ขณะที่ก้มหน้าก้มถูกพื้นลงมาเรื่อยๆจากชั้นบนสุดค่อยๆทำความสะอาดมาเรื่อยๆจนกระทั่งลงมาที่พื้นด้านล่างสุด ระหว่างที่ทำงานมาเรื่อยๆนั้น ก็ได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของหญิงสาวและชายหนุ่มหนุ่มดังเป็นระยะ บางชั้นก็มีหญิงคณิกาที่กำลังบรรเลงเพลงอยู่ด้านใน อดีตนางแบบที่ก็ชื่นชอบการดูซีรี่ย์จีนมากอยู่เหมือนกััน จึงพอจะทำความเข้าใจกับการใช้ชีวิตในยุคโบราณของเหล่าผู้คนในหอคณิกานี้
นางเห็นมีผู้ชายจีนโบราณ ที่แต่งตัวลักษณะคล้ายคุณชายที่แต่งตัวเหมือนกับซีรี่ย์ที่เคยเห็นเลย บางคนถือพัดเอาไว้ในมือ บางคนก็เดินมามือเปล่า มาเพียงคนเดียว หรือมีคนติดตามหรือไม่ก็มาพร้อมๆกันหลายคนที่ต่างก็เดินเข้ามาในหอคณิกาแห่งนี้ เริ่มตั้งแต่กลางวันเป็นต้นไปที่มีการเล่นดนตรีจีีนโบราณมีหญิงคณิกาที่ชำนาญเกี่ยวกับการวาดภาพ มีการหญิงคณิกาที่เล่นหมากรุกเป็นเพื่อนกับแขกเหรืื่อที่ชอบการละเล่นพวกนั้น และคงจะมีอีกหลายอย่างแต่อันอันไม่เห็น แอบมองเข้าไปในห้องเหล่านั้นเห็นแค่บางห้องเท่านั้น จึงพอจะสรุปได้ว่านอกจากเขาจะมาหอนางโลมเพื่อเชยชมเหล่าคณิกาแล้ว ยังมีความบรรเทิงอื่นๆอีก และในสมัยโบราณศิลปะเหล่านี้คงจะเป็นที่นิยม
ในห้องต่างๆที่หอมหมื่นลี้ลอบสังเกตุขณะที่ทำความสะอาดมาเรื่อยๆนั้น บางห้องก็มีการแสดงร่ายรำประกอบดนตรี เพราะเห็นนางรำแต่งกายคล้ายกับระบำแขก นางก็แต่งกายคล้ายชนเผ่า หรือไม่ก็เป็นชุดยาวกรุยกรายที่เป็นกางเกงและเวลาร่ายรำก็สะบัดแขนขาให้อาภรณ์ยาวนั้นพริ้วไหวไปตามจังหวะของเจ้าตัวที่คลื่่่นไหวไปตามเสียงเพลง บางห้องที่นางแอบมองลอดเข้าไปก็เป็นการวาดภาพเขียน และมีบุรุษที่ืชื่นชอบสิ่งเหล่านั้นมานั่งชมหญิงงามวาดภาพเขียนให้ดูและก็หยอกล้อกันไปด้วย และบางคนก็จิบสุราไปด้วย ที่จิบอยู่ที่นั่นอาจจะเป็นน้ำชาก็ได้ แต่หอมหมื่นลี้คิดว่าน่าจะเป็นสุรามากกว่า บางคนก็นั่งฟังหญิงคณิกาดีดพิณ เล่นกู้เจิ้งก็มี บางคนก็สีซอ นางเองก็ไม่รู้ว่าเครื่องดนตรีโบราณนั้นเขาเรียกว่าอะไร แต่มองดูก็คล้ายๆซอบ้านเราอยู่
ขณะที่แอบมองก็ครุ่นคิดว่าหากเป็นสมัยนี้คงจะการเต้นระบำไปด้วยกระมัง คงจะมีการแด๊นซ์ให้ผู้ชายซื้อเวลามานั่งดู จะว่าไปบุรุษสมัยโบราณนี่ก็มีความละเมียดละไมอยู่มากนะ อารัมภบทก็มาก ชอบศิลปะแต่ต้องมานั่งซื้อเวลานั่งดูในหอคณิกา ก็แปลกๆอยู่ในความรู้สึกของหญิงยุคใหม่เช่นหอมหมื่นลี้ นางค่อยๆทำงานไปเรื่อยๆและแอบดูผู้คนแต่ละชั้นว่าทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง บางห้องก็เงียบกริบไม่มีคนใช้งาน และเมื่อลงมาถึงชั้นล่างก็เข้าใจ หอคณิกาแม้จะเปิดทำการแล้วแต่แขกเหรื่อมักจะชอบมาตอนเย็นจนล่วงเข้าสู่ค่ำคืน ตอนเย็นๆก็จะมีการแสดงบนเวที แต่วันนี้ทำงานเป็นวันแรกก็ยังไม่รู้ว่าบนเวทีนั้นมีการแสดงอะไรบ้าง
นางทำความสะอาดด้านล่างไปเรื่อยๆ อย่างเร่งรีบ ให้เสร็จก่อนที่หอคณิกานี่จะมีแขกเข้ามาใช้บริการมาก ขณะนั้นอยู่ๆหอมหมื่นลี้ก็รู้สึกว่ามีคนจับจ้องอยู่จึงได้หันไปตามสายตานั้น ก็พบเข้ากับเจ้าชายในฝันเข้า หรือจะเรียกว่าพระเอกซีรี่ย์จีนก็ได้ เขาหล่อมาก หล่อเหลือร้ายแต่หน้าตาบึ้งตึงไปหน่อย การแต่งตัวก็ดีมาก ก็เหมือนกับคุณชายหลายๆคนที่เห็นอยู่บนทางเดินข้างบน แต่เขาจ้องมาที่หอมหมื่นลี้อย่างไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าใดนัก จนทำเอาหอมหมื่นลี้หันไปมองทางด้านหลังว่ามีคนอื่นยืนอยู่หรือไม่ เพราะคิดว่าหนุ่มหล่อคนนี้อาจจะมองคนอื่นอย่างไม่พอใจแต่ไม่ใช่นางก็เป็นได้ แต่เมื่อหันไปมองด้านหลังก็ไม่พบใครยืนอยู่ มองไปทางด้านข้างสองข้างแล้วก็ไม่มี เราก็ยืนอยู่แค่คนเดียว ตาคนนั้นจะจ้องมองอย่างจะกินเลือดกินเนื้อไปทำไมกัน
แต่เมื่อนางหันไปอีกครั้ง บุรุษคนนั้นก็หันไปพูดคุยกับหญิงวัยกลางคนที่นางพบบนชั้นห้านั่นแล้ว หรือว่าข้าอาจจะคิดไปเองก็ได้ หอมหมื่นลี้คิดปลอบใจตนเอง คงไม่มีใครจะมาเกลียดฉันขนาดนั้นหรอกนะ เพิ่งมาแท้ๆ หรือจะเป็นโจทย์ของแม่หนูคนนี้เสียก็ไม่รู้้ หอมหมื่นลีี้เรียกเจ้าของร่างเดิมนี้ว่าแม่หนู เพราะเด็กสาวคนนี้น่าจะอายุแค่เพียงสิบห้าหรือสิบหกปีเท่านั้น จากที่เห็นใบหน้าและผิวพรรณน่าจะไม่เกินนี้ ส่วนอายุจริงของอดีตนางแบบสาวนั้นเกือบจะสามสิบเข้าไปแล้ว นับว่าได้กำไรไม่น้อย เกิดใหม่ย้อนเวลามายุคจีนโบราณ แถมยังย้อนวัยมาเป็นสาวรุ่นอีก อย่างน้อยนี่ก็เป็นสิ่งที่ดีนะ….
