ริมฝีปากกระจับยอมละออกอย่างเสียดายเพราะลมหายใจของดาเนียเริ่มติดขัด เสียงลมหายใจพ่นเข้าออกจนทำให้ทรวงอกในห่อผ้าขนหนูผืนสีขาวตัวสั้นยุบย่อเพื่อสูดเอาออกซิเจนเข้าไป
"จะฆ่าเนียเหรอคะ" ดวงหน้าที่มีแต่รอยขีดข่วนเอ็ดเสียงใส เด็กนี่คิดว่าจูบจะทำให้ตายหรือไงกัน
"มีใครเขาจูบกันแล้วตายบ้าง เด็กน้อยจริง ๆ " สุริยะส่ายหน้าหลุดยิ้มกับท่าทางติงต๊องของดาเนีย
"ก็จูบกับเฮียแซ็คนั่นแหละ" นัยน์ตาหวานคมตวัดมาแล้วกดตัวของดาเนียให้นอนลง "จะ..จะทำอะไรคะ" มือยันแผงอกในเชิ้ตขาวไม่ให้ก้มลงมาประชิดกับอกของเธอ
"จูบกับเฮียมีแต่จะคราง" ดาเนียผงะสายตาเลิ่กลั่ก
"ไม่คราง" เธอเถียงกลับ เธอจะไม่ยอมครางเหมือนผู้หญิงพวกนั้นของเขาเด็ดขาด คิดทีไรก็โมโหและหัวร้อนไปหมด
"ได้เดี๋ยวเฮียจะทำให้ครางดัง ๆ เลย" สิ้นเสียงผ้าขนหนผืนสั้นก็ถูกกระตุกออก ริมฝีปากดุระดมจูบไปทั่วผิวกายไล่ตั้งแต่ลำคอและเลื้อยต่ำลงมา
"หยุดนะคะ.....อย่า" ที่เธอร้องอ้อนวอนเขาเพราะไม่อยากให้เขาเห็นบาดแผลที่ขาของเธอต่างหาก แผลนูนคีลอยด์นั่นที่โดนไม้ที่มีประตูฝังตีลงมาซ้ำ ๆ และครูดกับขาของเธอจนเกิดแผลฉกรรจ์ใหญ่ที่เกือบทำให้เธอเป็นบาดทะยักตายในวัยสิบเจ็ดปี
สุริยะระดมจูบลงมาเลื่อยจนถึงช่วงอกอิ่มแต่เขาข้ามผ่านมันไปเขาอยากใช้จูบนี้รักษาบาดแผลทางกายและใจให้ดาเนียอย่างนุ่มนวลที่สุด ทว่าเมื่อใบหน้าของเขาไล่ต่ำลงมาถึงขาอ่อนขาวผ่องขางหนึ่งที่มีรอยแผลนูนใหญ่ เขาผงะเล็กน้อยแต่กลับไม่ได้รังเกียจอะไรกลับรู้สึกสงสารเด็กผู้หญิงตรงหน้าจนอธิบายเป็นความรู้สึกไม่ได้
เพราะมันเป็นอย่างที่ไอ้เรนบอกเขาสูญเสียคนรัก แต่ดาเนียสูญเสียจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ไป มันแตกสลายเพราะคนเลวกลุ่มนั้น ดาเนียยกมือขึ้นปิดหน้าของตนกลัวว่าเขาไม่ชอบ กลัวเขาจะขยะแขยงและเธอก็รู้สึกอายจนไม่อาจ มองดูใบหน้าของเขาที่กำลังพรมจูบไปตามเนื้อตัวของเธอ
"ยังไงเนียก็ยังสวยเหมือนเดิม" เขากระซิบและจูบลงมาที่แผลนูนข้างขา ดาเนียยกมือออกยอมสบตาอย่างตกตะลึง หยัดกายขึ้นเล็กน้อยส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้เขาด้วยความครึ้มอกครึ้มใจ
"เนียสวยจริงเหรอคะ" เธอถามย้ำให้แน่ใจ
"สวยสิ สวยมาก อย่าดูถูกตัวเองนะคนดี" เขาเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้แล้วรั้งหัวไหล่กลมกลึงเข้าไปหา กระชับกอดเธอเพื่อให้กำลังใจและจูบซับลงมาบนไหปลาร้าสวยเพื่อย้ำเตือนว่าเขาไม่ได้รังเกียจเธอ "เฮียขอโทษที่เคยทำร้ายจิตใจเนีย" กระซิบบอกแล้วลูบไล้แผ่นหลังเนียนไปมา
"เนียยกโทษให้ค่ะ" เรียวปากอิ่มจรดลงมาบนแก้มสีออกแทนของเขา "จะกินเนียก็ได้นะคะ.....เอ่อคือยังไงดีล่ะเนียไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรแบบนี้...."
