Share

ตอนที่ 5 เกาะร้าง

Auteur: บ.บี
last update Dernière mise à jour: 2025-03-19 12:42:59

สี่เสิน เอาเรื่องนี้ก่อน นี่เราลงมาเป็นเด็กกำพร้ากันหรือไร? รอบตัวเราไม่มีผู้คน ไม่มีสิ่งก่อสร้างเลยสักแห่ง”

จริงสิ ไม่มีบ้านเรือนของผู้คนจริงๆ ด้วย แต่อย่างนี้ก็ดีไม่ใช่หรือ เราไม่ได้ถูกกำหนดตัวตนขึ้นมาใหม่แต่ถูกส่งมาอยู่ในสถานที่ ที่ไม่เคยมีใครรู้จักพวกเรา เช่นนี้เราก็ตัดสินใจกันได้ง่ายว่าจะเลือกให้ตัวตนของเราเป็นใคร”

เซียนน้อยเหยาจียักไหล่ทีหนึ่งอย่างซุกซน ไม่มีบิดามารดาก็ดี มีสี่เสินอยู่ด้วยนางก็พอใจแล้ว

ที่นี่มีต้นไม้และผลไม้เยอะเลยสี่เสิน แม้จะงดงามไม่เท่าเกาะแก้วของพวกเรา อากาศก็มีกลิ่นแปลกๆ อยู่บ้าง แต่ข้ากลับรู้สึกสดชื่นอย่างแปลกประหลาด” เหยาจีหลับตาพริ้มสูดรับอากาศบนเกาะร้างที่มีทะเลล้อมรอบเข้าปอดไปเต็มลมหายใจ

เจ้าต้องเรียกข้าว่าพี่ชาย ฝึกเรียกให้คล่องปากเอาไว้จะได้ไม่ลืม ว่าแต่เจ้าเถิดก่อเรื่องราวอะไรลงไป เจ้ากินผลท้อสวรรค์ไปจริงๆ ใช่หรือไม่? รีบเล่าให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้เลย"

ข้าไม่ได้กินคนเดียวนะพี่ชาย” เหยาจีรีบโบกไม้โบกมือ พอนึกขึ้นได้ว่าตนเองก็ได้กินผลท้อไปเช่นกัน นางก็ก้มหน้าหลบตาสี่เสิน กวาดเท้าไปที่เม็ดทรายละเอียดยิบริมชายหาด ท่าทางอิดออดคล้ายกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่

เรามีกันแค่สองคนแล้วนะเหยาจี เจ้าต้องเล่าให้ข้าฟัง หากเจ้ามีความลับกับข้าอีกข้าจะทิ้งเจ้าให้อยู่คนเดียวให้ดู” สี่เสินรู้ดีว่าเซียนน้อยคนงามของตนมักจะมีเรื่องปิดบังอยู่เสมอ และเมื่อเขาข่มขู่เช่นนี้นางก็ยอมเปิดเผยความจริงออกมาทุกครั้งไป

ก็ได้ๆ ข้าบอกก็ได้ ว่าแต่พวกเขาจะไม่ได้ยินสิ่งที่เราคุยกันแน่นะเจ้าคะ” เหยาจีเขย่งปลายเท้าขึ้นสูง กระซิบกระซาบไปที่ข้างหูของสี่เสิน พร้อมกับแอบชี้นิ้วขึ้นฟ้า 

ไม่ได้ยินหรอกพวกเขาไม่เห็นเราด้วยซ้ำ เจ้ารีบเล่ามาเถิด ข้าไม่มีอะไรจะทำเบื่อจะแย่แล้ว” เด็กหนุ่มนั่งลงกับพื้นทราย หยิบกิ่งไม้มาขีดๆ เขียนๆ ลงไปบนเม็ดทรายเล่น รอฟังเรื่องสนุกจากผู้ที่จากนี้จะกลายเป็นน้องสาวของตน

ท่านรู้ใช่หรือไม่ว่าข้าขอบแบ่งผลท้อบนเกาะให้กุ้งหอยปูปลาได้กิน”

รู้สิ นอกจากพวกสัตว์ทะเลแล้วข้าก็ยังเห็นเจ้าแบ่งให้นก กระรอก กระต่าย มด กินไปอีกไม่น้อยมิใช่หรือ แต่นั่นก็เป็นผลท้อธรรมดากับผลท้อโอสถ เกี่ยวอันใดกับผลท้อสวรรค์กันเล่า?”

เป็นเพราะผีเสื้อเกล็ดแก้วอย่างพวกท่านไม่ยอมกินน่ะสิ ท่านถึงไม่รู้ความลับของมัน” เด็กสาวเชิดหน้าขึ้นสูง รู้สึกว่าตนเองฉลาดกว่าสี่เสินได้สักเรื่องแล้ว

หากฝูซีไม่คอยกวดขันเข้มงวด ใจจริงข้าก็อยากจะลิ้มลองพวกมันไม่น้อยเลย ฝูซีเป็นทูตสวรรค์ที่ซื่อสัตย์ที่สุดเจ้าก็รู้ แม้แต่เกสรของดอกท้อเขายังไม่ยอมให้พวกข้าไปเชยชม อยากกินอะไรทีก็ต้องบินออกไปนอกเกาะ ข้าล่ะอิจฉาสัตว์เลี้ยงของเจ้าจะแย่”

เอาล่ะ เอาล่ะ ข้าเสียใจแทนท่านด้วยก็แล้วกัน ทีนี้ข้าจะเล่าให้ฟังต่อ ผลท้อธรรมดากับผลท้อโอสถนั้นเมื่อเทพหรือเซียนกินเข้าไปจะรู้สึกถึงผลของมันเพียงเล็กน้อย แต่มันกลับเป็นสิ่งพิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยงที่อยู่บนเกาะน่ะสิ พวกมันได้กินนานวันเข้าหลายตัวก็เริ่มพูดคุยกับข้าได้ หรือบางตัวที่พูดไม่ได้ก็ฟังข้ารู้เรื่อง”

หา!! วิเศษถึงขั้นนั้นเลยเชียวหรือ? เสียดายจังที่เจ้าไม่เล่าให้ข้าฟังตั้งแต่แรกไม่เช่นนั้นข้าคงมีสหายบนสวรรค์เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยเลยทีเดียว”

ข้าจะกล้าบอกผู้ใดเล่า ก็ในเมื่อผลท้อเหล่านั้นข้าก็แอบท่านมหาเทพมู่ซีกินเช่นกัน บางครั้งข้าก็ต้องแสร้งนับจำนวนผิดไปหลายลูกเลยทีเดียวเพื่อเก็บไว้ให้สัตว์เลี้ยงของข้ากิน”

