Share

สาวน้อยกับการขายสมุนไพร 2

last update Last Updated: 2025-03-13 20:02:40

“เอาละ ๆ ขอโทษด้วย ข้าผิดเอง โสมนี้ห้าร้อย...”

“เจ็ดร้อย”

“หกร้อย”

“หนึ่งพัน”

“แปดร้อย”

“ข้าไม่ขาย” เด็กหญิงกอดอกอย่างไม่ยอม

“ได้ ๆ หนึ่งพันสองร้อยตำลึงทอง” เถ้าแก่ยอมแพ้ก่อนนางจะเปลี่ยนใจ รีบขึ้นไปบอกบุตรสาวให้นับเงินมาให้

ฉินก่วงได้ยินจำนวนเงินนั้นก็ตกใจตาค้าง ตอนแรกที่โต้เถียงกันอยู่นั้น เขานึกว่ามันอาจจะเป็นตำลึงเงินหรืออาจจะหูฝาดได้ยินผิดไป จริง ๆ อาจจะเป็นพันอีแปะ ผู้เป็นบิดายืนอึ้งไม่รู้สติ จนกระทั่งบุตรสาวได้รับเงินครบถ้วน นางจึงมาสะกิดเขาให้รู้ตัว

ฉินก่วงเดินเหม่อเกือบตลอดทางกลับบ้าน เขาไม่กล้าถามเลยว่า บุตรสาวไปหาของแบบนั้นมาได้อย่างไร เห็นสีหน้าผู้เป็นพ่อก็รู้ว่าเขาสงสัยแน่ หากไม่บอกอะไรเลยก็คงค้างคาใจอยู่แบบนี้

“ข้าได้บังเอิญช่วยชีวิตคนผู้หนึ่งเอาไว้ เขาจึงมอบสิ่งนี้ให้เป็นการตอบแทนน่ะเจ้าค่ะ” นางยิ้มใสซื่อให้ เห็นเช่นนั้นฉินก่วงก็ไม่กล้าถามอีก แม้จะมีความรู้สึกว่านางบอกไม่หมด แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรไปมากกว่านี้ ตราบใดที่ไ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการขายสมุนไพร 3

    ทั้งสองคนได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นของใหม่ที่ไม่มีรอยปะรอยขาด เป็นเรื่องปกติที่ใครก็ควรได้รับแท้ ๆ แต่เหมือนเป็นครั้งแรกที่ได้รับของเหล่านี้ ทั้งสองรู้สึกทั้งสุขทั้งเศร้าจนน้ำตาไหลออกมา ชิวย่าหนานเปลี่ยนชุดใหม่ให้บุตรชาย เห็นเขาได้ใส่เสื้อผ้าดี ๆ ก็ยิ่งร้องหนัก แต่ไม่ได้สะอื้นให้บุตรชายได้ยินหากนางมีความสามารถพอที่จะทำได้แบบนี้ก่อนหน้านี้ก็คงดีฉินหลิวซีนำตั๋วเงินจำนวนหนึ่งพันตำลึงยื่นไปให้ผู้เป็นอาจารย์ นางเก็บเอาไว้ไม่ถึงร้อยตำลึง เพราะให้บิดาไปบ้างและยังซื้อข้าวของไปไม่น้อย“สิ่งนี้คือ?”“เงินที่ท่านอาจารย์ออกหน้าช่วยไว้ ข้าขอคืนให้เจ้าค่ะ”นี่ก็ทำให้เขาอึ้งอีกแล้ว ตั้งแต่ตอนที่บอกว่าจะซื้อที่ดินสร้างบ้าน นี่ยังนำเงินมาคืนเขาอีก เด็กคนนี้มีเงินติดตัวอยู่เท่าไรกันแน่แต่ถามไปก็คงไม่บอกสินะ“ข้าไม่อยากรู้สึกว่า ตนเองติดหนี้บุญคุณใคร อาจารย์โปรดรับไว้ด้วย”“ก็ได้ ตามใจเจ้า” เขารับตั๋วเงินใบนั้นเก็บเข้าไปในอกเสื้ออย่างว่าง่าย เพียงเจอนางไม่กี่ครั้งก็พอจะคาดเดานิสัยนางได้แล้ว เขาต้องกา

    Last Updated : 2025-03-14
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการวางแผนลง 1

