Share

สาวน้อยกับการขายสมุนไพร 1

last update Dernière mise à jour: 2025-03-13 20:01:52

“เจ้าค่ะ เดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ” นางมาส่งเขาที่หน้าบ้านก่อนจะกลับเข้าไปพักผ่อน

ปัญหาเท่านี้ยังไม่จบ ถึงแม้อาจารย์จะเมตตาซื้อตัวมา แต่นางก็ไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร เห็นทีจะต้องใช้ไม้ตายก้นหีบเสียแล้ว นางเก็บสมุนไพรราคาสูงเอาไว้ในมิติจำนวนมากก็เพื่อการนี้ นางอยากรีบเรียนวิชาแพทย์ให้กระจ่างก็จริง แต่ไม่อยากอยู่ตัวติดกับอาจารย์ผู้นั้นไปตลอดชีวิตเพียงเพราะว่าเป็นหนี้บุญคุณ หลังจากสำเร็จวิชาจนแตกฉานพอแล้วอย่างไรนางก็จะแยกตัวออกไปอยู่ดี การเลือกจะเป็นหนี้บุญคุณนั้นตัดออกไปจากตัวเลือกนางได้เลย

คืนนั้นฉินหลิวซีนอนดึกกว่าใคร หลังจากทุกคนในบ้านหลับ นางก็แอบเข้าไปในมิติเพื่อนำโสมออกมาไว้ในถุงเฉียนคุณที่หลี่เจิ้นหัวเคยให้เป็นตัวแทนมิตรภาพระหว่างพวกเขา โสมยิ่งแก่ยิ่งมีสรรพคุณดีเลิศและยิ่งราคาสูง ต้นที่นางเลือกหยิบมานี้ราคาไม่มีทางต่ำกว่าหนึ่งร้อยตำลึงทอง จากที่ดูตลาดตอนนี้ นางมีเพดานที่ตั้งเป้าไว้ในการขายมัน

พรุ่งนี้มาดูกันว่าจะได้สักเท่าไร

เมื่อหาทางออกของปัญหาให้ตนเองได้แล้วความกังวลใจก็หมดไป คืนนั้นเป็นคืนแรกที่ครอบครัวบุตรคนรองของบ้านสกุลฉินได้หลับ
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการขายสมุนไพร 2

    “เอาละ ๆ ขอโทษด้วย ข้าผิดเอง โสมนี้ห้าร้อย...”“เจ็ดร้อย”“หกร้อย”“หนึ่งพัน”“แปดร้อย”“ข้าไม่ขาย” เด็กหญิงกอดอกอย่างไม่ยอม“ได้ ๆ หนึ่งพันสองร้อยตำลึงทอง” เถ้าแก่ยอมแพ้ก่อนนางจะเปลี่ยนใจ รีบขึ้นไปบอกบุตรสาวให้นับเงินมาให้ฉินก่วงได้ยินจำนวนเงินนั้นก็ตกใจตาค้าง ตอนแรกที่โต้เถียงกันอยู่นั้น เขานึกว่ามันอาจจะเป็นตำลึงเงินหรืออาจจะหูฝาดได้ยินผิดไป จริง ๆ อาจจะเป็นพันอีแปะ ผู้เป็นบิดายืนอึ้งไม่รู้สติ จนกระทั่งบุตรสาวได้รับเงินครบถ้วน นางจึงมาสะกิดเขาให้รู้ตัวฉินก่วงเดินเหม่อเกือบตลอดทางกลับบ้าน เขาไม่กล้าถามเลยว่า บุตรสาวไปหาของแบบนั้นมาได้อย่างไร เห็นสีหน้าผู้เป็นพ่อก็รู้ว่าเขาสงสัยแน่ หากไม่บอกอะไรเลยก็คงค้างคาใจอยู่แบบนี้“ข้าได้บังเอิญช่วยชีวิตคนผู้หนึ่งเอาไว้ เขาจึงมอบสิ่งนี้ให้เป็นการตอบแทนน่ะเจ้าค่ะ” นางยิ้มใสซื่อให้ เห็นเช่นนั้นฉินก่วงก็ไม่กล้าถามอีก แม้จะมีความรู้สึกว่านางบอกไม่หมด แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรไปมากกว่านี้ ตราบใดที่ไ

    Dernière mise à jour : 2025-03-13
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการขายสมุนไพร 3

