หญิงสาวเปลี่ยนชุดออกมาจากห้องลองชุดและเป็นชุดที่คล้ายกับเสื้อผ้ากันหนาว แถมยังมีโค้ทตัวยาวคลุมทับอีกที สุริยะเริ่มสงสัยหนักขึ้นที่ดาเนียทำตัวแปลก ๆ คล้ายกับจะรีบเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง
"จะใส่ไปเลยเหรอ ไม่ร้อนหรือไง"
"ใส่เล่น ๆ เดี๋ยวก็ถอดค่ะ เนียไปจ่ายเงินก่อนนะคะ"
"ไม่เป็นไรฉันจ่ายเอง" สุริยะเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ แต่ดาเนียรีบซอยเท้าวิ่งมาประกบเขาจนหัวกระแทกกับแผ่นหลังกว้าง เขาตวัดตาขุ่นมามอง
"คือขอโทษค่ะ จริง ๆ เฮียแซ็คไม่ต้องออกให้เนียหรอก เนียไม่อยากติดค้างใคร"
"พูดอะไรไร้สาระ" เสียงเข้มบอกแล้วเดินนำออกไปจากร้าน ไหล่เล็กห่อลู่เดินตามตัวลีบ จังหวะที่เดินผ่านร้านเครื่องประดับผู้ชายเธอก็สะดุดเข้ากับสร้อยข้อมือคู่รัก จึงแอบย่องเข้าไปซื้อโดยไม่ให้เขาเห็น เฮียแซ็คที่เดินฉับฉับนำไปที่รถถึงไม่เอะใจว่าเธอหายไปไหน เพราะเธอไม่สำคัญกับเขาเท่าไหร่เขาถึงได้เดินนำไปโดยไม่คิดจะรอเธอ แต่ก็ดีแล้วล่ะอย่ามาผูกพันอะไรกับเธอมากนักเลย อีกไม่กี่ชั่วโมงเธอก็จะไปแล้ว
"ขอโทษนะคะที่เนียมาช้า โฮ่ยยเหนื่อยจัง" ดาเนียกระโดดขึ้นมานั่งข้างคนขับ แล้วทำลับลมคมในยัดถุงกระดาษห่อเล็กใส่ลงไปในกระเป๋าอย่างรีบร้อน
"ไปไหนมาอีก แว่บเก่งเหลือเกิน ต่อไปมีแฟน แฟนคงปวดหัวตาย" ทำไมชอบไล่ให้เธอไปมีคนอื่นจัง เฮียแซ็คคนใจไม้ไส้ระกำ
"เขาอาจจะไม่ปวดหัวก็ได้ค่ะ อาจจะมีความสุขม๊ากมากเลยก็ได้ที่ได้เนียเป็นแฟน เพราะเนียสวยและก็ไม่ได้โง่แบบที่ใครบางคนบอกด้วย" สุริยะเลิกคิ้วสูงหลุดยิ้มกับท่าทางสรรเสริญเยินยอตนเองของดาเนีย
ให้ตายเหอะเขาไม่ได้อยากยิ้มแบบนี้มานานแล้ว แต่ยัยเด็กนี่กลับทำให้เขายิ้มออกมาได้
"และก็ไม่มีวันเป็นฉันด้วย เอาล่ะพร้อมจะกลับบ้านหรือยัง หรือจะให้ไปส่งที่ไหน" ดาเนียมองนาฬิกาดิจิตอลในรถของเขาที่บอกเวลาสองทุ่มครึ่ง ถ้าขับรถไปตอนนี้ก็น่าจะถึงก่อนเวลา
"ไป...ไปสนามบินค่ะ"
สุริยะหันขวับจ้องมองใบหน้าที่อ้างว้าง ดวงตากลมหลุบมองกระจกด้านนอกพยายามหลีกเลี่ยงที่จะถูกเขาซักถาม และเขาก็บ้าขับรถไปส่งเธอที่สนามบินโดยไม่ปริปากหรือถามเหตุผลว่ามาทำอะไร
แล้วทำไมเขาจะต้องถามด้วย ไม่ได้สำคัญอะไร ไม่ได้ข้องเกี่ยวอะไรกัน อยากไปไหนก็ไป เขาไม่สนใจหรอก
"ขอบคุณนะคะ.....เอ่อคือเนียมีของจะให้ด้วยค่ะ" ดาเนียควักกล่องเครื่องประดับออกมาจากถุงใบเล็กที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าแล้วส่งให้กับสุริยะ เขาหลุบมองแล้วเปิดของในมือของเธอออกมาดู สร้อยสีทองห้อยด้วยแม่กุญแจและลูกกุญแจ
"ให้ทำไม" เขาไม่คิดจะรับมันไปจากมือเธอด้วยซ้ำ
"เผื่อว่าวันหนึ่งเฮียแซ็คจะพบใครสักคนที่ดีที่รักเฮียแซ็ค เนียรู้มาว่าเฮียเคยจะแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้แต่ง"
"ไอ้เรนไอ้ปากพล่อย" กร่นด่าอย่างหงุดหงิด
"ช่วยรับไว้หน่อยได้ไหมคะ ถือว่าเป็นของขวัญแลกกับที่เฮียแซ็คจ่ายค่าเสื้อผ้าพวกนี้ให้ ขอร้องเถอะค่ะ"
บ่อน้ำตาของเธอมันจะแตกอยู่แล้วทำไมเขาไม่รีบรับ ๆ ไปให้สิ้นเรื่อง หรือเขารังเกียจเธอมากจนถึงขนาดไม่อยากรับของจากเธอเชียวหรือ เขาเห็นดวงตากลมพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
"ขอบใจ" เขารีบรับมาแล้วย่นคิ้วติดกันเหมือนโบว์ใหญ่ ดาเนียยิ้มกว้างเห็นเขี้ยวเล็กสองซี่ด้วยความดีใจ
"ขอบคุณนะคะที่วันนี้พาเนียไปเที่ยว ขับรถกลับดี ๆ นะคะ"
"อือ ฉันไปล่ะ" บอกแล้วหันหลังจากไป ทว่าทำไมเขาต้องรู้สึกหวิว ๆ ข้างในใจด้วย ทำไมใจมันหายแปลก ๆ
"เฮียแซ็ค!" ดาเนียตะโกนไล่หลังแล้ววิ่งตามมา พอเขาเอี้ยวตัวหันกลับไปก็ถูกสองมือเล็กตะครุบที่เสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำแล้วโน้มลงไปให้รับจุมพิตนุ่มละมุน แถมยังเป็นจูบที่ไม่ตาสีตาสา จูบเด็กน้อยที่ไม่ได้เรื่องเลยสักนิด
แต่มันกลับทำให้หัวใจของเขาเต้นตูมตาม เต้นจนแทบจะทะลุออกมาจากอก เป็นไปไม่ได้เขาไม่ได้ตื่นเต้นกับรสจูบอนุบาลของดาเนีย เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ ไม่ได้รู้สึก....
