หญิงสาวที่สูงร้อยหกสิบกว่าเซนยืนแกว่งตัวในชดเดรสสายเดี่ยวลายสก็อตสีดำไปมาอยู่หน้าอพาร์ทเมนต์ ทันใดรถติดฟิลม์สีดำก็แล่นมาจอดเทียบท่า กระจกที่ลดลงมาทำให้เห็นแววตาโกรธเคืองได้อย่างชัดเจน
เฮียแซ็คเคยคิดจะยิ้มกับเขาบ้างไหม หรือชาตินี้เขาทำเป็นอยู่หน้าเดียวเท่านั้น คือหน้าตึง!
"จะขึ้นไม่ขึ้น" เขาถามแต่ไม่มองหน้าเธอ เดาได้เลยว่าเดทแรกนี้ของเธอกับเขานรกดลบันดาลเห็น ๆ
แต่พอเธอก้าวขาขึ้นรถไปได้ไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์จากทนายของพ่อก็โทรเข้ามา
"ค่าอากริช อามีอะไรคะ"
"คุณหนูครับ นายท่านถูกยิงอาการสาหัสครับ คุณหนูต้องเดินทางไปอเมริกาพร้อมนายท่านด่วนเลยครับ" หัวใจของดาเนียแทบจะกลายเป็นเถ้าธุลี พอชีวิตเธอจะมีความสุขทีไรไฉนเล่ามันจึงเริ่มเน่าบูดทุกที เจ้ากรรมนายเวรของเธอกะจะไม่ยอมให้เธอได้มีความสุขบ้างเลยใช่ไหม
"ตอนนี้เหรอคะ" เธอไม่อยากกระโตกกระตากให้คนด้านข้างรู้ เธอไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นทั้งนั้น แต่กระนั้นต่อให้เขารู้ก็คงจะไม่ได้รู้สึกเห็นใจเธออยู่ดี
"ผมจองไฟลท์บินให้แล้วครับ เดินทางไปสี่ทุ่มคืนนี้ครับ ทีนี้คุณหนูก็อาศัยช่วงเวลานี้ไปเข้าเรียนสถาบันแฟชั่นที่โน่นเลยดีไหมครับ"
"ในเมื่อเนียอยู่ที่นี่ก็ไม่มีความหมายกับใคร ดังนั้นการไปที่อื่นก็น่าจะดีกว่าค่ะ งั้นเนียจะรีบเตรียมตัวนะคะ อ้อเนียฝากให้แม่นมปีปเตรียมพวกเอกสารในการเดินทางด้วยนะคะ เนียจะไปตามนัดคืนนี้ ขอให้เนียใช้เวลาที่นี่ให้นานที่สุดได้ไหมคะอากริช"
"ยินดีครับคุณเนีย คุณเนียเต็มที่ให้สุดเหวี่ยงไปเลย ก่อนจะต้องไปอยู่ที่โน่นอีกนานแล้วเจอกันครับ"
เมื่อได้ยินว่าเธอจะเตรียมตัวเดินทางไปไหนอะไรสักอย่าง ใบหน้าดุดันจึงปรายตามองอย่างสงสัย และสังเกตเห็นว่าดวงหน้าที่สดใสเมื่อสักครู่อาบเคลือบไปด้วยความโศกเศร้า เป็นใบหน้าแบบเดียวกันในวันนั้นที่เขาเห็นที่โรงแรม
"ถึงแล้ว" เขาบอกแล้วเดินนำเธอไป ดาเนียเดินตามไปไม่พูดอะไร ตอนนี้เธอหวาดหวั่นไปหมดกลัวว่าจะเสียพ่อไป ถ้าเกิดพ่อเป็นอะไรไป ชีวิตนี้เธอจะเหลือใครอีก แล้วใครเล่าจะอยู่ยินดีกับความสำเร็จของเธอ
ดวงหน้าเล็กนั่งกระพริบตาปริบ ๆ ดูหนังสยองขวัญในโรงหนังส่วนตัวที่มีแค่เธอกับเฮียแซ็ค นัยน์ตาที่เต็มด้วยความสับสน กังวล และกลุ้มใจ เสมองใบหน้าหล่อคมคายที่นั่งดูหนังผีตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์
ตึ้ง!!!
