ใบหน้าดุดันของโทนธรรมพ่อสายโหดของดาเนียกำลังจดจ้องดวงหน้าคมแข็งกร้าวของสุริยะกลับไป ดาเนียที่กำลังรินน้ำชาให้ทั้งสองคนนั้นหันซ้ายหันขวามองหน้าของชายทั้งสองที่กำลังลอบปะทะด้วยสายตาท่ามกลางความเงียบงัน ชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร เพราะเอาแต่มองพวกเขาทำให้ปั้นชาในมือที่ควรจะรินลงถ้วย เผลอรินลดมือตัวเองแทน"โอ๊ย...ซี๊ด!"เนีย!!!!พวกเขาโพล่งเรียกชื่อเธอพร้อมกันแล้วพุ่งเข้ามาจับมือเธอคนละข้างแล้วก้มดูหลังมือที่เห่อแดง"ระวังหน่อยสิลูก" โทนธรรมบอกแล้วหยิบยาหม่องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะส่งให้กับสุริะยะ "เอ้าทาให้น้องสิเจ้าแซ็ค"ในที่สุดพ่อก็ยอมเปิดปากคุยสักที เห็นลีลาอยู่นานสองนานถ้ากาน้ำชาไม่หกราดรดมือเธอป่านนี้พวกเขาก็ยังคงจ้องกันไปเรื่อย ๆ จนตาเป็นตะคริวแน่"ครับคุณลุง"เฮียแซ็คหยิบมือของเธอไปแล้วผ่นลมหายใจออกมารดเป่าที่หลังมือของเธออย่างอ่อนโยน ค่อย ๆ บรรจงทายาหม่องลงมาอย่างแผ่วเบา"ขอบคุณค่ะ""เนียไปนั่งข้างแซ็ค" ดาเนียถลึงตาส่งให้พ่อ แต่ถึงพ่อจะไม่บอกเธอก็อยากไปนั่งข้างว่าที่สามีมากกว่าพ่ออยู่ดีนั่นแหละพอเธอนั่งได้ไม่ทันไหร่พ่อก็หยิบโทรศัทพ์ขึ้นมาทำท่าจะถ่ายรูปเธอกับเฮียแซ็คแถมยังยิ้มน้อยยิ้มให
ทีมงาน Dania X studio กำลังช่วยกันเตรียมสถานที่เพื่อรอต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและเพื่อน ๆ ที่จะมาร่วมงานเปิดตัวสตูดิโอของเธอ หญิงสาวผู้มีใจรักงานดีไซน์และออกแบบเสื้อผ้า ตั้งใจให้ธุรกิจในฝันของเธอสร้างความประทับใจและประสบความสำเร็จ ดาเนียใช้เวลาจัดแจงโซนต่าง ๆ ในร้าน ห้องลองเสื้อ เคาน์เตอร์ และเสื้อผ้าผู้หญิงคอลเล็กชั่น ' My Apollo' คอลเล็กชั่นแรกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเฮียแซ็ค ซึ่งเธอใช้เวลาสร้างสรรค์ผลงานนี้มาตลอดสามปีที่เธอไปอยู่นิวยอร์กตัวคนเดียวถึงแม้ทุกคนอาจจะมองเห็นเขาเป็น Bad Apollo แต่สำหรับเธอ เขาคือ เทพอพอลโล่ที่สาดแสงส่องสว่างสู่ภายในใจ เขาคือเทพดวงอาทิตย์ที่โอบกอดหัวใจของเธอไว้ไม่ให้อ้างว้างแม้ก่อนหน้านี้เขาจะแสดงออกทุกวิถีทางว่าไม่มีวันจะรักคนอย่างเธอ แต่เธอก็ไม่เคยนึกเสียใจ เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้แสดงออกกับเขาไปแล้วว่า ทั้งหัวใจของดาเนียมีเพียงเฮียแซ็คแค่คนเดียว หลังจากที่ช่วยทีมงานจนเกือบเย็นเพื่อเตรียมการเปิดร้านในอีกสองวันข้างหน้า ขณะที่นั่งรอว่าที่สามีหมาด ๆ ของเธอมารับ ชายหนุ่มนิรนามก็เดินแวะเข้ามาในร้านที่กำลังชุลมุนไปด้วยผู้คน"ไม่ทราบว่าคุณดาเนียอยู่ไหนเหรอครับ"อ
