องปรับอ
หลังจากที่เยว่อิงเอาลูกสาวตัวน้อยเข้านอนแล้วก็ไปจัดการอาบน้ำของตัวเองบ้าง แล้วเตรียมเข้านอนเช่นเดียวกัน06:27 น.เยว่อิงตื่นมาทำมื้อเช้าเมื่อเสร็จก็มานั่งกินให้อิ่ม แล้วรีบไปจัดการตัวเองอย่างไว เพราะจะได้ไปถึงในตัวเมืองไม่ร้อนนัก เยว่อิงตัดสินใจว่าจะไม่เอาลูกสาวออกไปปล่อยให้นอนเล่นอยู่ในมิติไปก่อน แล้วเธอค่อยแว้บเข้ามาดูเป็นระยะๆเมื่อคิดได้ดังนั้นเธอ ก็สะพายตะกร้าล็อกประตูแล้วออกจากบ้านไปเยว่อิงเดินเท้าออกมาจากตัวหมู่บ้านเมื่อเห็นว่าถนนเส้นนี้ไม่มีคนเลยก็นำจักรยานออกมารีบปั่นจักรยานเข้าตัวเมืองทันทีเมืองเป่ยเยว่อิงนำจักรยานเก็บเข้ามิติก่อนที่จะเดินเข้ามาต่อแถว เพื่อที่จะเข้าภายในเมืองแต่หลังจากที่ทำการจ่ายเงินที่หน้าประตูแล้ว(เงินที่นำมาจ่ายก็มาจากการขายหมูนั่นแหละ) เยว่อิงก็เดินไปร้ายขายสมุนไพรทันทีแต่เนื่องจากเธอไม่รู้ว่าร้านไหนให้ราคายุติธรรมกับเธอ เธอเลยเดินเข้าร้านสมุนไพรที่ใหญ่ที่สุด“ ไปไป๊! ไปนั่งขอทานที่อื่น ไป๊! ร้านของข้าสกปรกหมดแล้ว ” ทันทีที่เธอเดินมาถึงหน้าร้านก็ถูกพนักงานไล่ออกมาเสียงดัง เนื่องจากวันนี้เธอต้องออกจากหมูบ้านเธอเกรงว่าถ้าหากเธอใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ชาวบ้านอ
บ้านท้ายหมู่บ้าน“ พวกเจ้าไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนเถอะ ห้องของพวกเจ้าอยู่ทางด้านขวา ถัดจากห้องริมสุดนะ ” เธอเอ่ยบอกกับทั้งสองคนหลังจากทาสผู้หญิงทั้งสองคนที่เธอซื้อมาเดินออกไป เธอก็นำน้ำในมิติมาหยอดใส่ปากของชายที่นอนอยู่ในรถม้าทันที รอไม่นานผู้ชายของเธอคนนี้ก็รู้สึกตัว“ เป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นหรือไม่? ” เธอเอ่ยถามออกมาทันทีที่เห็นชายผู้นี้รู้สึกตัว“ ดีขึ้นแล้วขอรับ ”“ อย่างนั้นก็ดีแล้ว เช่นนั้นเจ้าเข้าไปอาบน้ำพักผ่อนในห้องพักทางด้านขวามือริมสุดเถิด ” “ ขอรับ ” หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันพักผ่อน แล้วเย็นนี้ค่อยมาคุยถามไถ่ชื่อแซ่อีกทีเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วเยว่อิงก็ทำการเข้ามิติมาดูลูกสาว แต่เมื่อเปิดประตูห้องนอนแต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวเท้าเข้าไปก็ได้ยินเสียงเด็กน้อย“ อ๊อ แอ่ แอ่ แอ๊ ” เธอไม่รอช้าก็รีบก้าวเท้าเข้าไปในห้องก็เห็นเด็กน้อยพลิกตัวเล่นไปมาอยู่คนเดียว พร้อมกับส่งเสียงอ้อแอ้ไปด้วย“ แม่มาแล้วจ้ะคนเก่ง ตื่นมาก็ไม่งอแงเลย ” เธอก้มลงหอมแก้มลูกดังฟอด“ ป่ะ แม่จะพาลูกไปอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อม แล้วจะพาออกไปเล่นข้างนอก ” เยว่อิงก็พาเด็กน้อยไปอาบน้ำ แต่เหมือนจะเป็นการเล่นน้ำของเด็กน
เช้าวันต่อมาหลังจากที่เมื่อคืนกินมื้อเย็น เธอก็ให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน เมื่อเธอตื่นมาก็เห็นทุกคนตื่นมาทำงานบ้านกันเรียบร้อยแล้ว“ ทานข้าวเช้าเจ้าค่ะนายหญิง ” ลี่ซือเมื่อเห็นเธอก็รีบยกอาหารเช้าขึ้นมาวางเรียงบนโต๊ะอาหารทันที“ อืม พวกเจ้าก็มาทานข้าวเช้ากันก่อนเถอะ เพราะเดี๋ยวสายๆข้าจะไปติดต่อข้อซื้อที่ดินแล้วก็หาคนมาล้อมรั้วใหม่” เธอเอ่ยบอกแก่ทั้งสามคน“ ให้ข้าไปด้วยหรือไม่ขอรับ ” เฟยหลงเอ่ยถาม“ไม่ต้องหรอก ข้าไปคนเดียวก็พอ พวกเจ้าอยู่บ้านก็ดูลูกข้ากับบ้านให้ดีเล่า” “ ได้ขอรับ/เจ้าค่ะ ” หลังจากพูดคุยกันจบทุกคนก็ลงมือกินอาหารเช้ากันทันทีบ้านหัวหน้าหมู่บ้านก๊อก ก๊อก ก๊อก“ นั่นใครมาล่ะ รอสักครู่เดี๋ยวข้าจะไปเปิดประตูให้ ” เสียงเมียหัวหน้าหมู่บ้านตะโกนออกมา เธอก็ไม่ได้ตอบอะไรแค่ยืนรอเงียบๆ ไม่นานประตูก็เปิดออก“ อ้าว เยว่อิงหรอกรึ มาหาตาแก่ใช่หรือไม่? ” นางหลี่เอ่ยถามพร้อมกับทำสีหน้าสงสัย“ ใช่เจ้าค่ะ หัวหน้าหมู่บ้านอยู่หรือไม่เจ้าคะ ”“อยู่ๆ เจ้านั่งรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวข้าจะไปตามให้ ” พูดจบก็เดินเข้าไปในตัวบ้านรอไม่นานหัวหน้าหมู่บ้านก็ออกมา“ อ้าว เยว่อิงหรอกรึ มาที่นี่มีอะไรให้
หลังจากที่เธอเตรียมทุกอย่างเสร็จก็เดินออกมาจากโกดัง“ นายหญิงมาแล้วหรือเจ้าคะ พี่ลี่อินพาคุณหนูน้อยไปนอนเล่นในห้องนั่งเล่นแล้วเจ้าคะ ” ลี่ซือกล่าวบอก“ ขอบใจพวกเจ้ามาก ” เยว่อิงพยักหน้าแล้วกล่าวขอบคุณพวกนาง“ เฟยหลง เดี๋ยวถ้าหัวหน้าหมู่บ้านพาพวกชาวบ้านมาแล้วเจ้าก็จัดแจงให้เรียบร้อยข้าเตรียมพื้นที่ต่างๆให้แล้ว หากใครไม่ฟังหรือก่อเรื่องเจ้าก็สามารถไล่ออกจากบ้านเราไปได้เลย” เยว่อิงกล่าว“ ได้ขอรับนายหญิง ” เยว่อิงทำเพียงพยักหน้ารับ แล้วเดินไปห้องนั่งเล่นกับลี่ซือเพื่อไปหาลูกสาว“ แอ๊ แอ๊ ” “ คุณหนูน้อยช่างคุยยิ่งนักเจ้าค่ะ ” ลี่อินกล่าว เยว่อิงก็ทำเพียงแค่พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย“ ซินอี๋น้อยของแม่ คงอยู่แต่ในบ้านจนเบื่อแล้วใช่หรือไม่ ”“ แอ้ บรู้วๆ ” บุตรสาวของเธอนอกจากจะตอบแล้วยังเป่าปากจนน้ำลายกระจาย“ เอาไว้ให้อากาศเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อยแม่จะพาเจ้าออกไปข้างนอกแล้วกัน ” เนื่องจากอากาศตอนนี้หนาวเย็นเกินไป เธอไม่อาจให้ลูกออกไปข้างนอกได้“ แอ้ๆ ”เล่นกับบุตรสาวไปได้สักพัก เยว่อิงก็เห็นว่าซาลาเปาน้อยของนางเกิดงอแงขึ้นมา เธอจึงเปิดแพมเพิสของซาลาเปาน้อยดูเมื่อเห็นว่าอึราด เธอก็รีบถอดแพมเพิส
“ คุณหนูน้อยช่างน่ารักน่าชัง แถมยังรู้ความยิ่งนักเจ้าค่ะนายหญิง ” ลี่อินกล่าว“ ใช่เจ้าค่ะนายหญิง ตั้งแต่ข้าเลี้ยงคุณหนูน้อยมานับครั้งได้เลยที่คุณหนูจะร้องไห้โยเยเหมือนเด็กๆที่อื่น ” ลี่ซือกล่าวต่อ ส่วนเฟยหลงได้แต่นั่งฟังเงียบๆ“ ข้าก็เห็นด้วยกับพวกเจ้านั่นแหละ นางช่างน่ารักน่าเอ็นดูนัก ตัวแค่นี้แต่รู้ความไม่ใช่น้อย ” เยว่อิงกล่าว“ แอ๊ แอ๊ ” ซาลาเปาตัวน้อยเอ่ยร้องอ้อแอ้“ หึๆ ” เยว่อิงหัวเราะขบขันหลังจากที่บ้านจางมาหาเรื่องก็ผ่านมาหลายวันแล้วแต่นางก็ได้ยินข่าวลือแว่วๆมาว่าก่อนที่จางฮุ่ยหมิ่นสามีเก่าของเธอจะเดินทางกลับไปยังค่ายทหาร ก็มีรถม้าหรูหรามาจอดยังหน้าบ้านจาง มีหญิงสาวที่มีท่าทางร่ำรวยเดินลงมาจากรถม้าแล้วกล่าวว่านางเป็นเมียของจางฮุ่ยหมิ่น ทันทีที่นางกล่าวจบคนที่มุงดู รวมถึงคนบ้านจางก็ช็อคแทบสิ้นสติ ว่าเรื่องนี้เป็นมายังไงเหตุใดจางฮุ่ยหมิ่นถึงไปมีคุณหนูผู้ร่ำรวยคนนี้เป็นเมียได้ ไม่ใช่ว่าเขาก็เพิ่งจะหย่ากับเยว่อิงแล้วเขาก็เพิ่งเดินทางกลับบ้านคงเพิ่งจะทราบเรื่องหย่าด้วยซ้ำบางคนที่ได้สติก่อนก็รวบรวมข้อมูลแล้วคิดเรื่องนี่ได้อย่างรวดเร็ว ว่าเรื่องนี้แปลกๆจางฮุ่ยหมิ่นบุตรชายของนางจา
