สุริยะวางดอกกุหลาบขาวที่หลุมศพของพริมพลอยและฉีกยิ้มให้กับคนรัก วันนี้เขาพร้อมแล้วที่จะสารภาพบางอย่างที่เก็บไว้มาตลอดสามปี วันนี้ดาเนียกลับมาแล้วและเขาจะไม่ปล่อยเธอไปอีก เขาต้องรับจริง ๆ ว่าตัวเองเจ็บปวดและทรมานกับการรอคอยใบหน้าสดใสนั้น และทำได้เพียงส่งอรุณฉายไปตามเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ตามคำแนะนำของไอ้เรน
"พริม ผมจะเริ่มต้นใหม่กับดาเนียแล้วนะ ผมเพิ่งรู้ตัวว่าโหยหาความอบอุ่นนั้นจากเขา ดาเนียกับคุณแตกต่างกันมาก คุณนั้นอ่อนหวาน เรียบร้อยแต่ดาเนียทั้งตลก สดใส และทำให้หัวใจของผมเต้นแรงเหมือนตอนที่พบกับคุณครั้งแรก ทว่ามันกลับทำให้ผมกระชุ่มกระชวยมากกว่าตอนพบกับคุณ หรือเพราะเธอเด็กกว่าไม่รู้ ผมกลายเป็นคนหลงรักเด็กไปซะแล้ว ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจผมนะพริม ผมไปก่อนนะพริม ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง"
***************
ฟากเดียวกันดาเนียที่หอบร่างสะบักสะบอมลงมาจากรถแท็กซี่ทรุดกองกับพื้นโชคดีที่อรุณฉายไม่อยู่เพราะเขาบอกว่าจะไปทำธุระข้างนอกและจะกลับมาตอนหัวค่ำ หญิงสาวเอาผ้าพันคอที่มีอยู่ในกระเป๋ามาคลุมใบหน้าและเดินลากขาที่อ่อนแรงกลับไปยังห้อง พอไขประตูเข้าไปเท่านั้นร่างของเธอก็ล้มลง
ปากอิ่มที่มีเลือดซิบที่มุมปากสองข้างกัดฟันสู้หยัดกายลุกขึ้นแล้วเดินไปยังห้องน้ำเพื่อดูสภาพที่ทุเรศของตัวเอง หน้าตาของเธอบวมแดงมีรอยเล็บจิกข่วน ริมฝีปากเจ่อบวมช้ำมีเลือดแห้งเกรอะกรังไม่น่าดู หน้าผากก็ปูดโนเป็นสีม่วงคล้ำฟกช้ำจนเหมือนกับคนที่เพิ่งไปชกมวยที่ลุมพินีมาหมาด ๆ เนื้อตัวก็มีแต่รอยเล็บ รอยถลอกเต็มไปหมด
ถ้าอาทิตย์หน้ารอยแผลพวกนี้ยังไม่จางหายล่ะก็เธอคงจะเปิดสตูดิโอที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่เอี่ยมไม่ได้แน่นอน เพราะแขกทุกคนคงตกใจที่เจ้าของห้องเสื้อมีสภาพเหมือนกับไปฟัดกับหมามา
"อีนังพวกนั้นเลวไม่เคยเปลี่ยนเลยจริง ๆ" ดาเนียบ่นอุบอิบถอดเสื้อผ้าออกและล้างเนื้อล้างตัวที่มีคราบขี้ดินเกาะติดอยู่ ร่างกายบอบบางที่เต็มด้วยบาดแผลเป็นริ้ว ๆ ก้าวลงแช่ในอ่างน้ำอุ่น "เฮ้อสบายตัวหน่อย" เพราะอาการเหนื่อย อาการเพลียและความเจ็บมันประดังประเดเข้ามาทำให้เธอผล็อยหลับคาอ่างน้ำโดยไม่รู้ตัว
อรุณฉายโทรหาดาเนียไม่ติดเขาจึงหวั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ขณะที่กำลังขับรถพาสุริยะ ผู้ว่าจ้างและส่งเขาไปดูแลคุณดาเนียมายังอพาร์ทเม้นต์ เขาก็เหล่มองเจ้านาย ชายหนุ่มรับรู้ได้ว่าอรุณฉายเป็นกังวลบางอย่าง
"โทรหาเนียติดไหม"
"ตั้งแต่ตอนที่อยู่สุสานแล้วครับ ผมโทรหาคุณเนียไม่ติดเลย
ทันทีที่รถจอดสุริยะรีบเดินเข้าไปยังอพาร์ทเม้นท์หรูของดาเนียและเคาะประตูห้องของเธอรัว ๆ
"เนีย ดาเนีย เนียได้ยินเฮียไหม เนียอยู่ข้างในหรือเปล่า เนียตอบเฮียที"
"คุณแซ็คครับผมมีคีย์การ์ดสำรองที่คุณเนียให้ไว้ครับ" อรุณฉายส่งคีย์การ์ดให้เจ้านายเขารีบแตะที่ประตูห้องแล้วบิดเข้าไปทีเดียว สองขาที่เป็นกังวลเดินหาหญิงสาวจนทั่วห้อง กระทั่งได้ยินเสียงน้ำไหลที่ดังมาจากห้องน้ำ
สุริยะพุ่งเข้าไปบิดประตูห้องน้ำและเคาะรัว ๆ ให้คนด้านในได้ยินแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ เขาจึงตัดสินใจควักกระบอกปืนออกมาแล้วกระหน่ำยิงจนลูกบิดแตกหัก มือที่ร้อนลนกระชากประตูห้องน้ำออก ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เจ็บปวดเหมือนหัวใจถูกทุบตีจนแตกสลาย ร่างกายของดาเนียเต็มด้วยบาดแผล และใบหน้าก็มีแต่รอยฟกช้ำ
"อรุณนายออกไปข้างนอกก่อนฉันจะดูแลเนียเอง และโทรตามหมอเอลให้ผมด้วย"
"ได้ครับ"
ใบหน้าที่ช็อกกับสภาพของดาเนียหอบหิ้วร่างเปลือยเปล่าขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนและบรรจงหยิบผ้าขนหนูสีขาวมาห่อหุ้มร่างไร้สติ พลันน้ำตาของเขาก็ไหลหลากเมื่อเห็นร่างกายขาวโพลนที่มีแต่รอยเล็บข่วน แก้มนวลที่บวมแดง ปากอิ่มที่เคยจุมพิตเขาแตกเจ่อมีคราบเลือด และหัวที่โนปูดฟกช้ำจนเป็นสีม่วงจัด
ไอ้ฉิบหาย!!
