ริมฝีปากกระจับยอมละออกอย่างเสียดายเพราะลมหายใจของดาเนียเริ่มติดขัด เสียงลมหายใจพ่นเข้าออกจนทำให้ทรวงอกในห่อผ้าขนหนูผืนสีขาวตัวสั้นยุบย่อเพื่อสูดเอาออกซิเจนเข้าไป
"จะฆ่าเนียเหรอคะ" ดวงหน้าที่มีแต่รอยขีดข่วนเอ็ดเสียงใส เด็กนี่คิดว่าจูบจะทำให้ตายหรือไงกัน
"มีใครเขาจูบกันแล้วตายบ้าง เด็กน้อยจริง ๆ " สุริยะส่ายหน้าหลุดยิ้มกับท่าทางติงต๊องของดาเนีย
"ก็จูบกับเฮียแซ็คนั่นแหละ" นัยน์ตาหวานคมตวัดมาแล้วกดตัวของดาเนียให้นอนลง "จะ..จะทำอะไรคะ" มือยันแผงอกในเชิ้ตขาวไม่ให้ก้มลงมาประชิดกับอกของเธอ
"จูบกับเฮียมีแต่จะคราง" ดาเนียผงะสายตาเลิ่กลั่ก
"ไม่คราง" เธอเถียงกลับ เธอจะไม่ยอมครางเหมือนผู้หญิงพวกนั้นของเขาเด็ดขาด คิดทีไรก็โมโหและหัวร้อนไปหมด
"ได้เดี๋ยวเฮียจะทำให้ครางดัง ๆ เลย" สิ้นเสียงผ้าขนหนผืนสั้นก็ถูกกระตุกออก ริมฝีปากดุระดมจูบไปทั่วผิวกายไล่ตั้งแต่ลำคอและเลื้อยต่ำลงมา
"หยุดนะคะ.....อย่า" ที่เธอร้องอ้อนวอนเขาเพราะไม่อยากให้เขาเห็นบาดแผลที่ขาของเธอต่างหาก แผลนูนคีลอยด์นั่นที่โดนไม้ที่มีประตูฝังตีลงมาซ้ำ ๆ และครูดกับขาของเธอจนเกิดแผลฉกรรจ์ใหญ่ที่เกือบทำให้เธอเป็นบาดทะยักตายในวัยสิบเจ็ดปี
สุริยะระดมจูบลงมาเลื่อยจนถึงช่วงอกอิ่มแต่เขาข้ามผ่านมันไปเขาอยากใช้จูบนี้รักษาบาดแผลทางกายและใจให้ดาเนียอย่างนุ่มนวลที่สุด ทว่าเมื่อใบหน้าของเขาไล่ต่ำลงมาถึงขาอ่อนขาวผ่องขางหนึ่งที่มีรอยแผลนูนใหญ่ เขาผงะเล็กน้อยแต่กลับไม่ได้รังเกียจอะไรกลับรู้สึกสงสารเด็กผู้หญิงตรงหน้าจนอธิบายเป็นความรู้สึกไม่ได้
เพราะมันเป็นอย่างที่ไอ้เรนบอกเขาสูญเสียคนรัก แต่ดาเนียสูญเสียจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ไป มันแตกสลายเพราะคนเลวกลุ่มนั้น ดาเนียยกมือขึ้นปิดหน้าของตนกลัวว่าเขาไม่ชอบ กลัวเขาจะขยะแขยงและเธอก็รู้สึกอายจนไม่อาจ มองดูใบหน้าของเขาที่กำลังพรมจูบไปตามเนื้อตัวของเธอ
"ยังไงเนียก็ยังสวยเหมือนเดิม" เขากระซิบและจูบลงมาที่แผลนูนข้างขา ดาเนียยกมือออกยอมสบตาอย่างตกตะลึง หยัดกายขึ้นเล็กน้อยส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้เขาด้วยความครึ้มอกครึ้มใจ
"เนียสวยจริงเหรอคะ" เธอถามย้ำให้แน่ใจ
"สวยสิ สวยมาก อย่าดูถูกตัวเองนะคนดี" เขาเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้แล้วรั้งหัวไหล่กลมกลึงเข้าไปหา กระชับกอดเธอเพื่อให้กำลังใจและจูบซับลงมาบนไหปลาร้าสวยเพื่อย้ำเตือนว่าเขาไม่ได้รังเกียจเธอ "เฮียขอโทษที่เคยทำร้ายจิตใจเนีย" กระซิบบอกแล้วลูบไล้แผ่นหลังเนียนไปมา
"เนียยกโทษให้ค่ะ" เรียวปากอิ่มจรดลงมาบนแก้มสีออกแทนของเขา "จะกินเนียก็ได้นะคะ.....เอ่อคือยังไงดีล่ะเนียไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรแบบนี้...."
