ดาเนียที่เดินตามเข้าไปในห้องไม่ทันไรเลขาสองคนก็สลัดผ้าผ่อนเปลือยกายแล้วกระโดดรอเขาที่เตียงนอนทันที
"คุณแซ็คขาพายัยนี่มาทำไม มีแค่พวกเราสองคนยังไม่พออีกเหรอคะ" สาวผมสั้นเบะปากแล้วกวาดมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูถูก
"คนแบบนี้ไม่มีวันได้เทสงานหรอก ไม่ใช่สไตล์ของฉัน พวกเธอโดนใจกว่ามาก ฉันแค่พามาหาอะไรดูข้ามเวลา"
คิดว่าจะสลัดเธอออกจากชีวิตด้วยวิธีนี้สินะ ฝันไปเถอะเฮียแซ็ค เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดอย่างที่เขาคิด ถึงแม้เขาจะไม่เคยรู้เลยว่าเธอเคยเจอความบอบช้ำอะไรมาบ้าง
"จะทำอะไรก็ทำ!" เธอว่าแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ปลายเตียง สุริยะกระตุกยิ้มแล้วยืนค้ำหัวเธอ เขาสลัดผ้าต่อหน้าเธอออกจนหมด ดาเนียหลับตาทันทีที่เห็นความอล่างฉ่างจากเรือนกายแกร่งกำยำของเขา
"หลับตาทำไมล่ะ สู้ไม่ไหวแล้วเหรอ"
ยิ่งเขาท้าเธอก็ยิ่งต้องผ่านมันไปให้ได้ ดาเนียเปิดตาออกยิ้มแฉ่งราวกับว่าเธอไม่รู้สึกใด ๆ
"เชิญค่ะ!" เธอผายมือให้เขาไปเสพสังวาสกับเลขาสาวสองคนบนเตียง เขาโน้มตัวลงมาเท้าแขนสองข้างกับที่วางมือบนเก้าอี้ เพ่งมองเข้ามายังนัยน์ตากลมคู่สวยที่สุกสกาวเหมือนหมู่ดาวบนท้องฟ้า จนถึงกลับต้องรีบเบือนหน้าหนีก่อนที่จะเผลอจดจ้องดวงหน้านี้จนลืมกิจกรรมที่ควรทำ
"ดูให้จบล่ะ ถ้าดูไม่ไหวก็ไสหัวไปซะ"
เขาว่าแล้วก้าวขาขึ้นไปบนเตียงคุกเข่าลงต่อหน้าสองสาวแล้วเริ่มระดมจูบแลกลิ้นกันไปมานัวเนียผลัดกันแทะผิวแลกสัมผัสกันอย่างเพลิดเพลิน
"อ๊า...." สาวผมสั้นร้องครางเสียวเมื่อถูกริมฝีปากกระจับแดงของเขางับลงมาแล้วดูดกลืนยอดถันอย่างรุนแรง
ขณะที่นิ้วมือของเขาที่ว่างอยู่อีกข้างก็สอดแทรกเข้าไปใจกลางดอกไม้ของสาวผมยาวอีกคนจนเสียงครางผสานกันดังคับห้องจนผู้ชมอย่างเธอแทบจะหัวใจสลายภายในเสี้ยวนาที
กว่าจะรู้ตัวอีกทีเธอก็วิ่งออกมาจากห้องนั้นจนไกลแสนไกล สองขาในชุดเดรสเขวี้ยงรองเท้าส้นสูงกระเด็นไปยังพื้นถนน ทันใดรถยนต์ที่แล่นผ่านก็เหยียบรองเท้าแบรนด์เนมราคาแพงยับจนหมดสภาพยับเยิน
ดาเนียทรุดลงกับพื้นถนนน้ำตาร่วงหล่นเผาะ ๆ เธอมาทำอะไรที่นี่ เธอชอบคนแบบเฮียแซ็คไปได้ยังไง ทั้งที่เขาทำร้ายจิตใจเธอด้วยคำพูด ด้วยแววตาและการกระทำขนาดนั้น ทำไมโลกนี้มันถึงโหดร้ายกับเธอนัก
"คุณเนียครับเป็นอะไรไหมครับ"
ศิวดลที่กึ่งหลับกึ่งสัปหงกรอเจ้านายอยู่หน้าโรงแรมวิ่งเข้ามาดูหญิงสาวที่ทรุดกองร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่กับพื้นด้วยความเป็นห่วงก่อนที่เขาจะเหลือบมองขึ้นไปยังชั้นหกของโรงแรม และเห็นเจ้านายหนุ่มยืนมองดูอยู่ก่อนแล้ว สุริยะรีบสวมเสื้อผ้าชุดเดิมและหยุดกิจกรรมสวาททุกอย่างทันทีที่ดาเนียวิ่งออกไป
"เอ่อ..ไม่ค่ะเนียโอเค โอเคมากค่ะ ฮึก...ฮึก" ถึงจะบอกแบบนั้นแต่เธอก็หยุดสะอื้นไม่ได้ เธอหยัดตัวลุกขึ้นปาดเช็ดน้ำตาฉีกยิ้มให้กับลูกน้องของเฮียแซ็คไอ้คนใจโฉดพรรค์นั้น
"ให้ผมไปส่งที่บ้านไหมครับ เจ้านายคงจะอยู่ยันเช้า" ดาเนียรีบพยักหน้ารับ
"เนียไม่ชอบกลับบ้านค่ะ ไปส่งเนียที่อพาร์ทเม้นท์ของเนียได้ไหมคะที่นั่นมีสตูดิโอของเนียอยู่ติดกัน เนียว่าจะไปทำงานต่อค่ะ"