หอมหมื่นลี้รีบปัดความคิดเรื่องพ่อหนุ่มนั่นไปเสีย เขาอาจจะแค่สงสัยว่านางทำไมทำท่าทางแปลกๆก็ได้ หรือคนสมัยโบราณหน้าตาเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วก็ได้นะ แล้วนางก็รีบตั้งหน้าตั้งตาทำงานตรงหน้าไปอย่างรวดเร็ว รีบทำจะได้รีบเสร็จก่อนที่จะมีคนมากมันจะทำไม่สะดวก ขณะที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนเกือบจะเสร็จอยู่แล้วนั่นก็มีเสียงเรียกดังขึ้นทางด้านหลัง “ อันอัน เจ้าเดินตามข้ามา มีเรื่องจะพูดกับเจ้า ”
นางหันไปตามเสียงเรียกก็พบเข้ากับใบหน้าของหญิงวัยกลางคนที่พบที่บนชั้นห้าคนเดิม จึงได้เดินตามนางไปในห้องๆหนึี่งที่มีทางแยกไปอีกด้าน และเดินตามไปเรื่อยๆจนนางเดินไปเปิดประตูห้องสุดท้ายของทางเดินออก แล้วก็เดินเข้าไป อันอันจึงได้เดินตามเข้าไปเช่นกัน
“ เอาละ วันพรุ่งนี้หลังจากที่เจ้ามาที่หอคณิกานี้ ให้มาเปลี่ยนอาภรณ์ที่ห้องนี่ก่อนนะ เมื่อเปลี่ยนเสร็จแล้วก็สวมเสื้อคลุมนี่แล้วขึ้นไปหานายท่านด้านบนชั้นห้า แล้วเดินไปที่ห้องสุดท้าย บนชั้นห้ามีห้องแค่สามห้อง ให้ไปที่ห้องทางปีกขวาที่เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด นายท่านมีเรื่องจะพูดกับเจ้า พรุ่งนี้ไม่ต้องทำความสะอาดหอ ข้าจะให้สาวใช้คนอื่นทำแทนเจ้า ” อันอันพยักหน้าช้าๆ อย่างไม่เข้าใจนัก แต่ก็จำต้องทำตาม “ ท่านคือมาม่าอี้หลานใช่หรือไม่ ข้าเป็นสาวใช้ที่นี่ ได้รับเงินเดือนเท่าไหร่คะ แล้วจะลาออกได้หรือไม่ ” หญิงตรงหน้าชะงักไป ทำหน้างงงันน้อยๆ
“ ใช่ข้าคือมาม่าอี้หลาน เจ้าตกน้ำไปได้ยินเสี่ยวหลินว่าเจ้าความจำเสื่อมไปบ้าง แต่ไม่เป็นไรข้าจะเรียนถามนายท่านว่าจะให้ท่านหมอมาตรวจอาการเจ้าหรือไม่ ข้าจะทบทวนความจำให้เจ้าก็แล้วกันนะ เจ้าคือหลิวอันอันเป็นทาสที่นายท่านซื้อตัวมาจากทางการ เพราะบิดาของเจ้าถูกจับข้อหาร่วมกันฉ้อราษฎร์ฯ บิดาและครอบครัวของเจ้าทั้งหมด รวมถึงบริวารหรือใครก็ตามที่อยู่ในตระกูลของเจ้าถูกเนรเทศไปพ้นแคว้นนี้แล้ว บิดาของเจ้านั้นเดิมเป็นขุนนางที่เมืองฉงชิ่งแต่ตอนนี้ที่นั่นเจ้าไม่เหลือใครแล้ว นายท่านใช้เส้นสายขอซื้อตัวของเจ้ามาเป็นทาส คำว่าทาสเจ้าคงจะเข้าใจนะว่าไม่ได้เงินค่าจ้าง แต่มันก็อาจจะมีคนเมตตาให้รางวัลเจ้าบ้างเวลาทำงานเจ้าก็อาจจะเก็บเอาไว้ได้
ส่วนที่ว่าเจ้าจะเป็นอิสระได้เมื่อไหร่ ให้เจ้าสอบถามกับนายท่านเอง ว่าเจ้าจะไถ่ตัวได้หรือไม่ เพราะมันไม่เหมือนกับทาสคนอื่นที่เขาสมัครใจมากขายตัวเอง หรือบิดามารดาของเขาพามาขายเป็นทาส หรือนำบุตรมาขัดดอกเพราะไม่มีเงินใช้หนี้ ที่นี่ก็มีหลายๆคนที่เป็นเช่นนั้น แต่ที่เป็นแบบเจ้านั้นมีแค่เพียงเจ้าคนเดียว เอาละ ข้าตอบคำถามของเจ้าแล้ว ต่อไปเจ้าก็ตั้งใจทำงานไปก่อน แล้วค่อยถามนายท่านในภายหลังว่าจะสามารถไถ่ถอนตัวเองได้หรือไม่ ”
มาม่าอี้หลานมองอันอันอย่างเห็นใจไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรอีก แล้วนางก็เดินออกไปจากห้องนั้น ทิ้งให้อันอันทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องนั้น อย่างอึ้งงันไปนานที่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมนี้ถูกขายมาเป็นทาส แถมตระกูลของตนเองก็ล่มสลายไปเสียแล้ว ไม่มีญาติมิตรเหลืออยู่ แต่ถึงมีหอมหมื่นลี้วิญญาณที่มาเข้าร่างของเด็กสาวคนนี้ก็ไม่รู้จัก หลิวอันอันเอ๋ย เจ้าตายไปเสียก็พ้นทุกข์ไปแล้ว ข้ามารับช่วงชีวิตของเจ้าก็ยังอดเศร้าสลดไม่ได้ เพราะยังมองไม่เห็นว่าอนาคตต่อไปจะเป็นอย่างไร แค่เริ่มต้นก็ท้อเสียแล้ว
