ดาเนียนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดหมกมุ่นอยู่กับอีเว้นท์แรกในฮอลล์ใหญ่ที่มีการจัดแสดงผลงานของดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติ และเธอก็ค่อนข้างเครียดมากเพราะกลัวว่าตนเองจะทำออกมาได้ไม่ดีอีกอย่างเธอกลัวและหวาดระแวงไปล่วงหน้าว่าจะมีใครมาล้มงาน โดยเฉพาะยัยหัวโจกเก่าแต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะดีหรือไม่ดีเธอก็ต้องกัดฟันสู้และผ่านมันไปให้ได้ เพราะเธอก็ผ่านมันมาได้ทุกครั้ง อีกทั้งบางเรื่องเธอก็สู้ด้วยตัวคนเดียวมาตลอด อย่างเช่นการรับมือกับความรู้สึกที่เคยถูกเฮียแซ็คปฏิเสธเมื่อสามปีก่อน ตอนนั้นเธอไม่ได้โกรธเขา แต่กลับเข้าใจโลกว่า คนไม่รักจะบังคับขืนใจหรือเอาเงินไปฟาดหน้าเขาก็ไม่มีวันรักเราอยู่ดี ทว่าวินาทีนี้เฮียแซ็คหน้าโหดฝีปากจัดจ้านพอกับพี่ชายของเธอได้เปลี่ยนจากหน้าผาสูงชันที่ยิ่งใหญ่จนกลายเป็นพ่อบ้านแซ็คที่ดูนุ่มนิ่มเหมือนตุ๊กตานัยน์ตากลมกวาดมองอิริยาบถของชายหนุ่มผู้มั่งคั่งเรื่องเงินทองวัน ๆ ถ้าไม่อ่านหนังสืออยู่ในห้อง หรืออ่านเอกสารของบริษัทในต่างประเทศของเขาก็จะออกไปเดินตลาดนัดกลับมาพร้อมกับตะกร้ากับข้าวใบโต แล้วก็สวมผ้ากันเปื้อนลายโปรดลงมือโขลกน้ำพริกเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แถมฝีไม้ลา
"เนียยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะคะ เฮียไม่เหม็นเหรอไงกัน อ๊ะ...อื้อเฮียหยุดนะ" ร้องห้ามปรามเสียงกระเซ่าแต่คนที่จดจ่อกับการเล้าโลมก็ยังไงซุกไซ้และชอนไชไม่ยอมแพ้"ก็เฮียบอกแล้วไงว่าจะยัดไส้เกี๊ยว บางทีลูกสาวหรือลูกชายของเฮียกับเนียอาจจะชื่อน้องเกี๊ยวก็ได้ น่ารักดีออก วันนี้เฮียมี อารมณ์ม๊ากมาก ให้เฮียไม่ได้เลยเหรอ...หืม" ออดอ้อนทำเสียงสองเหมือนสุรีย์ไม่มีผิด"แต่เนียห...หิวแล้วนะคะ" แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ความจริงเธอยังไม่หิวเพียงแต่ว่าผู้ชายตรงหน้าผลีผลามกับร่างกายของเธอรวดเร็วไปหน่อย เป็นใครก็ตกใจทั้งนั้น โครก!!! คราก!!! โชคช่วยไว้จริง ๆ เพราะเสียงร้องนั้นไม่ใช่ของเธอแต่เป็นของจอมยัดไส้เกี๊ยวเฮียแซ็คนั่นเอง ดาเนียได้โอกาสรีบกระโดดลงจากตักของเขาแล้ววิ่งลงไปที่เคาน์เตอร์ครัวโดยเร็ว ปล่อยให้พ่อครัวจอมหื่นเดินทอดน่องทำหน้าเซงลงมาในสภาพสวมบ็อกซ์เซอร์ตัวเดียว แถมท่อนไม้กลางขาของเขาที่มันดุนดันออกมาก็ยังคงปูดแข็งอยู่อย่างนั้น ดาเนียกลั้นขำเพราะเธอเป็นคนที่ทำให้ท่อนไม้นั้นแข็งขืนขึ้นมาขณะที่ท้องพ่อคุณนั้นร้องเสียงดังเหมือนควายออกลูก"เห็นไหมบอกแล้วว่าให้กินเกี๊ยวก่อน มาเร็วค่ะเนียไปเอาจานให้" ดาเนียเปิดเ