"จะตีสองแล้วเนี่ยนะครับ ทำงานต่ออีกเหรอ" ศิวดลร้องเสียงสูงแล้วเหลือบมองหน้าของสุริยะที่แอบมองลงมา เจ้านายของเขาไม่เคยใจร้ายกับใคร แต่ทำไมถึงใจร้ายกับคุณเนียเหลือเกิน
"เวลาเนียนอนไม่หลับก็จะลุกขึ้นมาทำงานตลอด วานคุณดลไปส่งเนียหน่อยนะคะ"
"ครับ ๆ ถ้าคุณเนียต้องการผมจะไปให้ครับ"
ศิวดลไปส่งดาเนียที่อพาร์ทเม้นต์หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณเขา และเกี่ยวรองเท้าส้นสูงที่พังเละปาทิ้งลงถังขยะ
"ขอบคุณนะคะที่มาส่ง"
"ยินดีครับ แล้วเรื่องงานเลขาคุณเนียจะเอาไงต่อครับ"
"ถึงเนียอยากทำ แต่ถ้าเจ้านายคุณดลไม่อยากให้เนียทำ เนียก็จะไม่ทำแล้วค่ะ เนียผิดเองที่ไปสมัครงานนั่นเล่น ๆ เพื่อรอเวลาตอบรับจากสถาบันแห่งหนึ่งอยู่ค่ะ"
"คุณเนียจะไปไหนครับ"
"นิวยอร์คค่ะ เนียจะไปเรียนเพิ่มเติมด้านธุรกิจแฟชั่นแล้วก็อยากหาประสบการณ์ที่นั่นสักสองสามปีค่ะ"
ฉิบหายแล้วไง! ศิวดลคิด เจ้านายทำให้ผู้หญิงคนนี้เสียใจขนาดไหน ถึงขนาดต้องหนีไปเมืองนอกเชียวหรือ แล้วสุริยะมืดทมิฬนี้มันจะทอแสงได้อีกครั้งไหมวะ เพราะนอกจากคุณดาเนียแล้วเขาก็มองไม่เห็นผู้หญิงคนไหนเลยที่จะทะลวงหัวใจดำ ๆ ของเจ้านายได้ดีเท่าผู้หญิงกล้าคนนี้
"แผนนี้อยู่ในหัวคุณเนียแต่แรกหรือเปล่าครับ" ดาเนียเงียบพลางใช้ความคิด
"เปล่าค่ะ ตอนแรกเนียคิดว่าจะอยู่ตื๊อเฮียแซ็คจนกว่าเขาจะยอมรับรักเนีย ฮ่าฮ่ามันดูเหลวไหลใช่ไหมคะ แต่ในเมื่อเขาแสดงออกว่ารังเกียจเนียขนาดนั้น เนียก็จะไปให้พ้น ๆ หน้าเขาค่ะ ยังไงฝากบอกเจ้านายของคุณดลด้วยนะคะว่าขอให้มีความสุข"
"คุณเนียไม่ลองตื๊อดูอีกหน่อยเหรอครับ เดี๋ยวผมช่วยเอง" ซวยแน่ถ้าเจ้านายรู้ว่าเขาพยายามเป็นพ่อสื่อพ่อชักให้สมหวังในรักครั้งใหม่กับคุณดาเนีย แต่ไม่ลองก็ไม่รู้แหละวะ เพราะคุณท่านแอบสั่งมาว่าให้ทำยังไงก็ได้รีบจัดการให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้เลิกไปนั่งกินนอนกินที่หลุมศพคนตายสักที
"เนียจะพยายามอีกครั้งก็ได้ค่ะ"
ศิวดมอมยิ้มแล้วรีบบันทึกเสียงการสนทนาของเขากับดาเนียไปให้สุริยะฟัง เขาเปิดเสียงสนทนาให้เจ้านายฟังผ่านลำโพงของร้านหนังสือใต้ดินที่มีเพียงหลอดไฟสีส้มประดับประดา ทั้งดูลึกลับและดูน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
"เห็นไหมครับคุณเนียชอบเจ้านายจริง ๆ นะ นายไม่เปิดใจดูหน่อยเหรอ" ศิวดลพยายามเกลี้ยกล่อม แต่พอดวงตาคมตวัดมองเหงื่อของเขาก็หยดแมะ ๆ ทันที
"มึงบังคับให้ใครชอบมึงได้ไหมล่ะ ถ้ามึงทำได้กูจะยอมเปิดใจให้ดาเนีย"
"งั้นเจ้านายก็ให้คุณเนียลองพยายามดูก่อนสิครับ"
"พยายามยังไง"
"ลองไปเดทด้วยกันดูไหมครับ ไปดูหนัง ไปกินข้าวด้วยกันอะไรก็ได้ที่นายเคยทำกับคุณพริ..." ศิวดลรีบตบปากตัวเอง สุริยะเลิกคิ้วสูงอย่างใช้ความคิด
"มึงโทรนัดตอนนี้เลย" ศิวดลยิ้มร่ารีบกดโทรหาดาเนียด้วยความดีใจ
"คุณเนียครับ คุณแซ็คจะนัดไปดูหนัง กินข้าวครับ คุณเนียสะดวกไหม"
"นัดจริงหรือเปล่าคะไม่ใช่จะแกล้งเนียอีกใช่ไหมคะ" เสียงหวานใสตอบมาอย่างรู้ทัน สุริยะเผลอกระตุกยิ้มเพราะความหัวไวของดาเนีย
"คุณเนียชอบดูหนังสไตล์ไหนครับ ผมจะจองตั๋วให้เลย"
"อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่หนังผีหนังสยองขวัญ"
หมับ!