"เฮียกินดุนะ"
"อ๊ะ~" แผ่นหลังเล็กถูกดันเข้ามาให้รองรับชิวหาที่แหย่ลงมาเขี่ยยอดถันสีชมพู เพียงแค่ถูกกระตุ้นเล็กน้อยตุ่มไตในป้านกลมสีสวยก็ดุนดันชูชันขึ้นมา ปากกระจับงับและออกแรงดูดจนแก้มตอบ
เสียงตะโบมดูดหน้าอกของดาเนียยิ่งดังขึ้นทุกครั้งเมื่อเธอร้องครางเสียว
"อ๊าาา....ฮึ้มเฮียแซ็ค" นิ้วมือทั้งสิบแทรกตัวเข้าไปในเรือนผมดกดำแล้วขยุ้มไปมาด้วยความเสียวซ่าน ยามที่เขาลงน้ำหนักลงมาที่่หน้าอก ตัวของเธอมันก็แอ่นรับแรงปะทะจากเรียวปากดุของเขาอยู่เรื่อย "เฮียแซ็ค..เนียมึนหัว" เสียงหวานที่ค่อย ๆ แผ่วเบาลงทำให้สุริยะต้องผละออกจากการลิ้มรสทรวงอกขนาดน่ารักพอดีมือ
"ร่างกายเนียยังไม่พร้อม...ไม่เป็นไรนอนพักก่อนเถอะ" ดาเนียที่รู้สึกตาลายและปวดที่หัวตึ้บ ๆ เอนหัวลงไปบนหมอนมือน้อยคว้าจับมือของสุริยะเอาไว้แน่น เขาเหลือบมองมือของเธอแล้วเป็นฝ่ายกุมมือเธอแทนถกผ้าขึ้นมาคลุมกายที่บอบช้ำด้วยความห่วง
"ฝันดีค่ะ"
"ฝันดีครับ"
ใบหน้าอ่อนล้าปิดเปลือกตาลงและหลับสนิทภายในไม่กี่นาที วงแขนใหญ่สอดเข้าไปใต้ลำคอออกแรงดึงให้ดาเนียเข้ามาซุกแนบชิดอกของเขา
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขารู้สึกว่าต้องการเธอถึงเพียงนี้ หรือเป็นเพราะตั้งแต่ที่ดาเนียตามตื๊อเขา พยายามทุกอย่างกระทั่งนั่งเซ็นและตรวจเอกสารกองโต ส่วนเขาก็เอาแต่ไปสำราญกับผู้หญิงไม่เลือกหน้า และยังจะปากหมาใส่เธอสารพัด พอนึกย้อนการกระทำชั่วของตนเอง เขาก็รู้สึกเจ็บกระดองใจขึ้นมา ที่ตัวเองไม่คิดให้เร็วกว่านี้ ถ้าเขารู้ตัวว่าขาดเธอไม่ได้ ดาเนียคงจะมาอยู่ในความดูแลของเขาตั้งนานแล้ว ป่านนี้เธอคงเป็นผู้หญิงของเขาโดยสมบูรณ์
คงไม่ต้องมาเผชิญเรื่องร้ายตัวคนเดียว และคงไม่ต้องถูกใครรังแก
แสงของดวงตะวันสาดส่องแยงตาทำให้ร่างกายที่อ่อนล้าหยัดตัวขึ้นมาช้า ๆ เพื่อรับแสงตะวัน ดาเนียมองหาสุริยะแต่เขากลับไม่อยู่แล้ว หญิงสาวนั่งขบคิดว่าเมื่อวานเป็นความฝันหรือความจริงกันแน่ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว ปวดแผลที่หน้าผาก จึงได้ลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่น
ดาเนียสวมใส่เสื้อครอปเอวลอยและกางเกงวอร์มออกมาจากห้องนอน ขณะที่กำลังเปิดตู้เย็นที่โล่งโจ้งปราศจากของกิน ใครบางคนก็เปิดประตูเข้ามา และได้ยินเสียงถุงก็อปแก็ปดังมาจากห้องรับแขก เหมือนกับว่าแขกที่เข้ามาในห้องเธอซื้อของมามากมาย
ใบหน้าที่แจ่มใสขึ้นเล็กน้อยชะโงกเข้าไปดูต้นเสียงและพบกับแผ่นหลังกว้างที่กำลังบรรจงถอดปิ่นโตออกมาทีละชั้น ทีแท้ปิ่นโตลึกลับกับโน้ตนั่นก็เป็นฝีมือของเฮียแซ็คนี่เอง
"เฮียรู้ว่าหิวแล้ว มากินสิ" เขารู้ได้ไงว่าเธอแอบดูอยู่ ช่างเป็นคนประสาทหูประตาไวเสียจริง
"เอ่อ..ค่ะงั้นเนียไม่เกรงใจแล้วนะคะ" คนที่ตัวเล็กเพียงแค่อกของเขาซอยเท้าเข้าไปนั่งจุ้มปุ๊กลงบนเก้าอี้แล้วหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวขาหมูกลิ่นหอมใส่ปากอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมเบิกกว้างตะลึงกับรสชาตินุ่มลิ้นของเนื้อหมู
"อร่อยไหม" พ่อบ้านเฉพาะกิจของเธอทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามและเจาะนมเปรี้ยวขวดโตส่งให้เธอดื่ม พร้อมกับถาดผลไม้ และขนมตาลกับของกินอีกมากมายที่ประเคนมาให้เธอแบบชุดใหญ่
นี่เฮียแซ็คเห็นเธอเป็นปีศาจหมูหรือยังไงกัน ใครมันจะไปกินของพวกนี้ได้หมดในครั้งเดียว
"อร่อยค่ะ เฮียแซ็คไม่กินเหรอคะ" ถามตาปริบ ๆ แล้วตักข้าวขาหมูใส่ปากจนเม็ดข้าวเปื้อนติดอยู่ที่แก้ม
จะกี่ปีดาเนียจอมแก่นก็ยังกินมูมมามเลอะเทอะเหมือนเด็กอนุบาลไม่เคยเปลี่ยน แต่นั่นแหละมันก็เป็นสีสันที่ทำให้เขาจดจำเธอได้ต่างจากผู้หญิงทุกคน ขนาดพริมพลอยเองยังไม่มีคาแล็กเตอร์ที่พิเศษแบบนี้เหมือนกับดาเนียเลย