เด็กโง่! มหาเทพมู่ซีรู้ทุกอย่างที่เจ้าทำนั่นล่ะ นางรู้ว่าเจ้าแอบกินผลท้อมาตลอดแต่นางไม่เคยตำหนิเจ้าเพราะเจ้าไม่เคยไปยุ่งกับผลท้อสวรรค์ต่างหาก ข้าเสียใจแทนนางเหลือเกินที่หลงเชื่อใจคนทรยศเช่นเจ้า!” สี่เสินจิ้มนิ้วไปที่หน้าผากของน้องสาวอย่างแรงจนนางแทบจะหงายหลัง

สรุปเจ้าก็เป็นคนขี้ขโมยอย่างที่ยอมรับผิดไปจริงๆ ใช่หรือไม่ ข้าผิดหวังเหลือเกินเหยาจี” เด็กหนุ่มโอดครวญแต่ก็อดห่วงน้องสาวไม่ได้อยู่ดี

ข้าก็เสียใจ แท้จริงแล้วข้าก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก ข้าเห็นผลท้อสวรรค์ผลนั้นค่อยๆ เติบโตจากลูกเล็กจิ๋วจนมันเริ่มโตและเปล่งแสงสีทองออกมาเล็กน้อย ข้าเฝ้ามองดูพวกมันทุกวันและมักจะไปพลิกดูว่ามีมดแมลงมาแอบกินผลท้อสวรรค์หรือไม่ แต่ข้าทำผิดพลาด มีผลหนึ่งก้านของมันอ่อนแอเกินไปมันเลยหลุดติดมือข้าออกมา” เด็กหญิงยู่ปากจนยับย่นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนทำผิดโดยไม่ตั้งใจ

นี่น่ะหรือเหตุผลของเจ้า! มันหลุดออกมาเจ้าก็เลยกินมันเสียเลยเนี่ยนะ! เหยาจีนะเหยาจี เจ้ามันจริงๆ เลย"

เรื่องมันซับซ้อนยิ่งกว่านั้นอีกพี่ชาย ท่านจำได้หรือไม่ว่าข้าบอกว่าสัตว์เลี้ยงของข้ามีการเปลี่ยนแปลงไป หลายพันปีที่ผ่านมาพวกมันตัวโตขึ้นแข็งแรงขึ้น ยามนั้นข้าไม่รู้ว่าท่านมหาเทพมู่ซีรู้ความลับของข้าแล้ว ข้าก็เลยตัดสินใจทำบางอย่างลงไป”

สี่เสินเปลี่ยนสีหน้าจากการตำหนิน้องสาวมาเป็นตั้งใจฟังนางเล่าเรื่องอย่างนึกสนุก สิ่งใดกันนะที่ทำให้เหยาจีผู้มีเมตตามาตลอดตัดสินใจทำเรื่องร้ายแรงเช่นนั้นได้

ข้าเอาสัตว์เลี้ยงที่เปลี่ยนแปลงไปของข้าแอบไปปล่อยลงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์น่ะสิ ข้ารู้ว่าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นเส้นทางนำไปสู่ดินแดนอื่น ข้าอยากให้พวกเขาหาที่ซ่อนตัวจะได้ไม่ถูกจับได้”

โอย..ข้าปวดหัวเหลือเกิน เหยาจี” สี่เสินรู้สึกปวดหัวขึ้นมาจริงๆ แล้ว เด็กหนุ่มหงายหลังล้มตัวลงไปนอนกับพื้นทรายจนแผ่นหลังเปียกชื้นไปหมด

เอาใหม่นะ เจ้าให้สัตว์เลี้ยงของเจ้ากินผลท้อธรรมดากับผลท้อโอสถ แล้วปล่อยมันลงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ไป เช่นนั้นพวกมันก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลท้อสวรรค์ที่เจ้ากินไปเสียหน่อย เจ้าก็ยังมีความผิดอยู่ดีนั่นล่ะ ผิดซ้ำผิดซากอีกด้วย!”

พอผลท้อสวรรค์หลุดออกมาเช่นนั้นทีแรกข้าก็คิดจะไปรายงานกับท่านมหาเทพมู่ซี แต่ข้าเกิดความคิดบางอย่างได้ขึ้นมา ข้าเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงของข้า ข้าปล่อยมันลงบ่อน้ำไปคราวละตัวสองตัวนานนับพันปีมาแล้วเลยอยากตามไปดูแลพวกมันบ้าง ก็เลยตัดสินใจกินท้อสวรรค์ไปเสียเพื่อจะได้ถูกลงโทษ แล้วสุดท้ายความคิดของข้าก็เป็นจริง ข้าถูกลงโทษให้โดดลงบ่อจริงๆ ด้วย” เด็กหญิงหัวเราะร่าอย่างลืมตัวว่าเรื่องที่ตนทำลงไปมันร้ายเแรงเพียงใด

เดี๋ยวนะ! แล้วที่บอกว่าเจ้าไม่ได้กินคนเดียวเล่า ยังมีสัตว์เลี้ยงตัวไหนของเจ้าที่ได้กินผลท้อสวรรค์เข้าไปอีกบ้าง” สี่เสินลุกพรวดขึ้นนั่งตามเดิม ก่อนจะสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา

ก็มีนก สุนัขป่า ลิง ละมั้ง” เด็กสาวทำท่าครุ่นคิด ยามนั้นนางตื่นเต้นเกินไปสักหน่อย เป็นเพราะกลิ่นหอมของผลท้อสวรรค์ ที่นางแอบนำออกมาที่ส่วนนอกของเกาะแก้วดึงดูดสัตว์บกหลายชนิดให้เข้ามาหานาง นางเลยแบ่งสันปันส่วนให้สหายหน้าใหม่ไปไม่น้อย

เวรกรรม! แล้วพวกมันทั้งหมดก็โดดลงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์มาด้วยใช่หรือไม่? หรือยังอยู่บนแดนสวรรค์?”

กินเสร็จข้าก็ต้องรีบทำลายหลักฐานให้สิ้นซากน่ะสิ ข้าไม่ได้โง่นะ ข้าบอกให้พวกมันโดดลงบ่อไปก่อนผลท้อสวรรค์ที่เหลือจะสุกเต็มที่เสียอีก”

โง่!! เจ้าน่ะโง่เต็มๆ เลยล่ะเหยาจี ดูเวลานี้สิสัตว์เลี้ยงของเจ้าโผล่หัวมาให้เห็นสักตัวหรือไม่ ที่นี่มีเพียงเราสองคนเท่านั้นล่ะ” สี่เสินลุกขึ้นยืน เบื้องหน้าของตนและน้องสาวมีเพียงท้องทะเลกว้างใหญ่ มองเห็นเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่ไกลๆ เบื้องหลังเป็นภูเขาและป่าไม้เขียวครึ้ม ปูทะเลสักตัวเขาก็ยังไม่เห็น!