    “ก่อเกิดลมปราณแบ่งได้เป็นระดับขั้นใหญ่ ๆ แปดขั้น สามขั้นแรกต้องผ่านขั้นย่อยเก้าขั้นจึงจะไปสู่ขั้นถัดไปได้ เมื่อไปถึงปฐพีลมปราณที่เป็นขั้นที่สี่ ต้องผ่านขั้นย่อยทั้งสิ้นห้าขั้น จึงจะไปถึงก่อกำเนิดเซียนที่เป็นขั้นห้า พวกขั้นน้อยใหญ่เหล่านี้ บางคนฝึกทั้งชีวิตก็ไม่อาจไปถึงได้ เจ้าอายุเพียงเท่านี้ แต่มาถึงขั้นห้าได้นับว่ามีพรสวรรค์ในหมู่ผู้มีพรสวรรค์”นอกจากขั้นของผู้ฝึกตนเหล่านี้แล้ว ยังมีขั้นของสัตว์อสูรและผู้ปรุงโอสถที่นางต้องจดจำ ธาตุหลักทั้งสี่ส่งผลต่อกันอย่างไรนางก็ต้องรู้ ต่อต้านกันอย่างไรนางก็ต้องเข้าใจให้ชัดแจ้ง หากสามารถเข้าใจศาสตร์เหล่านี้ได้อย่างถ่องแท้ นางอาจสามารถผสานธาตุต่าง ๆ เพื่อใช้งานได้สัตว์อสูรมีเจ็ดขั้นใหญ่ ๆ ความสามารถของมันเพราะบ่งบอกถึงความยากในการจับและเอาชนะ ก่อเกิด ก่อกำเนิด จักรพรรดิ เซียน บรรพกาล เทพ และเทวะ ในเจ็ดขั้นนี้มีเพียงสามขั้นแรกที่สามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีกสิบระดับสายผู้ปรุงโอสถที่อาจารย์ของนางชำนาญก็มีความชำนาญแบ่งตามระดับขั้นเช่นกัน แต่อาจารย์บอกให้นางเรียนรู้ไปก่อน เรื่องขั้นลำดับยังไม่ต้องไปจำนักก็ได้ฉินหลิวซีเห็นด้วย บางอย่างต่อให้จำไปก็เท่านั

    Last Updated : 2025-03-16
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการวางแผนลง 2

    “เรื่องนี้ข้าก็คิดว่าจะหาเวลาไปคุยกับท่านอยู่พอดี อาจารย์ของข้าไม่ปักหลักอยู่ที่เมืองใดนาน อีกไม่นานก็จะเดินทางไปจากเมืองนี้ และข้าก็จะติดตามไปด้วย หากเป็นไปได้ข้าก็อยากให้บ้านเสร็จก่อนออกเดินทาง”“ข้าพอรู้อยู่ว่าสกุลฉินเป็นอย่างไร เห็นด้วยอย่างที่เจ้าว่า ข้าจะเร่งมือให้”“ขอบคุณท่านลุงที่ช่วยเหลือ” นางประสานมือก้มหน้าลงแสดงการขอบคุณ ทั้งสองพูดคุยกันเรื่องแบบบ้านที่นางต้องการเพิ่มเติมจากคราวก่อน ไม่นานหลังจากนั้นอีกฝ่ายก็กลับไปโดยเข้าไปพบหมอเทวดาครั้งหนึ่งเพื่อทักทาย“ตัดสินใจแน่แล้วหรือว่าจะไปกับข้า” ซุนเป่ยฉีได้ยินเรื่องที่คุยกันทั้งหมด แต่เขายังไม่ได้บอกนางว่ากำหนดจะออกเดินทางเมื่อใด ไม่คิดว่านางจะคาดการณ์ล่วงหน้าไปถึงขั้นนั้นแล้ว“แน่นอนเจ้าค่ะ ท่านเป็นอาจารย์ของข้า ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะเรียนรู้จากท่าน ย่อมต้องติดตามท่านไปแน่นอน” ฉินหลิวซีตอบรับอย่างหนักแน่น นางอยากท่องโลกกว้างใบนี้ นางเชื่อว่าโลกใบนี้ยังมีอะไรน่าสนใจรออยู่มากมาย เพราะที่นางอยู่เป็นเพียงแค่หมู่บ้านเล็ก ๆ เท่านั้น “ท่านพี่จะไปหรือ” ฉินซือหยวนเดินเกาะชายกางเกงผู้เป็นอาจารย์ของพี่สาวออกมา ดวงตาปรือปรอยเหมือนพึ่งตื่นจ

    Last Updated : 2025-03-16
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการเปลี่ยนแปลงคนในครอบครัว 1

    หลังจากได้ปรึกษาซุนเป่ยฉี อาจารย์ของนางจะอยู่ที่นี่อีกหนึ่งเดือน และเดินทางไปยังเมืองอื่นถึงห้าเดือน รวมเวลาเกือบครึ่งปีจึงจะวนกลับมารับฉินหลิวซีเพื่อไปศึกษาในฐานะลูกศิษย์เต็มตัว ระหว่างนั้นนางต้องเป็นผู้ฝึกสอนการใช้ปราณให้คนในบ้าน ทว่าเรื่องนี้นางยังไม่แน่ใจนักว่า พวกเขาจะเห็นด้วยหรือไม่ หากปฏิเสธนางคงต้องเกลี้ยกล่อมหนักหน่อย เพราะไม่อยากให้ครอบครัวถูกผู้อื่นรังแกตอนที่นางไม่อยู่วันนั้นหลังจากกลับมาบ้าน ฉินหลิวซีก็ขอคุยกับพ่อแม่อย่างจริงจังหลังอาหารมื้อเย็น เห็นบุตรสาวทำหน้าจริงจังพวกเขาก็รู้สึกหวั่นใจ จะถามก่อนก็ไม่กล้าจึงได้แต่รอให้ฉินหลิวซีเป็นผู้เอ่ยขึ้นก่อน“ข้ารู้สึกเป็นห่วงคนข้างหลัง การติดตามอาจารย์นั้นไม่มีทางจบในวันสองวัน นอกจากนี้อาจารย์เป็นหมอเทวดา ต้องออกเดินทางรักษาผู้คนไปตามเมืองต่าง ๆ ลูกผู้เป็นศิษย์ย่อมต้องติดตามไปดูแลปรนนิบัติท่านด้วย การไปศึกษาสถานการณ์จริงย่อมต้องเพิ่มประสบการณ์ให้ข้า ทว่าการจะให้ทิ้งพวกท่านไปก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง” การเดินทางแต่ละครั้งอย่างเร็วสุดก็คงครึ่งปีถึงจะกลับมาเยี่ยมบ้านได้ อย่างที่อาจารย์ของนางเล่าว่าที่เดินทางออกไปนั้นกินเวล

    Last Updated : 2025-03-16
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการเปลี่ยนแปลงคนในครอบครัว 2

    “วันนี้ขอรบกวนด้วยนะเจ้าคะ” ชิวย่าหนานกับสามีโค้งลงให้อาจารย์ของบุตรสาว นางมีของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดมือมาเป็นมารยาทซุนเป่ยฉีหันไปถามเรื่องราว จนได้ความว่าทั้งสองรู้เรื่องเพียงคร่าว ๆ หมอเทวดาพาทั้งคู่มานั่งด้านในเรือน นำน้ำชามารับรอง ทั้งสองมองดูบุตรสาวปรนนิบัติผู้เป็นอาจารย์อย่างคล่องมือ“พวกท่านตัดสินใจอย่างใดหลังจากได้ฟังเรื่องที่นางพูด”“ข้ายังลังเล เพราะเงินที่เสียไปนั้นเหมือนว่าชาตินี้ข้าก็ไม่มีทางหาได้ การต้องแลกเปลี่ยนดูเป็นน้ำหนักที่มากมาย” ชิวย่าหนานเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าลำบากใจ“การแลกเปลี่ยนย่อมต้องเท่าเทียม ผู้ใหญ่อย่างพวกท่านนั้นมีอยู่มากมายที่รู้สึกเสียดายกับการฝึกตน แต่ในเมื่อพวกท่านไม่ได้เป็นผู้รู้สึกเสียดาย ก็ต้องถามความสมัครใจ สำหรับผู้อยากย้อนเวลาแต่ทำไม่ได้ เพราะเวลาไม่เคยเป็นมิตรกับใคร จึงได้คิดค้นยาเม็ดนี้ขึ้นมา ซึ่งวัตถุดิบของมันก็ไม่ใช่ว่าหาง่าย”“นั่นละขอรับ มันต้องมากมายถึงขนาดนั้นเชียวหรือ” ฉินก่วงก็รู้สึกลำบากใจไม่แพ้ภรรยา หากพวกเขาหาเงินจำนวนนั้นไม่ได้จะเป็นอย่างไร ไม่ต้องรอไปจนสิ้นอายุขัยหรือ“นางจะเป็นห่วงพวกท่านนั้นก็ไม่แปลก เพราะนางรู้ดีว่าคนที่มีวิชากั

    Last Updated : 2025-03-16
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการช่วยบิดามารดา 1

    หมอเทวดาให้ยืมห้องพักด้านใน เด็กหญิงเตรียมการทุกอย่างพร้อมแล้ว บิดามารดานอนลงบนฟูกที่เตรียมไว้ด้วยหัวใจเต้นระรัว ทั้งกลัว ทั้งกังวล และคาดหวังในเวลาเดียวกัน“ไม่ว่าจะเจ็บปวดอย่างไร ก็ขออย่ายอมแพ้และถอดใจจนกว่าจะถึงที่สุดนะเจ้าคะ” นางเอ่ยย้ำอีกครั้งแล้วยื่นถ้วยยาให้ทั้งสองคนชิวย่าหนานกับฉินก่วงมองยาในถ้วยก่อนจะหันมองหน้ากัน ตัดสินใจแน่วแน่แล้วก็กลืนยาลงไปในอึกเดียวเสียงกรีดร้องอย่างทรมานดังออกมาจากห้องด้านในสุด ฉินหลิวซีถือกระบวยใบหนึ่งคอยตักน้ำพุวิญญาณกรอกปากทั้งสองคนที่กำลังทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด การเปลี่ยนแปลงของร่างกายส่งผลอย่างเห็นได้ชัด ปราณในกายที่ถูกบีบและรีดเค้นให้ออกมากำลังเดือดพล่านอย่างมากซุนเป่ยฉีกางเขตแดนเอาไว้ระหว่างตัวบ้านกับภายนอก ทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงที่ดังลั่นออกมา พร้อมช่วยส่งปราณเข้าไปในร่างของทั้งคู่เพื่อนำทางให้ปราณกรุยเส้นลมปราณได้ง่ายขึ้น และสอนวิธีให้ขับเคลื่อนลมปราณไปพร้อมกันเวลาผ่านไปยาวนานร่วมห้าชั่วยาม ดวงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่โผล่พ้นจากขอบฟ้าขึ้นมาจนล่วงเข้ายามสายเสียงกรีดร้องนั้นจึงค่อยสงบลงสามีภรรยาตระกูลรองนอนหลับสนิททั้งที่เหงื่อโซมกาย ฉินหลิ

