เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เข้ามิติทันทีจัดการปลูกสมุนไพรหายากที่ทำการซื้อเมล็ดมา แล้วก็ผักผลไม้ต่างๆแบ่งปลูกเป็นแปลงๆ เมื่อทำเสร็จเธอก็ตักน้ำในแม่น้ำลำธารที่ไหลมานั่นแหละมารด พอเธอเทน้ำลงไปต้นไม้ก็โตไวจนเธอตกใจไม่คิดว่าน้ำนี้จะเป็นน้ำวิเศษแบบนี้เธอเลยปลูกนั่นปลูกนี่จนเพลิน จนลืมเวลาข้างนอกไปเสียสนิท
พอเธอออกมาข้างนอกมิติก็มีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าบ้านกับโกดังที่เธอสั่งทำมาส่งเรียบร้อย ไหนจะมีเฟอร์นิเจอร์ที่ว่างจัดไว้ตรงพื้นที่บ้านเธอจนเต็มไปหมดนี่อีก เธอไม่อยากเสียเวลาจึงรีบจัดการนำทุกอย่างเข้ามิติทันที
แล้วรีบขับรถออกไปยังสถานที่ที่บ้านมาส่งมาถึงก็ไม่มีคนอยู่แล้วเธอจึงนำบ้านกับโกดังเข้ามิติทันที แล้วขับรถออกจากจุดนั้นเพื่อจะกลับบ้าน แต่ทว่ายังไม่ทันจะถึงบ้านเลยด้วยซ้ำเธอก็ถูกรถที่อยู่อีกฝั่งขับสวนเลนมาชนจนทำให้เธอเกิดเสียชีวิตดับอนาถคาที่!
… 30% 40% 70%ทำการโอนย้ายสำเร็จ…
ปัง ปัง ปัง!
“นังตัวไร้ค่า เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ นังจอมล้างผลาญ จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนห้ะ!” เสียงยัยแก่ที่ไหนมาบ่นเนี่ย?! แต่ยังไม่ทันที่อิงอิงจะได้ตอบอะไรออกมาก็มีความทรงจำของใครคนหนึ่งพุ่งเข้าหัวสมองเธออย่างจังเจ้าของร่างที่เธออาศัยอยู่ตอนนี้ชื่อ ‘เยว่อิงอิง’ ซึ่งตอนนี้อายุได้ 18 ขวบปีแล้ว และยังมีสามีชื่อ ‘จางฮุ่ยหมิ่น’ ที่อายุมากกว่าเธอถึง2 ปี เธออาศัยอยู่ภายในบ้านของครอบครัวสามี ซึ่งสามีของเธอไปเป็นทหารและปล่อยให้เจ้าของร่างคนเก่าอยู่ในบ้านหลังนี้เพียงลำพัง บ้านที่มีพ่อสามีไม่ได้เรื่อง มีแม่สามีใจร้ายคอยด่าทอทุบตี แถมพี่เขยกับพี่สะใภ้ยังมีนิสัยที่ชอบเอารัดเอาเปรียบ
สามีของเธอเป็นคนที่กตัญญูต่อพ่อกับแม่ของเขามาก มากเสียจนยอมให้เธอโดนรังแก ไม่มีความกล้าแม้กระทั่งจะช่วยเจ้าของร่างคนเก่า เธอโดนทำร้ายร่างกายและยังให้อดข้าว ทว่าถึงไม่อดก็ได้กินเพียงแค่ข้าวก้นถ้วยหน่อยเดียวเท่านั้นจึงไม่แปลกที่เจ้าของร่างคนเก่าจะตายไปโดยที่ไม่มีใครรู้แต่ก่อนที่เธอจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ก็มีเสียงทุบประตูพร้อมกับเสียงสบถด่าอย่างหยาบคายออกมาให้ได้ยินเป็นเนืองๆ แต่เธอคือ ‘เยว่อิงอิงคนใหม่ ไม่ใช่คนเก่า’ ไม่มีทางที่เธอจะยอม หึ! สามีที่กตัญญูไม่ลืมหูลืมตาผู้นั้นถ้าอยากกตัญญูไปจนตายก็กตัญญูไปผู้เดียวเถิด ข้าจะไม่ยอมโดนกลั่นแกล้ง รังแกเหมือนที่เจ้าของร่างเดิมยอมหรอกนะ!
