เช้าวันต่อมาหลังจากค่ำคืนแห่งความอบอุ่นผ่านพ้นไป ก็กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงทุกคนต่างช่วยกันขนผักใส่ตะกร้านำไปขึ้นรถม้าเพื่อเตรียมไปขาย ส่วนที่ผักที่ทางเหลาอาหารอื่นๆสั่งนั้น ทางเหลาแต่ละแห่งนั้นเธอได้ทำข้อตกลงว่าให้ทางเหลานำรถม้ามารับพวกผักที่นี่เอง จึงได้แต่ทำการขนตะกร้าผักขึ้นรถม้ากลับไปตั้งแต่ยามอิ๋น [03:00-04:59น.] แล้ว
เมื่อถึงยามเฉิน[07:00-08:59น.] ก็เสร็จสิ้นงานทุกอย่างเรียบร้อย แล้วช่วงนี้เธอก็ว่างเป็นอย่างมากเธอเลยได้แต่ใช้ชีวิตอยู่แต่ภายในรั้วบ้านเล่นกับซาลาเปาน้อย โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้สามีที่เธอไม่ต้องการได้กลับมาเสียแล้ว
ทางด้านบ้านจาง
“ ฮุ่ยหมิ่นกลับมาแล้วหรือลูก? ทำไมจะกลับไม่บอกแม่ก่อนเล่า ” นางจางเอ่ยถามลูกชายคนเล็กด้วยความคิดถึงคนึงหา
“ ข้ากลับมาแล้วขอรับท่านแม่ พอดีข้าได้วันลาพักผ่อน3สัปดาห์น่ะขอรับเลยไม่ได้แจ้งท่านล่วงหน้า ” ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยตอบผู้เป็นแม่อย่างนอบน้อม เขาเป็นคนที่กตัญญูต่อพ่อกับแม่มากไม่ว่าที่ผ่านมาภรรยาจะโดนด่าทอทุบตีมากแค่ไหนก็ไม่เคยคิดจะปริปากพูดสักคำ แต่ในทางกลับกันเยว่อิงกับมองว่าจางฮุ่ยหมิ่นคือผู้ที่เห็นแก่ตัวรักแต่ตัวเองไม่คิดปกป้องภรรยาแม้แต่น้อยทั้งที่ปากก็คอยพูดพร่ำแต่คำว่ารัก
“ โอ้อย่างนั้นหรือ? ดีดีดี ” โจวข่ายสามีนางจางหรือก็คือพ่อของฮุ่ยหมิ่นเอ่ยพูดออกมาด้วยความยินดี
“ แล้วภรรยาของข้าเล่าขอรับท่านพ่อท่านแม่? ” ฮุ่ยหมิ่นกวาดตามองหาภรรยาเมื่อไม่เห็นจึงได้หันมาไถ่ถามผู้เป็นแม่
“ หึ! นังตัวไร้ประโยนช์นั่นน่ะหรือ ป่านนี้ไม่ใช้ชีวิตเสวยสุขบนกองเงินกองทองกับผัวใหม่ของนางแล้วรึ” นางจางยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกโมโห
“ อะไรนะขอรับ นี่มันเกิดอะไรขึ้นตอนที่ข้าไม่อยู่กันแน่? ” ฮุ่ยหมิ่นถามออกมาอย่างตกใจ
“ ก็นางเยว่อิงมันเห็นแก่ตัวไม่คิดกตัญญูต่อข้ากับตาแก่น่ะสิ ข้าจึงได้ขอท่านผู้นำยื่นใบหย่าแทนเจ้าไปแล้ว ลูกคงไม่ถือโทษโกรธแม่กระมังที่ทำเช่นนี้? ” นางจางพูดออกมาอย่างไม่รู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย
“ แต่นี่… ”
ฮุ่ยหมิ่นได้แต่อ้ำอึ้งไม่สามารถหาคำพูดอะไรออกมาได้ เพราะอีกใจหนึ่งก็ยินดีที่ไม่ต้องพูดเรื่องหย่าร้างกับภรรยาด้วยตัวเอง แต่อีกใจก็ไม่อาจยอมรับได้ว่าที่ท่านแม่พูดว่านางมีผัวใหม่แถมยังมีชีวิตที่ดีนั้นจะจริง จึงได้แต่คิดว่าค่อยหาโอกาสไปดูด้วยตาตัวเอง
“ แม่คงจะทำให้เจ้าโกรธแล้วกระมัง ” นางจางแสร้งตีหน้าเศร้า
“ ไม่เลยขอรับ ข้าไม่คิดถือโทษโกรธท่านพ่อกับท่านแม่เลย หย่าร้างเช่นนี้ก็ดีแล้ว ” ฮุ่ยหมิ่นพูดอย่างเฉยเมยไม่ได้แสดงอาการยินดียินดีร้ายอะไรออกมากับเรื่องที่ได้รับรู้ ราวกับว่าเรื่องที่เขาได้รับรู้มานั้นไม่ใช่เรื่องของตัวเองอย่างนั้นล่ะ
“ เช่นนั้นก็ดีแล้ว ” โจวข่ายพูดตอบลูกชายคนเล็ก
“ ลูกเพิ่งกลับมา เข้าไปพักผ่อนก่อนเถิด เอาไว้เย็นนี้แม่จะทำอาหารดีๆให้เจ้ากิน ” แต่ยังไม่ทันที่จะได้เข้าห้องก็เห็นเกวียนหรูหราแปลกตาบังคับเข้าไปยังท้ายหมู่บ้าน
“ นั่นเกวียนใครหรือขอรับ? รถม้าหรูหราดูเหมือนเป็นพวกร่ำรวยเงินทอง แต่คนมีเงินตำลึงมากมายคงไม่น่ามาอยู่ที่ท้ายหมู่บ้านได้ ” ฮุ่ยหมิ่นกล่าวถามด้วยความสงสัยใคร่รู้