ริมฝีปากอิ่มถอดถอนออก ดวงหน้าสว่างสวยเฉี่ยวแบบเชื้อสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ยิ้มหวานอย่างปลื้มใจ น้ำตาอาบไหลนองแก้มนวลแดง "เนียรักเฮียแซ็คนะคะ และจะรักตลอดไป"
"คุณหนูครับ" เสียงของทนายความกริชตะโกนเรียกดาเนียจากทางด้านหลังพร้อมกับกระเป๋าใบใหญ่ที่ถูกลากเข้ามาหาเธอ พร้อมกับหุ่นสูงโปร่งหน้าตาละม้ายคล้ายพิรุณที่เดินตรงเข้ามาหาเขากับน้องสาวของมัน ขาแว่นสีดำถูกเกี่ยวออกพลางถอนหายใจเฮีอกใหญ่เมื่อเห็นน้องสาวอยู่กับไอ้เพื่อนใจแข็ง
"พี่เรนคะ มาแล้วเหรอ" ดาเนียกระโจนเข้าไปกอดพี่ชาย พิรุณเกลี่ยเช็ดน้ำตาของน้องสาวด้วยสองมืออย่างทนุถนอม จนป่านนี้แล้วเพื่อนซี้ของเขามันก็ยังงมความทุกข์ของตัวเองอยู่เหมือนเดิม โดยไม่รู้เลยว่าใครอีกคนที่มีผลต่อจิตใจกำลังจะจากไปอีกนานแสนนาน
"หน้าตาเลอะเทอะหมด อย่าร้องไห้อีกนะคนเก่งของพี่" หลังมือของลูกพี่ลูกน้องที่เปรียบเสมือนพี่ชายแท้ ๆ และพ่ออีกคนของเธอกระซิบนุ่มนวล "ไปอยู่กับทนายกริชก่อน พี่จะคุยกับไอ้หมาบ้าซะหน่อย"
ดาเนียชายตามองสุริยะอย่างอาลัยแต่ก็ยอมเดินไปหาทนายกริช ทันใดนั้นเพื่อนสนิทที่ระดับความสูงไล่เลี่ยกันเดินมาประจันหน้าด้วยแววตาเย็นชาและโกรธกร้าว
"สมใจมึงแล้วนะไอ้แซ็ค ดาเนียจะไม่อยู่เมืองไทยแล้ว มึงจะได้เป็นอิสระจากน้องกูสักที"
"หมายความว่าไงไอ้เรน" เขาถามแต่ก็ยังชำเลืองมองดาเนียเป็นระยะ
"เมื่อคืนพ่อเนียถูกยิงอาการสาหัสกูเลยจะย้ายลุงไปรักษาตัวที่บ้านเกิดเนีย ถ้าลุงกูหายเมื่อไหร่กูจะบินกลับมา แต่เนียจะไม่กลับจนกว่าจะเรียนจบ"
"แล้วไงกูต้องแคร์ด้วยเหรอวะ" เขาเชิดหน้าขึ้นไม่ได้รู้สึกเสียใจที่ดาเนียจะจากไป
"หึหึ! ไอ้เชี่ยเอ้ย มึงนี่มันจริง ๆ งั้นมึงก็จมอยู่ในโลกมืด ๆ ของมึงไปนะ กูขี้เกียจตื๊อมึงละ อุตส่าห์เชียร์ขนาดนี้ เดี๋ยวกูแม่งไปเชียร์คนอื่นซะเลย"
"ไม่ได้!!!"
ห่าเอ้ย! เขาพูดอะไรออกไปวะ ทำไมถึงพูดไปแบบนั้นวะไอ้แซ็ค
"สรุปมึงจะเอายังไง สามปีนะที่ดาเนียไม่อยู่ มึงไม่กลัวใครจะสวบน้องกูก็ตามใจ"
"ไม่มีใครไม่มีวันได้สวบเนียหรอก เนียต้องเป็นของกูคนเดียว"
"มึงมันชอบคิดได้ตอนที่สายเกินไป สมน้ำหน้าสามปีนี้มึงก็หอนไปนะ" เสียงเข้มแดกดันเพื่อนอย่างหงุดหงิด
สุริยะถอนหายใจเขาเองก็ยังสับสนอยู่ว่าเกิดบ้าอะไรขึ้นมา ทำไมถึงรู้สึกหึงหวงดาเนียทั้งที่ยังไม่เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ หรือเพราะวันทั้งวันนี้เขาได้พบตัวตนที่สดใสของเธอ
ตัวตนของดาเนียที่เปล่งแสงส่งมาถึงสุริยะที่ดำมืดอย่างเขา และพลิกฟื้นคืนดวงอาทิตย์ไร้แสงให้รอดพ้นจากหลุมแห่งความมืดมิดอีกครั้ง ทว่าแสงสุดท้ายที่อบอุ่นนี้กำลังจะจากเขาไปไกล
และเป็นเวลาอีกหลายปีกว่าที่เขาจะได้พบเธออีกครั้ง ทว่าเมื่อวันนั้นมาถึงดาเนียจะหมดรักเขาแล้วหรือยัง
เขาก็แค่จะอยู่รอให้ถึงวันนั้น หากเธอยังมั่นคงต่อความรู้สึกอยู่ล่ะก็ เขาจะพลีกายถวายหัวใจให้เธอเพียงคนเดียว
การกลั่นแกล้งและทำร้ายใครสักคนไม่ใช่กีฬา ไม่ใช่เกม แต่มันคือการทำลายหนึ่งชีวิตและคนที่ทำร้ายผู้อื่นด้วยวาจาและการกระทำ ก็ไม่มีวันเป็นผู้ชนะอยู่ดี-ฮาลาปัญ-******************3 ปีผ่านไปใจกลางเมืองนิวยอร์ก สาวผมยาวลอนสีน้ำตาลคาราเมลปั่นจักรยานโบกมือทักทายเพื่อนบ้านขณะที่หญิงสาวรีบเดินทางไปรับวุฒิการศึกษาด้วยจักรยานคู่ใจ หลังจากที่พ่อของเธอรักษาตัวร่วมเกือบหกเดือนและหายจนกลับมาแข็งแรงเหมือนคนปกติ เธอก็ส่งพ่อกับพี่เรน ลูกพี่ลูกน้องของเธอกลับไปเมืองไทย