ไอ้บัดซบตัวไหนมันทำผู้หญิงของเขาวะ
ใครที่มันทำดาเนียของเขา เขาจะไปตามหักคอให้หมดทุกคน
สุริยะเดินไปเดินมาระหว่างที่รอเอลวิน หรือ หมอเหมันต์ตรวจอาการของดาเนียที่นอนหายใจรวยระรินอยู่บนเตียงนอน
"ไอ้แซ็ค" หมอเอลวินเดินเข้ามาแล้วตบบ่าเพื่อนสนิท "น้องมันเป็นลมในน้ำ ร่างกายอ่อนเพลียมากน่าจะเจ็ทแลคด้วยกับโดนยำเละขนาดนั้นก็เลยตามสภาพ มึงไม่ต้องห่วงกูฉีดยาให้แล้ว บาดแผลที่หัวฟกช้ำค่อนข้างรุนแรงมึงคอยเอาเจลประคบนี่ประคบให้ดาเนียแล้วกัน"
"ขอบใจว่ะเพื่อน ไอ้เรนจะเอากูตายไหมเนี่ย"
"กูไม่ฆ่ามึงหรอก เฮ้ยไอ้เอลขอบใจว่ะที่มึงมาดูแลเนียให้" เรนที่โผล่มาเพราะศิวดลโทรไปแจ้งข่าวของดาเนียยื่นมือมาตบบ่าเพื่อนสนิทอีกคน แล้วชะโงกดูหน้าที่หลับสนิทของน้องสาวพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก
"เออกูไปล่ะ เรื่องกูคนเดียวก็ปวดหัวจะแย่ เมื่อวานไอ้ภูก็มากินเหล้ากับกูเมาปลิ้นเลยว่ะ ไอ้ฟ้าก็เลยต้องแบกกลับ"
"มึงไปเหอะขอบใจมาก" สุริยะตบบ่าหมอเอลเพื่อขอบคุณและทรุดตัวนั่งคุกเข่าลงข้างเตียงของดาเนีย เกลี่ยผมที่รกปรกหน้าออกไป พิรุณเดินกอดอกเข้ามาอย่างเหนื่อยใจ เพราะตอนนี้เขาเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของเขา
"กูมีเรื่องเนียจะเล่าให้ฟัง"
"เรื่องอะไร" สุริยะหยัดตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปยืนเคียงข้างเพื่อนซี้ มองดาเนียที่นอนหลับปุ๋ยด้วยความห่วงหา
"เมื่อก่อนตอนเนียอายุ 17 เคยถูกเพื่อนกลุ่มนึงทำร้ายและพาไปทิ้งไว้ที่ตึกร้าง ตอนนั้นลุงกับกูหาเนียตั้งแต่เย็นยันตีหนึ่ง กว่าจะรู้ว่าเนียถูกทิ้งไว้ที่มืดมิดสงัดน่ากลัวแบบนั้นคนเดียว เนียก็เกือบจะสติแตกแล้ว เนียถึงกลัวความมืด กลัวผี กลัวทุกอย่างที่อยู่ในความมืดมิด มีอาการแพนิกตื่นตระหนก มีสภาวะเป็น PTSD บางครั้งจะตัวแข็งทื่อเหมือนตกอยู่ในฝันร้ายซ้ำซาก หรือบางทีถ้าพบเจอคนที่มีลักษณะคล้ายกับคนที่เคยทำร้ายเขามาก่อนเนียก็ถึงกับตัวสั่นงันงกน้ำตาไหลพรากเลยล่ะ ดังนั้นเนียถึงไม่ค่อยชอบไปงานสังคม เพราะเขากลัวว่าจะเจอคนพวกนั้นอีก แต่ตอนนี้ก็ถือว่าดีกว่าแต่ก่อน ยังรู้จักรับมือเผชิญหน้าความกลัวได้บ้างแล้ว ถึงจะยังไม่เต็มร้อยก็เถอะ และนี่คือเหตุผลที่กูถึงไม่อยากให้มึงต้องเป็นสุริยะมืดมนไปอีกคน มึงเข้าใจหรือยังไอ้แซ็ค มึงอาจจะสูญเสียคนรักไป แต่ดาเนียสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป"
"แสดงว่าวันนี้เนียไปเจอคนกลุ่มเดิมมาสินะ" น้ำตาของผู้ฟังไหลอาบหน้าสองข้าง เพราะคำบอกเล่าจากปากของพิรุณ เขามันงี่เง่าเสียจริงที่ไม่เคยรับรู้เลยว่าผู้หญิงที่วิ่งเข้ามาสมัครงานเลขากับเขา และถูกเขาทำร้ายจิตใจในวันนั้นเคยพบโศกนาฏกรรมอันเลวร้ายมาก่อน
"ก็คงหนีไม่พ้นพวกเดิม แต่คนพวกนั้นก็เหมือนผีเวลาที่เราเจอผีที่น่ากลัวขามันก็ก้าวไม่ออก จะชักขาวิ่งหนีก็ชาไปหมด เนียคงจะไปจ๊ะเอ๋กับแก็งอริเก่าที่ห้างเข้าพอดีก็เลยโดนเจิมมาซะเต็มตัว และอีกอย่างกูรู้ว่ามึงก็เคยทำกับเนียมาก่อนใช่ไหมไอ้แซ็ค" ตบบ่าเพื่อนที่ยืนตัวนิ่งพลางขบคิดถึงสมัยที่เคยกลั่นแกล้งดาเนีย
"อืมกูเคยแกล้งเนีย เพราะงี้เนียถึงกลัวหนังสยองขวัญ แต่ตอนนั้นกูก็ยังลากน้องมึงไปดูหนังผี กูนี่สารเลวจริง ๆ " สุริยะกร่นด่าด้วยความโมโหแต่ไม่สบตากับพิรุณเอาแต่เพ่งมองคนป่วยนอนซมตรงหน้าด้วยความเจ็บใจกับการกระทำเห็นแก่ตัวของตนเอง