“ จะของใครเสียอีกเล่า ก็ของเมียเก่าเจ้าอย่างไรเล่า นางไปเจอสมุนหายากขายได้เงินตำลึงมากมายแถมตอนนี้นางยังสามารถปลูกผักไปขายจนร่ำรวยอีกด้วย ” นางจางพูดอย่างริษยา ได้แต่คิดว่าทั้งที่ไล่นางออกไปแท้ๆแล้วเหตุใดชีวิตของเยว่อิงถึงได้มีแต่เรื่องดีๆกัน
“ เป็นเช่นนั้นหรอกหรือขอรับ? ” ฮุ่ยหมิ่นมีสายตาแวววับภายในตากลิ้งกลอกในหัวเต็มไปด้วยความโลภ แต่ยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรต่อเสียงพี่ชายก็ดังขึ้นมาขัดเสียก่อน
“ น้องเล็กนี่เจ้ากลับมาแล้วหรือ? ดูท่าคงจะสบายดีกระมัง ” ต้าเกินพี่ใหญ่กล่าวถามด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ ขอรับ ข้ากลับมาแล้ว ” ฮุ่ยหมิ่ยเอ่ยตอบพี่ชายด้วยน้ำเสียงปกติ
“ อืม ” จางต้าเกินพยักหน้ารับน้องชาย
“ แล้วนี่เจ้าไปทำอันใดมา เหตุใดถึงได้มีสีหน้าหงุดหงิดเช่นนั้นเล่า ไหนจะสภาพอย่างกับไปฟัดกับหมาที่ไหนอย่างนั้นล่ะ?! ” นางจางกล่าวถามบุตรชายคนโต เพราะสังเกตเห็นสภาพของลูกชายตั้งแต่แรกที่เดินเข้าบ้านมาแล้ว
“ หึ! จะเรื่องอะไรล่ะท่านแม่ ถ้าไม่ใช่เรื่องของไอ้ผัวใหม่ของนังเยว่อิงน่ะ ” ยิ่งคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อครู่จางต้าเกินก็ยิ่งหงุดหงิด
“ ทำไมรึ? พวกมันกล้าทำอันใดเจ้า รีบบอกแม่มา ” นางจางกล่างถามด้วยสีหน้าร้อนรน
“ ข้าแค่จะขออาศัยเกวียนพวกมันกลับมาด้วย แต่พอพวกมันรู้ว่าข้าเป็นใครก็ถีบข้าตกรถม้ามาเลยขอรับ… ท่านแม่ท่านต้องจัดการพวกมันให้ข้านะขอรับ! ”
“ ได้! เช่นนั้นก็ไปบุกบ้านนังตัวไร้ประโยชน์นั่นกัน พวกมันช่างกล้านักที่คิดจะมาทำร้ายบุตรชายของข้า ”
แต่ยังไม่ทันทีพวกเขาทั้งหมดจะไปก็มีเสียงสะใภ้ใหญ่ดังออกมาเสียก่อน
“ อ้าว พวกท่านจะพากันไปไหนหรือเจ้าคะ ว๊าย! แล้วเหตุใดท่านพี่ถึงได้เนื้อตัวมอมแมมแบบนี้ล่ะเจ้าคะ ใครกล้าทำท่านพี่แบบนี้?” สะใภ้ใหญ่กล่าวถามออกมาอย่างเป็นห่วงสามี
“ จะใครเสียอีกเล่าถ้าไม่ใช่ไอ้พวกตัวไร้ประโยชน์ พวกมันช่างกล้านัก! ” นางจางกล่าวออกมาพร้อมกับมีท่าทางฉุนเฉียว
“ นี่พวกมันกล้าถึงขั้นทำร้ายท่านพี่ขนาดนี้เลยหรือเจ้าค่ะ ข้าไม่ยอมนะเจ้าคะ ข้าจะไปจัดการพวกมัน ” ทันทีที่สะใภ้ใหญ่พูดจบทุกคนก็เห็นด้วย
หลังจากนั้นพวกคนบ้านจางก็พากันยกไปยังบ้านของเยว่อิงทันที รวมถึงจางฮุ่ยหมิ่นด้วย
ปัง ปัง ปัง!“ นังเยว่อิง…นังตัวไร้ประโยชน์ออกมาเดี๋ยวนี้นะ! วันนี้ข้าจะตีพวกเจ้าให้ตาย ” นางจางทุบประตูจนเจ็บมือนางก็หาได้สนใจไม่ ทำเพียงทุบประตูแล้วก็ตะโกนวายวายต่อปัง ปัง ปัง!“ ข้าบอกให้ออกมาไง มัวแต่มุดหัวอยู่ในรู ให้มันเก่งเหมือนตอนที่กล้ามาทำร้ายบุตรชายของข้ากันสิ เหอะ! ”ภายในบ้านเยว่อิง“ เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคนพวกนั้นถึงกล้ามาหาเรื่องพวกเราที่บ้านได้ ” เยว่อิงกล่าวถามด้วยสีหน้าสงสัย“เอ่อ… คือว่า ข้าถีบบุตรชายคนโตของพวกเขาตกรถม้าขอรับ ” เฟยหลงเอ่ยตอบเธออย่างอ้อมแอ้ม คล้ายระอายใจที่ก่อเรื่องมาให้เธอเสียได้“ ห๋า! เรื่องมันเป็นอย่างไรเจ้าเล่ามาให้ข้าฟัง ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าไม่มีนิสัยทำร้ายผู้ใดก่อนอยู่แล้ว ”“ หลังจากกลับมาจากขายผักที่เมืองข้าก็บังคับรถม้าผ่านบุตรชายคนโตของนางจางพอดี พอเจ้านั่นเห็นก็วิ่งตามรถมาพร้อมกับปีนขึ้นมารถม้า ข้าก็เลยหยุดรถม้าแล้วถีบเขาลงจากรถม้าขอรับ เจ้านั่นก็เลยจะโกนด่าทอข้าตามหลังมาแต่ข้าไม่ได้สนใจรีบบังคับรถม้ากลับบ้านทันที ข้าไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาให้กับนายหญิงภายหลังแบบนี้… ”“ เอาล่ะ เจ้าไม่ต้องคิดมาก แต่คราวหน้าคราวหลังหากคิดจะทำอะไรก็คิดไตร่ตรองให้ด