โทรศัพท์ในมือของศิวดลถูกแย่งไป
"อย่าเรื่องมาก ถ้าเธอยังเรื่องมากฉันจะไม่ไปไหนกับเธอทั้งนั้น"
"เอ่อ....งั้นตามใจเฮียแซ็คก็ได้ค่ะอยากดูอะไรก็ดู" เธอรีบตอบรับเขาทันควัน ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจไม่ไปเดทกับเธอ
หญิงสาวที่สูงร้อยหกสิบกว่าเซนยืนแกว่งตัวในชดเดรสสายเดี่ยวลายสก็อตสีดำไปมาอยู่หน้าอพาร์ทเมนต์ ทันใดรถติดฟิลม์สีดำก็แล่นมาจอดเทียบท่า กระจกที่ลดลงมาทำให้เห็นแววตาโกรธเคืองได้อย่างชัดเจนเฮียแซ็คเคยคิดจะยิ้มกับเขาบ้างไหม หรือชาตินี้เขาทำเป็นอยู่หน้าเดียวเท่านั้น คือหน้าตึง!"จะขึ้นไม่ขึ้น" เขาถามแต่ไม่มองหน้าเธอ เดาได้เลยว่าเดทแรกนี้ของเธอกับเขานรกดลบันดาลเห็น ๆแต่พอเธอก้าวขาขึ้นรถไปได้ไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์จากทนายของพ่อก็โทรเข้ามา"ค่าอากริช อามีอะไรคะ""คุณหนูครับ นายท่านถูกยิงอาการสาหัสครับ คุณหนูต้องเดินทางไปอเมริกาพร้อมนายท่านด่วนเลยครับ" หัวใจของดาเนียแทบจะกลายเป็นเถ้าธุลี พอชีวิตเธอจะมีความสุขทีไรไฉนเล่ามันจึงเริ่มเน่าบูดทุกที เจ้ากรรมนายเวรของเธอกะจะไม่ยอมให้เธอได้มีความสุขบ้างเลยใช่ไหม"ตอนนี้เหรอคะ" เธอไม่อยากกระโตกกระตากให้คนด้านข้างรู้ เธอไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นทั้งนั้น แต่กระนั้นต่อให้เขารู้ก็คงจะไม่ได้รู้สึกเห็นใจเธออยู่ดี"ผมจองไฟลท์บินให้แล้วครับ เดินทางไปสี่ทุ่มคืนนี้ครับ ทีนี้คุณหนูก็อาศัยช่วงเวลานี้ไปเข้าเรียนสถาบันแฟชั่นที่โน่นเลยดีไหมครับ""ในเมื่อเนียอยู่ท
หญิงสาวเปลี่ยนชุดออกมาจากห้องลองชุดและเป็นชุดที่คล้ายกับเสื้อผ้ากันหนาว แถมยังมีโค้ทตัวยาวคลุมทับอีกที สุริยะเริ่มสงสัยหนักขึ้นที่ดาเนียทำตัวแปลก ๆ คล้ายกับจะรีบเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง"จะใส่ไปเลยเหรอ ไม่ร้อนหรือไง""ใส่เล่น ๆ เดี๋ยวก็ถอดค่ะ เนียไปจ่ายเงินก่อนนะคะ""ไม่เป็นไรฉันจ่ายเอง" สุริยะเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ แต่ดาเนียรีบซอยเท้าวิ่งมาประกบเขาจนหัวกระแทกกับแผ่นหลังกว้าง เขาตวัดตาขุ่นมามอง"คือขอโทษค่ะ จริง ๆ เฮียแซ็คไม่ต้องออกให้เนียหรอก เนียไม่อยากติดค้างใคร""พูดอะไรไร้สาระ" เสียงเข้มบอกแล้วเดินนำออกไปจากร้าน ไหล่เล็กห่อลู่เดินตามตัวลีบ จังหวะที่เดินผ่านร้านเครื่องประดับผู้ชายเธอก็สะดุดเข้ากับสร้อยข้อมือคู่รัก จึงแอบย่องเข้าไปซื้อโดยไม่ให้เขาเห็น เฮียแซ็คที่เดินฉับฉับนำไปที่รถถึงไม่เอะใจว่าเธอหายไปไหน เพราะเธอไม่สำคัญกับเขาเท่าไหร่เขาถึงได้เดินนำไปโดยไม่คิดจะรอเธอ แต่ก็ดีแล้วล่ะอย่ามาผูกพันอะไรกับเธอมากนักเลย อีกไม่กี่ชั่วโมงเธอก็จะไปแล้ว"ขอโทษนะคะที่เนียมาช้า โฮ่ยยเหนื่อยจัง" ดาเนียกระโดดขึ้นมานั่งข้างคนขับ แล้วทำลับลมคมในยัดถุงกระดาษห่อเล็กใส่ลงไปในกระเป๋าอย่างรีบร้อน"ไปไหนม
การกลั่นแกล้งและทำร้ายใครสักคนไม่ใช่กีฬา ไม่ใช่เกม แต่มันคือการทำลายหนึ่งชีวิตและคนที่ทำร้ายผู้อื่นด้วยวาจาและการกระทำ ก็ไม่มีวันเป็นผู้ชนะอยู่ดี-ฮาลาปัญ-******************3 ปีผ่านไปใจกลางเมืองนิวยอร์ก สาวผมยาวลอนสีน้ำตาลคาราเมลปั่นจักรยานโบกมือทักทายเพื่อนบ้านขณะที่หญิงสาวรีบเดินทางไปรับวุฒิการศึกษาด้วยจักรยานคู่ใจ หลังจากที่พ่อของเธอรักษาตัวร่วมเกือบหกเดือนและหายจนกลับมาแข็งแรงเหมือนคนปกติ เธอก็ส่งพ่อกับพี่เรน ลูกพี่ลูกน้องของเธอกลับไปเมืองไทย และเริ่มต้นชีวิตที่เมืองใหม่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่และเธอยาวนานมาร่วมสามปีเต็ม และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้เดินทางกลับไปประเทศที่เติบโตมาเป็นดาเนีย ประมะเมคินทร์"หนูเนียจะกลับแล้วเหรอจ๊ะ""ใช่ค่ะ" ป้าข้างบ้านเอ่ยทักขณะที่หญิงสาวกำลังลากกระเป๋าใบใหญ่ออกมาอย่างถูลู่ถูกัง"โชคดีนะหนู มีเวลาก็แวะมาเที่ยวที่นี่บ้างนะ""ได้เลยค่ะคุณป้า""คุณเนียครับรถพร้อมแล้วครับ" บอดี้การ์ดรุ่นลุงของพ่อที่เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนถูกส่งมาดูแลเธอตลอดสามปีนี้ และเขาก็เป็นทุกอย่างตั้งแต่งานครัว เย็บปักถักร้อย จนเธอแทบจะเป็นง่อยเลยทีเดียวระหว่างที่ใช้ชีวิต
