ก่อนหน้านี้ไม่นาน...หลังจากมื้อเย็น โรเจอร์พาคนรักไปส่งบ้าน และระมัดระวังไม่ให้เธอออกแรงจนเกินไปเพราะเธอตั้งท้องอยู่ เมื่ออยู่คนเดียว เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาตกใจเมื่อได้เห็นข้อความและสายที่ไม่ได้รับจากฟาเบียนเป็นจำนวนมาก ความตื่นตระหนกพลันเกิดขึ้นทันทีที่เปิดอ่านข้อความ เขาจึงรีบกลับไปที่ที่ทำงานทันทีข้อความเขียนว่า: [พ่อคุณมาครับ กลับมาด่วน]นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี พ่อไม่เข้ามาที่บริษัทเลยตั้งแต่ที่แต่งตั้งให้เขารับตำแหน่งประธานบริษัท เว้นแต่จะมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นโรเจอร์สังเกตเห็นว่าเหล่าพนักงานหลีกเลี่ยงที่จะสบตาเมื่อเขามาถึง ซึ่งทำให้รู้สึกรำคาญไม่น้อย แต่เขาก็ไม่สามารถแสดงออกได้ และนั่นอาจเป็นเพราะพ่อของเขา เมื่อเขาก้าวเข้าไปในห้องทำงานก็พบว่า พ่อของเขากำลังมอบหมายงานให้ฟาเบียนขณะตรวจสอบงานประจำวันอยู่“อ้อ...ในที่สุดก็โผล่มาสักทีสินะ” พ่อของเขากล่าวด้วยน้ำเสียงประชดประชันเมื่อโรเจอร์เดินเข้ามาโรเจอร์ขมวดคิ้ว แต่เขาก็รีบคิดหาข้อแก้ตัวเพื่อทำให้พ่อใจเย็นลง “ขอโทษครับคุณพ่อ ที่ผมกลับมาช้าเพราะว่าผมพาคุณแม่ไปส่งที่บ้าน”“งั้นเหรอ? คนขับรถก็มีแล้วทำไมต้องเป็นแกที่พาแม่ไป
“ถ้าแกรู้ความจริง แกคงจะไม่เรียกเธอแบบนั้น”“ความจริงอะไร?” โรเจอร์เอ่ยถามอย่างงุนงง เพราะพ่อของเขามักจะพูดเป็นนัยเสมอเมื่อพวกเขาพูดถึงเด็บบราห์“ฉันไม่รู้ว่าแกจะถามทำไม ในเมื่อแกควรจะรู้ก่อนใคร” พ่อของเขาพูดอย่างโกรธเคือง “เจ้าลูกอกตัญญู เลิกทำตัวไร้สาระได้แล้ว แกมีแต่จะทำลายชื่อเสียงของเรา”“ผมไม่ได้ทำลายอะไรทั้งนั้น ถ้าจะมีใครทำลาย ก็คือนังใบ้คนนั้นต่าง…”“เด็บบราห์” พ่อของเขาขัดจังหวะอย่างเดือดดาล“อะไรนะ?”“เรียกชื่อเธอมันจะยากอะไรนักหนา?”“ผมจะไม่มีวันเรียกชื่อเธอ คุณพ่อควรจะรู้เอาไว้ว่าผมเกลียดเธอมาก”“แกรู้ใช่ไหมว่าคุณปู่บอกว่าแกจะสามารถรับช่วงต่อของบริษัทได้เต็มตัวก็ต่อเมื่อแกมีหลาน”“ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณพ่อ ผมมีข่าวดีมาบอกคุณพอดี คุณพ่อกำลังจะได้เป็นคุณปู่แล้ว” โรเจอร์ป่าวประกาศด้วยความยินดี“อะไรนะ…? ลูกของเด็บบราห์…?”“ไม่ใช่หรอกครับ ไม่มีทาง” เขาพูดด้วยท่าทางรังเกียจ“อะไรนะ…แต่แกพูดว่า…” พ่อของเขาหรี่ตาลง “นี่หมายความว่าเมียน้อยแกตั้งท้องงั้นเหรอ?”“ใช่ครับ และนั่นเป็นเหตุผลที่ผมจะหย่ากับเด็บบราห์เพื่อแต่งงานกับโซเฟีย ซึ่งผมควรจะทำแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว”“แก