ซ่า!!!เสียงอาบน้ำที่ห้องนอนชั้นใต้ดินดังขึ้นมาขณะที่สองขาของเจ้าของบ้านกำลังเดินลงจากขั้นบันได คนที่อาบน้ำอยู่ในห้องน้ำกระจกปราศจากสิ่งใดปกปิดไม่รู้ตัวเลยว่าร่างกายสูงเคล้ากลิ่นเหล้ากำลังยืนดูเธออยู่อย่างเงียบ ๆนัยน์ตาคมกวาดมองใบหน้าที่หลับพริ้มอยู่ใต้ฝักบัว เคลิบเคลิ้มกับสายน้ำอุ่นที่รินรดลงมาชุ่มผิวกาย เส้นผมสลวยที่ยาวถึงกลางหลังเปียกชุ่มคลุมแผ่ไปทั่วขับขานให้ความสวยสะกดบนดวงหน้ายิ่งงามดั่งคาริทีส ไตรเทพีตามตำนานเทพเจ้ากรีกผิวนวลเนียนละเอียดอมชมพูเหมือนกับผลของลูกพีชทำให้เขาอยากจะกัดให้จมเขี้ยวหายไปสักครั้ง ช่วงบั้นเอวคอดนั้นก็ผายรับกับสะโพกผายและก้นงอนราวกับทรวดทรงของนาฬิกาทราย ถึงแม้ช่วงขาด้านข้างจะมีรอยแผลเป็นนูนขนาดใหญ่แต่ความสง่างามท่ามกลางสายน้ำนี้ก็ไม่ลดน้อยลงไปด้วย มันกลับยิ่งสวยจนหาจุดสิ้นสุดของความงดงามนี้ไม่ได้เขาช่างเป็นผู้ชายที่โคตรโชคดีที่พระเจ้าได้ส่งมอบของบรรณาการที่แสนพิเศษชิ้นนี้มาให้ หากย้อนกลับไปได้เขาจะไม่ปฏิเสธเธอ เขาจะไม่ปล่อยเวลาสามปีนั้นให้ล่วงเลยผ่านมาแบบนี้กรี๊ด!!!เสียงร้องของดาเนียดังขึ้นเพราะงูเขียวหล่นมาจากต้นไม้ เนื่องจากห้องน้ำกระจกนี้ดันยื่นออก
"ยาเฮียแซ็คอยู่ไหนคะ กินยาก่อนแล้วเนียจะปรนนิบัตเฮียเอง""ละ...ลิ้นชัก" เขาพูดตะกุกตะกัก หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ พอตัวว่าจะโดนเด็กรุก คนแก่กว่าอย่างเขาก็ร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาแปลก ๆดาเนียลุกขึ้นเดินไปหยิบยาที่หมอเอลวินจัดไว้ให้ในลิ้นชัก แล้วหยิบน้ำหยิบท่าส่งให้สุริยะกินก่อนที่เขาต้องเสียเหงื่ออย่างหนัก พอเขากลืนน้ำกับยาลงคอได้ไม่ทันไร แก้วในมือก็ถูกมือของดาเนียชิงไปดื่มต่อ"ฮ่า...ชื่นใจ" ก้นงอนเด้งเอาแก้วน้ำไปวางไว้ที่เคาน์เตอร์แล้วเดินกลับมาหาหลุบตามองกางเกงแสลคดำที่ยังสวมเกาะเกี่ยวเอวสอบอยู่เหมือนเดิม"ให้เนียถอดให้ไหมคะ เนียจะหัดเรียนรู้ไว้ค่ะ" มือน้อยคว้าหมับลงมาที่กลางเป้าแล้วรูดซิปลงไป หัวใจของเขาก็ยิ่งสูบฉีดเลือดรุนแรงมากขึ้น ความรู้สึกตอนนี้คล้ายกับว่าเขากำลังจะเป็นลมเพราะความดุดันของดาเนีย กางเกงเปียกถูกเกี่ยวพ้นปลายขาแน่นกำยำ จนเหลือปรากาด่านสุดท้าย ดาเนียกลืนน้ำลายแล้วจ้องตาของเจ้าของอาวุธสงคราม"เนีย...เดี๋ยวอันนี้เฮียถอดเองดีกว่า....อ้ะ!" คัดค้านไม่ทันจบยัยตัวแสบก็รูดเกี่ยวกางเกงในสีดำของเขาออกไปซะแล้ว"ฮื่อ..." ผงะเล็กน้อยเมื่อเฮียแซ็คอีกคนชูคอตั้งขึ้นมา สูดหายใจลึก ๆ แล้วก้า