พิรุณตบบ่าสุริยะฝากให้เพื่อนซี้ดูแลดาเนียแทนเขา สุริยะทรุดตัวลงนั่งบนเตียงคอยใช้เจลประคบเย็นที่บริเวณหน้าผากที่บวมช้ำของดาเนีย ใบหน้าอิดโรยขยับส่ายไปมาราวกับกำลังฝันร้าย"ฮื้อ...อย่า อย่าทำฉัน โอ๊ย! เจ็บ เนียเจ็บ" เสียงละเมอเพ้อพบทำให้เขาถึงกลับอดกลั้นความเจ็บปวดนี้ไม่ไหว สองมือโอบประคองร่างกายอุ่นในห่อผ้าขึ้นมาแล้วโย้ร่างกายที่กระตุกวูบเพราะความฝันไปมาให้ผ่อนคลาย"เฮียอยู่ตรงนี้แล้วครับ เนียได้ยินไหม ถ้าได้ยินตามเสียงเฮียมานะ" เสียงกระซิบอุ่นที่รดคลอเคลียข้างใบหูปลุกเรียกให้ดาเนียตื่นจากฝันร้าย เปลือกตาหนักอึ้งปรือมองและเห็นดวงหน้าของเฮียแซ็คกำลังจดจ้องมองลงมา ไม่รู้ว่าเป็นภาพความฝันหรือความจริง แต่มือของเธออยากจะเอื้อมไปจับใบหน้าของเขา อยากสัมผัสเขาอีกสักครั้ง"เฮียแซ็คเหรอคะ" มือที่ใหญ่กว่าประคองมือเล็กขึ้นมานาบแก้มของตน ทันใดที่ถูกสัมผัสของเขาดวงตากลมก็เบิกโพลงด้วยความตกใจ เพราะนี่มันไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดไปเอง ไม่ใช่ความฝัน แต่คือความจริง"ทำไมตกใจเหรอ หืม....พูดหน่อยสิครับ" น้ำเสียงที่เขาใช้คุยกับเธอเปลี่ยนไป มันทั้งนุ่มนวลและอ่อนโยนอย่างน่าประหลาด แล้วเขายังเอาแต่ระดมจูบมือของเธอไ
ริมฝีปากกระจับยอมละออกอย่างเสียดายเพราะลมหายใจของดาเนียเริ่มติดขัด เสียงลมหายใจพ่นเข้าออกจนทำให้ทรวงอกในห่อผ้าขนหนูผืนสีขาวตัวสั้นยุบย่อเพื่อสูดเอาออกซิเจนเข้าไป "จะฆ่าเนียเหรอคะ" ดวงหน้าที่มีแต่รอยขีดข่วนเอ็ดเสียงใส เด็กนี่คิดว่าจูบจะทำให้ตายหรือไงกัน"มีใครเขาจูบกันแล้วตายบ้าง เด็กน้อยจริง ๆ " สุริยะส่ายหน้าหลุดยิ้มกับท่าทางติงต๊องของดาเนีย"ก็จูบกับเฮียแซ็คนั่นแหละ" นัยน์ตาหวานคมตวัดมาแล้วกดตัวของดาเนียให้นอนลง "จะ..จะทำอะไรคะ" มือยันแผงอกในเชิ้ตขาวไม่ให้ก้มลงมาประชิดกับอกของเธอ "จูบกับเฮียมีแต่จะคราง" ดาเนียผงะสายตาเลิ่กลั่ก "ไม่คราง" เธอเถียงกลับ เธอจะไม่ยอมครางเหมือนผู้หญิงพวกนั้นของเขาเด็ดขาด คิดทีไรก็โมโหและหัวร้อนไปหมด"ได้เดี๋ยวเฮียจะทำให้ครางดัง ๆ เลย" สิ้นเสียงผ้าขนหนผืนสั้นก็ถูกกระตุกออก ริมฝีปากดุระดมจูบไปทั่วผิวกายไล่ตั้งแต่ลำคอและเลื้อยต่ำลงมา"หยุดนะคะ.....อย่า" ที่เธอร้องอ้อนวอนเขาเพราะไม่อยากให้เขาเห็นบาดแผลที่ขาของเธอต่างหาก แผลนูนคีลอยด์นั่นที่โดนไม้ที่มีประตูฝังตีลงมาซ้ำ ๆ และครูดกับขาของเธอจนเกิดแผลฉกรรจ์ใหญ่ที่เกือบทำให้เธอเป็นบาดทะยักตายในวัยสิบเจ็ดปีสุร
ตอนนี้กลายเป็นว่าสุริยะตัวติดกับดาเนียไม่ยอมห่าง กลางวันก็หอบงานมาเฝ้าเธอที่อพาร์ทเม้นต์ จากที่เคยกินนอนอยู่ที่สุสานของแฟนเก่าที่เสียชีวิตไป แต่ ณ เวลานี้กลับเอาแต่จดจ้องน้องสาวของเพื่อนซี้จนตาแทบจะเป็นตะคริวนัยน์ตาหวานคมกริบกระพริบมองหญิงสาวที่อยู่ชุดเอี๊ยมกางเกงและสวมเสื้อครอปคอเต่าแขนกุดสีขาวครึ่งตัวไว้ข้างใน ขณะที่ดาเนียกำลังนั่งสเก็ตแบบเสื้อผ้าที่ห้องรับแขกอย่างตั้งอกตั้งใจ พอเธอชำเลืองมองดูเขา ชายหนุ่มที่เคยวางมาดหยิ่งผยองก็ตวัดมองไปทางอื่นอย่างไม่รู้ไม่ชี้ดาเนียหัวเราะคิกคักที่เธอทำให้คนตัวโตที่เคยพูดจาร้าย ๆ และทำตัวแย่ ๆ เปลี่ยนไปเป็นสุริยะฟรุ้งฟริ้งที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู เฮียแซ็คหนอเฮียแซ็คจะรู้บ้างไหมว่าเวลาที่เขาทำสายตาเลิ่กลั่งลุกลนเพราะถูกเธอจับได้ว่าเขากำลังแอบมองเธออยู่มันช่างเป็นภาพที่โคตรน่ารักและทำให้ใจทั้งสี่ห้องของเธอเปี่ยมด้วยพลังงานบวกสาวในชุดเอี๊ยมยีนส์เดินล้วงกระเป๋าเหมือนสาวห้าวเข้ามาหาคนที่พยายามก้มหน้าก้มตากลบเกลื่อนอย่างไม่เนียน"ไม่ทำงานทำการเหรอคะ แล้วเลขาร่านสวาทของเฮียล่ะ ไปอยู่ไหนซะแล้ว เนียอยากจะเจอสักหน่อย""อยากเจอทำไม" ทำทีเป็นถามแต่ไม่สบตา เพรา