ปัง ปัง ปัง! “นังอิงอิง นังตัวขี้เกียจ ออกมาทำงานบ้านงานช่องได้แล้ว ถ้าเจ้ายังไม่ออกมาฉุนจะพังประตูเข้าไปตีแก!” เสียงนางจางด่าสาดเสียเทเธอเสียงดังลั่นบ้าน เธอจึงเดินไปเปิดประตูอย่างไม่ยี่หระ “มีอะไรกับข้างั้นหรือเจ้าคะ?” เธอเอ่ยถามเสียงแข็ง “หน็อย! นังตัวดี! นี่เจ้ากล้าทำเสียงแข็งใส่ข้าอย่างงั้นหรือ?!” นางจางเอ่ยถามเสียงดัง พร้อมกับทำท่าจะเข้ามาทุบตีเธอ “แล้วทำไมข้าต้องไม่กล้าด้วยล่ะ? อย่าให้ข้าต้องหมดความอดทนกับคนแก่แบบป้ามากนักเลย” “นะ…นี่! นังเยว่อิง…เจ้ากล้าพูดแบบนี้กับฉันเหรอ?!” นางจางชี้หน้าเธอพร้อมกับสบถออกมาด้วยความโมโห “ทำไม? มีอะไรก็พูดมา จะติดอ่างทำไมป้า จะพูดไม่พูดถ้าไม่พูดข้าจะได้เข้าห้องไปนอนสักที” เธอพูดพร้อมกับเตรียมจะหันหลังเข้าห้อง“ นี่เจ้าจะไปไหน? ข้าสั่งให้เจ้าไปทำงานบ้านไม่ใช่หรือไง แต่นี่เจ้ากล้าต่อปากต่อคำกับคนอย่างข้าเหรอ! นังตัวไร้ค่า นังคนไร้ประโยชน์!!! ” นางจางพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว นางโมโหจนอยากจะดึงทึ้งร่างของนางให้แหลกเป็นชิ้นๆเลยด้วยซ้ำ“ แม่สามี ที่ผ่านมาข้ายอมแล้วก็เชื่อฟังท่านกับพ่อสามีมาตลอด แต่เหตุใดแม่สามีถึงไม่เห็นใจข้าบ้างเล่า? ” เธอพูดออกมาด้วยความรู้สึกข้างในเหมือนความรู้สึกที่ยังตกค้างของเจ้าของร่างคนเก่า“ หึ! เพราะคนอย่างเจ้ามันก็เป็นแค่อีตัวที่ไร้ประโยชน์ยังไงล่ะ ถ้าลูกชายของข้าได้แต่งงานกับคนที่ข้าหามาให้ป่านนี้บ้านจางก็คงจะสบายกันไปตั้งนานแล้ว ” “ ถ้าเป็นอย่างนั้นแม่สามีก็ให้สามีเขียนใบหย่าให้กับคนไร้ประโยชน์อย่างข้าไปเถิด ข้าเองก็สุดจะทนแล้วเหมือนกัน เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไรไปก็ไม่มีใครเห็นค่าอยู่ดี ”“ หน็อย! ทำปากดีไปเถอะ รอลูกชายของข้ากลับมาก่อนเถอะ ข้าจะให้ลูกชายของข้าหย่าร้างกับหล่อนเสีย แต่ยังไงกว่าลูกชายข้าจะกลับมาหล่อนก็อย่าทำตัวให้มันไร้ประโยชน์นัก รีบออกไปทำงานบ้านให้เรียบร้อยเสีย ถ้าไม่ทำก็อย่าคิดว่าจะได้กินข้าว หึ! ” ทันทีที่พูดจบนางจางก็เดินจากไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เธอได้
หลังจากที่สำรวจบ้านในมิติเสร็จแล้วเธอก็เดินไปสำรวจทางโกดังต่อ ซึ่งทางด้านหน้าของโกดังสินค้าก็จะเป็นหน้าจอโฮโลแกรมบ่งบอกถึงสิ่งของวัตถุดิบที่อยู่ภายในโกดัง และทุกอย่างได้ถูกจัดเก็บเป็นโซนๆ เช่น โซนเนื้อสัตว์ หรือผัก และผลไม้เป็นต้น ซึ่งเธอคิดว่าแบบนี้ก็สะดวกไม่น้อยเลยเนื่องด้วยร่างกายนี้ที่เดินได้ไม่นานก็รู้สึกเหนื่อยหอบเป็นอย่างมาก อาจจะเป็นเพราะแต่เดิมร่างนี้ขาดสารอาหารเป็นเวลานานไหนจะสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรงดีอีกด้วย เธอเลยคิดว่าจะเดินไปที่ลำธารแล้วลองดื่มน้ำนั้นดูเพราะอยากจะรู้สรรพคุณว่านอกจากพืชผักที่ปลูกจะโตไวแล้ว จะช่วยรักษาร่างกายได้อย่างที่เคยได้ยินมาหรือเปล่า? ไม่รอช้าเธอก็เดินมาถึงลำธารพร้อมกับนั่งลงวักน้ำเข้าปากทันทีและผลสรุปก็คือร่างกายที่อ่อนแรงของเธอดีขึ้นมากกว่าเดิมไม่น้อยเลย อีกทั้งเธอยังรู้สึกว่ามีเรี่ยวแรงขึ้นมากด้วยโครก คราก!แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำอะไรเสียงท้องของเธอก็ร้องประท้วงออกมาเสียก่อน เธอจึงได้แต่จำใจเดินกลับเข้าบ้านเพื่อไปหาอะไรกินรองท้องเสียก่อน แล้วค่อยออกจากมิติไปทำอย่างอื่นต่อหลังจากที่เธอเตรียมตัวอะไรเรียบร้อยแล้วก็ได้ทำการออกจากมิติทันที เธอคิดว