เสียงเอฟเฟกต์ในภาพยนตร์ในช่วงเวลาที่ปีศาจโผล่มาทำให้ดาเนียผู้กลัวผีและความมืดเข้าขั้นเหงื่อแตกเต็มใบหน้า มือของเธอชุ่มโชกด้วยเม็ดเหงื่อจนเปียกชื้น และรู้สึกหนาวขึ้นมาจับขั้วหัวใจ พลันเหตุการณ์ที่เธอถูกเพื่อนสมัยม.ปลายหลอกไป แถมยังทุบตีเธอจนสะบักสะบอม และมีรอยแผลเป็นนูนใหญ่ที่ขาอ่อนด้านใน และคนพวกนั้นก็ปล่อยเธอทิ้งไว้ที่ตึกร้างคนเดียวก็แว่บเข้ามาในโสต
"ฮื้อ.." เสียงร้องครางเพราะความกลัวดังขึ้นข้างหูของสุริยะ มือที่ซีดเซียวยกขึ้นปิดหูสองข้างก้มหน้าก้มตาไม่ยอมดูหนังต่อ เอาแต่หลับตาปี๋ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
สุริยะตวัดมองคนด้านข้างที่กำลังสั่นระริก และพอเสียงเอฟเฟกต์ที่ชวนหดหู่ดังขึ้นอีกระลอกสองขาเรียวก็ลุกแล้ววิ่งหนีออกไปจากโรง เขาวิ่งตามดาเนียออกไปแล้วเห็นว่าเธอวิ่งเข้าไปในห้องน้ำหญิง เขารอเธออยู่นานจนกระทั่งเธอเดินออกมาด้วยสภาพหน้าตาเปียกชุ่ม นัยน์ตาแดงก่ำ ผิวแก้มใสขาวเปล่งปลั่งระเรื่อเป็นสีอมชมพู
"เอ่อ...คือขอโทษนะคะเนียกลัวผีมากไปหน่อยค่ะ ก็เลยทนดูต่อไม่ไหว"
เขารู้ว่าเธอโกหกเพราะเธอหลบสายตาเขาระหว่างที่กำลังอธิบาย เขาเป็นถึงผู้ได้รับว่าจ้างจากลูกค้าหลายรายให้ตามสืบคดีและธุรกิจสีเทาดำ และบางครั้งก็ได้รับเคสที่จ้างวานให้ปลิดชีพคน แล้วทำไมเขาจะเดาไม่ออกว่าผู้หญิงตรงหน้ากำลังปิดบังซ่อนเร้นบางสิ่งอยู่
"หิวหรือเปล่า" ไหน ๆ ก็มาเดทแล้ว จะพาไปส่งทั้งที่สภาพหน้าตาของยัยเด็กนี่มอมแมมแบบนี้ เดี๋ยวใคร ๆ จะหาว่าเขารังแกเด็ก
สเต็กหมูรสเลิศถูกจิ้มใส่ปากของดาเนียจนแก้มป่อง เมื่อกี้ยังกลัวหนังผีจนหน้าซีดอยู่เลยแต่พอเจอของกินเท่านั้นกลายเป็นคนละคนในพริบตาเดียว
"ม่ายกินเหยอคะ" เพราะเคี้ยวสเต็กจนเต็มปากทำให้คำถามนั้นไม่ได้เป็นรูปประโยคสักเท่าไหร่ สุริยะหั่นสเต็กใส่ปากของตนไม่พูดไม่จาเอาแต่ขบคิดว่าเด็กนี่เป็นอะไร แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกเป็นห่วง ทำไมต้องมาจิตตกคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องของดาเนีย "อ้ะ...เนียสั่งให้ค่ะ" ไอศกรีมรสรัมเรซิ่น ซึ่งเป็นรถโปรดของเขาถูกพนักงานเสิรฟ์วางลงตรงหน้า
"รู้ได้ไงว่ากินรสนี้" เอ่ยถามขณะเคี้ยวสเต็กในปาก แล้วชำเลืองมองใบหน้าที่กำลังตักรัมเรซิ่นรสโปรดของเขาใส่ปากอย่างคนอดอยากปากแห้ง แถมไอศกรีมยังเลอะขอบปากจนดูไม่ได้ "ค่อย ๆ กินได้ไหม กินมูมมามอย่างกับหมู" สุริยะบ่นแล้วยื่นนิ้วไปเกลี่ยเช็ดขอบปากที่อวบอิ่มอย่างลืมตัว
ดาเนียผงะ เขาเองก็ชะงักงันไม่รู้ว่าตนนั้นเผลอไผลทำสิ่งที่ขัดแย้งกับคำพูดของตนออกไป ก็มือมันไปก่อนใจคิดนี่หว่า เขาไม่ได้อยากจะเช็ดให้สักหน่อย หญิงสาวอมยิ้มแล้วก้มหน้าก้มตากินต่อคราวนี้เธอค่อย ๆ กินอย่างเรียบร้อย เพราะไม่อยากถูกเฮียแซ็คบ่นอีกครั้ง
"อ้อ...เมื่อกี้ถามว่าเนียรู้ได้ไงว่าเฮียแซ็คชอบ เนียเห็นสัมภาษณ์ในเน็ตของเฮียแซ็คค่ะก็เลยทราบ"
"อืม"
"เฮียแซ็ค...พาเนียไปซื้อของได้ไหมคะ รบกวนหรือเปล่า"
"ตามใจ"
ดาเนียฉีกยิ้มอย่างน้อยนี่ก็เป็นเดทแรกในชีวิตของเธอ และก็จะเป็นครั้งสุดท้ายของเธอเช่นเดียวกัน