ใบหน้าคมครั่นคร้ามก้มต่ำลงมาสองมือแกร่งขนาบข้างแนบชุดนอนซาตินมันวาว นัยน์ตาดุจราชสีห์กวาดมองดวงหน้าอมชมพูระเรื่อสุดเซ็กซี่ นิ้วชี้ที่เคยสวมแหวนเงินสลักชื่อของพริมพลอยถูกเปลี่ยนเป็นแหวนทังสเตนสีดำเรียบ ดวงตากลมคว้าจับแหวนดังกล่าวยึดเข้ามาใกล้ส่งนิ้วโป้งของตนลูบวนที่เนื้อแหวนอย่างสงสัย"เมื่อก่อนเฮียเคยสวมแหวนชื่อคุณพริมพลอย ตอนนี้เปลี่ยนแล้วเหรอคะ" ใบหน้าเล็กเอ่ยถามออกมาอย่างตรงไปตรงมาแล้วจึงตวัดกลับไปหานัยน์ตาคู่คมอีกครั้ง"ก็ต้องเปลี่ยนสิครับ เพราะเนียคือคนรักของเฮียนับจากนี้และตลอดไป" เสียงนุ่มเอื้อนเอยด้วยประโยคที่ตราตรึงใจก้มลงต่ำ จรดแนบริมฝีปากแดงกระจับดั่งผลโกจิเบอร์รี่ลูกสวยลงมาบนร่องอกขาว ดูดซ้ำย้ำน้ำหนักลงไปกับผิวเนียนของดาเนียไม่รู้เบื่อ สาละวนอยู่แถวทรวงอกที่ล้นหลามออกมาจากชุดนอนสายเดี่ยวตัวบาง"ขอบคุณนะคะที่รักเนีย"เพราะคำหวานละมุนหู ทำให้เขายกใบหน้าคมขึ้นแล้วถอดแหวนสีดำออกส่งมันให้กับดาเนีย เธอรับมาแบบไม่เข้าใจและสังเกตเห็นบางสิ่งด้านในเนื้อแหวนสีทอง มันมีตัวอักษรถูกสลักซ่อนเอาไว้ ไม่เพียงแค่ชื่อเดียว แต่มีด้วยกันถึงสองชื่อ 'ดาเนียเฮียแซ็ค' อักษรภาษาไทยที่น่ารักเกินบรรย
ร่างกายกำยำยังคงยืนจ่อสรรพาวุธประจำกายค้างไว้ในตัวของดาเนียเพื่อรอคอยให้เธอพร้อมก่อนที่เขาจะเริ่มขยับอุปกรณ์ปั๊มเจ้าตัวกระเปี๊ยกเข้าไปในกลีบเนื้อของคนรัก"พร้อมแล้วบอกเฮียนะครับ" กระซิบเสียงกระเซ่าลงบนหัวไหล่กลมกลึง"แต่เมื่อกี้เนียยังไม่ทันจะพร้อมเลย....เฮียแซ็คก็พรวดเข้ามาแล้ว คนป่าเถื่อน!""ก็เนียน่ารัก...." ปากหวานจนดาเนียต้องยอมแพ้ไม่โต้เถียงกลับ"พูดดี!....งั้นเนียพร้อมก็ได้ค่ะ" ยิ้มกวนส่งให้แล้วหอมแก้มสุริยะทีเดียวสองฟอด"เฮียจะทำให้เนียท้องเดี๋ยวนี้แหละ!" ประกาศกร้าวแววตาพราวระยับหวานเยิ้มค่อย ๆ ยกสะโพกสวนขึ้นไปในโพรงที่กำลังตอดรัดเข้าจนใจแทบขาด"อ๊า......เฮียไปกินอะไรมาทำไมมันใหญ่โตโอฬารขนาดนี้" ทักท้วงถามถึงขนาดกระบอกปืนของว่าที่สามีที่ยัดเข้ามาจนข้างในของเธอคล้ายจะแตกเป็นเสี่ยง"ฮึ่ม......ก็กินปกตินะที่รัก" ตอบกลับไปพลางขยับอาวุธประจำกายให้สวนทะยานขึ้นลงในครั้งแรกค่อนข้างเชื่องช้าแต่เพียงไม่กี่นาทีถัดมาก็เพิ่มระดับความเร็วจนเจ้าของดวงหน้าสวยถึงกับสั่นกระเพื่อมตามแรกกระแทกกระทั้น"ถ้าเนียไม่ท้องรอบนี้แสดงว่าเฮียเป็นหมัน" เหน็บแนมเจ้าของน้ำเชื้อทำให้เขายิ่งกระหน่ำท่อนเอ็นร้อน