สุริยะวางดอกกุหลาบขาวที่หลุมศพของพริมพลอยและฉีกยิ้มให้กับคนรัก วันนี้เขาพร้อมแล้วที่จะสารภาพบางอย่างที่เก็บไว้มาตลอดสามปี วันนี้ดาเนียกลับมาแล้วและเขาจะไม่ปล่อยเธอไปอีก เขาต้องรับจริง ๆ ว่าตัวเองเจ็บปวดและทรมานกับการรอคอยใบหน้าสดใสนั้น และทำได้เพียงส่งอรุณฉายไปตามเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ตามคำแนะนำของไอ้เรน"พริม ผมจะเริ่มต้นใหม่กับดาเนียแล้วนะ ผมเพิ่งรู้ตัวว่าโหยหาความอบอุ่นนั้นจากเขา ดาเนียกับคุณแตกต่างกันมาก คุณนั้นอ่อนหวาน เรียบร้อยแต่ดาเนียทั้งตลก สดใส และทำให้หัวใจของผมเต้นแรงเหมือนตอนที่พบกับคุณครั้งแรก ทว่ามันกลับทำให้ผมกระชุ่มกระชวยมากกว่าตอนพบกับคุณ หรือเพราะเธอเด็กกว่าไม่รู้ ผมกลายเป็นคนหลงรักเด็กไปซะแล้ว ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจผมนะพริม ผมไปก่อนนะพริม ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง"***************ฟากเดียวกันดาเนียที่หอบร่างสะบักสะบอมลงมาจากรถแท็กซี่ทรุดกองกับพื้นโชคดีที่อรุณฉายไม่อยู่เพราะเขาบอกว่าจะไปทำธุระข้างนอกและจะกลับมาตอนหัวค่ำ หญิงสาวเอาผ้าพันคอที่มีอยู่ในกระเป๋ามาคลุมใบหน้าและเดินลากขาที่อ่อนแรงกลับไปยังห้อง พอไขประตูเข้าไปเท่านั้นร่างของเธอก็ล้มลงปากอิ่มที่มีเลือดซิบที่มุมปากส
พิรุณตบบ่าสุริยะฝากให้เพื่อนซี้ดูแลดาเนียแทนเขา สุริยะทรุดตัวลงนั่งบนเตียงคอยใช้เจลประคบเย็นที่บริเวณหน้าผากที่บวมช้ำของดาเนีย ใบหน้าอิดโรยขยับส่ายไปมาราวกับกำลังฝันร้าย"ฮื้อ...อย่า อย่าทำฉัน โอ๊ย! เจ็บ เนียเจ็บ" เสียงละเมอเพ้อพบทำให้เขาถึงกลับอดกลั้นความเจ็บปวดนี้ไม่ไหว สองมือโอบประคองร่างกายอุ่นในห่อผ้าขึ้นมาแล้วโย้ร่างกายที่กระตุกวูบเพราะความฝันไปมาให้ผ่อนคลาย"เฮียอยู่ตรงนี้แล้วครับ เนียได้ยินไหม ถ้าได้ยินตามเสียงเฮียมานะ" เสียงกระซิบอุ่นที่รดคลอเคลียข้างใบหูปลุกเรียกให้ดาเนียตื่นจากฝันร้าย เปลือกตาหนักอึ้งปรือมองและเห็นดวงหน้าของเฮียแซ็คกำลังจดจ้องมองลงมา ไม่รู้ว่าเป็นภาพความฝันหรือความจริง แต่มือของเธออยากจะเอื้อมไปจับใบหน้าของเขา อยากสัมผัสเขาอีกสักครั้ง"เฮียแซ็คเหรอคะ" มือที่ใหญ่กว่าประคองมือเล็กขึ้นมานาบแก้มของตน ทันใดที่ถูกสัมผัสของเขาดวงตากลมก็เบิกโพลงด้วยความตกใจ เพราะนี่มันไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดไปเอง ไม่ใช่ความฝัน แต่คือความจริง"ทำไมตกใจเหรอ หืม....พูดหน่อยสิครับ" น้ำเสียงที่เขาใช้คุยกับเธอเปลี่ยนไป มันทั้งนุ่มนวลและอ่อนโยนอย่างน่าประหลาด แล้วเขายังเอาแต่ระดมจูบมือของเธอไ
ริมฝีปากกระจับยอมละออกอย่างเสียดายเพราะลมหายใจของดาเนียเริ่มติดขัด เสียงลมหายใจพ่นเข้าออกจนทำให้ทรวงอกในห่อผ้าขนหนูผืนสีขาวตัวสั้นยุบย่อเพื่อสูดเอาออกซิเจนเข้าไป "จะฆ่าเนียเหรอคะ" ดวงหน้าที่มีแต่รอยขีดข่วนเอ็ดเสียงใส เด็กนี่คิดว่าจูบจะทำให้ตายหรือไงกัน"มีใครเขาจูบกันแล้วตายบ้าง เด็กน้อยจริง ๆ " สุริยะส่ายหน้าหลุดยิ้มกับท่าทางติงต๊องของดาเนีย"ก็จูบกับเฮียแซ็คนั่นแหละ" นัยน์ตาหวานคมตวัดมาแล้วกดตัวของดาเนียให้นอนลง "จะ..