    ทั้งสองคนได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นของใหม่ที่ไม่มีรอยปะรอยขาด เป็นเรื่องปกติที่ใครก็ควรได้รับแท้ ๆ แต่เหมือนเป็นครั้งแรกที่ได้รับของเหล่านี้ ทั้งสองรู้สึกทั้งสุขทั้งเศร้าจนน้ำตาไหลออกมา ชิวย่าหนานเปลี่ยนชุดใหม่ให้บุตรชาย เห็นเขาได้ใส่เสื้อผ้าดี ๆ ก็ยิ่งร้องหนัก แต่ไม่ได้สะอื้นให้บุตรชายได้ยินหากนางมีความสามารถพอที่จะทำได้แบบนี้ก่อนหน้านี้ก็คงดีฉินหลิวซีนำตั๋วเงินจำนวนหนึ่งพันตำลึงยื่นไปให้ผู้เป็นอาจารย์ นางเก็บเอาไว้ไม่ถึงร้อยตำลึง เพราะให้บิดาไปบ้างและยังซื้อข้าวของไปไม่น้อย“สิ่งนี้คือ?”“เงินที่ท่านอาจารย์ออกหน้าช่วยไว้ ข้าขอคืนให้เจ้าค่ะ”นี่ก็ทำให้เขาอึ้งอีกแล้ว ตั้งแต่ตอนที่บอกว่าจะซื้อที่ดินสร้างบ้าน นี่ยังนำเงินมาคืนเขาอีก เด็กคนนี้มีเงินติดตัวอยู่เท่าไรกันแน่แต่ถามไปก็คงไม่บอกสินะ“ข้าไม่อยากรู้สึกว่า ตนเองติดหนี้บุญคุณใคร อาจารย์โปรดรับไว้ด้วย”“ก็ได้ ตามใจเจ้า” เขารับตั๋วเงินใบนั้นเก็บเข้าไปในอกเสื้ออย่างว่าง่าย เพียงเจอนางไม่กี่ครั้งก็พอจะคาดเดานิสัยนางได้แล้ว เขาต้องกา

    Dernière mise à jour : 2025-03-14
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   หญิงสาวในวันสิ้นโลก

    วันโลกาวินาศในนิยามของใครหลายคน อาจไม่เหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือความหายนะที่มาเยือน ความเท่าเทียมที่ไม่ว่าสถานะของเจ้าตัวจะเป็นราชาหรือสามัญชนก็หนีไม่พ้น จะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นแต่ตรรกะของความเท่าเทียมที่เธอคิดนั้นก็พังทลายเพราะสิ่งที่ตัวเองมีฉินหลิวซีในวัยสามสิบปียังคงต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในโลกที่ไวรัสปริศนากำลังระบาด และเป็นเช่นนี้มากว่าสิบปีแล้ว ไวรัสไม่ทราบที่มานี้คร่าชีวิตคนไปหลายพันล้าน และเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นซอมบี้ที่ฉินหลิวซีสามารถอยู่รอดมาได้เป็นสิบปี เพราะพลังพิเศษที่ตื่น เธอมีมิติที่สามารถเก็บของได้ แม้มีพื้นที่จำกัดขนาดประมาณหนึ่งห้อง และเธอไม่สามารถเข้าไปอยู่ได้เอง แต่แค่นั้นก็ทำให้เธอได้เปรียบคนอื่นมากแล้วเมื่อมนุษย์โลกมีจำนวนน้อยลง คนในศูนย์อพยพก็มีอัตราการแย่งชิงที่น้อย เพราะอาหารไม่ขาดแคลนเท่าแต่ก่อน ทว่าตัวเจ้าหน้าที่ที่ประจำแต่ละศูนย์ก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน กลับกันฝูงซอมบี้ที่ด้านนอกนั้นเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ“ฉินหลิวซีเธอไปเอาอาหารหรือยัง” เพื่อนในค่ายอพยพคนหนึ่งถามเธอที่กำลังใจลอย“อ่า อื้ม ไปเอามาแล้วละ” หญิงสาวตอบกลับไปยิ้ม ๆ“ได้ยินมาว่ามีผู้อพ

    Dernière mise à jour : 2025-02-24
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   จุดจบของคนไร้ประโยชน์

    “อาหารของพวกเราไม่เพียงพออีกแล้ว! ต่อไปนี้ใครที่ต้องการอาหารต้องมาช่วยกำจัดซอมบี้ข้างนอกนั่น! เราจะให้อาหารแก่ผู้ที่ลงมือ!” เสียงเจ้าหน้าที่คนหนึ่งตะเบ็งบอกให้ได้ยินกันทั่วโถง สิ้นเสียงของเขาก็ตามมาด้วยเสียงฮือฮาของพลเมืองที่ไม่พอใจการตัดสินนั้น“ถ้าไม่ทำก็ออกไปเป็นอาหารซอมบี้เองเถอะ!” เจ้าหน้าที่รายนี้ไม่สนว่าจะมีคนไม่พอใจหรือไม่ เพราะสถานการณ์ไม่เอื้อให้เหลือการประนีประนอมอีก“กลุ่มแรก ใครอาสาให้มาที่นี่” เจ้าหน้าที่นายหนึ่งยกธงขึ้นเป็นสัญลักษณ์ พวกเขาใช้เสียงสดในการประกาศจึงต้องใช้งานลำคอมาก บางครั้งก็เหมือนตะคอกทั้งที่ไม่ตั้งใจฉินหลิวซีเห็นใจเจ้าหน้าที่บางคนที่ต้องรับมือกับสถานการณ์อันยากลำบากนี้ ส่วนคนที่ทำงานนี้แบบส่ง ๆ เธอไม่มีใจจะสงสารแม้แต่เสี้ยวเดียว จริงอยู่ว่าเจ้าหน้าที่มีจำนวนไม่พอมานานแล้วจึงต้องรับอาสาสมัครอยู่เรื่อย ๆ แต่คนที่รับงานนี้แค่เพราะอยากกร่างและใช้อำนาจข่มเหงคนอื่นก็มีไม่น้อยฉินหลิวซีเข้าไปเป็นอาสาสมัครในกลุ่มแรก หญิงสาวแซ่ฉินเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาดีของเจ้าหน้าที่เวลาร้องขออาสาสมัคร แม้เธอจะไม่ได้ร่วมทุกครั้ง แต่ก็เป็นส่วนใหญ่ที่จะมีชื่อเธอปรากฏอยู่ฉินหลิ