ห้องพิสูจน์อักษร ภายในห้องดำมืดที่มีเถาวัลย์เลื้อยยื่นเข้ามาจนเต็มผนังกำแพง กลางห้องที่มีแสงส่องรำไรมีเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่สี่ตัว ไม่นานนักใครบางคนก็ถูกพาเข้ามา ซึ่งเป็นเสียงของผู้หญิงกลุ่มนึงที่ร้องโวยวายกึกก้องไปทั่วร้านหนังสือใต้ดินอันเงียบสงัดแห่งนี้ กระทั่งชายชุดดำลูกน้องเฮียแซ็คลากคอสาวสี่คนที่เธอคุ้นหน้าคร่าตาเป็นอย่างดีมานั่งบนเก้าอี้ไม้ ยัยกลุ่มจอมบูลลี่อริเก่าก็ชะงักงันในทันทีเมื่อเห็นเธอยืนอยู่เคียงข้างเฮียแซ็ค"แก๊! นังดาเนีย! ฝีมือแกเองเหรอ นังสวะ!....เผียะ!" หลังฝ่ามือของสุริยะฟาดจนใบหน้าของแยม หัวโจกตัวร้ายสะบัดหน้าหันไปอีกทาง หญิงสาวจอมกร่างค้อนดวงตากลับไปหามือตบร่างสูงโปร่ง แล้วแสยะยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว"ถ้ามึงยังพูดกับคนของกูแบบนั้นอีกรอบ คราวนี้มึงจะได้กินนี่เป็นอาหารค่ำ!" ใบหน้าที่ดุดันควักกระบอกปืนสีเงินออกมาแล้วกดแนบลงไปที่ขมับเพื่อข่มขู่ แต่ดูเหมือนว่าแยมจะไม่รู้สึกรู้สาหรือหวั่นใจ"ที่แท้แกมันก็เล่นหมาหมู่เหมือนกันนี่วะ นังเนีย!"หมับ! ปลายคางของแยมถูกมือใหญ่บีบจนแน่น "กูบอกให้หุบปาก!" สุริยะตวาดลงมาเสียงดัง"ไหนวะคนรังแกน้องกู" จู่ ๆ เสียงของพี่เรนก็ดังแล่บเข้า
ร้านอาหารหรูที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยานับเป็นสถานที่โรแมนติกที่ทำให้ดวงหน้าคมคายสามารถสำรวจมองรอยยิ้มสดใสที่กำลังตักของอร่อยใส่ปากได้อย่างเพลิดเพลินใจ เพียงแค่ได้มองดวงหน้าเฉี่ยวที่หวานอมเปรี้ยวของดาเนียเขาก็รู้สึกเหมือนถูกเธอหลอมละลายไว้ สุริยะจินตนาการไปถึงตอนที่ได้ไปอยู่ในตัวของเด็กสาว วินาทีที่เป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายกับเธอ หูของเขาทั้งสองข้างก็แดงก่ำขึ้นมา จนคนที่กำลังกินน้ำแข็งใสอยู่นั้นถึงต้องหรี่ตามอง"เฮียแซ็คป่วยหรือเปล่าคะ" มือที่เย็นวาบของดาเนียเอื้อมมาจับหูของสุริยะ เขาสะดุ้งเฮือกเพราะหูนับว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดของเขา"เอ่อ..คงงั้นมั้ง" เขารีบตะปกหูสองข้างของตนเอง แล้วถูไปมาจนแดงกว่าเดิมจังหวะที่ทั้งสองกำลังจะขึ้นรถมีชายสวมโม่งดำชุดดำถือดาบซามูไรเดินตรงเข้ามา"ระวังเนีย!" สุริยะที่หูตาไวรีบผลักดาเนียกระเด็นออกไปอย่างเร็วพลั่ก! ดาเนียล้มลงไปเฟี้ยบ!ดาบซามูไรด้ามยาวถูกฟันลงมาที่กลางอกของเขาร่างสูงทรุดนั่งชันเข่ากับพื้นไว้หนึ่งข้าง"เฮ้ย!" ศิวดลกับอรุณฉายควักกระบอกปืนเล็งไปยังชายนิรนาม มันผงะครู่หนึ่งแล้วกระโดดขึ้นไปยังรถเก๋งติดฟิลม์ที่แล่นมารับแล้วทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว"เ
คนในอ้อมกอดยังคงปล่อยหมัดรัวมาที่อกจนรู้สึกว่าเจ็บจนทนจูบต่อไปไม่ไหวเขาถึงได้ผละออกแล้วทรุดลงไปกับพื้น เขาไม่ร้องสักแอะแต่ทำหน้าเจ็บปวดรวดร้าวจนคนที่เผลอลงมือฟาดกำปั้นลงไปถึงกับได้สติ"เฮียแซ็คเนียขอโทษค่ะ...เจ็บมากไหม เนียขอโทษนะคะ" ดาเนียทรุดลงนั่งมือน้อยจับไปตามเนื้อตามตัวของเขาจนมั่วด้วยความตกใจ "เลือดออก...ฮึกเนียไม่ได้ตั้งใจ" จู่ ๆ เธอก็หลุดสะอื้นออกมาจนได้"ไม่เป็นไร...โอ๊ย" หน้าคมเหยเกขณะพยายามหยัดกายขึ้นจากพื้น หญิงสาวจึงคว้าแขนของเขามาพาดกับบ่าเล็กแล้วช่วยพยุงให้เขาลุกขึ้นมา สุริยะยิ้มกริ่มที่เห็นว่าดาเนียเป็นห่วงตน"นั่งตรงนี้ก่อนนะคะ หิวน้ำหรือหิวอะไรไหมเนียจะไปหามาให้""หิวเนีย!" เขาย้ำสีหน้าราบเรียบแล้วตวัดนัยน์ตาเอาจริงส่งให้ ดาเนียชะงัก"อะไรกันคะ เนียไม่ใช่ของที่กินได้ซะหน่อย เอาของที่กินได้สิคะ""รู้ได้ไงว่ากินไม่ได้ เคยลองเป็นของกินให้เฮียชิมหรือยัง""เนียไม่คุยกับเฮียแซ็คแล้ว....คนอะไรกวนติงชิป" บ่นอุบอิบแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปเพื่อโทรหาอรุณฉายให้เขาหาของกินมาให้เธอกับเฮียแซ็คเพราะดูแล้วในบ้านของผู้ชายดิบเถื่อนคนนี้จะมีแค่น้ำเปล่าเท่านั้น และก็เป็นอย่างที่เธอคา