"เฮียกินดุนะ"
"อ๊ะ~" แผ่นหลังเล็กถูกดันเข้ามาให้รองรับชิวหาที่แหย่ลงมาเขี่ยยอดถันสีชมพู เพียงแค่ถูกกระตุ้นเล็กน้อยตุ่มไตในป้านกลมสีสวยก็ดุนดันชูชันขึ้นมา ปากกระจับงับและออกแรงดูดจนแก้มตอบ
เสียงตะโบมดูดหน้าอกของดาเนียยิ่งดังขึ้นทุกครั้งเมื่อเธอร้องครางเสียว
"อ๊าาา....ฮึ้มเฮียแซ็ค" นิ้วมือทั้งสิบแทรกตัวเข้าไปในเรือนผมดกดำแล้วขยุ้มไปมาด้วยความเสียวซ่าน ยามที่เขาลงน้ำหนักลงมาที่่หน้าอก ตัวของเธอมันก็แอ่นรับแรงปะทะจากเรียวปากดุของเขาอยู่เรื่อย "เฮียแซ็ค..เนียมึนหัว" เสียงหวานที่ค่อย ๆ แผ่วเบาลงทำให้สุริยะต้องผละออกจากการลิ้มรสทรวงอกขนาดน่ารักพอดีมือ
"ร่างกายเนียยังไม่พร้อม...ไม่เป็นไรนอนพักก่อนเถอะ" ดาเนียที่รู้สึกตาลายและปวดที่หัวตึ้บ ๆ เอนหัวลงไปบนหมอนมือน้อยคว้าจับมือของสุริยะเอาไว้แน่น เขาเหลือบมองมือของเธอแล้วเป็นฝ่ายกุมมือเธอแทนถกผ้าขึ้นมาคลุมกายที่บอบช้ำด้วยความห่วง
"ฝันดีค่ะ"
"ฝันดีครับ"
ใบหน้าอ่อนล้าปิดเปลือกตาลงและหลับสนิทภายในไม่กี่นาที วงแขนใหญ่สอดเข้าไปใต้ลำคอออกแรงดึงให้ดาเนียเข้ามาซุกแนบชิดอกของเขา
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขารู้สึกว่าต้องการเธอถึงเพียงนี้ หรือเป็นเพราะตั้งแต่ที่ดาเนียตามตื๊อเขา พยายามทุกอย่างกระทั่งนั่งเซ็นและตรวจเอกสารกองโต ส่วนเขาก็เอาแต่ไปสำราญกับผู้หญิงไม่เลือกหน้า และยังจะปากหมาใส่เธอสารพัด พอนึกย้อนการกระทำชั่วของตนเอง เขาก็รู้สึกเจ็บกระดองใจขึ้นมา ที่ตัวเองไม่คิดให้เร็วกว่านี้ ถ้าเขารู้ตัวว่าขาดเธอไม่ได้ ดาเนียคงจะมาอยู่ในความดูแลของเขาตั้งนานแล้ว ป่านนี้เธอคงเป็นผู้หญิงของเขาโดยสมบูรณ์
คงไม่ต้องมาเผชิญเรื่องร้ายตัวคนเดียว และคงไม่ต้องถูกใครรังแก
แสงของดวงตะวันสาดส่องแยงตาทำให้ร่างกายที่อ่อนล้าหยัดตัวขึ้นมาช้า ๆ เพื่อรับแสงตะวัน ดาเนียมองหาสุริยะแต่เขากลับไม่อยู่แล้ว หญิงสาวนั่งขบคิดว่าเมื่อวานเป็นความฝันหรือความจริงกันแน่ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว ปวดแผลที่หน้าผาก จึงได้ลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่น
ดาเนียสวมใส่เสื้อครอปเอวลอยและกางเกงวอร์มออกมาจากห้องนอน ขณะที่กำลังเปิดตู้เย็นที่โล่งโจ้งปราศจากของกิน ใครบางคนก็เปิดประตูเข้ามา และได้ยินเสียงถุงก็อปแก็ปดังมาจากห้องรับแขก เหมือนกับว่าแขกที่เข้ามาในห้องเธอซื้อของมามากมาย
ใบหน้าที่แจ่มใสขึ้นเล็กน้อยชะโงกเข้าไปดูต้นเสียงและพบกับแผ่นหลังกว้างที่กำลังบรรจงถอดปิ่นโตออกมาทีละชั้น ทีแท้ปิ่นโตลึกลับกับโน้ตนั่นก็เป็นฝีมือของเฮียแซ็คนี่เอง
"เฮียรู้ว่าหิวแล้ว มากินสิ" เขารู้ได้ไงว่าเธอแอบดูอยู่ ช่างเป็นคนประสาทหูประตาไวเสียจริง
"เอ่อ..ค่ะงั้นเนียไม่เกรงใจแล้วนะคะ" คนที่ตัวเล็กเพียงแค่อกของเขาซอยเท้าเข้าไปนั่งจุ้มปุ๊กลงบนเก้าอี้แล้วหยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวขาหมูกลิ่นหอมใส่ปากอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมเบิกกว้างตะลึงกับรสชาตินุ่มลิ้นของเนื้อหมู
"อร่อยไหม" พ่อบ้านเฉพาะกิจของเธอทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามและเจาะนมเปรี้ยวขวดโตส่งให้เธอดื่ม พร้อมกับถาดผลไม้ และขนมตาลกับของกินอีกมากมายที่ประเคนมาให้เธอแบบชุดใหญ่
นี่เฮียแซ็คเห็นเธอเป็นปีศาจหมูหรือยังไงกัน ใครมันจะไปกินของพวกนี้ได้หมดในครั้งเดียว
"อร่อยค่ะ เฮียแซ็คไม่กินเหรอคะ" ถามตาปริบ ๆ แล้วตักข้าวขาหมูใส่ปากจนเม็ดข้าวเปื้อนติดอยู่ที่แก้ม
จะกี่ปีดาเนียจอมแก่นก็ยังกินมูมมามเลอะเทอะเหมือนเด็กอนุบาลไม่เคยเปลี่ยน แต่นั่นแหละมันก็เป็นสีสันที่ทำให้เขาจดจำเธอได้ต่างจากผู้หญิงทุกคน ขนาดพริมพลอยเองยังไม่มีคาแล็กเตอร์ที่พิเศษแบบนี้เหมือนกับดาเนียเลย