    Dernière mise à jour : 2025-02-24
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับมิติลับและน้ำพุวิญญาณของนาง

    ความรู้สึกแรกหลังจากรู้สึกตัวคืออุณหภูมิร่างกายที่สูงมากคล้ายคนจับไข้ ร่างกายหนักอึ้งไปจนถึงศีรษะ อาการปวดหัวจี๊ดแล่นริ้วขึ้นมาตามขมับจนต้องเผลอย่นคิ้วเมื่อคืนนี้เธอฝันประหลาด การต้องรับบทบาทในฝันเป็นเด็กผู้หญิงอายุห้าขวบที่ทางบ้านมีฐานะยากจนไม่ค่อยสนุกเท่าไรนัก ฝันนั้นเด็กผู้หญิงตัวเล็กนั่นมีน้องชาย อาหารการกินก็ไม่เพียงพอแม้แต่ปากท้องเดียว มีแค่น้ำข้าวต้มใส ๆ ไม่มีเนื้อ บ้านที่นางอยู่มีไข่ไก่ แต่ไม่เคยตกถึงท้องเทียบกับการต้องออกไปเผชิญหน้าฝูงซอมบี้เป็นสิบเป็นร้อย ฉินหลิวซีไม่แน่ใจเลยว่า อันไหนคือฝันร้ายกว่ากันกันแน่วันวันหนึ่งเด็กผู้หญิงคนนั้นต้องใช้แรงงานในบ้านร่วมกับมารดาที่ร่างกายอ่อนแอ ซักผ้าให้คนทั้งบ้าน ยามป่วยไข้กลับไม่มีใครออกเงินรักษา คิดแต่นอนพักแล้วก็หายสุดท้ายก็ตายจากไปเงียบ ๆ แค่เรื่องราวของฝันตื่นหนึ่ง ไม่นึกเลยว่ามันคือความจริงฉินหลิวซีนอนเหม่อหลังจากได้สติรับรู้คืนมา ที่เรียกว่าฝันนั้นแท้จริงคือความทรงจำ ตัวนางคือองค์ประกอบหนึ่งของครอบครัวเล็ก ๆ ในครอบครัวใหญ่แห่งนี้เรื่องบ้า ๆ แบบนี้เกิดขึ้นครั้งเดียวพอฉินหลิวซีไม่แน่ใจว่า การต้องฝ่าฟันโลกที่มีแต่ผีดิบเดินไ

    Dernière mise à jour : 2025-02-24
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยยากไร้ข้าวก็ไม่มีจะกิน

    อย่างที่ได้รับรู้ในความทรงจำตกค้างที่นางเข้าใจผิดไปเองว่า เป็นความฝัน ครอบครัวนี้ความเป็นอยู่ย่ำแย่ สะใภ้ถูกดูแลเหมือนเป็นคนใช้ในบ้าน ฉินหลิวซีเดินตามหลังผู้เป็นแม่ที่หอบตะกร้าสูงท่วมหัวออกไปยังแม่น้ำใกล้ ๆ ซึ่งจะบอกว่าใกล้ก็บอกได้ไม่เต็มปาก เพียงแต่มันเป็นแม่น้ำสายเดียวที่ใกล้ที่สุด และก็เดินจนปวดขา บิดาของเด็กหญิงตัวน้อยทำงานในที่นาของครอบครัว สองแม่ลูกดูแลเรื่องงานบ้านภายในและซักผ้าเป็นหลักชิวย่าหนานเห็นบุตรสาวไม่พูดก็นึกแปลกใจอยู่ แต่เห็นหน้านางซูบซีดคิดว่าคงเหนื่อย จึงไม่ได้ถามอะไร“ข้าขอตัวไปถ่ายหนักสักครู่นะเจ้าคะ”มารดาพยักหน้าไม่ได้ซักไซ้อะไร ฉินหลิวซีจึงปลีกตัวเดินออกมาไกล ๆ ได้อย่างไม่ผิดสังเกต พ้นสายตามารดามาได้นางก็มองหาต้นอ่อนพันธุ์ไม้ต่อ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่บริเวณรอบ ๆ ก็ลองใช้พลังธาตุไม้ที่ติดตัวมาดู จากที่เคยทำให้ต้นกล้างอกใบออกมาได้ไม่กี่ใบ ทำให้รากไม้ขยับได้นิดหน่อย ตอนนี้แค่เพียงใส่พลังเข้าไปต้นอ่อนนั้นก็เติบโตขึ้นเป็นลำต้นในเวลาไม่กี่อึดใจฉินหลิวซีกำลังจะฉีกยิ้มยินดี เสียงท้องนางก็ร้องประท้วงขึ้นมาขัดจังหวะ ใบหน้าเด็กหญิงแข็งค้าง นึกได้ว่าตนยังไม่ได้กิน

