Share

สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน
สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน
Auteur: ชงเมิ่ง

​ บทนำ

last update Dernière mise à jour: 2025-02-13 15:14:05

บทนำ

“ซ่งต้าลู่! เจ้าเด็กขี้เกียจ เหตุใดวันนี้ไม่ไปทำนา!”

“ท่านป้าใหญ่ อาไป๋ไม่สบายขอรับ วันนี้ข้าจึงต้องดูแลนาง”

“ก็แค่เป็นไข้จะต้องดูแลอะไรกันมากมาย อาหานก็อยู่ไม่ใช่หรือไง”

“น้องเล็กยังเด็กไม่รู้จักวิธีดูแลคน ท่านป้าใหญ่วันนี้ข้าไปช่วยงานท่านไม่ได้จริงๆ ขอรับ”

“หน๊อย! เจ้าเด็กสารเลวกล้าต่อปากต่อคำกับข้าหรือ ดี! ในเมื่อวันนี้เจ้าไม่ทำงาน เช่นนั้นก็ไม่ต้องกินข้าว”

เสียงที่ไม่คุ้นหูดังขึ้น ซ่งไป๋ลู่ค่อยๆ ปรือตาตื่นภาพตรงหน้าแม้ไม่ชัดเจน หากแต่ก็ทำให้คิ้วเล็กขมวดเข้าหากันแน่น

ที่นี่... ที่ไหนกัน ในขณะที่กำลังตั้งคำถามกับตนเอง ภาพเรื่องราวต่างๆ ที่ไม่เคยพบเจอ ก็ไหลเข้ามาในความคิด ซ่งไป๋ลู่ เจ้าของชื่อที่เหมือนกับนางผู้นี้เป็นบุตรคนที่สองของ ซ่งไห่เฟิง ปีนี้นับอายุได้สิบขวบ ส่วนเด็กชายที่กำลังเช็ดตัวให้นางอยู่ตอนนี้คือ ซ่งต้าลู่ พี่ชายคนโตวัยสิบสี่ปีของนาง

“น้องเล็กเจ้ามาเช็ดตัวให้พี่รองของเจ้า พี่ใหญ่จะไปต้มข้าว”

สิ้นคำสั่งของซ่งต้าลู่ ซ่งหานลู่เด็กชายวัยห้าขวบที่ร่างกายผอมแห้งแคะแกรนราวกับมีอายุเพียงสามขวบก็ปีนขึ้นเตียงมานั่งข้างๆ นาง มือเล็กๆ ของเขาหยิบผ้าสีหม่นบิดน้ำเช็ดตัวให้นางอย่างใส่ใจ

“พี่รอง ท่านหนาวหรือไม่”

น้ำเสียงที่เอ่ยถามด้วยความห่วงใยแฝงความหวาดกลัวอยู่ในที หากแต่ซ่งไป๋ลู่ที่กำลังสับสนกับเรื่องราวตรงหน้าไม่มีเวลามาวิเคาะห์ผู้อื่นทำได้เพียงเอ่ยขอบคุณเสียงแหบแห้ง

“ขอบใจเจ้ามาก”

ขอบใจ ยามที่นางเอ่ยประโยคนี้ดวงตากลมใสของเด็กชายก็เบิกกว้างขึ้น มือเล็กสั่นน้อยๆ ก่อนจะขยับตัวลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว

“เช่นนั้นข้าไม่รบกวนท่านแล้ว ท่านลุงอี้บอกว่าคนป่วยต้องนอนพัก พี่รองท่านนอนมากๆ จะได้หายไวๆ”

ซ่งไป๋ลู่ลอบมองเด็กชายตัวน้อย ที่แม้มีท่าทางหวาดกลัวนางอยู่ในที แต่มือเล็กก็ยังคงหยิบผ้าห่มผืนบางที่ปะชุนจนจำสภาพเดิมไม่ได้ห่มลงบนร่างของคนบนเตียงแล้วถืออ่างน้ำเดินออกไป

ที่แท้แล้วนางอยู่ที่ใดกันแน่

เมื่อได้อยู่ตามลำพังซ่งไป๋ลู่จึงได้ทบทวนเรื่องราวของตนเองอย่างละเอียดอีกครั้ง ตัวนางคือซ่งไป๋ลู่ นักรีวิวนิยายประจำเพจชื่อดังที่มีผู้ติดตามถึงห้าล้านคน ภาพสุดท้ายในความทรงจำของนางก็คือ นางและเพื่อนๆ นักรีวิวนิยายอีกสามคนนัดเจอกันที่ร้านกาแฟชื่อดังประจำเมือง

“พวกเธอรู้ไหมนิยายเรื่องล่าสุดที่ฉันรับมารีวิวนางร้ายมีชื่อเหมือนฉันทุกตัวอักษรเลย น่าเสียดายที่คนเขียนให้เป็นแค่นางร้ายตัวประกอบ ทั้งเรื่องโผล่ออกมารวมกันยังไม่ถึงสามหน้าก็ถูกพระเอกฆ่าแล้ว”

ซ่งไป๋ลู่บ่นกับเพื่อนๆ ถึงนางร้ายตัวประกอบในนิยายเรื่องล่าสุดที่ตนรับมาทำการรีวิว เพียงแต่สนทนากันได้เพียงชั่วโมงเศษพนักงานร้านกาแฟก็ทำกาแฟหกใส่ปลั๊กไฟข้างโต๊ะที่พวกนางนั่ง กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างของซ่งไป๋ลู่และเพื่อนๆ ก่อนที่สติของพวกนางทั้งสี่จะดับวูบไปพร้อมกัน

ทว่าเวลานี้นางควรอยู่ในโรงพยาบาลไม่ใช่หรือ เหตุใดยามที่มีสติลืมตาขึ้นอีกครั้งนางก็มาอยู่ในร่างของเด็กน้อยวัยสิบขวบผู้ที่คาดว่าน่าจะเป็นนางร้ายตัวประกอบในนิยายเรื่องที่นางรับมารีวิวผู้นี้เล่า

เพียงแต่ไม่ว่านี่จะเป็นความฝัน หรือเรื่องจริงซ่งไป๋ลู่ผู้นี้จะช่วยพลิกชะตาชีวิตอันน่าสงสารของนางร้ายตัวน้อยผู้นี้ให้เอง

...................................