หญิงสาวเปลี่ยนชุดออกมาจากห้องลองชุดและเป็นชุดที่คล้ายกับเสื้อผ้ากันหนาว แถมยังมีโค้ทตัวยาวคลุมทับอีกที สุริยะเริ่มสงสัยหนักขึ้นที่ดาเนียทำตัวแปลก ๆ คล้ายกับจะรีบเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง"จะใส่ไปเลยเหรอ ไม่ร้อนหรือไง""ใส่เล่น ๆ เดี๋ยวก็ถอดค่ะ เนียไปจ่ายเงินก่อนนะคะ""ไม่เป็นไรฉันจ่ายเอง" สุริยะเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ แต่ดาเนียรีบซอยเท้าวิ่งมาประกบเขาจนหัวกระแทกกับแผ่นหลังกว้าง เขาตวัดตาขุ่นมามอง"คือขอโทษค่ะ จริง ๆ เฮียแซ็คไม่ต้องออกให้เนียหรอก เนียไม่อยากติดค้างใคร""พูดอะไรไร้สาระ" เสียงเข้มบอกแล้วเดินนำออกไปจากร้าน ไหล่เล็กห่อลู่เดินตามตัวลีบ จังหวะที่เดินผ่านร้านเครื่องประดับผู้ชายเธอก็สะดุดเข้ากับสร้อยข้อมือคู่รัก จึงแอบย่องเข้าไปซื้อโดยไม่ให้เขาเห็น เฮียแซ็คที่เดินฉับฉับนำไปที่รถถึงไม่เอะใจว่าเธอหายไปไหน เพราะเธอไม่สำคัญกับเขาเท่าไหร่เขาถึงได้เดินนำไปโดยไม่คิดจะรอเธอ แต่ก็ดีแล้วล่ะอย่ามาผูกพันอะไรกับเธอมากนักเลย อีกไม่กี่ชั่วโมงเธอก็จะไปแล้ว"ขอโทษนะคะที่เนียมาช้า โฮ่ยยเหนื่อยจัง" ดาเนียกระโดดขึ้นมานั่งข้างคนขับ แล้วทำลับลมคมในยัดถุงกระดาษห่อเล็กใส่ลงไปในกระเป๋าอย่างรีบร้อน"ไปไหนม
การกลั่นแกล้งและทำร้ายใครสักคนไม่ใช่กีฬา ไม่ใช่เกม แต่มันคือการทำลายหนึ่งชีวิตและคนที่ทำร้ายผู้อื่นด้วยวาจาและการกระทำ ก็ไม่มีวันเป็นผู้ชนะอยู่ดี-ฮาลาปัญ-******************3 ปีผ่านไปใจกลางเมืองนิวยอร์ก สาวผมยาวลอนสีน้ำตาลคาราเมลปั่นจักรยานโบกมือทักทายเพื่อนบ้านขณะที่หญิงสาวรีบเดินทางไปรับวุฒิการศึกษาด้วยจักรยานคู่ใจ หลังจากที่พ่อของเธอรักษาตัวร่วมเกือบหกเดือนและหายจนกลับมาแข็งแรงเหมือนคนปกติ เธอก็ส่งพ่อกับพี่เรน ลูกพี่ลูกน้องของเธอกลับไปเมืองไทย และเริ่มต้นชีวิตที่เมืองใหม่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่และเธอยาวนานมาร่วมสามปีเต็ม และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้เดินทางกลับไปประเทศที่เติบโตมาเป็นดาเนีย ประมะเมคินทร์"หนูเนียจะกลับแล้วเหรอจ๊ะ""ใช่ค่ะ" ป้าข้างบ้านเอ่ยทักขณะที่หญิงสาวกำลังลากกระเป๋าใบใหญ่ออกมาอย่างถูลู่ถูกัง"โชคดีนะหนู มีเวลาก็แวะมาเที่ยวที่นี่บ้างนะ""ได้เลยค่ะคุณป้า""คุณเนียครับรถพร้อมแล้วครับ" บอดี้การ์ดรุ่นลุงของพ่อที่เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนถูกส่งมาดูแลเธอตลอดสามปีนี้ และเขาก็เป็นทุกอย่างตั้งแต่งานครัว เย็บปักถักร้อย จนเธอแทบจะเป็นง่อยเลยทีเดียวระหว่างที่ใช้ชีวิต
สุริยะวางดอกกุหลาบขาวที่หลุมศพของพริมพลอยและฉีกยิ้มให้กับคนรัก วันนี้เขาพร้อมแล้วที่จะสารภาพบางอย่างที่เก็บไว้มาตลอดสามปี วันนี้ดาเนียกลับมาแล้วและเขาจะไม่ปล่อยเธอไปอีก เขาต้องรับจริง ๆ ว่าตัวเองเจ็บปวดและทรมานกับการรอคอยใบหน้าสดใสนั้น และทำได้เพียงส่งอรุณฉายไปตามเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ตามคำแนะนำของไอ้เรน"พริม ผมจะเริ่มต้นใหม่กับดาเนียแล้วนะ ผมเพิ่งรู้ตัวว่าโหยหาความอบอุ่นนั้นจากเขา ดาเนียกับคุณแตกต่างกันมาก คุณนั้นอ่อนหวาน เรียบร้อยแต่ดาเนียทั้งตลก สดใส และทำให้หัวใจของผมเต้นแรงเหมือนตอนที่พบกับคุณครั้งแรก ทว่ามันกลับทำให้ผมกระชุ่มกระชวยมากกว่าตอนพบกับคุณ หรือเพราะเธอเด็กกว่าไม่รู้ ผมกลายเป็นคนหลงรักเด็กไปซะแล้ว ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจผมนะพริม ผมไปก่อนนะพริม ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง"***************ฟากเดียวกันดาเนียที่หอบร่างสะบักสะบอมลงมาจากรถแท็กซี่ทรุดกองกับพื้นโชคดีที่อรุณฉายไม่อยู่เพราะเขาบอกว่าจะไปทำธุระข้างนอกและจะกลับมาตอนหัวค่ำ หญิงสาวเอาผ้าพันคอที่มีอยู่ในกระเป๋ามาคลุมใบหน้าและเดินลากขาที่อ่อนแรงกลับไปยังห้อง พอไขประตูเข้าไปเท่านั้นร่างของเธอก็ล้มลงปากอิ่มที่มีเลือดซิบที่มุมปากส