ตัวของดาเนียถูกหย่อนวางลงที่สนามหญ้าใต้ต้นหางนกยูงฝรั่งที่กำลังออกดอกสีส้มแสดบานเต็มต้น พอเธอจะวิ่งหนีก็ถูกคนมือไวเกี่ยวเอวไว้จนแน่น"คนวิตถารปล่อยเนียสิ! ใครเขามาปั๊มลูกกลางสนามแบบนี้เล่า เนียอายนะคะ" เขาไม่สนใจยังคงลอยหน้าลอยตาใช้มือเพียงข้างเดียวปูผ้าปิกนิกอย่างทะมัดทะแมงทั้งที่มีเหลือเพียงมือข้างเดียวที่ไว้ใช้งานเท่านั้น เพราะอีกข้างจำเป็นต้องใช้รัดเอวของว่าที่ภรรยาก่อนที่เธอจะวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน"พี่ชายเนียไม่เคยบอกหรือไงว่าเฮียกินดุ!!" หันมาค้อนตาขาวใส่เธอแล้วหิ้วตัวเธอกดลงกับผ้าปูปิกนิกลายสก็อตสีดำกรี๊ด!!!"เมียจ๋าผัวยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะจ๊ะ แค่นี้ก็ร้องแล้วเหรอ" ว่าจบเขาก็ถลกเสื้อยืดสีขาวของตัวเองเขวี้ยงทิ้งกับพื้นหญ้า แล้วคร่อมลงมาทาบทับเธออย่างรวดเร็ว"อื้ออออ" ปากอิ่มถูกประกบลงมาอย่างหนักหน่วงและรุนแรง ปลายชิวหาถูกแทรกพันและรัดรึงจากเรียวลิ้นที่ดุดันของคนด้านบน มือน้อยที่พยายามทุบตีลงมาที่บ่ากว้างถูกจับยึดแล้วตรึงขึ้นเหนือศรีษะแม้ใจอยากจะปฏิเสธและหลีกหนีแต่ร่างกายกลับรู้สึกชาและร้อนวาบไปทั่วกาย สติที่มีเหลือเพียงน้อยนิดก็พลันหายวับดับสูญสิ้น วินาทีนี้เขาดุอย่างที่ปากว่าจริ
เกือบห้าปีแล้วที่สุริยะ อัครภูรินทร์ยืนไว้อาลัยอยู่หน้าหลุมศพของของพริมพลอยคนรักหนึ่งเดียวที่เขาคิดจะแต่งงานด้วยแม้การจากไปของเธอจะผ่านมาแล้วหลายปี แต่เขาก็ไม่เคยจดจำเสียทีว่าตนเองมาเยือนหลุมศพแห่งนี้กี่ครั้ง รู้เพียงแต่ว่าไม่มีครั้งไหนที่จะไม่คิดถึงคนรัก เขารักเธอสุดหัวใจ และคิดว่าคงไม่มีใครมาแทนที่พริมพลอยได้อีก หรือจนกว่าเขาจะล้างแค้นคนที่ทำให้แฟนสาวของเขาหมดลมหายใจได้สำเร็จพี่ชายของเธอ คือ ศัตรูคู่แค้นที่ร้ายกาจที่สุดในชีวิตเขา และเขาจะไม่มีวันนอนตายตาหลับหากไม่ได้ปลิดชีพ เขมทัต วัชรกาณจน์ พี่ชายไม่แท้ของแฟนสาว"มึงจะไปบวชนานไหม" สุริยะถามเพื่อนสนิทหนึ่งในบก.มาเฟีย พนาธีร์ ลูกชายของอาจารย์เธียร ฉายานัยน์ตาเทพ ผู้หยั่งรู้อดีต ปัจจุบัน และอนาคต และเป็นเจ้าของสำนักหมอดูอัตรยามีที่มีศิษยานุศิษย์จำนวนมาก"สองปีว่ะ พ่อกูบอกว่าถ้ากูไม่บวช ชีวิตกูจะบัดซบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่หลังจากที่กูบวชและไปอยู่พุทธคยา ชีวิตก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า มึงก็รู้นี่ว่าเมียกูทิ้ง แต่งงานกันไม่กี่วันก็เชิดเงินหนีไปกับผัวเก่า กูรู้สึกโง่ฉิบหาย...""แล้วมึงเชื่อที่พ่อมึงบอกเหรอไอ้ป่า"
ดาเนียที่เดินตามเข้าไปในห้องไม่ทันไรเลขาสองคนก็สลัดผ้าผ่อนเปลือยกายแล้วกระโดดรอเขาที่เตียงนอนทันที"คุณแซ็คขาพายัยนี่มาทำไม มีแค่พวกเราสองคนยังไม่พออีกเหรอคะ" สาวผมสั้นเบะปากแล้วกวาดมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูถูก"คนแบบนี้ไม่มีวันได้เทสงานหรอก ไม่ใช่สไตล์ของฉัน พวกเธอโดนใจกว่ามาก ฉันแค่พามาหาอะไรดูข้ามเวลา"คิดว่าจะสลัดเธอออกจากชีวิตด้วยวิธีนี้สินะ ฝันไปเถอะเฮียแซ็ค