เมื่อครุ่นคิดแล้วก็วกวนไปมา ยังหาทางออกไม่ได้ ร่างอวบจึงได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วก็เปิดประตูออกไปจากห้องนี้ที่คงจะเป็นห้องแต่งตัวของนักแสดงเพราะเห็นมีกระจกบานใหญ่อยู่ในห้องขณะที่หอมหมื่นลี้ครุ่นคิดในใจถึงเรื่องที่เพิ่งได้ยินมาก ก็บังเอิญเดินชนเข้ากับร่างแข็งๆร่างหนึ่ง เมื่อเงยหน้าขึ้นก็สบตากับเจ้าของดวงตาคมดุจเหยี่ยวที่จ้องมองมาอย่างไม่พอใจนัก “ ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าเดินไม่ระวัง ” คิ้วเข้มนั้นขมวดยิ่งขึ้นเอื้อมมือมาจับแขนเรียวของเธอเอาไว้ แล้วดึงให้เข้าไปในห้องตรงข้ามกับห้องที่อันอันเพิ่งเดินออกมา เขาลากร่างอวบของอันอันเเข้าไปในห้องนั้น แล้วประตูไม้หนาหนักก็ปิดลงตามหลังของพวกเขา เขาคิดจะทำอะไรกัน “ ร้ายกาจไม่เบานะ ขอโทษอย่างนั้นหรือ หญิงแพศยาเช่นเจ้าแค่เพียงคำว่าขอโทษมันก็ไม่เพียงพอหรอก ”ขณะที่อันอันกำลังอ้าปากถามเขาด้วยใบหน้าตกตะลึงอยู่นั้น อยู่ๆใบหน้าหล่อคมคายนั้นก็ก้มลงมาจนชิดใบหน้าหวานของเธอแล้วลิ้นสากก็พลันฉกเข้ามาในปากจิ้มลิ้มของอันอันที่เผยอขึ้นโดยไม่รู้ตัว และเมื่อลิ้นสากที่ร้อนรุ่มนั่นควานเข้ามาในปากจิ้มลิ้มของสาวรุ่นเช่นอันอันแล้ว มันก็ควานชิมความหวานในปากนั้นทันที
จบเสียงกระซิบที่ระคายหูนั้น ใบหน้าหล่อคมเหลือร้ายนั่นก็พยายามซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นของนางทันที อ้อมแขนแกร่งรัดนางเอาไว้จนแน่น มือหนานั้นแหวกสาปเสื้อผ้าบางเบาของนางออกจนมันเปิดเผยตู้โต้วสีชมพูแก่สายตาของเขา และยังไม่พอมือซุกซนนั้นก็ยังเลื่อนขึ้นไปดึงเชือกที่ผูกรัดตู้โต้วนั้นเอาไว้จนมันหลุดออกจากลำคอระหงของนาง นางร้องหวีดขึ้นอย่างตกใจ แต่เสนาบดีหนุ่มตาค้างเขาจ้องมองทรวงอกอวบใหญ่ที่มีผลอิงเถาสองผลชูชันออกมาเหมือนล่อลวงเขา เสนาบดีหนุ่มทนไม่ไหว ใบหน้าคมคายก้มลงไปจนชิดอกอวบใหญ่นั้น ลิ้นสากไล้เลียมันไปมาจนผลอิงเถานั้นแข็งเป็นไต แล้วเขาจึงอ้าปากดูดดึงมันอย่ามัวเมา “อ๊าย ไม่ อย่านะะ อย่า ตาแก่หื่นไม่นะ ไม่ อย่านะ ไม่เอา อย่านะ อ๊ายยย ” ร่างอวบทุบไหล่หนาอย่างรุนแรง นางพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมกอดที่รัดรึงนั้น นายท่านหนุ่มรัดนางไว้แน่น และดูดดื่มผลอิงเถานั้นอย่างดูดดื่มมากยิ่งขึ้น เขาทั้งดูดทั้งไล้เลียอย่างไม่ปราณี “อู๊ยยย อู๊ยยยย อ๊าย อ๊าย อ๊ะ ” หอมหมื่นลี้ในร่างของอันอันร้องครางกระเส่า นางแอ่นอกร่อนไปมาอย่างทนไม่ไหว นายท่านหนุ่มยิ่งดึงดูดมันยิ่งขึ้นจนร่างอวบครางออกมาอย่างเสียวซ่
หลังจากวันนั้น อันอันก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพบหน้านายท่านผู้นั้น หากนางเห็นเขาจากที่ไกลๆ นางก็จะรีบเปลี่ยนเส้นทางไปอีกทางหนึ่ง แม้จะอ้อมก็ตาม นางไม่อยากจะพบหน้าเขา เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นมันทำให้นางรู้สึกไม่ค่อยดี นางรู้สึกอายที่ตนเองร้องครวญครางดังผู้หญิงร่านอย่างที่ผู้ชายคนนี้ประนามไม่มีผิด ไม่ใช่ความตั้งใจของนาง และยิ่งได้ยินว่าเขามีนางบำเรอที่อยู่ในหอนี้หลายคน และแต่ละคนก็เป็นหญิงนางโลมอันดับต้นๆ ( เสี่ยวหลินเป็นผู้เตือนในเรื่องนี้ ว่าอย่าหาเรื่องใส่ตัว เพราะอันอันเกือบตายจากการถูกผลักให้ตกบึงบัวแต่ก็จับมือใครดมไม่ได้ ) และหอมหมื่นลี้แม้จะเป็นผู้หญิงที่บ้าผู้ชายหล่อล่ำกล้ามแน่นๆ ทรงแบดๆ และนายท่านผู้นั้นก็ตรงสเปคมาก แต่ไม่อยากจะตุยอีกรอบหนึ่ง และไม่อยากจะเจ็บตัวโดยที่ไม่ทราบสาเหตุอีก จึงขออยู่ห่างตัวอันตรายเช่นเขาไว้เสียก่อนดีกว่า แม้จะบ้าผู้ชายไม่น้อย ( แต่ก็ได้แค่มองและมโนไปคนเดียว ผู้ชายที่ผ่านมาไม่เคยรู้เรื่องอะไรด้วยเลย ) แต่ก็ขอกินอย่างปลอดภัยจะดีกว่า และที่สำคัญในหอนางโลมนี้ยังมีบุรุษที่มาเที่ยวที่นี่ มีที่เป็นทั้งขุนนางหนุ่มๆ พ่อค้าที่ร่ำรวยแต่งกายหรูหราดูดีและ