และเริ่มต้นชีวิตที่เมืองใหม่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่และเธอยาวนานมาร่วมสามปีเต็ม และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้เดินทางกลับไปประเทศที่เติบโตมาเป็นดาเนีย ประมะเมคินทร์"หนูเนียจะกลับแล้วเหรอจ๊ะ""ใช่ค่ะ" ป้าข้างบ้านเอ่ยทักขณะที่หญิงสาวกำลังลากกระเป๋าใบใหญ่ออกมาอย่างถูลู่ถูกัง"โชคดีนะหนู มีเวลาก็แวะมาเที่ยวที่นี่บ้างนะ""ได้เลยค่ะคุณป้า""คุณเนียครับรถพร้อมแล้วครับ" บอดี้การ์ดรุ่นลุงของพ่อที่เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนถูกส่งมาดูแลเธอตลอดสามปีนี้ และเขาก็เป็นทุกอย่างตั้งแต่งานครัว เย็บปักถักร้อย จนเธอแทบจะเป็นง่อยเลยทีเดียวระหว่างที่ใช้ชีวิต
สุริยะวางดอกกุหลาบขาวที่หลุมศพของพริมพลอยและฉีกยิ้มให้กับคนรัก วันนี้เขาพร้อมแล้วที่จะสารภาพบางอย่างที่เก็บไว้มาตลอดสามปี วันนี้ดาเนียกลับมาแล้วและเขาจะไม่ปล่อยเธอไปอีก เขาต้องรับจริง ๆ ว่าตัวเองเจ็บปวดและทรมานกับการรอคอยใบหน้าสดใสนั้น และทำได้เพียงส่งอรุณฉายไปตามเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ตามคำแนะนำของไอ้เรน"พริม ผมจะเริ่มต้นใหม่กับดาเนียแล้วนะ ผมเพิ่งรู้ตัวว่าโหยหาความอบอุ่นนั้นจากเขา ดาเนียกับคุณแตกต่างกันมาก คุณนั้นอ่อนหวาน เรียบร้อยแต่ดาเนียทั้งตลก สดใส และทำให้หัวใจของผมเต้นแรงเหมือนตอนที่พบกับคุณครั้งแรก ทว่ามันกลับทำให้ผมกระชุ่มกระชวยมากกว่าตอนพบกับคุณ หรือเพราะเธอเด็กกว่าไม่รู้ ผมกลายเป็นคนหลงรักเด็กไปซะแล้ว ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจผมนะพริม ผมไปก่อนนะพริม ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง"***************ฟากเดียวกันดาเนียที่หอบร่างสะบักสะบอมลงมาจากรถแท็กซี่ทรุดกองกับพื้นโชคดีที่อรุณฉายไม่อยู่เพราะเขาบอกว่าจะไปทำธุระข้างนอกและจะกลับมาตอนหัวค่ำ หญิงสาวเอาผ้าพันคอที่มีอยู่ในกระเป๋ามาคลุมใบหน้าและเดินลากขาที่อ่อนแรงกลับไปยังห้อง พอไขประตูเข้าไปเท่านั้นร่างของเธอก็ล้มลงปากอิ่มที่มีเลือดซิบที่มุมปากส
พิรุณตบบ่าสุริยะฝากให้เพื่อนซี้ดูแลดาเนียแทนเขา สุริยะทรุดตัวลงนั่งบนเตียงคอยใช้เจลประคบเย็นที่บริเวณหน้าผากที่บวมช้ำของดาเนีย ใบหน้าอิดโรยขยับส่ายไปมาราวกับกำลังฝันร้าย"ฮื้อ...อย่า อย่าทำฉัน โอ๊ย! เจ็บ เนียเจ็บ" เสียงละเมอเพ้อพบทำให้เขาถึงกลับอดกลั้นความเจ็บปวดนี้ไม่ไหว สองมือโอบประคองร่างกายอุ่นในห่อผ้าขึ้นมาแล้วโย้ร่างกายที่กระตุกวูบเพราะความฝันไปมาให้ผ่อนคลาย"เฮียอยู่ตรงนี้แล้วครับ เนียได้ยินไหม ถ้าได้ยินตามเสียงเฮียมานะ" เสียงกระซิบอุ่นที่รดคลอเคลียข้างใบหูปลุกเรียกให้ดาเนียตื่นจากฝันร้าย เปลือกตาหนักอึ้งปรือมองและเห็นดวงหน้าของเฮียแซ็คกำลังจดจ้องมองลงมา ไม่รู้ว่าเป็นภาพความฝันหรือความจริง แต่มือของเธออยากจะเอื้อมไปจับใบหน้าของเขา อยากสัมผัสเขาอีกสักครั้ง"เฮียแซ็คเหรอคะ" มือที่ใหญ่กว่าประคองมือเล็กขึ้นมานาบแก้มของตน ทันใดที่ถูกสัมผัสของเขาดวงตากลมก็เบิกโพลงด้วยความตกใจ เพราะนี่มันไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดไปเอง ไม่ใช่ความฝัน แต่คือความจริง"ทำไมตกใจเหรอ หืม....พูดหน่อยสิครับ" น้ำเสียงที่เขาใช้คุยกับเธอเปลี่ยนไป มันทั้งนุ่มนวลและอ่อนโยนอย่างน่าประหลาด แล้วเขายังเอาแต่ระดมจูบมือของเธอไ