เธอไม่ใช่คนขี้ขลาดอย่างที่เขาคิด ถึงแม้เขาจะไม่เคยรู้เลยว่าเธอเคยเจอความบอบช้ำอะไรมาบ้าง"จะทำอะไรก็ทำ!" เธอว่าแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ปลายเตียง สุริยะกระตุกยิ้มแล้วยืนค้ำหัวเธอ เขาสลัดผ้าต่อหน้าเธอออกจนหมด ดาเนียหลับตาทันทีที่เห็นความอล่างฉ่างจากเรือนกายแกร่งกำยำของเขา"หลับตาทำไมล่ะ สู้ไม่ไหวแล้วเหรอ"ยิ่งเขาท้าเธอก็ยิ่งต้องผ่านมันไปให้ได้ ดาเนียเปิดตาออกยิ้มแฉ่งราวกับว่าเธอไม่รู้สึกใด ๆ"เชิญค่ะ!" เธอผายมือให้เขาไปเสพสังวาสกับเลขาสาวสองคนบนเตียง เขาโน้มตัวลงมาเท้าแขนสองข้างกับที่วางมือบนเก้าอี้ เพ่งมองเข้ามายังนัยน์ตากลมคู่สวยที่สุกสกาวเหมือนหมู่ดาวบนท้องฟ้า จนถึงกลับต้องรีบเบือนหน้าหนีก่อนที่จะเผลอจดจ้องดวงหน้านี้จนลืมก
หญิงสาวที่สูงร้อยหกสิบกว่าเซนยืนแกว่งตัวในชดเดรสสายเดี่ยวลายสก็อตสีดำไปมาอยู่หน้าอพาร์ทเมนต์ ทันใดรถติดฟิลม์สีดำก็แล่นมาจอดเทียบท่า กระจกที่ลดลงมาทำให้เห็นแววตาโกรธเคืองได้อย่างชัดเจนเฮียแซ็คเคยคิดจะยิ้มกับเขาบ้างไหม หรือชาตินี้เขาทำเป็นอยู่หน้าเดียวเท่านั้น คือหน้าตึง!"จะขึ้นไม่ขึ้น" เขาถามแต่ไม่มองหน้าเธอ เดาได้เลยว่าเดทแรกนี้ของเธอกับเขานรกดลบันดาลเห็น ๆแต่พอเธอก้าวขาขึ้นรถไปได้ไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์จากทนายของพ่อก็โทรเข้ามา"ค่าอากริช อามีอะไรคะ""คุณหนูครับ นายท่านถูกยิงอาการสาหัสครับ คุณหนูต้องเดินทางไปอเมริกาพร้อมนายท่านด่วนเลยครับ" หัวใจของดาเนียแทบจะกลายเป็นเถ้าธุลี พอชีวิตเธอจะมีความสุขทีไรไฉนเล่ามันจึงเริ่มเน่าบูดทุกที เจ้ากรรมนายเวรของเธอกะจะไม่ยอมให้เธอได้มีความสุขบ้างเลยใช่ไหม"ตอนนี้เหรอคะ" เธอไม่อยากกระโตกกระตากให้คนด้านข้างรู้ เธอไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นทั้งนั้น แต่กระนั้นต่อให้เขารู้ก็คงจะไม่ได้รู้สึกเห็นใจเธออยู่ดี"ผมจองไฟลท์บินให้แล้วครับ เดินทางไปสี่ทุ่มคืนนี้ครับ ทีนี้คุณหนูก็อาศัยช่วงเวลานี้ไปเข้าเรียนสถาบันแฟชั่นที่โน่นเลยดีไหมครับ""ในเมื่อเนียอยู่ท
ตัวของดาเนียถูกหย่อนวางลงที่สนามหญ้าใต้ต้นหางนกยูงฝรั่งที่กำลังออกดอกสีส้มแสดบานเต็มต้น พอเธอจะวิ่งหนีก็ถูกคนมือไวเกี่ยวเอวไว้จนแน่น"คนวิตถารปล่อยเนียสิ! ใครเขามาปั๊มลูกกลางสนามแบบนี้เล่า เนียอายนะคะ" เขาไม่สนใจยังคงลอยหน้าลอยตาใช้มือเพียงข้างเดียวปูผ้าปิกนิกอย่างทะมัดทะแมงทั้งที่มีเหลือเพียงมือข้างเดียวที่ไว้ใช้งานเท่านั้น เพราะอีกข้างจำเป็นต้องใช้รัดเอวของว่าที่ภรรยาก่อนที่เธอจะวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน"พี่ชายเนียไม่เคยบอกหรือไงว่าเฮียกินดุ!!" หันมาค้อนตาขาวใส่เธอแล้วหิ้วตัวเธอกดลงกับผ้าปูปิกนิกลายสก็อตสีดำกรี๊ด!!!"