Share

ตอนที่ 4 อาสาสมัคร

Penulis: บ.บี
last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-19 12:40:20

ไม่ใช่เพียงท่านมหาเทพทั้งสามเท่านั้นที่ตกอกตกใจกับความพร้อมใจโดยไม่ได้นัดหมายของเซียนหนุ่มสาวเหล่านี้ เทพหรือเซียนส่วนใหญ่ต่างก็พากันงุนงงกับความคิดจะลงโทษตัวเองครั้งใหญ่ของเซียนหนุ่มสาวเยาว์วัยกันทั้งสิ้น

พวกเจ้าจะถูกริบเอาการบำเพ็ญเพียรทั้งหมดแล้วกลายเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดากันนะ สวรรค์กับมนุษย์ตัดขาดกันไปแล้ว หากเราส่งพวกเจ้าลงไปทั้งที่ยังคงสภาพเป็นเซียนอาจสร้างความปั่นป่วนในแดนมนุษย์เบื้องล่างให้กลับคืนมา ตัดสินใจให้ดีก่อน” มหาเทพฮ่าวเทียนจำต้องเตือนสติเหล่าเซียนหนุ่มสาวอีกรอบ

เช่นนั้นข้าขอถามคำถามหนึ่งขอรับ หากว่าเราสามารถบ่มเพาะพลังและบำเพ็ญตนจนได้เป็นเซียนกันอีกครั้งเล่า? พวกเรายังจะมีโอกาสกลับมายังแดนสวรรค์ได้หรือไม่ขอรับ” หลวนหลงเอ่ยถามอย่างชาญฉลาด

นั่นมัน..” มหาเทพทั้งสามรีบหันหน้าเข้ามาประชุมกันโดยเร็ว

ครั้งก่อนที่สวรรค์ มนุษย์และปีศาจแยกออกจากกันก็เพราะสงครามการแย่งชิงอำนาจในสามภพอันยาวนาน การสูญเสียไพร่พลทั้งสามดินแดน ทำให้ต่างฝ่ายต่างเลิกรากันไปเองและแยกกันอยู่อย่างสงบมาหลายหมื่นปีโดยไม่มีข้อตกลงใดๆ

ทางแดนมนุษย์ที่อ่อนแอที่สุดนั้นย่อมไม่ใช่ปัญหา เมื่อแดนสวรรค์ไม่ส่งเทพหรือเซียนลงไปให้ความหวังพวกเขาก็ใช้ชีวิตกันตามปกติไป ส่วนแดนปีศาจเมื่อไม่เห็นว่าฝ่ายตนถูกคุกคาม หรือถูกแย่งชิงพื้นที่ตรงกลางในแดนมนุษย์ก็ไม่เข้ามาวุ่นวายเช่นกัน

เราไม่ได้ส่งเทพลงไป พวกเขาจะกลายเป็นมนุษย์ธรรมดา เช่นนี้แดนปีศาจก็ไม่มีข้ออ้างจะเข้ามารุกรานแดนมนุษย์เพื่อแย่งชิงพื้นที่ แต่หากคนเหล่านี้สามารถบ่มเพาะจนถึงระดับเซียนได้ก็ไม่ผิดหากเราจะรับเขากลับมาแดนสวรรค์มิใช่หรือ” มหาเทพฮ่าวเทียนออกความเห็น

เวลาผ่านมาเนิ่นนานแดนมนุษย์ดำเนินชีวิตกันอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ บางทีกาลเวลาคงทำให้มนุษย์หลงลืมไปแล้วว่าเคยมีเทพมีปีศาจ ตำราหรือหนทางจะฝึกฝนบ่มเพาะพลังอาจจะเสียหายและถูกลบเลือนจากความทรงจำไปจนหมดสิ้นแล้วก็เป็นได้ ข้าว่าการกลับมาแดนสวรรค์ของพวกเขาเป็นเรื่องยาก หรือหากมันจะเกิดขึ้นก็คงอีกนานเลยทีเดียว” มหาเทพมู่ซีมองไม่เห็นความสำเร็จของเหล่าเซียนที่กำลังจะลงไปเลยสักทาง

อีกนานหรือ? ข้าว่าเรื่องนี้น่าสนใจ” ใบหน้าและถ้อยคำที่แฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์ของมหาเทพสิงเทียนทำให้สองมหาเทพต้องเบิกตาโพลง

ใช่แล้ว ปัญหาของพวกเราก็คือบนแดนสวรรค์มีเซียนอาศัยอยู่มากเกินไป เมื่อพวกเขาสำเร็จบรรลุเข้าสู่ขั้นเทพพวกเราก็รับมือเอาไว้ได้ไม่หมด ไม่สู้ปล่อยให้พวกเขาไปใช้เวลาบ่มเพาะในแดนมนุษย์ให้นานสักหน่อย พวกเราจะได้มีเวลาได้จัดการระเบียบบนแดนสวรรค์กันอีกสักรอบ!!!” 