At Dania X Studioงานเปิดตัวสตูดิโอของดาเนียนั้นเต็มด้วยแขกทางฝั่งของพ่อและฝั่งพี่เรนและเพื่อนคนไทยคนเดียวที่มีบ้านเกิดที่นอร์เวย์อย่างยัยเหมียว และนับว่าเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เข้ากับคนไม่คบค้าสมาคมหรือเข้าสังคมเท่าไหร่นักได้เป็นอย่างดี เพราะเธอค่อนข้างหวาดระแวงกับความสัมพันธ์จากการถูกเพื่อนรังแกจนเป็นแผลเป็นไม่หาย ไม่ว่ากี่เดือนกี่ปีเธอก็ยังกลัวและจิตตกกับการคบเพื่อนกลุ่มก้อนใหญ่ที่เต็มด้วยเหล่าผู้คนที่สวมหน้ากาก ถึงจะมีเพื่อน ๆ ดีอยู่บ้างรายล้อมตัวเธอ แต่ก็เป็นส่วนน้อยที่เพื่อนที่แสนดีเหล่านั้นจะกล้าคบหากับลูกสาวเจ้าพ่ออย่างเธอทว่ายัยเหมียวเพื่อนคนนี้กลับกล้าที่จะคบหาเธออย่างจริงจัง แถมยังเป็นคนที่โคตรประชดชีวิตได้เก่งจนเธอแทบอึ้ง กับการที่เพื่อนรักทะเลาะกับครอบครัวจนหายไปบวชชีที่พุทธคยาเป็นปี ๆ และหลังจากที่เพื่อนสนิทสึกออกมาก็กลายเป็นคนน้ำนิ่งไหลลึก ใจเย็นลงแต่ดันยึดปณิธานว่าตนเองนั้นจะไม่ขอแต่งงานและอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต แต่เธอก็ไม่ได้ถามว่ายัยเหมียวไปเจอเรื่องสะเทือนใจอะไรมาเพราะก่อนหน้านี้ก็ยังมีแฟนแล้วควงกันไปเช็คอินตรงนั้นตรงนี้อยู่บ่อยครั้งอยู่เลย"ไอ้เนียแกเก่งมากเ
ในห้องทำงานชั้นบนสุดสุริยะยังคงจดจ่ออยู่กับกองเอกสารของบริษัทค้าอาวุธที่ก่อตั้งอยู่ในต่างประเทศของตน ใบหน้าของสุริยะแน่นิ่งไม่ไหวติงกับสิ่งเร้าภายนอกแต่อย่างใด แต่เมื่อเขายอมลุกจากเก้าอี้และชะโงกหน้าออกไปดูที่หน้าต่างตอนแรกเขากะว่าจะทำนั่งทำงานหลังขดหลังแข็งอยู่ในห้องจนกว่าจะลืมเรื่องที่แม่มาหาเขาเมื่อวาน แต่พอเห็นดาเนียที่กำลังส่งเสียงหัวเราะร่วนอยู่ที่สวนหลังบ้าน หัวใจของเขามันก็เต้นไม่เป็นส่ำทุกที ดวงหน้าที่ยิ้มแย้มขณะกำลังเล่นกับไอ้ตัวอ้วนพุงกองสวมขนสิงโตหน้าตาพิลึก ทำให้เขาเผลขำออกมาโดยไม่รู้ตัว"นี่ค่ะพ่อบ้านดล คุณอรุณ เนียไปหัดทำมาเองเลยนะคะ" คุกกี้รูปช็อกโกแลตรูปกระดูกหมาถูกส่งให้ชายทั้งสอง พวกเขาหยิบคุกกี้คนละชิ้นอย่างไม่แน่ใจนัก เพราะดูยังไงก็เหมือนขนมหมามากกว่าคุกกี้"ฮึ่ม...อร่อยครับไม่หวานมาก พ่อบ้านดลเคี้ยวแก้มตุ่ย อรุณฉายจึงรีบโยนใส่ปากทันทีเมื่อรู้ว่าขนมหน้าตาประหลาดนี้อร่อย"ว่าแต่คุณเนียไอ้เจ้านี่มันจะทำให้คุณแซ็คมีความสุขได้จริงเหรอครับ" อรุณฉายชี้ไปยังเจ้าลูกหมาลาบราดอร์สีดำที่สวมหัวสิงโตขนปุยจากการตัดเย็บด้วยฝีมือของเธอ ดาเนียยิ้มกว้างแล้วอุ้มเจ้าลูกหมาวัย 2 เดื
เพราะเห็นว่าเจ้าของบ้านหายออกไปช้อปปิ้งที่ตลาดหลายชั่วโมงแล้ว ดาเนียจึงได้ฝากให้บอดี้การ์ดที่บ้านของสุริยะคอยดูแลเจ้าสุรีย์แล้วรีบออกไปทำธุระที่ร้านเสื้อผ้าของตน แต่พอไปถึงก็เกิดเรื่องขึ้นพอดีพนักงานสองคนในร้านนั่งก้มหน้าไม่ยอมให้เจ้านายอย่างเธอสำรวจใบหน้า แต่บาดแผลที่ปรากฏอยู่นั้นทั้งรอยข่วน รอยตบก็ยังคงเด่นชัดตำตาจนไม่อาจปิดบัง"เกิดอะไรขึ้นซัน เอ๋ย ใครทำร้ายพวกคุณสองคน" ดาเนียทรุดตัวลงนั่งแล้วเชยปลายคางของลูกน้องสาวทั้งสองคนจับพลิกไปมาด้วยความเป็นห่วง"จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนนึงบุกมา เอาลูกน้องผู้ชายสองคนจับตัวพวกเราไว้จนขยับไม่ได้แล้วก็ทั้งข่วนทั้งตบพวกเราไม่หยุดเลยค่ะ" ซันบอกแล้วทำหน้าเหยเกจับริมฝีปากของตน"หน้าตาผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงคะ" ดาเนียเค้นเอาคำตอบเพราะเธอเดาได้ในแว่บแรกว่าผู้หญิงที่ว่าก็คืออริเก่าของเธอ หัวโจกที่เคยรังแกเธอไม่ยอมเลิกรา ชอบเอาชนะและไม่ชอบความพ่ายแพ้"คุณเนียลองดูกล้องวงจรปิดดูสิคะ" เอ๋ยเสริมขึ้นแล้วลุกขึ้นพาดาเนียไปดูคลิปกล้องวงจรปิดที่เธอเซฟเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ภาพเคลื่อนไหวภายในกล้องวงจรปิดทำให้ดาเนียเห็นผู้หญิงคนดังกล่าวที่เดินเข้ามาทำร้ายพนักงานของเธอได้
01.00 น.สุริยะสังเกตเห็นว่าดาเนียเข้านอนไวแถมหลับไปตั้งแต่สามทุ่มถ้าเธอไม่มีเรื่องราวหนักใจก็กำลังจะไม่สบาย เขาทรุดตัวลงนั่งข้างเตียงดึงผ้าขึ้นมาห่มปิดจนถึงช่วงลำคอ เพราะอากาศที่เริ่มแปรปรวนจากร้อนก็กลายเป็นเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวทั้งที่ไม่ใช่ช่วงหน้าหนาวและอาจจะทำให้ดาเนียหรือแม้กระทั่งเขาป่วยได้ ริมฝีปากกระจับแดงจรดลงบนเรือนผมหอมสีน้ำตาลคาราเมล เกลี่ยเส้นผมที่รกปรกหน้าออกให้แล้วทัดลงไปที่ข้างหู ก่อนที่จะกดเบอร์โทรศัพท์เพื่อนถามกับพิรุณ เพื่อนรักว่ามันมีอะไรเกี่ยวกับดาเนียที่ยังไม่ได้เล่าให้ว่าที่น้องเขยอย่างเขาให้ฟังอีกหรือไม่"มึงจะบ้าหรือไงโทรมาตอนนี้ก็เพิ่งจะบำเรอเมียเสร็จไปแค่ชั่วโมงเดียวเองนะไอ้แซ็ค ง่วงจะตายห่าอยู่แล้ว" พิรุณโวยวาย"ไอ้เรนมึงเล่นกิจกรรมบนเตียงหลายชั่วโมงเลยเหรอวะ" เขาสวนกลับเพราะสงสัยว่าไอ้เรนเพื่อนรักอึดอะไรขนาดนั้น"ตั้งแต่ทุ่มยันเที่ยงคืน จิ๊บ ๆ แต่หลัง ๆ มีเจ้าแฝดกูก็เริ่มไม่ไหวเหมือนกัน เดี๋ยวมึงมีลูกก็เข้าใจเอง หรือมึงกับเนียไม่เคยมาราธอนยาว ๆ แบบกูเหรอวะ""ยังเลยแค่สี่สิบนาทีเห็นจะได้ ไม่เคยพ้นหนึ่งชั่วโมงเท่าที่กูดูเวลา" เขาสารภาพออกมาตรง ๆ"ฮะ...คนกินดุก
การจากลูกจากเมียเกือบสองเดือนทำให้สุริยะปล่อยผมเผ้ายาวรุงรังไม่ต่างกับโจรป่าห้าร้อย ความโฉดและความโหดที่ลือกระฉ่อนอยู่ก่อนแล้วทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของเขาน่ากลัวขึ้นไปอีก เวลาเดินผ่านลูกค้าที่คาเฟ่บนร้านหนังสือ ชายหญิงทั้งหลายต่างผงะมองค้างไม่คิดว่าจะเจอทาร์ซานหลงมาเดินอยู่ใจกลางเมืองแสงสีเช่นนี้ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาอิดโรยอ่อนล้าปรากฏขึ้นฉาบความหล่อเหลาจนเห็นชัด เพียงแค่ตวัดหางตาไปยังกลุ่มลูกค้าสาวที่นั่งอยู่มุมโต๊ะด้านในสุด พวกเธอก็สะดุ้งเฮือกพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายตอนนี้เขาก็ไม่ต่างจากสุริยะทมิฬที่ถูกหลุมดำดูดดึงเข้าไป