ริมฝีปากกระจับยอมละออกอย่างเสียดายเพราะลมหายใจของดาเนียเริ่มติดขัด เสียงลมหายใจพ่นเข้าออกจนทำให้ทรวงอกในห่อผ้าขนหนูผืนสีขาวตัวสั้นยุบย่อเพื่อสูดเอาออกซิเจนเข้าไป "จะฆ่าเนียเหรอคะ" ดวงหน้าที่มีแต่รอยขีดข่วนเอ็ดเสียงใส เด็กนี่คิดว่าจูบจะทำให้ตายหรือไงกัน"มีใครเขาจูบกันแล้วตายบ้าง เด็กน้อยจริง ๆ " สุริยะส่ายหน้าหลุดยิ้มกับท่าทางติงต๊องของดาเนีย"ก็จูบกับเฮียแซ็คนั่นแหละ" นัยน์ตาหวานคมตวัดมาแล้วกดตัวของดาเนียให้นอนลง "จะ..จะทำอะไรคะ" มือยันแผงอกในเชิ้ตขาวไม่ให้ก้มลงมาประชิดกับอกของเธอ "จูบกับเฮียมีแต่จะคราง" ดาเนียผงะสายตาเลิ่กลั่ก "ไม่คราง" เธอเถียงกลับ เธอจะไม่ยอมครางเหมือนผู้หญิงพวกนั้นของเขาเด็ดขาด คิดทีไรก็โมโหและหัวร้อนไปหมด"ได้เดี๋ยวเฮียจะทำให้ครางดัง ๆ เลย" สิ้นเสียงผ้าขนหนผืนสั้นก็ถูกกระตุกออก ริมฝีปากดุระดมจูบไปทั่วผิวกายไล่ตั้งแต่ลำคอและเลื้อยต่ำลงมา"หยุดนะคะ.....อย่า" ที่เธอร้องอ้อนวอนเขาเพราะไม่อยากให้เขาเห็นบาดแผลที่ขาของเธอต่างหาก แผลนูนคีลอยด์นั่นที่โดนไม้ที่มีประตูฝังตีลงมาซ้ำ ๆ และครูดกับขาของเธอจนเกิดแผลฉกรรจ์ใหญ่ที่เกือบทำให้เธอเป็นบาดทะยักตายในวัยสิบเจ็ดปีสุร
ตอนนี้กลายเป็นว่าสุริยะตัวติดกับดาเนียไม่ยอมห่าง กลางวันก็หอบงานมาเฝ้าเธอที่อพาร์ทเม้นต์ จากที่เคยกินนอนอยู่ที่สุสานของแฟนเก่าที่เสียชีวิตไป แต่ ณ เวลานี้กลับเอาแต่จดจ้องน้องสาวของเพื่อนซี้จนตาแทบจะเป็นตะคริวนัยน์ตาหวานคมกริบกระพริบมองหญิงสาวที่อยู่ชุดเอี๊ยมกางเกงและสวมเสื้อครอปคอเต่าแขนกุดสีขาวครึ่งตัวไว้ข้างใน ขณะที่ดาเนียกำลังนั่งสเก็ตแบบเสื้อผ้าที่ห้องรับแขกอย่างตั้งอกตั้งใจ พอเธอชำเลืองมองดูเขา ชายหนุ่มที่เคยวางมาดหยิ่งผยองก็ตวัดมองไปทางอื่นอย่างไม่รู้ไม่ชี้ดาเนียหัวเราะคิกคักที่เธอทำให้คนตัวโตที่เคยพูดจาร้าย ๆ และทำตัวแย่ ๆ เปลี่ยนไปเป็นสุริยะฟรุ้งฟริ้งที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู เฮียแซ็คหนอเฮียแซ็คจะรู้บ้างไหมว่าเวลาที่เขาทำสายตาเลิ่กลั่งลุกลนเพราะถูกเธอจับได้ว่าเขากำลังแอบมองเธออยู่มันช่างเป็นภาพที่โคตรน่ารักและทำให้ใจทั้งสี่ห้องของเธอเปี่ยมด้วยพลังงานบวกสาวในชุดเอี๊ยมยีนส์เดินล้วงกระเป๋าเหมือนสาวห้าวเข้ามาหาคนที่พยายามก้มหน้าก้มตากลบเกลื่อนอย่างไม่เนียน"ไม่ทำงานทำการเหรอคะ แล้วเลขาร่านสวาทของเฮียล่ะ ไปอยู่ไหนซะแล้ว เนียอยากจะเจอสักหน่อย""อยากเจอทำไม" ทำทีเป็นถามแต่ไม่สบตา เพรา
ห้องพิสูจน์อักษร ภายในห้องดำมืดที่มีเถาวัลย์เลื้อยยื่นเข้ามาจนเต็มผนังกำแพง กลางห้องที่มีแสงส่องรำไรมีเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่สี่ตัว ไม่นานนักใครบางคนก็ถูกพาเข้ามา ซึ่งเป็นเสียงของผู้หญิงกลุ่มนึงที่ร้องโวยวายกึกก้องไปทั่วร้านหนังสือใต้ดินอันเงียบสงัดแห่งนี้ กระทั่งชายชุดดำลูกน้องเฮียแซ็คลากคอสาวสี่คนที่เธอคุ้นหน้าคร่าตาเป็นอย่างดีมานั่งบนเก้าอี้ไม้ ยัยกลุ่มจอมบูลลี่อริเก่าก็ชะงักงันในทันทีเมื่อเห็นเธอยืนอยู่เคียงข้างเฮียแซ็ค"แก๊! นังดาเนีย! ฝีมือแกเองเหรอ นังสวะ!....เผียะ!" หลังฝ่ามือของสุริยะฟาดจนใบหน้าของแยม หัวโจกตัวร้ายสะบัดหน้าหันไปอีกทาง หญิงสาวจอมกร่างค้อนดวงตากลับไปหามือตบร่างสูงโปร่ง แล้วแสยะยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว"ถ้ามึงยังพูดกับคนของกูแบบนั้นอีกรอบ คราวนี้มึงจะได้กินนี่เป็นอาหารค่ำ!" ใบหน้าที่ดุดันควักกระบอกปืนสีเงินออกมาแล้วกดแนบลงไปที่ขมับเพื่อข่มขู่ แต่ดูเหมือนว่าแยมจะไม่รู้สึกรู้สาหรือหวั่นใจ"ที่แท้แกมันก็เล่นหมาหมู่เหมือนกันนี่วะ นังเนีย!"หมับ! ปลายคางของแยมถูกมือใหญ่บีบจนแน่น "กูบอกให้หุบปาก!" สุริยะตวาดลงมาเสียงดัง"ไหนวะคนรังแกน้องกู" จู่ ๆ เสียงของพี่เรนก็ดังแล่บเข้า