เมียจ๋าผัวยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะจ๊ะ แค่นี้ก็ร้องแล้วเหรอ" ว่าจบเขาก็ถลกเสื้อยืดสีขาวของตัวเองเขวี้ยงทิ้งกับพื้นหญ้า แล้วคร่อมลงมาทาบทับเธออย่างรวดเร็ว"อื้ออออ" ปากอิ่มถูกประกบลงมาอย่างหนักหน่วงและรุนแรง ปลายชิวหาถูกแทรกพันและรัดรึงจากเรียวลิ้นที่ดุดันของคนด้านบน มือน้อยที่พยายามทุบตีลงมาที่บ่ากว้างถูกจับยึดแล้วตรึงขึ้นเหนือศรีษะแม้ใจอยากจะปฏิเสธและหลีกหนีแต่ร่างกายกลับรู้สึกชาและร้อนวาบไปทั่วกาย สติที่มีเหลือเพียงน้อยนิดก็พลันหายวับดับสูญสิ้น วินาทีนี้เขาดุอย่างที่ปากว่าจริ
ร่างกายกำยำยังคงยืนจ่อสรรพาวุธประจำกายค้างไว้ในตัวของดาเนียเพื่อรอคอยให้เธอพร้อมก่อนที่เขาจะเริ่มขยับอุปกรณ์ปั๊มเจ้าตัวกระเปี๊ยกเข้าไปในกลีบเนื้อของคนรัก"พร้อมแล้วบอกเฮียนะครับ" กระซิบเสียงกระเซ่าลงบนหัวไหล่กลมกลึง"แต่เมื่อกี้เนียยังไม่ทันจะพร้อมเลย....เฮียแซ็คก็พรวดเข้ามาแล้ว คนป่าเถื่อน!""ก็เนียน่ารัก...." ปากหวานจนดาเนียต้องยอมแพ้ไม่โต้เถียงกลับ"พูดดี!....งั้นเนียพร้อมก็ได้ค่ะ" ยิ้มกวนส่งให้แล้วหอมแก้มสุริยะทีเดียวสองฟอด"เฮียจะทำให้เนียท้องเดี๋ยวนี้แหละ!" ประกาศกร้าวแววตาพราวระยับหวานเยิ้มค่อย ๆ ยกสะโพกสวนขึ้นไปในโพรงที่กำลังตอดรัดเข้าจนใจแทบขาด"อ๊า......เฮียไปกินอะไรมาทำไมมันใหญ่โตโอฬารขนาดนี้" ทักท้วงถามถึงขนาดกระบอกปืนของว่าที่สามีที่ยัดเข้ามาจนข้างในของเธอคล้ายจะแตกเป็นเสี่ยง"ฮึ่ม......ก็กินปกตินะที่รัก" ตอบกลับไปพลางขยับอาวุธประจำกายให้สวนทะยานขึ้นลงในครั้งแรกค่อนข้างเชื่องช้าแต่เพียงไม่กี่นาทีถัดมาก็เพิ่มระดับความเร็วจนเจ้าของดวงหน้าสวยถึงกับสั่นกระเพื่อมตามแรกกระแทกกระทั้น"ถ้าเนียไม่ท้องรอบนี้แสดงว่าเฮียเป็นหมัน" เหน็บแนมเจ้าของน้ำเชื้อทำให้เขายิ่งกระหน่ำท่อนเอ็นร้อน
ใบหน้าคมครั่นคร้ามก้มต่ำลงมาสองมือแกร่งขนาบข้างแนบชุดนอนซาตินมันวาว นัยน์ตาดุจราชสีห์กวาดมองดวงหน้าอมชมพูระเรื่อสุดเซ็กซี่ นิ้วชี้ที่เคยสวมแหวนเงินสลักชื่อของพริมพลอยถูกเปลี่ยนเป็นแหวนทังสเตนสีดำเรียบ ดวงตากลมคว้าจับแหวนดังกล่าวยึดเข้ามาใกล้ส่งนิ้วโป้งของตนลูบวนที่เนื้อแหวนอย่างสงสัย"เมื่อก่อนเฮียเคยสวมแหวนชื่อคุณพริมพลอย ตอนนี้เปลี่ยนแล้วเหรอคะ" ใบหน้าเล็กเอ่ยถามออกมาอย่างตรงไปตรงมาแล้วจึงตวัดกลับไปหานัยน์ตาคู่คมอีกครั้ง"ก็ต้องเปลี่ยนสิครับ เพราะเนียคือคนรักของเฮียนับจากนี้และตลอดไป" เสียงนุ่มเอื้อนเอยด้วยประโยคที่ตราตรึงใจก้มลงต่ำ จรดแนบริมฝีปากแดงกระจับดั่งผลโกจิเบอร์รี่ลูกสวยลงมาบนร่องอกขาว ดูดซ้ำย้ำน้ำหนักลงไปกับผิวเนียนของดาเนียไม่รู้เบื่อ สาละวนอยู่แถวทรวงอกที่ล้นหลามออกมาจากชุดนอนสายเดี่ยวตัวบาง"ขอบคุณนะคะที่รักเนีย"เพราะคำหวานละมุนหู ทำให้เขายกใบหน้าคมขึ้นแล้วถอดแหวนสีดำออกส่งมันให้กับดาเนีย เธอรับมาแบบไม่เข้าใจและสังเกตเห็นบางสิ่งด้านในเนื้อแหวนสีทอง มันมีตัวอักษรถูกสลักซ่อนเอาไว้ ไม่เพียงแค่ชื่อเดียว แต่มีด้วยกันถึงสองชื่อ 'ดาเนียเฮียแซ็ค' อักษรภาษาไทยที่น่ารักเกินบรรย
"เนียยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะคะ เฮียไม่เหม็นเหรอไงกัน อ๊ะ...อื้อเฮียหยุดนะ" ร้องห้ามปรามเสียงกระเซ่าแต่คนที่จดจ่อกับการเล้าโลมก็ยังไงซุกไซ้และชอนไชไม่ยอมแพ้"ก็เฮียบอกแล้วไงว่าจะยัดไส้เกี๊ยว บางทีลูกสาวหรือลูกชายของเฮียกับเนียอาจจะชื่อน้องเกี๊ยวก็ได้ น่ารักดีออก วันนี้เฮียมี อารมณ์ม๊ากมาก ให้เฮียไม่ได้เลยเหรอ...หืม" ออดอ้อนทำเสียงสองเหมือนสุรีย์ไม่มีผิด"แต่เนียห...หิวแล้วนะคะ" แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ความจริงเธอยังไม่หิวเพียงแต่ว่าผู้ชายตรงหน้าผลีผลามกับร่างกายของเธอรวดเร็วไปหน่อย เป็นใครก็ตกใจทั้งนั้น โครก!!! คราก!!! โชคช่วยไว้จริง ๆ เพราะเสียงร้องนั้นไม่ใช่ของเธอแต่เป็นของจอมยัดไส้เกี๊ยวเฮียแซ็คนั่นเอง ดาเนียได้โอกาสรีบกระโดดลงจากตักของเขาแล้ววิ่งลงไปที่เคาน์เตอร์ครัวโดยเร็ว ปล่อยให้พ่อครัวจอมหื่นเดินทอดน่องทำหน้าเซงลงมาในสภาพสวมบ็อกซ์เซอร์ตัวเดียว แถมท่อนไม้กลางขาของเขาที่มันดุนดันออกมาก็ยังคงปูดแข็งอยู่อย่างนั้น ดาเนียกลั้นขำเพราะเธอเป็นคนที่ทำให้ท่อนไม้นั้นแข็งขืนขึ้นมาขณะที่ท้องพ่อคุณนั้นร้องเสียงดังเหมือนควายออกลูก"เห็นไหมบอกแล้วว่าให้กินเกี๊ยวก่อน มาเร็วค่ะเนียไปเอาจานให้" ดาเนียเปิดเ
ดาเนียนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดหมกมุ่นอยู่กับอีเว้นท์แรกในฮอลล์ใหญ่ที่มีการจัดแสดงผลงานของดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติ และเธอก็ค่อนข้างเครียดมากเพราะกลัวว่าตนเองจะทำออกมาได้ไม่ดีอีกอย่างเธอกลัวและหวาดระแวงไปล่วงหน้าว่าจะมีใครมาล้มงาน โดยเฉพาะยัยหัวโจกเก่าแต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะดีหรือไม่ดีเธอก็ต้องกัดฟันสู้และผ่านมันไปให้ได้ เพราะเธอก็ผ่านมันมาได้ทุกครั้ง อีกทั้งบางเรื่องเธอก็สู้ด้วยตัวคนเดียวมาตลอด อย่างเช่นการรับมือกับความรู้สึกที่เคยถูกเฮียแซ็คปฏิเสธเมื่อสามปีก่อน ตอนนั้นเธอไม่ได้โกรธเขา แต่กลับเข้าใจโลกว่า คนไม่รักจะบังคับขืนใจหรือเอาเงินไปฟาดหน้าเขาก็ไม่มีวันรักเราอยู่ดี ทว่าวินาทีนี้เฮียแซ็คหน้าโหดฝีปากจัดจ้านพอกับพี่ชายของเธอได้เปลี่ยนจากหน้าผาสูงชันที่ยิ่งใหญ่จนกลายเป็นพ่อบ้านแซ็คที่ดูนุ่มนิ่มเหมือนตุ๊กตานัยน์ตากลมกวาดมองอิริยาบถของชายหนุ่มผู้มั่งคั่งเรื่องเงินทองวัน ๆ ถ้าไม่อ่านหนังสืออยู่ในห้อง หรืออ่านเอกสารของบริษัทในต่างประเทศของเขาก็จะออกไปเดินตลาดนัดกลับมาพร้อมกับตะกร้ากับข้าวใบโต แล้วก็สวมผ้ากันเปื้อนลายโปรดลงมือโขลกน้ำพริกเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แถมฝีไม้ลา