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Related chapter

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 1.1 ชีวิตใหม่ข้าขอกำหนดเอง

    บทที่ 1.1ชีวิตใหม่ข้าขอกำหนดเองซ่งไป๋ลู่มองข้าวต้มที่ใสจนแทบไม่ต่างจากน้ำเปล่าตรงหน้าแล้วได้แต่ยิ้มแห้ง แน่นอนว่าเรื่องชีวิตที่แสนยากจนของนางร้ายตัวประกอบผู้นี้ถูกกล่าวถึงในนิยายที่นางรีวิวอยู่บ้าง ทว่าให้จินตนาการอย่างไรซ่งไป๋ลู่ก็ไม่คิดว่านักเขียนจะสร้างความยากจนให้ตระกูลซ่งถึงขั้นนี้“นี่คือ... ข้าวต้มที่ท่านทำหรือ”หญิงสาววัยสามสิบที่ยามนี้กลายเป็นเด็กน้อยวัยสิบขวบเอ่ยถามด้วยความสงสัย พลางใช้ช้อนที่แตกบิ่นในมือตักน้ำในถ้วยขึ้นมอง“อืม... โชคดีที่วันก่อนลูกสาวตระกูลเกาแต่งงาน ในครัวเขามีข้าวสุกเหลือจำนวนมาก พี่จึงเอามาตากแห้งไว้ น้องรองเจ้าไม่สบายรีบกินเร็วเข้า”ข้าวตากแห้ง บัดซบ! นี่ยังนับว่าเป็นความโชคดีอีกหรือ หากนางย้อยกลับไปได้สาบานว่านางจะใช้นามลับเข้าไปโจมตีคนแต่งเรื่องนี้ให้หนักเลยทีเดียวจ๊อก... เสียงท้องน้อยๆ ของซ่งหานลู่ดังขึ้นมือเล็กยกขึ้นกุมหน้าท้องของตนแล้วเม้มริมฝีปากเล็ก“อาการป่วยของข้าดีขึ้นมากแล้ว พวกท่านเองก็ยังไม่ได้กินอะไรใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าวต้มถ้วยนี้เรามาแบ่งกันเถอะนะ”“ข้าไม่หิวพี่รองท่านกินมากจะได้หายไวๆ”เสียงเล็กใสเอ่ยบอกรัวเร็ว เขาจะกล้าแย่งของของน

    Dernière mise à jour : 2025-02-13
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 1.2 ชีวิตใหม่ข้าขอกำหนดเอง

    บทที่ 1.2ชีวิตใหม่ข้าขอกำหนดเองหลังจากกินมันเผาเสร็จซ่งต้าลู่ก็พาซ่งหานลู่ไปล้างเนื้อล้างตัวที่หลังบ้าน ซ่งไป๋ลู่ลอบมองผ่านหน้าต่างบานเล็กในบ้าน ซ่งต้าลู่ผู้นี้มองผิวเผินคล้ายเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่อ่อนแอ ไร้ความสามารถ ทว่าซ่งไป๋ลู่ผ่านชีวิตมายาวนานย่อมมองออก เด็กชายผู้นี้ไม่อาจดูแคลนจริงๆยามที่ซ่งไป๋ลู่สิ้นลม เมิ่งเฟยอวี่ก็ให้คนนำร่างที่ไร้วิญญาณของนางไปทิ้งที่ป่าตะวันตกอันเป็นสุสานของศพไร้ญาติ ทว่ายามที่หมาป่ากำลังจะเข้ามาแทะกินอาหารอันโอชะ ลำคอของพวกมันก็ขาดสะบั้น ก่อนที่ร่างไร้วิญญาณนั้นจะหายไปวิเคราะห์ดูแล้วซ่งไป๋ลู่ที่ยามนั้นบิดาและน้องชายล้วนตายจากไปหมดแล้ว ตัวละครข้างกายนางผู้เดียวที่นักเขียนละเว้นไว้ก็คือ ซ่งต้าลู่ พี่ชายใหญ่ผู้นี้นั่นเอง“พี่รองข้ายกน้ำมาให้ท่านเช็ดตัว”เสียงเล็กดังขึ้นที่ด้านหลังดึงความคิดของซ่งไป๋ลู่กลับมาสู่ปัจจุบัน ภาพสองพี่น้องที่อาบน้ำหลังเรือนตอนนี้ว่างเปล่าไร้เงาคน เมื่อหมุนตัวกลับมาก็พบซ่งหานลู่ตัวน้อยที่ถืออ่างไม้ใบใหญ่กว่าตัวเดินเข้ามา มือเล็กบิดผ้าสีหม่นส่งให้พี่สาวอย่างใส่ใจ“ท่านลุงเกาตัดแต่งต้นกุหลาบหน้าบ้าน ข้าจึงเอาดอกกุหลาบที่เขาไม่ใช้เก็

    Dernière mise à jour : 2025-02-13
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 1.3 ชีวิตใหม่ข้าขอกำหนดเอง