“ เจ้ามาทำงานที่นี่ใหม่ๆหรือ ถึงได้กลัวมากเช่นนั้น ที่นี่เป็นหอคณิกานะ ข้าทำงานมาหลายวันเห็นหญิงคนอื่นๆเขาก็ทำงานได้แถมยังได้รางวัลและของกำนัลอีกด้วย ” อันอันสงสัยเพราะนางทำงานที่นี่มาหลายวันเริ่มสังเกตุเห็นสิ่งต่างๆในนี้ และเห็นหญิงงามหลายๆที่แต่งตัวงดงามหลากสีสัน ต่างก็ทำงานด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแถมบางครั้งยังแย่งแขกกระเป๋าหนักกันอีกด้วย “ ข้าถูกท่านพ่อนำมาขายและเพิ่งทำงานวันแรก ข้ากลัวบุรุษในห้องนั้นน่ากลัวทุกคนเลย ” นางบอกเล่าด้วยใบหน้าที่ยังซีดเผือด เฮ้อ !! อันอันถอนหายใจอย่างสงสารนาง และก็พลันนึกได้ ข้าเองก็น่าสงสารไม่แพ้เจ้าหรอก ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง เพิ่งได้รู้จากปากของมาม่าอี้หลานว่าร่างเดิมนี้ถูกขายมาเป็นทาส แล้วทาสที่ไม่เหมือนทาสคนอื่นอีกด้วย คงจะแย่กว่าผู้หญิงตรงหน้านี้มากที่อย่างน้อยถ้ามีเงินไถ่ตัวก็คงจะออกไปจากที่นี่ได้ ขณะที่สองสาวกำลังปรับทุกข์กันอยู่นั้น กลุ่มของนายท่านก็เดินออกมาจากห้องนั้น และมาม่าอี้หลานก็ตามพวกเขามาด้วย และเมื่อเดินผ่านอันอันและผู้หญิงที่มาทำงานวันแรกคนนั้นที่ยังไม่ได้ถามชื่อแซ่กัน อันอันก็ถูกนายท่านจับข้อมือบางแล้วลากนางเดินตามเขาไป โดยที่คนทั้ง
อันอันครวญครางออกมาอย่างอดกลั้นอีกต่อไปไม่ไหว จำต้องปล่อยเสียครางดังแมวที่ขู่ฟ่อเบาๆ แต่มันก็เบาบางมากจนคนใต้ร่างแทบไม่รู้สึกอะไร และยิ่งครางยิ่งถูกเขาบดจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ลิ้นสากหนาของเขานั้นเข้าเกี่ยวพันลิ้นเล็กของอันอันอย่างดูดดื่ม เขาดื่มกินความหอมหวานราวกับน้ำผึ้งนั้นอย่างมัวเมาหัวใจดวงน้อยของอันอันมันรู้สึกวูบโหวงในใจอย่างที่ไม่เคยมาก่อน เรี่ยวแรงที่ควรจะมีเอาไว้ขัดขืนเขากลับเหือดหายไปที่ใดไม่รู้ได้ มือที่ควรจะผลักร่างหนาของเขาออกไป กลับไม่ยอมเคลื่อนไหวทำตามหน้าที่ของมัน ราวกับยอมให้เขาลงทัณฑ์บนเรือนกายของนาง แต่นางผิดอันใดเล่า เขาบอกว่าร่างเดิมนี้ทำผิดต่อเขา แต่ไม่ได้บอกว่าผิดอะไร แต่เขาดูแค้นเคืองมาก ดวงตาของเขาที่จ้องมองมามักจะเต็มไปด้วย ความเกลียดชัง ไม่พอใจเสมอแต่บัดนีี้คนที่ดูเกลีียดชังนางเหลือแสนกลับจูบนางอย่างร้อนแรง จังหวะจูบของเขาทำให้หัวใจของสาววัยสามสิบที่เกือบจะเรียกได้ว่าพร้อมจะขึ้นคานแล้วสั่นไหวอย่างรุนแรง ยิ่งถูกเขาบดจูบจนปากอวบบวมช้ำแต่ยิ่งส่งผลให้ความเสียวนั้นแล่นปราดไปที่เนินอวบด้านล่าง และนางรับรู้ได้ว่าบัดนี้น้ำรักของนางไหลซึมออกมาไม่ขาดสาย และมันกำ
” อู๊ยยยย อูยยย นายท่าน นายท่านเจ้าขา อ๊าา อูยยยย อูยย “ ” โอ้ววว โอ้ววว แน่นมาก แน่นมาก อันเอ๋อ อันเอ๋อ เสียว เสียวเหลือเกิน โอ้ววว โอ้วววว “ นายท่านหนุ่มสอดลำกายอวบใหญ่และแข็งขึงของเขาเข้าไปจนมิดด้าม และแช่เอาไว้เพียงครู่ แล้วค่อยๆขยับบั้นเอวสอบด้วยจังหวะช้าๆ แล้วค่อยๆเร่งความเร็วขึ้นเรืื่อยๆ ” ลึกมากเจ้าค่ะ ลึก อูยย อูยยยย นายท่าน ลึกมากเจ้าค่ะ อูยยย “ เอวสอบของนายท่านหนุ่มโยกขยับเหมือนมีชีวิตของมันเอง มันโยกอย่างบ้าคลั่งและลึกสุดใจ ปากหนาก็ร้องครวญครางเสียกระเส่า ผสานไปกับเสียงครางหวานหูของคนที่บัดนี้กลายเป็นเมียของเขาแล้ว ตับ ตับ ตับ ตับ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องในห้องหนังสือนั้น ” โอ้ววว โอ้ววว เสียว เสียววว โอ้ววว “ นายท่านหนุ่มสุขสมจนใบหน้าหล่อเหลาบิดเบ้ไปหมด เสียวแบบที่เขาไม่เคยมาก่อนในชีวิตหนุ่ม ” โอ้ววว โอ้ววว ไม่ไหวแล้ว เจ้าตอดข้าแรงเกินไป ข้าจะเสร็จแล้ว จะเสร็จ โอ้ววว โอ้วววววว “ ร่องอวบของอันอันตอดรัดลำกายอวบใหญ่ของสามีหมาดๆ อย่างบ้าคลั่งจนเขาทนต่อไปไม่ไหว แตกพ่ายออกมาอย่างรุนแรง ทุกหยาดหยดเขาปลดปล่อยมันเข้าไปในร่องอวบของคนใต้ร่างจนหมดทุกหยาดหยุด หลังจากสุ