พวกมันก็คงเหมือนเราสองคนกระมัง เมื่อลงมาแดนมนุษย์แล้วเราก็กลายเป็นคนธรรมดา ยามนี้พวกมันก็คงอาศัยอยู่ตามที่ของมัน ไม่สามารถพูดคุยกับข้าได้ดังเดิมแล้วล่ะ” เหยาจีทำหน้าเศร้า นางเคยเหาะเหินบนอากาศได้บัดนี้ก็ทำไม่ได้แล้ว สัตว์เหล่านั้นก็คงถูกลดทอนพลังไปเช่นเดียวกับนางและสี่เสิน

เหยาจีเราเลิกคุยเรื่องนี้กันสักพักเถิดข้ารู้สึกปวดท้องน่ะ หรือว่าข้ากำลังหิวอยู่นะ?” เด็กหนุ่มเลิกคิดเรื่องชวนปวดหัวไปในที่สุด เพราะอย่างไรก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Related chapter

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 6 ควันไฟ

    อาการปวดหัวและปั่นป่วนในร่างกายของเขายามนี้ทวีความรุนแรงยิ่งกว่าเดิม สี่เสินเข้าใจได้รวดเร็วว่านี่คงเป็นเรื่องปกติธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ยามที่หิวโหย“ข้าก็รู้สึกเหมือนกัน” เหยาจีลูบท้องขึ้นลงไปมา ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด นางไม่เคยหิวมาก่อน อาหารบนสวรรค์ล้วนแล้วแต่กินเข้าไปเพื่อตอบสนองความอยากลิ้มลองและเพื่อความเป็นมงคลทั้งสิ้น“ตามข้ามาเราต้องหาอาหารกินกันแล้วล่ะ” เด็กหนุ่มส่งมือไปให้น้องสาวที่ยังนั่งกองอยู่กับพื้นทรายเหยาจีเงยหน้าขึ้นมองมือเล็กที่ยื่นมาหานาง ช้อนสายตามองขึ้นไปอีกหน่อยก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาของสี่เสินที่ยืนอยู่เหนือศีรษะ เมื่อ 5,000 ปีก่อน สี่เสินยังตัวเตี้ยกว่านี้บอบบางกว่านี้ ภายหลังมหาเทพมู่ซีไม่อนุญาตให้ทูตสวรรค์กลับคืนร่างเดิมนางจึงไม่ได้เห็นสี่เสินมานานเลยทีเดียวยื่นมือออกไปสัมผัสกับฝ่ามือเนียนนุ่มของอีกฝ่าย แรงดึงของสี่เสินเพียงเล็กน้อยกลับยกตัวนางให้ลอยขึ้นได้อย่างง่ายดาย ความรู้สึกที่ได้รับการดูแลและปกป้องในฐานะน้องสาวเป็นครั้งแรกนี่มันดีจริงๆ เหยาจีคิดในใจสองพี่น้องเยาว์วัยหาอาหารใส่ท้องที่หิวจนไส้กิ่วได้อย่างง่ายดาย พวกเขาพบว่าสถานที่ที่ตนเองกำลังยืนอยู่เป็นเกา

    Dernière mise à jour : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 7 เกาะลอย

    “เหยาจี! เราว่ายน้ำข้ามไปไม่ได้! เจ้ารีบกลับขึ้นมาก่อน!” สี่เสินใจหายวาบรีบวิ่งตามมาดึงร่างน้องสาวเอาไว้“ในน้ำมีสัตว์ทะเลอะไรบ้างเราก็ไม่รู้ อันตรายเกินไป เอาไว้ข้าจะคิดหาทางข้ามไปเกาะนั้นเอง อีกอย่างระหว่างที่เรายังหาทางข้ามไปไม่ได้ ไม่แน่ว่ามนุษย์ที่อยู่ทางนั้นอาจจะข้ามมาหาเราเอง เราก็จุดไฟสุมควันส่งสัญญาณให้เขาบ้างก็แล้วกัน”“ข้าจะต่อแพเพื่อข้ามไปที่เกาะนั่น เราต้องช่วยกันขนไม้ที่หักโค่นมาไว้ที่ชายฝั่ง ตัดเถาวัลย์ในป่ามาผูกพวกมัน เจ้าไหวไหม” มองดูมือพี่ชายที่เต็มไปด้วยตุ่มไต ฝ่ามือของสี่เสินไม่ได้อ่อนนุ่มบอบบางเหมือนแต่ก่อนแล้วเหยาจีก็เศร้าใจ การเก็บผลไม้ จับสัตว์มาทำอาหาร จุดไฟ ทุกอย่างล้วนเป็นสี่เสินจัดการให้หมด นางรู้สึกว่าหลายวันที่ผ่านมาความรู้สึกสะดวกสบายทั้งหมดของนางล้วนผ่านมือสองข้างของสี่เสินมาทั้งสิ้น“ไหวเจ้าค่ะ ข้าเอาแต่กินแล้วก็นอน ข้าอยากทำงานจะแย่อยู่แล้ว” เด็กสาวไม่รอช้าเดินลิ่วกลับไปที่ชายป่าตั้งอกตั้งใจเก็บไม้ที่ตนลากไหวมากองรวมกันไว้ หากเหนื่อยนางก็จะเปลี่ยนไปเก็บเถาวัลย์มาเตรียมเอาไว้แทน ปล่อยให้สี่เสินจัดการกับท่อนไม้ขนาดใหญ่เพียงลำพัง“ยังมีเรื่องที่เจ้าต้อง

    Dernière mise à jour : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 8 แลกเปลี่ยน