จะทำอะไรคะ" มือยันแผงอกในเชิ้ตขาวไม่ให้ก้มลงมาประชิดกับอกของเธอ "จูบกับเฮียมีแต่จะคราง" ดาเนียผงะสายตาเลิ่กลั่ก "ไม่คราง" เธอเถียงกลับ เธอจะไม่ยอมครางเหมือนผู้หญิงพวกนั้นของเขาเด็ดขาด คิดทีไรก็โมโหและหัวร้อนไปหมด"ได้เดี๋ยวเฮียจะทำให้ครางดัง ๆ เลย" สิ้นเสียงผ้าขนหนผืนสั้นก็ถูกกระตุกออก ริมฝีปากดุระดมจูบไปทั่วผิวกายไล่ตั้งแต่ลำคอและเลื้อยต่ำลงมา"หยุดนะคะ.....อย่า" ที่เธอร้องอ้อนวอนเขาเพราะไม่อยากให้เขาเห็นบาดแผลที่ขาของเธอต่างหาก แผลนูนคีลอยด์นั่นที่โดนไม้ที่มีประตูฝังตีลงมาซ้ำ ๆ และครูดกับขาของเธอจนเกิดแผลฉกรรจ์ใหญ่ที่เกือบทำให้เธอเป็นบาดทะยักตายในวัยสิบเจ็ดปีสุร
ตอนนี้กลายเป็นว่าสุริยะตัวติดกับดาเนียไม่ยอมห่าง กลางวันก็หอบงานมาเฝ้าเธอที่อพาร์ทเม้นต์ จากที่เคยกินนอนอยู่ที่สุสานของแฟนเก่าที่เสียชีวิตไป แต่ ณ เวลานี้กลับเอาแต่จดจ้องน้องสาวของเพื่อนซี้จนตาแทบจะเป็นตะคริวนัยน์ตาหวานคมกริบกระพริบมองหญิงสาวที่อยู่ชุดเอี๊ยมกางเกงและสวมเสื้อครอปคอเต่าแขนกุดสีขาวครึ่งตัวไว้ข้างใน ขณะที่ดาเนียกำลังนั่งสเก็ตแบบเสื้อผ้าที่ห้องรับแขกอย่างตั้งอกตั้งใจ พอเธอชำเลืองมองดูเขา ชายหนุ่มที่เคยวางมาดหยิ่งผยองก็ตวัดมองไปทางอื่นอย่างไม่รู้ไม่ชี้ดาเนียหัวเราะคิกคักที่เธอทำให้คนตัวโตที่เคยพูดจาร้าย ๆ และทำตัวแย่ ๆ เปลี่ยนไปเป็นสุริยะฟรุ้งฟริ้งที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู เฮียแซ็คหนอเฮียแซ็คจะรู้บ้างไหมว่าเวลาที่เขาทำสายตาเลิ่กลั่งลุกลนเพราะถูกเธอจับได้ว่าเขากำลังแอบมองเธออยู่มันช่างเป็นภาพที่โคตรน่ารักและทำให้ใจทั้งสี่ห้องของเธอเปี่ยมด้วยพลังงานบวกสาวในชุดเอี๊ยมยีนส์เดินล้วงกระเป๋าเหมือนสาวห้าวเข้ามาหาคนที่พยายามก้มหน้าก้มตากลบเกลื่อนอย่างไม่เนียน"ไม่ทำงานทำการเหรอคะ แล้วเลขาร่านสวาทของเฮียล่ะ ไปอยู่ไหนซะแล้ว เนียอยากจะเจอสักหน่อย""อยากเจอทำไม" ทำทีเป็นถามแต่ไม่สบตา เพรา
ห้องพิสูจน์อักษร ภายในห้องดำมืดที่มีเถาวัลย์เลื้อยยื่นเข้ามาจนเต็มผนังกำแพง กลางห้องที่มีแสงส่องรำไรมีเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่สี่ตัว ไม่นานนักใครบางคนก็ถูกพาเข้ามา ซึ่งเป็นเสียงของผู้หญิงกลุ่มนึงที่ร้องโวยวายกึกก้องไปทั่วร้านหนังสือใต้ดินอันเงียบสงัดแห่งนี้ กระทั่งชายชุดดำลูกน้องเฮียแซ็คลากคอสาวสี่คนที่เธอคุ้นหน้าคร่าตาเป็นอย่างดีมานั่งบนเก้าอี้ไม้ ยัยกลุ่มจอมบูลลี่อริเก่าก็ชะงักงันในทันทีเมื่อเห็นเธอยืนอยู่เคียงข้างเฮียแซ็ค"แก๊! นังดาเนีย! ฝีมือแกเองเหรอ นังสวะ!....เผียะ!" หลังฝ่ามือของสุริยะฟาดจนใบหน้าของแยม หัวโจกตัวร้ายสะบัดหน้าหันไปอีกทาง หญิงสาวจอมกร่างค้อนดวงตากลับไปหามือตบร่างสูงโปร่ง แล้วแสยะยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว"ถ้ามึงยังพูดกับคนของกูแบบนั้นอีกรอบ คราวนี้มึงจะได้กินนี่เป็นอาหารค่ำ!" ใบหน้าที่ดุดันควักกระบอกปืนสีเงินออกมาแล้วกดแนบลงไปที่ขมับเพื่อข่มขู่ แต่ดูเหมือนว่าแยมจะไม่รู้สึกรู้สาหรือหวั่นใจ"ที่แท้แกมันก็เล่นหมาหมู่เหมือนกันนี่วะ นังเนีย!"หมับ! ปลายคางของแยมถูกมือใหญ่บีบจนแน่น "กูบอกให้หุบปาก!" สุริยะตวาดลงมาเสียงดัง"ไหนวะคนรังแกน้องกู" จู่ ๆ เสียงของพี่เรนก็ดังแล่บเข้า