"ข้าวติดแก้ม" เขายิ้มแล้วเกลี่ยเม็ดข้าวออกจากพวงแก้มใสที่มีรอยเล็บข่วน ยิ่งเห็นแผลพวกนี้ทีไรใจเขามันก็เดือดดาลขึ้นมาทุกที มันน่าโมโหจนเขาไม่สามารถกระเดือกอะไรได้ลง
"อ้ามมมค่ะ กินเร็วไม่งั้นเนียโกรธนะ" องุ่นเขียวในมือของดาเนียถูกยื่นมาตรงหน้าของสุริยะ ถึงเขาจะไม่อยากกินแต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธเธออีกเป็นครั้งที่สอง เขาต้องยอมรับว่า เขาโคตรเข็ดที่ซื่อบื้อและงี่เง่าปล่อยให้เด็กสาวคนนี้จากเขาไปถึงสามปีเต็ม
ตอนนี้กลายเป็นว่าสุริยะตัวติดกับดาเนียไม่ยอมห่าง กลางวันก็หอบงานมาเฝ้าเธอที่อพาร์ทเม้นต์ จากที่เคยกินนอนอยู่ที่สุสานของแฟนเก่าที่เสียชีวิตไป แต่ ณ เวลานี้กลับเอาแต่จดจ้องน้องสาวของเพื่อนซี้จนตาแทบจะเป็นตะคริวนัยน์ตาหวานคมกริบกระพริบมองหญิงสาวที่อยู่ชุดเอี๊ยมกางเกงและสวมเสื้อครอปคอเต่าแขนกุดสีขาวครึ่งตัวไว้ข้างใน ขณะที่ดาเนียกำลังนั่งสเก็ตแบบเสื้อผ้าที่ห้องรับแขกอย่างตั้งอกตั้งใจ พอเธอชำเลืองมองดูเขา ชายหนุ่มที่เคยวางมาดหยิ่งผยองก็ตวัดมองไปทางอื่นอย่างไม่รู้ไม่ชี้ดาเนียหัวเราะคิกคักที่เธอทำให้คนตัวโตที่เคยพูดจาร้าย ๆ และทำตัวแย่ ๆ เปลี่ยนไปเป็นสุริยะฟรุ้งฟริ้งที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู เฮียแซ็คหนอเฮียแซ็คจะรู้บ้างไหมว่าเวลาที่เขาทำสายตาเลิ่กลั่งลุกลนเพราะถูกเธอจับได้ว่าเขากำลังแอบมองเธออยู่มันช่างเป็นภาพที่โคตรน่ารักและทำให้ใจทั้งสี่ห้องของเธอเปี่ยมด้วยพลังงานบวกสาวในชุดเอี๊ยมยีนส์เดินล้วงกระเป๋าเหมือนสาวห้าวเข้ามาหาคนที่พยายามก้มหน้าก้มตากลบเกลื่อนอย่างไม่เนียน"ไม่ทำงานทำการเหรอคะ แล้วเลขาร่านสวาทของเฮียล่ะ ไปอยู่ไหนซะแล้ว เนียอยากจะเจอสักหน่อย""อยากเจอทำไม" ทำทีเป็นถามแต่ไม่สบตา เพรา
ห้องพิสูจน์อักษร ภายในห้องดำมืดที่มีเถาวัลย์เลื้อยยื่นเข้ามาจนเต็มผนังกำแพง กลางห้องที่มีแสงส่องรำไรมีเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่สี่ตัว ไม่นานนักใครบางคนก็ถูกพาเข้ามา ซึ่งเป็นเสียงของผู้หญิงกลุ่มนึงที่ร้องโวยวายกึกก้องไปทั่วร้านหนังสือใต้ดินอันเงียบสงัดแห่งนี้ กระทั่งชายชุดดำลูกน้องเฮียแซ็คลากคอสาวสี่คนที่เธอคุ้นหน้าคร่าตาเป็นอย่างดีมานั่งบนเก้าอี้ไม้ ยัยกลุ่มจอมบูลลี่อริเก่าก็ชะงักงันในทันทีเมื่อเห็นเธอยืนอยู่เคียงข้างเฮียแซ็ค"แก๊! นังดาเนีย! ฝีมือแกเองเหรอ นังสวะ!....เผียะ!" หลังฝ่ามือของสุริยะฟาดจนใบหน้าของแยม หัวโจกตัวร้ายสะบัดหน้าหันไปอีกทาง หญิงสาวจอมกร่างค้อนดวงตากลับไปหามือตบร่างสูงโปร่ง แล้วแสยะยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว"ถ้ามึงยังพูดกับคนของกูแบบนั้นอีกรอบ คราวนี้มึงจะได้กินนี่เป็นอาหารค่ำ!" ใบหน้าที่ดุดันควักกระบอกปืนสีเงินออกมาแล้วกดแนบลงไปที่ขมับเพื่อข่มขู่ แต่ดูเหมือนว่าแยมจะไม่รู้สึกรู้สาหรือหวั่นใจ"ที่แท้แกมันก็เล่นหมาหมู่เหมือนกันนี่วะ นังเนีย!"หมับ! ปลายคางของแยมถูกมือใหญ่บีบจนแน่น "กูบอกให้หุบปาก!" สุริยะตวาดลงมาเสียงดัง"ไหนวะคนรังแกน้องกู" จู่ ๆ เสียงของพี่เรนก็ดังแล่บเข้า
ร้านอาหารหรูที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยานับเป็นสถานที่โรแมนติกที่ทำให้ดวงหน้าคมคายสามารถสำรวจมองรอยยิ้มสดใสที่กำลังตักของอร่อยใส่ปากได้อย่างเพลิดเพลินใจ เพียงแค่ได้มองดวงหน้าเฉี่ยวที่หวานอมเปรี้ยวของดาเนียเขาก็รู้สึกเหมือนถูกเธอหลอมละลายไว้ สุริยะจินตนาการไปถึงตอนที่ได้ไปอยู่ในตัวของเด็กสาว วินาทีที่เป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายกับเธอ หูของเขาทั้งสองข้างก็แดงก่ำขึ้นมา จนคนที่กำลังกินน้ำแข็งใสอยู่นั้นถึงต้องหรี่ตามอง"เฮียแซ็คป่วยหรือเปล่าคะ" มือที่เย็นวาบของดาเนียเอื้อมมาจับหูของสุริยะ เขาสะดุ้งเฮือกเพราะหูนับว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดของเขา"เอ่อ..