พิรุณตบบ่าสุริยะฝากให้เพื่อนซี้ดูแลดาเนียแทนเขา สุริยะทรุดตัวลงนั่งบนเตียงคอยใช้เจลประคบเย็นที่บริเวณหน้าผากที่บวมช้ำของดาเนีย ใบหน้าอิดโรยขยับส่ายไปมาราวกับกำลังฝันร้าย"ฮื้อ...อย่า อย่าทำฉัน โอ๊ย! เจ็บ เนียเจ็บ" เสียงละเมอเพ้อพบทำให้เขาถึงกลับอดกลั้นความเจ็บปวดนี้ไม่ไหว สองมือโอบประคองร่างกายอุ่นในห่อผ้าขึ้นมาแล้วโย้ร่างกายที่กระตุกวูบเพราะความฝันไปมาให้ผ่อนคลาย"เฮียอยู่ตรงนี้แล้วครับ เนียได้ยินไหม ถ้าได้ยินตามเสียงเฮียมานะ" เสียงกระซิบอุ่นที่รดคลอเคลียข้างใบหูปลุกเรียกให้ดาเนียตื่นจากฝันร้าย เปลือกตาหนักอึ้งปรือมองและเห็นดวงหน้าของเฮียแซ็คกำลังจดจ้องมองลงมา ไม่รู้ว่าเป็นภาพความฝันหรือความจริง แต่มือของเธออยากจะเอื้อมไปจับใบหน้าของเขา อยากสัมผัสเขาอีกสักครั้ง"เฮียแซ็คเหรอคะ" มือที่ใหญ่กว่าประคองมือเล็กขึ้นมานาบแก้มของตน ทันใดที่ถูกสัมผัสของเขาดวงตากลมก็เบิกโพลงด้วยความตกใจ เพราะนี่มันไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดไปเอง ไม่ใช่ความฝัน แต่คือความจริง"ทำไมตกใจเหรอ หืม....พูดหน่อยสิครับ" น้ำเสียงที่เขาใช้คุยกับเธอเปลี่ยนไป มันทั้งนุ่มนวลและอ่อนโยนอย่างน่าประหลาด แล้วเขายังเอาแต่ระดมจูบมือของเธอไ
ริมฝีปากกระจับยอมละออกอย่างเสียดายเพราะลมหายใจของดาเนียเริ่มติดขัด เสียงลมหายใจพ่นเข้าออกจนทำให้ทรวงอกในห่อผ้าขนหนูผืนสีขาวตัวสั้นยุบย่อเพื่อสูดเอาออกซิเจนเข้าไป "จะฆ่าเนียเหรอคะ" ดวงหน้าที่มีแต่รอยขีดข่วนเอ็ดเสียงใส เด็กนี่คิดว่าจูบจะทำให้ตายหรือไงกัน"มีใครเขาจูบกันแล้วตายบ้าง เด็กน้อยจริง ๆ " สุริยะส่ายหน้าหลุดยิ้มกับท่าทางติงต๊องของดาเนีย"ก็จูบกับเฮียแซ็คนั่นแหละ" นัยน์ตาหวานคมตวัดมาแล้วกดตัวของดาเนียให้นอนลง "จะ..จะทำอะไรคะ" มือยันแผงอกในเชิ้ตขาวไม่ให้ก้มลงมาประชิดกับอกของเธอ "จูบกับเฮียมีแต่จะคราง" ดาเนียผงะสายตาเลิ่กลั่ก "ไม่คราง" เธอเถียงกลับ เธอจะไม่ยอมครางเหมือนผู้หญิงพวกนั้นของเขาเด็ดขาด คิดทีไรก็โมโหและหัวร้อนไปหมด"ได้เดี๋ยวเฮียจะทำให้ครางดัง ๆ เลย" สิ้นเสียงผ้าขนหนผืนสั้นก็ถูกกระตุกออก ริมฝีปากดุระดมจูบไปทั่วผิวกายไล่ตั้งแต่ลำคอและเลื้อยต่ำลงมา"หยุดนะคะ.....อย่า" ที่เธอร้องอ้อนวอนเขาเพราะไม่อยากให้เขาเห็นบาดแผลที่ขาของเธอต่างหาก แผลนูนคีลอยด์นั่นที่โดนไม้ที่มีประตูฝังตีลงมาซ้ำ ๆ และครูดกับขาของเธอจนเกิดแผลฉกรรจ์ใหญ่ที่เกือบทำให้เธอเป็นบาดทะยักตายในวัยสิบเจ็ดปีสุร
ตอนนี้กลายเป็นว่าสุริยะตัวติดกับดาเนียไม่ยอมห่าง กลางวันก็หอบงานมาเฝ้าเธอที่อพาร์ทเม้นต์ จากที่เคยกินนอนอยู่ที่สุสานของแฟนเก่าที่เสียชีวิตไป แต่ ณ เวลานี้กลับเอาแต่จดจ้องน้องสาวของเพื่อนซี้จนตาแทบจะเป็นตะคริวนัยน์ตาหวานคมกริบกระพริบมองหญิงสาวที่อยู่ชุดเอี๊ยมกางเกงและสวมเสื้อครอปคอเต่าแขนกุดสีขาวครึ่งตัวไว้ข้างใน ขณะที่ดาเนียกำลังนั่งสเก็ตแบบเสื้อผ้าที่ห้องรับแขกอย่างตั้งอกตั้งใจ พอเธอชำเลืองมองดูเขา ชายหนุ่มที่เคยวางมาดหยิ่งผยองก็ตวัดมองไปทางอื่นอย่างไม่รู้ไม่ชี้ดาเนียหัวเราะคิกคักที่เธอทำให้คนตัวโตที่เคยพูดจาร้าย ๆ และทำตัวแย่ ๆ เปลี่ยนไปเป็นสุริยะฟรุ้งฟริ้งที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู เฮียแซ็คหนอเฮียแซ็คจะรู้บ้างไหมว่าเวลาที่เขาทำสายตาเลิ่กลั่งลุกลนเพราะถูกเธอจับได้ว่าเขากำลังแอบมองเธออยู่มันช่างเป็นภาพที่โคตรน่ารักและทำให้ใจทั้งสี่ห้องของเธอเปี่ยมด้วยพลังงานบวกสาวในชุดเอี๊ยมยีนส์เดินล้วงกระเป๋าเหมือนสาวห้าวเข้ามาหาคนที่พยายามก้มหน้าก้มตากลบเกลื่อนอย่างไม่เนียน"ไม่ทำงานทำการเหรอคะ แล้วเลขาร่านสวาทของเฮียล่ะ ไปอยู่ไหนซะแล้ว เนียอยากจะเจอสักหน่อย""อยากเจอทำไม" ทำทีเป็นถามแต่ไม่สบตา เพรา