    Last Updated : 2025-03-16
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   หญิงสาวในวันสิ้นโลก

    วันโลกาวินาศในนิยามของใครหลายคน อาจไม่เหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือความหายนะที่มาเยือน ความเท่าเทียมที่ไม่ว่าสถานะของเจ้าตัวจะเป็นราชาหรือสามัญชนก็หนีไม่พ้น จะช้าหรือเร็วก็เท่านั้นแต่ตรรกะของความเท่าเทียมที่เธอคิดนั้นก็พังทลายเพราะสิ่งที่ตัวเองมีฉินหลิวซีในวัยสามสิบปียังคงต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในโลกที่ไวรัสปริศนากำลังระบาด และเป็นเช่นนี้มากว่าสิบปีแล้ว ไวรัสไม่ทราบที่มานี้คร่าชีวิตคนไปหลายพันล้าน และเปลี่ยนพวกเขาให้กลายเป็นซอมบี้ที่ฉินหลิวซีสามารถอยู่รอดมาได้เป็นสิบปี เพราะพลังพิเศษที่ตื่น เธอมีมิติที่สามารถเก็บของได้ แม้มีพื้นที่จำกัดขนาดประมาณหนึ่งห้อง และเธอไม่สามารถเข้าไปอยู่ได้เอง แต่แค่นั้นก็ทำให้เธอได้เปรียบคนอื่นมากแล้วเมื่อมนุษย์โลกมีจำนวนน้อยลง คนในศูนย์อพยพก็มีอัตราการแย่งชิงที่น้อย เพราะอาหารไม่ขาดแคลนเท่าแต่ก่อน ทว่าตัวเจ้าหน้าที่ที่ประจำแต่ละศูนย์ก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน กลับกันฝูงซอมบี้ที่ด้านนอกนั้นเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ“ฉินหลิวซีเธอไปเอาอาหารหรือยัง” เพื่อนในค่ายอพยพคนหนึ่งถามเธอที่กำลังใจลอย“อ่า อื้ม ไปเอามาแล้วละ” หญิงสาวตอบกลับไปยิ้ม ๆ“ได้ยินมาว่ามีผู้อพ

    Last Updated : 2025-02-24
  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   จุดจบของคนไร้ประโยชน์

    “อาหารของพวกเราไม่เพียงพออีกแล้ว! ต่อไปนี้ใครที่ต้องการอาหารต้องมาช่วยกำจัดซอมบี้ข้างนอกนั่น! เราจะให้อาหารแก่ผู้ที่ลงมือ!” เสียงเจ้าหน้าที่คนหนึ่งตะเบ็งบอกให้ได้ยินกันทั่วโถง สิ้นเสียงของเขาก็ตามมาด้วยเสียงฮือฮาของพลเมืองที่ไม่พอใจการตัดสินนั้น“ถ้าไม่ทำก็ออกไปเป็นอาหารซอมบี้เองเถอะ!” เจ้าหน้าที่รายนี้ไม่สนว่าจะมีคนไม่พอใจหรือไม่ เพราะสถานการณ์ไม่เอื้อให้เหลือการประนีประนอมอีก“กลุ่มแรก ใครอาสาให้มาที่นี่” เจ้าหน้าที่นายหนึ่งยกธงขึ้นเป็นสัญลักษณ์ พวกเขาใช้เสียงสดในการประกาศจึงต้องใช้งานลำคอมาก บางครั้งก็เหมือนตะคอกทั้งที่ไม่ตั้งใจฉินหลิวซีเห็นใจเจ้าหน้าที่บางคนที่ต้องรับมือกับสถานการณ์อันยากลำบากนี้ ส่วนคนที่ทำงานนี้แบบส่ง ๆ เธอไม่มีใจจะสงสารแม้แต่เสี้ยวเดียว จริงอยู่ว่าเจ้าหน้าที่มีจำนวนไม่พอมานานแล้วจึงต้องรับอาสาสมัครอยู่เรื่อย ๆ แต่คนที่รับงานนี้แค่เพราะอยากกร่างและใช้อำนาจข่มเหงคนอื่นก็มีไม่น้อยฉินหลิวซีเข้าไปเป็นอาสาสมัครในกลุ่มแรก หญิงสาวแซ่ฉินเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาดีของเจ้าหน้าที่เวลาร้องขออาสาสมัคร แม้เธอจะไม่ได้ร่วมทุกครั้ง แต่ก็เป็นส่วนใหญ่ที่จะมีชื่อเธอปรากฏอยู่ฉินหลิ