เธอขึ้นเขามาได้ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ซึ่งก็ถือว่าเข้ามาลึกพอสมควรเลยทีเดียว เธอก็ทำการเทน้ำที่กรอกมาจากลำธารในมิติแล้วปีนขึ้นไปบนต้นใหม่ที่อยู่ใกล้ๆเพื่อรอดูว่าจะมีสัตว์มาติดหรือเปล่ารอไม่นานเธอก็เห็นหมูป่าตัวใหญ่น้ำหนักประมาณเกือบ100กิโลมากินน้ำที่เธอเทไว้ เธอจึงนำธนูที่สั่งทำตอนไปตลาดออกมา แล้วเล็งไปที่หมูป่าตัวนั้นฟิ้ว! ฉึก!พอเห็นหมูป่าสิ้นใจตายเธอก็ทำการเก็บหมูป่าใส่ในมิติแล้วเดินออกจากป่าทันทีเพราะเห็นว่าเป็นเวลาเริ่มเย็นแล้ว หากช้ากว่านี้จะมืดค่ำเอาได้แล้วจะเป็นอันตรายกว่าเดิมเดินออกมาถึงทางออกป่าเธอก็นำหมูป่าออกจากมิติแล้วทำการลากกลับบ้านเพื่อตบตาคนอื่น ชาวบ้านที่อยู่ตามข้างทางก็มองด้วยสายตาตกใจ ปนอิจฉา เพราะด้วยความที่ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงานของพวกชาวบ้านพอดี แต่เธอก็ไม่ได้สนใจทำเพียงก้มหน้าก้มตาลากหมูป่าไปจนถึงหน้าบ้านจนได้ เธอมีอาการเหนื่อยหอบนิดหน่อย ตอนแรกเธอก็ตกใจที่ลากหมูหนักประมาณ100กิโลไหว แต่ก็เข้าใจว่าคงเป็นเพราะน้ำวิเศษในมิตินั่นแหละ!เมื่อถึงหน้าบ้านไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงนางจางวิ่งตึงตังออกมาจากตัวบ้าน“ นังอิงอิง นังตัวขี้เกียจ นี่เจ้าออกไปไหนมาห้ะ?! ทำไมเจ้าถึงไ
“ นั่นนะสิ นี่เจ้าไม่คิดจะกตัญญูต่อข้ากับตาแก่เลยใช่ไหมนังตัวไร้ค่า!” นางจางพูดโวยวายออกมาเสียงดังทำให้ชาวบ้านเริ่มมามุงดูด้วยความสนใจ“ ที่ผ่านมาข้ากตัญญูต่อท่านแม่กับท่านพ่อสามีมาโดยตลอด แล้วพวกท่านล่ะเคยสนใจใยดีข้าบ้างหรือไม่เล่า? ” เธอเอ่ยถามด้วยความเจ็บใจ“ เจ้ามันก็แค่นังตัวไร้ค่า กล้าต่อปากต่อคำกับข้าเหรอ! ถ้าไม่คิดจะกตัญญูต่อข้ากับตาแก่ก็ออกจากบ้านจางไปสะ!” แต่ทันทีที่นางจางพูดจบท่านพ่อสามีก็เดินออกมาจากบ้านพอดี“ เกิดอะไรขึ้น? ” จริงๆแล้วตอนที่อยู่ในบ้านเขาได้ยินเรื่องทั้งหมดแต่ก็ยังแสร้งเอ่ยถามออกมาหน้าตาเฉย ทั้งที่ปกติแล้วเขาก็หลับตาข้างหนึ่งแสร้งทำเป็นไม่เห็นมาตลอด แต่มาวันนี้คงจะแสร้งทำเป็นไม่เห็นต่อไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว“ ข้าก็บอกท่านแม่แล้วไงว่าถ้าหากอยากได้เนื้อหมูป่าของข้าไปให้บุตรชายคนโตของท่านแม่แล้วล่ะก็ ท่านแม่ก็แค่จ่ายเงินค่าหมูป่าให้ข้าก็พอ ข้าคิดราคาไม่แพงหรอกเจ้าค่ะ ” เธอเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น“ แต่นี่เนื้อหมูที่เจ้าล่ามาได้ เจ้าก็ต้องนำมาแบ่งให้บ้านจางเพื่อแสดงความกตัญญูต่อท่านแม่กับท่านพ่อสามี แล้วทำไมท่านแม่ยังจะต้องจ่ายเงินให้เจ้าด้วย? ” ทันทีที่พี่สะใภ้ผู้นี
“ วันนี้พวกเราตัดสินใจแล้วว่าจะทำเรื่องหย่าขาดให้กับฮุ่ยหมิ่นกับเยว่อิง ” ท่านพ่อสามีกล่าวออกมา“ นี่ ฮุ่ยหมิ่นรู้เรื่องนี้หรือเปล่า? ” ทันทีที่หัวหน้าหมู่บ้านพูดออกพาทุกคนก็ต่างเงียบ ยกเว้นนางจาง“ รู้หรือไม่รู้แล้วอย่างไร? สุดท้ายลูกชายของข้าก็ต้องเชื่อฟังแม่อย่างข้าอยู่ดี ” นางจางเอ่ยออกมาอย่างไม่ไว้หน้าใคร“ แล้วเจ้าล่ะเยว่อิง จะยินยอมเรื่องการหย่าขาดนี้หรือเปล่า? ” หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยถามด้วยความเห็นใจ เพราะถ้าเกิดหย่าร้างขึ้นมาจริงๆเยว่อิงก็จะต้องเป็นหม้าย เพราะยุคสมัยนี้หญิงหม้ายนั้นผู้คนยังไม่ได้ยอมรับกันมากนัก“ ในเมื่อท่านพ่อสามีกับท่านแม่สามีต่างก็คิดเห็นไปในทางเดียวกัน ข้าก็เห็นพร้องตามนั้นน่ะแหละเจ้าค่ะ ขอแค่นอกจากหนังสือหย่าร้างแล้ว ข้าขอเพิ่มหนังสือตัดขาดไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกไม่ว่าจะรวยหรือจะจน ต่างคนต่างอยู่ ถ้าฝ่ายไหนมารบกวนอีกฝ่ายให้ต้องรำคาญใจก็สามารถเรียกร้องเงินจากอีกฝั่งที่มารบกวนได้จำนวน 2,000 ตำลึงทอง ” เธอเอ่ยตอบออกไป“ หึได้! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ก็แค่หญิงที่กำลังจะเป็นหม้าย อย่ามั่นใจตัวเองไปหน่อยเลย หากวันไหนลำบากขึ้นมาต่อให้มากราบขอร้องพวกข้าหรือคนบ้าน
“ ได้ๆ ยังไงเดี๋ยวข้าขอตัวก่อน ต้องไปดูบ้านกับหาคนมาจัดการหมูป่าพวกนี้อีก ” หัวหน้าพูดจบก็สั่งให้คนช่วยอุ้มหมูป่าไปที่บ้านตนเอง พร้อมกับเดินออกจากบ้านจางทันทีส่วนนางจาง กับคนครอบครัวจางก็ได้ยืนขบเคี้ยวเขี้ยวฟันกันด้วยความเจ็บใจและเสียดาย เพราะตั้งใจว่าหลังจากที่ทุกคนกลับออกไปจะทำการแย่งหมูป่าตัวนั้นมาเป็นของตัวเอง แต่ก็ไม่ทันเพราะเยว่อิงได้ให้หัวหน้าหมู่บ้านจัดการกับเนื้อหมูป่าพวกนี้เสียแล้วส่วนเยว่อิงก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรคนพวกนี้อยู่แล้ว ก็เดินเข้าไปเก็บของบางอย่างที่จำเป็นอยู่ในห้อง พอเก็บหมดก็เดินออกจากห้องแล้วจากไปจากบ้านจางพร้อมกับคิดว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะมาเหยียบที่บ้านหลังนี้!..หลังจากที่หัวหน้าหมู่บ้านจัดการหาบ้านที่ว่างให้เธอได้แล้ว บ้านหลังนี้อยู่ท้ายหมู่บ้านห่างไกลจากบ้านคนในหมู่บ้านคนอื่นมากพอสมควรและสภาพบ้านก็ดีมีรั้วสูงชันล้อมรอบบ้าน ตัวบ้านมีขนาดหลังไม่ใหญ่มากที่ดินของบ้านหลังนี้ขนาดเกือบ10หมู่ได้พอเธอเห็นก็ถูกใจเป็นอย่างมาก แต่บ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่มานานตัวบ้านจึงมีหญ้ารกชัฎขึ้นสูงแล้วตัวบ้านก็มีหยากไย่เกาะอยู่เต็มตัวบ้านไปหมด หัวหน้าหมู่บ้านจึงพาชาวบ้านมาช
ทางด้านเยว่อิงตั้งแต่อาบน้ำเสร็จก็นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจหลังจากที่ใช้แรงกายและใจจนรู้สึกเหนื่อยอ่อนมาทั้งวัน ส่วนทางบ้านจางนั้นยังไม่มีใครได้นอนเลยสักคน!ทางบ้านจาง“ นี่สะใภ้ใหญ่ ไปทำกับข้าวมื้อเย็นมาสิ! หรือเจ้าจะรอให้ข้าไปทำให้พวกเจ้ากินหรือยังไง ห๋า! ” หลังจากที่เยว่อิงออกจากบ้านไปภายในบ้านก็วุ่นวายมากเนื่องจากปกติเยว่อิงจะเป็นคนที่ต้องทำรับผิดชอบทำหน้าที่ต่างๆทุกอย่าง แต่ตอนนี้คนทำก็ไม่อยู่แล้ว ฉะนั้นหน้าที่จึงตกมาอยู่ที่สะใภ้ใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย“ เจ้าค่ะท่านแม่ ข้าจะรีบไปทำเดี๋ยวนี้ล่ะ ” นางหลิวหรือสะใภ้ใหญ่ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนเข้ามาภายในครัวเพื่อทำอาหารให้ทุกคนกินอย่างไม่เต็มใจ! (แต่นี่มันก็แค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นล่ะ)เรื่องภายในบ้านจางเยว่อิงไม่มีทางได้รับรู้เพราะมัวแต่นอนหลับพักผ่อน แต่ถึงรู้ก็ใช่ว่าเธอจะสนใจตัดภาพมาที่ค่ายทหาร“ สหายชจาง คุณหนูเสิ่นมาหานายน่ะ ตอนนี้กำลังยืนรอนายอยู่ข้างนอกนู่น ” สหายร่วมรบคนนี้ชื่อ โจวหลี่ไค เป็นสหายที่รู้ใจจางฮุ่ยหมิ่นมากที่สุด“ อืม ขอบใจมากสหายโจว ” จางฮุ่ยหมิ่นกล่าว พร้อมกับพยักหน้าตอบรับสหายด้านข้างห้องพักที่ลับสายตาผู้คน ภายในค่า