หลายวันต่อมา ขณะที่อันอันกำลังถูพื้นอยู่ที่ชั้นล่างไม่ไกลจากเวทีที่กำลังมีการฝึกสอนนางโลมให้เดินเยื้องย่างเหมือนโชว์ตัวแก่แขกเหรื่ออย่่างงั้นแหละ อันอันจ้องมองเพราะนางเบื่อหน่ายกับชีวิตประจำวันจึงได้หาอะไรแก้เบื่อจึงจ้องมองไปอย่างนั้น และอาภรณ์ของนางโลมเหล่านี้ก็น่าสนใจไม่น้อย แต่ถ้าเป็นเธอจะออกแบบให้มันเร้าใจและดึงดูดใจกว่านี้ ขณะนั้นมาม่าอี้หลานกำลังดุว่านางโลมใหม่ที่เพิ่งเข้ามาอยู่และการเดินโชว์ตัวก็ขาดความั่นใจและดูเก้อเขินจนน่ารำคาญขณะนั้นอันอันก็ใกล้จะเสร็จงานแล้ว จึงได้เดินไปดูที่ข้างเวทีนั้น และก็ลืมตัวออกปากไปอย่างห้ามตนเองไม่ทันว่า “ ท่าเดินอย่างนี้ใครจะอยากสนใจดูกัน ข้าจะเดินให้พวกเจ้าดูเป็นตัวอย่าง “ เมื่อได้ยินเสียงของอันอันสาวใช้ที่ทำความสะอาดหอคณิกา หญิงงามบางคนที่เป็นรุ่นพี่ของหอคณิกาแห่งนี้ก็พากันหัวเราะออกมาเบาๆ สาวใช้ถูพื้นจะมาสอนท่าทางการเดินของหญิงคณิกา มันก็น่าหัวเราะอยู่ แต่มาม่าอี้หลานกลับเอ่ยขึ้นว่า ” เจ้าจะลองเดินให้หญิงพวกนี้ดูก็ได้ ถ้าเจ้าทำได้ข้าจะเลื่อนขั้นให้เจ้ามาสอนพวกนางเดินโชว์ตัว ” อันอันจึงได้เดินขึ้นไปบนเวทีอย่างมั่นใจ แล้วก็ออกวาดลวดลายของน
จนการดำเนินการประมูลมาถึงคิวของหลิวอันอัน นางก็เดินเยื้องย่างออกไปด้วยมาดดังนางหงส์ การแต่งตัวงดงามแต่นางก็ยิ่งทำให้ตนเองดูโดดเด่นขึ้นมาได้อย่างมืออาชีพสมกับเป็นอดีตนางแบบ จนมีผู้แย่งกันประมูลกันเกือบสิบคนเข้าไปแล้ว มีทั้งท่านอ๋องวัยกลางคนๆหนึ่ง รองแม่ทัพเว่ย ขุนนางอีกสองสามคน และพ่อค้าอีกหลายๆคน รวมถึงบุตรชายคนรองของคหบดีที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองนี้ ขณะนั้นมีการสู้ราคาประมูลตัวของอันอันไปถึงห้าร้อยตำลึงแล้ว และที่สุดบุตรชายคนรองของคหบดีจางที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองก็ตัดสินใจร้องบอกว่าเขาต้องการประมูลค่าตัวของหลิวอันอันแปดร้อยตำลึง และหลังจากนั้นก็ยังไม่มีใครเสนอจะให้มากกว่านี้ ทุกคนนิ่งเงียบ อันอันจ้องมองไปที่บุรุษที่เสนอราคาประมูลเธอสูงที่สุดและเธอคงจะได้ไปกับชายคนนี้แล้ว เขาอายุน่าจะประมาณยี่สิบกว่าปี ก็ยังอ่อนกว่าเธอในอดีต สวมอาภรณ์หรูหราดูสง่าและใบหน้าก็หล่อเหลาไม่น้อย อันอันครุ่นคิดขณะที่จับจ้องมองใบหน้าของเขาและเขาเองก็มองสบตาของเธอเช่นกัน เขายิ้มน้อยๆให้เธอ และคงจะมั่นใจแล้วว่าเขาจะได้ตัวของเธออย่างแน่นอน แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังมาจากประตูหน้าของหอคณิกา“ ข้าจะประมูลหลิวอ
“ อ้าว หอมมาเสียทีนะ ดีแล้วทันพอดี รีบเข้าไปแต่งตัวเร็วเข้า อย่าให้คนอื่นรอนาน ” พี่มะปรางผู้จัดการเร่งยิกๆเมื่อเห็นหน้าของนางแบบสาวโผล่เข้าไปในสตูดิโอแล้ว หอมหมื่นลี้รีบวิ่งเร็วจี่ไปที่ห้องแต่งตัวที่อยู่่ด้านหลัง แล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าที่จะต้องใช้ถ่ายแบบ แล้วนั่งลงให้ช่างแต่งหน้าและทำผมให้ “ ไม่ได้เจอกันเสียนานเลยนะ น้องหอม ช่่างแต่งหน้าชวนคุย ” หอมหมื่นลีี้ยิ้มให้ “ ไม่ค่อยมีงานนะพี่ ก็เป็นธรรมดานะ เราวัยปูนนี้แล้ว เด็กใหม่ๆก็เข้าวงการเยอะไปหมด จนหนูแทบจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นใคร เราก็รุ่นใหญ่แล้ว งานก็เริ่มจะน้อยลง ทำอย่างไรได้เล่าพี่อาชีพอย่างเราก็คงจะต้องมองหาอาชีพเสริมอื่นๆเอาไว้บ้าง เผื่อวันหน้าไม่มีคนจ้างแล้ว ” ช่างแต่งหน้าสาวสองพยักหน้า “ ก็ใช่ อาชีพนี้มันก็เป็นอย่างนี้นะ คลื่นลูกใหม่ไล่คลื่นลูกเก่า เพราะเป็นอาชีพของคนสวยคนงาม คนโดดเด่นน่าสนใจถึงจะอยู่ได้นาน แต่จะว่าไปน้องหอมก็โชคดีมากนะคะ งานนี้เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าแบรนด์ใหม่ของบริษัทของจีนที่มาเปิดสาขาในเมืองไทย ปกติแล้วงานอย่างนี้เขาน่าจะจ้างนางแบบชื่อดังและเป็นกระแสมากกว่านี้ แต่นี่น้องหอมได้งานนี้ พี่ได้ยินมาว่า
หลังจากตื่นนอนเมื่อตอนสายของอีกวันหนึ่ง นายท่านหนุ่มออกมานั่งเล่นกับอันอันที่หน้าห้องโถงในเรือน เขากำลังนอนหนุนตักของนางให้นางป้อนผลอิงเถาเข้าปากทีละลูก พลอดรักกันหวานฉ่ำ เขาแกล้งหาเรื่องหอมแก้มนวลของนางและยั่วเย้ากันเล่นประสาข้าวใหม่ปลามัน นายท่านหนุ่มมองสบตาภรรยาของเขาเสียหวานฉ่ำขณะนั้นก็มีเสียงเคาะประตู เมื่อเขาอนุญาติคนสนิทก็ก้าวเข้ามารายงานเรื่องที่จวนฮั่ว เขานิ่งฟังแล้วพยักหน้า “ ก็ดีแล้ว ท่านอาหลงรักเหม่ยอิงมานานก็สมหวังเสียที ดีแล้ว วันนี้ไม่มีงานที่ไหนข้าจะพักผ่อนที่นี่มีเรื่องด่วนอะไรก็มารายงานก็แล้วกัน ” แล้วคนสนิทของเขาก็ก้าวเท้าออกไปจากเรือนของเขา หลังจากนั้นก็มีงานแต่งงานของคุณชายฮั่วเซิ่นหลางกับคุณหนูกู้เหม่ยอิงที่งานแต่งนั้นยิ่งใหญ่พอสมควร แขกเหรื่อได้รับเชิญมากมายเกือบจะครึ่งเมือง งานแต่งจัดที่ตระกูลฮั่ว นายท่านหนุ่มพาภรรยาคืออันอันไปงานอย่างออกหน้าออกตา ใครๆถามเขาก็บอกว่าแต่งงานแล้วเงียบๆ เพราะไม่ค่อยมีเวลานัก และภรรยาก็ท้องแล้วอันอันหน้าแดงก่ำที่เขาแนะนำกับแขกเหรื่อเช่นนั้น แต่นางนั้นเป็นหญิงสาวยุคใหม่ที่มาจากโลกอนาคตจึงพอรับมือกับสายตาที่มองมาอย่างหลากหลายความร
ด้านนายท่านฮั่วฟู่เฉิง เขารีบขึ้นรถม้าอย่างเร่งร้อนสั่งให้คนขับเร่งกลับไปยังหอคณิกาให้เร็วที่สุด เมื่อไปถึงแล้วเขารีบวิ่งไปที่เรือนด้านหลังของเขา รีบข้ามสะพานตรงไปที่เรือนของตนเอง ในใจของเขาหวังว่าเมียรักจะอยู่ในเรือน ขณะที่เขาพุ่งตัวเข้าไป เสีี่ยวหลินก็เดินออกมาเมียงมองว่าใครมา “ เสี่ยวหลินออกไปก่อน นายหญิงอยู่ข้างในหรือไม่ ” เสี่ยวหลินเห็นนายท่านดูเร่งร้อนผิดปกติ นางรีบพยักหน้า “ อยู่เจ้าค่ะ ” เมื่อได้ยินสาวใช้บอกว่าเมียของเขาอยู่ ก็โล่งใจนัก รีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปในห้องนอน หูได้ยินเสียงประตูหน้าเรือนปิดลง เสี่ยวหลินคงจะออกไปแล้ว เขาเดินเข้าไปในห้องนอน เมียรักกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง“ อันเอ๋อ เร็วเข้าพี่ถูกยาปลุกกำหนัด ช่วยผัวหน่อยเร็วเข้า ” เขาเร่งร้อนเดินไปที่เตียงนอน อันอันได้ยินสามีบอกดังนั้น นางรีบลุกขึ้นแล้วเดินตามเขาไปที่เตียงนอนหลังใหญ่ของพวกเขาร่างล่ำสันรีบถอดอาภรณ์ของตนเองโยนลงไปบนพื้น แล้วขึ้นไปนอนบนเตียง อันอันเดินมาถึงนางประกบจูบเขาทันทีอย่างดูดดื่ม นายท่านหนุ่มก็อ้าปากรับลิ้นเล็กของเมียรักอย่างรอคอย ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่มจนกลายเป็นเร่าร้อน มือหนาของนาย