ร้านอาหารหรูที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยานับเป็นสถานที่โรแมนติกที่ทำให้ดวงหน้าคมคายสามารถสำรวจมองรอยยิ้มสดใสที่กำลังตักของอร่อยใส่ปากได้อย่างเพลิดเพลินใจ เพียงแค่ได้มองดวงหน้าเฉี่ยวที่หวานอมเปรี้ยวของดาเนียเขาก็รู้สึกเหมือนถูกเธอหลอมละลายไว้ สุริยะจินตนาการไปถึงตอนที่ได้ไปอยู่ในตัวของเด็กสาว วินาทีที่เป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายกับเธอ หูของเขาทั้งสองข้างก็แดงก่ำขึ้นมา จนคนที่กำลังกินน้ำแข็งใสอยู่นั้นถึงต้องหรี่ตามอง"เฮียแซ็คป่วยหรือเปล่าคะ" มือที่เย็นวาบของดาเนียเอื้อมมาจับหูของสุริยะ เขาสะดุ้งเฮือกเพราะหูนับว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดของเขา"เอ่อ..คงงั้นมั้ง" เขารีบตะปกหูสองข้างของตนเอง แล้วถูไปมาจนแดงกว่าเดิมจังหวะที่ทั้งสองกำลังจะขึ้นรถมีชายสวมโม่งดำชุดดำถือดาบซามูไรเดินตรงเข้ามา"ระวังเนีย!" สุริยะที่หูตาไวรีบผลักดาเนียกระเด็นออกไปอย่างเร็วพลั่ก! ดาเนียล้มลงไปเฟี้ยบ!ดาบซามูไรด้ามยาวถูกฟันลงมาที่กลางอกของเขาร่างสูงทรุดนั่งชันเข่ากับพื้นไว้หนึ่งข้าง"เฮ้ย!" ศิวดลกับอรุณฉายควักกระบอกปืนเล็งไปยังชายนิรนาม มันผงะครู่หนึ่งแล้วกระโดดขึ้นไปยังรถเก๋งติดฟิลม์ที่แล่นมารับแล้วทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว"เ
คนในอ้อมกอดยังคงปล่อยหมัดรัวมาที่อกจนรู้สึกว่าเจ็บจนทนจูบต่อไปไม่ไหวเขาถึงได้ผละออกแล้วทรุดลงไปกับพื้น เขาไม่ร้องสักแอะแต่ทำหน้าเจ็บปวดรวดร้าวจนคนที่เผลอลงมือฟาดกำปั้นลงไปถึงกับได้สติ"เฮียแซ็คเนียขอโทษค่ะ...เจ็บมากไหม เนียขอโทษนะคะ" ดาเนียทรุดลงนั่งมือน้อยจับไปตามเนื้อตามตัวของเขาจนมั่วด้วยความตกใจ "เลือดออก...ฮึกเนียไม่ได้ตั้งใจ" จู่ ๆ เธอก็หลุดสะอื้นออกมาจนได้"ไม่เป็นไร...โอ๊ย" หน้าคมเหยเกขณะพยายามหยัดกายขึ้นจากพื้น หญิงสาวจึงคว้าแขนของเขามาพาดกับบ่าเล็กแล้วช่วยพยุงให้เขาลุกขึ้นมา สุริยะยิ้มกริ่มที่เห็นว่าดาเนียเป็นห่วงตน"นั่งตรงนี้ก่อนนะคะ หิวน้ำหรือหิวอะไรไหมเนียจะไปหามาให้""หิวเนีย!" เขาย้ำสีหน้าราบเรียบแล้วตวัดนัยน์ตาเอาจริงส่งให้ ดาเนียชะงัก"อะไรกันคะ เนียไม่ใช่ของที่กินได้ซะหน่อย เอาของที่กินได้สิคะ""รู้ได้ไงว่ากินไม่ได้ เคยลองเป็นของกินให้เฮียชิมหรือยัง""เนียไม่คุยกับเฮียแซ็คแล้ว....คนอะไรกวนติงชิป" บ่นอุบอิบแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปเพื่อโทรหาอรุณฉายให้เขาหาของกินมาให้เธอกับเฮียแซ็คเพราะดูแล้วในบ้านของผู้ชายดิบเถื่อนคนนี้จะมีแค่น้ำเปล่าเท่านั้น และก็เป็นอย่างที่เธอคา
เพราะอาเจียนเกือบทั้งวันทั้งคืนดาเนียจึงบอกให้สามีมานอนอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี เพราะบรรยากาศด้านบนนี้ค่อนข้างโปร่งโล่งสบายมากกว่าห้องนอนใต้ดินชั้นล่างอันลึบลับของเขา ถึงแม้เช้านี้เขาจะอาการดีขึ้นและนั่งตักโยเกริต์ผลไม้ที่โรยธัญพืชเข้าปากได้ และยามที่ภรรยาโอบกอดเขาไว้หลวม ๆ ก็เหมือนกับยาดมแก้คลื่นเหียนเวียนหัว เพราะกลิ่นกายของดาเนียนั้นมีทั้งความหอมเย็นและสดชื่นทำให้หัวที่หนักอึ้ง เบาหวิวดังปุยนุ่นจนอยากให้แม่ของลูกกอดเขาอยู่แบบนี้"เดี๋ยวก่อนค่ะ" เขาตะครุบเธอกลับแล้วเอาจมูกซุกเข้าไปที่กลางเนินอก "หอมจัง หอมมาก" อ้อนแล้วพยายามเอาหน้าถูไถไปมาเหมือนเด็กชายสามขวบ"เฮียเป็นเอามากนะเนี่ย" ดาเนียบ่นแต่ก็ลูบแผ่นหลังปลอบโยน เพราะเธอเองก็ชอบใจที่เขาดูน่ารักนุ่มนวล"วันนี้จะไปไหนคะ มีงานหรือเปล่าให้เฮียขับรถไปส่งไหม หรือว่าอยากไปเดินตลาดนัดคลองถมกับเฮียไหม เฮียจะไปซื้อวัตถุดิบมาทำของอร่อย ๆ ให้เนียกิน"เธออ่านนิยายมาตั้งหลายเรื่องไม่เคยพบเจอมาเฟียประเภทเฮียแซ็ค ที่เอะอะก็ชวนไปจ่ายตลาดไม่ก็ชวนไปเดินตลาดนัดคลองถม ปกติมาเฟียที่เธอเคยพบเจอต่างก็พาไปกินหรูอยู่แพงกันทั้งนั้น ยกเว้นตาคนนี้"แล้วเฮียไม่เหม