ทันทีที่ร่างสูงได้ยินเสียงครางกระเส่าของโฉมสะคราญก็รีบเอ่ยออกมาทันที“ อืม… เจ้าอย่าพึ่งรีบสิ รอข้าก่อน ” ร่างสูงเอ่ยตอบร่างบางระหงษ์พร้อมกับถอดกางเกงทหารออกแล้วนำแท่งหยกอุ่นๆที่มีน้ำสวาทเฉอะแฉะอยู่ที่ปลายหัวมาถูไถที่ร่องบุปผางาม จนร่างบางร้องออกมาด้วยความเสียวกระสัน“ อื้อ อ๊ะ อ้า… อืม ” เมื่อเห็นว่าร่องบุปผาเฉอะแฉะ และมีน้ำไหลออกตามหว่างขาเยอะแล้วร่างสูงก็ไม่รอช้านำแท่งหยกร้อนจ่อ แล้วก็กดลงไปที่ร่องงามนั้นทันที“ อืม…! อ่า ” ร่องบุปผางามของหญิงร่านราคะผู้นี้ยังคงเหมือนเดิมดั่งทุกครั้งที่เคยทำ ยังคงรัดแท่งร้อนของเขาแน่นจนแทบจะแตกเหมือนเดิม ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกถูกใจและหลงใหลร่างกายของหล่อนมากร่างสูงไม่รอช้าก่อนจะขยับแท่งร้อนที่อยู่ภายในร่องบุปผาอย่างเนิบนาบ แล้วค่อยๆขยับเร่งจังหวะเปลี่ยนเป็นการกระแทกอย่างรุนแรงจนร่างบางถึงกับหัวสั่นหัวคลอนก็ว่าได้แต่ยิ่งร่างสูงขยับเร็วและแรงเท่าไหร่ ร่างบางก็ยังคงร้องครวญครางออกมาเสียงหวานกระเส่าด้วยความเสียวกระสันตลอด“ อา!… ฮะ ฮุ่ยหมิ่น ข้าเสียว ม… ไม่ไหวแล้ว ” ร่างบางเสร็จไปรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่อาจรู้ได้แต่ทว่าร่างสูงยังคงจับร่างโฉมสะคราญเป
หลังจากที่เธอเตรียมทุกอย่างเสร็จก็เดินออกมาจากโกดัง“ นายหญิงมาแล้วหรือเจ้าคะ พี่ลี่อินพาคุณหนูน้อยไปนอนเล่นในห้องนั่งเล่นแล้วเจ้าคะ ” ลี่ซือกล่าวบอก“ ขอบใจพวกเจ้ามาก ” เยว่อิงพยักหน้าแล้วกล่าวขอบคุณพวกนาง“ เฟยหลง เดี๋ยวถ้าหัวหน้าหมู่บ้านพาพวกชาวบ้านมาแล้วเจ้าก็จัดแจงให้เรียบร้อยข้าเตรียมพื้นที่ต่างๆให้แล้ว หากใครไม่ฟังหรือก่อเรื่องเจ้าก็สามารถไล่ออกจากบ้านเราไปได้เลย” เยว่อิงกล่าว“ ได้ขอรับนายหญิง ” เยว่อิงทำเพียงพยักหน้ารับ แล้วเดินไปห้องนั่งเล่นกับลี่ซือเพื่อไปหาลูกสาว“ แอ๊ แอ๊ ” “ คุณหนูน้อยช่างคุยยิ่งนักเจ้าค่ะ ” ลี่อินกล่าว เยว่อิงก็ทำเพียงแค่พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย“ ซินอี๋น้อยของแม่ คงอยู่แต่ในบ้านจนเบื่อแล้วใช่หรือไม่ ”“ แอ้ บรู้วๆ ” บุตรสาวของเธอนอกจากจะตอบแล้วยังเป่าปากจนน้ำลายกระจาย“ เอาไว้ให้อากาศเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อยแม่จะพาเจ้าออกไปข้างนอกแล้วกัน ” เนื่องจากอากาศตอนนี้หนาวเย็นเกินไป เธอไม่อาจให้ลูกออกไปข้างนอกได้“ แอ้ๆ ”เล่นกับบุตรสาวไปได้สักพัก เยว่อิงก็เห็นว่าซาลาเปาน้อยของนางเกิดงอแงขึ้นมา เธอจึงเปิดแพมเพิสของซาลาเปาน้อยดูเมื่อเห็นว่าอึราด เธอก็รีบถอดแพมเพิส
