Share

บทที่ 3.2 หลุดพ้นจากคนชั่ว

last update Last Updated: 2025-02-20 12:41:39

บทที่ 3.2  หลุดพ้นจากคนชั่ว

วันต่อมาซ่งไป๋ลู่ยังคงพาซ่งหานลู่ขึ้นเขาไปเก็บผลไม้ป่าตามปกติ รอจนตะวันใกล้ตกดินซ่งต้าลู่จึงมารับของไปส่งที่บ้านตระกูลกู้เช่นเดิม

“อาไป๋เจ้ามาพอดี ข้ากำลังจะเอาของพวกนี้ไปส่งที่บ้านเจ้า”

ซ่งไป๋ลู่มองเครื่องครัวที่แสนธรรมดา ทว่ายังคงใช้งานได้ดีแล้วยิ้มกว้างเอ่ยขอบคุณอีกฝ่าย

“เรื่องเล็กน้อยเหตุใดต้องขอบคุณด้วยเล่า”

ซ่งต้าลู่ขนผลไม้ลงจากรถลาก โดยที่สายตายังคงจดจ้องไปยังสหายที่ยืนสนทนากับน้องสาวของเขาอย่างสนิทสนม

“อ้อ... ส่วนนี่เป็นของที่เจ้าฝากให้ข้าไปซื้อมา”

กู้เหยียนส่งถุงหนังสัตว์ให้ซ่งไป๋ลู่ ริมฝีปากเล็กยิ้มกว้างรับของมาด้วยความยินดี ท่าทางสนิทสนมของคนทั้งสองทำให้คนเป็นพี่ใหญ่หงุดหงิดใจเป็นทบทวี จนอดเอ่ยถามไม่ได้

“น้องรอง เจ้าฝากอาเหยียนซื้ออะไรมาหรือ”

“นมแพะและเนื้อหมูเจ้าค่ะ”

ซ่งไป๋ลู่เอ่ยตอบพี่ชายของตน หากแต่ความสนใจกลับยังคงอยู่ที่พี่ชายต่างแซ่ ซ่งต้าลู่เม้มริมฝีปาก ตวัดหางตามองสหายด้วยความขุ่นเคือง โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว

“ลำบากพี่กู้เหยียนแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องรบกวนท่านอีก”

“ลำบากอะไรกัน เรื่องของเจ้าก็เหมือนเรื่องของข้า”

เพราะยุคนี้ไม่มีตู้เย็นซ่งไป๋ลู่จึงต้องให้กู้เหยียนนำของไปแลกนมแพะมาจากอีกฝ่ายแทน

“เพียงแต่ผลท้อครึ่งตะกร้าหากนำไปขายเปลี่ยนเป็นเงิน ย่อมซื้อนมแพะได้มากขึ้นอีกหนึ่งในสี่ถุง อาไป๋ข้าเอาผลท้อของเจ้าไปขายแล้วค่อยไปซื้อนมแพะไม่ดีกว่าหรือ”

“ผลท้อครึ่งตะกร้ากว่าจะขายหมดต้องเสียเวลาและเปลืองแรงของท่านไม่น้อย เทียบกันแล้วยอมเสียผลประโยชน์เล็กน้อยแลกกับความสบายของท่านย่อมคุ้มกว่า”

ใบหน้าของกู้เหยียนพลันแดงก่ำ ที่แท้ซ่งไป๋ลู่ยอมเสียเปรียบผู้อื่นก็เพราะห่วงใยเขานี่เอง

เกวียนของกู้ฉินหยุดลงที่หน้าบ้านสามพี่น้องตระกูลซ่ง

ซ่งต้าลู่และกู้เหยียนก็ช่วยกันขนของลงจากล้อเกวียน ซ่งไป๋ลู่เดินไปหยิบตะกร้าผักป่าและผลบ๊วยผลท้อส่งให้กู้ฉิน โดยไม่ลืมมอบค่าจ้างขนของให้เขาด้วย

“ผลไม้กับผักป่าพวกนี้ฝากให้ท่านป้า ส่วนเงินนี่มอบให้ท่านลุงเจ้าค่ะ”

“เรื่องเล็กน้อย เงินนี่เจ้าเก็บเอาไว้เถิด”

กู้ฉินไม่ใช่คนเห็นแก่เงิน น้ำใจและคำพูดชี้แนะเรื่องการค้าขายที่เด็กหญิงแบ่งปันให้ลูกชายของเขานั้นทำให้เขาซาบซึ้งยิ่ง

ยังจะรับเงินจากนางอีกได้อย่างไร

“เป็นส่วนที่ควรมอบให้ท่านเจ้าค่ะ”

เมื่อถูกตอบกลับด้วยเหตุผลกู้ฉินก็ไม่อาจปฏิเสธ จำใจรับเงินของนางมาใส่ถุงเอาไว้ ภรรยาของเขากล่าวว่าอยากได้สตรีน้อยนางนี้มาเป็นสะใภ้ เช่นนั้นเงินก้อนนี้ก็ถือเสียว่าเขารับมาเก็บเอาไว้เป็นสินสอดสู่ขอนางให้ลูกชายหัวทึบของเขาในอนาคตก็แล้วกัน

“พี่ใหญ่ พี่รอง เกิดเรื่องแล้ว!”

เสียงร้องที่ดังออกมาจากในครัวทำให้ซ่งไป๋ลู่รีบเดินไปยังต้นเสียง ด้านหลังมีกู้ฉินตามมาด้วยอีกคน ดวงตากลมของซ่งไป๋ลู่เบิกกว้างเมื่อพบว่าในครัวมีสภาพราวกับถูกโจรเข้ามาปล้นของ

ทั้งข้าวสาร เครื่องปรุง ของแห้งล้วนถูกขโมยไปจนหมดสิ้น เท้าเล็กเดินไปในตัวบ้าน เมื่อพบว่าของทุกอย่างยังอยู่ครบก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แน่นอนว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะของในบ้านล้วนเป็นของเก่าไม่มีราคานั่นเอง

“ต้องเป็นฝีมือท่านป้าใหญ่แน่ๆ”

ซ่งหานลู่เอ่ยบอกเสียงสั่น มองเชือกที่ร้อยเนื้อแห้งเอาไว้ด้วยสายตาแดงก่ำ

“ไร้หลักฐาน อย่าได้เอ่ยวาจาเลื่อนลอย”

ซ่งต้าลู่เอ่ยเตือนน้องชาย กู้ฉินถอนหายใจยาวมองสองพี่น้องด้วยสายตาสงสารแม้แต่เด็กน้อยอย่างอาหานยังคาดเดาคนร้ายได้ ตัวเขาจะคาดเดาไม่ได้ได้อย่างไร แต่เป็นเช่นที่ซ่งต้าลู่เอ่ยบอกไร้หลักฐานย่อมไม่อาจเอ่ยวาจาเลื่อนลอย

“เช่นนั้นข้าจะหาหลักฐานให้พวกท่านจับคนเอง”

เสียงของซ่งไป๋ลู่ที่เดินเข้าไปสำรวจข้าวของในบ้านเอ่ยขึ้น เรียกความสนใจของบุรุษทั้งสี่คนไปที่นางในทันที