เพลงของวง Paper Planes เปิดดังลั่นบ้านลั่นช่องขณะที่มาเฟียหัวป่าก์กำลังยืนรอพิซซ่าโทสต์ในเตาอบระหว่างรอนั้นชายหนุ่มจึงถูบ้านข้ามเวลาเพื่อรอภรรยาตื่นนอน ดาเนียที่ขึ้นมาจากห้องนอนใต้ดินเกาหัวมองสามีที่อารมณ์ดีมากเป็นพิเศษหรือเพราะเมื่อวานพอเธอรับปากว่าจะมีลูกให้ถึงสี่คน เฮียแซ็คก็เลยดีดตั้งแต่เช้าตรู่"เฮียอารมณ์ดีเกินไปไหม....แล้ววันนี้ทำอะไรกินคะ กลิ่นหอมออกมาจากเตาเลย" ดาเนียชะโงกหน้าดูขนมปังพิซซ่าที่หมุน ๆ อยู่ในเตาอบอย่างใจจดจ่อ พอเสียงติ๊งดังขึ้นหญิงสาวก็รีบสวมถุงมือเตาอบแล้วอาสานำออกมาเรียงใส่จาน เดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำส้มใส่แก้วให้พ่อบ้านที่กำลังถูพื้นไปร้องเพลงไป"มาแล้วครับ" สุริยะวิ่งเอาไม้ม๊อบไปเก็บขณะเดียวกันสุรีย์ก็พยายามกระโดดดึ๋งดั๋งอยากรู้อยากเห็นว่าบนโต๊ะอาหารมีอะไรให้กินบ้าง ด้วยความสงสารเจ้าลูกหมาเขาแอบชำเลืองมองเล็กน้อยแล้วฉีกพิซซ่าโทสต์ยื่นใส่ปากสุรีย์แบบเนียน ๆ"เนียเห็นนะคะ ถ้าเฮียตามใจสุรีย์แบบนั้นต่อไปสุรีย์จะดื้อแล้วก็ไม่ฟังเฮียอีกนะคะ" นัยน์ตาขุ่นมองสามีแล้วจิบน้ำส้มหรี่สายตาไม่ไว้ใจส่งให้ ชายหนุ่มหัวเราะแห้งแล้วรีบกินโทสต์ในจานโดยไม่โต้แย้งภรรยา"กินเยอะ ๆ ค
หญิงสาวนั่งอ่านหนังสือในห้องของชายหนุ่มไปจนถึงเที่ยงคืนแล้วผลอยหลับไปด้านข้างมีรูปใบเก่าวางอยู่ทำให้เจ้าของบ้านที่เดินตามหาหยิบรูปดังกล่าวขึ้นมาแล้วจัดการโยนใส่เตาผิงไฟในห้อง ความร้อนและเสียงสะเก็ดไฟปลุกเรียกให้คนที่นอนหลับอยู่ตื่นขึ้นและรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่นอนอยู่ที่พื้นไม้เย็น ๆแต่กลับนอนอยู่บนตัวของสามี เขานอนเหยียดตัวยาวไปอยู่บนโซฟาหน้าทีวีในห้องนั่งเล่นและเธอก็นอนทับอยู่บนตัวเขาอีกที จังหวะที่จะขยับลุกหนีมือของเขากลับโอบรัดไม่ยอมให้จากไป"จะไปไหน"ถามมาได้ว่าจะไปไหนก็ไปให้พ้นหน้าจากคนใจไม้ไส้ระกำหน่ะสิ"เนียจะกลับไปอยู่อพาร์ทเม้นต์ หรือไม่ก็กลับนิวยอร์ก" ประโยคที่เต็มด้วยความน้อยใจทำให้ตาของเขาสว่างขึ้นในพริบตา"เฮียไม่ไห้ไป" ลุกขึ้นรีบรัดเธอด้วยสองแขนดาเนียแอบอมยิ้มที่มุกจะหนีไปจากเขาได้ผล ถึงเธอจะแค่ขู่แต่ก็ไม่กล้าทำจริงหรอก"เนียจะไปหนีไปให้ไกล ๆ จากคนบ้าคนงี่เง่าเต่าตุ่นแบบเฮีย"ทำท่าทางสะบัดแขนที่โอบรอบตัวออก เขาจึงยอมคลายแล้วพลิกตัวให้หันมาสบตาดันหลังคอคนที่กำลังสะดีดสะดิ้งเข้าไปรับจุมพิตดุดันด้วยความใจร้อน"อื้อ....." จูบประดุจจะฆ่าชีวิตเดียวที่มีของเธอมันทั้งหนักหน่วง
"เฮีย...แม่ยุงลายอะไรนั่นเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงได้ทำหน้าเหมือนอยากกินเฮียเหลือเกิน เฮียต้องระวังตัวนะคะ" จับมือของเขามากอบกุมแล้วลูบไล้ไปมาบนแหวนทังเสตนสีดำที่ด้านในสลักชื่อดาเนียเฮียแซ็ค บ่งบอกถึงสัญญาใจที่มีต่อกัน"เขาชื่อเรไรไม่ใช่ยุงลาย อีกอย่างคนแบบเฮียไม่ต้องระวังใครหรอก ระวังเนียคนเดียวก็ปวดหัวใจแย่แล้ว""ฮะ...เนียมีอะไรต้องระวังกันคะ เฮียพูดให้ดีนะคะ...