“ ท่านพี่เจ้าคะ น้องเสียวเหลือเกิน กระแทกแรงๆอีก แรงอีกเจ้าค่ะ รักน้อง รักแรงๆเจ้าค่ะ ” นางเอ่ยบอกเขาแล้วสบตาสามีหวานฉ่ำ อาหนุ่มหลงไหลเมียหมาดๆคนนี้ไม่น้อย นางร่าน นางร้ายแต่เขาจะเก็บนางเอาไว้ปราบพยศ ร้ายแค่ไหนเขาก็จะปราบจนนางมาร้องครวญครางใต้ร่างเขาเช่นนี้ “ อ๊าย อ๊าา อ๊าา เสียวเหลือเกิน อ๊าย อ๊าย อ๊าา ” เหม่ยอิงร้องครวญครางอย่างสุขสม อาหนุ่มจับร่างอวบของนางพลิกไปมาหลายท่วงท่าตามแต่ใจของเขา นางเองก็ร่อนรับจังหวะรักของเขาอย่างไม่ยอมแพ้ อาหนุ่มติดใจนางเหลือเกิน ขนาดนางยังไม่มีประสบการณ์ เพิ่งเคยกับเขาเป็นครั้งแรกยังร่านได้ใจเขาถึงขนาดนี้ หากเขาฝึกปรือนางไปอีกไม่นานคงจะเริงรักกันได้ถึงใจยิ่งกว่านี้ อาหนุ่มขย่มนางอีกครั้งจากด้านหลัง เขายกสะโพกอวบนางขึ้นแล้วบีบเค้นก้นงอนของนางจนขึ้นสี ยิ่งทำให้เหม่ยอิงเสียวซ่าน นางแอ่นก้นอวบขึ้นหาเขาอย่างร่านร้อน ยิ่งเขากระแทกรุนแรงเท่าใดนางยิ่งชอบ นางยิ่งโยกเข้าหาเขา ทั้งสองเริงรักกันอย่างมีความสุข เหม่ยอิงยอมให้เขาทั้งตัว นางหลงรักสามีแก่ผู้นี้อย่างหมดใจ นางยอมรับหลงเขา หลงมาก ถึงขนาดยอมเริงรักกับเขาอย่างร่านร้อน ทั้ง ๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่ใ
ขณะนั้นฟู่เฉิงเริ่มมีอาการกำหนัดกำเริบขึ้นมาอย่างรวดเร็วและเขาเองก็รู้ว่ามันไม่ปกติ และเขาจ้องมองใบหน้าแดงระเรื่อของเหม่ยอิงก็รู้ทันที่ว่าเขานั้นต้องถูกนางวางยาปลุกกำหนัดเข้าให้แล้ว“ ท่าอาขอรับ ข้าฝากดูแลเหม่ยอิงแทนข้าด้วย ข้ามีธุระจะต้องรีบไปทำตอนนี้เลย ” แล้วเขาก็ผุดลุกเดินออกจากห้องอาหารอย่างเร่งรีบ ไม่ทันที่เหม่ยอิงจะได้ทันร้องคัดค้านเขา และตัวของนางเองในตอนนี้ก็เกิดอาการกำเริบไม่น้อยแล้ว นางบิดกายไปมาเพราะความเสียวซ่านที่มันกำเริบขึ้นอย่างรวดเร็ว นางแอ่นร่างบางไปมาอย่างทนไม่ไหว “ ท่านอาอย่านะ จะทำอะไรข้า ” นางร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่ออาหนุ่มของฟู่เฉิงก้มลงช้อนอุ้มนางเดินออกจากเรือนหลักแล้วอ้อมไปทานด้านหลังเรือนแล้วเข้าไปในเรือนของเขา โดยมีคนสนิทของเขายืนคุมอยู่หน้าเรือน “ เจ้าบ้า จะพาข้าไปไหน พาข้าไปหาพี่ฟู่เฉิงเดี๋ยวนี้นะ เจ้าบ้า เจ้าบ้า ” นางทุบไหล่หนาของอาหนุ่มที่มีอายุแก่กว่าฟู่เฉิงไม่มาก เขาเป็นลูกหลงและยังไม่ได้แต่งงาน เขาแอบรักเหม่ยอิงมานานแล้ว แต่เหม่ยอิงไม่เคยมองเขาเลย นางหลงไหลใฝ่ฝันแต่ฟู่เฉิง และวันนี้ช่วยไม่ได้ที่นางทำตัวเองเขาแอบได้ยินแผนการณ์ของพี่สาวกับเหม่ยอิงตั
กู้เหม่ยอิงกลับออกมาจากร้านอาภรณ์ที่พบนังหลิวอันอันด้วยใบหน้าหม่นหมองดวงตาแดงก่ำ นางเฝ้ารอพี่ฟู่เฉิงมาหลายปีแล้ว แต่เขาก็ไม่มีท่าทีจะจัดการเรื่องแต่งงานเสียที ผัดผ่อนมาตลอด ทุกครั้งก็จะบอกว่าไม่มีเวลาเพราะกิจการค้ายุ่งมาก ทำให้นางต้องเฝ้ารอตลอดจนท่านป้าพานางไปหาเขาที่เรือนก็ยังคงไม่มีอะไรคืบหน้า นางจะไม่รออีกต่อไปแล้ว นางจะลงมือให้พี่ฟู่เฉิงเป็นของนางเสียที และเขาก็จำจะต้องแต่งงานกับนางหากมีอะไรกันแล้ว ไม่มีทางจะหลบเลี่ยงได้อีก จะทนเป็นสตรีในห้องหอที่ดีไปทำไมกัน เมื่อผู้หญิงหยำฉ่ามาแย่งว่าที่สามีไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ เมื่อเป็นหญิงร่านแล้วได้ดีเช่นนังหลิวอันอันนั่น ข้าก็จะทำตัวเช่นเดียวกับมันบ้าง ให้มันรู้กันไปว่าท่านพี่จะหนีข้าพ้นอีกไหม จากนั้นนางก็ขึ้นไปนั่งบนรถม้า แล้วออกคำสั่งกับสาวใช้คนสนิท“ ซิ่วเอ๋อ เจ้าไปซื้อยาปลุกกำหนัดมาให้ข้า กระซิบบอกกับหลงจู้ที่ร้านขายยาให้จัดให้บอกว่าท่านพ่อสั่งมาก็แล้วกัน ขอเป็นชนิดที่ร้ายแรงที่สุด บอกเขาว่าท่านพ่อกำชับมาว่าอย่างให้มีอะไรผิดพลาด ” ซิ่วเอ๋อพยักหน้า แล้วก็รีบลงไปจากรถม้าไปจัดการตามคำสั่งของนายของตนเอง หลังจากสาวใช้จากไปแล้ว เหม่ย