    บทที่ 1.3ชีวิตใหม่ข้าขอกำหนดเองหลังจากที่หลอกล่อให้ซ่งหานลู่กินซาลาเปาจนหมดลูก ซ่งไป๋ลู่ก็เปิดประตูบ้านออกมาดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อพบว่าตลอดริมรั้วหน้าบ้านล้วนมีกิ่งกุหลาบปักชำเอาไว้ ไม่ต้องเอ่ยถามก็รับรู้ได้ว่าทั้งหมดนี่ล้วนเป็นฝีมือ ซ่งต้าลู่“พี่ใหญ่ ท่านไม่เหนื่อยบ้างหรือ”ทั้งที่เป็นเพียงเด็กชายวัยสิบสี่ปี แต่กลับต้องเลี้ยงดูน้องทั้งสองคน ทั้งยังต้องคอยทำงานให้ญาติผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัวอย่างซ่งหลี่เถียน ช่างแบกภาระไว้เกินตัวจริงๆ“ขอเพียงเจ้ารู้ความเช่นนี้ ข้าย่อมไม่เหนื่อย”รู้ความ คำพูดนี้ใช่หมายถึงซ่งไป๋ลู่ในอดีตที่วันๆ เอาแต่กิน นอน ข่มเหงรังแกซ่งหานลู่จริงๆ หรือไม่“ตอนบ่ายข้าจะพา น้องรองออกไปทำนาด้วยกันจะได้ไม่รบกวนเจ้า”ซ่งไป๋ลู่พยักหน้ารับคำ ยามเมื่อสองพี่น้องออกไปแล้วนางก็ลงมือเกี่ยวหญ้งหลังบ้านต่อแม้จะทำได้ไม่เร็วมากนักแต่รวมๆ แล้วก็กว้างยาวถึงด้านละสามผิน (1 ผิง=3.3 เมตร) เลยทีเดียวมือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้าออก เกลี่ยหญ้าที่นางเกี่ยวเมื่อครู่ให้กระจายตัวตากแดดเอาไว้ ยามที่แห้งดีค่อยเก็บเอาไว้ใช้งานต่อดวงตากลมหันกลับมามองบ้านที่นางและพี่น้องแซ่ซ่งทั้งสองอาศัยอยู่ด

    Dernière mise à jour : 2025-02-13
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   ​ บทที่ 2.1 ค้าขายย่อมมีกำไร

    ​ บทที่ 2.1ค้าขายย่อมมีกำไรซ่งไป๋ลู่ซ่อนตัวในตะกร้าใบเล็กบนเกวียนของกู้ฉินรอจนพ้นหมู่บ้าน กู้เหยียนก็ยกตะกร้าออกให้นาง“อาไป๋ออกมาได้แล้ว”กู้เหยียน เป็นเด็กชายวัยเดียวกับซ่งต้าลู่ เรียกได้ว่าทั้งสองเป็นสหายสนิทกันเลยก็ว่าได้ หลายครั้งที่สามพี่น้องตระกูลซ่งได้ความช่วยเหลือจากคนบ้านตระกูลกู้ ในใจของซ่งไป๋ลู่เจ้าของร่างเดิมยังชื่นชอบกู้เหยียนมากอีกด้วย ส่วนมากขนาดไหนน่ะหรือ ก็มากขนาดที่อาศัยยามเขาเมามายแสร้งสร้างเรื่องว่าตนเองกับกู้เหยียนได้เสียกัน หากแต่กู้เหยียนแม้เมาจนหมดแรงแต่ก็ไม่ขาดสติ เรื่องนี้เขาจึงไม่ยอมรับจนเรื่องราวบานปลายทำให้ซ่งต้าลู่ตัดขาดกับสหายผู้นี้ ช่างเป็นบทนางร้ายตัวประกอบที่ไร้สมองสิ้นดี“ขอบคุณพี่กู้เหยียน”“ไม่เป็นไร เจ้าเป็นน้องสาวอาต้า ก็นับเป็นน้องสาวของข้าด้วย”กู้เหยียนเอ่ยบอกด้วยความจริงใจ ซ่งไป๋ลู่พยักหน้ารับคำ บุรุษที่ดีเพียงนี้ กลับถูกวางบทให้เป็นเพียงเบี้ยหมากไร้ค่าผู้หนึ่ง ภายหน้าถูกเมิ่งเฟยอวี่พระเอกของเรื่องหลอกใช้ให้มาประจานเรื่องราวต่ำทรามของซ่งไป๋ลู่ จนตัวเขาถูกซ่งต้าลู่ที่แค้นใจแทนน้องสาวสังหารอย่างโหดเหี้ยมแน่นอนว่าตัวนางที่เป็นซ่งไป๋ลู่ในวันน

    Dernière mise à jour : 2025-02-13
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 2.2 ค้าขายย่อมมีกำไร

    บทที่ 2.2ค้าขายย่อมมีกำไร“พี่ใหญ่ท่านเร่งมาดูเร็วเข้า”เสียงของซ่งหานลู่ดังก้อง เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วพบว่าบนโต๊ะเล็กมีอาหารสามจาน และข้าวพูนจานอีกสามถ้วย“พี่ใหญ่ท่านตีข้าที นี่ข้าไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่ นะ... นี่ เนื้อหรือขอรับ”ซ่งหานลู่ใช้ตะเกียบคีบเนื้อมาจากจานผัด ดวงตากลมเปล่งประกายฉ่ำวาวไปด้วยน้ำตาแห่งความยินดี ไม่เพียงมีข้าวพูนจาน วันนี้เขายังมีเนื้อกินด้วย หรือว่านี่จะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายในชีวิตที่สวรรค์ประทานมาให้“น้องเล็ก เจ้าอย่ามัวแต่ตื่นเต้นรีบไปล้างเนื้อล้างตัวแล้วมากินข้าวตอนที่ยังร้อนๆ จะได้ไม่เสียรส”เมื่อได้ยินพี่สาวเอ่ยบอก คนที่ตื่นเต้นกับอาหารตรงหน้าก็รีบไปล้างเนื้อล้างตัวก่อนจะกลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเก่าจวนพัง ใช้ตะเกียบคีบเนื้อและข้าวในชามใส่ปาก ดวงตากลมเบิกกว้างเอ่ยเสียงอู้อี้“พี่รองนี่เป็นอาหารฝีมือของท่านจริงๆ หรือ”เพราะที่ผ่านมาซ่งไป๋ลู่ไม่เคยจับงานทั้งหนักทั้งเบา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนอกบ้านในบ้านล้วนมีซ่งต้าลู่จัดการ ดังนั้นอาหารมื้อแรกที่นางทำและยังทำได้ดีถึงเพียงนี้จึงทำให้น้องชายตัวน้อยตื่นเต้นยินดียิ่ง“แน่นอนว่าเป็นฝีมือพี่รองของเจ้า”“เช่นนั้นท่านทำอ