ว่าที่คุณแม่ในชุดบิกินี่ทูพีชสีชมพูโอรสสองชิ้นกำลังแหวกว่ายไปมาอยู่ในสระว่ายน้ำชั้นบนสุดของบ้าน ทั้งที่เป็นคนที่ไม่ได้ชอบว่ายน้ำนัก แต่หลังจากวันนั้นที่เจอกับพี่แนท คำพูดที่บอกว่าจะแย่งเฮียแซ็คของเธอมันก็จุกอยู่ในอกตลอดเวลาบนโลกใบนี้อาจจะมีหลายสิ่งที่เธอหวาดกลัว มีหลายสิ่งที่ไม่กล้าเผชิญหน้า แต่สิ่งเดียวที่เธอไม่อาจสูญเสียให้ใครก็คือ พระอาทิตย์ดวงใหญ่ดวงนี้ สุริยะที่เคยมืดมิด แต่กลับเปล่งแสงเจิดจ้าอันอบอุ่นให้เธออยู่เสมอและใครจะยอมให้คนอื่นมาชุบมือเปิปแย่งของ ๆ เธอ ยังไงก็ไม่มีวันยอม ถ้าจะต้องแตกหักกับเพื่อนของพี่สาวเธอก็จะหักให้มันแหลกคามือ เธอเจ็บและทนให้เพื่อนสมัยเรียนรังแกมาเยอะแล้ว นับจากนี้หมดเวลาฟูมฟาย หมดเวลาด้อยค่าและดูถูกตัวเอง เธอจะลุกขึ้นมาฟาดและสู้กลับอย่างไม่ยอมแพ้"เนีย...ว่ายน้ำหรือแช่น้ำ เฮียนั่งรอเนียนานแล้วนะ" ชายหนุ่มที่เดินขึ้นมาถึงสระว่ายน้ำหยุดยืนดูอยู่พักใหญ่แต่ภรรยาก็เอาแต่เกาะขอบสระตัวนิ่ง เหม่อลอยไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาเดินเข้ามา"เอ่อ...กลับมาแล้วเหรอคะ ยินดีต้องรับกลับบ้านค่ะ แหะแหะ" ยิ้มแห้งเพราะไม่คิดว่าสามีจะกลับมาเร็ว และเธอก็อายที่จะลุกออกจากสระเพราะ
เนื่องจากดาเนียร่างกายอ่อนแอมากและอาเจียนหลายครั้ง สุริยะจึงสั่งห้ามเธอออกไปไหนและจ้างพยาบาลรุ่นป้าของโรงพยาบาลแพทย์สินธนปกรณ์ของหมอเอลวินมาดูแลภรรยา ส่วนเขารีบเข้าไปที่ร้านหนังสือลึกลับของตนเองเพื่อหารือเรื่องผังความสัมพันธ์อันซับซ้อนของ แนท ดาเรศ ซีอีโอสาวของบริษัทเครื่องจักรกลยักษ์ใหญ่ที่สืบสาวราวเรื่องไปมาหล่อนดันมีหุ้นส่วนอยู่ในบริษัทของเขมทัต วัชรกาญจน์ ฆาตกรที่สั่งฆ่าพริมพลอย อดีตแฟนสาวเมื่อได้รับรู้ว่าทั้งสองคนเคยรู้จักกันเขาก็ไม่แปลกใจเลยว่า นี่อาจจะเป็นข้อเสนอยืมมือของดาเรศมาใช้จัดการดาเนียกับตนเองแต่มีหรือที่เขาจะปล่อยให้พวกมันข่มเหงและหยามเหยียดโดยที่ไม่ทำอะไรเลย แต่เขาจะปล่อยให้พวกมันคิดไปก่อนว่าคนแบบสุริยะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เมื่อมันชะล่าใจเมื่อใดเขาจะตะครุบรวบทั้งแก็งในคราเดียวใบหน้าคมนิ่งขรึมรีบออกจากร้านหนังสือและคอยดูกล้องวงจรปิดที่ให้อรุณฉายแอบติดตั้งไว้รอบบริเวณบ้านเพื่อคอยสอดส่องความปลอดภัยของภรรยา เขาหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นเจ้าสุรีย์ ลูกหมาที่เริ่มตัวใหญ่ขึ้นคอยคลอเคลียเลียเอาใจสุดที่รักของเขาไม่ห่างกาย"ทำดีมากสุลูกพ่อ พ่อกลับไปจะทำของอร่อยให้กินไม่อั้นเลย" อม
หลังจากงานศพของพ่อสามีผ่านพ้นไปได้เกือบหนึ่งสัปดาห์ ทั้งดาเนียและสุริยะต่างก็เคลียร์งานของตนเองให้เสร็จเพื่อหวังว่าจะได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดและไปสวนสัตว์ด้วยกันอย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ระหว่างที่ดาเนียเลือกซื้อของอยู่ที่ร้านเบเกอรี่ข้างทาง ลูกค้าอีกคนที่ผลักประตูเข้ามาในร้านก็ทำให้เธอถึงกับตัวแข็งค้างเพราะบุคคลดังกล่าวคือพี่แนท พี่สาวของนิ้งที่เคยทั้งตบทั้งด่าทอเธอสารพัด และกล่าวหาว่าเธอเป็นต้นเหตุให้นิ้งน้องสาวคนเดียวที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย เกือบตายและเอาชีวิตไม่รอด ซึ่งพี่แนทเป็นคนเดียวที่เธอรู้สึกแย่ทุกครั้งที่พบหน้ากัน เพราะพี่สาวพื่อนเคยใจดีกับเธอมาก แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายพี่แนทก็แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่ารังเกียจเธอ"กลับมาจากต่างประเทศแล้วเหรอ" ไม่รู้ว่าพี่แนทรู้เรื่องนี้ได้ยังไง แต่มือที่กำลังรับถุงขนมจากพนักงานที่คาน์เตอร์มันกำลังสั่นเทิ้มไปหมด"เอ่อ...ค่ะกลับมาได้หลายเดือนแล้วค่ะ" ตอบเสียงสั่นเครือหลุบตามองพื้นไม่กล้าสบตา"ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าพี่แนทเข้ามาในร้านขนมนี้ไม่ใช่เพราะความบังเอิญแต่เพราะรู้ตั้งแต่แรกแล้ว