เสื้อเชิ้ตสีดำตัวโคร่งในร่างกายของเฮียแซ็คที่อยู่บนตัวเธอทำให้ดาเนียดูตัวเล็กกว่าเดิม แต่กระนั้นกลับดูเซ็กซี่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า แม้จะเห็นรอยแผลเป็นคีลอยด์นูนที่ข้างขาขาวอมชมพู สุริยะเดินลงมาจากชั้นบนแล้วส่งแก้วนมอุ่น ๆ ที่อรุณฉายเป็นคนจัดหามาให้ตามคำสั่งของดาเนีย"ขอบคุณค่ะ" เธอรับมาแล้วจิบอย่างเร่งรีบ"ค่อย ๆ กินเดี๋ยวก็สำลักหรอก" เขาเอ็ดหน้าบึ้ง ทว่านมในแก้วก็กรอกลงคอจดหมดเกลี้ยงก่อนที่เขาจะทักท้วงเสียอีกขอบปากอิ่มที่เลอะเปื้อนนมสีขาวทำให้สุริยะถึงกับหลุดหัวเราะ แล้วจัดการตรึงใบหน้าของคนมูมมามกินเลอะเทอะเข้าไปหาบรรจงหยิบกระดาษทิชชู่ที่หัวเตียงมาเช็ดให้จนสะอาด"ขอโทษนะคะที่เนียกินเละเทะอยู่เรื่อย" เธอว่าแล้วรีบวางแก้วลงบนเคาน์เตอร์ทรงสูงที่ตั้งติดริมผนังปูนเปลือย หลังจากนี้เธอจะเอายังไงดีนะ จะเดินไปบอกเขาว่าเธอพร้อมแล้วดีไหม หรือว่าเกริ่นเรื่องอะไรก่อนดีถึงจะดูไม่น่าเกลียด"นี่ก็สามทุ่มแล้ว ถ้าง่วงเนียนอนก่อนได้เลยนะ เฮียมีงานที่ต้องตรวจนิดหน่อย" เขาบอกและเตรียมเดินจากไป แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเธอกลับรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดเข้าไว้อย่างเร็ว"สะ...สามทุ่มเองค่ะคือ คือว่าเฮียยังไม่ได้ก
ดวงหน้าคมก้มต่ำสำรวจมองความงดงามภายในของดาเนีย หางตาของเขาชำเลืองไปยังบาดแผลนูนข้างขาแล้วกดพลิกมาเพื่อจุมพิตรอยแผลของดาเนีย "อ๊ะ...." เขายังทำหน้าเหยเกเจ็บปวดยามที่ขยับอกของตนจนคนที่ถูกปรนเปรอถึงกับต้องรีบหยัดกายขึ้นมา"มานี่ก่อนค่ะ" ดาเนียดันตัวของเขาให้พิงกับผนังเตียง แล้วเห็นว่าเลือดไหลซึมออมาจากผ้าก็อต เฮียแซ็คคนตะกละอยากกินเธอขนาดยอมให้แผลฉีกหนักกว่าเดิมเลยเหรอไง"อยากให้เฮียหยุดเหรอ....ซี๊ด!" ดาเนียจิ้มนิ้วลงมาบนอกนิดหน่อยเขาก็ร้องซี๊ดซ้าดซะแล้ว"เปล่าค่ะ แต่เฮียเจ็บอยู่นะ ถ้าหายดีเมื่อไหร่จะให้เฮียกินร่างกายนี้ให้หนำใจเลย" ดาเนียพิงหัวลงกับไหล่หนา ใบหน้าซีดของสุริยะเอี้ยวมอง เชยคางเล็กขึ้นมาแล้วจรดริมฝีปากของตนลงไป ตอนนี้เหมือนกับว่าเขาทำได้แค่จูบเธอเท่านั้น เพราะขยับตัวไปทางไหนก็ปวดระบมไปหมด"เฮียทนเจ็บได้ แต่เฮียจะไม่ยอมปล่อยให้ท้องหิวเด็ดขาด" เขาทำหน้าอ้อนวอนเหมือนลูกแมวตัวโต"งั้น!" ดาเนียลุกขึ้นนั่งคร่อมลงบนหน้าขาของเขา "มาเนียจะทำเอง"เบิกตากว้างไม่อยากเชื่อว่าเด็กคนนี้จะขอเป็นฝ่ายรุกแถมรุกไร้เดียงสาซะด้วย แม่งน่ารักฉิบหายเลย"อ๊ะ...." มืออุ่นกอบกุมอกตูมของเธอแล้วส่งนิ้ว
เพราะเห็นว่าเจ้าของบ้านหายออกไปช้อปปิ้งที่ตลาดหลายชั่วโมงแล้ว ดาเนียจึงได้ฝากให้บอดี้การ์ดที่บ้านของสุริยะคอยดูแลเจ้าสุรีย์แล้วรีบออกไปทำธุระที่ร้านเสื้อผ้าของตน แต่พอไปถึงก็เกิดเรื่องขึ้นพอดีพนักงานสองคนในร้านนั่งก้มหน้าไม่ยอมให้เจ้านายอย่างเธอสำรวจใบหน้า แต่บาดแผลที่ปรากฏอยู่นั้นทั้งรอยข่วน รอยตบก็ยังคงเด่นชัดตำตาจนไม่อาจปิดบัง"เกิดอะไรขึ้นซัน เอ๋ย ใครทำร้ายพวกคุณสองคน" ดาเนียทรุดตัวลงนั่งแล้วเชยปลายคางของลูกน้องสาวทั้งสองคนจับพลิกไปมาด้วยความเป็นห่วง"จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนนึงบุกมา เอาลูกน้องผู้ชายสองคนจับตัวพวกเราไว้จนขยับไม่ได้แล้วก็ทั้งข่วนทั้งตบพวกเราไม่หยุดเลยค่ะ" ซันบอกแล้วทำหน้าเหยเกจับริมฝีปากของตน"หน้าตาผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงคะ" ดาเนียเค้นเอาคำตอบเพราะเธอเดาได้ในแว่บแรกว่าผู้หญิงที่ว่าก็คืออริเก่าของเธอ หัวโจกที่เคยรังแกเธอไม่ยอมเลิกรา ชอบเอาชนะและไม่ชอบความพ่ายแพ้"คุณเนียลองดูกล้องวงจรปิดดูสิคะ" เอ๋ยเสริมขึ้นแล้วลุกขึ้นพาดาเนียไปดูคลิปกล้องวงจรปิดที่เธอเซฟเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ภาพเคลื่อนไหวภายในกล้องวงจรปิดทำให้ดาเนียเห็นผู้หญิงคนดังกล่าวที่เดินเข้ามาทำร้ายพนักงานของเธอได้
ในห้องทำงานชั้นบนสุดสุริยะยังคงจดจ่ออยู่กับกองเอกสารของบริษัทค้าอาวุธที่ก่อตั้งอยู่ในต่างประเทศของตน ใบหน้าของสุริยะแน่นิ่งไม่ไหวติงกับสิ่งเร้าภายนอกแต่อย่างใด แต่เมื่อเขายอมลุกจากเก้าอี้และชะโงกหน้าออกไปดูที่หน้าต่างตอนแรกเขากะว่าจะทำนั่งทำงานหลังขดหลังแข็งอยู่ในห้องจนกว่าจะลืมเรื่องที่แม่มาหาเขาเมื่อวาน แต่พอเห็นดาเนียที่กำลังส่งเสียงหัวเราะร่วนอยู่ที่สวนหลังบ้าน หัวใจของเขามันก็เต้นไม่เป็นส่ำทุกที ดวงหน้าที่ยิ้มแย้มขณะกำลังเล่นกับไอ้ตัวอ้วนพุงกองสวมขนสิงโตหน้าตาพิลึก ทำให้เขาเผลขำออกมาโดยไม่รู้ตัว"นี่ค่ะพ่อบ้านดล คุณอรุณ เนียไปหัดทำมาเองเลยนะคะ" คุกกี้รูปช็อกโกแลตรูปกระดูกหมาถูกส่งให้ชายทั้งสอง พวกเขาหยิบคุกกี้คนละชิ้นอย่างไม่แน่ใจนัก เพราะดูยังไงก็เหมือนขนมหมามากกว่าคุกกี้"ฮึ่ม...อร่อยครับไม่หวานมาก พ่อบ้านดลเคี้ยวแก้มตุ่ย อรุณฉายจึงรีบโยนใส่ปากทันทีเมื่อรู้ว่าขนมหน้าตาประหลาดนี้อร่อย"ว่าแต่คุณเนียไอ้เจ้านี่มันจะทำให้คุณแซ็คมีความสุขได้จริงเหรอครับ" อรุณฉายชี้ไปยังเจ้าลูกหมาลาบราดอร์สีดำที่สวมหัวสิงโตขนปุยจากการตัดเย็บด้วยฝีมือของเธอ ดาเนียยิ้มกว้างแล้วอุ้มเจ้าลูกหมาวัย 2 เดื
At Dania X Studioงานเปิดตัวสตูดิโอของดาเนียนั้นเต็มด้วยแขกทางฝั่งของพ่อและฝั่งพี่เรนและเพื่อนคนไทยคนเดียวที่มีบ้านเกิดที่นอร์เวย์อย่างยัยเหมียว และนับว่าเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เข้ากับคนไม่คบค้าสมาคมหรือเข้าสังคมเท่าไหร่นักได้เป็นอย่างดี เพราะเธอค่อนข้างหวาดระแวงกับความสัมพันธ์จากการถูกเพื่อนรังแกจนเป็นแผลเป็นไม่หาย ไม่ว่ากี่เดือนกี่ปีเธอก็ยังกลัวและจิตตกกับการคบเพื่อนกลุ่มก้อนใหญ่ที่เต็มด้วยเหล่าผู้คนที่สวมหน้ากาก ถึงจะมีเพื่อน ๆ ดีอยู่บ้างรายล้อมตัวเธอ แต่ก็เป็นส่วนน้อยที่เพื่อนที่แสนดีเหล่านั้นจะกล้าคบหากับลูกสาวเจ้าพ่ออย่างเธอทว่ายัยเหมียวเพื่อนคนนี้กลับกล้าที่จะคบหาเธออย่างจริงจัง แถมยังเป็นคนที่โคตรประชดชีวิตได้เก่งจนเธอแทบอึ้ง กับการที่เพื่อนรักทะเลาะกับครอบครัวจนหายไปบวชชีที่พุทธคยาเป็นปี ๆ และหลังจากที่เพื่อนสนิทสึกออกมาก็กลายเป็นคนน้ำนิ่งไหลลึก ใจเย็นลงแต่ดันยึดปณิธานว่าตนเองนั้นจะไม่ขอแต่งงานและอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต แต่เธอก็ไม่ได้ถามว่ายัยเหมียวไปเจอเรื่องสะเทือนใจอะไรมาเพราะก่อนหน้านี้ก็ยังมีแฟนแล้วควงกันไปเช็คอินตรงนั้นตรงนี้อยู่บ่อยครั้งอยู่เลย"ไอ้เนียแกเก่งมากเ