ห้องพิสูจน์อักษร ภายในห้องดำมืดที่มีเถาวัลย์เลื้อยยื่นเข้ามาจนเต็มผนังกำแพง กลางห้องที่มีแสงส่องรำไรมีเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่สี่ตัว ไม่นานนักใครบางคนก็ถูกพาเข้ามา ซึ่งเป็นเสียงของผู้หญิงกลุ่มนึงที่ร้องโวยวายกึกก้องไปทั่วร้านหนังสือใต้ดินอันเงียบสงัดแห่งนี้ กระทั่งชายชุดดำลูกน้องเฮียแซ็คลากคอสาวสี่คนที่เธอคุ้นหน้าคร่าตาเป็นอย่างดีมานั่งบนเก้าอี้ไม้ ยัยกลุ่มจอมบูลลี่อริเก่าก็ชะงักงันในทันทีเมื่อเห็นเธอยืนอยู่เคียงข้างเฮียแซ็ค"แก๊! นังดาเนีย! ฝีมือแกเองเหรอ นังสวะ!....เผียะ!" หลังฝ่ามือของสุริยะฟาดจนใบหน้าของแยม หัวโจกตัวร้ายสะบัดหน้าหันไปอีกทาง หญิงสาวจอมกร่างค้อนดวงตากลับไปหามือตบร่างสูงโปร่ง แล้วแสยะยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว"ถ้ามึงยังพูดกับคนของกูแบบนั้นอีกรอบ คราวนี้มึงจะได้กินนี่เป็นอาหารค่ำ!" ใบหน้าที่ดุดันควักกระบอกปืนสีเงินออกมาแล้วกดแนบลงไปที่ขมับเพื่อข่มขู่ แต่ดูเหมือนว่าแยมจะไม่รู้สึกรู้สาหรือหวั่นใจ"ที่แท้แกมันก็เล่นหมาหมู่เหมือนกันนี่วะ นังเนีย!"หมับ! ปลายคางของแยมถูกมือใหญ่บีบจนแน่น "กูบอกให้หุบปาก!" สุริยะตวาดลงมาเสียงดัง"ไหนวะคนรังแกน้องกู" จู่ ๆ เสียงของพี่เรนก็ดังแล่บเข้า
ร้านอาหารหรูที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยานับเป็นสถานที่โรแมนติกที่ทำให้ดวงหน้าคมคายสามารถสำรวจมองรอยยิ้มสดใสที่กำลังตักของอร่อยใส่ปากได้อย่างเพลิดเพลินใจ เพียงแค่ได้มองดวงหน้าเฉี่ยวที่หวานอมเปรี้ยวของดาเนียเขาก็รู้สึกเหมือนถูกเธอหลอมละลายไว้ สุริยะจินตนาการไปถึงตอนที่ได้ไปอยู่ในตัวของเด็กสาว วินาทีที่เป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายกับเธอ หูของเขาทั้งสองข้างก็แดงก่ำขึ้นมา จนคนที่กำลังกินน้ำแข็งใสอยู่นั้นถึงต้องหรี่ตามอง"เฮียแซ็คป่วยหรือเปล่าคะ" มือที่เย็นวาบของดาเนียเอื้อมมาจับหูของสุริยะ เขาสะดุ้งเฮือกเพราะหูนับว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดของเขา"เอ่อ..คงงั้นมั้ง" เขารีบตะปกหูสองข้างของตนเอง แล้วถูไปมาจนแดงกว่าเดิมจังหวะที่ทั้งสองกำลังจะขึ้นรถมีชายสวมโม่งดำชุดดำถือดาบซามูไรเดินตรงเข้ามา"ระวังเนีย!" สุริยะที่หูตาไวรีบผลักดาเนียกระเด็นออกไปอย่างเร็วพลั่ก! ดาเนียล้มลงไปเฟี้ยบ!ดาบซามูไรด้ามยาวถูกฟันลงมาที่กลางอกของเขาร่างสูงทรุดนั่งชันเข่ากับพื้นไว้หนึ่งข้าง"เฮ้ย!" ศิวดลกับอรุณฉายควักกระบอกปืนเล็งไปยังชายนิรนาม มันผงะครู่หนึ่งแล้วกระโดดขึ้นไปยังรถเก๋งติดฟิลม์ที่แล่นมารับแล้วทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว"เ
เพราะอาเจียนเกือบทั้งวันทั้งคืนดาเนียจึงบอกให้สามีมานอนอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี เพราะบรรยากาศด้านบนนี้ค่อนข้างโปร่งโล่งสบายมากกว่าห้องนอนใต้ดินชั้นล่างอันลึบลับของเขา ถึงแม้เช้านี้เขาจะอาการดีขึ้นและนั่งตักโยเกริต์ผลไม้ที่โรยธัญพืชเข้าปากได้ และยามที่ภรรยาโอบกอดเขาไว้หลวม ๆ ก็เหมือนกับยาดมแก้คลื่นเหียนเวียนหัว เพราะกลิ่นกายของดาเนียนั้นมีทั้งความหอมเย็นและสดชื่นทำให้หัวที่หนักอึ้ง เบาหวิวดังปุยนุ่นจนอยากให้แม่ของลูกกอดเขาอยู่แบบนี้"เดี๋ยวก่อนค่ะ" เขาตะครุบเธอกลับแล้วเอาจมูกซุกเข้าไปที่กลางเนินอก "หอมจัง หอมมาก" อ้อนแล้วพยายามเอาหน้าถูไถไปมาเหมือนเด็กชายสามขวบ"เฮียเป็นเอามากนะเนี่ย" ดาเนียบ่นแต่ก็ลูบแผ่นหลังปลอบโยน เพราะเธอเองก็ชอบใจที่เขาดูน่ารักนุ่มนวล"วันนี้จะไปไหนคะ มีงานหรือเปล่าให้เฮียขับรถไปส่งไหม หรือว่าอยากไปเดินตลาดนัดคลองถมกับเฮียไหม เฮียจะไปซื้อวัตถุดิบมาทำของอร่อย ๆ ให้เนียกิน"เธออ่านนิยายมาตั้งหลายเรื่องไม่เคยพบเจอมาเฟียประเภทเฮียแซ็ค ที่เอะอะก็ชวนไปจ่ายตลาดไม่ก็ชวนไปเดินตลาดนัดคลองถม ปกติมาเฟียที่เธอเคยพบเจอต่างก็พาไปกินหรูอยู่แพงกันทั้งนั้น ยกเว้นตาคนนี้"แล้วเฮียไม่เหม