    “ลอยไปทางใดก็ไม่ไป กลับลอยมาทางเกาะของเราเสียได้นี่” หญิงชราผู้หนึ่งเอ่ยด้วยความหวาดหวั่น ชาวบ้านบนเกาะจิงเหมินเห็นแล้วว่าเกาะลอยค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาทีละนิด พวกเขายังคิดว่าอีกไม่นานเกาะประหลาดแห่งนี้ก็จะเคลื่อนตัวห่างออกไปเอง ไม่คิดว่ามันจะลอยค้างอยู่ที่เดิมนานนับเดือน เป็นเหตุให้สองพี่น้องสร้างแพออกมาจากเกาะจนสำเร็จ“ความลับบนเกาะหลายร้อยปีที่ผ่านมา เราอาจได้รู้จากปากเด็กสองคนนั้นก็เป็นได้ อย่างไรก็แสดงความเป็นมิตรกับพวกเขาสักหน่อย เด็กสองคนอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนั้นได้ เราจะรอดูกันว่าพวกเขาจะกลับไปอีกครั้งได้หรือไม่” กลุ่มบุรุษที่ถืออาวุธเอาไว้พากันวางอาวุธลงบนพื้น มีชายหนุ่มสี่คนเดินแย้มยิ้มไปช่วยกันลากแพของสองพี่น้องกลับมาขึ้นฝั่งส่งเสียงพูดคุยถามคำถามออกมาด้วยความเป็นมิตรมากกว่าเดิม“พวกเจ้าอย่าหาว่าเราเสียมารยาทเลย เราไม่เคยพบคนที่อาศัยอยู่บนเกาะนั้นเลยสักครั้ง มาพวกเราจะเล่าให้เจ้าฟังว่าเหตุใดมันจึงได้ชื่อว่าเกาะลอย และข้าก็มีคำถามอยากรู้จากพวกเจ้ามากมายนัก” เกาโหลวเชิญชวนให้สองพี่น้องเข้าไปในหมู่บ้านอย่างใจกว้าง“ท่านอาโปรดอภัยเราสองพี่น้องเช่นกันขอรับ เรามีกันเพียงสองพี่น้อง

    Dernière mise à jour : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 9 แปลกประหลาด

    เกาโหลวรู้ดีว่าชาวบ้านยังคงกลัวความแปลกประหลาดของเกาะลอยอยู่ เขาตัดสินใจคว้าองุ่นลูกหนึ่งส่งเข้าปากเคี้ยวกินต่อหน้าสมาชิกในหมู่บ้านเป็นการทดสอบทันที“โอ เยี่ยมจริงๆ อร่อยมาก เนื้อก็เยอะ” เกาโหลวเอ่ยชมไม่ขาดปาก ทั้งยังรู้สึกว่าตนเองก็ปลอดภัยไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดจากองุ่นผลนี้“พวกท่านมีเรือมิใช่หรือขอรับ พายตามเราสองคนกลับไปที่เกาะสิ เราจะขอเอาผลไม้บนเกาะแลกเปลี่ยนกับข้าวของเครื่องใช้หรือไม่อย่างนั้นข้าก็ขอแลกเปลี่ยนเป็นเงิน จะได้หาซื้อของได้เองในภายหลัง” มู่สี่เสินตาเป็นประกายเมื่อเห็นว่าหัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยชมผลไม้บนเกาะ เขาค้นพบช่องทางการค้าหาเงินมาใช้ได้แล้ว!“เจ้าแน่ใจจริงๆ หรือว่าจะกลับไปที่นั่น ข้าก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เจ้าฟังแล้วอย่างไร หากกลับไปแล้วเจ้าถูกกระแสน้ำกลืนกินไปเล่า?” เกาโหลวพยายามชักจูงมู่สี่เสินเต็มกำลัง นึกห่วงความปลอดภัยของสองพี่น้องด้วยคุณธรรมน้ำมิตร“มีอะไรต้องกลัวกันท่านอา ที่นั่นปลอดภัยอย่างแน่นอน สัตว์ป่าดุร้ายสักตัวก็ไม่มี มีเพียงสัตว์เล็กๆ อย่างไก่ป่า กระรอก กระต่ายอะไรพวกนี้เท่านั้น เสียดายที่ข้าจับพวกมันมาเป็นอาหารไม่ได้” ยิ่งพูดมู่สี่เสินยิ่งรู้สึกหง

    Dernière mise à jour : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 10 ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

    สองพี่น้องกลับมาอาศัยอยู่ในถ้ำตามเดิม และตื่นแต่เช้าเพื่อเริ่มการค้าของตนกันด้วยความตื่นเต้น แม้จะมีตะกร้าสานและถังไม้มาช่วยในการเก็บผลไม้ได้สะดวกขึ้น แต่การขนพวกมันกลับไปไว้ในเรือก็ยังเป็นเรื่องยากลำบากไม่น้อย มู่สี่เสินต้องลงแรงสร้างลากเลื่อนจากท่อนไม้เล็กหลายอันมาผูกเข้าด้วยกันเพื่อช่วยในการขนส่งผลไม้ได้คราวละมากๆ มู่เหยาจีจะมีหน้าที่เก็บผลไม้สุกที่ร่วงหล่นอยู่ใต้ต้นไม้มากองเอาไว้ที่จุดหนึ่ง ให้พี่ชายทยอยนำตะกร้าผลไม้เอาไปเทใส่เรือแล้วกลับขึ้นมารับเอาไปใหม่ กว่าจะได้ผลไม้เต็มลำเรือสองพี่น้องก็ต้องพักเหนื่อยอยู่หลายรอบและใช้เวลาไปกว่าครึ่งค่อนวัน แต่เมื่อมองเห็นผลไม้กองโตที่ยังเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของจำนวนผลไม้ที่มีเต็มเกาะ ความเหนื่อยล้าทั้งหมดก็ถูกแทนที่ด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุขจนล้นอก“หากแลกเปลี่ยนเก็บสะสมเงินซื้ออุปกรณ์ได้มากพอ ไม่นานข้าคงจะสร้างเรือนหลังเล็กๆ ให้เจ้าสักหลังได้ เจ้าจะมีที่นอน ผ้าห่มที่อบอุ่น อ้อ! อย่าลืมเตือนข้าด้วย เราต้องแลกเอาข้าวสารกลับมาด้วยนะ อีกหน่อยเจ้าต้องเติบโต ต้องกินอาหารแบบมนุษย์จะได้แข็งแรง” มู่เหยาจีเงยหน้ามองพี่ชายที่ผิวเปลี่ยนเป็นสีเข้ม ข้อ

    Dernière mise à jour : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 11 ผู้บุกรุก