“ หึ! เจ้ามันแค่แม่หม้ายท้ายหมู่บ้านอย่าติดทระนงตนไปหน่อยเลย ” นางจางกล่าววาจาร้ายกาจออก“ แล้วอย่างไรเล่า? ข้าเป็นหม้ายแล้วไปเดือดร้อนอะไรพวกท่านอย่างนั้นหรือ?” “ เหอะ! เดือดร้อนหรือไม่ข้าก็เกลียดขี้หน้าคนอย่างเจ้าอยู่ดี แล้วเจ้าก็อย่าได้คิดฝันหวานว่าบุตรชายของข้าจะอยากได้นางแพศยาอย่างเจ้ากลับมาเป็นเมียอีก! ” นางจางพูดอย่างดูแคลน“ ท่านคิดว่าบุตรชายของท่านดีเด่จนข้าต้องอยากได้เขากลับมาเป็นผัวหรือ? ก็ไม่ ”“ ท่านแม่ พอเถอะขอรับ ” ฮุ่ยหมิ่นรีบพูดห้ามแม่ของตัวเองเพราะกลัวว่าจะเลยเถิดไปกันใหญ่แล้วภายภาคหน้าเขาจะมาง้อนางได้อย่างไรเล่า!“ น้องเล็ก จะให้ท่านแม่พอได้อย่างไร? เรื่องที่ข้าต้องมาเจ็บตัววันนี้ยังไม่ได้ค่าตอบแทนอันใดเลยนะ ” จางต้าเกินพูดออกมาอย่างหน้าไม่อาย“ หึ! ไม่ใช่ว่าน้องเล็กคิดอยากจะกลับมาจับนางแม่หม้ายผู้นี้หรอกกระมัง? ” สะใภ้ใหญ่พูดออกมาอย่างขบขัน แต่ทั้งหมดนี้ดันเป็นเรื่องจริงที่ฮุ่ยหมิ่นคิดกระทำ“ ข้า… ข้า จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร! ” ฮุ่ยหมิ่นพูดออกมาอย่างอ้อมแอ้ม“ พวกเจ้าพอเถอะ จะเถียงกันเพราะเหตุใด ” พอเห็นว่าเป็นท่านพ่อพูดทุกคนก็เงียบทันควัน“ เชิญพวกท่านกลับบ้านไปไ
“ คุณหนูน้อยช่างน่ารักน่าชัง แถมยังรู้ความยิ่งนักเจ้าค่ะนายหญิง ” ลี่อินกล่าว“ ใช่เจ้าค่ะนายหญิง ตั้งแต่ข้าเลี้ยงคุณหนูน้อยมานับครั้งได้เลยที่คุณหนูจะร้องไห้โยเยเหมือนเด็กๆที่อื่น ” ลี่ซือกล่าวต่อ ส่วนเฟยหลงได้แต่นั่งฟังเงียบๆ“ ข้าก็เห็นด้วยกับพวกเจ้านั่นแหละ นางช่างน่ารักน่าเอ็นดูนัก ตัวแค่นี้แต่รู้ความไม่ใช่น้อย ” เยว่อิงกล่าว“ แอ๊ แอ๊ ” ซาลาเปาตัวน้อยเอ่ยร้องอ้อแอ้“ หึๆ ” เยว่อิงหัวเราะขบขันหลังจากที่บ้านจางมาหาเรื่องก็ผ่านมาหลายวันแล้วแต่นางก็ได้ยินข่าวลือแว่วๆมาว่าก่อนที่จางฮุ่ยหมิ่นสามีเก่าของเธอจะเดินทางกลับไปยังค่ายทหาร ก็มีรถม้าหรูหรามาจอดยังหน้าบ้านจาง มีหญิงสาวที่มีท่าทางร่ำรวยเดินลงมาจากรถม้าแล้วกล่าวว่านางเป็นเมียของจางฮุ่ยหมิ่น ทันทีที่นางกล่าวจบคนที่มุงดู รวมถึงคนบ้านจางก็ช็อคแทบสิ้นสติ ว่าเรื่องนี้เป็นมายังไงเหตุใดจางฮุ่ยหมิ่นถึงไปมีคุณหนูผู้ร่ำรวยคนนี้เป็นเมียได้ ไม่ใช่ว่าเขาก็เพิ่งจะหย่ากับเยว่อิงแล้วเขาก็เพิ่งเดินทางกลับบ้านคงเพิ่งจะทราบเรื่องหย่าด้วยซ้ำบางคนที่ได้สติก่อนก็รวบรวมข้อมูลแล้วคิดเรื่องนี่ได้อย่างรวดเร็ว ว่าเรื่องนี้แปลกๆจางฮุ่ยหมิ่นบุตรชายของนางจา
หลังจากที่เธอเตรียมทุกอย่างเสร็จก็เดินออกมาจากโกดัง“ นายหญิงมาแล้วหรือเจ้าคะ พี่ลี่อินพาคุณหนูน้อยไปนอนเล่นในห้องนั่งเล่นแล้วเจ้าคะ ” ลี่ซือกล่าวบอก“ ขอบใจพวกเจ้ามาก ” เยว่อิงพยักหน้าแล้วกล่าวขอบคุณพวกนาง“ เฟยหลง เดี๋ยวถ้าหัวหน้าหมู่บ้านพาพวกชาวบ้านมาแล้วเจ้าก็จัดแจงให้เรียบร้อยข้าเตรียมพื้นที่ต่างๆให้แล้ว หากใครไม่ฟังหรือก่อเรื่องเจ้าก็สามารถไล่ออกจากบ้านเราไปได้เลย” เยว่อิงกล่าว“ ได้ขอรับนายหญิง ” เยว่อิงทำเพียงพยักหน้ารับ แล้วเดินไปห้องนั่งเล่นกับลี่ซือเพื่อไปหาลูกสาว“ แอ๊ แอ๊ ” “ คุณหนูน้อยช่างคุยยิ่งนักเจ้าค่ะ ” ลี่อินกล่าว เยว่อิงก็ทำเพียงแค่พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย“ ซินอี๋น้อยของแม่ คงอยู่แต่ในบ้านจนเบื่อแล้วใช่หรือไม่ ”“ แอ้ บรู้วๆ ” บุตรสาวของเธอนอกจากจะตอบแล้วยังเป่าปากจนน้ำลายกระจาย“ เอาไว้ให้อากาศเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อยแม่จะพาเจ้าออกไปข้างนอกแล้วกัน ” เนื่องจากอากาศตอนนี้หนาวเย็นเกินไป เธอไม่อาจให้ลูกออกไปข้างนอกได้“ แอ้ๆ ”เล่นกับบุตรสาวไปได้สักพัก เยว่อิงก็เห็นว่าซาลาเปาน้อยของนางเกิดงอแงขึ้นมา เธอจึงเปิดแพมเพิสของซาลาเปาน้อยดูเมื่อเห็นว่าอึราด เธอก็รีบถอดแพมเพิส