เพลงของวง Paper Planes เปิดดังลั่นบ้านลั่นช่องขณะที่มาเฟียหัวป่าก์กำลังยืนรอพิซซ่าโทสต์ในเตาอบระหว่างรอนั้นชายหนุ่มจึงถูบ้านข้ามเวลาเพื่อรอภรรยาตื่นนอน ดาเนียที่ขึ้นมาจากห้องนอนใต้ดินเกาหัวมองสามีที่อารมณ์ดีมากเป็นพิเศษหรือเพราะเมื่อวานพอเธอรับปากว่าจะมีลูกให้ถึงสี่คน เฮียแซ็คก็เลยดีดตั้งแต่เช้าตรู่"เฮียอารมณ์ดีเกินไปไหม....แล้ววันนี้ทำอะไรกินคะ กลิ่นหอมออกมาจากเตาเลย" ดาเนียชะโงกหน้าดูขนมปังพิซซ่าที่หมุน ๆ อยู่ในเตาอบอย่างใจจดจ่อ พอเสียงติ๊งดังขึ้นหญิงสาวก็รีบสวมถุงมือเตาอบแล้วอาสานำออกมาเรียงใส่จาน เดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำส้มใส่แก้วให้พ่อบ้านที่กำลังถูพื้นไปร้องเพลงไป"มาแล้วครับ" สุริยะวิ่งเอาไม้ม๊อบไปเก็บขณะเดียวกันสุรีย์ก็พยายามกระโดดดึ๋งดั๋งอยากรู้อยากเห็นว่าบนโต๊ะอาหารมีอะไรให้กินบ้าง ด้วยความสงสารเจ้าลูกหมาเขาแอบชำเลืองมองเล็กน้อยแล้วฉีกพิซซ่าโทสต์ยื่นใส่ปากสุรีย์แบบเนียน ๆ"เนียเห็นนะคะ ถ้าเฮียตามใจสุรีย์แบบนั้นต่อไปสุรีย์จะดื้อแล้วก็ไม่ฟังเฮียอีกนะคะ" นัยน์ตาขุ่นมองสามีแล้วจิบน้ำส้มหรี่สายตาไม่ไว้ใจส่งให้ ชายหนุ่มหัวเราะแห้งแล้วรีบกินโทสต์ในจานโดยไม่โต้แย้งภรรยา"กินเยอะ ๆ ค
หญิงสาวนั่งอ่านหนังสือในห้องของชายหนุ่มไปจนถึงเที่ยงคืนแล้วผลอยหลับไปด้านข้างมีรูปใบเก่าวางอยู่ทำให้เจ้าของบ้านที่เดินตามหาหยิบรูปดังกล่าวขึ้นมาแล้วจัดการโยนใส่เตาผิงไฟในห้อง ความร้อนและเสียงสะเก็ดไฟปลุกเรียกให้คนที่นอนหลับอยู่ตื่นขึ้นและรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่นอนอยู่ที่พื้นไม้เย็น ๆแต่กลับนอนอยู่บนตัวของสามี เขานอนเหยียดตัวยาวไปอยู่บนโซฟาหน้าทีวีในห้องนั่งเล่นและเธอก็นอนทับอยู่บนตัวเขาอีกที จังหวะที่จะขยับลุกหนีมือของเขากลับโอบรัดไม่ยอมให้จากไป"จะไปไหน"ถามมาได้ว่าจะไปไหนก็ไปให้พ้นหน้าจากคนใจไม้ไส้ระกำหน่ะสิ"เนียจะกลับไปอยู่อพาร์ทเม้นต์ หรือไม่ก็กลับนิวยอร์ก" ประโยคที่เต็มด้วยความน้อยใจทำให้ตาของเขาสว่างขึ้นในพริบตา"เฮียไม่ไห้ไป" ลุกขึ้นรีบรัดเธอด้วยสองแขนดาเนียแอบอมยิ้มที่มุกจะหนีไปจากเขาได้ผล ถึงเธอจะแค่ขู่แต่ก็ไม่กล้าทำจริงหรอก"เนียจะไปหนีไปให้ไกล ๆ จากคนบ้าคนงี่เง่าเต่าตุ่นแบบเฮีย"ทำท่าทางสะบัดแขนที่โอบรอบตัวออก เขาจึงยอมคลายแล้วพลิกตัวให้หันมาสบตาดันหลังคอคนที่กำลังสะดีดสะดิ้งเข้าไปรับจุมพิตดุดันด้วยความใจร้อน"อื้อ....." จูบประดุจจะฆ่าชีวิตเดียวที่มีของเธอมันทั้งหนักหน่วง