    Dernière mise à jour : 2025-02-24
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับความหิวโหย

    ระหว่างที่กำลังใจลอยหนีความบัดซบของชีวิตก็พบว่าได้เวลากินข้าว ฉินหลิวซีมองแผ่นแป้งเล็กของตนเองด้วยความแค้นใจ เมื่อเช้านางไม่มีอะไรตกถึงท้องนอกจากแผ่นแป้งแห้ง ๆ แข็ง ๆ รสชาติเหมือนเทียนไขเวลาทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตาในครอบครัวคือช่วงเวลาที่เห็นได้อย่างชัดเจนถึงความแตกต่างและความลำเอียง ฝั่งอาหารของบ้านใหญ่ สำรับของหลานชายทั้งสองที่มีอายุมากกว่านางสองสามปีล้วนมีไข่ไก่ ข้าวพูนจาน ไม่มีน้ำส่วนของบ้านนางมีเพียงน้ำต้มข้าวไร้รสชาติ และแผ่นแป้งแข็ง ๆ ฉินหลิวซียกน้ำข้าวต้มให้น้องชายที่ได้รับส่วนแบ่งเพียงช้อนเดียว เพราะพวกเขาคิดว่าน้องชายนางยังเล็ก อีกทั้งยังไม่ได้ทำงาน ให้กินแค่นี้ก็เพียงพอเพียงพอแบบไหน อะไร ยังไง อยากจะเปิดโต๊ะให้อภิปรายเหลือเกิน เพียงพอแบบขี้ข้าหรือไงถ้าหากฟันของมนุษย์แข็งแรงน้อยกว่านี้ วันนี้นางคงได้เคี้ยวฟันตัวเองจนแตกแน่ เด็กหญิงนับหนึ่งถึงสิบในใจเป็นร้อยรอบ เจอสถานการณ์แบบนี้ นี่นางใจเย็นที่สุดในชีวิตแล้ว ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในร่างเด็กห้าขวบคงมีคนซี่โครงหักกันบ้าง อะไรมันจะขนาดนี้“ชิวย่าหนาน พักนี้ทำงานอืดอาดไปหรือเปล่า” ท่านย่าเอ่ยตำหนิมารดาของนาง พอมีคน

    Dernière mise à jour : 2025-02-24
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการกินเนื้อมื้อแรก

    “อาหยวน” นางตะโกนเรียกน้องชาย พอได้ยินเสียงพี่สาวเขาก็ยกมือขึ้นสูง ๆ ให้รู้ว่าตนเองอยู่ตรงไหนฉินหลิวซีเดินมาหาน้องชายกลางทาง เขาเห็นพี่สาวก่อไฟเสร็จแล้วจึงจูงมือนางมาหาจุดที่มีพวกลูกไม้ที่ตนเจอ นางลูบศีรษะน้องชาย กล่าวชมทั้งรอยยิ้ม“เก่งมาก”เพียงคำสั้น ๆ แต่ดวงตาคู่น้อยนั้นก็เริ่มมีประกายขึ้นมา เป็นฉินหลิวซีที่ชะงักไปเสียเอง ต้องใช้ชีวิตมาแบบไหนที่ทำให้เด็กสามขวบห้าขวบมีแววตาหม่นหมองได้ขนาดนี้ ทั้งที่เป็นวัยที่แต่งแต้มเติมสีเข้าไปได้ง่ายที่สุด แต่ครอบครัวสกุลฉินกลับเลือกที่จะเติมสีดำให้บ้านรองอย่างพวกนาง“อาหยวนเก่งมาก ๆ เลย ไปเก็บผลไม้ด้วยกันเถอะ”ฉินหลิวซีให้น้องขี่คอ แม้จะทุลักทุเลไปสักหน่อย แต่ก็เอื้อมไปถึงผลไม้บนต้นได้ พอได้ทำอะไรด้วยตัวเองฉินซือหยวนก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมานางกับน้องชายได้ลูกพลับมาสี่ผล จึงแบ่งกันคนละสองผล ฉินหลิวซีจูงมือน้องมานั่งตรงที่นางก่อไฟไว้แล้วให้เขานั่งเฝ้าปลา ส่วนตนเองก็เดินไปดูต้นไม้อีกต้นที่เห็นตอนเดินลงมาเมื่อครู่ เมื่อเดินมาใกล้ ๆ จึงเห็นว่าเป็นกล้วยหอมที่ยังโตไม่เต็มที่ ฉินหลิวซีไม่ลังเลที่จะใช้พลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของมันนางหันมองน้องชา