“ว้าว…ที่นี่สวยมาก” แคโรไลน์พูดด้วยความประทับใจเด็บบราห์เองก็ตกตะลึงกับสถานที่อยู่อาศัยส่วนตัวที่เจย์เดนพาพวกเขามา“ผมเคยได้ยินเกี่ยวกับบ้านส่วนตัวแบบนี้มาก่อน มันเหมือนกับบ้านในฝันเลย” คริสเตียนพูดขณะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ้านที่กว้างขวาง บรรยากาศเต็มไปด้วยความเป็นกันเองและปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินลาดตระเวนตามถนนและทางเข้าหมู่บ้าน“พ่อผมเรียกมันว่า ‘บ้านสำหรับคนรวยที่ไม่ได้รวยมาก’” เจย์เดนพูดติดตลก “นี่เป็นโครงการแรกของผมในฐานะประธาน ซึ่งมีไว้สำหรับคนที่มีเงินแต่ไม่ต้องการอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ใหญ่พร้อมกับคนรับใช้ พวกเขาต้องการความปลอดภัย แต่ก็ต้องการความเป็นส่วนตัวและความรู้สึกอยู่ร่วมกับผู้อื่น ที่นี่ คุณจะได้ทั้งพื้นที่ส่วนตัว ชุมชนและเพื่อนบ้าน ร้านค้าใกล้ ๆ และการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง”“ฉันเคยได้แนวคิดนี้จากรายการโทรทัศน์ พวกเขาเรียกว่า ‘บ้านสำหรับคนรวยที่พอเพียง” แคโรไลน์พูดด้วยความตื่นเต้น“ใช่เลยครับ มันได้รับความนิยมมากตั้งแต่เปิดตัว และยังคงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ บ้านของเรามีสวนเป็นพื้นที่กลางแจ้งที่มีไว้เพื่อการปฏิสัมพันธ์ ซึ่งแตกต่าง
“คุณหมายความว่ายังไงที่บอกว่าเตรียมตัว? เตรียมตัวเพื่ออะไร?” เขาถามด้วยความสับสน[เป็นความลับค่ะ]“โห้…ดูลึกลับดีจัง” เขาหัวเราะเบา ๆ “เอ่อ เด็บบราห์ คุณคิดว่า…อืม…แบบว่า…ตอนคุณหย่าอย่างเป็นทางการแล้ว ไม่แน่นะ คุณกับผม…”[เจย์เดน ฉันคิดว่าคุณเป็นเพื่อนที่ดีมากคนหนึ่งนะ] เด็บบราห์ยิ้มเศร้า“ผมรู้ แต่…ให้โอกาสผมได้ไหม?”[อืม ฉัน…]“นี่ ไม่เป็นไรหรอก ผมรู้ว่ามันยังเร็วไป แต่ผมอยากให้คุณรับผมไว้พิจารณา เพราะคุณดูเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ นะ สวยทั้งภายนอกและภายใน” เขาพูดพร้อมขยับเข้ามาใกล้ขณะใช้มือขวาลูบใบหน้าของเธอเบา ๆ [เจย์เดน…] ใบหน้าของเด็บบราห์แดงระเรื่อเมื่อได้ยินคำพูดของเขา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนชมว่าเธอสวย“ผมเข้าใจว่ามันปุบปับ แต่ผมจริงจังนะ ผมเลือกเรียนภาษามือและรหัสมอร์สเพื่อสื่อสารกับคุณเพราะไม่อยากให้คุณถือสมุดเอาไว้ตลอดเวลาเลยนะ”เธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อยกับคำสารภาพของเขา เธอยังจำได้ถึงครั้งแรกที่เธอไปเคาะประตูบ้านเขาเพื่อขอความช่วยเหลือตอนมีปัญหาในครัว และโรเจอร์ก็ไม่สนใจที่จะรับสายเธอ“อืม เรียกได้ว่ามันเป็นรักแรกพบสำหรับผมเลยล่ะ และผมก็ชอบตอนคุณพยายามเร