    Dernière mise à jour : 2025-02-13
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 2.3 ค้าขายย่อมมีกำไร

    บทที่ 2.3ค้าขายย่อมมีกำไรในทุกวันซ่งหานลู่ยังคงต้องไปช่วยงานป้าใหญ่ซ่งหลี่เถียน ส่วนซ่งไป๋ลู่และซ่งหานลู่จะขึ้นเขาเพื่อไปเก็บผลท้อและบ๊วยที่เริ่มสุก เพียงหนึ่งเดือนเศษเงินที่ซ่งไป๋ลู่ซ่อนไว้ก็เต็มถุง มือเล็กนับเงินที่เก็บสะสมมาตลอดเดือนแล้วยิ้มกว้าง ดูเหมือนจำนวนเงินจะเพียงพอต่อการต่อเติมสร้างห้องครัวแล้ว“พี่ใหญ่ข้าอยากได้ห้องครัวใหม่”เสียงหวานเอ่ยบอกหลังจากส่งนมแพะให้ซ่งต้าลู่“ทำห้องครัวต้องใช้เงิน น้องรองเรื่องนี้ข้าคิดว่าพวกเราคงต้องอดทนอีกสักหน่อย รอท่านพ่อกลับมาค่อยคิดกันอีกที”รอท่านพ่อกลับมา หากคิดตามเส้นเรื่องในนิยายนับดูแล้วก็ร่วมสี่ห้าปี นางจะรอนานขนาดนั้นได้อย่างไร ซ่งไป๋ลู่ขยับตัววางมือลงบนต้นแขนของพี่ชาย ใช้ดวงตากลมใสช้อนมองเขาแล้วเอ่ยเสียงหวานออดอ้อน ในฐานะพี่ชายที่มีน้องสาวเพียงคนเดียววิธีนี้นางมั่นใจว่าสามารถทำให้ซ่งต้าลู่ใจอ่อนได้อย่างแน่นอน“พี่ใหญ่เรื่องเงินค่าจ้างท่านไม่ต้องกังวล ข้ากับน้องรองช่วยกันเก็บผลไม้ป่าไปขายตอนนี้เงินที่ได้มามีไม่น้อยแล้ว”คิ้วเข้มของซ่งต้าลู่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ทว่าเมื่อสบแววตากลมใสออดอ้อนก็เอ่ยคำดุออกมาไม่ได้แม้แต่ครึ่งคำ ทำได้เพี

    Dernière mise à jour : 2025-02-13
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 3.1 หลุดพ้นจากคนชั่ว

    บทที่ 3.1หลุดพ้นจากคนชั่ว“พี่ใหญ่วันนี้ข้าจะเข้าไปขายของกับพี่กู้เหยียนฝากท่านดูแลน้องเล็กด้วยนะเจ้าคะ”ซ่งต้าลู่ที่กำลังตักโจ๊กข้าวพลันขมวดคิ้วหนา ตั้งแต่ได้ยินว่านชุนเอ่ยว่าอยากได้ซ่งไป๋ลู่เป็นสะใภ้ ในใจเขาก็รู้สึกกังวลเรื่องความใกล้ชิดของน้องสาวกับสหายแซ่กู้ผู้นี้ขึ้นมาซ่งไป๋ลู่เห็นท่าทางนิ่งเงียบของพี่ชายก็หวาดหวั่นว่าเขาอาจจะไม่อนุญาต ดังนั้นนางจึงยื่นมือเล็กออกไปจับที่ชายเสื้อของเขา ช้อนตาขึ้นมองอย่างเว้าวอน“พี่ใหญ่ข้ามีความจำเป็นต้องไปจัดการเรื่องบางอย่างจริงๆ นะเจ้าคะ”เมื่อถูกน้องสาวใช้ท่าทางเช่นนี้ออดอ้อน คนตัวโตก็ถอนหายใจยาว แม้ไม่ยินดีก็ไม่อาจเอ่ยปากหักห้าม“พี่ใหญ่ท่านใจอ่อนกับพี่รองอีกแล้ว”ซ่งหานลู่เอ่ยเย้าพี่ชาย จนเรียกสายตาดุจากเขามาได้หนึ่งวง พร้อมกับตะเกียบในมือหนาที่คีบลงบนเนื้อหมูทอดชิ้นสุดท้ายในจาน“อะ! พี่ใหญ่เนื้อของข้า”ซ่งหานลู่ร้องลั่นเมื่อเนื้อหมูที่เขาเล็งไว้ถูกตะเกียบของพี่ใหญ่จับเอาไว้“พี่ใหญ่ น้องเล็กคนนี้ผิดไปแล้ว”ซ่งหานลู่เอ่ยเสียงอ่อนมองเนื้อหมูในตะเกียบของพี่ชายอย่างอ้อนวอนระคนสำนึกผิด แน่นอนว่าเดิมทีซ่งต้าลู่ก็ไม่ได้คิดแย่งของกินกับน้องชาย

    Dernière mise à jour : 2025-02-20
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 3.2 หลุดพ้นจากคนชั่ว