    เกาะลอย“ขนตะกร้าไปกันเลยเหยาจี เราจะเริ่มเก็บผลไม้ไว้ตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้จะได้เสร็จเร็วขึ้น”“ท่านไม่บอกข้าก็จะทำอยู่แล้วเจ้าค่ะ” มู่เหยาจีเขย่าเงินเหรียญที่ท่านป้าคนหนึ่งมอบถุงใส่เงินให้นางมาผูกไว้กับผ้าคาดเอว รู้สึกว่าการมีเงินนี่มันช่างดีเสียจริงทั้งคู่ช่วยกันคัดเลือกผลไม้ด้วยความละเอียดถี่ถ้วนกว่าเดิม ผลไม้เนื้อแข็งจะถูกวางลงก้นตะกร้าและที่เนื้ออ่อนนุ่มอย่างเช่นมะม่วง ก็จะถูกวางไว้ด้านบน ผลที่มีร่องรอยแตก ช้ำ มีจุดด่างดำเล็กน้อยพวกเขาก็จะแยกเอาไปกองไว้อีกทางไม่นำเอาไปขาย“ฟ้าใกล้จะมืดแล้วเหยาจี เราต้องกลับไปที่อุโมงค์กันแล้วล่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อแต่เช้าก็แล้วกัน” มู่สี่เสินเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มมืดครึ้ม“เพิ่งเก็บได้แค่ 8 ตะกร้าเอง ข้ายังไม่ทันเหนื่อยเลยเจ้าค่ะ เสียดายจัง” “ไปเถิด ข้าวของตะกร้าอะไรก็วางเอาไว้ที่นี่ทั้งหมดนั่นล่ะไม่ต้องเก็บกลับไป ข้ารับรองไม่มีของสูญหายแน่”“ข้าอยากเห็นแผ่นดินใหญ่ที่พวกเขากล่าวถึงกันจังเจ้าค่ะ ดูเหมือนว่ามันน่าจะเจริญมากกว่าหมู่บ้านบนเกาะจิงเหมินนะเจ้าคะ” “ข้าก็คิดเช่นนั้น เราต้องได้ไปแน่นอนเหยาจี เก็บเงินให้ได้มากๆ กันไว้ก่อน มนุษย์ใช้เง

    Dernière mise à jour : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 12 สหาย

    “พี่สี่เสินท่านอย่าลืมว่าเกาะนี้ไม่เคยมีผู้ใดผ่านเข้าออกมาก่อน หากจะมีผู้บุกรุกขึ้นมาบนเกาะก็เป็นเราสองคนต่างหากที่บุกรุก” มู่เหยาจีตั้งข้อสังเกตใหม่“อีกอย่างนะเจ้าคะ หากเราเป็นผู้บุกรุก เจ้าของเดิมสมควรขับไล่เราหาใช่มาช่วยเราเก็บผลไม้ ข้าว่าพวกเขาไม่ได้คิดร้ายกับเราสองคนเจ้าค่ะ”“จริงของเจ้า เอาอย่างนี้คืนนี้เรามาพิสูจน์กัน”สองพี่น้องตัดสินใจล้มเลิกการสำรวจรอบเกาะ แล้วมุ่งหน้ากลับไปที่ชายหาดดังเดิม ช่วยกันแบกตะกร้าเปล่าเข้าป่าไปกองไว้ที่ใต้ต้นมะกอกต้นเดิม พวกเขาเลือกผลไม้ที่สุกงอมมีสีคล้ำไปกองไว้ตามใต้ต้นไม้เพื่อให้มันกลายเป็นปุ๋ยตามธรรมชาติ แต่ไม่ได้เก็บผลไม้ดีใส่ตะกร้าเลยแม้แต่ผลเดียวพอใกล้ค่ำ มู่สี่เสินก็ตะโกนเรียกน้องสาวให้กลับไปพักผ่อนตามปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิด แต่เมื่อถึงจุดลับสายตาร่างสองร่างก็หายเข้าไปในโพรงของต้นไม้เก่าแก่ขนาดใหญ่ต้นหนึ่ง เด็กทั้งคู่ต้องกินผลไม้และน้ำที่เตรียมเอาไว้ด้วยเสียงที่เบาที่สุด ขยับตัวให้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเสียงใดๆ เฝ้ารอให้แสงสว่างรอบข้างเลือนหายไปทีละน้อยด้วยหัวใจที่ลุ้นระทึกผ่านไปนานเท่าใดไม่อาจรู้ได้ ขณะที่ทั้งสองนั่งพ

    Dernière mise à jour : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 13 แรงงานชั้นยอด

    “เอาไปวางไว้ทางด้านนั้น 30 ใบ” มู่สี่เสินออกคำสั่งกับน้องสาว เลือกวางตะกร้าผลไม้เปล่าๆ 30 ใบไว้ยังบริเวณต้นผลไม้นานาชนิดที่พวกตนยังเก็บเกี่ยวไปไม่ถึงบริเวณนั้น “เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” มู่เหยาจีเลือกวางตะกร้าทั้ง 30 ใบให้กระจายไปทั่วๆ จากนั้นก็วิ่งตัวปลิวกลับมาหาพี่ชาย“ไป! เราไปกันอีกทาง” มู่สี่เสินตั้งใจจะทดลองดูว่า หากพวกตนไม่ได้อยู่ใกล้ตะกร้า กระรอกและกระต่ายจะมาช่วยเก็บผลไม้อีกหรือไม่ในเวลากลางวัน พวกเขาจึงซื้อตะกร้ามาเพิ่มใหม่อีก 30 ใบแล้วปล่อยทิ้งไว้โดยไม่สนใจจะไปดูแล สองพี่น้องใช้ตะกร้าเก่า 30 ใบย้ายมาเก็บผลไม้อีกทิศทางหนึ่งกันลำพังแค่สองคน พอเก็บได้ 20 ตะกร้าก็ตัดสินใจพายเรือออกไปส่งที่หมู่บ้านอีกรอบหนึ่งก่อน เพราะหากรอให้ได้ครบ 30 ใบ เวลาอาจจะช้าเกินไป “ข้าตื่นเต้นจะแย่แล้วเหยาจี รู้หรือไม่ว่าหากเป็นไปตามที่เราคิด จากนี้เราจะมีหน้าที่แค่เพียงขนมันลงเรือแล้วพายมาส่งขายเท่านั้น เราอาจทำได้ถึงวันละ 3 รอบทีเดียวเลยนะ นั่นหมายถึงการรับเงินที่มากขึ้นทุกวัน!” ดวงตาของเด็กหนุ่มส่องประกายระยิบระยับ มีเงินมากก็จะสร้างบ้านให้น้องสาวได้อยู่เร็วขึ้น!“ไม่ได้นะเจ้าคะพี่สี่เสิน เรามีกัน