    Last Updated : 2025-02-24

Latest chapter

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการช่วยบิดามารดา 1

    หมอเทวดาให้ยืมห้องพักด้านใน เด็กหญิงเตรียมการทุกอย่างพร้อมแล้ว บิดามารดานอนลงบนฟูกที่เตรียมไว้ด้วยหัวใจเต้นระรัว ทั้งกลัว ทั้งกังวล และคาดหวังในเวลาเดียวกัน“ไม่ว่าจะเจ็บปวดอย่างไร ก็ขออย่ายอมแพ้และถอดใจจนกว่าจะถึงที่สุดนะเจ้าคะ” นางเอ่ยย้ำอีกครั้งแล้วยื่นถ้วยยาให้ทั้งสองคนชิวย่าหนานกับฉินก่วงมองยาในถ้วยก่อนจะหันมองหน้ากัน ตัดสินใจแน่วแน่แล้วก็กลืนยาลงไปในอึกเดียวเสียงกรีดร้องอย่างทรมานดังออกมาจากห้องด้านในสุด ฉินหลิวซีถือกระบวยใบหนึ่งคอยตักน้ำพุวิญญาณกรอกปากทั้งสองคนที่กำลังทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด การเปลี่ยนแปลงของร่างกายส่งผลอย่างเห็นได้ชัด ปราณในกายที่ถูกบีบและรีดเค้นให้ออกมากำลังเดือดพล่านอย่างมากซุนเป่ยฉีกางเขตแดนเอาไว้ระหว่างตัวบ้านกับภายนอก ทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงที่ดังลั่นออกมา พร้อมช่วยส่งปราณเข้าไปในร่างของทั้งคู่เพื่อนำทางให้ปราณกรุยเส้นลมปราณได้ง่ายขึ้น และสอนวิธีให้ขับเคลื่อนลมปราณไปพร้อมกันเวลาผ่านไปยาวนานร่วมห้าชั่วยาม ดวงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่โผล่พ้นจากขอบฟ้าขึ้นมาจนล่วงเข้ายามสายเสียงกรีดร้องนั้นจึงค่อยสงบลงสามีภรรยาตระกูลรองนอนหลับสนิททั้งที่เหงื่อโซมกาย ฉินหลิ

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการเปลี่ยนแปลงคนในครอบครัว 2

    “วันนี้ขอรบกวนด้วยนะเจ้าคะ” ชิวย่าหนานกับสามีโค้งลงให้อาจารย์ของบุตรสาว นางมีของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดมือมาเป็นมารยาทซุนเป่ยฉีหันไปถามเรื่องราว จนได้ความว่าทั้งสองรู้เรื่องเพียงคร่าว ๆ หมอเทวดาพาทั้งคู่มานั่งด้านในเรือน นำน้ำชามารับรอง ทั้งสองมองดูบุตรสาวปรนนิบัติผู้เป็นอาจารย์อย่างคล่องมือ“พวกท่านตัดสินใจอย่างใดหลังจากได้ฟังเรื่องที่นางพูด”“ข้ายังลังเล เพราะเงินที่เสียไปนั้นเหมือนว่าชาตินี้ข้าก็ไม่มีทางหาได้ การต้องแลกเปลี่ยนดูเป็นน้ำหนักที่มากมาย” ชิวย่าหนานเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าลำบากใจ“การแลกเปลี่ยนย่อมต้องเท่าเทียม ผู้ใหญ่อย่างพวกท่านนั้นมีอยู่มากมายที่รู้สึกเสียดายกับการฝึกตน แต่ในเมื่อพวกท่านไม่ได้เป็นผู้รู้สึกเสียดาย ก็ต้องถามความสมัครใจ สำหรับผู้อยากย้อนเวลาแต่ทำไม่ได้ เพราะเวลาไม่เคยเป็นมิตรกับใคร จึงได้คิดค้นยาเม็ดนี้ขึ้นมา ซึ่งวัตถุดิบของมันก็ไม่ใช่ว่าหาง่าย”“นั่นละขอรับ มันต้องมากมายถึงขนาดนั้นเชียวหรือ” ฉินก่วงก็รู้สึกลำบากใจไม่แพ้ภรรยา หากพวกเขาหาเงินจำนวนนั้นไม่ได้จะเป็นอย่างไร ไม่ต้องรอไปจนสิ้นอายุขัยหรือ“นางจะเป็นห่วงพวกท่านนั้นก็ไม่แปลก เพราะนางรู้ดีว่าคนที่มีวิชากั

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการเปลี่ยนแปลงคนในครอบครัว 1