    บทที่ 3.2 หลุดพ้นจากคนชั่ววันต่อมาซ่งไป๋ลู่ยังคงพาซ่งหานลู่ขึ้นเขาไปเก็บผลไม้ป่าตามปกติ รอจนตะวันใกล้ตกดินซ่งต้าลู่จึงมารับของไปส่งที่บ้านตระกูลกู้เช่นเดิม“อาไป๋เจ้ามาพอดี ข้ากำลังจะเอาของพวกนี้ไปส่งที่บ้านเจ้า”ซ่งไป๋ลู่มองเครื่องครัวที่แสนธรรมดา ทว่ายังคงใช้งานได้ดีแล้วยิ้มกว้างเอ่ยขอบคุณอีกฝ่าย“เรื่องเล็กน้อยเหตุใดต้องขอบคุณด้วยเล่า”ซ่งต้าลู่ขนผลไม้ลงจากรถลาก โดยที่สายตายังคงจดจ้องไปยังสหายที่ยืนสนทนากับน้องสาวของเขาอย่างสนิทสนม“อ้อ... ส่วนนี่เป็นของที่เจ้าฝากให้ข้าไปซื้อมา”กู้เหยียนส่งถุงหนังสัตว์ให้ซ่งไป๋ลู่ ริมฝีปากเล็กยิ้มกว้างรับของมาด้วยความยินดี ท่าทางสนิทสนมของคนทั้งสองทำให้คนเป็นพี่ใหญ่หงุดหงิดใจเป็นทบทวี จนอดเอ่ยถามไม่ได้“น้องรอง เจ้าฝากอาเหยียนซื้ออะไรมาหรือ”“นมแพะและเนื้อหมูเจ้าค่ะ”ซ่งไป๋ลู่เอ่ยตอบพี่ชายของตน หากแต่ความสนใจกลับยังคงอยู่ที่พี่ชายต่างแซ่ ซ่งต้าลู่เม้มริมฝีปาก ตวัดหางตามองสหายด้วยความขุ่นเคือง โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว“ลำบากพี่กู้เหยียนแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องรบกวนท่านอีก”“ลำบากอะไรกัน เรื่องของเจ้าก็เหมือนเรื่องของข้า”เพราะยุคนี้ไม่มีตู้เย็นซ่งไป๋ลู

    Dernière mise à jour : 2025-02-20

Latest chapter

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 7.5 เคราะห์ร้ายนำพาวาสนา

    “ทั้งหมดสามตำลึง”แม้จะเสียดายเงิน แต่เสื้อผ้าเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สมควรจ่าย ดังนั้นซ่งไป๋ลู่จึงควักเงินยื่นให้อีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล ก่อนจะเดินเล่นบนตรอกอวิ๋นสำรวจสินค้าต่างๆ ที่ผู้คนนิยม ตลอดจนสินค้าที่ขาดตลาด“เจ้าสุนัขขี้ขโมย กล้าขโมยเนื้อของข้า วันนี้ข้าจะตีให้ตาย”เสียงคนขายหมูร้องด่าลูกสุนัขตัวสีน้ำตาลมอมแมมดังลั่นถนน ซ่งไป๋ลู่เดิมทีไม่คิดสนใจเรื่องวุ่นวายของผู้อื่น ทว่าเจ้าลูกสุนัขตัวดีกลับคล้ายต้องการให้นางใส่ใจ ขาสั้นๆ ทั้ง 4 จึงวิ่งตรงมาหยุดที่ด้านหน้าซ่งไป๋ลู่ วางชิ้นเนื้อลงบนเท้าเล็กก่อนจะวิ่งไปหลบด้านหลัง ทำราวกับนางคือเจ้าของของมัน“อ๋อ... ที่แท้ก็เป็นหนึ่งคนหนึ่งสุนัขร่วมมือกันขโมยของ ช่างดีจริงๆ อย่างนั้นวันนี้ข้าจะตีทั้งสุนัขทั้งคนสั่งสอนไปพร้อมๆ กัน”คิ้วเล็กของซ่งไป๋ลู่ขมวดเข้าหากันแน่น คนตรงหน้าไม่ถามไม่ไถ่คิดเองเออเองก็จะตีนาง หึ! อยากสั่งสอนนางก็ต้องดูก่อนว่า อีกฝ่ายมีความสามารถหรือไม่ ซ่งไป๋ลู่ขบกรามในหัวคิดถึงศิลปะการป้องกันตัวที่ตนเองเคยร่ำเรียนเพื่อใช้รีวิวนิยายในภพก่อน ทว่ายังไม่ทันแสดงฝีมือเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น“หยุดเดี๋ยวนี้!”มือของชายขายหมูชะงักค้างอยู่ที่