“ หึ! เจ้ามันแค่แม่หม้ายท้ายหมู่บ้านอย่าติดทระนงตนไปหน่อยเลย ” นางจางกล่าววาจาร้ายกาจออก“ แล้วอย่างไรเล่า? ข้าเป็นหม้ายแล้วไปเดือดร้อนอะไรพวกท่านอย่างนั้นหรือ?” “ เหอะ! เดือดร้อนหรือไม่ข้าก็เกลียดขี้หน้าคนอย่างเจ้าอยู่ดี แล้วเจ้าก็อย่าได้คิดฝันหวานว่าบุตรชายของข้าจะอยากได้นางแพศยาอย่างเจ้ากลับมาเป็นเมียอีก! ” นางจางพูดอย่างดูแคลน“ ท่านคิดว่าบุตรชายของท่านดีเด่จนข้าต้องอยากได้เขากลับมาเป็นผัวหรือ? ก็ไม่ ”“ ท่านแม่ พอเถอะขอรับ ” ฮุ่ยหมิ่นรีบพูดห้ามแม่ของตัวเองเพราะกลัวว่าจะเลยเถิดไปกันใหญ่แล้วภายภาคหน้าเขาจะมาง้อนางได้อย่างไรเล่า!“ น้องเล็ก จะให้ท่านแม่พอได้อย่างไร? เรื่องที่ข้าต้องมาเจ็บตัววันนี้ยังไม่ได้ค่าตอบแทนอันใดเลยนะ ” จางต้าเกินพูดออกมาอย่างหน้าไม่อาย“ หึ! ไม่ใช่ว่าน้องเล็กคิดอยากจะกลับมาจับนางแม่หม้ายผู้นี้หรอกกระมัง? ” สะใภ้ใหญ่พูดออกมาอย่างขบขัน แต่ทั้งหมดนี้ดันเป็นเรื่องจริงที่ฮุ่ยหมิ่นคิดกระทำ“ ข้า… ข้า จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร! ” ฮุ่ยหมิ่นพูดออกมาอย่างอ้อมแอ้ม“ พวกเจ้าพอเถอะ จะเถียงกันเพราะเหตุใด ” พอเห็นว่าเป็นท่านพ่อพูดทุกคนก็เงียบทันควัน“ เชิญพวกท่านกลับบ้านไปไ
ปัง ปัง ปัง!“ นังเยว่อิง…นังตัวไร้ประโยชน์ออกมาเดี๋ยวนี้นะ! วันนี้ข้าจะตีพวกเจ้าให้ตาย ” นางจางทุบประตูจนเจ็บมือนางก็หาได้สนใจไม่ ทำเพียงทุบประตูแล้วก็ตะโกนวายวายต่อปัง ปัง ปัง!“ ข้าบอกให้ออกมาไง มัวแต่มุดหัวอยู่ในรู ให้มันเก่งเหมือนตอนที่กล้ามาทำร้ายบุตรชายของข้ากันสิ เหอะ! ”ภายในบ้านเยว่อิง“ เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคนพวกนั้นถึงกล้ามาหาเรื่องพวกเราที่บ้านได้ ” เยว่อิงกล่าวถามด้วยสีหน้าสงสัย“เอ่อ… คือว่า ข้าถีบบุตรชายคนโตของพวกเขาตกรถม้าขอรับ ” เฟยหลงเอ่ยตอบเธออย่างอ้อมแอ้ม คล้ายระอายใจที่ก่อเรื่องมาให้เธอเสียได้“ ห๋า! เรื่องมันเป็นอย่างไรเจ้าเล่ามาให้ข้าฟัง ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าไม่มีนิสัยทำร้ายผู้ใดก่อนอยู่แล้ว ”“ หลังจากกลับมาจากขายผักที่เมืองข้าก็บังคับรถม้าผ่านบุตรชายคนโตของนางจางพอดี พอเจ้านั่นเห็นก็วิ่งตามรถมาพร้อมกับปีนขึ้นมารถม้า ข้าก็เลยหยุดรถม้าแล้วถีบเขาลงจากรถม้าขอรับ เจ้านั่นก็เลยจะโกนด่าทอข้าตามหลังมาแต่ข้าไม่ได้สนใจรีบบังคับรถม้ากลับบ้านทันที ข้าไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาให้กับนายหญิงภายหลังแบบนี้… ”“ เอาล่ะ เจ้าไม่ต้องคิดมาก แต่คราวหน้าคราวหลังหากคิดจะทำอะไรก็คิดไตร่ตรองให้ด