    Dernière mise à jour : 2025-02-26

Latest chapter

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการขายสมุนไพร 3

    ทั้งสองคนได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นของใหม่ที่ไม่มีรอยปะรอยขาด เป็นเรื่องปกติที่ใครก็ควรได้รับแท้ ๆ แต่เหมือนเป็นครั้งแรกที่ได้รับของเหล่านี้ ทั้งสองรู้สึกทั้งสุขทั้งเศร้าจนน้ำตาไหลออกมา ชิวย่าหนานเปลี่ยนชุดใหม่ให้บุตรชาย เห็นเขาได้ใส่เสื้อผ้าดี ๆ ก็ยิ่งร้องหนัก แต่ไม่ได้สะอื้นให้บุตรชายได้ยินหากนางมีความสามารถพอที่จะทำได้แบบนี้ก่อนหน้านี้ก็คงดีฉินหลิวซีนำตั๋วเงินจำนวนหนึ่งพันตำลึงยื่นไปให้ผู้เป็นอาจารย์ นางเก็บเอาไว้ไม่ถึงร้อยตำลึง เพราะให้บิดาไปบ้างและยังซื้อข้าวของไปไม่น้อย“สิ่งนี้คือ?”“เงินที่ท่านอาจารย์ออกหน้าช่วยไว้ ข้าขอคืนให้เจ้าค่ะ”นี่ก็ทำให้เขาอึ้งอีกแล้ว ตั้งแต่ตอนที่บอกว่าจะซื้อที่ดินสร้างบ้าน นี่ยังนำเงินมาคืนเขาอีก เด็กคนนี้มีเงินติดตัวอยู่เท่าไรกันแน่แต่ถามไปก็คงไม่บอกสินะ“ข้าไม่อยากรู้สึกว่า ตนเองติดหนี้บุญคุณใคร อาจารย์โปรดรับไว้ด้วย”“ก็ได้ ตามใจเจ้า” เขารับตั๋วเงินใบนั้นเก็บเข้าไปในอกเสื้ออย่างว่าง่าย เพียงเจอนางไม่กี่ครั้งก็พอจะคาดเดานิสัยนางได้แล้ว เขาต้องกา

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการขายสมุนไพร 2

    “เอาละ ๆ ขอโทษด้วย ข้าผิดเอง โสมนี้ห้าร้อย...”“เจ็ดร้อย”“หกร้อย”“หนึ่งพัน”“แปดร้อย”“ข้าไม่ขาย” เด็กหญิงกอดอกอย่างไม่ยอม“ได้ ๆ หนึ่งพันสองร้อยตำลึงทอง” เถ้าแก่ยอมแพ้ก่อนนางจะเปลี่ยนใจ รีบขึ้นไปบอกบุตรสาวให้นับเงินมาให้ฉินก่วงได้ยินจำนวนเงินนั้นก็ตกใจตาค้าง ตอนแรกที่โต้เถียงกันอยู่นั้น เขานึกว่ามันอาจจะเป็นตำลึงเงินหรืออาจจะหูฝาดได้ยินผิดไป จริง ๆ อาจจะเป็นพันอีแปะ ผู้เป็นบิดายืนอึ้งไม่รู้สติ จนกระทั่งบุตรสาวได้รับเงินครบถ้วน นางจึงมาสะกิดเขาให้รู้ตัวฉินก่วงเดินเหม่อเกือบตลอดทางกลับบ้าน เขาไม่กล้าถามเลยว่า บุตรสาวไปหาของแบบนั้นมาได้อย่างไร เห็นสีหน้าผู้เป็นพ่อก็รู้ว่าเขาสงสัยแน่ หากไม่บอกอะไรเลยก็คงค้างคาใจอยู่แบบนี้“ข้าได้บังเอิญช่วยชีวิตคนผู้หนึ่งเอาไว้ เขาจึงมอบสิ่งนี้ให้เป็นการตอบแทนน่ะเจ้าค่ะ” นางยิ้มใสซื่อให้ เห็นเช่นนั้นฉินก่วงก็ไม่กล้าถามอีก แม้จะมีความรู้สึกว่านางบอกไม่หมด แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรไปมากกว่านี้ ตราบใดที่ไ