"ข้าวติดแก้ม" เขายิ้มแล้วเกลี่ยเม็ดข้าวออกจากพวงแก้มใสที่มีรอยเล็บข่วน ยิ่งเห็นแผลพวกนี้ทีไรใจเขามันก็เดือดดาลขึ้นมาทุกที มันน่าโมโหจนเขาไม่สามารถกระเดือกอะไรได้ลง
"อ้ามมมค่ะ กินเร็วไม่งั้นเนียโกรธนะ" องุ่นเขียวในมือของดาเนียถูกยื่นมาตรงหน้าของสุริยะ ถึงเขาจะไม่อยากกินแต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธเธออีกเป็นครั้งที่สอง เขาต้องยอมรับว่า เขาโคตรเข็ดที่ซื่อบื้อและงี่เง่าปล่อยให้เด็กสาวคนนี้จากเขาไปถึงสามปีเต็ม
ตอนนี้กลายเป็นว่าสุริยะตัวติดกับดาเนียไม่ยอมห่าง กลางวันก็หอบงานมาเฝ้าเธอที่อพาร์ทเม้นต์ จากที่เคยกินนอนอยู่ที่สุสานของแฟนเก่าที่เสียชีวิตไป แต่ ณ เวลานี้กลับเอาแต่จดจ้องน้องสาวของเพื่อนซี้จนตาแทบจะเป็นตะคริวนัยน์ตาหวานคมกริบกระพริบมองหญิงสาวที่อยู่ชุดเอี๊ยมกางเกงและสวมเสื้อครอปคอเต่าแขนกุดสีขาวครึ่งตัวไว้ข้างใน ขณะที่ดาเนียกำลังนั่งสเก็ตแบบเสื้อผ้าที่ห้องรับแขกอย่างตั้งอกตั้งใจ พอเธอชำเลืองมองดูเขา ชายหนุ่มที่เคยวางมาดหยิ่งผยองก็ตวัดมองไปทางอื่นอย่างไม่รู้ไม่ชี้ดาเนียหัวเราะคิกคักที่เธอทำให้คนตัวโตที่เคยพูดจาร้าย ๆ และทำตัวแย่ ๆ เปลี่ยนไปเป็นสุริยะฟรุ้งฟริ้งที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู เฮียแซ็คหนอเฮียแซ็คจะรู้บ้างไหมว่าเวลาที่เขาทำสายตาเลิ่กลั่งลุกลนเพราะถูกเธอจับได้ว่าเขากำลังแอบมองเธออยู่มันช่างเป็นภาพที่โคตรน่ารักและทำให้ใจทั้งสี่ห้องของเธอเปี่ยมด้วยพลังงานบวกสาวในชุดเอี๊ยมยีนส์เดินล้วงกระเป๋าเหมือนสาวห้าวเข้ามาหาคนที่พยายามก้มหน้าก้มตากลบเกลื่อนอย่างไม่เนียน"ไม่ทำงานทำการเหรอคะ แล้วเลขาร่านสวาทของเฮียล่ะ ไปอยู่ไหนซะแล้ว เนียอยากจะเจอสักหน่อย""อยากเจอทำไม" ทำทีเป็นถามแต่ไม่สบตา เพรา
ห้องพิสูจน์อักษร ภายในห้องดำมืดที่มีเถาวัลย์เลื้อยยื่นเข้ามาจนเต็มผนังกำแพง กลางห้องที่มีแสงส่องรำไรมีเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่สี่ตัว ไม่นานนักใครบางคนก็ถูกพาเข้ามา ซึ่งเป็นเสียงของผู้หญิงกลุ่มนึงที่ร้องโวยวายกึกก้องไปทั่วร้านหนังสือใต้ดินอันเงียบสงัดแห่งนี้ กระทั่งชายชุดดำลูกน้องเฮียแซ็คลากคอสาวสี่คนที่เธอคุ้นหน้าคร่าตาเป็นอย่างดีมานั่งบนเก้าอี้ไม้ ยัยกลุ่มจอมบูลลี่อริเก่าก็ชะงักงันในทันทีเมื่อเห็นเธอยืนอยู่เคียงข้างเฮียแซ็ค"แก๊! นังดาเนีย! ฝีมือแกเองเหรอ นังสวะ!....เผียะ!" หลังฝ่ามือของสุริยะฟาดจนใบหน้าของแยม หัวโจกตัวร้ายสะบัดหน้าหันไปอีกทาง หญิงสาวจอมกร่างค้อนดวงตากลับไปหามือตบร่างสูงโปร่ง แล้วแสยะยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว"ถ้ามึงยังพูดกับคนของกูแบบนั้นอีกรอบ คราวนี้มึงจะได้กินนี่เป็นอาหารค่ำ!" ใบหน้าที่ดุดันควักกระบอกปืนสีเงินออกมาแล้วกดแนบลงไปที่ขมับเพื่อข่มขู่ แต่ดูเหมือนว่าแยมจะไม่รู้สึกรู้สาหรือหวั่นใจ"ที่แท้แกมันก็เล่นหมาหมู่เหมือนกันนี่วะ นังเนีย!"หมับ! ปลายคางของแยมถูกมือใหญ่บีบจนแน่น "กูบอกให้หุบปาก!" สุริยะตวาดลงมาเสียงดัง"ไหนวะคนรังแกน้องกู" จู่ ๆ เสียงของพี่เรนก็ดังแล่บเข้า
ร้านอาหารหรูที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยานับเป็นสถานที่โรแมนติกที่ทำให้ดวงหน้าคมคายสามารถสำรวจมองรอยยิ้มสดใสที่กำลังตักของอร่อยใส่ปากได้อย่างเพลิดเพลินใจ เพียงแค่ได้มองดวงหน้าเฉี่ยวที่หวานอมเปรี้ยวของดาเนียเขาก็รู้สึกเหมือนถูกเธอหลอมละลายไว้ สุริยะจินตนาการไปถึงตอนที่ได้ไปอยู่ในตัวของเด็กสาว วินาทีที่เป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายกับเธอ หูของเขาทั้งสองข้างก็แดงก่ำขึ้นมา จนคนที่กำลังกินน้ำแข็งใสอยู่นั้นถึงต้องหรี่ตามอง"เฮียแซ็คป่วยหรือเปล่าคะ" มือที่เย็นวาบของดาเนียเอื้อมมาจับหูของสุริยะ เขาสะดุ้งเฮือกเพราะหูนับว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดของเขา"เอ่อ..