    หลังจากได้ปรึกษาซุนเป่ยฉี อาจารย์ของนางจะอยู่ที่นี่อีกหนึ่งเดือน และเดินทางไปยังเมืองอื่นถึงห้าเดือน รวมเวลาเกือบครึ่งปีจึงจะวนกลับมารับฉินหลิวซีเพื่อไปศึกษาในฐานะลูกศิษย์เต็มตัว ระหว่างนั้นนางต้องเป็นผู้ฝึกสอนการใช้ปราณให้คนในบ้าน ทว่าเรื่องนี้นางยังไม่แน่ใจนักว่า พวกเขาจะเห็นด้วยหรือไม่ หากปฏิเสธนางคงต้องเกลี้ยกล่อมหนักหน่อย เพราะไม่อยากให้ครอบครัวถูกผู้อื่นรังแกตอนที่นางไม่อยู่วันนั้นหลังจากกลับมาบ้าน ฉินหลิวซีก็ขอคุยกับพ่อแม่อย่างจริงจังหลังอาหารมื้อเย็น เห็นบุตรสาวทำหน้าจริงจังพวกเขาก็รู้สึกหวั่นใจ จะถามก่อนก็ไม่กล้าจึงได้แต่รอให้ฉินหลิวซีเป็นผู้เอ่ยขึ้นก่อน“ข้ารู้สึกเป็นห่วงคนข้างหลัง การติดตามอาจารย์นั้นไม่มีทางจบในวันสองวัน นอกจากนี้อาจารย์เป็นหมอเทวดา ต้องออกเดินทางรักษาผู้คนไปตามเมืองต่าง ๆ ลูกผู้เป็นศิษย์ย่อมต้องติดตามไปดูแลปรนนิบัติท่านด้วย การไปศึกษาสถานการณ์จริงย่อมต้องเพิ่มประสบการณ์ให้ข้า ทว่าการจะให้ทิ้งพวกท่านไปก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง” การเดินทางแต่ละครั้งอย่างเร็วสุดก็คงครึ่งปีถึงจะกลับมาเยี่ยมบ้านได้ อย่างที่อาจารย์ของนางเล่าว่าที่เดินทางออกไปนั้นกินเวล

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการวางแผนลง 2

    “เรื่องนี้ข้าก็คิดว่าจะหาเวลาไปคุยกับท่านอยู่พอดี อาจารย์ของข้าไม่ปักหลักอยู่ที่เมืองใดนาน อีกไม่นานก็จะเดินทางไปจากเมืองนี้ และข้าก็จะติดตามไปด้วย หากเป็นไปได้ข้าก็อยากให้บ้านเสร็จก่อนออกเดินทาง”“ข้าพอรู้อยู่ว่าสกุลฉินเป็นอย่างไร เห็นด้วยอย่างที่เจ้าว่า ข้าจะเร่งมือให้”“ขอบคุณท่านลุงที่ช่วยเหลือ” นางประสานมือก้มหน้าลงแสดงการขอบคุณ ทั้งสองพูดคุยกันเรื่องแบบบ้านที่นางต้องการเพิ่มเติมจากคราวก่อน ไม่นานหลังจากนั้นอีกฝ่ายก็กลับไปโดยเข้าไปพบหมอเทวดาครั้งหนึ่งเพื่อทักทาย“ตัดสินใจแน่แล้วหรือว่าจะไปกับข้า” ซุนเป่ยฉีได้ยินเรื่องที่คุยกันทั้งหมด แต่เขายังไม่ได้บอกนางว่ากำหนดจะออกเดินทางเมื่อใด ไม่คิดว่านางจะคาดการณ์ล่วงหน้าไปถึงขั้นนั้นแล้ว“แน่นอนเจ้าค่ะ ท่านเป็นอาจารย์ของข้า ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะเรียนรู้จากท่าน ย่อมต้องติดตามท่านไปแน่นอน” ฉินหลิวซีตอบรับอย่างหนักแน่น นางอยากท่องโลกกว้างใบนี้ นางเชื่อว่าโลกใบนี้ยังมีอะไรน่าสนใจรออยู่มากมาย เพราะที่นางอยู่เป็นเพียงแค่หมู่บ้านเล็ก ๆ เท่านั้น “ท่านพี่จะไปหรือ” ฉินซือหยวนเดินเกาะชายกางเกงผู้เป็นอาจารย์ของพี่สาวออกมา ดวงตาปรือปรอยเหมือนพึ่งตื่นจ