ตั้งแต่วันนั้นที่ตัดสินใจให้ดาเนียไปอยู่ไกลถึงนิวยอร์กกับพ่อตา เธอก็ได้แต่พยักหน้ายอมรับเหตุผลแต่โดยดี แต่เขากลับสังเกตเห็นดาเนียนอนตะแคงร้องไห้พยายามเก็บเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดลอดทั้งที่ปากก็บอกว่าจะยอมไปคลอดลูกอยู่ที่โน่น แต่วันก่อนหน้าที่จะเดินทางไปกลับไม่คุยเล่น ไม่ให้เขาจับหรือหอมใด ๆ ทั้งสิ้น บอกเพียงแค่ว่า 'เนียกลัวตัวเองไม่กล้าปล่อยมือเฮีย' เธอพูดขึ้นมาแค่นั้น แล้วก็เดินไปกลับกลุ่มบอดี้การ์ดของพ่อตา ไม่ยอมหันหน้ามายิ้มหวานอย่างที่ชอบทำวินาทีก่อนลากันเมื่อแผ่นห
การแต่งงานผ่านพ้นไปอย่างสวยงามแม้ในคืนแต่งเจ้าบ่าวตัวดีจะไปเมามาย แต่คืนนั้นสุริยะก็โอบกอดภรรยาคนสวยของตนไม่ยอมปล่อย ยิ่งท้องของดาเนียใหญ่ขึ้นเขาก็ยิ่งหวนแหนและวิตกจริตกว่าใคร โดยเฉพาะทุกครั้งที่เขากำลังจะมีความสุข มันจะมีลางสังหรณ์ว่าความทุกข์กำลังจะมาเยือน*********************************** สำนักอัญฏรญามี สุริยะไปหาอาจารย์เธียร หมอดูญาณทิพย์คนดังพ่อของพณาธีร์เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับดาเรศ พี่สาวต่างแม่ที่ลึกลับของภรรยา"พวกเธออาจจะมีเหตุต้องจากกันไปสักพัก แต่จากกันครั้งนี้มันจะไม่มีอะไรที่หนักหนาอีก ก็อาจเจอเรื่องน่าหงุดหงิดบ้างแต่ก็ดีกว่าปล่อยให้เกิดเรื่องเลือดตกยางออกนะแซ็ค" อาจารย์เธียรนั่งขัดสมาธิพูดด้วยสีหน้าจริงจัง"หมายถึงอะไรครับพ่อ""บอกหมดเลยไม่ได้หรอก มันเป็นกฏ บางครั้งเธอก็ต้องฟังหูไว้หู เธอเชื่อฉันได้ ไม่เชื่อก็ได้ แต่อย่างไรก็จงฟังไว้เป็นแนวทางเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ยังไงวันนี้เธออกจากสำนักฉันไปก็ระวังผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อดาเรศไว้ วันนี้หล่อนจะมาคุยบางอย่างกับเธอ"อาจารย์เธียรทิ้งทวนประโยคอย่างเป็นปริศนา สุริยะที่นั่งอยู่เบาะหลังรถ
หาดพัทยา สุริยะกับดาเนียเลือกจัดงานแต่งแบบเรียบง่ายที่มีแขกเหรื่อมาร่วมงานเพียงห้าสิบคน รวมทั้งเพื่อน ๆ ในกลุ่มบรรณาธิการมาเฟียที่ควงภรรยาของตัวเองมาเปิดตัวในงานแต่งด้วย สาว ๆ ทั้งหกคนได้พบกันและคุยกันอย่างออกรสออกชาติที่โต๊ะเลี้ยงฉลองริมทะเล แต่กระนั้นสิ่งที่ทำให้ดาเนียอึ้งที่สุดคือ ยัยเหมียวเพื่อนสนิทกลับกระหนุงกระหนิงเคลียคลอมาพร้อมพนาธีร์เจ้าสาวรีบลากเหมียวมานั่งร่วมวงสนทนากับเหล่าภรรยาของเพื่อนพี่ชาย และเริ่มเปิดประเด็นถามไถ่ความจริงจากปากของเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันครึ่งค่อนปี แต่พอชวนให้มางานแต่งของเธอกับเฮียแซ็ค ยัยเหมียวดันควงแขนมากับพี่ป่าแบบงง ๆ"แกไปคบกับพี่ป่าตอนไหน