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 7.4 เคราะห์ร้ายนำพาวาสนา

    ใช้เวลาร่วมชั่วยามในที่สุดสามพี่น้องตระกูลซ่งก็เดินมาถึงเหลาอาหารกู้ไป๋ ทว่าเท้าไม่ทันก้าวข้ามประตูก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังออกมาจากด้านใน ซ่งต้าลู่รีบดึงแขนน้องทั้งสองไว้เบื้องหลัง พลางกวาดสายตามองสถานการณ์ตรงหน้าในทันที“ใครไม่เกี่ยวก็ถอยไป!”สิ้นเสียงแข็งกร้าวดุดันดังลั่นเหลาอาหาร ลูกค้าต่างก็พากันลุกขึ้นแตกตื่นออกมาจากร้าน ซ่งไป๋ลู่ขมวดคิ้วเล็กมองอันธพาลแปลกหน้าในเหลาอาหารของตนด้วยความไม่พอใจ“ถ้าไม่อยากเดือดร้อนก็ส่งคนมา”ชายแปลกหน้าชี้นิ้วไปทางกู้เหยียน ซึ่งยืนบังจางหย่งที่ตัวโตกว่าเอาไว้“ท่านเป็นใคร แล้วทำไมต้องจับตัวพี่จางหย่งไปด้วย”กู้เหยียนตะโกนถามเสียงก้อง มือยังคงจับแขนของจางหย่งเอาไว้มั่น ราวกับจะสื่อสารให้เขารับรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะปกป้องเขาเอง“ข้าเป็นใครไม่สำคัญ ส่งคนมาก็พอ”“ข้าไม่ส่ง! หากพี่จางหย่งเคยไปทำให้ท่านเดือดร้อนก็เรียกค่าชดเชยมา ข้าจะรับผิดชอบเอง”จางหย่งมองเด็กชายที่ออกโรงปกป้องตนเองแล้วเกิดความสงสัยอยู่ในที บนแผ่นดินนี้ยังมีคนที่ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่กลัวความเดือดร้อนอยู่อีกหรือ“อายุของเจ้าดูแล้วคงไม่เกินสิบห้าแต่ใจกล้าไม่เบา ได้! ข้าจะบอกให้ ไอ้ขอทา

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 7.3 เคราะห์ร้ายนำพาวาสนา

    หลังจากเจรจาตกลงซื้อขายกันเสร็จแล้ว เกาจ้านเผิงก็รีบหมุนตัววิ่งจากไปในทันที ต่อจากนี้ในบ้านจะมีหนทางหาเงินเพิ่มแล้ว ภายหน้าหนี่เอ๋อร์ของเขาก็มีโอกาสซื้อยาดีๆ มากิน หรืออาจโชคดีถึงขั้นสามารถจ้างหมอมีฝีมือมารักษา เช่นนี้นางก็ไม่ต้องทรมานกับอาการเจ็บป่วยเรื้อรังนั่นอีกซ่งไป๋ลู่ยืนส่งคนจนลับตาก็เปิดประตูรั้วเข้าบ้าน เดิมทีคิดจะเข้าไปทักทายซ่งต้าลู่และซ่งหานลู่สักประโยค แต่เมื่อเห็นทั้งสองตั้งใจอ่านตำราก็ไม่คิดเข้าไปรบกวน เดินไปที่สวนหลังบ้านจัดการวัชพืชและเก็บแตงกวากับพริกสดติดมือกลับมาอู๊ดๆ... เสียงของหมูในเล้าร้องดังขึ้น ซ่งไป๋ลู่จึงสังเกตเห็นว่าหมูเหล่านี้ถึงเวลาเปลี่ยนเป็นเงินลงกระเป๋านางได้แล้ว ดังนั้นวันต่อมานางจึงกลับไปที่บ้านตระกูลเกาอีกครั้งเพื่อให้พวกเขาช่วยเป็นธุระติดต่อคนมาซื้อหมู ผ่านไปเพียงสองวันหมูในเล้าก็เปลี่ยนเป็นเงินตำลึงในกระเป๋านาง“พี่รอง ท่านขายหมูไปแล้วเช่นนั้นจะเลี้ยงอะไรแทน”การเลี้ยงหมูขายนั้นแม้จะทำกำไรได้ดี แต่ต้นทุนก็สูงไม่น้อย อีกทั้งความเสี่ยงก็มากเพราะหากพวกมันตายก่อนจะได้ขายทุกอย่างที่ลงทุนไปก็ล้วนสูญเปล่า ในทุกวันนางยังต้องหาอาหารปริมาณมากมาบำรุงให้พวก

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 7.2 เคราะห์ร้ายนำพาวาสนา

    เช้าวันต่อมาหลังจากที่กินมื้อเช้าแล้ว ซ่งไป๋ลู่ก็นำเห็ดที่ผึ่งลมจนแห้งใส่ตะกร้าออกเดินทางเข้าเมือง เดิมทีซ่งต้าลู่ตั้งใจติดตามไปส่งน้องสาว แต่ซ่งไป๋ลู่กลับไม่ยินยอม ด้วยเหตุผลที่ว่าตอนนี้การสอบถงเซิงใกล้เข้ามาทุกที เวลาของพี่ชายจึงมีค่ามากกว่าทองคำ นางจะให้การสอบของเขาพังลงเพราะเรื่องของนางไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแล้วภายหน้าคงยากจะรับมือกับเมิ่งเฟยอวี่แล้ว“อาไป๋มีเรื่องอะไรหรือ เห็นท่านลุงกู้ของเจ้าบอกว่าเจ้าต้องการพบข้า”ว่านชุนเดินออกมาจากห้องครัวด้วยท่าทางร้อนใจ หากแต่เด็กหญิงตรงหน้ากลับยิ้มกว้างวางตะกร้าบนบ่าลง“นี่คืออะไรหรือ”“นี่เป็นเห็ดผิงกูอ่อนเจ้าค่ะ”“เห็ดผิงกูอ่อน เจ้าเอามาเสียมากมายเช่นนี้ทำไมกัน หรือว่าจะนำมาทำอาหาร”ถึงแม้เห็ดผิงกูจะหาง่าย ทว่ากลับนำมาปรุงอาหารได้เพียงไม่กี่ชนิด เมื่อว่านชุนเห็นเด็กสาวพยักหน้าแสดงการยืนยันว่าจะใช้เห็ดผิงกูอ่อนทำอาหารจริงๆ ใบหน้าของว่านชุนก็อาบไปด้วยความกังวลในทันที“อาไป๋ ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากรับน้ำใจเจ้า แต่เห็ดผิงกูนั้นทำอาหารได้ไม่ดีนัก ยิ่งเป็นเห็ดผิงกูอ่อนพวกนี้ยิ่งไม่เป็นที่นิยม”“เช่นนั้นท่านป้ากู้ให้ข้ายืมครัวสักครู่ได้ไหมเจ้าคะ