คงงั้นมั้ง" เขารีบตะปกหูสองข้างของตนเอง แล้วถูไปมาจนแดงกว่าเดิมจังหวะที่ทั้งสองกำลังจะขึ้นรถมีชายสวมโม่งดำชุดดำถือดาบซามูไรเดินตรงเข้ามา"ระวังเนีย!" สุริยะที่หูตาไวรีบผลักดาเนียกระเด็นออกไปอย่างเร็วพลั่ก! ดาเนียล้มลงไปเฟี้ยบ!ดาบซามูไรด้ามยาวถูกฟันลงมาที่กลางอกของเขาร่างสูงทรุดนั่งชันเข่ากับพื้นไว้หนึ่งข้าง"เฮ้ย!" ศิวดลกับอรุณฉายควักกระบอกปืนเล็งไปยังชายนิรนาม มันผงะครู่หนึ่งแล้วกระโดดขึ้นไปยังรถเก๋งติดฟิลม์ที่แล่นมารับแล้วทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว"เ
คนในอ้อมกอดยังคงปล่อยหมัดรัวมาที่อกจนรู้สึกว่าเจ็บจนทนจูบต่อไปไม่ไหวเขาถึงได้ผละออกแล้วทรุดลงไปกับพื้น เขาไม่ร้องสักแอะแต่ทำหน้าเจ็บปวดรวดร้าวจนคนที่เผลอลงมือฟาดกำปั้นลงไปถึงกับได้สติ"เฮียแซ็คเนียขอโทษค่ะ...เจ็บมากไหม เนียขอโทษนะคะ" ดาเนียทรุดลงนั่งมือน้อยจับไปตามเนื้อตามตัวของเขาจนมั่วด้วยความตกใจ "เลือดออก...ฮึกเนียไม่ได้ตั้งใจ" จู่ ๆ เธอก็หลุดสะอื้นออกมาจนได้"ไม่เป็นไร...โอ๊ย" หน้าคมเหยเกขณะพยายามหยัดกายขึ้นจากพื้น หญิงสาวจึงคว้าแขนของเขามาพาดกับบ่าเล็กแล้วช่วยพยุงให้เขาลุกขึ้นมา สุริยะยิ้มกริ่มที่เห็นว่าดาเนียเป็นห่วงตน"นั่งตรงนี้ก่อนนะคะ หิวน้ำหรือหิวอะไรไหมเนียจะไปหามาให้""หิวเนีย!" เขาย้ำสีหน้าราบเรียบแล้วตวัดนัยน์ตาเอาจริงส่งให้ ดาเนียชะงัก"อะไรกันคะ เนียไม่ใช่ของที่กินได้ซะหน่อย เอาของที่กินได้สิคะ""รู้ได้ไงว่ากินไม่ได้ เคยลองเป็นของกินให้เฮียชิมหรือยัง""เนียไม่คุยกับเฮียแซ็คแล้ว....คนอะไรกวนติงชิป" บ่นอุบอิบแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปเพื่อโทรหาอรุณฉายให้เขาหาของกินมาให้เธอกับเฮียแซ็คเพราะดูแล้วในบ้านของผู้ชายดิบเถื่อนคนนี้จะมีแค่น้ำเปล่าเท่านั้น และก็เป็นอย่างที่เธอคา
เสื้อเชิ้ตสีดำตัวโคร่งในร่างกายของเฮียแซ็คที่อยู่บนตัวเธอทำให้ดาเนียดูตัวเล็กกว่าเดิม แต่กระนั้นกลับดูเซ็กซี่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า แม้จะเห็นรอยแผลเป็นคีลอยด์นูนที่ข้างขาขาวอมชมพู สุริยะเดินลงมาจากชั้นบนแล้วส่งแก้วนมอุ่น ๆ ที่อรุณฉายเป็นคนจัดหามาให้ตามคำสั่งของดาเนีย"ขอบคุณค่ะ" เธอรับมาแล้วจิบอย่างเร่งรีบ"ค่อย ๆ กินเดี๋ยวก็สำลักหรอก" เขาเอ็ดหน้าบึ้ง ทว่านมในแก้วก็กรอกลงคอจดหมดเกลี้ยงก่อนที่เขาจะทักท้วงเสียอีกขอบปากอิ่มที่เลอะเปื้อนนมสีขาวทำให้สุริยะถึงกับหลุดหัวเราะ แล้วจัดการตรึงใบหน้าของคนมูมมามกินเลอะเทอะเข้าไปหาบรรจงหยิบกระดาษทิชชู่ที่หัวเตียงมาเช็ดให้จนสะอาด"ขอโทษนะคะที่เนียกินเละเทะอยู่เรื่อย" เธอว่าแล้วรีบวางแก้วลงบนเคาน์เตอร์ทรงสูงที่ตั้งติดริมผนังปูนเปลือย หลังจากนี้เธอจะเอายังไงดีนะ จะเดินไปบอกเขาว่าเธอพร้อมแล้วดีไหม หรือว่าเกริ่นเรื่องอะไรก่อนดีถึงจะดูไม่น่าเกลียด"นี่ก็สามทุ่มแล้ว ถ้าง่วงเนียนอนก่อนได้เลยนะ เฮียมีงานที่ต้องตรวจนิดหน่อย" เขาบอกและเตรียมเดินจากไป แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเธอกลับรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดเข้าไว้อย่างเร็ว"สะ...สามทุ่มเองค่ะคือ คือว่าเฮียยังไม่ได้ก