หึ!" ด้วยความหมันไส้จึงเผลอยื่นมือไปบีบก้นสามีอีกรอบต่อหน้าพนักงานเสริฟ์ที่เดินถือถาดเครื่องดื่มเข้ามา เขาผงะเล็กน้อยมองชายหญิงที่กำลังลวนลามกันอยู่ที่มุมห้องจัดเลี้ยง"ก้นเฮียมันมีอะไรดีนักหนาเหรอสาวน้อย" ยืนเฉยและปล่อยให้เมียขยำต่อไปอย่างที่ชอบ ขณะที่มือสองข้างผลักแผ่นหลังเปลือยเข้ามาแนบ ก้มลงดวงหน้าฉาบเครื่องสำอางสวยเผ็ด"ก็บั้นท้ายเฮียทั้งแน่นฟิตเด้งแล้วก็มี...ขี้แมลงวันด้วยเม็ดนึง เซ็กซี่เป็นบ้าเลย" ตาลุกวาวเพิ่งรู้ว่าที่ก้นตัวเองนั้นมีขี้แมลงวันอยู่ด้วย ปากกระจับคมเหยียดยิ้มเกลี่ยแก้มใส"ปากหวานจัง ขอเฮียชิมหน่อยได้ไหม" วิงวอนแล้วแตะลงที่ริมฝีปากล่างที่ฉ่ำวาวด้วยลิปกลอส"กลับบ้านก่อนสิคะ" แตะที่กลีบปากสวยของเขา"ก็ได้กลับ
หลังจากที่คู่รักหวานชื่นกลับมาถึงบ้านได้ไม่กี่ชั่วโมงพ่อบ้านศิวดลก็เข้ามาแจ้งข่าวว่าพรุ่งนี้จะมีการจัดงานเลี้ยงหรูรวบรวมเหล่าบริษัทพันธมิตรด้านการผลิตอาวุธหนักเข้าไปหารือและสร้างคอนเนคชั่นร่วมกัน สุริยะยิ้มกริ่มเพราะตนนั้นจะได้เจอกับเรไร เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อของอดีตแฟนสาวที่เขายังไม่ได้สะสางบัญชีแค้น"สุรีย์แม่คิดถึงหนูจังเลย" ชายหนุ่มชำเลืองมองหน้าของภรรยาที่กำลังก้มลงฟัดเจ้าลูกหมาตัวดำ นึกแล้วเขาก็อยากเป็นเจ้าสุรีย์ขึ้นมาได้เป็นหมาแล้วถูกเมียฟัดเมียหอมแบบนั้น คงจะฟินน่าดู"เนียรินน้ำชาให้เฮียหน่อยสิ" เขากวักมือชูถ้วยชาในมือที่หมดแล้ว หญิงสาวยิ้มมุมปากรีบคว้าเอาปั้นชาที่ตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวตรงมาหาสามีโดยไม่ปฏิเสธ"น้ำชาค่ะตาแก่" ดาเนียรินน้ำชาอู่หลงกลิ่นหอมลงในถ้วยชา ดวงตาคมหลุบมองท่าทางที่นุ่มนวลก็เผลอนึกย้อนไปถึงเมื่อเช้าที่จัดเมียในห้องอาบน้ำจนลืมไปว่าเธอท้องลูกคนแรกอยู่"เพลียไหม" เขาถามและจิบน้ำชาอุ่นกระพริบตาปริบ ๆ"เพลียอะไรคะ.....อ๋อที่เฮียกระแทกเนียเมื่อเช้าอ่ะเหรอ" พรวด!!!"แค่ก....แค่ก" น้ำชาในปากพ่นออกมาใส่หน้าดาเนียจนเลอะเทอะ"โอ๊ย...ตาแก่นี่เนียเปื้อนหมดเลย กินภาษาอ
00.00 น."เฮียแซ็ค Happy Birthday จากเนียค่ะ" คนที่พยายามข่มใจให้หลับสุดท้ายก็ต้องยอมเปิดตาออกและพบสาวโบว์ใหญ่สีแดงที่กำลังถือเทียนหอมเอาไว้ในมือ "หลับตาอธิษฐานสิคะเร็วเข้า" เขาแทบจะจดจำไม่ได้แล้วว่าอะไรคือสิ่งที่คนมักขอกันในวันเกิดก่อนเป่าเทียนบนเค้กให้ดับ"ขอให้เนียมีลูกให้เฮียสี่คน....ฟู่ว!!" ใบหน้าสวยชะงักงันทันทีเมื่อเทียนในมือดับลง ยิ้มแห้งเกาหัวเคอะเขินเฮียบ้านี่ขออะไรไม่ขอมาขอให้เธอมีลูกกับเขาถึงสี่คนถ้าเยอะขนาดนี้มีหวังเธอลมจับกันพอดี"มีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะคะ ฝันดีค่ะ" อวยพรเจ้าของวันเกิดจบปุ๊ปก็ก้าวขาขึ้นไปนอนเคียงข้างเขาทันที แต่เขากลับพลิกตัวมาคร่อมทับเธออย่างไว "เฮียมันดึกแล้วนะคะ""เฮียยังไม่ได้กินเค้กเลยนะคะ" เวลาเขาพูดคะขาทำหน้าอ้อนเหมือนสุรีย์ทีไรสติของเธอพาลจะเตลิดเปิดเปิงทุกที"เนียไม่ได้ซื้อเค้กมาขอโทษด้วยนะคะ" ทำหน้าสลดส่งให้คนด้านบนเพราะไม่คิดว่าเขาอยากจะกินเค้กเอาเวลานี้"ก็มีอยู่แล้วนี่ไงคะ....." กล่าวเสียงทุ้มนุ่มจนใจละลายแล้วบีบแก้มของเธอเข้าหากัน"ฮื่อออหื่นไม่รู้เวล่ำเวลา.....เนียเป็นคนเนียไม่ใช่เค้ก กินตอนเช้าได้ไหมคะ" พูดส่งเดชไปก่อนเพราะตอนนี