    Dernière mise à jour : 2025-03-19

Latest chapter

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 40 คนโง่เขลา

    อ๋าวหลวนหลงพาอดีตเซียนที่มาเข้าร่วมกับฝ่ายตนเดินทางไปด้วยกันอีกสี่คนไม่นับรวมเขากับฝูซี แต่ไม่ยินยอมให้ทายาทหรือผู้ติดตามคนอื่นจากสกุลอ๋าวร่วมทางมาด้วยอีกเลยนอกจากอ๋าวหลวนหย่งตลอดสามปีที่ผ่านมาด้วยการทำงานหนักของอ๋าวซีเค่อกับอ๋าวหลวนตงที่ออกไปเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลใหญ่ที่เคยรู้จักกันมาก่อน รวมกับภายหลังฝูซีและเวยวั่งซูก็ออกไปรวบรวมท่านเซียนไร้สกุลที่ยังเคว้งคว้างอยู่มาเข้ากลุ่มกันไว้ก็มีไม่น้อย ทำให้ขอบเขตของกองกำลังสกุลอ๋าวยังมีแนวร่วมที่กระจายตัวอยู่ในหลายเมืองในเขตเทือกเขาที่มีทายาทสกุลอ๋าวสายรองมาคอยดูแลอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นอ๋าวหลวนหลงเดินทางผ่านทางมาก็รีบเข้าไปทักทาย“คุณชายสี่ คุณชายห้า พวกท่านกับสหายจะไปที่ใดกันหรือขอรับ”“เรากำลังจะข้ามไปที่เมืองหยวนเปียว ทางนี้มีอะไรผิดปกติหรือไม่” “ไม่มีขอรับ เขตแนวภูเขาฝากนี้มีกองกำลังที่เป็นมิตรกับสกุลอ๋าวของเราไม่น้อย แต่ที่เมืองหยวนเปียวไม่ใช่ว่าเป็นเขตติดต่อของสกุลเหลาหรอกหรือคุณชาย”“ใช่ ข้ามีธุระต้องไปทำแถวนั้นพอดี พวกเจ้าตามสบายเถิดพวกเราจะเร่งเดินทางกันต่อ”“รอก่อนคุณชายสี่! เมืองหยวนเปียวไม่น่าจะปลอดภัยเท่าใดนัก ข้าจะไปตามคนให้ต

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 39 ข่าวลับ

    “แต่ข้ายังไม่เข้าใจอยู่บ้างเจ้าค่ะ หากสัตว์เลี้ยงของข้ายังคงมีอายุขัยยืนยาวดังเดิม พวกมันบางตัวที่ได้กินท้อโอสถแล้วพูดได้ทำไมจึงไม่พูดคุยกับข้าบ้าง”“ทางเดียวที่เราจะรู้คำตอบได้ก็คือข้าต้องรีบรวบรวมลมปราณให้สำเร็จ แล้วฟื้นฟูความสามารถเรื่องการสื่อสารกับพวกมันอีกครั้ง”“ใช่แล้ว!! ท่านเป็นทูตสวรรค์มาก่อนนี่นา ท่านสามารถสื่อสารกับสัตว์เทพและสัตว์ต่างสายพันธุ์บนแดนสวรรค์ได้ พี่สี่เสินของข้ายอดเยี่ยมที่สุดเลย”“เห็นหรือไม่เหยาจี แม้ว่าข้าจะไม่เคยฝึกฝนการต่อสู้แต่ความสามารถในการสื่อสารของข้าก็ยังเป็นประโยชน์ได้ เจ้าเองก็อย่าละเลยเรื่องการรวบรวมปราณเด็ดขาดเลยเชียว”“แต่พี่สี่เสิน ถึงแม้เวลานี้เราจะยังไม่รู้ว่าสัตว์เลี้ยงของข้าจะพูดได้ดังเดิมหรือไม่ แต่ข้าเชื่อว่าพวกมันกำลังปกป้องเราอยู่ แล้วอย่างนี้พี่ยังคิดจะออกจากเกาะไปเรียนวิชายุทธ์อีกหรือเจ้าคะ”“ท่านอาเกาบอกว่าผู้ฝึกตนในยุคนี้ต่างจากยุคก่อน พวกเขาก้าวหน้ามากขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการเข่นฆ่าสังหารกันเกิดขึ้น เรายังวางใจไม่ได้นะเหยาจี”“แล้วเซียนสายพฤกษาอย่างข้าจะฝึกฝนอะไร ความทรงจำเดิมของข้าก็ไม่เคยมีเรื่องที่เกี่ยวกับพลังการโจมตีแม้แต่น้อย

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 38 ปีศาจ

    “พวกท่านพายต่อไปหาเหยาจี นางอยู่ข้างหลังข้า!” มู่สี่เสินต้อนเรือเล็กให้เข้ามาในพื้นที่เกาะลอยทีละลำ บนเรือแต่ละลำมีชาวบ้านที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่หลายคนรวมทั้งครอบครัวของหนูน้อยหนิงเอ๋อร์ที่เหยาจีเคยช่วยเหลือเอาไว้ด้วย“ท่านอาหญิงแล้วท่านอาเกาเล่าเจ้าคะ” “สามีข้ากับสหายควบคุมเรือใหญ่ที่บรรทุกเสบียงอาหาร เรือหนักมากมันเคลื่อนตัวได้ช้า ข้าก็ห่วงเขาเหลือเกิน เจ้าสองคนช่วยพวกเขาได้หรือไม่”“ท่านอาหญิงใจเย็นๆ เจ้าค่ะ เราต้องรอให้เขาเข้ามาถึงเขตของเกาะลอย ข้ามั่นใจว่าพวกเขาจะปลอดภัย”“ท่านอา หากคิดว่าไม่ทันท่านโดดลงน้ำว่ายมาหาข้า!! ทิ้งเรือไปเสีย! ทิ้งเรือไป!” เสียงมู่สี่เสินตะโกนซ้ำไปซ้ำมาอยู่เบื้องหน้า เกาโหลวกับกู้หยุนควบคุมเรือร่วมกับสหายลำละสี่คน พวกเขาหันมาสบตากัน แม้ว่าจะมีชาวบ้านเต็มใจจะเข้ามาอาศัยอยู่ที่เกาะลอยไม่ถึง 40 คนเท่านั้น แต่พวกเขาก็ใช้เงินของมู่สี่เสินแจกจ่ายให้ชาวบ้านคนอื่นแยกย้ายกันไปตั้งหลักที่อื่นไม่น้อย เสบียงอาหารในเรือทั้งสองลำที่ซื้อมาด้วยเงินของสองพี่น้องสกุลมู่พวกเขาไม่อาจทิ้งมันไปได้“ออกแรงอีก! อีกนิดเดียวเท่านั้น!”ทางฝ่ายมู่เหยาจีนางและชาวบ้านที่ข้ามเขตมาแ