“อาไป๋ เจ้าจะหาหลักฐานได้อย่างไรหรือ”

“พี่กู้เหยียนท่านไม่รู้อะไร ก่อนหน้านี้ข้าได้ให้ท่านหมอในเมืองตรวจร่างกาย เขาบอกว่าข้าเป็นโรคประหลาดต้องกินยาตำรับพิเศษ ข้าวสารในไหกับเนื้อที่ตากแห้งนี้จึงได้รมควันสมุนไพรเอาไว้ ทว่ายาสูตรนี้ต้องกินคู่กับสมุนไพรในนมแพะ ไม่เช่นนั้นจากยารักษาจะกลายเป็นยาพิษ ข้าจึงได้ให้ท่านซื้อนมแพะมาให้ทุกวันอย่างไรเล่า”

เมื่อได้ยินซ่งไป๋ลู่เอ่ยบอกถึงอาการป่วยของตน สีหน้าของกู้เหยียนก็พลันย่ำแย่ เขาอยู่ข้างกายนางแท้ๆ กลับไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย

“อาไป๋ เจ้าไม่ต้องกังวล เจ้าบอกชื่อร้านขายยามาข้าจะรีบเข้าเมืองไปซื้อสมุนไพรมารมข้าวสารและเนื้อให้เจ้า”

ได้ยินคำของลูกชายกู้ฉินก็ถอนหายใจยาว ตบหัวไล่ความโง่เขลาไปหนึ่งที

“ท่านพ่อท่านตีข้าอีกแล้ว”

“เจ้าตัวโง่งม”

กู้ฉินเอ่ยสบถด่าลูกชายหนึ่งคำก็หันมาทางเด็กหญิง

“อาไป๋ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ท่านป้าของเจ้าต้องจัดการได้ดีอย่างแน่นอน”

ซ่งไป๋ลู่ยิ้มกว้างก้มศีรษะขอบคุณอีกฝ่าย ยามที่คนจากไปแล้วซ่งหานลู่ก็เอ่ยถามเสียงสั่น

“พี่ใหญ่พี่รองเหตุใดท่านป้าต้องมาขโมยของของพวกเราด้วยขอรับ เช่นนี้ข้าจะไปขโมยของของนางบ้าง”

ซ่งไป๋ลู่หันมาสบตากับซ่งต้าลู่ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกับดวงตาที่ฉ่ำวาวไปด้วยน้ำตาของเด็กน้อย วางมือจับไหล่เล็กของเขาแล้วเอ่ยปลอบโยนเสียงจริงจัง

“น้องเล็กเจ้าฟังคำของพี่รองให้ดี เราไม่อาจหาเหตุผลกับการกระทำที่ต่ำช้าของผู้อื่น แต่ก็ไม่จำเป็นต้องตอบโต้ด้วยการกระทำที่ต่ำช้าเช่นเดียวกัน”

“เช่นนั้นเราต้องยอมถูกรังแกไปตลอดเช่นนี้หรือขอรับ”

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เราแค่ต้องเรียนรู้ที่จะตอบโต้อย่างมีสติเท่านั้น”

ซ่งต้าลู่มองน้องสาวตัวน้อยเอ่ยสั่งสอนน้องชายแล้วขมวดคิ้วหนา ถ้อยคำพวกนี้น้องสาวที่อายุเพียงสิบขวบของเขากลับเอ่ยออกมาได้อย่างลื่นไหลราวกับอาจารย์อาวุโสในสำนักศึกษา หรือแท้จริงก่อนหน้านี้จะมีคนสอนหนังสือให้นาง เมื่อคิดถึงตำราบนชั้นที่เรียงตามลำดับตัวอักษรได้อย่างถูกต้องในใจของซ่งต้าลู่ก็ยิ่งมั่นใจในความคิดของตนเอง เพียงแต่คนที่สั่งสอนนางคือใครกัน แล้วเหตุใดก่อนหน้านี้นางจึงทำราวกับเป็นเด็กน้อยที่ไม่รู้ความเช่นนั้น

.......................................................................

เช้าวันต่อมาข่าวเรื่องซ่งไป๋ลู่ล้มป่วยเพราะข้าวสารที่รมยาในเรือนถูกขโมยก็ถูกพูดถึงไปทั้งหมู่บ้าน

“น่าสงสารนางหนูซ่งยิ่งนัก นางทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินไปซื้อข้าวสารรมยานั่นมากิน ตอนนี้ถูกขโมยไปจึงล้มป่วย”

“ข้าวสารรมยาอย่างนั้นหรือ”

“ใช่แล้วๆ นางล้มป่วยบ่อยๆ รักษาไม่หายเสียทีวันก่อนเจอหมอในเมืองช่วยตรวจดูก็จัดยามาให้นางสองชุด ชุดหนึ่งรมไว้ในข้าวสาร อีกชุดต้มผสมนมแพะดื่ม”

ว่านชุนที่กำลังนั่งซักผ้าอยู่ริมลำธารเหลือบตาเห็น

ซ่งหลี่เถียนก็จงใจเอ่ยเล่าเรื่องของซ่งไป๋ลู่

“จะว่าไปนางหนูซ่งน่าสงสาร แต่คนที่ขโมยไปกลับ

น่าสมน้ำหน้า”

“เหตุใดจึงน่าสมน้ำหน้าเล่า”

“เจ้าไม่รู้อะไร ยาที่รมอยู่ในข้าวสารต้องกินคู่กับยาที่อยู่ในนมแพะ หากกินแยกกันไม่เพียงไม่ช่วยรักษาร่างกายยังเป็นพิษร้ายสะสมด้วย”

เมื่อได้ยินคำว่า พิษร้าย ไม้ตีผ้าในมือซ่งหลี่เถียนก็หลุดร่วงในทันที ใบหน้าของนางซีดเซียว ไม่เอ่ยคำใดก็หมุนตัววิ่งไปที่บ้านของสามพี่น้องตระกูลซ่ง

“ซ่งไป๋ลู่ เปิดประตูเดี๋ยวนี้!”

แม้เสียงร้องเรียกจะบอกให้เปิดประตู ทว่ายังไม่ทันมีผู้ใดลุกขึ้นประตูผุๆ ก็พังลงมาพร้อมกับซ่งหลี่เถียนที่ใบหน้าชุ่มไปด้วยเหงื่อ ยิ่งเห็นว่าซ่งไป๋ลู่นอนซมอยู่บนเตียงในใจของนางก็ยิ่งตื่นตระหนก

“มีพิษ มีพิษจริงๆ ด้วย รีบเอายาถอนพิษมาให้ข้า”

“ท่านป้าใหญ่ ท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไรหรือ”

ซ่งต้าลู่ลุกขึ้นยืน สายตาคมจดจ้องอีกฝ่ายนิ่ง ก่อนหน้านี้เขาเห็นว่าสตรีตรงหน้าเป็นญาติผู้ใหญ่ หลายครั้งที่นางทำเรื่องเลวร้ายเขาก็มักปล่อยผ่านและถอยให้เสมอ ทว่าในเมื่อถอยให้ถึงเพียงนี้แล้วนางยังไม่ยอมรามือ เช่นนั้นวันนี้ก็คงต้องจัดการขั้นเด็ดขาดเสียที