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 7.1 เคราะห์ร้ายนำพาวาสนา

    ซ่งไป๋ลู่เดินออกจากบ้านมาได้ไม่นานก็เห็นประตูรั้วบ้านตระกูลเกา ริมฝีปากเล็กจึงเอ่ยร้องเรียกคน เจิ้งซุนหนี่ลูกสะใภ้ของบ้านตระกูลเกาได้ยินเสียงคนเรียกก็เดินออกมาต้อนรับเด็กสาวด้วยท่าทางเป็นมิตร“อาไป๋ เจ้ามาหาท่านพ่อหรือ”“ข้าเพียงอยากมาสอบถามว่าต้นกุหลาบที่บ้านของท่านยังมีดอกอยู่หรือไม่”“ยังมีอยู่อีกมากทีเดียว ถ้าเจ้าอยากได้ก็เข้ามาเก็บได้เลย แค่กๆ”เจิ้งซุนหนี่เอ่ยอย่างมีน้ำใจก่อนจะไอเบาๆ ซ่งไป๋ลู่ยิ้มกว้างเดินตามหญิงสาวเข้าไปด้านในบ้าน หากแต่นางไม่ได้เข้ามาเก็บดอกกุหลาบอย่างที่เจิ้งซุนหนี่คิด เด็กหญิงนั่งลงที่เก้าอี้ไม้หน้าบ้านแล้วดึงหญิงสาวนั่งลงตรงข้ามกัน“พี่สะใภ้เกา ท่านสนใจร่วมทำการค้ากับข้าหรือไม่”เมื่อได้ยินเด็กหญิงวัยเพียงสิบเอ็ดปีเอ่ยเจรจาการค้ากับตน เจิ้งซุนหนี่ก็เบิกตากว้างความไม่เชื่อถือเกิดขึ้นในใจ แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่สามีเล่าให้ฟังว่าเมื่อหลายเดือนก่อนที่พี่น้องบ้านซ่งให้ชุนเหยียนนายช่างประจำหมู่บ้านไปต่อเติมห้องเก็บของ แต่ยังไม่ทันลงมือสร้างเด็กสาวซ่งไป๋ลู่ก็มาเจรจาว่าจ้างให้สร้างบ้านหลังใหม่จนนายช่างชุนต้องมาขอให้เกาเทียนเย่ผู้เป็นบิดาสามีไปช่วยก่อสร้าง ในใจของเจ

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 6.5 สุราดีย่อมไม่กลัวตรอกลึก

    “คารวะคุณชายเฟย”“อืม นั่งลงสิ”ซ่งไป๋ลู่ทิ้งตัวลงนั่ง ตั้งท่าจะเจรจาขอเพิ่มราคาดอกไม้แห้ง เพียงแต่ไม่ทันเอ่ยปาก เฟยอวิ๋นก็วางหมากล้อมลงบนกระดานตรงหน้า“เวลาข้าเล่นหมากล้อมไม่ชอบให้ใครส่งเสียงรบกวน”หากไม่อยากให้ใครรบกวน เช่นนั้นเรียกนางเข้ามาทำไมกัน คุณชายเฟยอวิ๋นผู้นี้ช่างน่าโมโหนัก ยิ่งเห็นเขาเล่นหมากสองฝั่งขบคิดร่วมหนึ่งชาเย็นจึงวางหมากหนึ่งตัวซ่งไป๋ลู่ก็อดไม่ได้ หยิบหมากดำมาถือร่วมลงกระดานประลองกับเขา ไม่คิดว่าท่ามกลางความเงียบไร้สุ้มเสียงสนทนา สองชายหญิงต่างวัยกลับโต้ตอบกันอย่างดุเดือด ร่วมหนึ่งชั่วยามก็ยังไม่สามารถตัดสินแพ้ชนะเฟยอวิ๋นมองหมากบนกระดาน ไม่น่าเชื่อว่าตนเองจะเดินหมากได้เสมอกับเด็กหญิงวัยเพียงสิบปีตรงหน้า“หมากบนกระดานจบลงแล้ว เช่นนั้นคุณชายคงสามารถเจรจากับข้าเรื่องราคาดอกไม้แห้งได้แล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ”“หากกระดานนี้เจ้าชนะข้าได้ ราคาดอกไม้แห้งของเจ้า ข้าจะเพิ่มราคาขึ้นให้อีกหนึ่งเท่าตัว”เมื่อได้ยินว่าคนตรงหน้าจะเพิ่มราคาดอกไม้แห้งให้อีกหนึ่งเท่าตัวเพียงแค่ชนะหมากล้อมกระดานนี้ซ่งไป๋ลู่ก็ยิ้มกว้าง ก่อนที่จะทะลุมิติมาตัวนางเป็นถึงแชมป์หมากล้อมประจำภาค ไหนเลยจะกลัวการ

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 6.4 สุราดีย่อมไม่กลัวตรอกลึก