"เฮีย...แม่ยุงลายอะไรนั่นเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงได้ทำหน้าเหมือนอยากกินเฮียเหลือเกิน เฮียต้องระวังตัวนะคะ" จับมือของเขามากอบกุมแล้วลูบไล้ไปมาบนแหวนทังเสตนสีดำที่ด้านในสลักชื่อดาเนียเฮียแซ็ค บ่งบอกถึงสัญญาใจที่มีต่อกัน"เขาชื่อเรไรไม่ใช่ยุงลาย อีกอย่างคนแบบเฮียไม่ต้องระวังใครหรอก ระวังเนียคนเดียวก็ปวดหัวใจแย่แล้ว""ฮะ...เนียมีอะไรต้องระวังกันคะ เฮียพูดให้ดีนะคะ...หึ!" ด้วยความหมันไส้จึงเผลอยื่นมือไปบีบก้นสามีอีกรอบต่อหน้าพนักงานเสริฟ์ที่เดินถือถาดเครื่องดื่มเข้ามา เขาผงะเล็กน้อยมองชายหญิงที่กำลังลวนลามกันอยู่ที่มุมห้องจัดเลี้ยง"ก้นเฮียมันมีอะไรดีนักหนาเหรอสาวน้อย" ยืนเฉยและปล่อยให้เมียขยำต่อไปอย่างที่ชอบ ขณะที่มือสองข้างผลักแผ่นหลังเปลือยเข้ามาแนบ ก้มลงดวงหน้าฉาบเครื่องสำอางสวยเผ็ด"ก็บั้นท้ายเฮียทั้งแน่นฟิตเด้งแล้วก็มี...ขี้แมลงวันด้วยเม็ดนึง เซ็กซี่เป็นบ้าเลย" ตาลุกวาวเพิ่งรู้ว่าที่ก้นตัวเองนั้นมีขี้แมลงวันอยู่ด้วย ปากกระจับคมเหยียดยิ้มเกลี่ยแก้มใส"ปากหวานจัง ขอเฮียชิมหน่อยได้ไหม" วิงวอนแล้วแตะลงที่ริมฝีปากล่างที่ฉ่ำวาวด้วยลิปกลอส"กลับบ้านก่อนสิคะ" แตะที่กลีบปากสวยของเขา"ก็ได้กลับ
หลังจากที่คู่รักหวานชื่นกลับมาถึงบ้านได้ไม่กี่ชั่วโมงพ่อบ้านศิวดลก็เข้ามาแจ้งข่าวว่าพรุ่งนี้จะมีการจัดงานเลี้ยงหรูรวบรวมเหล่าบริษัทพันธมิตรด้านการผลิตอาวุธหนักเข้าไปหารือและสร้างคอนเนคชั่นร่วมกัน สุริยะยิ้มกริ่มเพราะตนนั้นจะได้เจอกับเรไร เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อของอดีตแฟนสาวที่เขายังไม่ได้สะสางบัญชีแค้น"สุรีย์แม่คิดถึงหนูจังเลย" ชายหนุ่มชำเลืองมองหน้าของภรรยาที่กำลังก้มลงฟัดเจ้าลูกหมาตัวดำ นึกแล้วเขาก็อยากเป็นเจ้าสุรีย์ขึ้นมาได้เป็นหมาแล้วถูกเมียฟัดเมียหอมแบบนั้น คงจะฟินน่าดู"เนียรินน้ำชาให้เฮียหน่อยสิ" เขากวักมือชูถ้วยชาในมือที่หมดแล้ว หญิงสาวยิ้มมุมปากรีบคว้าเอาปั้นชาที่ตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวตรงมาหาสามีโดยไม่ปฏิเสธ"น้ำชาค่ะตาแก่" ดาเนียรินน้ำชาอู่หลงกลิ่นหอมลงในถ้วยชา ดวงตาคมหลุบมองท่าทางที่นุ่มนวลก็เผลอนึกย้อนไปถึงเมื่อเช้าที่จัดเมียในห้องอาบน้ำจนลืมไปว่าเธอท้องลูกคนแรกอยู่"เพลียไหม" เขาถามและจิบน้ำชาอุ่นกระพริบตาปริบ ๆ"เพลียอะไรคะ.....อ๋อที่เฮียกระแทกเนียเมื่อเช้าอ่ะเหรอ" พรวด!!!"แค่ก....แค่ก" น้ำชาในปากพ่นออกมาใส่หน้าดาเนียจนเลอะเทอะ"โอ๊ย...ตาแก่นี่เนียเปื้อนหมดเลย กินภาษาอ
00.00 น."เฮียแซ็ค Happy Birthday จากเนียค่ะ" คนที่พยายามข่มใจให้หลับสุดท้ายก็ต้องยอมเปิดตาออกและพบสาวโบว์ใหญ่สีแดงที่กำลังถือเทียนหอมเอาไว้ในมือ "หลับตาอธิษฐานสิคะเร็วเข้า" เขาแทบจะจดจำไม่ได้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่คนมักขอกันในวันเกิดก่อนเป่าเทียนบนเค้กให้ดับ"ขอให้เนียมีลูกให้เฮียสี่คน....ฟู่ว!!" ใบหน้าสวยชะงักงันทันทีเมื่อเทียนในมือดับลง ยิ้มแห้งเกาหัวเคอะเขินเฮียบ้านี่ขออะไรไม่ขอมาขอให้เธอมีลูกกับเขาถึงสี่คนถ้าเยอะขนาดนี้มีหวังเธอลมจับกันพอดี"มีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะคะ ฝันดีค่ะ" อวยพรเจ้าของวันเกิดจบปุ๊ปก็ก้าวขาขึ้นไปนอนเคียงข้างเขาทันที แต่เขากลับพลิกตัวมาคร่อมทับเธออย่างไว "เฮียมันดึกแล้วนะคะ""เฮียยังไม่ได้กินเค้กเลยนะคะ" เวลาเขาพูดคะขาทำหน้าอ้อนเหมือนสุรีย์ทีไรสติของเธอพาลจะเตลิดเปิดเปิงทุกที"เนียไม่ได้ซื้อเค้กมาขอโทษด้วยนะคะ" ทำหน้าสลดส่งให้คนด้านบนเพราะไม่คิดว่าเขาอยากจะกินเค้กเอาเวลานี้"ก็มีอยู่แล้วนี่ไงคะ....." กล่าวเสียงทุ้มนุ่มจนใจละลายแล้วบีบแก้มของเธอเข้าหากัน"ฮื่อออหื่นไม่รู้เวล่ำเวลา.....เนียเป็นคนเนียไม่ใช่เค้ก กินตอนเช้าได้ไหมคะ" พูดส่งเดชไปก่อนเพราะตอนนี