“ไม่ต้องมาทำไขสือ ส่งยาถอนพิษมา”

ในขณะที่ซ่งหลี่เถียนยืนเต้นแร้งเต้นกาตะโกนถามหายาถอนพิษ ซ่งไป๋ลู่ก็ส่งสัญญาณให้กับซ่งหานลู่ที่ยืนอยู่นอกเรือน

“ท่านป้าใหญ่พวกเราไม่เข้าใจเรื่องที่ท่านพูดจริงๆ เจ้าค่ะ แค่กๆ”

ซ่งไป๋ลู่พูดเสียงแผ่วเบาก่อนจะแสร้งกระแอมไอชุดใหญ่ ท่าทางบอบบางราวกับคนป่วยหนักของนางแม้แต่ซ่งต้าลู่เองก็ยังเผลอคิดว่าเป็นเรื่องจริงหมุนตัวมารินชาร้อนให้นางดื่ม

“น้องรอง เจ้าดื่มชาก่อน”

ซ่งหลี่เถียนถูกสองพี่น้องเมินราวตนเองเป็นอากาศธาตุก็

อ้าปากเบิกตากว้าง ยกมือขึ้นชี้นิ้วด่าคน

“เจ้าเด็กอกตัญญู เจ้ากล้าวางยาพิษในข้าวสารของข้าหรือ”

“ข้าวสารของท่านย่อมอยู่ในครัวท่าน พวกเราพี่น้องจะไปวางยาพิษได้อย่างไร นอกเสียจากท่านจะเป็นขโมยที่เข้ามาขโมยข้าวของพวกเรา”

“ข้าวของพวกเจ้าอะไรกัน ข้าเป็นป้าใหญ่ของพวกเจ้า

เลี้ยงดูพวกเจ้า ข้าวทุกเม็ดของทุกอย่างในบ้านเจ้าล้วนเป็นของข้าทั้งสิ้น”

“ตั้งแต่ท่านพ่อแต่งงานก็แยกตัวออกมาจากบ้านใหญ่

ท่านป้าเรื่องนี้แม้แต่อาหานก็ยังรู้ ท่านก็อายุไม่น้อยแล้วเหตุใดจึงยังแยกแยะไม่ได้กัน”

ซ่งไป๋ลู่ได้ยินคำของซ่งต้าลู่สวนกลับคนเป็นป้าก็อ้าปากค้าง ไม่คิดว่าคนที่พูดน้อยเช่นเขาเวลาอ้าปากโต้เถียงคนจะน่ากลัวถึงเพียงนี้

“เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ เจ้าเด็กสารเลว! วันนี้ข้าจะตีพวกเจ้าสั่งสอนแทนบิดามารดาที่ไม่ได้ความพวกนั้น”

ซ่งหลี่เถียนด่าเพียงคำเดียวก็ก้าวเข้ามาเงื้อมือขึ้นตีคน

ซ่งไป๋ลู่ขมวดคิ้วเรียวเมื่อเห็นว่าฝ่ามือของซ่งหลี่เถียนตีลงบนตัวพี่ชายของนาง โทสะในใจก็ลุกโชน ทว่ายามที่กำลังคิดจะตอบโต้หางตาก็เห็นซ่งหานลู่พาคนมาแล้ว ริมฝีปากบางยกขึ้นยิ้มอย่างพึงพอใจ

ซ่งหลี่เถียนวันนี้ข้าจะทวงคืนความยากลำบากทั้งหมด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 3.3 หลุดพ้นจากคนชั่ว

    บทที่ 3.3 หลุดพ้นจากคนชั่วซ่งหลี่เถียนวันนี้ข้าจะทวงคืนความยากลำบากทั้งหมด“ท่านป้าใหญ่ ของพวกนั้นพวกข้าล้วนใช้เงินของตัวเองซื้อมาทั้งสิ้น จะเป็นของท่านได้อย่างไร”“นางตัวดี เจ้ากล้าซุกซ่อนเงินหรือเอามาให้ข้าเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่ให้ เงินที่ท่านพ่อส่งมาท่านก็ยึดไปจนหมดตอนนี้ยังจะมาเอาเงินของพวกเราอีก ท่านไม่ละอายใจบ้างหรือ”“เงินของพ่อเจ้าอะไรกัน พ่อเจ้าไม่เคยส่งเงินมาให้สักหน่อย”“เช่นนั้นพี่ใหญ่ทำงานทุกวันเงินค่าแรงก็สมควรได้รับ เหตุใดจึงเป็นท่านที่ยึดไปหมด”“สารเลว ล้วนสารเลวกันทั้งสิ้น สมแล้วที่เป็นเด็กเหลือขอไร้บิดามารดาอบรม ซ่งไป๋ลู่! นางตัวดีเจ้ากล้าถามเอาเงินจากข้าหรือ พี่เจ้าทำงานทดแทนบุญคุณให้ข้าจะมาถามเอาเงินอะไรกัน”ซ่งไป๋ลู่ได้ยินคำพูดของสตรีตรงหน้าในใจก็นึกเย้ยหยัน หากแต่บนใบหน้ากลับอาบไปด้วยน้ำตาโผเข้าไปโอบกอดพี่ชายเอาไว้“ท่านป้าพวกเราเป็นหลานของท่าน ไม่ใช่ทาสนะเจ้าคะจะได้ทำงานให้ท่านโดยไม่ได้แม้แต่ข้าวเป็นการตอบแทนเช่นนี้ได้อย่างไร”“หลานอะไร พวกเจ้าล้วนเป็นตัวภาระทั้งสิ้น ส่งเงินมาให้ข้า”เอ่ยจบซ่งหลี่เถียนที่ตีคนจนเจ็บมือก็หันไปหยิบไม้กวาดขึ้นหมายฟาดลงบนตัวซ่งไป๋ลู่ท

    Last Updated : 2025-02-20
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 3.4 หลุดพ้นจากคนชั่ว

    บทที่ 3.4 หลุดพ้นจากคนชั่วหลังจากที่ซ่งหลี่เถียนถูกตัดออกจากการเป็นผู้ดูแลสามพี่น้องตระกูลซ่ง ซ่งต้าลู่ก็ไม่ต้องออกไปทำงานหนักเช่นทุกวันอีก และเพราะอีกฝ่ายเอาที่ดินสิบหมู่ แม่หมูหกตัว แม่ไก่สิบตัวมาชดเชยเงินที่ยึดไปถึงสองปี ตอนนี้ซ่งต้าลู่จึงต้องเร่งทำเล้าหมู และเล้าไก่ อีกทั้งยังต้องวางแผนเร่งปลูกพืชผลให้ทันทั้งสิบหมู่ภายในเดือนนี้ แน่นอนว่าที่ดินมากมายถึงเพียงนั้นเขาที่เป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยสิบสี่ปีจะทำคนเดียวไหวได้อย่างไร“ข้าได้ยินว่าท่านลุงกู้ฉิน กับพี่กู้เหยียนไม่มีที่ดิน ทุกวันเลยต้องขับเกวียนรับฝากของเข้าเมือง หากเราแบ่งที่ดินให้เขาสามหมู่แลกกับข้อตกลงให้เขาช่วยเราปลูกข้าวเจ็ดหมู่ พี่ใหญ่ท่านเห็นเป็นอย่างไรเจ้าคะ”ในเมื่อเขาทำคนเดียวก็ไม่หมด แบ่งให้กู้เหยียนช่วยทำย่อมดีกว่าปล่อยทิ้งร้าง อีกทั้งยังได้แรงงานของพวกเขาทั้งครอบครัวมาช่วยนี่นับว่าเป็นความคิดที่ดี“เช่นนั้นข้าจะลองไปคุยกับท่านลุงกู้ดู”“สมแล้วที่เป็นพี่รองของข้า”ซ่งไป๋ลู่ส่ายหน้าไปมากับคำเยินยอของน้องชายตัวน้อย มือเล็กปอกเปลือกลูกพลับแล้วร้อยเป็นพวง เอาไปแขวนตากแดด ส่วนที่ยังไม่สุกดีก็เอาดองใส่ไหเอาไว้“พี่ใหญ่ไม้ไ

