หลังจากเหตุการณ์อื้อฉาวนั้น โรเจอร์ก็พาแม่ของเขากลับบ้าน พร้อมย้ำเตือนเด็บบราห์ว่าพวกเขาจะต้องคุยกันเรื่องนี้อย่างจริงจังคืนนั้น“ขอบใจมากนะลูก” เมื่อพวกเขามาถึงที่รถ แม่ของเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “แต่ลูกรู้ได้ยังไง?”“ฟาเบียนได้รับสายจากเพื่อนตำรวจน่ะสิครับ เพื่อนของเขาบอกว่า มีเจ้าหน้าที่สองคนกำลังไปที่บ้านของผม” เขาอธิบายขณะพยุงแม่ขึ้นรถ “นั่นแหละครับ ผมถึงออกจากที่ทำงานเร็ว ผมเองก็อยากจะรู้ว่ายัยนั่นทำอะไรลงไป แต่ผมไม่คิดว่าไอ้เจย์เดนนั่นพยายามจะจับแม่เข้าคุก”“อ่อ แม่ขอโทษนะลูกรัก แม่ก็แค่โกรธเพราะรอนานแล้ว เพราะแม่ไม่คิดว่านังนั่นจะออกไปข้างนอก”“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอออกไปข้างนอกมา แต่มันจบแล้วครับคุณแม่ คืนนี้ผมจะต่อว่าเธอที่เธอไร้ความรับผิดชอบและทำให้แม่ต้องทนรออยู่ข้างนอกนาน ๆ”“ใช่แล้วลูกแม่ ลงโทษมันให้หลาบจำไปเลย”ฟาเบียนฟังการสนทนาอยู่เงียบ ๆ เขารู้สึกกระอักกระอ่วนกับท่าทีของพวกเขาที่มีต่อเด็บบราห์ แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไร เพราะครอบครัวของเขาไม่ได้ร่ำรวยและมีอิทธิพลเหมือนกับตระกูลปีเตอร์สันหลังจากที่เหลือเธอเพียงลำพังอยู่ภายในอะพาร์ตเมนต์ เด็บบราห์ก็ปล่อยให
คู่รักทั้งสองไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังมีใครบางคนเฝ้าดูพวกเขาอยู่ เขาได้บันทึกบทสนทนาและถ่ายภาพพวกเขาเอาไว้ เมื่อได้หลักฐานมากเพียงพอแล้ว ใครคนนั้นก็โทรกลับไปรายงานหัวหน้าของเขาทันที “เยี่ยม กลับมาที่ทำงานดี ๆ ล่ะ” หัวหน้ากล่าวก่อนวางสาย ชายหนุ่มที่กำลังเดือดดาลผู้นั้นมีดวงตาสีไพลินและมีผมสีดำเข้ม“ในฐานะทนาย นับว่าข่าวดีมาก ๆ เลยเนี้ย พอได้หลักฐานชิ้นนี้มา เราจะต้องคณะคดีแน่นอนเลย” เพื่อนร่วมงานผมสีแดงกล่าว “ชื่อเสียงของนายจะต้องโด่งดังขึ้นเพราะคดีนี้แน่ ๆ”“ฉันไม่ได้ทำเพื่อชื่อเสียงของตัวเอง เธอเป็นเพื่อนภรรยาฉัน ถ้าเธอไม่ได้รับความยุติธรรม ฉันก็ยินดีที่จะช่วยเพราะเธอไม่สมควรได้รับการปฏิบัติแบบนั้น” เขาพูดพลางหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาใส่“แล้วจะไปไหน คริสเตียน?” เพื่อนผมสีแดงถาม“นายก็เห็นแล้วนิ? ฉันกำลังจะหาลูกความฉันน่ะสิ บอกเธอว่าเราได้อะไรมา และอาจรีบพาเธออ อกมาจากที่นั่นด้วย เพราะชีวิตเธออาจตกอยู่ในอันตราย”“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะใช้หลักฐานที่ได้มาในวันนี้รีบออกคำสั่งศาลเพื่อให้การคุ้มครองก่อนนะ” เพื่อนร่วมงานเริ่มร่างเอกสารในคอมพิวเตอร์ทันที“เยี่ยม! เอาจริง ฉันก็รู้ดีแหละว่าหมอนั่น