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการวางแผนลง 1

    “ก่อเกิดลมปราณแบ่งได้เป็นระดับขั้นใหญ่ ๆ แปดขั้น สามขั้นแรกต้องผ่านขั้นย่อยเก้าขั้นจึงจะไปสู่ขั้นถัดไปได้ เมื่อไปถึงปฐพีลมปราณที่เป็นขั้นที่สี่ ต้องผ่านขั้นย่อยทั้งสิ้นห้าขั้น จึงจะไปถึงก่อกำเนิดเซียนที่เป็นขั้นห้า พวกขั้นน้อยใหญ่เหล่านี้ บางคนฝึกทั้งชีวิตก็ไม่อาจไปถึงได้ เจ้าอายุเพียงเท่านี้ แต่มาถึงขั้นห้าได้นับว่ามีพรสวรรค์ในหมู่ผู้มีพรสวรรค์”นอกจากขั้นของผู้ฝึกตนเหล่านี้แล้ว ยังมีขั้นของสัตว์อสูรและผู้ปรุงโอสถที่นางต้องจดจำ ธาตุหลักทั้งสี่ส่งผลต่อกันอย่างไรนางก็ต้องรู้ ต่อต้านกันอย่างไรนางก็ต้องเข้าใจให้ชัดแจ้ง หากสามารถเข้าใจศาสตร์เหล่านี้ได้อย่างถ่องแท้ นางอาจสามารถผสานธาตุต่าง ๆ เพื่อใช้งานได้สัตว์อสูรมีเจ็ดขั้นใหญ่ ๆ ความสามารถของมันเพราะบ่งบอกถึงความยากในการจับและเอาชนะ ก่อเกิด ก่อกำเนิด จักรพรรดิ เซียน บรรพกาล เทพ และเทวะ ในเจ็ดขั้นนี้มีเพียงสามขั้นแรกที่สามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีกสิบระดับสายผู้ปรุงโอสถที่อาจารย์ของนางชำนาญก็มีความชำนาญแบ่งตามระดับขั้นเช่นกัน แต่อาจารย์บอกให้นางเรียนรู้ไปก่อน เรื่องขั้นลำดับยังไม่ต้องไปจำนักก็ได้ฉินหลิวซีเห็นด้วย บางอย่างต่อให้จำไปก็เท่านั

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการขายสมุนไพร 3

    ทั้งสองคนได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นของใหม่ที่ไม่มีรอยปะรอยขาด เป็นเรื่องปกติที่ใครก็ควรได้รับแท้ ๆ แต่เหมือนเป็นครั้งแรกที่ได้รับของเหล่านี้ ทั้งสองรู้สึกทั้งสุขทั้งเศร้าจนน้ำตาไหลออกมา ชิวย่าหนานเปลี่ยนชุดใหม่ให้บุตรชาย เห็นเขาได้ใส่เสื้อผ้าดี ๆ ก็ยิ่งร้องหนัก แต่ไม่ได้สะอื้นให้บุตรชายได้ยินหากนางมีความสามารถพอที่จะทำได้แบบนี้ก่อนหน้านี้ก็คงดีฉินหลิวซีนำตั๋วเงินจำนวนหนึ่งพันตำลึงยื่นไปให้ผู้เป็นอาจารย์ นางเก็บเอาไว้ไม่ถึงร้อยตำลึง เพราะให้บิดาไปบ้างและยังซื้อข้าวของไปไม่น้อย“สิ่งนี้คือ?”“เงินที่ท่านอาจารย์ออกหน้าช่วยไว้ ข้าขอคืนให้เจ้าค่ะ”นี่ก็ทำให้เขาอึ้งอีกแล้ว ตั้งแต่ตอนที่บอกว่าจะซื้อที่ดินสร้างบ้าน นี่ยังนำเงินมาคืนเขาอีก เด็กคนนี้มีเงินติดตัวอยู่เท่าไรกันแน่แต่ถามไปก็คงไม่บอกสินะ“ข้าไม่อยากรู้สึกว่า ตนเองติดหนี้บุญคุณใคร อาจารย์โปรดรับไว้ด้วย”“ก็ได้ ตามใจเจ้า” เขารับตั๋วเงินใบนั้นเก็บเข้าไปในอกเสื้ออย่างว่าง่าย เพียงเจอนางไม่กี่ครั้งก็พอจะคาดเดานิสัยนางได้แล้ว เขาต้องกา

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการขายสมุนไพร 2

    “เอาละ ๆ ขอโทษด้วย ข้าผิดเอง โสมนี้ห้าร้อย...”“เจ็ดร้อย”“หกร้อย”“หนึ่งพัน”“แปดร้อย”“ข้าไม่ขาย” เด็กหญิงกอดอกอย่างไม่ยอม“ได้ ๆ หนึ่งพันสองร้อยตำลึงทอง” เถ้าแก่ยอมแพ้ก่อนนางจะเปลี่ยนใจ รีบขึ้นไปบอกบุตรสาวให้นับเงินมาให้ฉินก่วงได้ยินจำนวนเงินนั้นก็ตกใจตาค้าง ตอนแรกที่โต้เถียงกันอยู่นั้น เขานึกว่ามันอาจจะเป็นตำลึงเงินหรืออาจจะหูฝาดได้ยินผิดไป จริง ๆ อาจจะเป็นพันอีแปะ ผู้เป็นบิดายืนอึ้งไม่รู้สติ จนกระทั่งบุตรสาวได้รับเงินครบถ้วน นางจึงมาสะกิดเขาให้รู้ตัวฉินก่วงเดินเหม่อเกือบตลอดทางกลับบ้าน เขาไม่กล้าถามเลยว่า บุตรสาวไปหาของแบบนั้นมาได้อย่างไร เห็นสีหน้าผู้เป็นพ่อก็รู้ว่าเขาสงสัยแน่ หากไม่บอกอะไรเลยก็คงค้างคาใจอยู่แบบนี้“ข้าได้บังเอิญช่วยชีวิตคนผู้หนึ่งเอาไว้ เขาจึงมอบสิ่งนี้ให้เป็นการตอบแทนน่ะเจ้าค่ะ” นางยิ้มใสซื่อให้ เห็นเช่นนั้นฉินก่วงก็ไม่กล้าถามอีก แม้จะมีความรู้สึกว่านางบอกไม่หมด แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรไปมากกว่านี้ ตราบใดที่ไ