ในวันงานเผาศพ เขาตัดสินใจไปร่วมงานศพของบิดาเพื่อส่งเป็นครั้งสุดท้าย ในแววตาที่หม่นหมองนั้นเปี่ยมด้วยความบอบช้ำแต่เมื่อมือน้อยอบอุ่นที่กุมกระชับมือใหญ่ กระแสความอบอุ่นก็แล่นพล่านเกาะกุมไปทั่วใจและกาย เขาพยายามปลงและปล่อยวางและมองข้ามผ่านว่ามันเป็นเรื่องของสัจธรรม เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกคนล้วนแต่ต้องพานพบประสบเจอทั้งนั้นทว่าเขาก็แค่พบเจอมันบ่อยครั้งมากกว่าทุกคน แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีดาเนียอยู่ชิดใกล้ คอยเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดให้กับเขา ชีวิตนี้เขาก็ไม่ต้องการความทะเยอทะยานใด ๆ อีกแล้วชายหนุ่มในชุดสูทสีดำสนิทเตรียมเดินกลับไปที่รถแต่เหล่าวงศาคณาญาติก็กรูกันเข้ามาขวางหน้า และป้าคนหนึ่งก็ถือแก้วน้ำมาคล้ายกับจะสาดใส่หน้าของสามีเธอ"เฮียระวังค่ะ"สาด!!ดาเนียเข้ามาขวางหน้าของชายหนุ่มทันเวลาจึงทำให้น้ำในแก้วสาดเข้ามาที่หน้าของเธอเต็ม ๆ"เนีย!!" คิ้วหนากระตุกโกรธเคืองที่ป้าของตน"ไม่เป็นไรค่ะ" หันไปตอบด้วยสีหน้าที่สดใสแล้วกระชับมือของสามีรั้งให้เขาไปยืนอยู่ด้านหลัง เมื่อก่อนเธอเคยถูกเพื่อนในโรงเรียนกลั่นแกล้งจนเกือบตาย อีกทั้งเพื่อนคนหนึ่งก็ปกป้องเธอจนแทบสิ้นลมหายใจ มันเป็นบทเรียนอันยิ่งใหญ่ที่
เพราะอาเจียนเกือบทั้งวันทั้งคืนดาเนียจึงบอกให้สามีมานอนอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี เพราะบรรยากาศด้านบนนี้ค่อนข้างโปร่งโล่งสบายมากกว่าห้องนอนใต้ดินชั้นล่างอันลึบลับของเขา ถึงแม้เช้านี้เขาจะอาการดีขึ้นและนั่งตักโยเกริต์ผลไม้ที่โรยธัญพืชเข้าปากได้ และยามที่ภรรยาโอบกอดเขาไว้หลวม ๆ ก็เหมือนกับยาดมแก้คลื่นเหียนเวียนหัว เพราะกลิ่นกายของดาเนียนั้นมีทั้งความหอมเย็นและสดชื่นทำให้หัวที่หนักอึ้ง เบาหวิวดังปุยนุ่นจนอยากให้แม่ของลูกกอดเขาอยู่แบบนี้"เดี๋ยวก่อนค่ะ" เขาตะครุบเธอกลับแล้วเอาจมูกซุกเข้าไปที่กลางเนินอก "หอมจัง หอมมาก" อ้อนแล้วพยายามเอาหน้าถูไถไปมาเหมือนเด็กชายสามขวบ"เฮียเป็นเอามากนะเนี่ย" ดาเนียบ่นแต่ก็ลูบแผ่นหลังปลอบโยน เพราะเธอเองก็ชอบใจที่เขาดูน่ารักนุ่มนวล"วันนี้จะไปไหนคะ มีงานหรือเปล่าให้เฮียขับรถไปส่งไหม หรือว่าอยากไปเดินตลาดนัดคลองถมกับเฮียไหม เฮียจะไปซื้อวัตถุดิบมาทำของอร่อย ๆ ให้เนียกิน"เธออ่านนิยายมาตั้งหลายเรื่องไม่เคยพบเจอมาเฟียประเภทเฮียแซ็ค ที่เอะอะก็ชวนไปจ่ายตลาดไม่ก็ชวนไปเดินตลาดนัดคลองถม ปกติมาเฟียที่เธอเคยพบเจอต่างก็พาไปกินหรูอยู่แพงกันทั้งนั้น ยกเว้นตาคนนี้"แล้วเฮียไม่เหม
เพลงของวง Paper Planes เปิดดังลั่นบ้านลั่นช่องขณะที่มาเฟียหัวป่าก์กำลังยืนรอพิซซ่าโทสต์ในเตาอบระหว่างรอนั้นชายหนุ่มจึงถูบ้านข้ามเวลาเพื่อรอภรรยาตื่นนอน ดาเนียที่ขึ้นมาจากห้องนอนใต้ดินเกาหัวมองสามีที่อารมณ์ดีมากเป็นพิเศษหรือเพราะเมื่อวานพอเธอรับปากว่าจะมีลูกให้ถึงสี่คน เฮียแซ็คก็เลยดีดตั้งแต่เช้าตรู่"เฮียอารมณ์ดีเกินไปไหม....แล้ววันนี้ทำอะไรกินคะ กลิ่นหอมออกมาจากเตาเลย" ดาเนียชะโงกหน้าดูขนมปังพิซซ่าที่หมุน ๆ อยู่ในเตาอบอย่างใจจดจ่อ พอเสียงติ๊งดังขึ้นหญิงสาวก็รีบสวมถุงมือเตาอบแล้วอาสานำออกมาเรียงใส่จาน เดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำส้มใส่แก้วให้พ่อบ้านที่กำลังถูพื้นไปร้องเพลงไป"มาแล้วครับ" สุริยะวิ่งเอาไม้ม๊อบไปเก็บขณะเดียวกันสุรีย์ก็พยายามกระโดดดึ๋งดั๋งอยากรู้อยากเห็นว่าบนโต๊ะอาหารมีอะไรให้กินบ้าง ด้วยความสงสารเจ้าลูกหมาเขาแอบชำเลืองมองเล็กน้อยแล้วฉีกพิซซ่าโทสต์ยื่นใส่ปากสุรีย์แบบเนียน ๆ"เนียเห็นนะคะ ถ้าเฮียตามใจสุรีย์แบบนั้นต่อไปสุรีย์จะดื้อแล้วก็ไม่ฟังเฮียอีกนะคะ" นัยน์ตาขุ่นมองสามีแล้วจิบน้ำส้มหรี่สายตาไม่ไว้ใจส่งให้ ชายหนุ่มหัวเราะแห้งแล้วรีบกินโทสต์ในจานโดยไม่โต้แย้งภรรยา"กินเยอะ ๆ ค