เด็บบราห์รู้สึกถึงความหนาวสะท้านเล็กน้อย แต่เธอก็พยายามปัดเป่าความกังวลออกจากใจ เพราะไม่มีใครที่จะมาตะโกนใส่เธออีกแล้ว เธอเดินไปที่กระจกในห้องนั่งเล่นแล้วยิ้มให้กับเงาสะท้อนของตัวเอง‘ไม่ต้องกลัวนะเด็บบราห์ นี่คือก้าวแรกที่จะทำให้เธอได้พบกับความสุขของตัวเอง’ เธอบอกกับตัวเองนานแล้วที่เธอไม่ได้เข้านอนแต่หัวค่ำโดยไม่ต้องตั้งนาฬิกาปลุก เพราะเธอไม่จำเป็นต้องคอยดูแลใครอีกแล้ว เช้าวันต่อมา เธอตื่นแต่เช้าด้วยความตกใจเล็กน้อยที่พบว่าตัวเองนอนอยู่ภายในห้องที่ไม่คุ้นเคย แต่เธอก็รู้สึกผ่อนคลายเมื่อรู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน… เธอออกจากอะพาร์ตเมนต์นั้นมาและทิ้งโรเจอร์ไว้เบื้องหลังแล้วจริง ๆ‘วันนี้เป็นวันแรกของการเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วสินะ’ เธอคิดและยิ้มขณะลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็เห็นเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชุดที่เธอมีซึ่งเก่าและโทรมมาก เธอตัดสินใจว่าเธอจะมีชีวิตใหม่ นั่นก็ต้องเริ่มต้นด้วยรูปลักษณ์และเสื้อผ้าก่อนด้วยความคิดนี้ภายในใจ เธอจึงแต่งตัวก่อนจะทานอาหารเช้า มันเป็นเวลาที่เหมาะสมในการสำรวจว่าในห้องครัวมีอะไรบ้าง ขณะนั่งลงทานอาหาร เธอก็เปิดแล็ปท็อปเพื่อตรวจสอบบัญชีธนาค
[มันไม่ใช่อย่างนั้น] เด็บบราห์อธิบาย“ฮืม?” เจย์เดนดูงุนงง[คุณทำเพื่อฉันมามากแล้ว ฉันก็เลยอยากจะเป็นฝ่ายชวนคุณไปทานข้าวต่างหาก]“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นผมก็ยินดีรับคำเชิญนะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูทะเล้น[ถ้างั้นเราเจอกัน 2 ทุ่มดีไหม?] เด็บบราห์ถาม“ผมจะมาให้ตรงเวลาเลยครับ คุณเพื่อนบ้าน” เขาพูดพร้อมขยิบตาในเวลานั้น แคโรไลน์มาถึงพอดี เจย์เดนจึงบอกลาทั้งสองคนก่อนจะขับรถออกไปทำงาน“รู้ไหมว่าเขาหน้าตาดีเลยทีเดียว” แคโรไลน์พูดพลางมองตามหลังเจย์เดนหลังจากพินิจอยู่ครู่[แคร์รี่…] เด็บบราห์แตะไหล่ของเธอเบา ๆ พร้อมบ่น [เธอมีสามีแล้วนะ]“แล้วยังไงล่ะ มองเพลิน ๆ ไม่ได้ทำร้ายใครหรอกน่า นอกจากนั้น ในเรื่องนี้ยังมี ‘เรื่องที่เถียงไม่ได้’ สองอย่างนะ”“สองอย่าง?”“ฉันรักคริสของฉันมาก และพ่อตาเชื่อมคนนั้นดูเหมือนจะใส่ใจเธอมากเลยล่ะ” แคโรไลน์กล่าว[ฉันรู้…แต่ฉันไม่สามารถตอบรับความรู้สึกของเขาตามที่ต้องการได้] เด็บบราห์อธิบายอย่างยอมรับ“นี่ ใจเย็น ๆ ฉันก็รู้ว่าเธอต้องการเวลา แต่ผู้สมัครหมายเลขหนึ่งผ่านการรับรองจากฉันแล้วนะ” แคโรไลน์ยักคิ้วพร้อมหัวเราะอย่างขบขัน[แคร์รี่…อืม…แต่ว่ามันไม่ใช่อย