คงงั้นมั้ง" เขารีบตะปกหูสองข้างของตนเอง แล้วถูไปมาจนแดงกว่าเดิมจังหวะที่ทั้งสองกำลังจะขึ้นรถมีชายสวมโม่งดำชุดดำถือดาบซามูไรเดินตรงเข้ามา"ระวังเนีย!" สุริยะที่หูตาไวรีบผลักดาเนียกระเด็นออกไปอย่างเร็วพลั่ก! ดาเนียล้มลงไปเฟี้ยบ!ดาบซามูไรด้ามยาวถูกฟันลงมาที่กลางอกของเขาร่างสูงทรุดนั่งชันเข่ากับพื้นไว้หนึ่งข้าง"เฮ้ย!" ศิวดลกับอรุณฉายควักกระบอกปืนเล็งไปยังชายนิรนาม มันผงะครู่หนึ่งแล้วกระโดดขึ้นไปยังรถเก๋งติดฟิลม์ที่แล่นมารับแล้วทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว"เ
คนในอ้อมกอดยังคงปล่อยหมัดรัวมาที่อกจนรู้สึกว่าเจ็บจนทนจูบต่อไปไม่ไหวเขาถึงได้ผละออกแล้วทรุดลงไปกับพื้น เขาไม่ร้องสักแอะแต่ทำหน้าเจ็บปวดรวดร้าวจนคนที่เผลอลงมือฟาดกำปั้นลงไปถึงกับได้สติ"เฮียแซ็คเนียขอโทษค่ะ...เจ็บมากไหม เนียขอโทษนะคะ" ดาเนียทรุดลงนั่งมือน้อยจับไปตามเนื้อตามตัวของเขาจนมั่วด้วยความตกใจ "เลือดออก...ฮึกเนียไม่ได้ตั้งใจ" จู่ ๆ เธอก็หลุดสะอื้นออกมาจนได้"ไม่เป็นไร...โอ๊ย" หน้าคมเหยเกขณะพยายามหยัดกายขึ้นจากพื้น หญิงสาวจึงคว้าแขนของเขามาพาดกับบ่าเล็กแล้วช่วยพยุงให้เขาลุกขึ้นมา สุริยะยิ้มกริ่มที่เห็นว่าดาเนียเป็นห่วงตน"นั่งตรงนี้ก่อนนะคะ หิวน้ำหรือหิวอะไรไหมเนียจะไปหามาให้""หิวเนีย!" เขาย้ำสีหน้าราบเรียบแล้วตวัดนัยน์ตาเอาจริงส่งให้ ดาเนียชะงัก"อะไรกันคะ เนียไม่ใช่ของที่กินได้ซะหน่อย เอาของที่กินได้สิคะ""รู้ได้ไงว่ากินไม่ได้ เคยลองเป็นของกินให้เฮียชิมหรือยัง""เนียไม่คุยกับเฮียแซ็คแล้ว....คนอะไรกวนติงชิป" บ่นอุบอิบแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปเพื่อโทรหาอรุณฉายให้เขาหาของกินมาให้เธอกับเฮียแซ็คเพราะดูแล้วในบ้านของผู้ชายดิบเถื่อนคนนี้จะมีแค่น้ำเปล่าเท่านั้น และก็เป็นอย่างที่เธอคา
เสื้อเชิ้ตสีดำตัวโคร่งในร่างกายของเฮียแซ็คที่อยู่บนตัวเธอทำให้ดาเนียดูตัวเล็กกว่าเดิม แต่กระนั้นกลับดูเซ็กซี่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า แม้จะเห็นรอยแผลเป็นคีลอยด์นูนที่ข้างขาขาวอมชมพู สุริยะเดินลงมาจากชั้นบนแล้วส่งแก้วนมอุ่น ๆ ที่อรุณฉายเป็นคนจัดหามาให้ตามคำสั่งของดาเนีย"ขอบคุณค่ะ" เธอรับมาแล้วจิบอย่างเร่งรีบ"ค่อย ๆ กินเดี๋ยวก็สำลักหรอก" เขาเอ็ดหน้าบึ้ง ทว่านมในแก้วก็กรอกลงคอจดหมดเกลี้ยงก่อนที่เขาจะทักท้วงเสียอีกขอบปากอิ่มที่เลอะเปื้อนนมสีขาวทำให้สุริยะถึงกับหลุดหัวเราะ แล้วจัดการตรึงใบหน้าของคนมูมมามกินเลอะเทอะเข้าไปหาบรรจงหยิบกระดาษทิชชู่ที่หัวเตียงมาเช็ดให้จนสะอาด"ขอโทษนะคะที่เนียกินเละเทะอยู่เรื่อย" เธอว่าแล้วรีบวางแก้วลงบนเคาน์เตอร์ทรงสูงที่ตั้งติดริมผนังปูนเปลือย หลังจากนี้เธอจะเอายังไงดีนะ จะเดินไปบอกเขาว่าเธอพร้อมแล้วดีไหม หรือว่าเกริ่นเรื่องอะไรก่อนดีถึงจะดูไม่น่าเกลียด"นี่ก็สามทุ่มแล้ว ถ้าง่วงเนียนอนก่อนได้เลยนะ เฮียมีงานที่ต้องตรวจนิดหน่อย" เขาบอกและเตรียมเดินจากไป แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเธอกลับรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดเข้าไว้อย่างเร็ว"สะ...สามทุ่มเองค่ะคือ คือว่าเฮียยังไม่ได้ก