ช้าก่อน! เช่นนี้เท่ากับเราผลักไสพวกเขาไปหรือไม่ ข้ากำลังรู้สึกผิดอยู่นะ"

เราบอกความจริงพวกเขาไปแล้วนี่นา การตัดสินใจของพวกเขาหาใช่พวกเราบังคับ” 

ปรึกษากันอยู่นานในที่สุดมหาเทพทั้งสามก็ตัดสินใจได้

เราสามคนยังยืนยันคำเดิม เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงกฎในการยึดพลังของพวกท่าน แต่หากพวกท่านสามารถบ่มเพาะจนถึงขั้นเซียนได้ แดนสวรรค์ก็จะเปิดประตูต้อนรับพวกท่านให้กลับมาเสมอ”

ได้ยินการยืนยันเช่นนี้เหล่าเซียนทั้งหลายก็ยิ่งมีความมั่นใจยิ่งกว่าเดิม พวกเขาจะไม่ถูกลบความทรงจำนั่นหมายความว่าพวกเขาสามารถเริ่มการบำเพ็ญเพียรและฝึกฝนกันได้ใหม่โดยไม่ต้องมีผู้ใดสอนสั่งแม้จะถูกส่งลงไปอยู่ในแดนทุรกันดารไร้ญาติขาดมิตรก็ตามที

อีกอย่างที่ข้าต้องเตือนพวกเจ้า” มหาเทพมู่ซีตั้งใจจะประกาศคำเตือนสุดท้าย

พวกเจ้าคงมีความหวังว่าเหยาจีจะเพาะเมล็ดพันธุ์ท้อสวรรค์ที่แดนมนุษย์ได้สำเร็จสินะถึงได้กล้าที่จะเสี่ยง ข้าบอกไว้ก่อนว่า เมล็ดพันธุ์ท้อสวรรค์มิใช่ว่าอยากจะปลูกเมื่อใดก็ทำได้ ไม่เช่นนั้นบนเกาะแก้วของข้าคงมีท้อสวรรค์ขึ้นอยู่เต็มเกาะไปแล้ว แล้วหากมันจะสุกทุก 3,000 ปีตามเดิม ด้วยอายุขัยของมนุษย์ที่พวกเจ้ามี ลงไปก็ยังไม่ได้กิน!"

คำกล่าวนี้สร้างความแตกตื่นให้ฝูงเซียนกลุ่มใหญ่ต้องถอยหลังกลับไปยืนที่เดิมของตน พวกเขาลืมคิดไปว่าท้อสวรรค์จะสุกทุก 3,000 ปีมิใช่หรือ!

แต่สำหรับหลวนหลง ผู้ที่คิดอยากจะไปเผชิญหน้ากับความท้าทายย่อมไม่ถอยหลังกลับอยู่แล้ว เขาหันมองไปรอบตัวก็ยังมีเซียนที่คุ้นหน้าคุ้นตาหลากหลายเพศและวัยที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมเหมือนกับตนอีกนับ 1,000 คน คาดเดาว่าคนกลุ่มนี้ก็คงจะเบื่อหน่ายการบำเพ็ญเพียรเพิ่มอายุขัยเช่นเดียวกับตนเป็นแน่

หากพวกเจ้าตัดสินใจกันดีแล้วเราสามก็จะไม่รั้งเอาไว้ หลวนหลง! ข้าขอมอบเรื่องการตามหาเมล็ดพันธุ์ท้อสวรรค์ไว้กับเจ้า ไม่ว่าภายหน้าจะเกิดเหตุการณ์เช่นไรก็ขอให้การตัดสินใจสุดท้ายอยู่ที่เจ้า เซียนทุกคนที่จะลงไปต้องสาบานยอมรับคำสั่งเสียนี้เพราะเดิมทีท้อสวรรค์ผลนั้นก็สมควรเป็นของหลวนหลงตั้งแต่ต้น”

มหาเทพมู่ซีต้องการผู้นำในการตัดสินใจ เพราะนางไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าหากเหยาจีเพาะปลูกท้อสวรรค์บนแดนมนุษย์ได้สำเร็จจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรกับผลท้อบ้าง มันอาจจะสุกเร็วให้ผลทุกวัน หรืออาจจะไม่มีผลออกมาเลย ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งหมด การป้องกันการแก่งแย่งทะเลาะกันเองควรจัดการเสียตั้งแต่แรก

ตกลง พวกเรายินยอมให้คำสาบานขอรับ/เจ้าค่ะ”

ช้าก่อน!!” ผีเสื้อเกล็ดแก้วตัวใหญ่มหึมากลายร่างเป็นบุรุษหนุ่มใหญ่ผิวสีเข้มรูปร่างแข็งแรงกำยำ