"ยาเฮียแซ็คอยู่ไหนคะ กินยาก่อนแล้วเนียจะปรนนิบัตเฮียเอง""ละ...ลิ้นชัก" เขาพูดตะกุกตะกัก หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ พอตัวว่าจะโดนเด็กรุก คนแก่กว่าอย่างเขาก็ร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาแปลก ๆดาเนียลุกขึ้นเดินไปหยิบยาที่หมอเอลวินจัดไว้ให้ในลิ้นชัก แล้วหยิบน้ำหยิบท่าส่งให้สุริยะกินก่อนที่เขาต้องเสียเหงื่ออย่างหนัก พอเขากลืนน้ำกับยาลงคอได้ไม่ทันไร แก้วในมือก็ถูกมือของดาเนียชิงไปดื่มต่อ"ฮ่า...ชื่นใจ" ก้นงอนเด้งเอาแก้วน้ำไปวางไว้ที่เคาน์เตอร์แล้วเดินกลับมาหาหลุบตามองกางเกงแสลคดำที่ยังสวมเกาะเกี่ยวเอวสอบอยู่เหมือนเดิม"ให้เนียถอดให้ไหมคะ เนียจะหัดเรียนรู้ไว้ค่ะ" มือน้อยคว้าหมับลงมาที่กลางเป้าแล้วรูดซิปลงไป หัวใจของเขาก็ยิ่งสูบฉีดเลือดรุนแรงมากขึ้น ความรู้สึกตอนนี้คล้ายกับว่าเขากำลังจะเป็นลมเพราะความดุดันของดาเนีย กางเกงเปียกถูกเกี่ยวพ้นปลายขาแน่นกำยำ จนเหลือปรากาด่านสุดท้าย ดาเนียกลืนน้ำลายแล้วจ้องตาของเจ้าของอาวุธสงคราม"เนีย...เดี๋ยวอันนี้เฮียถอดเองดีกว่า....อ้ะ!" คัดค้านไม่ทันจบยัยตัวแสบก็รูดเกี่ยวกางเกงในสีดำของเขาออกไปซะแล้ว"ฮื่อ..." ผงะเล็กน้อยเมื่อเฮียแซ็คอีกคนชูคอตั้งขึ้นมา สูดหายใจลึก ๆ แล้วก้า
ซ่า!!!เสียงอาบน้ำที่ห้องนอนชั้นใต้ดินดังขึ้นมาขณะที่สองขาของเจ้าของบ้านกำลังเดินลงจากขั้นบันได คนที่อาบน้ำอยู่ในห้องน้ำกระจกปราศจากสิ่งใดปกปิดไม่รู้ตัวเลยว่าร่างกายสูงเคล้ากลิ่นเหล้ากำลังยืนดูเธออยู่อย่างเงียบ ๆนัยน์ตาคมกวาดมองใบหน้าที่หลับพริ้มอยู่ใต้ฝักบัว เคลิบเคลิ้มกับสายน้ำอุ่นที่รินรดลงมาชุ่มผิวกาย เส้นผมสลวยที่ยาวถึงกลางหลังเปียกชุ่มคลุมแผ่ไปทั่วขับขานให้ความสวยสะกดบนดวงหน้ายิ่งงามดั่งคาริทีส ไตรเทพีตามตำนานเทพเจ้ากรีกผิวนวลเนียนละเอียดอมชมพูเหมือนกับผลของลูกพีชทำให้เขาอยากจะกัดให้จมเขี้ยวหายไปสักครั้ง ช่วงบั้นเอวคอดนั้นก็ผายรับกับสะโพกผายและก้นงอนราวกับทรวดทรงของนาฬิกาทราย ถึงแม้ช่วงขาด้านข้างจะมีรอยแผลเป็นนูนขนาดใหญ่แต่ความสง่างามท่ามกลางสายน้ำนี้ก็ไม่ลดน้อยลงไปด้วย มันกลับยิ่งสวยจนหาจุดสิ้นสุดของความงดงามนี้ไม่ได้เขาช่างเป็นผู้ชายที่โคตรโชคดีที่พระเจ้าได้ส่งมอบของบรรณาการที่แสนพิเศษชิ้นนี้มาให้ หากย้อนกลับไปได้เขาจะไม่ปฏิเสธเธอ เขาจะไม่ปล่อยเวลาสามปีนั้นให้ล่วงเลยผ่านมาแบบนี้กรี๊ด!!!เสียงร้องของดาเนียดังขึ้นเพราะงูเขียวหล่นมาจากต้นไม้ เนื่องจากห้องน้ำกระจกนี้ดันยื่นออก
ทีมงาน Dania X studio กำลังช่วยกันเตรียมสถานที่เพื่อรอต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและเพื่อน ๆ ที่จะมาร่วมงานเปิดตัวสตูดิโอของเธอ หญิงสาวผู้มีใจรักงานดีไซน์และออกแบบเสื้อผ้า ตั้งใจให้ธุรกิจในฝันของเธอสร้างความประทับใจและประสบความสำเร็จ ดาเนียใช้เวลาจัดแจงโซนต่าง ๆ ในร้าน ห้องลองเสื้อ เคาน์เตอร์ และเสื้อผ้าผู้หญิงคอลเล็กชั่น ' My Apollo' คอลเล็กชั่นแรกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเฮียแซ็ค ซึ่งเธอใช้เวลาสร้างสรรค์ผลงานนี้มาตลอดสามปีที่เธอไปอยู่นิวยอร์กตัวคนเดียวถึงแม้ทุกคนอาจจะมองเห็นเขาเป็น Bad Apollo แต่สำหรับเธอ เขาคือ เทพอพอลโล่ที่สาดแสงส่องสว่างสู่ภายในใจ เขาคือเทพดวงอาทิตย์ที่โอบกอดหัวใจของเธอไว้ไม่ให้อ้างว้างแม้ก่อนหน้านี้เขาจะแสดงออกทุกวิถีทางว่าไม่มีวันจะรักคนอย่างเธอ แต่เธอก็ไม่เคยนึกเสียใจ เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้แสดงออกกับเขาไปแล้วว่า ทั้งหัวใจของดาเนียมีเพียงเฮียแซ็คแค่คนเดียว หลังจากที่ช่วยทีมงานจนเกือบเย็นเพื่อเตรียมการเปิดร้านในอีกสองวันข้างหน้า ขณะที่นั่งรอว่าที่สามีหมาด ๆ ของเธอมารับ ชายหนุ่มนิรนามก็เดินแวะเข้ามาในร้านที่กำลังชุลมุนไปด้วยผู้คน"ไม่ทราบว่าคุณดาเนียอยู่ไหนเหรอครับ"อ