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 37 คืนที่มืดมิด

    “เหยาจี เมื่อครู่ท่านอาเกาบอกเรื่องหนึ่งกับข้าซึ่งเจ้าก็ควรจะรู้ไว้เช่นกัน”มองดูใบหน้างามของน้องสาวแล้วมู่สี่เสินก็รู้สึกเศร้าหมองเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าตนเองและน้องสาวจะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบบนเกาะลอยที่ปลอดภัยได้อยู่แล้วเชียว“บนแผ่นดินใหญ่ยังคงมีผู้ฝึกตนอาศัยอยู่ ดูเหมือนว่าเราจะลงมายังแดนมนุษย์ในช่วงเวลาที่พวกเขากำลังจะฟื้นฟูการฝึกฝนกันเข้าพอดี”“ผู้ฝึกตน? ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ข้าจำได้ว่าท่านมหาเทพมู่ซีบอกว่าแดนสวรรค์ยึดสมบัติเทพ สิ่งของแทนเทพรวมทั้งพืชผักผลไม้เสริมปราณจากแดนมนุษย์ไปหมดแล้ว พวกเขายังอยากจะฝึกฝนกันอยู่อีกหรือเจ้าคะ”“ใช่ นั่นก็เป็นเพียงการคาดเดาของเหล่าทวยเทพในอดีต พวกเขาคิดว่ามนุษย์ไม่สามารถขึ้นมาแดนสวรรค์ได้อีก ก็คงล้มเลิกความคิดในการฝึกฝนไปในที่สุด แต่เวลานี้เราก็ได้รู้แล้วว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น”“นี่คือเรื่องที่ท่านอาร้อนใจจนต้องพายเรือมายามดึกดื่นเพื่อเตือนพวกเราสองคน?”“นั่นก็ใช่อีก จากที่ท่านอาเกาเล่าให้ข้าฟังเมื่อครู่ เมื่อก่อนผู้ฝึกตนก็ต่างคนต่างอยู่ แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาอยู่ดีๆ ก็เกิดสำนักและตระกูลใหม่ที่โดดเด่นขึ้นมาไม่น้อย พวกเขาไม่เคยมีผู้นำจึงกำลั

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 36 เตือนภัย

    “นั่นสี่เสินแน่แล้ว! เราขยับเข้าไปใกล้กองไฟอีกสักนิดให้เขาเห็นเราชัดๆ จะดีกว่า”มู่สี่เสินจ้องมองตำแหน่งของวัตถุสีขาวที่ขยับไปมาอยู่ตลอดเวลา เมื่อเรือของเกาโหลวและกู้หยุนเคลื่อนที่มาใกล้กองเพลิงเขาจึงได้เห็นว่าเป็นเกาโหลวและกู้หยุนกำลังโบกผ้าสีขาวในมือไปมาอยู่บนเรือ“ท่านอาเกา!! ท่านอากู้!! เกิดอะไรขึ้นขอรับเหตุใดจึงมาที่นี่กลางดึกเช่นนี้” ชายหนุ่มรีบเร่งฝีพายเข้ามาหาคนทั้งคู่และได้เห็นว่าทั้งสองกำลังช่วยกันวิดน้ำดับกองไฟที่จุดเผาเรือลำเก่าที่ตนเคยใช้กันพัลวัน“ช่วยกันดับไฟก่อนที่ใครจะสังเกตเห็นก่อนสี่เสิน เดี๋ยวเจ้าพาเราสองคนเข้าไปที่เกาะลอยแล้วค่อยคุยกัน”ดับไฟและจมซากเรือลำเก่าลงสู้ก้นทะเลแล้ว คนทั้งสามก็ยังคงลอยเรือจับตาดูความเคลื่อนไหวบนผืนน้ำรอบๆ อยู่อีกพักใหญ่ จนเกาโหลวแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดตามมา มู่สี่เสินจึงได้พาคนทั้งคู่กลับมาที่เกาะลอย“ท่านอาเกา ท่านอากู้ เป็นพวกท่านเองหรือเจ้าคะ! เกิดอะไรขึ้นกันแน่ แสงไฟเมื่อครู่เกิดขึ้นได้อย่างไร” มู่เหยาจีย่ำลงน้ำเดินมาหาคนทั้งสามอย่างร้อนใจ“เหยาจี น้ำเย็นมากเจ้าทำไมไม่ไปรอข้างบนฝั่ง รีบกลับขึ้นไปก่อน”“จะให้ข้ายืนรอเฉยๆ ได้อย่างไรพี่สี่เ

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 35 วิตกกังวล

    วันต่อๆ มามู่สี่เสินและมู่เหยาจีก็ได้เรือขนาดใหญ่ลำใหม่จากการช่วยเหลือของหัวหน้าหมู่บ้านเกาโหลวมา 2 ลำ พวกเขาจึงคืนเรือสองลำเดิมรวมทั้งแพให้กับเกาโหลวไป “เรือสองลำนี้เราบรรจุผลไม้ได้ถึง 160 ตะกร้าเลยทีเดียวขอรับ ครั้งนี้การทยอยเอาผลไม้ทั้งหมดออกจากเกาะลอยคงเสร็จเร็วกว่าเก่า”“พวกเจ้าปลูกต้นท้อเอาไว้อีก 200 กว่าต้นมิใช่หรือ ข้าว่าคงจะใช้เวลา 3 เดือนดังเดิมนั่นล่ะ นอกจากเรือแล้วเจ้าอยากได้สิ่งใดบ้าง ข้าจะได้เตรียมการหาซื้อไว้ให้ตั้งแต่เนิ่นๆ"“ข้าวสารขอรับ แล้วก็ผ้า หากลมหนาวมาเยือนอีกครั้งข้าไม่มั่นใจว่าเกาะลอยจะพาเราไปที่ใดอีก และยังไม่รู้ว่าจะนานเท่าใดมันจึงจะยอมเคลื่อนตัวอีกครั้ง เสบียงอาหารของใช้จำเป็นอะไรเพิ่มเติมจากนี้ข้าจะให้เหยาจีจดมาส่งให้ท่านเอง”ระหว่างที่เกาโหลวกับมู่สี่เสินกำลังสนทนากันอยู่ ร่างสามร่างของอู๋ฉ่าง นางลู่และอู๋หนิง ก็เดินถือตะเกียงฝ่าความมืดตรงเข้ามาบริเวณเรือที่รับส่งสินค้า“คุณชายคุณหนู เราสามคนมาขอบคุณพวกท่านขอรับ” อู๋ฉ่างเป็นคนนำภรรยาและบุตรสาวคุกเข่าลงกับพื้นโขกศีรษะคำนับสองพี่น้องด้วยความรู้สึกขอบคุณจากใจ“พี่ชาย พี่สาว!! ท่านลุกขึ้นก่อน! ไม่เห็นต้องทำ