เมื่อกลับมาถึงหอคณิกา นายท่านอุ้มร่างงามของเมียรักขึ้นแนบอกโดยไม่คิดจะปลุกนางให้เดินลงไปจากรถม้าเอง ตั้งแต่นางหายไปเขานอนไม่ค่อยจะหลับเลย ปากบอกว่าเกลียดนาง รังเกียจ และแค้นเคืองนางที่ทำให้พี่ชายเสียชีวิต แต่อีกใจมันโหยหานางแทบจะบ้า เขาแทบจะคลั่งเมื่อควานหานางจนทั่วเมืองไม่พบ เขาเองก็รู้ว่ามารดามิอาจจะยอมรับนางได้เพราะนางถูกกล่าวหาว่าทำให้พี่ใหญ่เสียชีวิตเพราะหลอกให้เขารัก หลอกเอาทรัพย์สินของเขาไปมากมาย แต่นางเอาทรัพย์สินเหล่านั้นไปไว้ที่ใดกัน ไหนบอกว่านางหลอกลวงทรัพย์สินบุรุษอื่นไปมากมายอย่างไรเล่า แล้วทรัพย์สินพวกนั้นหายไปที่ใดหมด และมันไม่น่าจะใช่ทรัพย์สินของบิดาของนางที่ถูกทางการยึดเอาไป หากนางฉลาดพอคงจะต้องซุกซ่อนเอาไว้ แต่เมื่อนางหนีเขาไปได้ ไยจึงไม่หนีกลับไปค้นหาทรัพย์สินของตนเองมาเล่า ทำไมถึงไปรับจ้างร้านอาภรณ์ของคุณชายจาง แถมยังจะย้ายไปทำงานที่ร้านอาภรณ์สาขาของเขาที่เมืองฉางอันอีีกด้วย ถ้าหูตาของเขาไม่มีมากพอที่จะรู้ข่าว นางคงจะหนีเขาไปพ้นแล้ว ร่างหนาอุ้มร่างอวบอิ่มของนางเดินตรงไปที่สวนด้านข้างหอคณิกาเพื่อมุ่งหน้ากลับเรือนหลังเล็กข้างสระบัวของเขา “ กลับเรือนของเราเถอะนะ
หลังวันต่อมาคุณชายจางก็ส่งรถม้ามารับหลิวอันอันที่หน้าร้านขายอาภรณ์เพื่อส่งนางไปยังร้านอาภรณ์อีกสาขาหนึ่งของเขาที่เมืองฉางอันดังที่รับปากนางเอาไว้ เพราะเขาให้คนไปสืบมาแล้ว และได้รู้ว่าคุณชายฮั่วเจ้าของหอคณิกาและกิจการใต้ดินอีกหลายอย่างนั้นกำลังค้นหานางแทบจะพลิกเมือง แสดงว่าอันอันนั้นมีความสำคัญกับเขามากหากเป็นแค่หญิงคณิกาเพียงคนเดียวคงจะไม่ค้นหากันวุ่นวายเช่นนี้ แต่เขารู้ว่าคนของคุณชายฮั่วยังไม่รู้ว่าหลิวอันอันหลบอยู่ที่ร้านขายอาภรณ์ของเขา นับว่านางก็ฉลาดไม่น้อยที่ไม่เคยออกมาจากร้านเลย ทำให้คนได้พบตัวของนางนั้นน้อยมาก เลยไม่ค่อยมีเบาะแสให้ตามนางนางนัก อันอันขึ้นไปบนรถม้าแล้วถอนหายใจออกมา นางเอ่ยลาเสี่ยวหลินในใจ หลายวันมานี้หลายจากหายตกใจแล้วก็พลันนึกถึงอดีตเพื่อนร่วมห้องที่หอคณิกาได้ ป่านนี้นางจะเป็นเช่นไรบ้าง แต่ก็คงไม่มีอะไรเพราะเสี่ยวหลินอยู่ที่นั่นมาก่อนนาง และไม่ได้เกี่ยวข้องกับอันอันเสียทีเดียว แค่เป็นสาวใช้ที่พักห้องเดียวกันเท่านั้น ขณะที่รถม้าแล่นผ้ามาตามถนนในเมืองนี้ อันอันไม่กล้าเปิดผ้าม่านเพื่อมองออกไปเพื่อจะดูบ้านเมืองที่นางยังไม่ทันได้เห็นมันอย่างทั่วถึงเพราะมัวแต่ซ
หลังจากนัั้นอันอันก็กลายเป็นช่างออกแบบและตัดเย็บอาภรณ์สตรีของร้านแห่งนี้ และนางได้มีชีวิตที่สงบสุขไม่น้อยเพราะนางไม่ค่อยจะย่างเท้าออกไปจากร้านเลย นางกลัวว่าคนของคุณชายตระกูลฮั่วจะจำนางได้ เพราะนางไม่แน่ใจว่านายท่านฮั่วนัั่นจะปล่อยนางไปจริงๆหรือ วันนั้นพวกเขาคงยังตั้งตัวไม่ทันเมื่อมารดาของพวกเขามาโวยวายกระทันหัน นางก็รีบหาทางชิ่งออกมาแล้วบังเอิญแผนมั่วๆในวันนั้นเกิดได้ผลขึ้นมา นางจึงรีบชิ่งหนีมาจนตอนนี้ก็ไม่ได้ข่าวใดๆ แต่นางก็ยังไม่กล้าออกไปจากร้านอยู่ดี มีแค่เวลาหัวค่ำที่แอบไปเดินใกล้ๆนี่เพื่อจะหาซื้อขนมกินเล่นเท่านั้นผลงานของอันอันเริ่มเป็นที่ยอมรับของลูกค้า มีคนมาสั่งตัดอาภรณ์ในแบบที่อันอันออกแบบจำนวนมากขึ้น ทำให้เถ้าแก่เนี๊ยะเพิ่มค่าแรงและค่าออกแบบให้กับอันอันมากขึ้น นางจึงได้เริ่มมีเงินเก็บออมเอาไว้ หากได้มากพอนางคิดว่าจะหาทางย้ายไปจากเมืองนี้ ไปเปิดร้านขายอาภรณ์เล็กๆเป็นของตนเอง ความคิดที่ว่าจะกลับไปยังภพเดิมนั้นไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว ป่านนี้ร่างกายของหอมหมื่นลี้คนเดิมพี่ปอหรือไม่ก็พี่ร่วมคงจะฌาปนกิจไปเรียบร้อยแล้ว หอมเอ๊ยหอม แต่ก็ช่างมันเถิดสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วและผ่านไปแล้วไม่อ