ดวงหน้าคมก้มต่ำสำรวจมองความงดงามภายในของดาเนีย หางตาของเขาชำเลืองไปยังบาดแผลนูนข้างขาแล้วกดพลิกมาเพื่อจุมพิตรอยแผลของดาเนีย "อ๊ะ...." เขายังทำหน้าเหยเกเจ็บปวดยามที่ขยับอกของตนจนคนที่ถูกปรนเปรอถึงกับต้องรีบหยัดกายขึ้นมา"มานี่ก่อนค่ะ" ดาเนียดันตัวของเขาให้พิงกับผนังเตียง แล้วเห็นว่าเลือดไหลซึมออมาจากผ้าก็อต เฮียแซ็คคนตะกละอยากกินเธอขนาดยอมให้แผลฉีกหนักกว่าเดิมเลยเหรอไง"อยากให้เฮียหยุดเหรอ....ซี๊ด!" ดาเนียจิ้มนิ้วลงมาบนอกนิดหน่อยเขาก็ร้องซี๊ดซ้าดซะแล้ว"เปล่าค่ะ แต่เฮียเจ็บอยู่นะ ถ้าหายดีเมื่อไหร่จะให้เฮียกินร่างกายนี้ให้หนำใจเลย" ดาเนียพิงหัวลงกับไหล่หนา ใบหน้าซีดของสุริยะเอี้ยวมอง เชยคางเล็กขึ้นมาแล้วจรดริมฝีปากของตนลงไป ตอนนี้เหมือนกับว่าเขาทำได้แค่จูบเธอเท่านั้น เพราะขยับตัวไปทางไหนก็ปวดระบมไปหมด"เฮียทนเจ็บได้ แต่เฮียจะไม่ยอมปล่อยให้ท้องหิวเด็ดขาด" เขาทำหน้าอ้อนวอนเหมือนลูกแมวตัวโต"งั้น!" ดาเนียลุกขึ้นนั่งคร่อมลงบนหน้าขาของเขา "มาเนียจะทำเอง"เบิกตากว้างไม่อยากเชื่อว่าเด็กคนนี้จะขอเป็นฝ่ายรุกแถมรุกไร้เดียงสาซะด้วย แม่งน่ารักฉิบหายเลย"อ๊ะ...." มืออุ่นกอบกุมอกตูมของเธอแล้วส่งนิ้ว
ใบหน้าดุดันของโทนธรรมพ่อสายโหดของดาเนียกำลังจดจ้องดวงหน้าคมแข็งกร้าวของสุริยะกลับไป ดาเนียที่กำลังรินน้ำชาให้ทั้งสองคนนั้นหันซ้ายหันขวามองหน้าของชายทั้งสองที่กำลังลอบปะทะด้วยสายตาท่ามกลางความเงียบงัน ชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร เพราะเอาแต่มองพวกเขาทำให้ปั้นชาในมือที่ควรจะรินลงถ้วย เผลอรินลดมือตัวเองแทน"โอ๊ย...ซี๊ด!"เนีย!!!!พวกเขาโพล่งเรียกชื่อเธอพร้อมกันแล้วพุ่งเข้ามาจับมือเธอคนละข้างแล้วก้มดูหลังมือที่เห่อแดง"ระวังหน่อยสิลูก" โทนธรรมบอกแล้วหยิบยาหม่องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะส่งให้กับสุริะยะ "เอ้าทาให้น้องสิเจ้าแซ็ค"ในที่สุดพ่อก็ยอมเปิดปากคุยสักที เห็นลีลาอยู่นานสองนานถ้ากาน้ำชาไม่หกราดรดมือเธอป่านนี้พวกเขาก็ยังคงจ้องกันไปเรื่อย ๆ จนตาเป็นตะคริวแน่"ครับคุณลุง"เฮียแซ็คหยิบมือของเธอไปแล้วผ่นลมหายใจออกมารดเป่าที่หลังมือของเธออย่างอ่อนโยน ค่อย ๆ บรรจงทายาหม่องลงมาอย่างแผ่วเบา"ขอบคุณค่ะ""เนียไปนั่งข้างแซ็ค" ดาเนียถลึงตาส่งให้พ่อ แต่ถึงพ่อจะไม่บอกเธอก็อยากไปนั่งข้างว่าที่สามีมากกว่าพ่ออยู่ดีนั่นแหละพอเธอนั่งได้ไม่ทันไหร่พ่อก็หยิบโทรศัทพ์ขึ้นมาทำท่าจะถ่ายรูปเธอกับเฮียแซ็คแถมยังยิ้มน้อยยิ้มให
ทีมงาน Dania X studio กำลังช่วยกันเตรียมสถานที่เพื่อรอต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและเพื่อน ๆ ที่จะมาร่วมงานเปิดตัวสตูดิโอของเธอ หญิงสาวผู้มีใจรักงานดีไซน์และออกแบบเสื้อผ้า ตั้งใจให้ธุรกิจในฝันของเธอสร้างความประทับใจและประสบความสำเร็จ ดาเนียใช้เวลาจัดแจงโซนต่าง ๆ ในร้าน ห้องลองเสื้อ เคาน์เตอร์ และเสื้อผ้าผู้หญิงคอลเล็กชั่น ' My Apollo' คอลเล็กชั่นแรกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเฮียแซ็ค ซึ่งเธอใช้เวลาสร้างสรรค์ผลงานนี้มาตลอดสามปีที่เธอไปอยู่นิวยอร์กตัวคนเดียวถึงแม้ทุกคนอาจจะมองเห็นเขาเป็น Bad Apollo แต่สำหรับเธอ เขาคือ เทพอพอลโล่ที่สาดแสงส่องสว่างสู่ภายในใจ เขาคือเทพดวงอาทิตย์ที่โอบกอดหัวใจของเธอไว้ไม่ให้อ้างว้างแม้ก่อนหน้านี้เขาจะแสดงออกทุกวิถีทางว่าไม่มีวันจะรักคนอย่างเธอ แต่เธอก็ไม่เคยนึกเสียใจ เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้แสดงออกกับเขาไปแล้วว่า ทั้งหัวใจของดาเนียมีเพียงเฮียแซ็คแค่คนเดียว หลังจากที่ช่วยทีมงานจนเกือบเย็นเพื่อเตรียมการเปิดร้านในอีกสองวันข้างหน้า ขณะที่นั่งรอว่าที่สามีหมาด ๆ ของเธอมารับ ชายหนุ่มนิรนามก็เดินแวะเข้ามาในร้านที่กำลังชุลมุนไปด้วยผู้คน"ไม่ทราบว่าคุณดาเนียอยู่ไหนเหรอครับ"อ