เด็บบราห์ถอนหายใจด้วยความเศร้าก่อนจะตบแก้มตัวเองเบา ๆ และตำหนิตัวเอง ‘เอาล่ะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคร่ำครวญถึงอดีตแล้วนะ ฉันจะต้องมีสมาธิกับเรื่องหนีออกไปจากชีวิตของเขาก่อน’เธอหันกลับมาตั้งใจทำงานต่อจนถึงเวลา 19.00 น. เธอปิดแล็ปท็อปและมุ่งหน้าไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็น โรเจอร์บอกว่าเขาต้องการคุยกับเธอคืนนี้ เมื่อเธอจัดโต๊ะอาหารเสร็จ เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นจึงทำให้เธอประหลาดใจ เพราะโดยปกติจะไม่มีใครมาหาเธอในช่วงค่ำเมื่อเธอเปิดประตู เธอก็ตกใจเมื่อได้เห็นแคโรไลน์และคริสเตียนสามีของเพื่อนของเธอมาหา[สวัสดีค่ะ] เธอทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม แต่มันกลับหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเธอได้เห็นท่าทางประหม่าและเป็นกังวลของพวกเขา“สวัสดีตอนเย็นครับ เด็บบราห์” คริสเตียนกล่าวทักทายเธอก่อนจะก้าวเข้าไปในบ้านและปิดประตูอย่างรวดเร็ว[มีอะไรหรือเปล่า?] เด็บบราห์รู้สึกสับสนกับพฤติกรรมของพวกเขา“เด็บบราห์ เธอจะต้องออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้” แคโรไลน์พูดอย่างเร่งรีบ[อะไรนะ? ทำไมล่ะ? เกิดอะไรขึ้น?]“คุณกำลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง” คริสเตียนแจ้งให้เธอทราบ“โซเฟียตั้งท้อง” แคโรไลน์พูดอย่างลนลาน[อะไรก
ก่อนหน้านี้ไม่นาน...หลังจากมื้อเย็น โรเจอร์พาคนรักไปส่งบ้าน และระมัดระวังไม่ให้เธอออกแรงจนเกินไปเพราะเธอตั้งท้องอยู่ เมื่ออยู่คนเดียว เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาตกใจเมื่อได้เห็นข้อความและสายที่ไม่ได้รับจากฟาเบียนเป็นจำนวนมาก ความตื่นตระหนกพลันเกิดขึ้นทันทีที่เปิดอ่านข้อความ เขาจึงรีบกลับไปที่ที่ทำงานทันทีข้อความเขียนว่า: [พ่อคุณมาครับ กลับมาด่วน]นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี พ่อไม่เข้ามาที่บริษัทเลยตั้งแต่ที่แต่งตั้งให้เขารับตำแหน่งประธานบริษัท เว้นแต่จะมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นโรเจอร์สังเกตเห็นว่าเหล่าพนักงานหลีกเลี่ยงที่จะสบตาเมื่อเขามาถึง ซึ่งทำให้รู้สึกรำคาญไม่น้อย แต่เขาก็ไม่สามารถแสดงออกได้ และนั่นอาจเป็นเพราะพ่อของเขา เมื่อเขาก้าวเข้าไปในห้องทำงานก็พบว่า พ่อของเขากำลังมอบหมายงานให้ฟาเบียนขณะตรวจสอบงานประจำวันอยู่“อ้อ...ในที่สุดก็โผล่มาสักทีสินะ” พ่อของเขากล่าวด้วยน้ำเสียงประชดประชันเมื่อโรเจอร์เดินเข้ามาโรเจอร์ขมวดคิ้ว แต่เขาก็รีบคิดหาข้อแก้ตัวเพื่อทำให้พ่อใจเย็นลง “ขอโทษครับคุณพ่อ ที่ผมกลับมาช้าเพราะว่าผมพาคุณแม่ไปส่งที่บ้าน”“งั้นเหรอ? คนขับรถก็มีแล้วทำไมต้องเป็นแกที่พาแม่ไป