ใบหน้าดุดันของโทนธรรมพ่อสายโหดของดาเนียกำลังจดจ้องดวงหน้าคมแข็งกร้าวของสุริยะกลับไป ดาเนียที่กำลังรินน้ำชาให้ทั้งสองคนนั้นหันซ้ายหันขวามองหน้าของชายทั้งสองที่กำลังลอบปะทะด้วยสายตาท่ามกลางความเงียบงัน ชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมใคร เพราะเอาแต่มองพวกเขาทำให้ปั้นชาในมือที่ควรจะรินลงถ้วย เผลอรินลดมือตัวเองแทน"โอ๊ย...ซี๊ด!"เนีย!!!!พวกเขาโพล่งเรียกชื่อเธอพร้อมกันแล้วพุ่งเข้ามาจับมือเธอคนละข้างแล้วก้มดูหลังมือที่เห่อแดง"ระวังหน่อยสิลูก" โทนธรรมบอกแล้วหยิบยาหม่องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะส่งให้กับสุริะยะ "เอ้าทาให้น้องสิเจ้าแซ็ค"ในที่สุดพ่อก็ยอมเปิดปากคุยสักที เห็นลีลาอยู่นานสองนานถ้ากาน้ำชาไม่หกราดรดมือเธอป่านนี้พวกเขาก็ยังคงจ้องกันไปเรื่อย ๆ จนตาเป็นตะคริวแน่"ครับคุณลุง"เฮียแซ็คหยิบมือของเธอไปแล้วผ่นลมหายใจออกมารดเป่าที่หลังมือของเธออย่างอ่อนโยน ค่อย ๆ บรรจงทายาหม่องลงมาอย่างแผ่วเบา"ขอบคุณค่ะ""เนียไปนั่งข้างแซ็ค" ดาเนียถลึงตาส่งให้พ่อ แต่ถึงพ่อจะไม่บอกเธอก็อยากไปนั่งข้างว่าที่สามีมากกว่าพ่ออยู่ดีนั่นแหละพอเธอนั่งได้ไม่ทันไหร่พ่อก็หยิบโทรศัทพ์ขึ้นมาทำท่าจะถ่ายรูปเธอกับเฮียแซ็คแถมยังยิ้มน้อยยิ้มให
ดวงหน้าคมก้มต่ำสำรวจมองความงดงามภายในของดาเนีย หางตาของเขาชำเลืองไปยังบาดแผลนูนข้างขาแล้วกดพลิกมาเพื่อจุมพิตรอยแผลของดาเนีย "อ๊ะ...." เขายังทำหน้าเหยเกเจ็บปวดยามที่ขยับอกของตนจนคนที่ถูกปรนเปรอถึงกับต้องรีบหยัดกายขึ้นมา"มานี่ก่อนค่ะ" ดาเนียดันตัวของเขาให้พิงกับผนังเตียง แล้วเห็นว่าเลือดไหลซึมออมาจากผ้าก็อต เฮียแซ็คคนตะกละอยากกินเธอขนาดยอมให้แผลฉีกหนักกว่าเดิมเลยเหรอไง"อยากให้เฮียหยุดเหรอ....ซี๊ด!" ดาเนียจิ้มนิ้วลงมาบนอกนิดหน่อยเขาก็ร้องซี๊ดซ้าดซะแล้ว"เปล่าค่ะ แต่เฮียเจ็บอยู่นะ ถ้าหายดีเมื่อไหร่จะให้เฮียกินร่างกายนี้ให้หนำใจเลย" ดาเนียพิงหัวลงกับไหล่หนา ใบหน้าซีดของสุริยะเอี้ยวมอง เชยคางเล็กขึ้นมาแล้วจรดริมฝีปากของตนลงไป ตอนนี้เหมือนกับว่าเขาทำได้แค่จูบเธอเท่านั้น เพราะขยับตัวไปทางไหนก็ปวดระบมไปหมด"เฮียทนเจ็บได้ แต่เฮียจะไม่ยอมปล่อยให้ท้องหิวเด็ดขาด" เขาทำหน้าอ้อนวอนเหมือนลูกแมวตัวโต"งั้น!" ดาเนียลุกขึ้นนั่งคร่อมลงบนหน้าขาของเขา "มาเนียจะทำเอง"เบิกตากว้างไม่อยากเชื่อว่าเด็กคนนี้จะขอเป็นฝ่ายรุกแถมรุกไร้เดียงสาซะด้วย แม่งน่ารักฉิบหายเลย"อ๊ะ...." มืออุ่นกอบกุมอกตูมของเธอแล้วส่งนิ้ว
เสื้อเชิ้ตสีดำตัวโคร่งในร่างกายของเฮียแซ็คที่อยู่บนตัวเธอทำให้ดาเนียดูตัวเล็กกว่าเดิม แต่กระนั้นกลับดูเซ็กซี่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า แม้จะเห็นรอยแผลเป็นคีลอยด์นูนที่ข้างขาขาวอมชมพู สุริยะเดินลงมาจากชั้นบนแล้วส่งแก้วนมอุ่น ๆ ที่อรุณฉายเป็นคนจัดหามาให้ตามคำสั่งของดาเนีย"ขอบคุณค่ะ" เธอรับมาแล้วจิบอย่างเร่งรีบ"ค่อย ๆ กินเดี๋ยวก็สำลักหรอก" เขาเอ็ดหน้าบึ้ง ทว่านมในแก้วก็กรอกลงคอจดหมดเกลี้ยงก่อนที่เขาจะทักท้วงเสียอีกขอบปากอิ่มที่เลอะเปื้อนนมสีขาวทำให้สุริยะถึงกับหลุดหัวเราะ แล้วจัดการตรึงใบหน้าของคนมูมมามกินเลอะเทอะเข้าไปหาบรรจงหยิบกระดาษทิชชู่ที่หัวเตียงมาเช็ดให้จนสะอาด"ขอโทษนะคะที่เนียกินเละเทะอยู่เรื่อย" เธอว่าแล้วรีบวางแก้วลงบนเคาน์เตอร์ทรงสูงที่ตั้งติดริมผนังปูนเปลือย หลังจากนี้เธอจะเอายังไงดีนะ จะเดินไปบอกเขาว่าเธอพร้อมแล้วดีไหม หรือว่าเกริ่นเรื่องอะไรก่อนดีถึงจะดูไม่น่าเกลียด"นี่ก็สามทุ่มแล้ว ถ้าง่วงเนียนอนก่อนได้เลยนะ เฮียมีงานที่ต้องตรวจนิดหน่อย" เขาบอกและเตรียมเดินจากไป แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเธอกลับรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดเข้าไว้อย่างเร็ว"สะ...สามทุ่มเองค่ะคือ คือว่าเฮียยังไม่ได้ก