เพราะเห็นว่าเจ้าของบ้านหายออกไปช้อปปิ้งที่ตลาดหลายชั่วโมงแล้ว ดาเนียจึงได้ฝากให้บอดี้การ์ดที่บ้านของสุริยะคอยดูแลเจ้าสุรีย์แล้วรีบออกไปทำธุระที่ร้านเสื้อผ้าของตน แต่พอไปถึงก็เกิดเรื่องขึ้นพอดีพนักงานสองคนในร้านนั่งก้มหน้าไม่ยอมให้เจ้านายอย่างเธอสำรวจใบหน้า แต่บาดแผลที่ปรากฏอยู่นั้นทั้งรอยข่วน รอยตบก็ยังคงเด่นชัดตำตาจนไม่อาจปิดบัง"เกิดอะไรขึ้นซัน เอ๋ย ใครทำร้ายพวกคุณสองคน" ดาเนียทรุดตัวลงนั่งแล้วเชยปลายคางของลูกน้องสาวทั้งสองคนจับพลิกไปมาด้วยความเป็นห่วง"จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนนึงบุกมา เอาลูกน้องผู้ชายสองคนจับตัวพวกเราไว้จนขยับไม่ได้แล้วก็ทั้งข่วนทั้งตบพวกเราไม่หยุดเลยค่ะ" ซันบอกแล้วทำหน้าเหยเกจับริมฝีปากของตน"หน้าตาผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงคะ" ดาเนียเค้นเอาคำตอบเพราะเธอเดาได้ในแว่บแรกว่าผู้หญิงที่ว่าก็คืออริเก่าของเธอ หัวโจกที่เคยรังแกเธอไม่ยอมเลิกรา ชอบเอาชนะและไม่ชอบความพ่ายแพ้"คุณเนียลองดูกล้องวงจรปิดดูสิคะ" เอ๋ยเสริมขึ้นแล้วลุกขึ้นพาดาเนียไปดูคลิปกล้องวงจรปิดที่เธอเซฟเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ภาพเคลื่อนไหวภายในกล้องวงจรปิดทำให้ดาเนียเห็นผู้หญิงคนดังกล่าวที่เดินเข้ามาทำร้ายพนักงานของเธอได้
ในห้องทำงานชั้นบนสุดสุริยะยังคงจดจ่ออยู่กับกองเอกสารของบริษัทค้าอาวุธที่ก่อตั้งอยู่ในต่างประเทศของตน ใบหน้าของสุริยะแน่นิ่งไม่ไหวติงกับสิ่งเร้าภายนอกแต่อย่างใด แต่เมื่อเขายอมลุกจากเก้าอี้และชะโงกหน้าออกไปดูที่หน้าต่างตอนแรกเขากะว่าจะทำนั่งทำงานหลังขดหลังแข็งอยู่ในห้องจนกว่าจะลืมเรื่องที่แม่มาหาเขาเมื่อวาน แต่พอเห็นดาเนียที่กำลังส่งเสียงหัวเราะร่วนอยู่ที่สวนหลังบ้าน หัวใจของเขามันก็เต้นไม่เป็นส่ำทุกที ดวงหน้าที่ยิ้มแย้มขณะกำลังเล่นกับไอ้ตัวอ้วนพุงกองสวมขนสิงโตหน้าตาพิลึก ทำให้เขาเผลขำออกมาโดยไม่รู้ตัว"นี่ค่ะพ่อบ้านดล คุณอรุณ เนียไปหัดทำมาเองเลยนะคะ" คุกกี้รูปช็อกโกแลตรูปกระดูกหมาถูกส่งให้ชายทั้งสอง พวกเขาหยิบคุกกี้คนละชิ้นอย่างไม่แน่ใจนัก เพราะดูยังไงก็เหมือนขนมหมามากกว่าคุกกี้"ฮึ่ม...อร่อยครับไม่หวานมาก พ่อบ้านดลเคี้ยวแก้มตุ่ย อรุณฉายจึงรีบโยนใส่ปากทันทีเมื่อรู้ว่าขนมหน้าตาประหลาดนี้อร่อย"ว่าแต่คุณเนียไอ้เจ้านี่มันจะทำให้คุณแซ็คมีความสุขได้จริงเหรอครับ" อรุณฉายชี้ไปยังเจ้าลูกหมาลาบราดอร์สีดำที่สวมหัวสิงโตขนปุยจากการตัดเย็บด้วยฝีมือของเธอ ดาเนียยิ้มกว้างแล้วอุ้มเจ้าลูกหมาวัย 2 เดื
At Dania X Studioงานเปิดตัวสตูดิโอของดาเนียนั้นเต็มด้วยแขกทางฝั่งของพ่อและฝั่งพี่เรนและเพื่อนคนไทยคนเดียวที่มีบ้านเกิดที่นอร์เวย์อย่างยัยเหมียว และนับว่าเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เข้ากับคนไม่คบค้าสมาคมหรือเข้าสังคมเท่าไหร่นักได้เป็นอย่างดี เพราะเธอค่อนข้างหวาดระแวงกับความสัมพันธ์จากการถูกเพื่อนรังแกจนเป็นแผลเป็นไม่หาย ไม่ว่ากี่เดือนกี่ปีเธอก็ยังกลัวและจิตตกกับการคบเพื่อนกลุ่มก้อนใหญ่ที่เต็มด้วยเหล่าผู้คนที่สวมหน้ากาก ถึงจะมีเพื่อน ๆ ดีอยู่บ้างรายล้อมตัวเธอ แต่ก็เป็นส่วนน้อยที่เพื่อนที่แสนดีเหล่านั้นจะกล้าคบหากับลูกสาวเจ้าพ่ออย่างเธอทว่ายัยเหมียวเพื่อนคนนี้กลับกล้าที่จะคบหาเธออย่างจริงจัง แถมยังเป็นคนที่โคตรประชดชีวิตได้เก่งจนเธอแทบอึ้ง กับการที่เพื่อนรักทะเลาะกับครอบครัวจนหายไปบวชชีที่พุทธคยาเป็นปี ๆ และหลังจากที่เพื่อนสนิทสึกออกมาก็กลายเป็นคนน้ำนิ่งไหลลึก ใจเย็นลงแต่ดันยึดปณิธานว่าตนเองนั้นจะไม่ขอแต่งงานและอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต แต่เธอก็ไม่ได้ถามว่ายัยเหมียวไปเจอเรื่องสะเทือนใจอะไรมาเพราะก่อนหน้านี้ก็ยังมีแฟนแล้วควงกันไปเช็คอินตรงนั้นตรงนี้อยู่บ่อยครั้งอยู่เลย"ไอ้เนียแกเก่งมากเ