เล่ามาเดี๋ยวนี้" ดาเนียจิกตาส่งให้เหมียวที่กำลังทำหน้าอ้ำอึ้งไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่าจากจุดไหนก่อน"ก็คบกันหลังจากที่ฉันบินมางานเปิดตัวสตูดิโอแกนั่นแหละยัยเนีย พี่ป่าเขาไปตามตื๊อฉันถึงนอร์เวย์ แล้วฉันก็กลับมาดูแลกิจการที่เมืองไทยแทนแม่ก็เลยได้มีโอกาสศึกษาดูใจกัน" เหมียวพูดไปเขินไป"แล้วน้องเหมียวกลัวเจ้าดงดิบของพี่ป่าไหม พี่เรนพาไปบ้านพี่ป่าทีไรพี่ตกใจเจ้าตัวนั้นทุกที ฮื่อ...ขนลุก" ปาลินเล่ายกมือขึ้นกอดตัวเอง"ทำ
"ยุบหนอ! พองหนอ! สติสติ! ฮู่ว...."ท่องในใจหลับตาข่มอารมณ์ที่กำลังวาบหวามจนหัวหมุนติ้วจากฝ่ามือซุกซนที่กำลังเลื้อยไปทั่วเนื้อตัว"เฮียถึกขึ้นนะคะ แสดงว่าระงับความหื่นได้แล้ว ต่อไปมีผู้หญิงมาอ่อยเฮียจะได้ไม่ไปสอยเข้าร่วงเหมือนเมื่อก่อน" กระซิบแล้วงับลงมาที่ใบหูจนขนแขนพากันลุกตั้งโดยมิได้นัดหมาย "เนียวันนี้เฮียต้องทำงานดึกนะ" พูดไปกำผ้าขนหนูแช่เย็นจนเส้นเลือดปูดขึ้นบนหลังมือ ดาเนียกระตุกยิ้มสะใจที่ได้กลั่นแกล้ง"ปกติเฮียชอบกินรอบดึกไม่ใช่เหรอคะ วันนี้นึกยังไงไม่กินซะแล้ว แต่ทำงานแทน สงสัยของเฮียคงจะเหี่ยวแล้วแน่เลย""ของเฮียไม่ได้เหี่ยวนะ แข็ง แน่น และฟิตมากไม่เชื่อจับดูสิ"หมับ!!"อึ้มจริงด้วยค่ะ" มือข้างหนึ่งของภรรยาตะปปเข้าที่เป้ากางเกง "เนีย....ขอร้องอย่า" หลับตาวิงวอนขอกล่องดวงใจที่กำลังแข็งขืนในกำมือคืนมากจากดาเนีย"อย่าหยุดเหรอคะ ว่าไงล่ะ พูดให้ชัดเจนหน่อยสิ เนียไม่ค่อยเข้าใจเลยอ่ะ" มือที่ว่างอีกข้างนวดบั้นท้ายสามีแล้วขยำแรง ๆ จนคุณพ่อบ้านสะดุ้งโหยง"ตัวแสบปล่อยเฮียเถอะนะคะ" ปากหวานระดับสิบแสดงว่าคงมุ่งมั่นตั้งใจในการขอแต่งงานมากจริง ๆ "ปล่อยแล้วค่ะ" บอกแล้วรีบสวมเสื้อผ้าให้มิ
สำนักหมอดูอัญฏรญามีสุริยะถูกพนาธีร์รบเร้าให้มาดูฤกษ์กับพ่อของตนเองที่สำนัก ปกติไปที่ไหนก็จะต้องได้จิบกาแฟ แต่มาสำนักไอ้ป่าต้องจิบน้ำมนต์ทุกที ไม่นานนักพ่อของเพื่อนซี้เดินเข้ามาพร้อมกับแผ่นกระดาษที่จดฤกษ์มงคลในการขอดาเนียแต่งงานไว้เรียบร้อย ดวงตาคมตวัดมองไปที่กระดาษแล้วหันขวับไปหาบิดาของเพื่อนอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ"ขอแต่งตอนตีหนึ่งเหรอครับ ไม่มีฤกษ์อื่นแล้วเหรอครับคุณพ่อ""ดวงพวกเธอสองคนมันไม่ค่อยปกติแบบชาวบ้านเขา ยิ่งเจ้าป่าประหลาดเลยแหละ" อาจารย์เธียรเหลือบมองหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนผู้สืบทอดสำนักคนต่อไป"ของกูนะไอ้แซ็ค ไปเดทที่ป่าช้า ขอแต่งที่กุฏิหลวงปู่ธร สงสัยถ้าน้องเหมียวท้อง สงสัยได้ไปคลอดในถ้ำหมีแน่"ป้าบ!!ฝ่ามืออรหันต์ของอาจารย์เธียรฟาดลงมาบนหัวของลูกชาย สุริยะสะดุ้งเฮือกมองพ่อลูกคู่พิลึกแล้วรีบขอตัวกลับก่อนจะได้ฤกษ์มงคลที่แปลก ๆ มาอีกชายหนุ่มนัดแนะกับพ่อบ้านศิวดล และอรุณฉายรวมทั้ง จิตตรีป้าพยาบาลพิเศษให้ช่วยกันล่อดาเนียไว้อย่าให้มายุ่งแถวสวนหลังบ้านเพราะเขากำลังตกแต่งประดับประดาหลอดไฟสวยงามพาดไปกับต้นหางนกยูง สถานที่ประทับจิตประทับใจที่เขาปลุกเร้าภรรยาจนเป็นลมและทำให้รู้ว่