เธอคือ ‘อิงอิง’ มีอาชีพเป็นหมอในโรงพยาบาลชื่อดังของประเทศไทยที่กำลังเป็นที่นิยม และตอนนี้เธออายุได้ 30 ปีพอดิบพอดี เธอใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาโดยตลอดเพราะเธอสูญเสียคนในครอบครัวไปนานแล้ว และเมื่อไม่กี่วันมานี้เธอได้ไปไหว้พระที่วัดแห่งหนึ่งแต่ดันโดนพระท่านหนึ่งทักว่า ‘เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน1อาทิตย์ ซึ่งคำทักนั้นทำให้เธอนั้นช็อกเป็นอย่างมาก แต่นั่นยังไม่จบเมื่อพระท่านนั้นได้มอบแหวนโบราณมาวงหนึ่งแล้วท่านก็ได้บอกว่าให้เตรียมตัวให้พร้อมกับความลำบากที่จะต้องเผชิญให้ได้ และขอให้เธอโชคดี’ ซึ่งตอนนั้นเธอนั้นช็อกจนแทบจะสิ้นสติรู้ตัวอีกทีพระท่านนั้นก็ได้หายไปเสียแล้วเฮือก!ทันทีที่ตื่นมาเธอก็นั่งเรียบเรียงเรื่องที่เธอฝันเห็นเมื่อคืนว่าใช่เรื่องจริง หรือแค่ความฝันแต่ยังไม่ทันที่จะได้คิดทบทวน สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นแหวนสวมอยู่ที่นิ้วของเธอ ตั้งแต่ที่ผ่านวันเกิดอิงอิงก็เก็บเรื่องนี้มาฝันซ้ำๆ เธอจึงได้แต่พยายามที่จะทำใจแล้วลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมลิสต์ของที่จะซื้อเก็บใส่แหวนมิติไว้ซึ่งการเก็บของใส่แหวนมิตินั้นเธอก็ทดลองเก็บของต่างๆ จนเริ่มนำสิ่งของเข้าออกจากมิติคล่องบ้างแล้
" สวัสดีค่ะคุณลูกค้า ดิฉันชื่อ ‘รดา’ นะคะจะเป็นคนที่มาดูแลลูกค้าเองค่ะ " พนักงานผู้หญิงที่ชื่อรดาเอ่ยทักทายเธอพร้อมกับเอ่ยแนะนะตัว" สวัสดีค่ะคุณรดา ฉันชื่ออิงอิงนะคะ ถ้างั้นเราไปกันเลยดีมั้ยคะ?"" ได้ค่ะ ลูกค้าอยากไปดูสินค้าโซนไหนก่อนเป็นพิเศษไหมคะ ฉันจะได้พาไป " พนักงานที่ชื่อรดาเอ่ยถามเธอ" ไปโซนทำอาหาร เครื่องครัวก่อนก็ได้ค่ะ " เธอเอ่ยบอกความต้องการออกไปกับพนักงาน" ได้ค่ะ " พูดจบก็เดินพาเธอไปยังโซนเครื่องครัวทันทีเมื่อมาถึงโซนเครื่องครัวแล้วเธอก็แจ้งความต้องการของเธอออกมาทันที แล้วพนักงานก็จดตาม ก่อนจะพาเธอเดินไปยังโซนต่างๆ จนครบ แทบจะทั่วทั้งห้างเลยก็ว่าได้“ฉันอยากได้ชุดเครื่องครัวอย่างดีทั้งแบบไม้ แล้วก็แบบต่างๆ อย่างละ50ชุดค่ะ แล้วก็เครื่องปรุงต่างๆ อีกอย่างละ100ลัง แป้งทุกชนิดอีกชนิดละ 100ลัง ข้าวสารต่างๆ แล้วก็ข้าวเหนียว1,000กระสอบ ผักผลไม้ต่างๆ เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ไข่เป็ดต่างๆ น้ำดื่ม นม ขนมต่างๆ ที่มีในห้างทั้งหมดอืม…แล้วก็เครื่องสำอางค์ น้ำหอม สบู่ ผ้าอนามัย แปรงสีฟันยาสีฟัน พวกแชมพูครีมนวด ครีมทาผิว แล้วก็เสื้อผ้าทั้งผู้ผญิงผู้ชาย ตั้งแต่เด็กจนแก่ทุกรูปแบบ แล้วก็ผ้าต่าง
หลังจากที่ทำการเก็บของต่างๆ ใส่มิติเรียบร้อยแล้ว เธอก็เข้าบ้านเพื่ออาบน้ำ แล้วก็หาข้าวกินเพราะวันนี้เธอมัวแต่วุ่นวายกับการซื้อของเตรียมตัวเลยลืมการกินข้าวไปเสียสนิทเลยพออาบน้ำกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็เข้าห้องแล้วล้มตัวลงบนที่นอนแล้วทำการเข้ามิติเพื่อทำการตรวจของที่ซื้อมาว่าขาดเหลืออะไรอีกบ้างหรือเปล่า เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรขาดเหลือแล้ว เธอเลยคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยไปทำการซื้อพวกเครื่องประดับ หรือของทำอาหารกับของทำขนมต่างๆ เพิ่มอีกสักหน่อยอย่างไรการมีเยอะเอาไว้ก็ย่อมดีกว่าขาดอิงอิงเธอใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมานานหลายปีนอกจากเป็นหมอที่มีฝีมือเก่งกาจแล้ว เธอยังมีฝีมือทำอาหารแล้วก็ทำขนมอีกด้วย เพราะเวลาว่างอิงอิงมักจะเลือกทำอาหารไม่ก็ขนมหวานอยู่เสมอๆ ซึ่งไม่ว่าใครกินก็ต้องเอ่ยปากชมเรื่องฝีมือการทำอาหารแล้วก็ฝีมือการทำขนมหวานของเธอ และยังบอกอีกว่าต่อให้เธอลาออกจากการเป็นหมอมาเปิดร้านอาหารหรือร้านทำขนมหวานก็คงจะขายได้ดีไม่ต่างกันและเมื่อตรวจดูของในมิติเสร็จเรียบร้อยดีแล้วเธอก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย อาจจะเป็นเพราะวันนี้เธอใช้พลังงานในร่างกายไปเยอะมากเกินไปจริงๆเช้าวันต่อมาหญ
หลังจากที่ทำการเก็บของต่างๆ ใส่มิติเรียบร้อยแล้ว เธอก็เข้าบ้านเพื่ออาบน้ำ แล้วก็หาข้าวกินเพราะวันนี้เธอมัวแต่วุ่นวายกับการซื้อของเตรียมตัวเลยลืมการกินข้าวไปเสียสนิทเลยพออาบน้ำกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็เข้าห้องแล้วล้มตัวลงบนที่นอนแล้วทำการเข้ามิติเพื่อทำการตรวจของที่ซื้อมาว่าขาดเหลืออะไรอีกบ้างหรือเปล่า เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรขาดเหลือแล้ว เธอเลยคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยไปทำการซื้อพวกเครื่องประดับ หรือของทำอาหารกับของทำขนมต่างๆ เพิ่มอีกสักหน่อยอย่างไรการมีเยอะเอาไว้ก็ย่อมดีกว่าขาดอิงอิงเธอใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมานานหลายปีนอกจากเป็นหมอที่มีฝีมือเก่งกาจแล้ว เธอยังมีฝีมือทำอาหารแล้วก็ทำขนมอีกด้วย เพราะเวลาว่างอิงอิงมักจะเลือกทำอาหารไม่ก็ขนมหวานอยู่เสมอๆ ซึ่งไม่ว่าใครกินก็ต้องเอ่ยปากชมเรื่องฝีมือการทำอาหารแล้วก็ฝีมือการทำขนมหวานของเธอ และยังบอกอีกว่าต่อให้เธอลาออกจากการเป็นหมอมาเปิดร้านอาหารหรือร้านทำขนมหวานก็คงจะขายได้ดีไม่ต่างกันและเมื่อตรวจดูของในมิติเสร็จเรียบร้อยดีแล้วเธอก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย อาจจะเป็นเพราะวันนี้เธอใช้พลังงานในร่างกายไปเยอะมากเกินไปจริงๆเช้าวันต่อมาหญ
หลังจากที่เธอเตรียมทุกอย่างเสร็จก็เดินออกมาจากโกดัง“ นายหญิงมาแล้วหรือเจ้าคะ พี่ลี่อินพาคุณหนูน้อยไปนอนเล่นในห้องนั่งเล่นแล้วเจ้าคะ ” ลี่ซือกล่าวบอก“ ขอบใจพวกเจ้ามาก ” เยว่อิงพยักหน้าแล้วกล่าวขอบคุณพวกนาง“ เฟยหลง เดี๋ยวถ้าหัวหน้าหมู่บ้านพาพวกชาวบ้านมาแล้วเจ้าก็จัดแจงให้เรียบร้อยข้าเตรียมพื้นที่ต่างๆให้แล้ว หากใครไม่ฟังหรือก่อเรื่องเจ้าก็สามารถไล่ออกจากบ้านเราไปได้เลย” เยว่อิงกล่าว“ ได้ขอรับนายหญิง ” เยว่อิงทำเพียงพยักหน้ารับ แล้วเดินไปห้องนั่งเล่นกับลี่ซือเพื่อไปหาลูกสาว“ แอ๊ แอ๊ ” “ คุณหนูน้อยช่างคุยยิ่งนักเจ้าค่ะ ” ลี่อินกล่าว เยว่อิงก็ทำเพียงแค่พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย“ ซินอี๋น้อยของแม่ คงอยู่แต่ในบ้านจนเบื่อแล้วใช่หรือไม่ ”“ แอ้ บรู้วๆ ” บุตรสาวของเธอนอกจากจะตอบแล้วยังเป่าปากจนน้ำลายกระจาย“ เอาไว้ให้อากาศเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อยแม่จะพาเจ้าออกไปข้างนอกแล้วกัน ” เนื่องจากอากาศตอนนี้หนาวเย็นเกินไป เธอไม่อาจให้ลูกออกไปข้างนอกได้“ แอ้ๆ ”เล่นกับบุตรสาวไปได้สักพัก เยว่อิงก็เห็นว่าซาลาเปาน้อยของนางเกิดงอแงขึ้นมา เธอจึงเปิดแพมเพิสของซาลาเปาน้อยดูเมื่อเห็นว่าอึราด เธอก็รีบถอดแพมเพิส