“ถ้าแกรู้ความจริง แกคงจะไม่เรียกเธอแบบนั้น”“ความจริงอะไร?” โรเจอร์เอ่ยถามอย่างงุนงง เพราะพ่อของเขามักจะพูดเป็นนัยเสมอเมื่อพวกเขาพูดถึงเด็บบราห์“ฉันไม่รู้ว่าแกจะถามทำไม ในเมื่อแกควรจะรู้ก่อนใคร” พ่อของเขาพูดอย่างโกรธเคือง “เจ้าลูกอกตัญญู เลิกทำตัวไร้สาระได้แล้ว แกมีแต่จะทำลายชื่อเสียงของเรา”“ผมไม่ได้ทำลายอะไรทั้งนั้น ถ้าจะมีใครทำลาย ก็คือนังใบ้คนนั้นต่าง…”“เด็บบราห์” พ่อของเขาขัดจังหวะอย่างเดือดดาล“อะไรนะ?”“เรียกชื่อเธอมันจะยากอะไรนักหนา?”“ผมจะไม่มีวันเรียกชื่อเธอ คุณพ่อควรจะรู้เอาไว้ว่าผมเกลียดเธอมาก”“แกรู้ใช่ไหมว่าคุณปู่บอกว่าแกจะสามารถรับช่วงต่อของบริษัทได้เต็มตัวก็ต่อเมื่อแกมีหลาน”“ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณพ่อ ผมมีข่าวดีมาบอกคุณพอดี คุณพ่อกำลังจะได้เป็นคุณปู่แล้ว” โรเจอร์ป่าวประกาศด้วยความยินดี“อะไรนะ…? ลูกของเด็บบราห์…?”“ไม่ใช่หรอกครับ ไม่มีทาง” เขาพูดด้วยท่าทางรังเกียจ“อะไรนะ…แต่แกพูดว่า…” พ่อของเขาหรี่ตาลง “นี่หมายความว่าเมียน้อยแกตั้งท้องงั้นเหรอ?”“ใช่ครับ และนั่นเป็นเหตุผลที่ผมจะหย่ากับเด็บบราห์เพื่อแต่งงานกับโซเฟีย ซึ่งผมควรจะทำแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว”“แก
“ว้าว…ที่นี่สวยมาก” แคโรไลน์พูดด้วยความประทับใจเด็บบราห์เองก็ตกตะลึงกับสถานที่อยู่อาศัยส่วนตัวที่เจย์เดนพาพวกเขามา“ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับบ้านส่วนตัวแบบนี้มาก่อน มันเหมือนกับบ้านในฝันเลย” คริสเตียนพูดขณะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ้านที่กว้างขวาง บรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นกันเองและปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินลาดตระเวนตามถนนและทางเข้าหมู่บ้าน“พ่อผมเรียกมันว่า ‘บ้านสำหรับคนรวยที่ไม่ได้รวยมาก’” เจย์เดนพูดติดตลก “นี่เป็นโครงการแรกของผมในฐานะประธาน ซึ่งมีไว้สำหรับคนที่มีเงินแต่ไม่ต้องการอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ใหญ่พร้อมกับคนรับใช้ พวกเขาต้องการความปลอดภัย แต่ก็ต้องการความเป็นส่วนตัวและความรู้สึกอยู่ร่วมกับผู้อื่น ที่นี่ คุณจะได้ทั้งพื้นที่ส่วนตัว ชุมชนและเพื่อนบ้าน ร้านค้าใกล้ ๆ และการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง”“ฉันเคยได้แนวคิดนี้จากรายการโทรทัศน์ พวกเขาเรียกว่า ‘บ้านสำหรับคนรวยที่พอเพียง” แคโรไลน์พูดด้วยความตื่นเต้น“ใช่เลยครับ มันได้รับความนิยมมากตั้งแต่เปิดตัว และยังคงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ บ้านของเรามีสวนเป็นพื้นที่กลางแจ้งที่มีไว้เพื่อการปฏิสัมพันธ์ ซึ่งแตกต่าง