“ คุณหนูน้อยช่างน่ารักน่าชัง แถมยังรู้ความยิ่งนักเจ้าค่ะนายหญิง ” ลี่อินกล่าว“ ใช่เจ้าค่ะนายหญิง ตั้งแต่ข้าเลี้ยงคุณหนูน้อยมานับครั้งได้เลยที่คุณหนูจะร้องไห้โยเยเหมือนเด็กๆที่อื่น ” ลี่ซือกล่าวต่อ ส่วนเฟยหลงได้แต่นั่งฟังเงียบๆ“ ข้าก็เห็นด้วยกับพวกเจ้านั่นแหละ นางช่างน่ารักน่าเอ็นดูนัก ตัวแค่นี้แต่รู้ความไม่ใช่น้อย ” เยว่อิงกล่าว“ แอ๊ แอ๊ ” ซาลาเปาตัวน้อยเอ่ยร้องอ้อแอ้“ หึๆ ” เยว่อิงหัวเราะขบขันหลังจากที่บ้านจางมาหาเรื่องก็ผ่านมาหลายวันแล้วแต่นางก็ได้ยินข่าวลือแว่วๆมาว่าก่อนที่จางฮุ่ยหมิ่นสามีเก่าของเธอจะเดินทางกลับไปยังค่ายทหาร ก็มีรถม้าหรูหรามาจอดยังหน้าบ้านจาง มีหญิงสาวที่มีท่าทางร่ำรวยเดินลงมาจากรถม้าแล้วกล่าวว่านางเป็นเมียของจางฮุ่ยหมิ่น ทันทีที่นางกล่าวจบคนที่มุงดู รวมถึงคนบ้านจางก็ช็อคแทบสิ้นสติ ว่าเรื่องนี้เป็นมายังไงเหตุใดจางฮุ่ยหมิ่นถึงไปมีคุณหนูผู้ร่ำรวยคนนี้เป็นเมียได้ ไม่ใช่ว่าเขาก็เพิ่งจะหย่ากับเยว่อิงแล้วเขาก็เพิ่งเดินทางกลับบ้านคงเพิ่งจะทราบเรื่องหย่าด้วยซ้ำบางคนที่ได้สติก่อนก็รวบรวมข้อมูลแล้วคิดเรื่องนี่ได้อย่างรวดเร็ว ว่าเรื่องนี้แปลกๆจางฮุ่ยหมิ่นบุตรชายของนางจา
“ หึ! เจ้ามันแค่แม่หม้ายท้ายหมู่บ้านอย่าติดทระนงตนไปหน่อยเลย ” นางจางกล่าววาจาร้ายกาจออก“ แล้วอย่างไรเล่า? ข้าเป็นหม้ายแล้วไปเดือดร้อนอะไรพวกท่านอย่างนั้นหรือ?” “ เหอะ! เดือดร้อนหรือไม่ข้าก็เกลียดขี้หน้าคนอย่างเจ้าอยู่ดี แล้วเจ้าก็อย่าได้คิดฝันหวานว่าบุตรชายของข้าจะอยากได้นางแพศยาอย่างเจ้ากลับมาเป็นเมียอีก! ” นางจางพูดอย่างดูแคลน“ ท่านคิดว่าบุตรชายของท่านดีเด่จนข้าต้องอยากได้เขากลับมาเป็นผัวหรือ? ก็ไม่ ”“ ท่านแม่ พอเถอะขอรับ ” ฮุ่ยหมิ่นรีบพูดห้ามแม่ของตัวเองเพราะกลัวว่าจะเลยเถิดไปกันใหญ่แล้วภายภาคหน้าเขาจะมาง้อนางได้อย่างไรเล่า!“ น้องเล็ก จะให้ท่านแม่พอได้อย่างไร? เรื่องที่ข้าต้องมาเจ็บตัววันนี้ยังไม่ได้ค่าตอบแทนอันใดเลยนะ ” จางต้าเกินพูดออกมาอย่างหน้าไม่อาย“ หึ! ไม่ใช่ว่าน้องเล็กคิดอยากจะกลับมาจับนางแม่หม้ายผู้นี้หรอกกระมัง? ” สะใภ้ใหญ่พูดออกมาอย่างขบขัน แต่ทั้งหมดนี้ดันเป็นเรื่องจริงที่ฮุ่ยหมิ่นคิดกระทำ“ ข้า… ข้า จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไร! ” ฮุ่ยหมิ่นพูดออกมาอย่างอ้อมแอ้ม“ พวกเจ้าพอเถอะ จะเถียงกันเพราะเหตุใด ” พอเห็นว่าเป็นท่านพ่อพูดทุกคนก็เงียบทันควัน“ เชิญพวกท่านกลับบ้านไปไ
ปัง ปัง ปัง!“ นังเยว่อิง…นังตัวไร้ประโยชน์ออกมาเดี๋ยวนี้นะ! วันนี้ข้าจะตีพวกเจ้าให้ตาย ” นางจางทุบประตูจนเจ็บมือนางก็หาได้สนใจไม่ ทำเพียงทุบประตูแล้วก็ตะโกนวายวายต่อปัง ปัง ปัง!“ ข้าบอกให้ออกมาไง มัวแต่มุดหัวอยู่ในรู ให้มันเก่งเหมือนตอนที่กล้ามาทำร้ายบุตรชายของข้ากันสิ เหอะ! ”ภายในบ้านเยว่อิง“ เกิดอะไรขึ้น? ทำไมคนพวกนั้นถึงกล้ามาหาเรื่องพวกเราที่บ้านได้ ” เยว่อิงกล่าวถามด้วยสีหน้าสงสัย“เอ่อ… คือว่า ข้าถีบบุตรชายคนโตของพวกเขาตกรถม้าขอรับ ” เฟยหลงเอ่ยตอบเธออย่างอ้อมแอ้ม คล้ายระอายใจที่ก่อเรื่องมาให้เธอเสียได้“ ห๋า! เรื่องมันเป็นอย่างไรเจ้าเล่ามาให้ข้าฟัง ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าไม่มีนิสัยทำร้ายผู้ใดก่อนอยู่แล้ว ”“ หลังจากกลับมาจากขายผักที่เมืองข้าก็บังคับรถม้าผ่านบุตรชายคนโตของนางจางพอดี พอเจ้านั่นเห็นก็วิ่งตามรถมาพร้อมกับปีนขึ้นมารถม้า ข้าก็เลยหยุดรถม้าแล้วถีบเขาลงจากรถม้าขอรับ เจ้านั่นก็เลยจะโกนด่าทอข้าตามหลังมาแต่ข้าไม่ได้สนใจรีบบังคับรถม้ากลับบ้านทันที ข้าไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาให้กับนายหญิงภายหลังแบบนี้… ”“ เอาล่ะ เจ้าไม่ต้องคิดมาก แต่คราวหน้าคราวหลังหากคิดจะทำอะไรก็คิดไตร่ตรองให้ด