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการขายสมุนไพร 1

    “เจ้าค่ะ เดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ” นางมาส่งเขาที่หน้าบ้านก่อนจะกลับเข้าไปพักผ่อนปัญหาเท่านี้ยังไม่จบ ถึงแม้อาจารย์จะเมตตาซื้อตัวมา แต่นางก็ไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร เห็นทีจะต้องใช้ไม้ตายก้นหีบเสียแล้ว นางเก็บสมุนไพรราคาสูงเอาไว้ในมิติจำนวนมากก็เพื่อการนี้ นางอยากรีบเรียนวิชาแพทย์ให้กระจ่างก็จริง แต่ไม่อยากอยู่ตัวติดกับอาจารย์ผู้นั้นไปตลอดชีวิตเพียงเพราะว่าเป็นหนี้บุญคุณ หลังจากสำเร็จวิชาจนแตกฉานพอแล้วอย่างไรนางก็จะแยกตัวออกไปอยู่ดี การเลือกจะเป็นหนี้บุญคุณนั้นตัดออกไปจากตัวเลือกนางได้เลยคืนนั้นฉินหลิวซีนอนดึกกว่าใคร หลังจากทุกคนในบ้านหลับ นางก็แอบเข้าไปในมิติเพื่อนำโสมออกมาไว้ในถุงเฉียนคุณที่หลี่เจิ้นหัวเคยให้เป็นตัวแทนมิตรภาพระหว่างพวกเขา โสมยิ่งแก่ยิ่งมีสรรพคุณดีเลิศและยิ่งราคาสูง ต้นที่นางเลือกหยิบมานี้ราคาไม่มีทางต่ำกว่าหนึ่งร้อยตำลึงทอง จากที่ดูตลาดตอนนี้ นางมีเพดานที่ตั้งเป้าไว้ในการขายมันพรุ่งนี้มาดูกันว่าจะได้สักเท่าไรเมื่อหาทางออกของปัญหาให้ตนเองได้แล้วความกังวลใจก็หมดไป คืนนั้นเป็นคืนแรกที่ครอบครัวบุตรคนรองของบ้านสกุลฉินได้หลับ

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยยินดีที่ได้แยกบ้านแล้ว 2

    แต่ไม่ใช่เลย ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยน มันยังเป็นเหมือนเดิมตลอด มีแต่เขาที่ปิดหูปิดตาไม่รับรู้ความจริง ลูกคนรองของบ้านหยัดกายขึ้นยืนเต็มความสูง ที่ผ่านมาก็เป็นครอบครัวเขาเสียส่วนใหญ่ที่หาเลี้ยงคนในบ้าน ลงแรงมากกว่าใคร แต่ไม่เคยได้เงินและอาหารดี ๆ กิน เช่นนั้นแล้วทนอยู่เพื่ออะไร“ท่านแม่ ข้าซาบซึ้งในบุญคุณของท่านที่ชุบเลี้ยงมาจนถึงป่านนี้ แต่ให้ข้าเมินเฉยต่อไปนั้นทำไม่ได้อีกแล้ว”“พูดเพ้อเจ้ออะไรของเจ้า!”“ตั้งแต่นี้ครอบครัวของข้าจะขอแยกตัวออกไปอยู่กันเอง”“หา!? พูดไร้สาระอะไรออกมา น้ำหน้าอย่างเจ้าน่ะหรือจะทำอะไรเองได้ แยกบ้าน พูดอะไรไร้สาระ!”คำพูดนั้นของบิดาแม้แต่ฉินหลิวซียังนึกว่าชาตินี้คงไม่ได้ยิน นางรู้สึกประหลาดใจและทึ่งอยู่หน่อย ๆ เกือบวางถาดน้ำชาแล้วปรบมือให้แล้วเชียว ถ้าบิดามีความคิดอย่างนี้ละก็ ยุให้แตกไปตอนนี้เลยดีที่สุด เด็กหญิงเห็นความหวังที่จะออกไปอยู่เองขึ้นมาชัดเจนขึ้น นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตก็ได้ นางไม่ยอมให้หลุดมือไปแน่“ท่านพ่อ” ฉินหลิวซีเรียกบิดาอย่า

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยยินดีที่ได้แยกบ้านแล้ว 1

    “บอกชื่อและสรรพคุณของพวกมันมา” เขากล่าวและบอกให้เริ่มจากทางซ้ายสองฝาแฝดอึกอัก เพราะไม่รู้จักพวกมันเลยแม้แต่ชนิดเดียว ทั้งสองเงียบอยู่นานจนเหล่าผู้ชมยังถอดใจแทน เมื่อความเงียบเป็นคำตอบหมอเทวดาจึงหันไปหาฉินหลิวซีแทน และพยักหน้าให้นางเริ่มทุกคนที่มามุงและยังไม่ไปไหนต่างก็อึ้งเมื่อฉินหลิวซีตอบได้ทั้งหมด รวมถึงสรรพคุณแต่ละส่วนของพวกมันด้วย ราก ใบ ดอก นำไปทำยาได้ต่างกัน บางต้นหากใช้ผิดวิธีสรรพคุณรักษาที่ควรจะได้ก็ไม่เป็นผลเลยก็มีเรื่องส่วนหลังนี้ไม่มีบอกไว้ในตำราของผู้เริ่มต้น ต้องศึกษาไปสักระยะจึงจะเข้าใจ แต่เด็กหญิงคนนี้กลับรู้ ซุนเป่ยฉียกยิ้ม ดูเหมือนเขาจะเจอเพชรเม็ดงามเข้าแล้วการตอบคำถามของนางเป็นที่ฮือฮา บุตรฝาแฝดของย่าฉินรู้สึกขายหน้าจึงรีบลุกหนีออกไป ย่าฉินไม่พอใจที่หลานสาวได้หน้า หรือหากบอกให้ชัดเจนกว่านี้คือนางไม่พอใจอะไรก็ตามที่ฉินหลิวซีทำ สตรีอาวุโสโมโหขึ้นมา ด่าทอนางต่อหน้าคนอื่น“เด็กนั่นเป็นเด็กเนรคุณ กลัวอาทั้งสองได้ดีกว่า ท่านหมอพิจารณาใหม่เถอะ”คำต่อว่าของนางไม่มีคนสนใจเมื่อหมอเทวดากล่าวกับทุกคน

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการพบหมอเทวดา 2

    ท่านหมอผู้นั้นนำสมุนไพรบางอย่างที่นางไม่คุ้นกลิ่นบดละเอียดผสมกับสมุนไพรอีกหลายตัว ปั้นมันจนเป็นก้อนแล้วป้อนใส่ปากเด็กคนนั้น ไม่นานเปลือกตาที่ปิดสนิทก็เปิดขึ้น เรี่ยวแรงที่เคยหดหายเริ่มค่อย ๆ ฟื้นคืนอย่างช้า ๆ ฉินหลิวซีขมวดคิ้วทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงเลือดในกายของคนที่นอนอยู่ ขอแค่ฝึกตนจนสามารถรับรู้การเป็นไปของสิ่งแวดล้อมโดยรอบได้ ก็รับรู้ได้ว่าคนที่อยู่ใกล้ตนนั้นป่วยหรือไม่ ซึ่งน้องชายของนางยังฝึกไม่ถึงขั้นนี้ แต่ก็พอรับรู้ได้แล้ว ยาที่กินเพียงครั้งเดียวแต่ให้ผลขนาดนี้ได้นางไม่เคยได้ยินมาก่อน ขณะที่เด็กหญิงจ้องเขม็งไปยังหมอไร้นามผู้นั้นก็บังเอิญได้สบตากับเขาเข้า ฉินหลิวซีหลบสายตาไปทางอื่น เขารู้ว่านางจ้องอยู่ ซุนเป่ยฉีมองเขม็งมาเพียงครู่เดียวก็ถอนสายตากลับไปจดจ่ออยู่กับคนไข้ หมอเทวดาผู้ใช้โอสถที่ไม่เคยทิ้งชื่อไว้ที่ไหนนานรู้สึกประหลาดใจ ไม่นึกว่าเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้จะมีผู้มีพรสวรรค์เช่นนั้นอยู่ด้วย “ให้เขากินนี่ไปสักหนึ่งเดือน ร่างกายจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง ต้องกินอย่าให้ขาด ต่อให้ดีจนเห็นผลแล้วก็ต้องกินให้หมด” ซุนเป่ยฉีเอ่ยกำชับกับมารดาของเด็กท

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการพบหมอเทวดา 1

    “เช่นนั้นเมื่อเจ้าไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับผู้อื่น”“เช่นนั้น ท่านป้าชอบที่ถูกตำหนิหรือ?” เขายังคอยสงสัยอย่างหนักฉินหลิวซียิ้มมองด้วยความเอ็นดู ความใสซื่อของเด็กน้อยช่วยเยียวยาหัวใจของพี่สาวได้ดีจริง ๆ“พวกเขาไม่ได้ชอบหรอกอาหยวน พวกเขานั้นมองแค่ว่า ตนไม่ผิดจะทำอย่างไรกับใครก็ได้ ในขณะที่หากผู้อื่นทำกับตนเองเช่นนั้นก็จะโมโหและโกรธขึ้นมาเหมือนกัน”“ฟังดูไม่สมเหตุสมผลเลย”“โลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งไม่สมเหตุสมผลนับร้อยพัน แต่ภายใต้ความไม่สมเหตุสมผลเหล่านั้น ก็สมเหตุสมผลเช่นกัน ฟังตอนนี้อาจเข้าใจยากไปสักหน่อย เมื่อเจ้าโตขึ้นอาจค่อย ๆ เข้าใจคำที่พี่บอกนี้ทีละน้อย”เด็กชายพยักหน้าหงึก ๆ ฉินหลิวซีจึงเอ่ยเสริม“ถึงจะบอกว่าหากไม่ชอบก็อย่าทำเช่นนั้นกับคนอื่น แต่ในกรณีที่เจ้าถูกรังแกมันคนละเรื่อง อย่ายอมให้ใครรังแกเจ้าได้ ทว่าเมื่อเจ้าทำผิด จงยอมรับอย่างกล้าหาญ จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้”“ข้าเข้าใจแล้ว อาหยวนจะจำไว้” เด็กชายมองพี่สาวด้วยแววตานับถือ และแววตาเช่นนี้มองตามห