ดวงหน้าคมก้มต่ำสำรวจมองความงดงามภายในของดาเนีย หางตาของเขาชำเลืองไปยังบาดแผลนูนข้างขาแล้วกดพลิกมาเพื่อจุมพิตรอยแผลของดาเนีย "อ๊ะ...." เขายังทำหน้าเหยเกเจ็บปวดยามที่ขยับอกของตนจนคนที่ถูกปรนเปรอถึงกับต้องรีบหยัดกายขึ้นมา"มานี่ก่อนค่ะ" ดาเนียดันตัวของเขาให้พิงกับผนังเตียง แล้วเห็นว่าเลือดไหลซึมออมาจากผ้าก็อต เฮียแซ็คคนตะกละอยากกินเธอขนาดยอมให้แผลฉีกหนักกว่าเดิมเลยเหรอไง"อยากให้เฮียหยุดเหรอ....ซี๊ด!" ดาเนียจิ้มนิ้วลงมาบนอกนิดหน่อยเขาก็ร้องซี๊ดซ้าดซะแล้ว"เปล่าค่ะ แต่เฮียเจ็บอยู่นะ ถ้าหายดีเมื่อไหร่จะให้เฮียกินร่างกายนี้ให้หนำใจเลย" ดาเนียพิงหัวลงกับไหล่หนา ใบหน้าซีดของสุริยะเอี้ยวมอง เชยคางเล็กขึ้นมาแล้วจรดริมฝีปากของตนลงไป ตอนนี้เหมือนกับว่าเขาทำได้แค่จูบเธอเท่านั้น เพราะขยับตัวไปทางไหนก็ปวดระบมไปหมด"เฮียทนเจ็บได้ แต่เฮียจะไม่ยอมปล่อยให้ท้องหิวเด็ดขาด" เขาทำหน้าอ้อนวอนเหมือนลูกแมวตัวโต"งั้น!" ดาเนียลุกขึ้นนั่งคร่อมลงบนหน้าขาของเขา "มาเนียจะทำเอง"เบิกตากว้างไม่อยากเชื่อว่าเด็กคนนี้จะขอเป็นฝ่ายรุกแถมรุกไร้เดียงสาซะด้วย แม่งน่ารักฉิบหายเลย"อ๊ะ...." มืออุ่นกอบกุมอกตูมของเธอแล้วส่งนิ้ว
ใบหน้าดุดันของโทนธรรมพ่อสายโหดของดาเนียกำลังจดจ้องดวงหน้าคมแข็งกร้าวของสุริยะกลับไป ดาเนียที่กำลังรินน้ำชาให้ทั้งสองคนนั้นหันซ้ายหันขวามองหน้าของชายทั้งสองที่กำลังลอบปะทะด้วยสายตาท่ามกลางความเงียบงัน ชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร เพราะเอาแต่มองพวกเขาทำให้ปั้นชาในมือที่ควรจะรินลงถ้วย เผลอรินลดมือตัวเองแทน"โอ๊ย...ซี๊ด!"เนีย!!!!พวกเขาโพล่งเรียกชื่อเธอพร้อมกันแล้วพุ่งเข้ามาจับมือเธอคนละข้างแล้วก้มดูหลังมือที่เห่อแดง"ระวังหน่อยสิลูก" โทนธรรมบอกแล้วหยิบยาหม่องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะส่งให้กับสุริะยะ "เอ้าทาให้น้องสิเจ้าแซ็ค"ในที่สุดพ่อก็ยอมเปิดปากคุยสักที เห็นลีลาอยู่นานสองนานถ้ากาน้ำชาไม่หกราดรดมือเธอป่านนี้พวกเขาก็ยังคงจ้องกันไปเรื่อย ๆ จนตาเป็นตะคริวแน่"ครับคุณลุง"เฮียแซ็คหยิบมือของเธอไปแล้วผ่นลมหายใจออกมารดเป่าที่หลังมือของเธออย่างอ่อนโยน ค่อย ๆ บรรจงทายาหม่องลงมาอย่างแผ่วเบา"ขอบคุณค่ะ""เนียไปนั่งข้างแซ็ค" ดาเนียถลึงตาส่งให้พ่อ แต่ถึงพ่อจะไม่บอกเธอก็อยากไปนั่งข้างว่าที่สามีมากกว่าพ่ออยู่ดีนั่นแหละพอเธอนั่งได้ไม่ทันไหร่พ่อก็หยิบโทรศัทพ์ขึ้นมาทำท่าจะถ่ายรูปเธอกับเฮียแซ็คแถมยังยิ้มน้อยยิ้มให
ทีมงาน Dania X studio กำลังช่วยกันเตรียมสถานที่เพื่อรอต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและเพื่อน ๆ ที่จะมาร่วมงานเปิดตัวสตูดิโอของเธอ หญิงสาวผู้มีใจรักงานดีไซน์และออกแบบเสื้อผ้า ตั้งใจให้ธุรกิจในฝันของเธอสร้างความประทับใจและประสบความสำเร็จ ดาเนียใช้เวลาจัดแจงโซนต่าง ๆ ในร้าน ห้องลองเสื้อ เคาน์เตอร์ และเสื้อผ้าผู้หญิงคอลเล็กชั่น ' My Apollo' คอลเล็กชั่นแรกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเฮียแซ็ค ซึ่งเธอใช้เวลาสร้างสรรค์ผลงานนี้มาตลอดสามปีที่เธอไปอยู่นิวยอร์กตัวคนเดียวถึงแม้ทุกคนอาจจะมองเห็นเขาเป็น Bad Apollo แต่สำหรับเธอ เขาคือ เทพอพอลโล่ที่สาดแสงส่องสว่างสู่ภายในใจ เขาคือเทพดวงอาทิตย์ที่โอบกอดหัวใจของเธอไว้ไม่ให้อ้างว้างแม้ก่อนหน้านี้เขาจะแสดงออกทุกวิถีทางว่าไม่มีวันจะรักคนอย่างเธอ แต่เธอก็ไม่เคยนึกเสียใจ เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้แสดงออกกับเขาไปแล้วว่า ทั้งหัวใจของดาเนียมีเพียงเฮียแซ็คแค่คนเดียว หลังจากที่ช่วยทีมงานจนเกือบเย็นเพื่อเตรียมการเปิดร้านในอีกสองวันข้างหน้า ขณะที่นั่งรอว่าที่สามีหมาด ๆ ของเธอมารับ ชายหนุ่มนิรนามก็เดินแวะเข้ามาในร้านที่กำลังชุลมุนไปด้วยผู้คน"ไม่ทราบว่าคุณดาเนียอยู่ไหนเหรอครับ"อ