01.00 น.สุริยะสังเกตเห็นว่าดาเนียเข้านอนไวแถมหลับไปตั้งแต่สามทุ่มถ้าเธอไม่มีเรื่องราวหนักใจก็กำลังจะไม่สบาย เขาทรุดตัวลงนั่งข้างเตียงดึงผ้าขึ้นมาห่มปิดจนถึงช่วงลำคอ เพราะอากาศที่เริ่มแปรปรวนจากร้อนก็กลายเป็นเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวทั้งที่ไม่ใช่ช่วงหน้าหนาวและอาจจะทำให้ดาเนียหรือแม้กระทั่งเขาป่วยได้ ริมฝีปากกระจับแดงจรดลงบนเรือนผมหอมสีน้ำตาลคาราเมล เกลี่ยเส้นผมที่รกปรกหน้าออกให้แล้วทัดลงไปที่ข้างหู ก่อนที่จะกดเบอร์โทรศัพท์เพื่อนถามกับพิรุณ เพื่อนรักว่ามันมีอะไรเกี่ยวกับดาเนียที่ยังไม่ได้เล่าให้ว่าที่น้องเขยอย่างเขาให้ฟังอีกหรือไม่"มึงจะบ้าหรือไงโทรมาตอนนี้ก็เพิ่งจะบำเรอเมียเสร็จไปแค่ชั่วโมงเดียวเองนะไอ้แซ็ค ง่วงจะตายห่าอยู่แล้ว" พิรุณโวยวาย"ไอ้เรนมึงเล่นกิจกรรมบนเตียงหลายชั่วโมงเลยเหรอวะ" เขาสวนกลับเพราะสงสัยว่าไอ้เรนเพื่อนรักอึดอะไรขนาดนั้น"ตั้งแต่ทุ่มยันเที่ยงคืน จิ๊บ ๆ แต่หลัง ๆ มีเจ้าแฝดกูก็เริ่มไม่ไหวเหมือนกัน เดี๋ยวมึงมีลูกก็เข้าใจเอง หรือมึงกับเนียไม่เคยมาราธอนยาว ๆ แบบกูเหรอวะ""ยังเลยแค่สี่สิบนาทีเห็นจะได้ ไม่เคยพ้นหนึ่งชั่วโมงเท่าที่กูดูเวลา" เขาสารภาพออกมาตรง ๆ"ฮะ...คนกินดุก
เพราะเห็นว่าเจ้าของบ้านหายออกไปช้อปปิ้งที่ตลาดหลายชั่วโมงแล้ว ดาเนียจึงได้ฝากให้บอดี้การ์ดที่บ้านของสุริยะคอยดูแลเจ้าสุรีย์แล้วรีบออกไปทำธุระที่ร้านเสื้อผ้าของตน แต่พอไปถึงก็เกิดเรื่องขึ้นพอดีพนักงานสองคนในร้านนั่งก้มหน้าไม่ยอมให้เจ้านายอย่างเธอสำรวจใบหน้า แต่บาดแผลที่ปรากฏอยู่นั้นทั้งรอยข่วน รอยตบก็ยังคงเด่นชัดตำตาจนไม่อาจปิดบัง"เกิดอะไรขึ้นซัน เอ๋ย ใครทำร้ายพวกคุณสองคน" ดาเนียทรุดตัวลงนั่งแล้วเชยปลายคางของลูกน้องสาวทั้งสองคนจับพลิกไปมาด้วยความเป็นห่วง"จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนนึงบุกมา เอาลูกน้องผู้ชายสองคนจับตัวพวกเราไว้จนขยับไม่ได้แล้วก็ทั้งข่วนทั้งตบพวกเราไม่หยุดเลยค่ะ" ซันบอกแล้วทำหน้าเหยเกจับริมฝีปากของตน"หน้าตาผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงคะ" ดาเนียเค้นเอาคำตอบเพราะเธอเดาได้ในแว่บแรกว่าผู้หญิงที่ว่าก็คืออริเก่าของเธอ หัวโจกที่เคยรังแกเธอไม่ยอมเลิกรา ชอบเอาชนะและไม่ชอบความพ่ายแพ้"คุณเนียลองดูกล้องวงจรปิดดูสิคะ" เอ๋ยเสริมขึ้นแล้วลุกขึ้นพาดาเนียไปดูคลิปกล้องวงจรปิดที่เธอเซฟเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ภาพเคลื่อนไหวภายในกล้องวงจรปิดทำให้ดาเนียเห็นผู้หญิงคนดังกล่าวที่เดินเข้ามาทำร้ายพนักงานของเธอได้