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับความเหงา 2

    ย่าฉินเริ่มคล้อยตาม ฝันถึงอนาคตที่ถูกเป่าหูซึ่งไม่รู้ว่าจะมาถึงได้จริงหรือไม่ ฉินหลิวซีกอดอก กลอกตาเป็นครั้งที่สองด้วยความเหนื่อยหน่าย สองคนนี้ได้กินอาหารดี ๆ ทุกวัน อย่างน้อยก็ดีกว่านางแน่ ๆ ต่อให้ในวันนั้นไม่มีเนื้อเลย สองคนนี้ก็ยังได้กินไข่ แต่วัน ๆ หนึ่งกลับไม่ทำอะไรนอกจากอ้างว่าต้องเตรียมตัวสำหรับสองอย่างที่ว่ามานั้น“ที่พูดมานั้นจะทำได้จริงเมื่อไหร่กันล่ะเจ้าคะ ถึงวัยอันเหมาะสมทั้งสองคนแล้วไม่ใช่หรือ ยังเห็นนอนกระดิกเท้าอยู่บ้านกันอยู่เลย”ย่าฉินได้ยินนางต่อปากต่อคำก็เริ่มฉุน “หลิวซี หัดเคารพผู้ใหญ่เสียบ้าง!”“ก็ทำตัวให้น่าเคารพเสียหน่อยสิ” นางบ่นงึมงำกับตัวเอง พวกเขาจึงไม่ได้ยิน แต่ก็รับรู้ได้ว่านางกำลังไม่เห็นหัวคนอายุมากกว่าทั้งสามคน ถึงจะไม่รู้เนื้อหาที่นางบ่นกับตัวเองก็ตาม“ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่ออกไปทำงาน เราได้เห็นดีกันแน่”ฉินหลิวซีคร้านจะต่อปากต่อคำจึงหันหลังกลับ พบว่าน้องชายแอบฟังอยู่ เขายื่นหน้าออกมาเพียงครึ่งเดียวแต่ไม่กล้าออกจากห้อง ฉินหลิวซีพาน้องกลับเข้าไปด้านในเพราะไม่อยากให้เขาทนฟังอะไรแสลงหูที่บ้านเริ่มบรรยากาศไม่ดีตั้งแต่นั้น เช้าวันต่อมานางจึงพาน้องชายออกไปข้างนอ

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับความเหงา 1

    หลี่เจิ้นหัวกลับเมืองหลวงได้หลายวันแล้ว ฉินหลิวซีกับน้องชายออกจะเหงาอยู่บ้าง ปกติต้องมีเด็กผู้ชายช่างถามอยู่ด้วย แต่ถึงจะไม่มีเขาก็ไม่ได้มีผลต่อชีวิตเท่าไร แค่ไม่ชินเล็กน้อย ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เกือบปี ฉินหลิวซีแทบจะอยู่กับน้องชายและหลี่เจิ้นหัวตลอด พอมีอะไรขาดหายไปจึงรู้สึกแปลก ๆเด็กหญิงอยู่บ้านกับน้องชายเกือบทุกวันตั้งแต่สหายผู้นั้นจากไป นางออกไปล่าสัตว์แค่เท่าที่จำเป็น ไม่ได้อยู่ทั้งวันเหมือนก่อน“ท่านพี่ ท่านอย่าเศร้าไปเลย เล่นกับข้าก็ได้นะ” น้องชายเห็นพี่สาวสีหน้าไม่สู้ดีก็คอยชวนนางทำนั่นทำนี่ เขาคิดถึงพี่ชายหลี่ พี่สาวก็คงคิดถึงเหมือนกันเห็นน้องชายพยายามเอาใจนาง ฉินหลิวซีก็ลูบศีรษะเขาด้วยความเอ็นดู มีน้องชายอีกคนที่คอยเอาใจใส่นางเช่นนี้ก็ทำให้ความเหงาคลายลงไป ชีวิตประจำวันค่อนข้างสงบสุข หากไม่นับเสียงรบกวนที่มักจะลอยมาเข้าหูอยู่ทุกวัน คนในบ้านนี้ก็ไม่มีความเกรงอกเกรงใจกันอยู่แล้ว เวลาประชดประชันก็ชอบพูดเสียงดังให้ได้ยินไปทั้งเรือนวันนี้ก็เช่นกัน“ทำไมนางถึงเอาแต่อยู่บ้านไม่ทำงานทำการ!”เสียงอาหญิงเล็กดังทะลุประตูมา ฉินซือหยวนที่เคยตกใจจนสะดุ้งตอนนี้ชินกับเสียงตวาดของคนในบ้าน

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status