จังหวะที่มือสองข้างกำลังเตรียมปลดเชือกที่มัดเสื้อคลุมอาบน้ำเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ดาเนียชำเลืองมองใบหน้าเศร้าสร้อยวางแขนสองข้างพาดอยู่กับขอบอ่างแล้วเสมองออกไปยังห้องกระจก ที่เมฆพายุกำลังต่อตัวขึ้นจนเห็นสายฟ้าพาดผ่านท่ามกลางความมืดมิดสงัดหญิงสาวก้มมองเบอร์บุคคลที่โทรเข้ามาก็นึกสงสัย"ฮัลโหลค่ะพ่อบ้านดล ทำไมถึงโทรมาหาเนียละคะ" หญิงสาวข้องใจที่พ่อบ้านโทรมาหาเธอแทนที่จะโทรหาเจ้านายของเขา"สวัสดีครับคุณดาเนีย ที่ผมโทรมาหาคุณโดยเฉพาะก็เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ถ้าพ้นเที่ยงคืนนี้ไปก็จะวันเกิดคุณแซ็คแล้วหน่ะสิครับ" ดาเนียตวัดมองนาฬิกาแขวนในห้องพักซึ่งบอกเวลาสี่ทุ่มตรงแสดงว่าที่เขาพาเธอมาโรงแรมก็หวังจะพาเธอมาฉลองวันเกิดของเขาหรือเปล่า"เนียไม่เคยถามวันเกิดเฮียแซ็คมาก่อนลืมสนิทเลยค่ะ ยังไงขอบคุณนะคะที่คุณดลโทรมาแจ้งเนีย""แต่ผมมีอีกเรื่องที่อยากจะบอกคุณเนียด้วยครับ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับวันเกิดทุก ๆ ปีของคุณแซ็ค""ทำไมเหรอคะคุณดล""ก็แต่เดิมคุณแซ็คไม่เคยฉลองวันเกิดกับใครเลยหน่ะสิครับ แม้กระทั่งกับคุณพริมพลอยก็ตาม""รวมทั้งคุณพริมพลอยด้วยเหรอคะ ไม่น่าเชื่อ""เชื่อเถอะครับ เพราะไม่มีใครที่สามารถ
ขณะที่ดาเนียกำลังเดินนำสามีที่กำลังทำหน้าหงิกงอไม่พอใจนำออกมาจากร้านอาหารก่อน ตัวของเขาก็ถูกมือของใครบางคนกระชากรั้งเอาไว้"เจ้านายคะมาทำอะไรที่นี่ จำเอมี่ได้ไหม"สาวผมสั้นในชุดซีทรูขาวที่สวมปิดทับทูพีชสองชิ้นข้างในกดไหล่ของสุริยะแนบไว้กับกำแพง นัยน์ตาเข้มเหล่มองไปทางอื่นอย่างหมดอารมณ์แล้วพยายามดันตัวของอดีตเลียแข้งเลียขาคนที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ออกไป"ออกไปห่าง ๆ " เขาสั่งและดันตัวเธออก แต่หญิงสาวกลับบดหน้าอกคัพซีขนาดมหึมาลงมาบนตัวเขาไม่หยุด"เฮีย!" เสียงตะโกนดังก้องไปทั่วโถงทางเดิน เยื้องกรายเข้ามาหาเขากับเอมี่อย่างเชื่องช้า มองหญิงสาวคนดังกล่าวที่กำลังกดตัวสามีของเธอติดผนังอย่างเย้ยหยัน หนำซ้ำยังเอาหน้าอกใหญ่โตนั่นแนบไว้กับตัวของเฮียแซ็คอีก"นี่ผัวฉันถ้าเธอไม่อยากกินลูกกระสุนก็ไสหัวไป!" กระสุนปืนสีทองที่พี่เรนให้เธอไว้เป็นโชคลางปกป้องคุ้มภัยถูกยื่นส่งให้กับหญิงใจกล้าตรงหน้าที่กำลังลูบไล้เนื้อตัวของเฮียแซ็คอยู่อย่างไม่กระดากอายอดีตเลียแข้งเลียขาคนเก่าของสามีที่ไม่รู้โผล่มาจากหลุมไหนรีบถอยหลังกรูดเดินหนีด้วยใบหน้าหวั่นเกรง รวมทั้งเธอที่กำลังจะเดินหนีเขาไปด้วย ทว่าจังหวะที่จะก้าวขาไปให
เมื่อรถทะยานมาถึงบริเวณบ้าน เจ้าของบราเซียร์ที่กำลังหลวมโล่งจนลมพัดโกรกไปถึงผิวเนื้อด้านทำท่าทีจะเปิดประตูออกไปทว่ากลับถูกมือที่แสนว่องไวรวบคว้าเอาไว้ได้อีกเช่นเคย"เฮีย...." เอ็ดเขาเสียงเบา แต่คนเผด็จการก็เอาแต่ยิ้มกริ่มแล้วกัดริมฝีปากยั่ว"อรุณฝากเลี้ยงสุรีย์ไปก่อน เดี๋ยวฉันจะแวะไปดูธุรกิจที่โรงแรมซะหน่อย อีกสองวันน่าจะกลับ แล้วนายอย่าลืมให้กินอาหารตามรายการนี้ล่ะ" ใบสั่งจากสัตว์แพทย์และอาหารที่หมอแนะนำให้ทำให้เจ้าลูกหมาอ้วนรับประทานถูกส่งให้กับอรุณฉาย สุริยะก้มลงหอมหัวขอมสุรีย์ด้วยความรัก นี่แค่หมาเขายังรักมันขนาดนี้แล้วถ้าลูกของเธอเขาจะหลงลูกขนาดไหนกัน"รับทราบครับนาย" อรุณฉายพยักหน้ารับแล้วยิ้มแห้งให้คุณหนูดาเนียของเขาพร้อมกับอุ้มสุรีย์เข้าไปในบ้าน"ไปนั่งหน้า" หันมาสั่งคนที่ถูกรั้งไว้ในอก"ก็เฮียมากอดไว้แบบนี้จะให้เนียถอดจิตไปนั่งหรือไงกันคะ แล้วเราจะไปที่ไหนกันเนียยังเตรียมงานที่ต้องไปจัดนิทรรศการแฟชั่นไม่เสร็จเลยนะคะ" วิงวอนพลางดันอกแกร่งให้ออกห่าง"จะพาไปเดทแบบเป็นทางการ ไม่ไปเหรอ....แล้วงานเนียมันตั้งต้นเดือนหน้ายังมีเวลาอีกตั้งเยอะ"กลอกตาไปมาพลางขบคิดเพราะนึกถึงเรื่องที่เค