การจากลูกจากเมียเกือบสองเดือนทำให้สุริยะปล่อยผมเผ้ายาวรุงรังไม่ต่างกับโจรป่าห้าร้อย ความโฉดและความโหดที่ลือกระฉ่อนอยู่ก่อนแล้วทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของเขาน่ากลัวขึ้นไปอีก เวลาเดินผ่านลูกค้าที่คาเฟ่บนร้านหนังสือ ชายหญิงทั้งหลายต่างผงะมองค้างไม่คิดว่าจะเจอทาร์ซานหลงมาเดินอยู่ใจกลางเมืองแสงสีเช่นนี้ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาอิดโรยอ่อนล้าปรากฏขึ้นฉาบความหล่อเหลาจนเห็นชัด เพียงแค่ตวัดหางตาไปยังกลุ่มลูกค้าสาวที่นั่งอยู่มุมโต๊ะด้านในสุด พวกเธอก็สะดุ้งเฮือกพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายตอนนี้เขาก็ไม่ต่างจากสุริยะทมิฬที่ถูกหลุมดำดูดดึงเข้าไป ตั้งแต่วันนั้นที่ตัดสินใจให้ดาเนียไปอยู่ไกลถึงนิวยอร์กกับพ่อตา เธอก็ได้แต่พยักหน้ายอมรับเหตุผลแต่โดยดี แต่เขากลับสังเกตเห็นดาเนียนอนตะแคงร้องไห้พยายามเก็บเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดทั้งที่ปากก็บอกว่าจะยอมไปคลอดลูกอยู่ที่โน่น แต่วันก่อนหน้าที่จะเดินทางไปกลับไม่คุยเล่น ไม่ให้เขาจับหรือหอมใด ๆ ทั้งสิ้น บอกเพียงแค่ว่า 'เนียกลัวตัวเองไม่กล้าปล่อยมือเฮีย' เธอพูดขึ้นมาแค่นั้น แล้วก็เดินไปกลับกลุ่มบอดี้การ์ดของพ่อตา ไม่ยอมหันหน้ามายิ้มหวานอย่างที่ชอบทำวินาทีก่อนลากันเมื่อแผ่นห
การแต่งงานผ่านพ้นไปอย่างสวยงามแม้ในคืนแต่งเจ้าบ่าวตัวดีจะไปเมามาย แต่คืนนั้นสุริยะก็โอบกอดภรรยาคนสวยของตนไม่ยอมปล่อย ยิ่งท้องของดาเนียใหญ่ขึ้นเขาก็ยิ่งหวนแหนและวิตกจริตกว่าใคร โดยเฉพาะทุกครั้งที่เขากำลังจะมีความสุข มันจะมีลางสังหรณ์ว่าความทุกข์กำลังจะมาเยือน*********************************** สำนักอัญฏรญามี สุริยะไปหาอาจารย์เธียร หมอดูญาณทิพย์คนดังพ่อของพณาธีร์เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับดาเรศ พี่สาวต่างแม่ที่ลึกลับของภรรยา"พวกเธออาจจะมีเหตุต้องจากกันไปสักพัก แต่จากกันครั้งนี้มันจะไม่มีอะไรที่หนักหนาอีก ก็อาจเจอเรื่องน่าหงุดหงิดบ้างแต่ก็ดีกว่าปล่อยให้เกิดเรื่องเลือดตกยางออกนะแซ็ค" อาจารย์เธียรนั่งขัดสมาธิพูดด้วยสีหน้าจริงจัง"หมายถึงอะไรครับพ่อ""บอกหมดเลยไม่ได้หรอก มันเป็นกฏ บางครั้งเธอก็ต้องฟังหูไว้หู เธอเชื่อฉันได้ ไม่เชื่อก็ได้ แต่อย่างไรก็จงฟังไว้เป็นแนวทางเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ยังไงวันนี้เธออกจากสำนักฉันไปก็ระวังผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อดาเรศไว้ วันนี้หล่อนจะมาคุยบางอย่างกับเธอ"อาจารย์เธียรทิ้งทวนประโยคอย่างเป็นปริศนา สุริยะที่นั่งอยู่เบาะหลังรถ
หาดพัทยา สุริยะกับดาเนียเลือกจัดงานแต่งแบบเรียบง่ายที่มีแขกเหรื่อมาร่วมงานเพียงห้าสิบคน รวมทั้งเพื่อน ๆ ในกลุ่มบรรณาธิการมาเฟียที่ควงภรรยาของตัวเองมาเปิดตัวในงานแต่งด้วย สาว ๆ ทั้งหกคนได้พบกันและคุยกันอย่างออกรสออกชาติที่โต๊ะเลี้ยงฉลองริมทะเล แต่กระนั้นสิ่งที่ทำให้ดาเนียอึ้งที่สุดคือ ยัยเหมียวเพื่อนสนิทกลับกระหนุงกระหนิงเคลียคลอมาพร้อมพนาธีร์เจ้าสาวรีบลากเหมียวมานั่งร่วมวงสนทนากับเหล่าภรรยาของเพื่อนพี่ชาย และเริ่มเปิดประเด็นถามไถ่ความจริงจากปากของเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันครึ่งค่อนปี แต่พอชวนให้มางานแต่งของเธอกับเฮียแซ็ค ยัยเหมียวดันควงแขนมากับพี่ป่าแบบงง ๆ"แกไปคบกับพี่ป่าตอนไหน เล่ามาเดี๋ยวนี้" ดาเนียจิกตาส่งให้เหมียวที่กำลังทำหน้าอ้ำอึ้งไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่าจากจุดไหนก่อน"ก็คบกันหลังจากที่ฉันบินมางานเปิดตัวสตูดิโอแกนั่นแหละยัยเนีย พี่ป่าเขาไปตามตื๊อฉันถึงนอร์เวย์ แล้วฉันก็กลับมาดูแลกิจการที่เมืองไทยแทนแม่ก็เลยได้มีโอกาสศึกษาดูใจกัน" เหมียวพูดไปเขินไป"แล้วน้องเหมียวกลัวเจ้าดงดิบของพี่ป่าไหม พี่เรนพาไปบ้านพี่ป่าทีไรพี่ตกใจเจ้าตัวนั้นทุกที ฮื่อ...ขนลุก" ปาลินเล่ายกมือขึ้นกอดตัวเอง"ทำ