"อ๊ะ....อื้อเฮียบ้า" ดาเนียพยายามถดตัวหนีจากนิ้วร้ายที่ทะลวงเข้ามาไม่ยั้ง แต่หนียังไงก็หนีไม่พ้นอยู่ดี"เฮียขอร้องนะเนีย มีอะไรก็พูดกับเฮียตรง ๆ ได้ไหมคะเราถือเป็นคน ๆ เดียวกันแล้วนะเนีย""ยอมแล้วค่ะ....อ๊าหยุดก่อนนะคะ ได้โปรด" ดวงหน้าเว้าวอนน่าสงสารทำให้สุริยะตัดใจถอนนิ้วออกมา เคลื่อนตัวขึ้นจรดริมฝีปากบนหน้าผากเพื่อปลอบประโลม"ขอโทษนะคะ เฮียแค่น้อยใจเนียน่ะ" พูดเสียงนุ่มรั้งตัวของภรรยาให้ลุกขึ้นมา"เมื่อวานพี่แนท ก็คือคุณดาเรศ พี่สาวของนิ้งมาพบเนียและห้ามให้เนียไปเยี่ยมนิ้งอีก รวมทั้งขู่...ขู่ว่าจะแย่งเฮียไปจากเนีย จะขโมยเฮียไปเป็นของตัวเอง ตอนที่ได้ยินแบบนั้นเนียเจ็บไปหมด ทั้งโกรธทั้งหวงจนคิดอะไรไม่ออก รู้สึกกลัวอย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อน"ใบหน้าคมคายรู้สึกปลื้มปีติที่ได้รับรู้ว่าแท้จริงดาเนียรักและหวงแหนเขามากแค่ไหน เรื่องทั้งเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรเลยนอกจากหึงผัวตัวเองเท่านั้น ช่างน่ารักเหลือเกินภรรยาคนนี้"ไม่ต้องกลัวนะ จะไม่มีใครมาแย่งเฮียไปจากเนียได้ นอกจากความ...ตา...อุ๊บ!" คนฟังไม่ยอมให้เขาเอ่ยคำอัปมงคลออกมาจึงรีบประกบปากของตนดันบ่ากว้างให้นอนลงกับพื้นเตียง บดจูบหนักหน่วงและรุนแรง
ว่าที่คุณแม่ในชุดบิกินี่ทูพีชสีชมพูโอรสสองชิ้นกำลังแหวกว่ายไปมาอยู่ในสระว่ายน้ำชั้นบนสุดของบ้าน ทั้งที่เป็นคนที่ไม่ได้ชอบว่ายน้ำนัก แต่หลังจากวันนั้นที่เจอกับพี่แนท คำพูดที่บอกว่าจะแย่งเฮียแซ็คของเธอมันก็จุกอยู่ในอกตลอดเวลาบนโลกใบนี้อาจจะมีหลายสิ่งที่เธอหวาดกลัว มีหลายสิ่งที่ไม่กล้าเผชิญหน้า แต่สิ่งเดียวที่เธอไม่อาจสูญเสียให้ใครก็คือ พระอาทิตย์ดวงใหญ่ดวงนี้ สุริยะที่เคยมืดมิด แต่กลับเปล่งแสงเจิดจ้าอันอบอุ่นให้เธออยู่เสมอและใครจะยอมให้คนอื่นมาชุบมือเปิปแย่งของ ๆ เธอ ยังไงก็ไม่มีวันยอม ถ้าจะต้องแตกหักกับเพื่อนของพี่สาวเธอก็จะหักให้มันแหลกคามือ เธอเจ็บและทนให้เพื่อนสมัยเรียนรังแกมาเยอะแล้ว นับจากนี้หมดเวลาฟูมฟาย หมดเวลาด้อยค่าและดูถูกตัวเอง เธอจะลุกขึ้นมาฟาดและสู้กลับอย่างไม่ยอมแพ้"เนีย...ว่ายน้ำหรือแช่น้ำ เฮียนั่งรอเนียนานแล้วนะ" ชายหนุ่มที่เดินขึ้นมาถึงสระว่ายน้ำหยุดยืนดูอยู่พักใหญ่แต่ภรรยาก็เอาแต่เกาะขอบสระตัวนิ่ง เหม่อลอยไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาเดินเข้ามา"เอ่อ...กลับมาแล้วเหรอคะ ยินดีต้องรับกลับบ้านค่ะ แหะแหะ" ยิ้มแห้งเพราะไม่คิดว่าสามีจะกลับมาเร็ว และเธอก็อายที่จะลุกออกจากสระเพราะ