"ยาเฮียแซ็คอยู่ไหนคะ กินยาก่อนแล้วเนียจะปรนนิบัตเฮียเอง""ละ...ลิ้นชัก" เขาพูดตะกุกตะกัก หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ พอตัวว่าจะโดนเด็กรุก คนแก่กว่าอย่างเขาก็ร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาแปลก ๆดาเนียลุกขึ้นเดินไปหยิบยาที่หมอเอลวินจัดไว้ให้ในลิ้นชัก แล้วหยิบน้ำหยิบท่าส่งให้สุริยะกินก่อนที่เขาต้องเสียเหงื่ออย่างหนัก พอเขากลืนน้ำกับยาลงคอได้ไม่ทันไร แก้วในมือก็ถูกมือของดาเนียชิงไปดื่มต่อ"ฮ่า...ชื่นใจ" ก้นงอนเด้งเอาแก้วน้ำไปวางไว้ที่เคาน์เตอร์แล้วเดินกลับมาหาหลุบตามองกางเกงแสลคดำที่ยังสวมเกาะเกี่ยวเอวสอบอยู่เหมือนเดิม"ให้เนียถอดให้ไหมคะ เนียจะหัดเรียนรู้ไว้ค่ะ" มือน้อยคว้าหมับลงมาที่กลางเป้าแล้วรูดซิปลงไป หัวใจของเขาก็ยิ่งสูบฉีดเลือดรุนแรงมากขึ้น ความรู้สึกตอนนี้คล้ายกับว่าเขากำลังจะเป็นลมเพราะความดุดันของดาเนีย กางเกงเปียกถูกเกี่ยวพ้นปลายขาแน่นกำยำ จนเหลือปรากาด่านสุดท้าย ดาเนียกลืนน้ำลายแล้วจ้องตาของเจ้าของอาวุธสงคราม"เนีย...เดี๋ยวอันนี้เฮียถอดเองดีกว่า....อ้ะ!" คัดค้านไม่ทันจบยัยตัวแสบก็รูดเกี่ยวกางเกงในสีดำของเขาออกไปซะแล้ว"ฮื่อ..." ผงะเล็กน้อยเมื่อเฮียแซ็คอีกคนชูคอตั้งขึ้นมา สูดหายใจลึก ๆ แล้วก้า
ซ่า!!!เสียงอาบน้ำที่ห้องนอนชั้นใต้ดินดังขึ้นมาขณะที่สองขาของเจ้าของบ้านกำลังเดินลงจากขั้นบันได คนที่อาบน้ำอยู่ในห้องน้ำกระจกปราศจากสิ่งใดปกปิดไม่รู้ตัวเลยว่าร่างกายสูงเคล้ากลิ่นเหล้ากำลังยืนดูเธออยู่อย่างเงียบ ๆนัยน์ตาคมกวาดมองใบหน้าที่หลับพริ้มอยู่ใต้ฝักบัว เคลิบเคลิ้มกับสายน้ำอุ่นที่รินรดลงมาชุ่มผิวกาย เส้นผมสลวยที่ยาวถึงกลางหลังเปียกชุ่มคลุมแผ่ไปทั่วขับขานให้ความสวยสะกดบนดวงหน้ายิ่งงามดั่งคาริทีส ไตรเทพีตามตำนานเทพเจ้ากรีกผิวนวลเนียนละเอียดอมชมพูเหมือนกับผลของลูกพีชทำให้เขาอยากจะกัดให้จมเขี้ยวหายไปสักครั้ง ช่วงบั้นเอวคอดนั้นก็ผายรับกับสะโพกผายและก้นงอนราวกับทรวดทรงของนาฬิกาทราย ถึงแม้ช่วงขาด้านข้างจะมีรอยแผลเป็นนูนขนาดใหญ่แต่ความสง่างามท่ามกลางสายน้ำนี้ก็ไม่ลดน้อยลงไปด้วย มันกลับยิ่งสวยจนหาจุดสิ้นสุดของความงดงามนี้ไม่ได้เขาช่างเป็นผู้ชายที่โคตรโชคดีที่พระเจ้าได้ส่งมอบของบรรณาการที่แสนพิเศษชิ้นนี้มาให้ หากย้อนกลับไปได้เขาจะไม่ปฏิเสธเธอ เขาจะไม่ปล่อยเวลาสามปีนั้นให้ล่วงเลยผ่านมาแบบนี้กรี๊ด!!!เสียงร้องของดาเนียดังขึ้นเพราะงูเขียวหล่นมาจากต้นไม้ เนื่องจากห้องน้ำกระจกนี้ดันยื่นออก
ทีมงาน Dania X studio กำลังช่วยกันเตรียมสถานที่เพื่อรอต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและเพื่อน ๆ ที่จะมาร่วมงานเปิดตัวสตูดิโอของเธอ หญิงสาวผู้มีใจรักงานดีไซน์และออกแบบเสื้อผ้า ตั้งใจให้ธุรกิจในฝันของเธอสร้างความประทับใจและประสบความสำเร็จ ดาเนียใช้เวลาจัดแจงโซนต่าง ๆ ในร้าน ห้องลองเสื้อ เคาน์เตอร์ และเสื้อผ้าผู้หญิงคอลเล็กชั่น ' My Apollo' คอลเล็กชั่นแรกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเฮียแซ็ค ซึ่งเธอใช้เวลาสร้างสรรค์ผลงานนี้มาตลอดสามปีที่เธอไปอยู่นิวยอร์กตัวคนเดียวถึงแม้ทุกคนอาจจะมองเห็นเขาเป็น Bad Apollo แต่สำหรับเธอ เขาคือ เทพอพอลโล่ที่สาดแสงส่องสว่างสู่ภายในใจ เขาคือเทพดวงอาทิตย์ที่โอบกอดหัวใจของเธอไว้ไม่ให้อ้างว้างแม้ก่อนหน้านี้เขาจะแสดงออกทุกวิถีทางว่าไม่มีวันจะรักคนอย่างเธอ แต่เธอก็ไม่เคยนึกเสียใจ เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้แสดงออกกับเขาไปแล้วว่า ทั้งหัวใจของดาเนียมีเพียงเฮียแซ็คแค่คนเดียว หลังจากที่ช่วยทีมงานจนเกือบเย็นเพื่อเตรียมการเปิดร้านในอีกสองวันข้างหน้า ขณะที่นั่งรอว่าที่สามีหมาด ๆ ของเธอมารับ ชายหนุ่มนิรนามก็เดินแวะเข้ามาในร้านที่กำลังชุลมุนไปด้วยผู้คน"ไม่ทราบว่าคุณดาเนียอยู่ไหนเหรอครับ"อ