"ยุบหนอ! พองหนอ! สติสติ! ฮู่ว...."ท่องในใจหลับตาข่มอารมณ์ที่กำลังวาบหวามจนหัวหมุนติ้วจากฝ่ามือซุกซนที่กำลังเลื้อยไปทั่วเนื้อตัว"เฮียถึกขึ้นนะคะ แสดงว่าระงับความหื่นได้แล้ว ต่อไปมีผู้หญิงมาอ่อยเฮียจะได้ไม่ไปสอยเข้าร่วงเหมือนเมื่อก่อน" กระซิบแล้วงับลงมาที่ใบหูจนขนแขนพากันลุกตั้งโดยมิได้นัดหมาย "เนียวันนี้เฮียต้องทำงานดึกนะ" พูดไปกำผ้าขนหนูแช่เย็นจนเส้นเลือดปูดขึ้นบนหลังมือ ดาเนียกระตุกยิ้มสะใจที่ได้กลั่นแกล้ง"ปกติเฮียชอบกินรอบดึกไม่ใช่เหรอคะ วันนี้นึกยังไงไม่กินซะแล้ว แต่ทำงานแทน สงสัยของเฮียคงจะเหี่ยวแล้วแน่เลย""ของเฮียไม่ได้เหี่ยวนะ แข็ง แน่น และฟิตมากไม่เชื่อจับดูสิ"หมับ!!"อึ้มจริงด้วยค่ะ" มือข้างหนึ่งของภรรยาตะปปเข้าที่เป้ากางเกง "เนีย....ขอร้องอย่า" หลับตาวิงวอนขอกล่องดวงใจที่กำลังแข็งขืนในกำมือคืนมากจากดาเนีย"อย่าหยุดเหรอคะ ว่าไงล่ะ พูดให้ชัดเจนหน่อยสิ เนียไม่ค่อยเข้าใจเลยอ่ะ" มือที่ว่างอีกข้างนวดบั้นท้ายสามีแล้วขยำแรง ๆ จนคุณพ่อบ้านสะดุ้งโหยง"ตัวแสบปล่อยเฮียเถอะนะคะ" ปากหวานระดับสิบแสดงว่าคงมุ่งมั่นตั้งใจในการขอแต่งงานมากจริง ๆ "ปล่อยแล้วค่ะ" บอกแล้วรีบสวมเสื้อผ้าให้มิ
สำนักหมอดูอัญฏรญามีสุริยะถูกพนาธีร์รบเร้าให้มาดูฤกษ์กับพ่อของตนเองที่สำนัก ปกติไปที่ไหนก็จะต้องได้จิบกาแฟ แต่มาสำนักไอ้ป่าต้องจิบน้ำมนต์ทุกที ไม่นานนักพ่อของเพื่อนซี้เดินเข้ามาพร้อมกับแผ่นกระดาษที่จดฤกษ์มงคลในการขอดาเนียแต่งงานไว้เรียบร้อย ดวงตาคมตวัดมองไปที่กระดาษแล้วหันขวับไปหาบิดาของเพื่อนอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ"ขอแต่งตอนตีหนึ่งเหรอครับ ไม่มีฤกษ์อื่นแล้วเหรอครับคุณพ่อ""ดวงพวกเธอสองคนมันไม่ค่อยปกติแบบชาวบ้านเขา ยิ่งเจ้าป่าประหลาดเลยแหละ" อาจารย์เธียรเหลือบมองหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนผู้สืบทอดสำนักคนต่อไป"ของกูนะไอ้แซ็ค ไปเดทที่ป่าช้า ขอแต่งที่กุฏิหลวงปู่ธร สงสัยถ้าน้องเหมียวท้อง สงสัยได้ไปคลอดในถ้ำหมีแน่"ป้าบ!!ฝ่ามืออรหันต์ของอาจารย์เธียรฟาดลงมาบนหัวของลูกชาย สุริยะสะดุ้งเฮือกมองพ่อลูกคู่พิลึกแล้วรีบขอตัวกลับก่อนจะได้ฤกษ์มงคลที่แปลก ๆ มาอีกชายหนุ่มนัดแนะกับพ่อบ้านศิวดล และอรุณฉายรวมทั้ง จิตตรีป้าพยาบาลพิเศษให้ช่วยกันล่อดาเนียไว้อย่าให้มายุ่งแถวสวนหลังบ้านเพราะเขากำลังตกแต่งประดับประดาหลอดไฟสวยงามพาดไปกับต้นหางนกยูง สถานที่ประทับจิตประทับใจที่เขาปลุกเร้าภรรยาจนเป็นลมและทำให้รู้ว่
"อ๊ะ....อื้อเฮียบ้า" ดาเนียพยายามถดตัวหนีจากนิ้วร้ายที่ทะลวงเข้ามาไม่ยั้ง แต่หนียังไงก็หนีไม่พ้นอยู่ดี"เฮียขอร้องนะเนีย มีอะไรก็พูดกับเฮียตรง ๆ ได้ไหมคะเราถือเป็นคน ๆ เดียวกันแล้วนะเนีย""ยอมแล้วค่ะ....อ๊าหยุดก่อนนะคะ ได้โปรด" ดวงหน้าเว้าวอนน่าสงสารทำให้สุริยะตัดใจถอนนิ้วออกมา เคลื่อนตัวขึ้นจรดริมฝีปากบนหน้าผากเพื่อปลอบประโลม"ขอโทษนะคะ เฮียแค่น้อยใจเนียน่ะ" พูดเสียงนุ่มรั้งตัวของภรรยาให้ลุกขึ้นมา"เมื่อวานพี่แนท ก็คือคุณดาเรศ พี่สาวของนิ้งมาพบเนียและห้ามให้เนียไปเยี่ยมนิ้งอีก รวมทั้งขู่...ขู่ว่าจะแย่งเฮียไปจากเนีย จะขโมยเฮียไปเป็นของตัวเอง ตอนที่ได้ยินแบบนั้นเนียเจ็บไปหมด ทั้งโกรธทั้งหวงจนคิดอะไรไม่ออก รู้สึกกลัวอย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อน"ใบหน้าคมคายรู้สึกปลื้มปีติที่ได้รับรู้ว่าแท้จริงดาเนียรักและหวงแหนเขามากแค่ไหน เรื่องทั้งเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรเลยนอกจากหึงผัวตัวเองเท่านั้น ช่างน่ารักเหลือเกินภรรยาคนนี้"ไม่ต้องกลัวนะ จะไม่มีใครมาแย่งเฮียไปจากเนียได้ นอกจากความ...ตา...อุ๊บ!" คนฟังไม่ยอมให้เขาเอ่ยคำอัปมงคลออกมาจึงรีบประกบปากของตนดันบ่ากว้างให้นอนลงกับพื้นเตียง บดจูบหนักหน่วงและรุนแรง