“ คุณหนูน้อยช่างน่ารักน่าชัง แถมยังรู้ความยิ่งนักเจ้าค่ะนายหญิง ” ลี่อินกล่าว“ ใช่เจ้าค่ะนายหญิง ตั้งแต่ข้าเลี้ยงคุณหนูน้อยมานับครั้งได้เลยที่คุณหนูจะร้องไห้โยเยเหมือนเด็กๆที่อื่น ” ลี่ซือกล่าวต่อ ส่วนเฟยหลงได้แต่นั่งฟังเงียบๆ“ ข้าก็เห็นด้วยกับพวกเจ้านั่นแหละ นางช่างน่ารักน่าเอ็นดูนัก ตัวแค่นี้แต่รู้ความไม่ใช่น้อย ” เยว่อิงกล่าว“ แอ๊ แอ๊ ” ซาลาเปาตัวน้อยเอ่ยร้องอ้อแอ้“ หึๆ ” เยว่อิงหัวเราะขบขันหลังจากที่บ้านจางมาหาเรื่องก็ผ่านมาหลายวันแล้วแต่นางก็ได้ยินข่าวลือแว่วๆมาว่าก่อนที่จางฮุ่ยหมิ่นสามีเก่าของเธอจะเดินทางกลับไปยังค่ายทหาร ก็มีรถม้าหรูหรามาจอดยังหน้าบ้านจาง มีหญิงสาวที่มีท่าทางร่ำรวยเดินลงมาจากรถม้าแล้วกล่าวว่านางเป็นเมียของจางฮุ่ยหมิ่น ทันทีที่นางกล่าวจบคนที่มุงดู รวมถึงคนบ้านจางก็ช็อคแทบสิ้นสติ ว่าเรื่องนี้เป็นมายังไงเหตุใดจางฮุ่ยหมิ่นถึงไปมีคุณหนูผู้ร่ำรวยคนนี้เป็นเมียได้ ไม่ใช่ว่าเขาก็เพิ่งจะหย่ากับเยว่อิงแล้วเขาก็เพิ่งเดินทางกลับบ้านคงเพิ่งจะทราบเรื่องหย่าด้วยซ้ำบางคนที่ได้สติก่อนก็รวบรวมข้อมูลแล้วคิดเรื่องนี่ได้อย่างรวดเร็ว ว่าเรื่องนี้แปลกๆจางฮุ่ยหมิ่นบุตรชายของนางจา
“ หึ! เจ้ามันแค่แม่หม้ายท้ายหมู่บ้านอย่าติดทระนงตนไปหน่อยเลย ” นางจางกล่าววาจาร้ายกาจออก“ แล้วอย่างไรเล่า? ข้าเป็นหม้ายแล้วไปเดือดร้อนอะไรพวกท่านอย่างนั้นหรือ?” “ เหอะ! เดือดร้อนหรือไม่ข้าก็เกลียดขี้หน้าคนอย่างเจ้าอยู่ดี แล้วเจ้าก็อย่าได้คิดฝันหวานว่าบุตรชายของข้าจะอยากได้นางแพศยาอย่างเจ้ากลับมาเป็นเมียอีก! ” นางจางพูดอย่างดูแคลน“ ท่านคิดว่าบุตรชายของท่านดีเด่จนข้าต้องอยากได้เขากลับมาเป็นผัวหรือ? ก็ไม่ ”“ ท่านแม่ พอเถอะขอรับ ” ฮุ่ยหมิ่นรีบพูดห้ามแม่ของตัวเองเพราะกลัวว่าจะเลยเถิดไปกันใหญ่แล้วภายภาคหน้าเขาจะมาง้อนางได้อย่างไรเล่า!“ น้องเล็ก จะให้ท่านแม่พอได้อย่างไร? เรื่องที่ข้าต้องมาเจ็บตัววันนี้ยังไม่ได้ค่าตอบแทนอันใดเลยนะ ” จางต้าเกินพูดออกมาอย่างหน้าไม่อาย“ หึ! ไม่ใช่ว่าน้องเล็กคิดอยากจะกลับมาจับนางแม่หม้ายผู้นี้หรอกกระมัง? ” สะใภ้ใหญ่พูดออกมาอย่างขบขัน แต่ทั้งหมดนี้ดันเป็นเรื่องจริงที่ฮุ่ยหมิ่นคิดกระทำ“ ข้า… ข้า จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร! ” ฮุ่ยหมิ่นพูดออกมาอย่างอ้อมแอ้ม“ พวกเจ้าพอเถอะ จะเถียงกันเพราะเหตุใด ” พอเห็นว่าเป็นท่านพ่อพูดทุกคนก็เงียบทันควัน“ เชิญพวกท่านกลับบ้านไปไ
ปัง ปัง ปัง!“ นังเยว่อิง…นังตัวไร้ประโยชน์ออกมาเดี๋ยวนี้นะ! วันนี้ข้าจะตีพวกเจ้าให้ตาย ” นางจางทุบประตูจนเจ็บมือนางก็หาได้สนใจไม่ ทำเพียงทุบประตูแล้วก็ตะโกนวายวายต่อปัง ปัง ปัง!“ ข้าบอกให้ออกมาไง มัวแต่มุดหัวอยู่ในรู ให้มันเก่งเหมือนตอนที่กล้ามาทำร้ายบุตรชายของข้ากันสิ เหอะ! ”ภายในบ้านเยว่อิง“ เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคนพวกนั้นถึงกล้ามาหาเรื่องพวกเราที่บ้านได้ ” เยว่อิงกล่าวถามด้วยสีหน้าสงสัย“เอ่อ… คือว่า ข้าถีบบุตรชายคนโตของพวกเขาตกรถม้าขอรับ ” เฟยหลงเอ่ยตอบเธออย่างอ้อมแอ้ม คล้ายระอายใจที่ก่อเรื่องมาให้เธอเสียได้“ ห๋า! เรื่องมันเป็นอย่างไรเจ้าเล่ามาให้ข้าฟัง ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าไม่มีนิสัยทำร้ายผู้ใดก่อนอยู่แล้ว ”“ หลังจากกลับมาจากขายผักที่เมืองข้าก็บังคับรถม้าผ่านบุตรชายคนโตของนางจางพอดี พอเจ้านั่นเห็นก็วิ่งตามรถมาพร้อมกับปีนขึ้นมารถม้า ข้าก็เลยหยุดรถม้าแล้วถีบเขาลงจากรถม้าขอรับ เจ้านั่นก็เลยจะโกนด่าทอข้าตามหลังมาแต่ข้าไม่ได้สนใจรีบบังคับรถม้ากลับบ้านทันที ข้าไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาให้กับนายหญิงภายหลังแบบนี้… ”“ เอาล่ะ เจ้าไม่ต้องคิดมาก แต่คราวหน้าคราวหลังหากคิดจะทำอะไรก็คิดไตร่ตรองให้ด