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 34 ผลไม้มงคล

    ได้ยินเช่นนี้ทั้งมู่สี่เสินและมู่เหยาจีต่างก็ดีใจกันมาก ครั้งนี้โชคดีที่เกาะลอยยอมเคลื่อนที่มาที่เกาะจิงเหมิน พวกเขาจำเป็นต้องสะสมเสบียงอาหารไว้ให้มากกว่าเดิม ป้องกันการขาดแคลนในอนาคตหากว่าเกาะลอยเคลื่อนตัวไปอยู่กลางมหาสมุทรที่ห่างไกลอีกครั้ง“ดีเลยเจ้าค่ะ อีกครึ่งเดือนผลท้อบนเกาะก็น่าจะพร้อมเก็บเกี่ยวแล้ว เราจะได้เอาพวกมันมาขายด้วย”“ผลท้อ? ผลท้อหน้าตาเป็นอย่างไรหรือหลานสาว"“ก็ลูกสีแดงๆ ขนาดประมาณเท่านี้อย่างไรเจ้าคะ” มู่เหยาจีทำมือกะขนาดให้เกาโหลวดู“นั่นมันผิงกั่ว (แอปเปิ้ล) ไม่ใช่หรือ? ก็ไหนพวกเจ้าว่าบนเกาะลอยไม่มีผิงกั่วอย่างไรเล่า?"“ไม่ใช่เจ้าค่ะ ไม่ใช่ผิงกั่ว ดอก ผล ใบและกิ่งท้อล้วนเป็นสิ่งที่เป็นมงคลทั้งสิ้นท่านอาเกาไม่รู้เรื่องนี้หรือเจ้าคะ”เกาโหลวกับชาวบ้านขมวดคิ้วพยายามคิดถึงผลไม้ดังกล่าว แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีผู้ใดเคยได้ยินชื่อหรือสรรพคุณที่ดีงามของผลไม้ชนิดนี้มาก่อนเลยสักคนเดียว“เอาไว้ข้าข้ามไปแผ่นดินใหญ่แล้วจะลองถามคนที่นั่นดู บางทีอาจเป็นผลไม้ทางเหนือที่เมืองหยุนไห่ของพวกเราไม่เคยรู้จักก็เป็นได้”มู่สี่เสินและมู่เหยาจีตาเป็นประกายขึ้นมาทันที หากผลท้อไม่มีปลูกที่เม

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 33 ความต้องการเดิม

    หลายวันต่อมาสองพี่น้องก็ทำงานร่วมกันได้ตามปกติ มู่เหยาจียังเสนอตัวจะเย็บชุดต่อกันให้กับมู่สี่เสินบ้าง แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธเสียงแข็ง“ให้ข้าใส่ชุดน่าเกลียดเช่นนั้น ข้ายอมแก้ผ้าเดินรอบเกาะยังจะดีเสียกว่า!!”“ท่านมันปากเสีย! ดี แก้ผ้าเดินไปเลย อยู่กับลิงมากท่านก็จะเหมือนลิงเข้าไปทุกทีแล้ว จริงสินะพวกมันก็ไม่ใส่เสื้อผ้าเช่นกันนี่นา!” มู่เหยาจีบ่นไปเรื่อยเปื่อย แต่ลิงน้อยพากันล้มตัวลงนอนแผ่หลาไปกับพื้นกันเป็นแถว พอตั้งสติได้พวกมันก็เข้าไปรุมดึงเสื้อผ้าของมู่สี่เสินคล้ายกำลังประท้วงว่าพวกมันก็อยากใส่เสื้อผ้าเช่นกัน“เหยาจี พวกมันฟังเรารู้เรื่องทุกอย่างเลยใช่ไหมนี่!! เจ้ามาช่วยข้าด้วย!!” มู่สี่เสินส่งเสียงขอความช่วยเหลือจากน้องสาวไป มือก็ปัดป้องต่อสู้กับลิงไป“ลิงน้อย อย่าเสียมารยาทกับพี่ชายสิ พวกเจ้าไม่ใช่มนุษย์ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้า เจ้าดูเอาเถิดเขาน่าเกลียดถึงเพียงนั้นพวกเจ้ายังอยากได้เสื้อผ้าจากเขาอีกหรือ?” ฝูงลิงสิบกว่าตัวหยุดชะงักลงทันใด พวกมันกระโดดลงจากร่างของมู่สี่เสินมายืนอยู่ตรงกลางระหว่างคนทั้งสอง หันมองซ้ายทีขวาที แล้วก็เบ้หน้าทำปากเบี้ยว เสื้อผ้าของมนุษย์สองคนนี้ไม่น่าสวมใส

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที้่ 32 หลบหน้า

    ชั่วพริบตาเดียวเวลาก็ล่วงผ่านไปนานถึง 3 ปี“พี่สี่เสิน ข้าชักอยากให้เกาะลอยเคลื่อนที่บ้างเสียแล้วล่ะ ข้าวสารกับแป้งของเราหมดไปตั้งแต่เมื่อ 6 เดือนก่อนแล้ว ข้ากินแต่ผลไม้ กับพวกกุ้งปลาจนหน้าข้าจะยาวเป็นกุ้งอยู่แล้วเจ้าค่ะ”มู่สี่เสินพรวนดินใต้ต้นท้อที่เติบโตและกำลังออกผลเล็กๆ มากมายต่อไปโดยที่ไม่ได้หันมามองน้องสาว“อีกไม่นานเจ้าก็จะมีผลท้อกินแล้ว พวกมันโตเร็วและมากมายถึงเพียงนี้เจ้ากินได้อีกนานหายเบื่อแน่นอนเหยาจี”“เราอยู่กันแค่สองคน ต่อให้เด็ดลงมาแจกจ่ายให้สัตว์ทั้งเกาะกินด้วยอย่างไรก็กินไม่หมด ข้าอยากขายผลท้อจัง อยากรู้ว่าหัวหน้าหมู่บ้านเกาโหลวจะคิดราคาให้พวกเราเท่าใด”ในที่สุดมู่สี่เสินก็หยุดมือจากการทำงาน ลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงใช้ฝ่ามือหนาปัดฝุ่นที่เลอะเสื้อผ้าออก ยามนี้มู่สี่เสินเป็นชายหนุ่มวัย 17 ปีแล้ว เขาตัวสูงใหญ่จนเสื้อผ้าที่เคยใส่สั้นเต่อมาถึงหน้าแข้ง แขนเสื้อก็ดูคล้ายจะหดสั้นลงจนดูน่าขัน “ข้าก็คิดถึงคนในหมู่บ้านจิงไห่เช่นกัน เสียดายที่ครั้งนั้นข้าเลือกซื้อเสบียงอาหารแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อเรือกลับมา ไม่เช่นนั้นข้าจะพาเจ้าพายเรือออกไปท่องเที่ยวนอกเกาะบ้าง”“ต่อให้เราซื้

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status