“คุณหมายความว่ายังไงที่บอกว่าเตรียมตัว? เตรียมตัวเพื่ออะไร?” เขาถามด้วยความสับสน[เป็นความลับค่ะ]“โห้…ดูลึกลับดีจัง” เขาหัวเราะเบา ๆ “เอ่อ เด็บบราห์ คุณคิดว่า…อืม…แบบว่า…ตอนคุณหย่าอย่างเป็นทางการแล้ว ไม่แน่นะ คุณกับผม…”[เจย์เดน ฉันคิดว่าคุณเป็นเพื่อนที่ดีมากคนหนึ่งนะ] เด็บบราห์ยิ้มเศร้า“ผมรู้ แต่…ให้โอกาสผมได้ไหม?”[อืม ฉัน…]“นี่ ไม่เป็นไรหรอก ผมรู้ว่ามันยังเร็วไป แต่ผมอยากให้คุณรับผมไว้พิจารณา เพราะคุณดูเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ นะ สวยทั้งภายนอกและภายใน” เขาพูดพร้อมขยับเข้ามาใกล้ขณะใช้มือขวาลูบใบหน้าของเธอเบา ๆ [เจย์เดน…] ใบหน้าของเด็บบราห์แดงระเรื่อเมื่อได้ยินคำพูดของเขา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนชมว่าเธอสวย“ผมเข้าใจว่ามันปุบปับ แต่ผมจริงจังนะ ผมเลือกเรียนภาษามือและรหัสมอร์สเพื่อสื่อสารกับคุณเพราะไม่อยากให้คุณถือสมุดเอาไว้ตลอดเวลาเลยนะ”เธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อยกับคำสารภาพของเขา เธอยังจำได้ถึงครั้งแรกที่เธอไปเคาะประตูบ้านเขาเพื่อขอความช่วยเหลือตอนมีปัญหาในครัว และโรเจอร์ก็ไม่สนใจที่จะรับสายเธอ“อืม เรียกได้ว่ามันเป็นรักแรกพบสำหรับผมเลยล่ะ และผมก็ชอบตอนคุณพยายามเร
เด็บบราห์รู้สึกถึงความหนาวสะท้านเล็กน้อย แต่เธอก็พยายามปัดเป่าความกังวลออกจากใจ เพราะไม่มีใครที่จะมาตะโกนใส่เธออีกแล้ว เธอเดินไปที่กระจกในห้องนั่งเล่นแล้วยิ้มให้กับเงาสะท้อนของตัวเอง‘ไม่ต้องกลัวนะเด็บบราห์ นี่คือก้าวแรกที่จะทำให้เธอได้พบกับความสุขของตัวเอง’ เธอบอกกับตัวเองนานแล้วที่เธอไม่ได้เข้านอนแต่หัวค่ำโดยไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุก เพราะเธอไม่จำเป็นต้องคอยดูแลใครอีกแล้ว เช้าวันต่อมา เธอตื่นแต่เช้าด้วยความตกใจเล็กน้อยที่พบว่าตัวเองนอนอยู่ภายในห้องที่ไม่คุ้นเคย แต่เธอก็รู้สึกผ่อนคลายเมื่อรู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน… เธอออกจากอะพาร์ตเมนต์นั้นมาและทิ้งโรเจอร์ไว้เบื้องหลังแล้วจริง ๆ‘วันนี้เป็นวันแรกของการเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วสินะ’ เธอคิดและยิ้มขณะลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็เห็นเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชุดที่เธอมีซึ่งเก่าและโทรมมาก เธอตัดสินใจว่าเธอจะมีชีวิตใหม่ นั่นก็ต้องเริ่มต้นด้วยรูปลักษณ์และเสื้อผ้าก่อนด้วยความคิดนี้ภายในใจ เธอจึงแต่งตัวก่อนจะทานอาหารเช้า มันเป็นเวลาที่เหมาะสมในการสำรวจว่าในห้องครัวมีอะไรบ้าง ขณะนั่งลงทานอาหาร เธอก็เปิดแล็ปท็อปเพื่อตรวจสอบบัญชีธนาค