เช้าวันต่อมาหลังจากค่ำคืนแห่งความอบอุ่นผ่านพ้นไป ก็กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงทุกคนต่างช่วยกันขนผักใส่ตะกร้านำไปขึ้นรถม้าเพื่อเตรียมไปขาย ส่วนที่ผักที่ทางเหลาอาหารอื่นๆสั่งนั้น ทางเหลาแต่ละแห่งนั้นเธอได้ทำข้อตกลงว่าให้ทางเหลานำรถม้ามารับพวกผักที่นี่เอง จึงได้แต่ทำการขนตะกร้าผักขึ้นรถม้ากลับไปตั้งแต่ยามอิ๋น [03:00-04:59น.] แล้วเมื่อถึงยามเฉิน[07:00-08:59น.] ก็เสร็จสิ้นงานทุกอย่างเรียบร้อย แล้วช่วงนี้เธอก็ว่างเป็นอย่างมากเธอเลยได้แต่ใช้ชีวิตอยู่แต่ภายในรั้วบ้านเล่นกับซาลาเปาน้อย โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้สามีที่เธอไม่ต้องการได้กลับมาเสียแล้วทางด้านบ้านจาง“ ฮุ่ยหมิ่นกลับมาแล้วหรือลูก? ทำไมจะกลับไม่บอกแม่ก่อนเล่า ” นางจางเอ่ยถามลูกชายคนเล็กด้วยความคิดถึงคนึงหา“ ข้ากลับมาแล้วขอรับท่านแม่ พอดีข้าได้วันลาพักผ่อน3สัปดาห์น่ะขอรับเลยไม่ได้แจ้งท่านล่วงหน้า ” ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยตอบผู้เป็นแม่อย่างนอบน้อม เขาเป็นคนที่กตัญญูต่อพ่อกับแม่มากไม่ว่าที่ผ่านมาภรรยาจะโดนด่าทอทุบตีมากแค่ไหนก็ไม่เคยคิดจะปริปากพูดสักคำ แต่ในทางกลับกันเยว่อิงกับมองว่าจางฮุ่ยหมิ่นคือผู้ที่เห็นแก่ตัวรักแต่ตัวเองไม่คิดปกป้องภรรยา
“ เอาล่ะ เดี๋ยวอีกสัก2-3 วันเจ้าก็นำผักพวกนี้ไปขายเถอะ ผักสดๆพวกนี้คงขายได้แพงนัก ” เธอเอ่ยบอกกับเฟยหลงในแคว้นเว่ยนี้พื้นที่เพาะปลูกนั้นปลูกได้ยากยิ่ง การจะกินผักที่สดนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย เธอจึงไม่แปลกใจที่เฟยหลงจะตกใจเรื่องที่ปลูกผักออกมาได้แถมยังภายในไม่กี่วันอีกด้วยหลังจากผ่านมาหลายสัปดาห์ตอนนี้รั้วก็ล้อมเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ไหนจะกิจการขายผักของเธออีกเรียกว่าทำเงินให้เธอเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีเหลาอาหารมาติดต่อขอซื้อผักสดกับเธอเป็นจำนวนหนึ่ง ซึ่งเธอก็ตอบรับหมด เพียงแต่เธอให้เฟยหลงทำการขุดพรวนดินเพื่อปลูกผักเพิ่มเป็นจำนวนมาก“ พวกเจ้าทั้งสามคนเป็นคนที่ข้าไว้ใจข้าถือว่าพวกเจ้าเป็นคนในครอบครัวของข้า…”เธอเอ่ยพูดกับพวกเขาด้วยความรู้สึกจากใจจริงๆ เนื่องด้วยตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ก็มีเพียงคนพวกนี้ที่คอยอยู่กับเธอมานานที่สุด ถึงจะเพราะเธอซื้อตัวพวกเขามาก็เถอะ แต่สิ่งที่เยว่อิงพูดมานั้นทำให้คนทั้งสามคนนั้นรู้สึกซาบซึ้งอย่างสุดหัวใจ พวกเขาทั้งสามคนก็รักและจงรักภักดีต่อเยว่อิงมาตลอด หากแต่ว่าเธอก็สามารถรับรู้ได้“ ข้ามีความลับบางอย่างที่ไม่ต้องการให้คนภายนอกรู้ อยากจะปิดบังแต่ก็ไม่อาจปิด