ในห้องทำงานชั้นบนสุดสุริยะยังคงจดจ่ออยู่กับกองเอกสารของบริษัทค้าอาวุธที่ก่อตั้งอยู่ในต่างประเทศของตน ใบหน้าของสุริยะแน่นิ่งไม่ไหวติงกับสิ่งเร้าภายนอกแต่อย่างใด แต่เมื่อเขายอมลุกจากเก้าอี้และชะโงกหน้าออกไปดูที่หน้าต่างตอนแรกเขากะว่าจะทำนั่งทำงานหลังขดหลังแข็งอยู่ในห้องจนกว่าจะลืมเรื่องที่แม่มาหาเขาเมื่อวาน แต่พอเห็นดาเนียที่กำลังส่งเสียงหัวเราะร่วนอยู่ที่สวนหลังบ้าน หัวใจของเขามันก็เต้นไม่เป็นส่ำทุกที ดวงหน้าที่ยิ้มแย้มขณะกำลังเล่นกับไอ้ตัวอ้วนพุงกองสวมขนสิงโตหน้าตาพิลึก ทำให้เขาเผลขำออกมาโดยไม่รู้ตัว"นี่ค่ะพ่อบ้านดล คุณอรุณ เนียไปหัดทำมาเองเลยนะคะ" คุกกี้รูปช็อกโกแลตรูปกระดูกหมาถูกส่งให้ชายทั้งสอง พวกเขาหยิบคุกกี้คนละชิ้นอย่างไม่แน่ใจนัก เพราะดูยังไงก็เหมือนขนมหมามากกว่าคุกกี้"ฮึ่ม...อร่อยครับไม่หวานมาก พ่อบ้านดลเคี้ยวแก้มตุ่ย อรุณฉายจึงรีบโยนใส่ปากทันทีเมื่อรู้ว่าขนมหน้าตาประหลาดนี้อร่อย"ว่าแต่คุณเนียไอ้เจ้านี่มันจะทำให้คุณแซ็คมีความสุขได้จริงเหรอครับ" อรุณฉายชี้ไปยังเจ้าลูกหมาลาบราดอร์สีดำที่สวมหัวสิงโตขนปุยจากการตัดเย็บด้วยฝีมือของเธอ ดาเนียยิ้มกว้างแล้วอุ้มเจ้าลูกหมาวัย 2 เดื
At Dania X Studioงานเปิดตัวสตูดิโอของดาเนียนั้นเต็มด้วยแขกทางฝั่งของพ่อและฝั่งพี่เรนและเพื่อนคนไทยคนเดียวที่มีบ้านเกิดที่นอร์เวย์อย่างยัยเหมียว และนับว่าเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เข้ากับคนไม่คบค้าสมาคมหรือเข้าสังคมเท่าไหร่นักได้เป็นอย่างดี เพราะเธอค่อนข้างหวาดระแวงกับความสัมพันธ์จากการถูกเพื่อนรังแกจนเป็นแผลเป็นไม่หาย ไม่ว่ากี่เดือนกี่ปีเธอก็ยังกลัวและจิตตกกับการคบเพื่อนกลุ่มก้อนใหญ่ที่เต็มด้วยเหล่าผู้คนที่สวมหน้ากาก ถึงจะมีเพื่อน ๆ ดีอยู่บ้างรายล้อมตัวเธอ แต่ก็เป็นส่วนน้อยที่เพื่อนที่แสนดีเหล่านั้นจะกล้าคบหากับลูกสาวเจ้าพ่ออย่างเธอทว่ายัยเหมียวเพื่อนคนนี้กลับกล้าที่จะคบหาเธออย่างจริงจัง แถมยังเป็นคนที่โคตรประชดชีวิตได้เก่งจนเธอแทบอึ้ง กับการที่เพื่อนรักทะเลาะกับครอบครัวจนหายไปบวชชีที่พุทธคยาเป็นปี ๆ และหลังจากที่เพื่อนสนิทสึกออกมาก็กลายเป็นคนน้ำนิ่งไหลลึก ใจเย็นลงแต่ดันยึดปณิธานว่าตนเองนั้นจะไม่ขอแต่งงานและอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต แต่เธอก็ไม่ได้ถามว่ายัยเหมียวไปเจอเรื่องสะเทือนใจอะไรมาเพราะก่อนหน้านี้ก็ยังมีแฟนแล้วควงกันไปเช็คอินตรงนั้นตรงนี้อยู่บ่อยครั้งอยู่เลย"ไอ้เนียแกเก่งมากเ