หญิงสาวนั่งอ่านหนังสือในห้องของชายหนุ่มไปจนถึงเที่ยงคืนแล้วผลอยหลับไปด้านข้างมีรูปใบเก่าวางอยู่ทำให้เจ้าของบ้านที่เดินตามหาหยิบรูปดังกล่าวขึ้นมาแล้วจัดการโยนใส่เตาผิงไฟในห้อง ความร้อนและเสียงสะเก็ดไฟปลุกเรียกให้คนที่นอนหลับอยู่ตื่นขึ้นและรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่นอนอยู่ที่พื้นไม้เย็น ๆแต่กลับนอนอยู่บนตัวของสามี เขานอนเหยียดตัวยาวไปอยู่บนโซฟาหน้าทีวีในห้องนั่งเล่นและเธอก็นอนทับอยู่บนตัวเขาอีกที จังหวะที่จะขยับลุกหนีมือของเขากลับโอบรัดไม่ยอมให้จากไป"จะไปไหน"ถามมาได้ว่าจะไปไหนก็ไปให้พ้นหน้าจากคนใจไม้ไส้ระกำหน่ะสิ"เนียจะกลับไปอยู่อพาร์ทเม้นต์ หรือไม่ก็กลับนิวยอร์ก" ประโยคที่เต็มด้วยความน้อยใจทำให้ตาของเขาสว่างขึ้นในพริบตา"เฮียไม่ไห้ไป" ลุกขึ้นรีบรัดเธอด้วยสองแขนดาเนียแอบอมยิ้มที่มุกจะหนีไปจากเขาได้ผล ถึงเธอจะแค่ขู่แต่ก็ไม่กล้าทำจริงหรอก"เนียจะไปหนีไปให้ไกล ๆ จากคนบ้าคนงี่เง่าเต่าตุ่นแบบเฮีย"ทำท่าทางสะบัดแขนที่โอบรอบตัวออก เขาจึงยอมคลายแล้วพลิกตัวให้หันมาสบตาดันหลังคอคนที่กำลังสะดีดสะดิ้งเข้าไปรับจุมพิตดุดันด้วยความใจร้อน"อื้อ....." จูบประดุจจะฆ่าชีวิตเดียวที่มีของเธอมันทั้งหนักหน่วง
"เฮีย...แม่ยุงลายอะไรนั่นเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงได้ทำหน้าเหมือนอยากกินเฮียเหลือเกิน เฮียต้องระวังตัวนะคะ" จับมือของเขามากอบกุมแล้วลูบไล้ไปมาบนแหวนทังเสตนสีดำที่ด้านในสลักชื่อดาเนียเฮียแซ็ค บ่งบอกถึงสัญญาใจที่มีต่อกัน"เขาชื่อเรไรไม่ใช่ยุงลาย อีกอย่างคนแบบเฮียไม่ต้องระวังใครหรอก ระวังเนียคนเดียวก็ปวดหัวใจแย่แล้ว""ฮะ...เนียมีอะไรต้องระวังกันคะ เฮียพูดให้ดีนะคะ...หึ!" ด้วยความหมันไส้จึงเผลอยื่นมือไปบีบก้นสามีอีกรอบต่อหน้าพนักงานเสริฟ์ที่เดินถือถาดเครื่องดื่มเข้ามา เขาผงะเล็กน้อยมองชายหญิงที่กำลังลวนลามกันอยู่ที่มุมห้องจัดเลี้ยง"ก้นเฮียมันมีอะไรดีนักหนาเหรอสาวน้อย" ยืนเฉยและปล่อยให้เมียขยำต่อไปอย่างที่ชอบ ขณะที่มือสองข้างผลักแผ่นหลังเปลือยเข้ามาแนบ ก้มลงดวงหน้าฉาบเครื่องสำอางสวยเผ็ด"ก็บั้นท้ายเฮียทั้งแน่นฟิตเด้งแล้วก็มี...ขี้แมลงวันด้วยเม็ดนึง เซ็กซี่เป็นบ้าเลย" ตาลุกวาวเพิ่งรู้ว่าที่ก้นตัวเองนั้นมีขี้แมลงวันอยู่ด้วย ปากกระจับคมเหยียดยิ้มเกลี่ยแก้มใส"ปากหวานจัง ขอเฮียชิมหน่อยได้ไหม" วิงวอนแล้วแตะลงที่ริมฝีปากล่างที่ฉ่ำวาวด้วยลิปกลอส"กลับบ้านก่อนสิคะ" แตะที่กลีบปากสวยของเขา"ก็ได้กลับ
หลังจากที่คู่รักหวานชื่นกลับมาถึงบ้านได้ไม่กี่ชั่วโมงพ่อบ้านศิวดลก็เข้ามาแจ้งข่าวว่าพรุ่งนี้จะมีการจัดงานเลี้ยงหรูรวบรวมเหล่าบริษัทพันธมิตรด้านการผลิตอาวุธหนักเข้าไปหารือและสร้างคอนเนคชั่นร่วมกัน สุริยะยิ้มกริ่มเพราะตนนั้นจะได้เจอกับเรไร เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อของอดีตแฟนสาวที่เขายังไม่ได้สะสางบัญชีแค้น"สุรีย์แม่คิดถึงหนูจังเลย" ชายหนุ่มชำเลืองมองหน้าของภรรยาที่กำลังก้มลงฟัดเจ้าลูกหมาตัวดำ นึกแล้วเขาก็อยากเป็นเจ้าสุรีย์ขึ้นมาได้เป็นหมาแล้วถูกเมียฟัดเมียหอมแบบนั้น คงจะฟินน่าดู"เนียรินน้ำชาให้เฮียหน่อยสิ" เขากวักมือชูถ้วยชาในมือที่หมดแล้ว หญิงสาวยิ้มมุมปากรีบคว้าเอาปั้นชาที่ตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวตรงมาหาสามีโดยไม่ปฏิเสธ"น้ำชาค่ะตาแก่" ดาเนียรินน้ำชาอู่หลงกลิ่นหอมลงในถ้วยชา ดวงตาคมหลุบมองท่าทางที่นุ่มนวลก็เผลอนึกย้อนไปถึงเมื่อเช้าที่จัดเมียในห้องอาบน้ำจนลืมไปว่าเธอท้องลูกคนแรกอยู่"เพลียไหม" เขาถามและจิบน้ำชาอุ่นกระพริบตาปริบ ๆ"เพลียอะไรคะ.....อ๋อที่เฮียกระแทกเนียเมื่อเช้าอ่ะเหรอ" พรวด!!!"แค่ก....แค่ก" น้ำชาในปากพ่นออกมาใส่หน้าดาเนียจนเลอะเทอะ"โอ๊ย...ตาแก่นี่เนียเปื้อนหมดเลย กินภาษาอ