เช้าวันต่อมาหลังจากค่ำคืนแห่งความอบอุ่นผ่านพ้นไป ก็กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงทุกคนต่างช่วยกันขนผักใส่ตะกร้านำไปขึ้นรถม้าเพื่อเตรียมไปขาย ส่วนที่ผักที่ทางเหลาอาหารอื่นๆสั่งนั้น ทางเหลาแต่ละแห่งนั้นเธอได้ทำข้อตกลงว่าให้ทางเหลานำรถม้ามารับพวกผักที่นี่เอง จึงได้แต่ทำการขนตะกร้าผักขึ้นรถม้ากลับไปตั้งแต่ยามอิ๋น [03:00-04:59น.] แล้วเมื่อถึงยามเฉิน[07:00-08:59น.] ก็เสร็จสิ้นงานทุกอย่างเรียบร้อย แล้วช่วงนี้เธอก็ว่างเป็นอย่างมากเธอเลยได้แต่ใช้ชีวิตอยู่แต่ภายในรั้วบ้านเล่นกับซาลาเปาน้อย โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าตอนนี้สามีที่เธอไม่ต้องการได้กลับมาเสียแล้วทางด้านบ้านจาง“ ฮุ่ยหมิ่นกลับมาแล้วหรือลูก? ทำไมจะกลับไม่บอกแม่ก่อนเล่า ” นางจางเอ่ยถามลูกชายคนเล็กด้วยความคิดถึงคนึงหา“ ข้ากลับมาแล้วขอรับท่านแม่ พอดีข้าได้วันลาพักผ่อน3สัปดาห์น่ะขอรับเลยไม่ได้แจ้งท่านล่วงหน้า ” ฮุ่ยหมิ่นเอ่ยตอบผู้เป็นแม่อย่างนอบน้อม เขาเป็นคนที่กตัญญูต่อพ่อกับแม่มากไม่ว่าที่ผ่านมาภรรยาจะโดนด่าทอทุบตีมากแค่ไหนก็ไม่เคยคิดจะปริปากพูดสักคำ แต่ในทางกลับกันเยว่อิงกับมองว่าจางฮุ่ยหมิ่นคือผู้ที่เห็นแก่ตัวรักแต่ตัวเองไม่คิดปกป้องภรรยา
“ เอาล่ะ เดี๋ยวอีกสัก2-3 วันเจ้าก็นำผักพวกนี้ไปขายเถอะ ผักสดๆพวกนี้คงขายได้แพงนัก ” เธอเอ่ยบอกกับเฟยหลงในแคว้นเว่ยนี้พื้นที่เพาะปลูกนั้นปลูกได้ยากยิ่ง การจะกินผักที่สดนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย เธอจึงไม่แปลกใจที่เฟยหลงจะตกใจเรื่องที่ปลูกผักออกมาได้แถมยังภายในไม่กี่วันอีกด้วยหลังจากผ่านมาหลายสัปดาห์ตอนนี้รั้วก็ล้อมเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ไหนจะกิจการขายผักของเธออีกเรียกว่าทำเงินให้เธอเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีเหลาอาหารมาติดต่อขอซื้อผักสดกับเธอเป็นจำนวนหนึ่ง ซึ่งเธอก็ตอบรับหมด เพียงแต่เธอให้เฟยหลงทำการขุดพรวนดินเพื่อปลูกผักเพิ่มเป็นจำนวนมาก“ พวกเจ้าทั้งสามคนเป็นคนที่ข้าไว้ใจข้าถือว่าพวกเจ้าเป็นคนในครอบครัวของข้า…”เธอเอ่ยพูดกับพวกเขาด้วยความรู้สึกจากใจจริงๆ เนื่องด้วยตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ก็มีเพียงคนพวกนี้ที่คอยอยู่กับเธอมานานที่สุด ถึงจะเพราะเธอซื้อตัวพวกเขามาก็เถอะ แต่สิ่งที่เยว่อิงพูดมานั้นทำให้คนทั้งสามคนนั้นรู้สึกซาบซึ้งอย่างสุดหัวใจ พวกเขาทั้งสามคนก็รักและจงรักภักดีต่อเยว่อิงมาตลอด หากแต่ว่าเธอก็สามารถรับรู้ได้“ ข้ามีความลับบางอย่างที่ไม่ต้องการให้คนภายนอกรู้ อยากจะปิดบังแต่ก็ไม่อาจปิด
เยว่อิงได้ยินเสียงเกวียนก็เลยหันกลับไปมอง“ อ้าว ท่านหัวหน้าหมู่บ้านสวัสดีเจ้าค่ะ ” เมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงได้เอ่ยทักทายออกมา“ วันนี้ข้านำสัญญาซื้อขายอะไรมาให้เจ้า แล้วก็พาช่างมาหาเจ้าด้วย ” หัวหน้าพูดเพื่อคลายความสงสัยให้แก่เธอ“ อ้อ สวัสดีเจ้าค่ะท่านลุง ” เธอเอ่ยทักทายช่างที่จะมาทำรั้วบ้านให้“ สวัสดีๆ เจ้าเรียกข้าว่า ลุงหม่า ก็ได้ ” พูดออกมาอย่างใจดี“ เจ้าค่ะท่านลุงหม่า ”“ เชิญท่านหัวหน้าหมู่บ้านกับท่านลุงหม่าเข้ามาในบ้านก่อนเจ้าค่ะ ” เธอเอ่ยบอกกับทั้งสอง