ขณะเดียวกัน โรเจอร์โกรธจัดเพราะกำลังเผชิญค่ำคืนที่ย่ำแย่ เขาปลดปล่อยความโกรธด้วยการทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า และยิ่งไปกว่านั้น เขากลับพบว่าเช้านี้มันต่างจากทุกวัน เพราะเสื้อผ้าและอาหารเช้ามันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป…เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าบางทีเด็บบราห์อาจไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่คิด เธอเป็นแม่บ้านที่ดีจริง ๆ“อืม…โอ๊ย…ทำไมทุกอย่างต้องยุ่งยากขนาดนี้ด้วย” เขาบ่นพลางนวดขมับหลังจากวางสายจากโซเฟียแล้ว เขากำลังอารมณ์เสีย และการได้ยินคนรักของเขาตะโกนใส่เขายิ่งทำให้เขาปวดหัวมากยิ่งขึ้น“เอ่อ…คุณโรเจอร์” ฟาเบียนเรียกเขาอย่างประหม่า“ว่าไง?” โรเจอร์ถาม“เอ่อ ผมจัดการตรวจสอบแฟ้มเอกสารที่คุณให้มาแล้ว”“เป็นยังไงบ้าง?” เขาถามพลางยกคิ้ว“แย่หน่อยนะครับ เพราะมันถูกต้องตามกฎหมาย เราไม่สามารถหยุดกระบวนการหรือทำให้มันหายไปได้ เพราะทนายที่เธอจ้างมาทำงานรวดเร็วมาก พวกเขาได้ยื่นฟ้องหย่าไปเรียบร้อยแล้ว”“ว่าไงนะ?!” โรเจอร์อุทานพลางลุกขึ้นยืน “แล้วเธอไปจ้างทนายเก่ง ๆ แบบนั้นมาได้ยังไง? ฉันมั่นใจว่าเธอไม่มีเงินเก็บเลยด้วยซ้ำ”“เอ่อ…ผมก็ไม่ทราบครับ”“หึ…ทนายคนนั้นชื่ออะไร?”“ทนายคริสเตียน คอลลินส์ค
“นั่นเป็นข่าวดีมากเลยนะ ยินดีด้วยนะลูก” อิซาเบลกล่าวขณะโผกอดโรเจอร์ “ในที่สุดแม่ก็จะได้เป็นย่าคนแล้ว แล้วก็…”“น่าขยะแขยง!” เอลเลียตขัด “ผมจะไม่มีวันรับลูกของผู้หญิงแบบนั้นเป็นหลานชายของผม”“เอลเลียต” แม่ตวาดเขา “อย่าพูดแบบนั้น”“อิซาเบล อย่าตหวาดลูกฉัน เพราะฉันเองก็คิดเหมือนกันกับลูก” จอร์จกล่าว “ฉันไม่มีวันยอมรับเด็กคนนั้นเป็นหลานแน่ ส่วนโรเจอร์ แกควรจะเริ่มเก็บของออกจากสำนักงานได้แล้ว”“แต่คุณพ่อครับ คุณพ่อทำแบบนี้ไม่ได้…”“จอร์จ คุณกำลังทำอะไร?”“ฉันทำตามพินัยกรรมของพ่อฉัน หมอนี่ไม่สามารถจัดการชีวิตคู่ของตัวเองได้ ดังนั้น มันไม่มีสิทธิ์รับอะไรทั้งนั้น ทั้งการดำรงตำแหน่งประธานบริษัทและทรัพย์สินของฉัน”“อะไรนะ?!” โรเจอร์และอิซาเบลอุทานขึ้นพร้อมกัน“ที่รักคะ คุณจะปล่อยให้ลูกชายต้องไปตกระกำลำบากงั้นเหรอ?”“ก็มันอยากได้เองนิ เขาจะได้ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น”“คุณจะปล่อยให้เขาไปอยู่ข้างถนนหรือยังไง?” อิซาเบลถามอย่างตื่นตระหนก“ไม่หรอก มันมีอะพาร์ตเมนต์ของมันเอง ดังนั้น มันมีที่ซุกหัวนอนอยู่แล้ว แต่มันไม่มีสิทธิ์ และเราไม่ต้อนรับมันให้กลับมาบ้านของเราอีก ส่วนเรื่องงาน มันทำง