จังหวะที่มือสองข้างกำลังเตรียมปลดเชือกที่มัดเสื้อคลุมอาบน้ำเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ดาเนียชำเลืองมองใบหน้าเศร้าสร้อยวางแขนสองข้างพาดอยู่กับขอบอ่างแล้วเสมองออกไปยังห้องกระจก ที่เมฆพายุกำลังต่อตัวขึ้นจนเห็นสายฟ้าพาดผ่านท่ามกลางความมืดมิดสงัดหญิงสาวก้มมองเบอร์บุคคลที่โทรเข้ามาก็นึกสงสัย"ฮัลโหลค่ะพ่อบ้านดล ทำไมถึงโทรมาหาเนียละคะ" หญิงสาวข้องใจที่พ่อบ้านโทรมาหาเธอแทนที่จะโทรหาเจ้านายของเขา"สวัสดีครับคุณดาเนีย ที่ผมโทรมาหาคุณโดยเฉพาะก็เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ถ้าพ้นเที่ยงคืนนี้ไปก็จะวันเกิดคุณแซ็คแล้วหน่ะสิครับ" ดาเนียตวัดมองนาฬิกาแขวนในห้องพักซึ่งบอกเวลาสี่ทุ่มตรงแสดงว่าที่เขาพาเธอมาโรงแรมก็หวังจะพาเธอมาฉลองวันเกิดของเขาหรือเปล่า"เนียไม่เคยถามวันเกิดเฮียแซ็คมาก่อนลืมสนิทเลยค่ะ ยังไงขอบคุณนะคะที่คุณดลโทรมาแจ้งเนีย""แต่ผมมีอีกเรื่องที่อยากจะบอกคุณเนียด้วยครับ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับวันเกิดทุก ๆ ปีของคุณแซ็ค""ทำไมเหรอคะคุณดล""ก็แต่เดิมคุณแซ็คไม่เคยฉลองวันเกิดกับใครเลยหน่ะสิครับ แม้กระทั่งกับคุณพริมพลอยก็ตาม""รวมทั้งคุณพริมพลอยด้วยเหรอคะ ไม่น่าเชื่อ""เชื่อเถอะครับ เพราะไม่มีใครที่สามารถ
ขณะที่ดาเนียกำลังเดินนำสามีที่กำลังทำหน้าหงิกงอไม่พอใจนำออกมาจากร้านอาหารก่อน ตัวของเขาก็ถูกมือของใครบางคนกระชากรั้งเอาไว้"เจ้านายคะมาทำอะไรที่นี่ จำเอมี่ได้ไหม"สาวผมสั้นในชุดซีทรูขาวที่สวมปิดทับทูพีชสองชิ้นข้างในกดไหล่ของสุริยะแนบไว้กับกำแพง นัยน์ตาเข้มเหล่มองไปทางอื่นอย่างหมดอารมณ์แล้วพยายามดันตัวของอดีตเลียแข้งเลียขาคนที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ออกไป"ออกไปห่าง ๆ " เขาสั่งและดันตัวเธออก แต่หญิงสาวกลับบดหน้าอกคัพซีขนาดมหึมาลงมาบนตัวเขาไม่หยุด"เฮีย!" เสียงตะโกนดังก้องไปทั่วโถงทางเดิน เยื้องกรายเข้ามาหาเขากับเอมี่อย่างเชื่องช้า มองหญิงสาวคนดังกล่าวที่กำลังกดตัวสามีของเธอติดผนังอย่างเย้ยหยัน หนำซ้ำยังเอาหน้าอกใหญ่โตนั่นแนบไว้กับตัวของเฮียแซ็คอีก"นี่ผัวฉันถ้าเธอไม่อยากกินลูกกระสุนก็ไสหัวไป!" กระสุนปืนสีทองที่พี่เรนให้เธอไว้เป็นโชคลางปกป้องคุ้มภัยถูกยื่นส่งให้กับหญิงใจกล้าตรงหน้าที่กำลังลูบไล้เนื้อตัวของเฮียแซ็คอยู่อย่างไม่กระดากอายอดีตเลียแข้งเลียขาคนเก่าของสามีที่ไม่รู้โผล่มาจากหลุมไหนรีบถอยหลังกรูดเดินหนีด้วยใบหน้าหวั่นเกรง รวมทั้งเธอที่กำลังจะเดินหนีเขาไปด้วย ทว่าจังหวะที่จะก้าวขาไปให
เมื่อรถทะยานมาถึงบริเวณบ้าน เจ้าของบราเซียร์ที่กำลังหลวมโล่งจนลมพัดโกรกไปถึงผิวเนื้อด้านทำท่าทีจะเปิดประตูออกไปทว่ากลับถูกมือที่แสนว่องไวรวบคว้าเอาไว้ได้อีกเช่นเคย"เฮีย...." เอ็ดเขาเสียงเบา แต่คนเผด็จการก็เอาแต่ยิ้มกริ่มแล้วกัดริมฝีปากยั่ว"อรุณฝากเลี้ยงสุรีย์ไปก่อน เดี๋ยวฉันจะแวะไปดูธุรกิจที่โรงแรมซะหน่อย อีกสองวันน่าจะกลับ แล้วนายอย่าลืมให้กินอาหารตามรายการนี้ล่ะ" ใบสั่งจากสัตว์แพทย์และอาหารที่หมอแนะนำให้ทำให้เจ้าลูกหมาอ้วนรับประทานถูกส่งให้กับอรุณฉาย สุริยะก้มลงหอมหัวขอมสุรีย์ด้วยความรัก นี่แค่หมาเขายังรักมันขนาดนี้แล้วถ้าลูกของเธอเขาจะหลงลูกขนาดไหนกัน"รับทราบครับนาย" อรุณฉายพยักหน้ารับแล้วยิ้มแห้งให้คุณหนูดาเนียของเขาพร้อมกับอุ้มสุรีย์เข้าไปในบ้าน"ไปนั่งหน้า" หันมาสั่งคนที่ถูกรั้งไว้ในอก"ก็เฮียมากอดไว้แบบนี้จะให้เนียถอดจิตไปนั่งหรือไงกันคะ แล้วเราจะไปที่ไหนกันเนียยังเตรียมงานที่ต้องไปจัดนิทรรศการแฟชั่นไม่เสร็จเลยนะคะ" วิงวอนพลางดันอกแกร่งให้ออกห่าง"จะพาไปเดทแบบเป็นทางการ ไม่ไปเหรอ....แล้วงานเนียมันตั้งต้นเดือนหน้ายังมีเวลาอีกตั้งเยอะ"กลอกตาไปมาพลางขบคิดเพราะนึกถึงเรื่องที่เค