เนื่องจากดาเนียร่างกายอ่อนแอมากและอาเจียนหลายครั้ง สุริยะจึงสั่งห้ามเธอออกไปไหนและจ้างพยาบาลรุ่นป้าของโรงพยาบาลแพทย์สินธนปกรณ์ของหมอเอลวินมาดูแลภรรยา ส่วนเขารีบเข้าไปที่ร้านหนังสือลึกลับของตนเองเพื่อหารือเรื่องผังความสัมพันธ์อันซับซ้อนของ แนท ดาเรศ ซีอีโอสาวของบริษัทเครื่องจักรกลยักษ์ใหญ่ที่สืบสาวราวเรื่องไปมาหล่อนดันมีหุ้นส่วนอยู่ในบริษัทของเขมทัต วัชรกาญจน์ ฆาตกรที่สั่งฆ่าพริมพลอย อดีตแฟนสาวเมื่อได้รับรู้ว่าทั้งสองคนเคยรู้จักกันเขาก็ไม่แปลกใจเลยว่า นี่อาจจะเป็นข้อเสนอยืมมือของดาเรศมาใช้จัดการดาเนียกับตนเองแต่มีหรือที่เขาจะปล่อยให้พวกมันข่มเหงและหยามเหยียดโดยที่ไม่ทำอะไรเลย แต่เขาจะปล่อยให้พวกมันคิดไปก่อนว่าคนแบบสุริยะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ เมื่อมันชะล่าใจเมื่อใดเขาจะตะครุบรวบทั้งแก็งในคราเดียวใบหน้าคมนิ่งขรึมรีบออกจากร้านหนังสือและคอยดูกล้องวงจรปิดที่ให้อรุณฉายแอบติดตั้งไว้รอบบริเวณบ้านเพื่อคอยสอดส่องความปลอดภัยของภรรยา เขาหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นเจ้าสุรีย์ ลูกหมาที่เริ่มตัวใหญ่ขึ้นคอยคลอเคลียเลียเอาใจสุดที่รักของเขาไม่ห่างกาย"ทำดีมากสุลูกพ่อ พ่อกลับไปจะทำของอร่อยให้กินไม่อั้นเลย" อม
หลังจากงานศพของพ่อสามีผ่านพ้นไปได้เกือบหนึ่งสัปดาห์ ทั้งดาเนียและสุริยะต่างก็เคลียร์งานของตนเองให้เสร็จเพื่อหวังว่าจะได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดและไปสวนสัตว์ด้วยกันอย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ระหว่างที่ดาเนียเลือกซื้อของอยู่ที่ร้านเบเกอรี่ข้างทาง ลูกค้าอีกคนที่ผลักประตูเข้ามาในร้านก็ทำให้เธอถึงกับตัวแข็งค้างเพราะบุคคลดังกล่าวคือพี่แนท พี่สาวของนิ้งที่เคยทั้งตบทั้งด่าทอเธอสารพัด และกล่าวหาว่าเธอเป็นต้นเหตุให้นิ้งน้องสาวคนเดียวที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย เกือบตายและเอาชีวิตไม่รอด ซึ่งพี่แนทเป็นคนเดียวที่เธอรู้สึกแย่ทุกครั้งที่พบหน้ากัน เพราะพี่สาวพื่อนเคยใจดีกับเธอมาก แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายพี่แนทก็แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่ารังเกียจเธอ"กลับมาจากต่างประเทศแล้วเหรอ" ไม่รู้ว่าพี่แนทรู้เรื่องนี้ได้ยังไง แต่มือที่กำลังรับถุงขนมจากพนักงานที่คาน์เตอร์มันกำลังสั่นเทิ้มไปหมด"เอ่อ...ค่ะกลับมาได้หลายเดือนแล้วค่ะ" ตอบเสียงสั่นเครือหลุบตามองพื้นไม่กล้าสบตา"ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าพี่แนทเข้ามาในร้านขนมนี้ไม่ใช่เพราะความบังเอิญแต่เพราะรู้ตั้งแต่แรกแล้ว