    Last Updated : 2025-02-20
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 3.5 หลุดพ้นจากคนชั่ว

    บทที่ 3.5 หลุดพ้นจากคนชั่วหลังจากกินมื้อเช้าร่วมกัน สามพี่น้องตระกูลซ่งก็แยกย้ายกันออกจากบ้าน วันนี้ซ่งไป๋ลู่ยังคงให้ซ่งหานลู่เก็บผลท้อและนางเก็บผลบ๊วยเช่นเดิม ทว่ายามที่ซ่งต้าลู่มาขนของไปไว้ที่ตระกูลกู้ ซ่งไป๋ลู่ก็แยกผลท้อและบ๊วยออกมาอีกอย่างละหนึ่งตะกร้ากลับมาที่บ้านด้วย“พี่รองท่านเอาผลท้อกับบ๊วยกลับมาทำไมตั้งมากมาย”ซ่งหานลู่เอ่ยอย่างเสียดาย ผลไม้สองตะกร้านี้หากเอาไปขายย่อมซื้อเนื้อหมูกลับมาเพิ่มได้อีกสองจินแน่ๆ ซ่งไป๋ลู่มองสายตาของน้องชายแล้วยิ้มกว้างเอ่ยเสียงสดใส“ผลท้อกับบ๊วยบนเขาเหลือไม่มากแล้ว หากไม่แบ่งมาตอนนี้ยามฤดูหนาวมาถึงคงไม่มีบ๊วยดอง ท้อแห้งให้เจ้ากิน”ซ่งต้าลู่ที่เดิมทีก็สงสัยไม่ต่างจากน้องชายเมื่อได้ยินน้องสาวอธิบายมุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมองแผ่นหลังเล็กที่เดินอยู่เบื้องหน้าด้วยความภาคภูมิใจเมื่อกลับถึงบ้านซ่งต้าลู่จึงเป็นคนเข้าครัว และให้ซ่งไป๋ลู่จัดการกับผลท้อและผลบ๊วยที่เก็บมาเหล่านั้น“พี่รองท่านทำบ๊วยดองเป็นด้วยหรือ”ซ่งไป๋ลู่ถึงกับยิ้มแห้งเมื่อได้ยินคำของเด็กชายตัวน้อย แน่นอนว่าหากเป็นซ่งไป๋ลู่คนเดิมคงทำเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ แต่นางคือซ่งไป๋ลู่นักรีวิวนิยายที่ติดท็อป

    Last Updated : 2025-02-20
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 4.1 วาสนาดีไม่สู้ชีวิตดี

    บทที่ 4.1วาสนาดีไม่สู้ชีวิตดีซ่งไป๋ลู่มองตะกร้าผลท้อและผลบ๊วยตะกร้าสุดท้ายแล้วถอนหายใจยาว สามเดือนแล้วที่นางเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้ แม้ไม่มีวาสนาได้ทะลุมิติเข้ามาเป็นบุตรีขุนนางใหญ่ หรือเชื้อพระวงศ์เช่นที่นักเขียนนิยมกัน แต่ชีวิตเช่นนี้ของนางก็ไม่นับว่ายากลำบากอะไร คิดดูแล้วหากนางต้องเข้ามาตบตีแย่งชิงความรักจากบุรุษ หรือต้องขบคิดประลองไหวพริบปะทะวาจา นางกลับรู้สึกว่าชีวิตเช่นนี้สบายมากกว่า เรียกว่าวาสนาดีไม่สู้มีชีวิตที่ดี“พี่รองลูกท้อกับลูกบ๊วยบนเขาไม่มีให้เก็บแล้ว ข้าจะยังมีเนื้อกินหรือไม่”ซ่งหานลู่ที่ยามนี้หายใจเข้าออกเป็นเนื้อหมูเอ่ยเสียงเศร้า ซ่งไป๋ลู่ถอนหายใจยาวเอ่ยเสียงจริงจัง“หากเจ้าอยากมีเนื้อกินทุกวัน ต่อไปก็ต้องช่วยข้าทำสวนเข้าใจหรือไม่”“ล้วนเชื่อฟังพี่รอง”เชื่อฟังพี่รองอะไรกัน ทั้งหมดล้วนเพื่อกระเพาะน้อยๆ ของเขาต่างหาก ซ่งไป๋ลู่มองเด็กชายวัยห้าขวบที่ตอนนี้มีเนื้อมีหนังขึ้นมาก แก้มแห้งตอบกลมยุ้ย ผิวพรรณกระจ่างสดใส เพียงมองเห็นก็รับรู้ได้ถึงสุขภาพที่ดีหลังจากที่รู้ว่าต่อไปซ่งไป๋ลู่จะไม่มีผลไม้มาฝากขายอีกแล้วกู้เหยียนก็มีสีหน้าสลดลง เพราะสามเดือนที่ผ่านมานี้นอกจาก

    Last Updated : 2025-02-20
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 4.2 วาสนาดีไม่สู้ชีวิตดี

    บทที่ 4.2 วาสนาดีไม่สู้ชีวิตดีเช้าวันต่อมาซ่งต้าลู่ก็ตื่นแต่ฟ้าสางหยิบจอบเดินไปยังลานหลังบ้านขึ้นแปลงผักอย่างขะมักเขม้น ซ่งไป๋ลู่จึงเข้าครัวทำอาหารเช้าง่ายๆ อย่างโจ๊กหมูและไข่ต้มไว้รอสองพี่น้อง ยามที่ตะวันเริ่มเคลื่อนตัวขึ้นไอเย็นของหยาดน้ำค้างระเหยไปจนหมด นางก็ยกผลท้อที่ฝานเป็นชิ้นออกไปตากแห้ง สัมผัสดูความชื้นแล้วตากแดดวันนี้อีกแค่วันเดียวก็สามารถเก็บลงโถเอาไปรวมกับของวันก่อนๆ ได้แล้ว“พี่ใหญ่ท่านหยุดมือแล้วมากินข้าวก่อนเถิด”ซ่งไป๋ลู่เดินไปเรียกเด็กหนุ่มที่ยามนี้มีกล้ามเนื้อมากขึ้นสมกับเป็นบุรุษแล้ว ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะฝีมือการบำรุงร่างกายเขาของนาง ซ่งต้าลู่ถูกแววตากลมใสจ้องมองร่างกายที่เปลือยท่อนบนสองแก้มก็ร้อนผ่าวรีบล้างตัวหยิบเสื้อตัวนอกมาสวมอย่างรวดเร็วรู้จักอายเสียด้วย เขาลืมไปหรือไม่ว่ายามนี้นางคือน้องสาววัยสิบขวบของเขา ไม่ใช่หญิงสาววัยปักปิ่นที่ไหน“ข้าขึ้นร่องแปลงผักให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว”“ขอบคุณท่านมาก หลังกินข้าวเช้าเสร็จข้าจะลงมือปลูกข้าวโพด”ข้าวโพดเป็นพืชที่ปลูกง่ายและดูแลไม่ยาก อีกทั้งยังเก็บเอาไว้ได้นาน หรือจะนำมาแปรรูปเป็นแป้งเก็บไว้ทำอาหารก็ได้หลากหลาย ดังนั้นซ