ใบหน้าดุดันของโทนธรรมพ่อสายโหดของดาเนียกำลังจดจ้องดวงหน้าคมแข็งกร้าวของสุริยะกลับไป ดาเนียที่กำลังรินน้ำชาให้ทั้งสองคนนั้นหันซ้ายหันขวามองหน้าของชายทั้งสองที่กำลังลอบปะทะด้วยสายตาท่ามกลางความเงียบงัน ชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร เพราะเอาแต่มองพวกเขาทำให้ปั้นชาในมือที่ควรจะรินลงถ้วย เผลอรินลดมือตัวเองแทน"โอ๊ย...ซี๊ด!"เนีย!!!!พวกเขาโพล่งเรียกชื่อเธอพร้อมกันแล้วพุ่งเข้ามาจับมือเธอคนละข้างแล้วก้มดูหลังมือที่เห่อแดง"ระวังหน่อยสิลูก" โทนธรรมบอกแล้วหยิบยาหม่องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะส่งให้กับสุริะยะ "เอ้าทาให้น้องสิเจ้าแซ็ค"ในที่สุดพ่อก็ยอมเปิดปากคุยสักที เห็นลีลาอยู่นานสองนานถ้ากาน้ำชาไม่หกราดรดมือเธอป่านนี้พวกเขาก็ยังคงจ้องกันไปเรื่อย ๆ จนตาเป็นตะคริวแน่"ครับคุณลุง"เฮียแซ็คหยิบมือของเธอไปแล้วผ่นลมหายใจออกมารดเป่าที่หลังมือของเธออย่างอ่อนโยน ค่อย ๆ บรรจงทายาหม่องลงมาอย่างแผ่วเบา"ขอบคุณค่ะ""เนียไปนั่งข้างแซ็ค" ดาเนียถลึงตาส่งให้พ่อ แต่ถึงพ่อจะไม่บอกเธอก็อยากไปนั่งข้างว่าที่สามีมากกว่าพ่ออยู่ดีนั่นแหละพอเธอนั่งได้ไม่ทันไหร่พ่อก็หยิบโทรศัทพ์ขึ้นมาทำท่าจะถ่ายรูปเธอกับเฮียแซ็คแถมยังยิ้มน้อยยิ้มให
ดวงหน้าคมก้มต่ำสำรวจมองความงดงามภายในของดาเนีย หางตาของเขาชำเลืองไปยังบาดแผลนูนข้างขาแล้วกดพลิกมาเพื่อจุมพิตรอยแผลของดาเนีย "อ๊ะ...." เขายังทำหน้าเหยเกเจ็บปวดยามที่ขยับอกของตนจนคนที่ถูกปรนเปรอถึงกับต้องรีบหยัดกายขึ้นมา"มานี่ก่อนค่ะ" ดาเนียดันตัวของเขาให้พิงกับผนังเตียง แล้วเห็นว่าเลือดไหลซึมออมาจากผ้าก็อต เฮียแซ็คคนตะกละอยากกินเธอขนาดยอมให้แผลฉีกหนักกว่าเดิมเลยเหรอไง"อยากให้เฮียหยุดเหรอ....ซี๊ด!" ดาเนียจิ้มนิ้วลงมาบนอกนิดหน่อยเขาก็ร้องซี๊ดซ้าดซะแล้ว"เปล่าค่ะ แต่เฮียเจ็บอยู่นะ ถ้าหายดีเมื่อไหร่จะให้เฮียกินร่างกายนี้ให้หนำใจเลย" ดาเนียพิงหัวลงกับไหล่หนา ใบหน้าซีดของสุริยะเอี้ยวมอง เชยคางเล็กขึ้นมาแล้วจรดริมฝีปากของตนลงไป ตอนนี้เหมือนกับว่าเขาทำได้แค่จูบเธอเท่านั้น เพราะขยับตัวไปทางไหนก็ปวดระบมไปหมด"เฮียทนเจ็บได้ แต่เฮียจะไม่ยอมปล่อยให้ท้องหิวเด็ดขาด" เขาทำหน้าอ้อนวอนเหมือนลูกแมวตัวโต"งั้น!" ดาเนียลุกขึ้นนั่งคร่อมลงบนหน้าขาของเขา "มาเนียจะทำเอง"เบิกตากว้างไม่อยากเชื่อว่าเด็กคนนี้จะขอเป็นฝ่ายรุกแถมรุกไร้เดียงสาซะด้วย แม่งน่ารักฉิบหายเลย"อ๊ะ...." มืออุ่นกอบกุมอกตูมของเธอแล้วส่งนิ้ว
เสื้อเชิ้ตสีดำตัวโคร่งในร่างกายของเฮียแซ็คที่อยู่บนตัวเธอทำให้ดาเนียดูตัวเล็กกว่าเดิม แต่กระนั้นกลับดูเซ็กซี่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า แม้จะเห็นรอยแผลเป็นคีลอยด์นูนที่ข้างขาขาวอมชมพู สุริยะเดินลงมาจากชั้นบนแล้วส่งแก้วนมอุ่น ๆ ที่อรุณฉายเป็นคนจัดหามาให้ตามคำสั่งของดาเนีย"ขอบคุณค่ะ" เธอรับมาแล้วจิบอย่างเร่งรีบ"ค่อย ๆ กินเดี๋ยวก็สำลักหรอก" เขาเอ็ดหน้าบึ้ง ทว่านมในแก้วก็กรอกลงคอจดหมดเกลี้ยงก่อนที่เขาจะทักท้วงเสียอีกขอบปากอิ่มที่เลอะเปื้อนนมสีขาวทำให้สุริยะถึงกับหลุดหัวเราะ แล้วจัดการตรึงใบหน้าของคนมูมมามกินเลอะเทอะเข้าไปหาบรรจงหยิบกระดาษทิชชู่ที่หัวเตียงมาเช็ดให้จนสะอาด"ขอโทษนะคะที่เนียกินเละเทะอยู่เรื่อย" เธอว่าแล้วรีบวางแก้วลงบนเคาน์เตอร์ทรงสูงที่ตั้งติดริมผนังปูนเปลือย หลังจากนี้เธอจะเอายังไงดีนะ จะเดินไปบอกเขาว่าเธอพร้อมแล้วดีไหม หรือว่าเกริ่นเรื่องอะไรก่อนดีถึงจะดูไม่น่าเกลียด"นี่ก็สามทุ่มแล้ว ถ้าง่วงเนียนอนก่อนได้เลยนะ เฮียมีงานที่ต้องตรวจนิดหน่อย" เขาบอกและเตรียมเดินจากไป แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเธอกลับรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดเข้าไว้อย่างเร็ว"สะ...สามทุ่มเองค่ะคือ คือว่าเฮียยังไม่ได้ก