ว่าที่คุณแม่ในชุดบิกินี่ทูพีชสีชมพูโอรสสองชิ้นกำลังแหวกว่ายไปมาอยู่ในสระว่ายน้ำชั้นบนสุดของบ้าน ทั้งที่เป็นคนที่ไม่ได้ชอบว่ายน้ำนัก แต่หลังจากวันนั้นที่เจอกับพี่แนท คำพูดที่บอกว่าจะแย่งเฮียแซ็คของเธอมันก็จุกอยู่ในอกตลอดเวลาบนโลกใบนี้อาจจะมีหลายสิ่งที่เธอหวาดกลัว มีหลายสิ่งที่ไม่กล้าเผชิญหน้า แต่สิ่งเดียวที่เธอไม่อาจสูญเสียให้ใครก็คือ พระอาทิตย์ดวงใหญ่ดวงนี้ สุริยะที่เคยมืดมิด แต่กลับเปล่งแสงเจิดจ้าอันอบอุ่นให้เธออยู่เสมอและใครจะยอมให้คนอื่นมาชุบมือเปิปแย่งของ ๆ เธอ ยังไงก็ไม่มีวันยอม ถ้าจะต้องแตกหักกับเพื่อนของพี่สาวเธอก็จะหักให้มันแหลกคามือ เธอเจ็บและทนให้เพื่อนสมัยเรียนรังแกมาเยอะแล้ว นับจากนี้หมดเวลาฟูมฟาย หมดเวลาด้อยค่าและดูถูกตัวเอง เธอจะลุกขึ้นมาฟาดและสู้กลับอย่างไม่ยอมแพ้"เนีย...ว่ายน้ำหรือแช่น้ำ เฮียนั่งรอเนียนานแล้วนะ" ชายหนุ่มที่เดินขึ้นมาถึงสระว่ายน้ำหยุดยืนดูอยู่พักใหญ่แต่ภรรยาก็เอาแต่เกาะขอบสระตัวนิ่ง เหม่อลอยไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาเดินเข้ามา"เอ่อ...กลับมาแล้วเหรอคะ ยินดีต้องรับกลับบ้านค่ะ แหะแหะ" ยิ้มแห้งเพราะไม่คิดว่าสามีจะกลับมาเร็ว และเธอก็อายที่จะลุกออกจากสระเพราะ
เนื่องจากดาเนียร่างกายอ่อนแอมากและอาเจียนหลายครั้ง สุริยะจึงสั่งห้ามเธอออกไปไหนและจ้างพยาบาลรุ่นป้าของโรงพยาบาลแพทย์สินธนปกรณ์ของหมอเอลวินมาดูแลภรรยา ส่วนเขารีบเข้าไปที่ร้านหนังสือลึกลับของตนเองเพื่อหารือเรื่องผังความสัมพันธ์อันซับซ้อนของ แนท ดาเรศ ซีอีโอสาวของบริษัทเครื่องจักรกลยักษ์ใหญ่ที่สืบสาวราวเรื่องไปมาหล่อนดันมีหุ้นส่วนอยู่ในบริษัทของเขมทัต วัชรกาญจน์ ฆาตกรที่สั่งฆ่าพริมพลอย อดีตแฟนสาวเมื่อได้รับรู้ว่าทั้งสองคนเคยรู้จักกันเขาก็ไม่แปลกใจเลยว่า นี่อาจจะเป็นข้อเสนอยืมมือของดาเรศมาใช้จัดการดาเนียกับตนเองแต่มีหรือที่เขาจะปล่อยให้พวกมันข่มเหงและหยามเหยียดโดยที่ไม่ทำอะไรเลย แต่เขาจะปล่อยให้พวกมันคิดไปก่อนว่าคนแบบสุริยะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เมื่อมันชะล่าใจเมื่อใดเขาจะตะครุบรวบทั้งแก็งในคราเดียวใบหน้าคมนิ่งขรึมรีบออกจากร้านหนังสือและคอยดูกล้องวงจรปิดที่ให้อรุณฉายแอบติดตั้งไว้รอบบริเวณบ้านเพื่อคอยสอดส่องความปลอดภัยของภรรยา เขาหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นเจ้าสุรีย์ ลูกหมาที่เริ่มตัวใหญ่ขึ้นคอยคลอเคลียเลียเอาใจสุดที่รักของเขาไม่ห่างกาย"ทำดีมากสุลูกพ่อ พ่อกลับไปจะทำของอร่อยให้กินไม่อั้นเลย" อม
หลังจากงานศพของพ่อสามีผ่านพ้นไปได้เกือบหนึ่งสัปดาห์ ทั้งดาเนียและสุริยะต่างก็เคลียร์งานของตนเองให้เสร็จเพื่อหวังว่าจะได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดและไปสวนสัตว์ด้วยกันอย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ระหว่างที่ดาเนียเลือกซื้อของอยู่ที่ร้านเบเกอรี่ข้างทาง ลูกค้าอีกคนที่ผลักประตูเข้ามาในร้านก็ทำให้เธอถึงกับตัวแข็งค้างเพราะบุคคลดังกล่าวคือพี่แนท พี่สาวของนิ้งที่เคยทั้งตบทั้งด่าทอเธอสารพัด และกล่าวหาว่าเธอเป็นต้นเหตุให้นิ้งน้องสาวคนเดียวที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย เกือบตายและเอาชีวิตไม่รอด ซึ่งพี่แนทเป็นคนเดียวที่เธอรู้สึกแย่ทุกครั้งที่พบหน้ากัน เพราะพี่สาวพื่อนเคยใจดีกับเธอมาก แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายพี่แนทก็แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่ารังเกียจเธอ"กลับมาจากต่างประเทศแล้วเหรอ" ไม่รู้ว่าพี่แนทรู้เรื่องนี้ได้ยังไง แต่มือที่กำลังรับถุงขนมจากพนักงานที่คาน์เตอร์มันกำลังสั่นเทิ้มไปหมด"เอ่อ...ค่ะกลับมาได้หลายเดือนแล้วค่ะ" ตอบเสียงสั่นเครือหลุบตามองพื้นไม่กล้าสบตา"ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าพี่แนทเข้ามาในร้านขนมนี้ไม่ใช่เพราะความบังเอิญแต่เพราะรู้ตั้งแต่แรกแล้ว