    Last Updated : 2025-02-20
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 4.3 วาสนาดีไม่สู้ชีวิตดี

    บทที่ 4.3 วาสนาดีไม่สู้ชีวิตดียามที่ซ่งต้าลู่กลับมาถึงบ้านก็พบว่าอาหารมื้อค่ำถูกจัดวางบนโต๊ะ ส่วนน้องทั้งสองคนหมดแรงนอนหลับอยู่บนเตียงเสียแล้ว“น้องรอง น้องเล็ก ลุกขึ้นมากินข้าวก่อนค่อยนอนต่อ”เสียงเอ่ยเรียกอย่างอ่อนโยนของซ่งต้าลู่ดังขึ้น คนที่หมดแรงหลับไปจึงลุกขึ้นมากินข้าวด้วยอาการกินไปหลับไปอย่างแท้จริง หลังกลืนข้าวคำสุดท้ายลงท้องก็หมุนตัวทิ้งกายลงนอนหลับต่อในทันทีซ่งต้าลู่มองน้องทั้งสองด้วยรอยยิ้มระคนรู้สึกผิด เป็นเพราะเขาทำหน้าที่พี่ชายได้ไม่ดี น้องทั้งสองจึงต้องยากลำบากเช่นนี้ ดังนั้นนอกจากจัดการเก็บถ้วยชาม และตักน้ำใส่ถังไม้ในบ้านจนเต็มทุกใบแล้ว ในยามฟ้าสางซ่งต้าลู่ยังเร่งตื่นก่อนผู้อื่น แบกถังไม้ไปตักน้ำมารดข้าวโพดที่น้องทั้งสองของเขาช่วยกันลงแรงปลูก รวมถึงหยิบจอบมาขึ้นแปลงเพิ่มไว้ให้พวกเขาอีกสองหมู่เมื่อซ่งไป๋ลู่ตื่นขึ้นมาก็พบว่าทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ริมฝีปากเล็กก็ยิ้มกว้างเอ่ยขอบคุณซ่งต้าลู่จากใจจริง“พี่ใหญ่มากินข้าวเถิดเจ้าค่ะ”หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จ ซ่งต้าลู่ยังคงออกจากบ้านไปทำงานเช่นเดิม ซ่งไป๋ลู่หยิบถุงเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองมาคัดแยกแล้วพาน้องชายตัวน้อยลงแรงป

    Last Updated : 2025-02-20
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 4.4 วาสนาดีไม่สู้ชีวิตดี

    บทที่ 4.4 วาสนาดีไม่สู้ชีวิตดี“พี่ใหญ่ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากปรึกษาท่าน”ซ่งไป๋ลู่เอ่ยขึ้นหลังจากที่กินมื้อค่ำเสร็จ ซ่งต้าลู่ไม่ได้ขานรับ ทว่าท่าทีสบตานิ่งพร้อมรับฟังของเขาก็ทำให้ซ่งไป๋ลู่มั่นใจที่จะเอ่ยบอกความคิดของตนเอง“ตอนนี้ฝนเริ่มไม่ค่อยตกแล้ว ที่ดินที่ท่านป้าใหญ่ยกให้เราติดกับแม่น้ำ อีกทั้งมีทางน้ำสำหรับเข้านา หากข้าลอกร่องทำทางน้ำต่อมาที่บ้านเราจะได้ไหมเจ้าคะ ท่านจะได้ไม่ต้องลำบากไปตักน้ำที่ลำธารมาให้พวกเราใช้”ที่สำคัญนางกับน้องชายตัวน้อยจะได้ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการหาบน้ำมารดพืชผลเหล่านั้นด้วย“หากเจ้าจะลอกร่องทำทางน้ำเพื่อใช้รดน้ำพืชผักนั้นย่อมได้ ทว่าน้ำที่ไหลผ่านทางลอก นำมาใช้ในบ้านไม่ได้”ซ่งต้าลู่เอ่ยตอบน้องสาว นางยังเด็กอาจไม่เข้าใจว่าการนำน้ำมาใช้ในบ้านนั้น ต้องตักน้ำจากต้นน้ำ อีกทั้งยังต้องตักอย่างระวัง ไม่เช่นนั้นจะได้น้ำที่ขุ่นและสกปรกไม่สามารถนำมาใช้ได้เรื่องความสะอาดของน้ำที่ใช้ซ่งไป๋ลู่ย่อมรู้ดี แต่การไปตักน้ำที่อยู่ห่างจากบ้านถึงสี่ลี้ก็นับว่ายากลำบากไม่น้อย ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยท่าทางดีใจ“แล้วถ้าเรามีถังกรองน้ำเล่าเจ้าคะ”สำหรับซ่งไ

    Last Updated : 2025-02-20
  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 5.1 ทางรอด

    บทที่ 5.1ทางรอดเมื่อเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตผู้คนในหมู่บ้านอันฉีก็วุ่นวายกันมากขึ้น ซ่งต้าลู่ต้องออกจากบ้านไปทำงานหนักทุกวัน แน่นอนว่าเขาไม่ยินดีให้ซ่งไป๋ลู่ออกไปพบเจอความยากลำบากเหล่านั้น ในทุกวันซ่งไป๋ลู่จึงทำเพียงตื่นเช้าเข้าครัวทำอาหาร หลังจากนั้นก็จัดการปล่อยน้ำเข้าสวนหลังบ้าน ก่อนจะขึ้นเขาเก็บผลพลับ ที่เพิ่มเติมก็คือก่อนจะออกจากบ้านนางมักจะเก็บดอกกุหลาบและดอกหอมหมื่นลี้ที่ริมรั้วมาตากแห้งทิ้งไว้“พี่รองท่านจะเอาดอกไม้พวกนี้ไปทำอะไรหรือขอรับ”“เอาไว้ทำของดีให้เจ้ากินอย่างไรเล่า”ซ่งหานลู่ขมวดคิ้วเล็ก ดอกไม้เหล่านี้จะเอามาทำของกินได้อย่างไร ทว่าเมื่อพี่รองบอกว่าได้ย่อมต้องได้สามวันต่อมาหลังมื้อค่ำบนโต๊ะก็มีชาเหมยกุ้ยฮวาเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งกา“พี่รองนี่คือดอกกุหลาบที่ท่านเก็บวันนั้นหรือขอรับ”“ใช่แล้วเจ้าลองชิมดู”เอ่ยจบซ่งไป๋ลู่ก็รินชาร้อนใส่ถ้วยชาหินที่ดูไม่มีราคา ทว่าแท้จริงกลับมีราคาเท่ากับข้าวสารถึงสามสิบจิน“เป็นอย่างไรรสชาติดีหรือไม่”“ดีขอรับ ดีมากๆ นับเป็นของดีเช่นที่ท่านบอกจริงๆ”เสียงเล็กเอ่ยชมคนเป็นพี่พร้อมยิ้มกว้างจนดวงตาหยี ส่งถ้วยชาใบเล็กยื่นมาขอเพิ่มอีกถ้วย แน่