เช้าวันต่อมาหลังจากค่ำคืนแห่งความอบอุ่นผ่านพ้นไป ก็กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงทุกคนต่างช่วยกันขนผักใส่ตะกร้านำไปขึ้นรถม้าเพื่อเตรียมไปขาย ส่วนที่ผักที่ทางเหลาอาหารอื่นๆสั่งนั้น ทางเหลาแต่ละแห่งนั้นเธอได้ทำข้อตกลงว่าให้ทางเหลานำรถม้ามารับพวกผักที่นี่เอง จึงได้แต่ทำการขนตะกร้าผักขึ้นรถม้ากลับไปตั้งแต่ยามอิ๋น [03:00-04:59น.] แล้วเมื่อถึงยามเฉิน[07:00-08:59น.] ก็เสร็จสิ้นงานทุกอย่างเรียบร้อย แล้วช่วงนี้เธอก็ว่างเป็นอย่างมากเธอเลยได้แต่ใช้ชีวิตอยู่แต่ภายในรั้วบ้านเล่นกับซาลาเปาน้อย โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้สามีที่เธอไม่ต้องการได้กลับมาเสียแล้วทางด้านบ้านจาง“ ฮุ่ยหมิ่นกลับมาแล้วหรือลูก? ทำไมจะกลับไม่บอกแม่ก่อนเล่า ” นางจางเอ่ยถามลูกชายคนเล็กด้วยความคิดถึงคนึงหา“ ข้ากลับมาแล้วขอรับท่านแม่ พอดีข้าได้วันลาพักผ่อน3สัปดาห์น่ะขอรับเลยไม่ได้แจ้งท่านล่วงหน้า ” ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยตอบผู้เป็นแม่อย่างนอบน้อม เขาเป็นคนที่กตัญญูต่อพ่อกับแม่มากไม่ว่าที่ผ่านมาภรรยาจะโดนด่าทอทุบตีมากแค่ไหนก็ไม่เคยคิดจะปริปากพูดสักคำ แต่ในทางกลับกันเยว่อิงกับมองว่าจางฮุ่ยหมิ่นคือผู้ที่เห็นแก่ตัวรักแต่ตัวเองไม่คิดปกป้องภรรยา
“ เอาล่ะ เดี๋ยวอีกสัก2-3 วันเจ้าก็นำผักพวกนี้ไปขายเถอะ ผักสดๆพวกนี้คงขายได้แพงนัก ” เธอเอ่ยบอกกับเฟยหลงในแคว้นเว่ยนี้พื้นที่เพาะปลูกนั้นปลูกได้ยากยิ่ง การจะกินผักที่สดนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย เธอจึงไม่แปลกใจที่เฟยหลงจะตกใจเรื่องที่ปลูกผักออกมาได้แถมยังภายในไม่กี่วันอีกด้วยหลังจากผ่านมาหลายสัปดาห์ตอนนี้รั้วก็ล้อมเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ไหนจะกิจการขายผักของเธออีกเรียกว่าทำเงินให้เธอเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีเหลาอาหารมาติดต่อขอซื้อผักสดกับเธอเป็นจำนวนหนึ่ง ซึ่งเธอก็ตอบรับหมด เพียงแต่เธอให้เฟยหลงทำการขุดพรวนดินเพื่อปลูกผักเพิ่มเป็นจำนวนมาก“ พวกเจ้าทั้งสามคนเป็นคนที่ข้าไว้ใจข้าถือว่าพวกเจ้าเป็นคนในครอบครัวของข้า…”เธอเอ่ยพูดกับพวกเขาด้วยความรู้สึกจากใจจริงๆ เนื่องด้วยตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ก็มีเพียงคนพวกนี้ที่คอยอยู่กับเธอมานานที่สุด ถึงจะเพราะเธอซื้อตัวพวกเขามาก็เถอะ แต่สิ่งที่เยว่อิงพูดมานั้นทำให้คนทั้งสามคนนั้นรู้สึกซาบซึ้งอย่างสุดหัวใจ พวกเขาทั้งสามคนก็รักและจงรักภักดีต่อเยว่อิงมาตลอด หากแต่ว่าเธอก็สามารถรับรู้ได้“ ข้ามีความลับบางอย่างที่ไม่ต้องการให้คนภายนอกรู้ อยากจะปิดบังแต่ก็ไม่อาจปิด
เยว่อิงได้ยินเสียงเกวียนก็เลยหันกลับไปมอง“ อ้าว ท่านหัวหน้าหมู่บ้านสวัสดีเจ้าค่ะ ” เมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงได้เอ่ยทักทายออกมา“ วันนี้ข้านำสัญญาซื้อขายอะไรมาให้เจ้า แล้วก็พาช่างมาหาเจ้าด้วย ” หัวหน้าพูดเพื่อคลายความสงสัยให้แก่เธอ“ อ้อ สวัสดีเจ้าค่ะท่านลุง ” เธอเอ่ยทักทายช่างที่จะมาทำรั้วบ้านให้“ สวัสดีๆ เจ้าเรียกข้าว่า ลุงหม่า ก็ได้ ” พูดออกมาอย่างใจดี“ เจ้าค่ะท่านลุงหม่า ”“ เชิญท่านหัวหน้าหมู่บ้านกับท่านลุงหม่าเข้ามาในบ้านก่อนเจ้าค่ะ ” เธอเอ่ยบอกกับทั้งสอง แล้วหันไปพูดกับเฟยหลงต่อ“ เฟยหลง เจ้าไปบอกลี่ซือทีว่าให้นำชากับของว่างมาให้แขกด้วย ” “ ขอรับ ” เฟยหลงพูดจบก็รีบเดินเข้าบ้านไปหาลี่ซือ“ เชิญเข้าบ้านก่อนเจ้าค่ะ ” เยว่อิงก็เดินนำทั้งสองคนไปยังห้องโถงทันที“ อืม ภายในรั้วบ้านร่มรื่นมาก บ้านเจ้าก็จัดได้เป็นอย่างดีจริงๆ ” ลุงหม่าเอ่ยชม พร้อมกับพยักหน้าพอใจ“ ขอบคุณเจ้าค่ะ เชิญพวกท่านนั่งลงก่อน ” เธอผายมือชักชวนให้ทุกคนนั่งลงหลังจากที่นั่งกันแล้ว ก็เริ่มคุยเรื่องงานกันทันที“ ก็ไม่มีอะไรมาก ที่พวกข้ามาวันนี้ก็เพื่อที่จะมาคุยรายละเอียดเรื่องการล้อมรั้วนั่นแหละ ” ลุงหม่าก็เริ่มเปิดเ
“ คนพวกนั้นไปแล้วขอรับ” หลังจากที่เฟยหลงออกไปดูก็ไม่มีใครอยู่แล้ว“พวกเจ้าคงสงสัยว่าคนพวกนั้นเป็นใครใช่หรือไม่” เธอเอ่ยถามทั้งสามคนคนทั้งสามก็ไม่ได้พูดตอบอะไร“ เอาล่ะ ข้าจะบอกให้พวกเจ้าได้รู้ คนพวกนั้นคือบ้านสามีเก่าข้าเองแต่ตอนนี้พวกเราตัดขาดไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกแล้ว ถ้าคนพวกนั้นมายุ่งพวกเจ้าก็ไล่ไปได้เลยไม่ต้องไปสนใจ ” ทั้งสามคนจดจำหน้าตาคนพวกนั้นได้เป็นอย่างดี แล้วก็พอจะคาดเดาได้ว่าคนพวกนี้เคยทำไม่ดีกับเจ้านายของตน ถ้าคนพวกนั้นยังมายุ่งวุ่นวายอีกเจอกันคราวหน้าพวกเขาทั้งสามคนจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น ซึ่งก็ได้แต่คิดอยู่ในใจสภาพร่างกายทั้งสามคนไม่ได้อ่อนแอเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากเธอนำน้ำวิเศษใส่โอ่งให้คนในบ้านได้ไว้ใช้ชำระล้างและดื่มกิน“ เฟยหลงเจ้าไปถางหญ้า ขุดดินพรวนดินไว้ข้าสักหน่อยเถอะ ข้าว่าจะปลูกผักเพิ่มอีกสัก2-3 ชนิด หากผักโตเยอะไม่ทันกินเราจะได้นำไปขายกัน ลี่อินเจ้าก็ไปช่วยเฟยหลงลงผักสักหน่อยสิ ““ ขอรับนายหญิง ” “ เจ้าค่ะนายหญิง ”“ ลี่ซือแล้วนี่ซินอี๋นอนแล้วหรือ? ” เธอพูดกับเฟยหลงกับลี่อินจบ ก็หันมาถามลี่ซือ“ ข้าอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อมให้คุณหนู พอชงนมอุ่มๆกล่อมนอนสักพั
เช้าวันต่อมาหลังจากที่เมื่อคืนกินมื้อเย็น เธอก็ให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน เมื่อเธอตื่นมาก็เห็นทุกคนตื่นมาทำงานบ้านกันเรียบร้อยแล้ว“ ทานข้าวเช้าเจ้าค่ะนายหญิง ” ลี่ซือเมื่อเห็นเธอก็รีบยกอาหารเช้าขึ้นมาวางเรียงบนโต๊ะอาหารทันที“ อืม พวกเจ้าก็มาทานข้าวเช้ากันก่อนเถอะ เพราะเดี๋ยวสายๆข้าจะไปติดต่อข้อซื้อที่ดินแล้วก็หาคนมาล้อมรั้วใหม่” เธอเอ่ยบอกแก่ทั้งสามคน“ ให้ข้าไปด้วยหรือไม่ขอรับ ” เฟยหลงเอ่ยถาม“ไม่ต้องหรอก ข้าไปคนเดียวก็พอ พวกเจ้าอยู่บ้านก็ดูลูกข้ากับบ้านให้ดีเล่า” “ ได้ขอรับ/เจ้าค่ะ ” หลังจากพูดคุยกันจบทุกคนก็ลงมือกินอาหารเช้ากันทันทีบ้านหัวหน้าหมู่บ้านก๊อก ก๊อก ก๊อก“ นั่นใครมาล่ะ รอสักครู่เดี๋ยวข้าจะไปเปิดประตูให้ ” เสียงเมียหัวหน้าหมู่บ้านตะโกนออกมา เธอก็ไม่ได้ตอบอะไรแค่ยืนรอเงียบๆ ไม่นานประตูก็เปิดออก“ อ้าว เยว่อิงหรอกรึ มาหาตาแก่ใช่หรือไม่? ” นางหลี่เอ่ยถามพร้อมกับทำสีหน้าสงสัย“ ใช่เจ้าค่ะ หัวหน้าหมู่บ้านอยู่หรือไม่เจ้าคะ ”“อยู่ๆ เจ้านั่งรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวข้าจะไปตามให้ ” พูดจบก็เดินเข้าไปในตัวบ้านรอไม่นานหัวหน้าหมู่บ้านก็ออกมา“ อ้าว เยว่อิงหรอกรึ มาที่นี่มีอะไรให้