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยกับการขายสมุนไพร 1

    “เจ้าค่ะ เดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ” นางมาส่งเขาที่หน้าบ้านก่อนจะกลับเข้าไปพักผ่อนปัญหาเท่านี้ยังไม่จบ ถึงแม้อาจารย์จะเมตตาซื้อตัวมา แต่นางก็ไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร เห็นทีจะต้องใช้ไม้ตายก้นหีบเสียแล้ว นางเก็บสมุนไพรราคาสูงเอาไว้ในมิติจำนวนมากก็เพื่อการนี้ นางอยากรีบเรียนวิชาแพทย์ให้กระจ่างก็จริง แต่ไม่อยากอยู่ตัวติดกับอาจารย์ผู้นั้นไปตลอดชีวิตเพียงเพราะว่าเป็นหนี้บุญคุณ หลังจากสำเร็จวิชาจนแตกฉานพอแล้วอย่างไรนางก็จะแยกตัวออกไปอยู่ดี การเลือกจะเป็นหนี้บุญคุณนั้นตัดออกไปจากตัวเลือกนางได้เลยคืนนั้นฉินหลิวซีนอนดึกกว่าใคร หลังจากทุกคนในบ้านหลับ นางก็แอบเข้าไปในมิติเพื่อนำโสมออกมาไว้ในถุงเฉียนคุณที่หลี่เจิ้นหัวเคยให้เป็นตัวแทนมิตรภาพระหว่างพวกเขา โสมยิ่งแก่ยิ่งมีสรรพคุณดีเลิศและยิ่งราคาสูง ต้นที่นางเลือกหยิบมานี้ราคาไม่มีทางต่ำกว่าหนึ่งร้อยตำลึงทอง จากที่ดูตลาดตอนนี้ นางมีเพดานที่ตั้งเป้าไว้ในการขายมันพรุ่งนี้มาดูกันว่าจะได้สักเท่าไรเมื่อหาทางออกของปัญหาให้ตนเองได้แล้วความกังวลใจก็หมดไป คืนนั้นเป็นคืนแรกที่ครอบครัวบุตรคนรองของบ้านสกุลฉินได้หลับ

  • สาวน้อยผู้นำพาครอบครัวสู่ความมั่งคั่ง   สาวน้อยยินดีที่ได้แยกบ้านแล้ว 2

    แต่ไม่ใช่เลย ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยน มันยังเป็นเหมือนเดิมตลอด มีแต่เขาที่ปิดหูปิดตาไม่รับรู้ความจริง ลูกคนรองของบ้านหยัดกายขึ้นยืนเต็มความสูง ที่ผ่านมาก็เป็นครอบครัวเขาเสียส่วนใหญ่ที่หาเลี้ยงคนในบ้าน ลงแรงมากกว่าใคร แต่ไม่เคยได้เงินและอาหารดี ๆ กิน เช่นนั้นแล้วทนอยู่เพื่ออะไร“ท่านแม่ ข้าซาบซึ้งในบุญคุณของท่านที่ชุบเลี้ยงมาจนถึงป่านนี้ แต่ให้ข้าเมินเฉยต่อไปนั้นทำไม่ได้อีกแล้ว”“พูดเพ้อเจ้ออะไรของเจ้า!”“ตั้งแต่นี้ครอบครัวของข้าจะขอแยกตัวออกไปอยู่กันเอง”“หา!? พูดไร้สาระอะไรออกมา น้ำหน้าอย่างเจ้าน่ะหรือจะทำอะไรเองได้ แยกบ้าน พูดอะไรไร้สาระ!”คำพูดนั้นของบิดาแม้แต่ฉินหลิวซียังนึกว่าชาตินี้คงไม่ได้ยิน นางรู้สึกประหลาดใจและทึ่งอยู่หน่อย ๆ เกือบวางถาดน้ำชาแล้วปรบมือให้แล้วเชียว ถ้าบิดามีความคิดอย่างนี้ละก็ ยุให้แตกไปตอนนี้เลยดีที่สุด เด็กหญิงเห็นความหวังที่จะออกไปอยู่เองขึ้นมาชัดเจนขึ้น นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ในชีวิตก็ได้ นางไม่ยอมให้หลุดมือไปแน่“ท่านพ่อ” ฉินหลิวซีเรียกบิดาอย่า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status