    Last Updated : 2025-02-20

Latest chapter

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 7.5 เคราะห์ร้ายนำพาวาสนา

    “ทั้งหมดสามตำลึง”แม้จะเสียดายเงิน แต่เสื้อผ้าเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สมควรจ่าย ดังนั้นซ่งไป๋ลู่จึงควักเงินยื่นให้อีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล ก่อนจะเดินเล่นบนตรอกอวิ๋นสำรวจสินค้าต่างๆ ที่ผู้คนนิยม ตลอดจนสินค้าที่ขาดตลาด“เจ้าสุนัขขี้ขโมย กล้าขโมยเนื้อของข้า วันนี้ข้าจะตีให้ตาย”เสียงคนขายหมูร้องด่าลูกสุนัขตัวสีน้ำตาลมอมแมมดังลั่นถนน ซ่งไป๋ลู่เดิมทีไม่คิดสนใจเรื่องวุ่นวายของผู้อื่น ทว่าเจ้าลูกสุนัขตัวดีกลับคล้ายต้องการให้นางใส่ใจ ขาสั้นๆ ทั้ง 4 จึงวิ่งตรงมาหยุดที่ด้านหน้าซ่งไป๋ลู่ วางชิ้นเนื้อลงบนเท้าเล็กก่อนจะวิ่งไปหลบด้านหลัง ทำราวกับนางคือเจ้าของของมัน“อ๋อ... ที่แท้ก็เป็นหนึ่งคนหนึ่งสุนัขร่วมมือกันขโมยของ ช่างดีจริงๆ อย่างนั้นวันนี้ข้าจะตีทั้งสุนัขทั้งคนสั่งสอนไปพร้อมๆ กัน”คิ้วเล็กของซ่งไป๋ลู่ขมวดเข้าหากันแน่น คนตรงหน้าไม่ถามไม่ไถ่คิดเองเออเองก็จะตีนาง หึ! อยากสั่งสอนนางก็ต้องดูก่อนว่า อีกฝ่ายมีความสามารถหรือไม่ ซ่งไป๋ลู่ขบกรามในหัวคิดถึงศิลปะการป้องกันตัวที่ตนเองเคยร่ำเรียนเพื่อใช้รีวิวนิยายในภพก่อน ทว่ายังไม่ทันแสดงฝีมือเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น“หยุดเดี๋ยวนี้!”มือของชายขายหมูชะงักค้างอยู่ที่

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 7.4 เคราะห์ร้ายนำพาวาสนา

    ใช้เวลาร่วมชั่วยามในที่สุดสามพี่น้องตระกูลซ่งก็เดินมาถึงเหลาอาหารกู้ไป๋ ทว่าเท้าไม่ทันก้าวข้ามประตูก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังออกมาจากด้านใน ซ่งต้าลู่รีบดึงแขนน้องทั้งสองไว้เบื้องหลัง พลางกวาดสายตามองสถานการณ์ตรงหน้าในทันที“ใครไม่เกี่ยวก็ถอยไป!”สิ้นเสียงแข็งกร้าวดุดันดังลั่นเหลาอาหาร ลูกค้าต่างก็พากันลุกขึ้นแตกตื่นออกมาจากร้าน ซ่งไป๋ลู่ขมวดคิ้วเล็กมองอันธพาลแปลกหน้าในเหลาอาหารของตนด้วยความไม่พอใจ“ถ้าไม่อยากเดือดร้อนก็ส่งคนมา”ชายแปลกหน้าชี้นิ้วไปทางกู้เหยียน ซึ่งยืนบังจางหย่งที่ตัวโตกว่าเอาไว้“ท่านเป็นใคร แล้วทำไมต้องจับตัวพี่จางหย่งไปด้วย”กู้เหยียนตะโกนถามเสียงก้อง มือยังคงจับแขนของจางหย่งเอาไว้มั่น ราวกับจะสื่อสารให้เขารับรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะปกป้องเขาเอง“ข้าเป็นใครไม่สำคัญ ส่งคนมาก็พอ”“ข้าไม่ส่ง! หากพี่จางหย่งเคยไปทำให้ท่านเดือดร้อนก็เรียกค่าชดเชยมา ข้าจะรับผิดชอบเอง”จางหย่งมองเด็กชายที่ออกโรงปกป้องตนเองแล้วเกิดความสงสัยอยู่ในที บนแผ่นดินนี้ยังมีคนที่ช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่กลัวความเดือดร้อนอยู่อีกหรือ“อายุของเจ้าดูแล้วคงไม่เกินสิบห้าแต่ใจกล้าไม่เบา ได้! ข้าจะบอกให้ ไอ้ขอทา

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 7.3 เคราะห์ร้ายนำพาวาสนา

    หลังจากเจรจาตกลงซื้อขายกันเสร็จแล้ว เกาจ้านเผิงก็รีบหมุนตัววิ่งจากไปในทันที ต่อจากนี้ในบ้านจะมีหนทางหาเงินเพิ่มแล้ว ภายหน้าหนี่เอ๋อร์ของเขาก็มีโอกาสซื้อยาดีๆ มากิน หรืออาจโชคดีถึงขั้นสามารถจ้างหมอมีฝีมือมารักษา เช่นนี้นางก็ไม่ต้องทรมานกับอาการเจ็บป่วยเรื้อรังนั่นอีกซ่งไป๋ลู่ยืนส่งคนจนลับตาก็เปิดประตูรั้วเข้าบ้าน เดิมทีคิดจะเข้าไปทักทายซ่งต้าลู่และซ่งหานลู่สักประโยค แต่เมื่อเห็นทั้งสองตั้งใจอ่านตำราก็ไม่คิดเข้าไปรบกวน เดินไปที่สวนหลังบ้านจัดการวัชพืชและเก็บแตงกวากับพริกสดติดมือกลับมาอู๊ดๆ... เสียงของหมูในเล้าร้องดังขึ้น ซ่งไป๋ลู่จึงสังเกตเห็นว่าหมูเหล่านี้ถึงเวลาเปลี่ยนเป็นเงินลงกระเป๋านางได้แล้ว ดังนั้นวันต่อมานางจึงกลับไปที่บ้านตระกูลเกาอีกครั้งเพื่อให้พวกเขาช่วยเป็นธุระติดต่อคนมาซื้อหมู ผ่านไปเพียงสองวันหมูในเล้าก็เปลี่ยนเป็นเงินตำลึงในกระเป๋านาง“พี่รอง ท่านขายหมูไปแล้วเช่นนั้นจะเลี้ยงอะไรแทน”การเลี้ยงหมูขายนั้นแม้จะทำกำไรได้ดี แต่ต้นทุนก็สูงไม่น้อย อีกทั้งความเสี่ยงก็มากเพราะหากพวกมันตายก่อนจะได้ขายทุกอย่างที่ลงทุนไปก็ล้วนสูญเปล่า ในทุกวันนางยังต้องหาอาหารปริมาณมากมาบำรุงให้พวก