    ในขณะที่สามพี่น้องตระกูลซ่งกำลังนั่งสนทนากับกู้เหยียน เสียงเอะอะโวยวายก็ดังมาจากทางหน้าร้าน ทุกคนจึงเร่งรุดไปดู ภาพที่เห็นคือชายขอทานวัยกลางคนเนื้อตัวมอมแมม เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งกำลังถูกขอทานอีกกลุ่มใหญ่ไล่ทุบตี จนต้องหนีเข้ามาภายในร้านกู้ไป๋ ทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายภายในร้านจนลูกค้าหนีหายไปจนหมดกู้ฉินยืนกอดภรรยาที่ร่ำไห้ด้วยความตื่นตระหนก ซ่งต้าลู่จับแขนเล็กของน้องๆ ดึงมาหลบที่ด้านหลัง เหยียดตัวตรงเป็นเกราะกำบังแล้วตะโกนเสียงดังก้องดุดัน“ตามกฎหมายแคว้นต้าหยาง ผู้ใดก่อความเสียหายให้บุคคลอื่นต้องเสียค่าปรับตามราคาทรัพย์สินที่เสียหาย หากมิอาจชำระก็ให้จำคุกชดเชย”ได้ยินคำขู่ของเด็กชายท่าทางภูมิฐานมีความรู้ เหล่ากลุ่มคนขอทานก็ชะงักมือไม้ที่กำลังง้างตีคนที่หมอบอยู่ใต้โต๊ะอาหาร แต่แล้วชายขอทานคนหนึ่งก็พูดขึ้น“พวกเราเป็นแค่ขอทาน ไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร์คิดจะจับเรารึ ถุย!”ซ่งต้าลู่ขมวดคิ้วเข้มเข้าหากัน ตวัดสายตาดุจ้องมองอีกฝ่าย ท่าทางเช่นนี้ของเขาทำให้ขอทานใจกล้าเมื่อครู่ใจฝ่อในทันที“ถึงแม้พวกเจ้าจะเป็นขอทานไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร์ แต่ทั่วทั้งแคว้นต้าหยางมีสถานที่หลบซ่อนไม่มากนัก ข้ารับร

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 6.3 สุราดีย่อมไม่กลัวตรอกลึก

    ซ่งไป๋ลู่นั่งลงมองผ่านประตูเรือนไปด้านนอก ตอนนี้นางทะลุมิติมาครึ่งปีแล้วสิ่งต่างๆ รอบตัวเปลี่ยนแปลงไปชนิดที่กล่าวได้ว่า จากหน้ามือเป็นหลังมือ ทว่าสิ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงก็คือ... ซ่งต้าลู่ พี่ชายที่แสนดีคนนี้ เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเขาก็ถนอมน้องสาวคนนี้ไม่เปลี่ยนแปลง“พี่ใหญ่เดือนหน้าท่านต้องไปสอบแล้ว ช่วงนี้งานนอกบ้านท่านก็พักเอาไว้ก่อนเถิดเจ้าค่ะ เงินที่ท่านพ่อส่งมากับส่วนแบ่งที่ท่านป้ากู้มอบให้ พวกเราใช้ทั้งปีก็ยังไม่หมด”ตอนนี้พวกเขาสามพี่น้องตระกูลซ่งแม้ไม่อาจกล่าวว่าร่ำรวย แต่ก็ไม่ขัดสนเรื่องเงินเช่นในอดีต เนื่องจากซ่งไห่เฟิ่งผู้เป็นบิดานั้นส่งเงินมาให้ทุกหกเดือน แต่ละครั้งก็มากถึง 10 ตำลึง คำนวณดูแล้วที่ผ่านมาในหนึ่งปีบิดาผู้นี้ส่งเงินมาให้สามพี่น้องตระกูลซ่งถึง 20 ตำลึง กลับเป็นซ่งหลี่เถียนป้าใหญ่ผู้นั้นที่ละโมบเอาเงินไปจนหมด อีกทั้งยังรังแกพวกตน ใช้แรงงานซ่งต้าลู่จนเขาต้องหยุดพักการเรียน สูญเสียโอกาสในการสอบมาถึงสองปี คิดถึงตรงนี้ ในใจของซ่งไป๋ลู่ก็ยิ่งคับแค้นคนจนใบหน้าเคร่งขรึม“ขมวดคิ้วจนแน่นเช่นนี้ ในใจกำลังขุ่นเคืองผู้ใดกัน”น้ำเสียงหยอกเย้าของพี่ชายทำให้ซ่งไป๋ลู่ออกจา

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 6.2 สุราดีย่อมไม่กลัวตรอกลึก

    ตรอกหนิงอันเป็นถนนฝั่งตะวันตกตรงข้ามกับตรอกอวิ๋น ระยะทางนับว่าไม่ไกลกันมาก อีกอย่างที่นั่นไม่มีเหลาอาหารเรียกได้ว่าไร้คู่แข่ง ดังนั้นจึงนับเป็นทำเลดีในการเริ่มต้นกิจการเหลาอาหารด้วยเหตุนี้ในเดือนต่อมาบนถนนตะวันตก ตรอกหนิงอันจึงมีเหลาอาหารกู้ไป๋เกิดขึ้น และเพราะชื่อเสียงเดิมของว่านชุนทำให้เหลาอาหารกู้ไป๋นี้กลายเป็นที่นิยมในระยะเวลาอันรวดเร็ว ว่านชุนมองเงินตำลึงที่เก็บลงหีบด้วยรอยยิ้มกว้างเปล่งประกาย “อ่า... เงินของข้า ช่างดีจริงๆ”กู้ฉินที่บีบนวดไหล่ให้ภรรยาเห็นนางมีความสุขเช่นนี้บนใบหน้าของเขาก็พลอยมีรอยยิ้มกว้างตามไปด้วย“นางหนูซ่ง ช่างเป็นคนมองการณ์ไกลจริงๆ เวลาเพียงไม่นานก็ช่วยพวกเราให้เติบโตก้าวหน้าได้เช่นนี้แล้ว”“อาไป๋คือขาทองคำของพวกเรา ดังนั้นให้ต้องทุ่มหมดตัวข้าก็ต้องได้นางเป็นสะใภ้”ว่านชุนเอ่ยอย่างมุ่งมั่น สตรีที่มีควมคิดเฉลียวฉลาดเช่นนี้นางจะปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร“ได้เวลาไปรับอาเหยียนกับอาหานแล้ว ฮูหยินเจ้าเองก็เร่งปิดร้านพักผ่อนเถอะนะ”เพราะกิจการเหลาอาหารรุ่งเรืองเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นบ้านตระกูลกู้จึงย้ายเข้ามาพักในเมือง และเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปสำนักศึ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status