แล้วหันไปพูดกับเฟยหลงต่อ“ เฟยหลง เจ้าไปบอกลี่ซือทีว่าให้นำชากับของว่างมาให้แขกด้วย ” “ ขอรับ ” เฟยหลงพูดจบก็รีบเดินเข้าบ้านไปหาลี่ซือ“ เชิญเข้าบ้านก่อนเจ้าค่ะ ” เยว่อิงก็เดินนำทั้งสองคนไปยังห้องโถงทันที“ อืม ภายในรั้วบ้านร่มรื่นมาก บ้านเจ้าก็จัดได้เป็นอย่างดีจริงๆ ” ลุงหม่าเอ่ยชม พร้อมกับพยักหน้าพอใจ“ ขอบคุณเจ้าค่ะ เชิญพวกท่านนั่งลงก่อน ” เธอผายมือชักชวนให้ทุกคนนั่งลงหลังจากที่นั่งกันแล้ว ก็เริ่มคุยเรื่องงานกันทันที“ ก็ไม่มีอะไรมาก ที่พวกข้ามาวันนี้ก็เพื่อที่จะมาคุยรายละเอียดเรื่องการล้อมรั้วนั่นแหละ ” ลุงหม่าก็เริ่มเปิดเ
“ คนพวกนั้นไปแล้วขอรับ” หลังจากที่เฟยหลงออกไปดูก็ไม่มีใครอยู่แล้ว“พวกเจ้าคงสงสัยว่าคนพวกนั้นเป็นใครใช่หรือไม่” เธอเอ่ยถามทั้งสามคนคนทั้งสามก็ไม่ได้พูดตอบอะไร“ เอาล่ะ ข้าจะบอกให้พวกเจ้าได้รู้ คนพวกนั้นคือบ้านสามีเก่าข้าเองแต่ตอนนี้พวกเราตัดขาดไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกแล้ว ถ้าคนพวกนั้นมายุ่งพวกเจ้าก็ไล่ไปได้เลยไม่ต้องไปสนใจ ” ทั้งสามคนจดจำหน้าตาคนพวกนั้นได้เป็นอย่างดี แล้วก็พอจะคาดเดาได้ว่าคนพวกนี้เคยทำไม่ดีกับเจ้านายของตน ถ้าคนพวกนั้นยังมายุ่งวุ่นวายอีกเจอกันคราวหน้าพวกเขาทั้งสามคนจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น ซึ่งก็ได้แต่คิดอยู่ในใจสภาพร่างกายทั้งสามคนไม่ได้อ่อนแอเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากเธอนำน้ำวิเศษใส่โอ่งให้คนในบ้านได้ไว้ใช้ชำระล้างและดื่มกิน“ เฟยหลงเจ้าไปถางหญ้า ขุดดินพรวนดินไว้ข้าสักหน่อยเถอะ ข้าว่าจะปลูกผักเพิ่มอีกสัก2-3 ชนิด หากผักโตเยอะไม่ทันกินเราจะได้นำไปขายกัน ลี่อินเจ้าก็ไปช่วยเฟยหลงลงผักสักหน่อยสิ ““ ขอรับนายหญิง ” “ เจ้าค่ะนายหญิง ”“ ลี่ซือแล้วนี่ซินอี๋นอนแล้วหรือ? ” เธอพูดกับเฟยหลงกับลี่อินจบ ก็หันมาถามลี่ซือ“ ข้าอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อมให้คุณหนู พอชงนมอุ่มๆกล่อมนอนสักพั
เช้าวันต่อมาหลังจากที่เมื่อคืนกินมื้อเย็น เธอก็ให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน เมื่อเธอตื่นมาก็เห็นทุกคนตื่นมาทำงานบ้านกันเรียบร้อยแล้ว“ ทานข้าวเช้าเจ้าค่ะนายหญิง ” ลี่ซือเมื่อเห็นเธอก็รีบยกอาหารเช้าขึ้นมาวางเรียงบนโต๊ะอาหารทันที“ อืม พวกเจ้าก็มาทานข้าวเช้ากันก่อนเถอะ เพราะเดี๋ยวสายๆข้าจะไปติดต่อข้อซื้อที่ดินแล้วก็หาคนมาล้อมรั้วใหม่” เธอเอ่ยบอกแก่ทั้งสามคน“ ให้ข้าไปด้วยหรือไม่ขอรับ ” เฟยหลงเอ่ยถาม“ไม่ต้องหรอก ข้าไปคนเดียวก็พอ พวกเจ้าอยู่บ้านก็ดูลูกข้ากับบ้านให้ดีเล่า” “ ได้ขอรับ/เจ้าค่ะ ” หลังจากพูดคุยกันจบทุกคนก็ลงมือกินอาหารเช้ากันทันทีบ้านหัวหน้าหมู่บ้านก๊อก ก๊อก ก๊อก“ นั่นใครมาล่ะ รอสักครู่เดี๋ยวข้าจะไปเปิดประตูให้ ” เสียงเมียหัวหน้าหมู่บ้านตะโกนออกมา เธอก็ไม่ได้ตอบอะไรแค่ยืนรอเงียบๆ ไม่นานประตูก็เปิดออก“ อ้าว เยว่อิงหรอกรึ มาหาตาแก่ใช่หรือไม่? ” นางหลี่เอ่ยถามพร้อมกับทำสีหน้าสงสัย“ ใช่เจ้าค่ะ หัวหน้าหมู่บ้านอยู่หรือไม่เจ้าคะ ”“อยู่ๆ เจ้านั่งรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวข้าจะไปตามให้ ” พูดจบก็เดินเข้าไปในตัวบ้านรอไม่นานหัวหน้าหมู่บ้านก็ออกมา“ อ้าว เยว่อิงหรอกรึ มาที่นี่มีอะไรให้