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 7.2 เคราะห์ร้ายนำพาวาสนา

    เช้าวันต่อมาหลังจากที่กินมื้อเช้าแล้ว ซ่งไป๋ลู่ก็นำเห็ดที่ผึ่งลมจนแห้งใส่ตะกร้าออกเดินทางเข้าเมือง เดิมทีซ่งต้าลู่ตั้งใจติดตามไปส่งน้องสาว แต่ซ่งไป๋ลู่กลับไม่ยินยอม ด้วยเหตุผลที่ว่าตอนนี้การสอบถงเซิงใกล้เข้ามาทุกที เวลาของพี่ชายจึงมีค่ามากกว่าทองคำ นางจะให้การสอบของเขาพังลงเพราะเรื่องของนางไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแล้วภายหน้าคงยากจะรับมือกับเมิ่งเฟยอวี่แล้ว“อาไป๋มีเรื่องอะไรหรือ เห็นท่านลุงกู้ของเจ้าบอกว่าเจ้าต้องการพบข้า”ว่านชุนเดินออกมาจากห้องครัวด้วยท่าทางร้อนใจ หากแต่เด็กหญิงตรงหน้ากลับยิ้มกว้างวางตะกร้าบนบ่าลง“นี่คืออะไรหรือ”“นี่เป็นเห็ดผิงกูอ่อนเจ้าค่ะ”“เห็ดผิงกูอ่อน เจ้าเอามาเสียมากมายเช่นนี้ทำไมกัน หรือว่าจะนำมาทำอาหาร”ถึงแม้เห็ดผิงกูจะหาง่าย ทว่ากลับนำมาปรุงอาหารได้เพียงไม่กี่ชนิด เมื่อว่านชุนเห็นเด็กสาวพยักหน้าแสดงการยืนยันว่าจะใช้เห็ดผิงกูอ่อนทำอาหารจริงๆ ใบหน้าของว่านชุนก็อาบไปด้วยความกังวลในทันที“อาไป๋ ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากรับน้ำใจเจ้า แต่เห็ดผิงกูนั้นทำอาหารได้ไม่ดีนัก ยิ่งเป็นเห็ดผิงกูอ่อนพวกนี้ยิ่งไม่เป็นที่นิยม”“เช่นนั้นท่านป้ากู้ให้ข้ายืมครัวสักครู่ได้ไหมเจ้าคะ

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 7.1 เคราะห์ร้ายนำพาวาสนา

    ซ่งไป๋ลู่เดินออกจากบ้านมาได้ไม่นานก็เห็นประตูรั้วบ้านตระกูลเกา ริมฝีปากเล็กจึงเอ่ยร้องเรียกคน เจิ้งซุนหนี่ลูกสะใภ้ของบ้านตระกูลเกาได้ยินเสียงคนเรียกก็เดินออกมาต้อนรับเด็กสาวด้วยท่าทางเป็นมิตร“อาไป๋ เจ้ามาหาท่านพ่อหรือ”“ข้าเพียงอยากมาสอบถามว่าต้นกุหลาบที่บ้านของท่านยังมีดอกอยู่หรือไม่”“ยังมีอยู่อีกมากทีเดียว ถ้าเจ้าอยากได้ก็เข้ามาเก็บได้เลย แค่กๆ”เจิ้งซุนหนี่เอ่ยอย่างมีน้ำใจก่อนจะไอเบาๆ ซ่งไป๋ลู่ยิ้มกว้างเดินตามหญิงสาวเข้าไปด้านในบ้าน หากแต่นางไม่ได้เข้ามาเก็บดอกกุหลาบอย่างที่เจิ้งซุนหนี่คิด เด็กหญิงนั่งลงที่เก้าอี้ไม้หน้าบ้านแล้วดึงหญิงสาวนั่งลงตรงข้ามกัน“พี่สะใภ้เกา ท่านสนใจร่วมทำการค้ากับข้าหรือไม่”เมื่อได้ยินเด็กหญิงวัยเพียงสิบเอ็ดปีเอ่ยเจรจาการค้ากับตน เจิ้งซุนหนี่ก็เบิกตากว้างความไม่เชื่อถือเกิดขึ้นในใจ แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่สามีเล่าให้ฟังว่าเมื่อหลายเดือนก่อนที่พี่น้องบ้านซ่งให้ชุนเหยียนนายช่างประจำหมู่บ้านไปต่อเติมห้องเก็บของ แต่ยังไม่ทันลงมือสร้างเด็กสาวซ่งไป๋ลู่ก็มาเจรจาว่าจ้างให้สร้างบ้านหลังใหม่จนนายช่างชุนต้องมาขอให้เกาเทียนเย่ผู้เป็นบิดาสามีไปช่วยก่อสร้าง ในใจของเจ

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 6.5 สุราดีย่อมไม่กลัวตรอกลึก

    “คารวะคุณชายเฟย”“อืม นั่งลงสิ”ซ่งไป๋ลู่ทิ้งตัวลงนั่ง ตั้งท่าจะเจรจาขอเพิ่มราคาดอกไม้แห้ง เพียงแต่ไม่ทันเอ่ยปาก เฟยอวิ๋นก็วางหมากล้อมลงบนกระดานตรงหน้า“เวลาข้าเล่นหมากล้อมไม่ชอบให้ใครส่งเสียงรบกวน”หากไม่อยากให้ใครรบกวน เช่นนั้นเรียกนางเข้ามาทำไมกัน คุณชายเฟยอวิ๋นผู้นี้ช่างน่าโมโหนัก ยิ่งเห็นเขาเล่นหมากสองฝั่งขบคิดร่วมหนึ่งชาเย็นจึงวางหมากหนึ่งตัวซ่งไป๋ลู่ก็อดไม่ได้ หยิบหมากดำมาถือร่วมลงกระดานประลองกับเขา ไม่คิดว่าท่ามกลางความเงียบไร้สุ้มเสียงสนทนา สองชายหญิงต่างวัยกลับโต้ตอบกันอย่างดุเดือด ร่วมหนึ่งชั่วยามก็ยังไม่สามารถตัดสินแพ้ชนะเฟยอวิ๋นมองหมากบนกระดาน ไม่น่าเชื่อว่าตนเองจะเดินหมากได้เสมอกับเด็กหญิงวัยเพียงสิบปีตรงหน้า“หมากบนกระดานจบลงแล้ว เช่นนั้นคุณชายคงสามารถเจรจากับข้าเรื่องราคาดอกไม้แห้งได้แล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ”“หากกระดานนี้เจ้าชนะข้าได้ ราคาดอกไม้แห้งของเจ้า ข้าจะเพิ่มราคาขึ้นให้อีกหนึ่งเท่าตัว”เมื่อได้ยินว่าคนตรงหน้าจะเพิ่มราคาดอกไม้แห้งให้อีกหนึ่งเท่าตัวเพียงแค่ชนะหมากล้อมกระดานนี้ซ่งไป๋ลู่ก็ยิ้มกว้าง ก่อนที่จะทะลุมิติมาตัวนางเป็นถึงแชมป์หมากล้อมประจำภาค ไหนเลยจะกลัวการ