เยว่อิงได้ยินเสียงเกวียนก็เลยหันกลับไปมอง“ อ้าว ท่านหัวหน้าหมู่บ้านสวัสดีเจ้าค่ะ ” เมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงได้เอ่ยทักทายออกมา“ วันนี้ข้านำสัญญาซื้อขายอะไรมาให้เจ้า แล้วก็พาช่างมาหาเจ้าด้วย ” หัวหน้าพูดเพื่อคลายความสงสัยให้แก่เธอ“ อ้อ สวัสดีเจ้าค่ะท่านลุง ” เธอเอ่ยทักทายช่างที่จะมาทำรั้วบ้านให้“ สวัสดีๆ เจ้าเรียกข้าว่า ลุงหม่า ก็ได้ ” พูดออกมาอย่างใจดี“ เจ้าค่ะท่านลุงหม่า ”“ เชิญท่านหัวหน้าหมู่บ้านกับท่านลุงหม่าเข้ามาในบ้านก่อนเจ้าค่ะ ” เธอเอ่ยบอกกับทั้งสอง แล้วหันไปพูดกับเฟยหลงต่อ“ เฟยหลง เจ้าไปบอกลี่ซือทีว่าให้นำชากับของว่างมาให้แขกด้วย ” “ ขอรับ ” เฟยหลงพูดจบก็รีบเดินเข้าบ้านไปหาลี่ซือ“ เชิญเข้าบ้านก่อนเจ้าค่ะ ” เยว่อิงก็เดินนำทั้งสองคนไปยังห้องโถงทันที“ อืม ภายในรั้วบ้านร่มรื่นมาก บ้านเจ้าก็จัดได้เป็นอย่างดีจริงๆ ” ลุงหม่าเอ่ยชม พร้อมกับพยักหน้าพอใจ“ ขอบคุณเจ้าค่ะ เชิญพวกท่านนั่งลงก่อน ” เธอผายมือชักชวนให้ทุกคนนั่งลงหลังจากที่นั่งกันแล้ว ก็เริ่มคุยเรื่องงานกันทันที“ ก็ไม่มีอะไรมาก ที่พวกข้ามาวันนี้ก็เพื่อที่จะมาคุยรายละเอียดเรื่องการล้อมรั้วนั่นแหละ ” ลุงหม่าก็เริ่มเปิดเ
“ คนพวกนั้นไปแล้วขอรับ” หลังจากที่เฟยหลงออกไปดูก็ไม่มีใครอยู่แล้ว“พวกเจ้าคงสงสัยว่าคนพวกนั้นเป็นใครใช่หรือไม่” เธอเอ่ยถามทั้งสามคนคนทั้งสามก็ไม่ได้พูดตอบอะไร“ เอาล่ะ ข้าจะบอกให้พวกเจ้าได้รู้ คนพวกนั้นคือบ้านสามีเก่าข้าเองแต่ตอนนี้พวกเราตัดขาดไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกแล้ว ถ้าคนพวกนั้นมายุ่งพวกเจ้าก็ไล่ไปได้เลยไม่ต้องไปสนใจ ” ทั้งสามคนจดจำหน้าตาคนพวกนั้นได้เป็นอย่างดี แล้วก็พอจะคาดเดาได้ว่าคนพวกนี้เคยทำไม่ดีกับเจ้านายของตน ถ้าคนพวกนั้นยังมายุ่งวุ่นวายอีกเจอกันคราวหน้าพวกเขาทั้งสามคนจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น ซึ่งก็ได้แต่คิดอยู่ในใจสภาพร่างกายทั้งสามคนไม่ได้อ่อนแอเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากเธอนำน้ำวิเศษใส่โอ่งให้คนในบ้านได้ไว้ใช้ชำระล้างและดื่มกิน“ เฟยหลงเจ้าไปถางหญ้า ขุดดินพรวนดินไว้ข้าสักหน่อยเถอะ ข้าว่าจะปลูกผักเพิ่มอีกสัก2-3 ชนิด หากผักโตเยอะไม่ทันกินเราจะได้นำไปขายกัน ลี่อินเจ้าก็ไปช่วยเฟยหลงลงผักสักหน่อยสิ ““ ขอรับนายหญิง ” “ เจ้าค่ะนายหญิง ”“ ลี่ซือแล้วนี่ซินอี๋นอนแล้วหรือ? ” เธอพูดกับเฟยหลงกับลี่อินจบ ก็หันมาถามลี่ซือ“ ข้าอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อมให้คุณหนู พอชงนมอุ่มๆกล่อมนอนสักพั
เช้าวันต่อมาหลังจากที่เมื่อคืนกินมื้อเย็น เธอก็ให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน เมื่อเธอตื่นมาก็เห็นทุกคนตื่นมาทำงานบ้านกันเรียบร้อยแล้ว“ ทานข้าวเช้าเจ้าค่ะนายหญิง ” ลี่ซือเมื่อเห็นเธอก็รีบยกอาหารเช้าขึ้นมาวางเรียงบนโต๊ะอาหารทันที“ อืม พวกเจ้าก็มาทานข้าวเช้ากันก่อนเถอะ เพราะเดี๋ยวสายๆข้าจะไปติดต่อข้อซื้อที่ดินแล้วก็หาคนมาล้อมรั้วใหม่” เธอเอ่ยบอกแก่ทั้งสามคน“ ให้ข้าไปด้วยหรือไม่ขอรับ ” เฟยหลงเอ่ยถาม“ไม่ต้องหรอก ข้าไปคนเดียวก็พอ พวกเจ้าอยู่บ้านก็ดูลูกข้ากับบ้านให้ดีเล่า” “ ได้ขอรับ/เจ้าค่ะ ” หลังจากพูดคุยกันจบทุกคนก็ลงมือกินอาหารเช้ากันทันทีบ้านหัวหน้าหมู่บ้านก๊อก ก๊อก ก๊อก“ นั่นใครมาล่ะ รอสักครู่เดี๋ยวข้าจะไปเปิดประตูให้ ” เสียงเมียหัวหน้าหมู่บ้านตะโกนออกมา เธอก็ไม่ได้ตอบอะไรแค่ยืนรอเงียบๆ ไม่นานประตูก็เปิดออก“ อ้าว เยว่อิงหรอกรึ มาหาตาแก่ใช่หรือไม่? ” นางหลี่เอ่ยถามพร้อมกับทำสีหน้าสงสัย“ ใช่เจ้าค่ะ หัวหน้าหมู่บ้านอยู่หรือไม่เจ้าคะ ”“อยู่ๆ เจ้านั่งรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวข้าจะไปตามให้ ” พูดจบก็เดินเข้าไปในตัวบ้านรอไม่นานหัวหน้าหมู่บ้านก็ออกมา“ อ้าว เยว่อิงหรอกรึ มาที่นี่มีอะไรให้