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 6.4 สุราดีย่อมไม่กลัวตรอกลึก

    ในขณะที่สามพี่น้องตระกูลซ่งกำลังนั่งสนทนากับกู้เหยียน เสียงเอะอะโวยวายก็ดังมาจากทางหน้าร้าน ทุกคนจึงเร่งรุดไปดู ภาพที่เห็นคือชายขอทานวัยกลางคนเนื้อตัวมอมแมม เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งกำลังถูกขอทานอีกกลุ่มใหญ่ไล่ทุบตี จนต้องหนีเข้ามาภายในร้านกู้ไป๋ ทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายภายในร้านจนลูกค้าหนีหายไปจนหมดกู้ฉินยืนกอดภรรยาที่ร่ำไห้ด้วยความตื่นตระหนก ซ่งต้าลู่จับแขนเล็กของน้องๆ ดึงมาหลบที่ด้านหลัง เหยียดตัวตรงเป็นเกราะกำบังแล้วตะโกนเสียงดังก้องดุดัน“ตามกฎหมายแคว้นต้าหยาง ผู้ใดก่อความเสียหายให้บุคคลอื่นต้องเสียค่าปรับตามราคาทรัพย์สินที่เสียหาย หากมิอาจชำระก็ให้จำคุกชดเชย”ได้ยินคำขู่ของเด็กชายท่าทางภูมิฐานมีความรู้ เหล่ากลุ่มคนขอทานก็ชะงักมือไม้ที่กำลังง้างตีคนที่หมอบอยู่ใต้โต๊ะอาหาร แต่แล้วชายขอทานคนหนึ่งก็พูดขึ้น“พวกเราเป็นแค่ขอทาน ไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร์คิดจะจับเรารึ ถุย!”ซ่งต้าลู่ขมวดคิ้วเข้มเข้าหากัน ตวัดสายตาดุจ้องมองอีกฝ่าย ท่าทางเช่นนี้ของเขาทำให้ขอทานใจกล้าเมื่อครู่ใจฝ่อในทันที“ถึงแม้พวกเจ้าจะเป็นขอทานไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร์ แต่ทั่วทั้งแคว้นต้าหยางมีสถานที่หลบซ่อนไม่มากนัก ข้ารับร

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 6.3 สุราดีย่อมไม่กลัวตรอกลึก

    ซ่งไป๋ลู่นั่งลงมองผ่านประตูเรือนไปด้านนอก ตอนนี้นางทะลุมิติมาครึ่งปีแล้วสิ่งต่างๆ รอบตัวเปลี่ยนแปลงไปชนิดที่กล่าวได้ว่า จากหน้ามือเป็นหลังมือ ทว่าสิ่งเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงก็คือ... ซ่งต้าลู่ พี่ชายที่แสนดีคนนี้ เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเขาก็ถนอมน้องสาวคนนี้ไม่เปลี่ยนแปลง“พี่ใหญ่เดือนหน้าท่านต้องไปสอบแล้ว ช่วงนี้งานนอกบ้านท่านก็พักเอาไว้ก่อนเถิดเจ้าค่ะ เงินที่ท่านพ่อส่งมากับส่วนแบ่งที่ท่านป้ากู้มอบให้ พวกเราใช้ทั้งปีก็ยังไม่หมด”ตอนนี้พวกเขาสามพี่น้องตระกูลซ่งแม้ไม่อาจกล่าวว่าร่ำรวย แต่ก็ไม่ขัดสนเรื่องเงินเช่นในอดีต เนื่องจากซ่งไห่เฟิ่งผู้เป็นบิดานั้นส่งเงินมาให้ทุกหกเดือน แต่ละครั้งก็มากถึง 10 ตำลึง คำนวณดูแล้วที่ผ่านมาในหนึ่งปีบิดาผู้นี้ส่งเงินมาให้สามพี่น้องตระกูลซ่งถึง 20 ตำลึง กลับเป็นซ่งหลี่เถียนป้าใหญ่ผู้นั้นที่ละโมบเอาเงินไปจนหมด อีกทั้งยังรังแกพวกตน ใช้แรงงานซ่งต้าลู่จนเขาต้องหยุดพักการเรียน สูญเสียโอกาสในการสอบมาถึงสองปี คิดถึงตรงนี้ ในใจของซ่งไป๋ลู่ก็ยิ่งคับแค้นคนจนใบหน้าเคร่งขรึม“ขมวดคิ้วจนแน่นเช่นนี้ ในใจกำลังขุ่นเคืองผู้ใดกัน”น้ำเสียงหยอกเย้าของพี่ชายทำให้ซ่งไป๋ลู่ออกจา

  • สามีอยากก้าวหน้าต้องช่วยข้าทำสวน   บทที่ 6.2 สุราดีย่อมไม่กลัวตรอกลึก

    ตรอกหนิงอันเป็นถนนฝั่งตะวันตกตรงข้ามกับตรอกอวิ๋น ระยะทางนับว่าไม่ไกลกันมาก อีกอย่างที่นั่นไม่มีเหลาอาหารเรียกได้ว่าไร้คู่แข่ง ดังนั้นจึงนับเป็นทำเลดีในการเริ่มต้นกิจการเหลาอาหารด้วยเหตุนี้ในเดือนต่อมาบนถนนตะวันตก ตรอกหนิงอันจึงมีเหลาอาหารกู้ไป๋เกิดขึ้น และเพราะชื่อเสียงเดิมของว่านชุนทำให้เหลาอาหารกู้ไป๋นี้กลายเป็นที่นิยมในระยะเวลาอันรวดเร็ว ว่านชุนมองเงินตำลึงที่เก็บลงหีบด้วยรอยยิ้มกว้างเปล่งประกาย “อ่า... เงินของข้า ช่างดีจริงๆ”กู้ฉินที่บีบนวดไหล่ให้ภรรยาเห็นนางมีความสุขเช่นนี้บนใบหน้าของเขาก็พลอยมีรอยยิ้มกว้างตามไปด้วย“นางหนูซ่ง ช่างเป็นคนมองการณ์ไกลจริงๆ เวลาเพียงไม่นานก็ช่วยพวกเราให้เติบโตก้าวหน้าได้เช่นนี้แล้ว”“อาไป๋คือขาทองคำของพวกเรา ดังนั้นให้ต้องทุ่มหมดตัวข้าก็ต้องได้นางเป็นสะใภ้”ว่านชุนเอ่ยอย่างมุ่งมั่น สตรีที่มีควมคิดเฉลียวฉลาดเช่นนี้นางจะปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร“ได้เวลาไปรับอาเหยียนกับอาหานแล้ว ฮูหยินเจ้าเองก็เร่งปิดร้านพักผ่อนเถอะนะ”เพราะกิจการเหลาอาหารรุ่งเรืองเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นบ้านตระกูลกู้จึงย้ายเข้ามาพักในเมือง และเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปสำนักศึ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status