ภาพนี้กระทบกระเทือนหัวใจของบรรดาท่านเซียนเข้าอย่างจัง

ก่อนหน้านี้มีผีเสื้อเกล็ดแก้วสี่เสินกลายร่างเป็นเด็กหนุ่มรูปงามสง่าผ่าเผยราวกับเทพบุตรมาคนหนึ่งแล้ว ต่อมาก็เป็นผีเสื้อสาวที่งดงามไร้ที่ติผู้มาแจ้งข่าว พวกเขาจับคู่ผีเสื้อเกล็ดแก้วแววใสกับบุรุษร่างยักษ์ใบหน้าเหี้ยมเกรียมตรงหน้าผู้นี้ไม่ได้แม้แต่น้อย

ข้าเชื่อว่าข้าจะหาทางตามหากับสี่เสินและเหยาจีได้ดีกว่าผู้อื่น ข้าสนิทสนมและจดจำกลิ่นอายของทั้งคู่ได้แม่นยำ อีกอย่างข้าเป็นผู้คัดเลือกท่านเซียนหลวนหลงมาด้วยตนเอง ข้าสมควรติดตามไปช่วยเหลือเขาขอรับท่านมหาเทพสิงเทียน”

ฝูซีขยับขาเล็กน้อยครู่หนึ่งก็มายืนอยู่เบื้องหลังหลวนหลงทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์

มหาเทพสิงเทียนนึกเสียดายทูตสวรรค์ชั้นยอดอย่างฝูซีไม่น้อย แต่นั่นก็เป็นธรรมชาติของผีเสื้อเกล็ดแก้ว พวกเขาจงรักภักดีกับผู้ใดแล้วก็มักจะไม่เปลี่ยนแปลง

ได้ ข้าอนุญาต ฝูซีเป็นทูตสวรรค์อายุหลายหมื่นปีเลยทีเดียว เรื่องราวอันใดในแดนมนุษย์ที่พวกเจ้าไม่เคยรู้ก็ให้ถามจากเขา เซียนหลวนหลงเจ้ามีทูตสวรรค์ที่เยี่ยมยอดอยู่กับตัวแล้ว หวังว่าเจ้าจะประสบความสำเร็จกับการตามหาเมล็ดพันธุ์ก็แล้วกันนะ”

ร่างของเซียนที่อาสาสมัคร ยืนล้อมรอบบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่เอาไว้ พวกเขาจำเป็นต้องแยกย้ายกันออกไปทั่วแดนมนุษย์และตกลงกันไว้ว่าหากผู้ใดพบเจอเหยาจีก็จะหาทางส่งสัญญาณถึงกัน มีเพียงทูตสวรรค์ฝูซีคนเดียวเท่านั้นที่เกาะติดอยู่กับหลวนหลงไม่ห่างกาย

หลังจากหลวนหลงและฝูซีกระโดดลงล่อเป็นคู่แรก คนอื่น ๆ ก็พร้อมใจกระโดดตามลงไปพร้อมกัน

……….

แดนมนุษย์

เราสองคนดูเหมือนจะไม่มีสิ่งใดผิดแปลกไปจากเดิมแม้แต่น้อยเลยนี่นา” เหยาจีเดินหมุนไปรอบตัวสี่เสิน พร้อมกับก้มมองดูไปที่ร่างของตน แม้แต่ชุดสีชมพูกรุยกรายที่นางสวมใส่อยู่ก็ยังคงเป็นชุดเดิม 

แสดงว่าเราคงเริ่มต้นอายุขัยตามแบบของมนุษย์นับตั้งแต่ตอนนี้แล้วล่ะ” สี่เสินคาดเดาว่าตนเองน่าจะมีอายุราว 14 ปี ส่วนเหยาจีก็คงจะราว 12 ปี เท่านั้น

ข้าบินไม่ได้แล้ว ท่านเล่าท่านกลับไปเป็นผีเสื้อได้หรือไม่?” 

"ไม่ได้ ก็เราเป็นมนุษย์แล้วนี่เหยาจี จากนี้ไปเจ้าต้องจำไว้ว่าข้าเป็นพี่ชายของเจ้า หากพบเจอมนุษย์คนใดต้องบอกพวกเขาเช่นนั้นข้าจะได้ปกป้องเจ้าได้” 

สี่เสินอายุบนแดนสุขาวดีก็ราว 3 หมื่นปีเศษ แม้จะไม่รู้ว่าดินแดนมนุษย์ยามนี้เป็นไปอย่างไรบ้างแล้ว แต่เรื่องราวของมนุษย์ที่เคยได้ยินได้ฟังมาจากท่านเทพทั้งหลาย ที่เล่าเรื่องราวเมื่อครั้งที่แดนสวรรค์และแดนมนุษย์ยังไปมาหาสู่กันได้อยู่ให้ตนฟังก็มีไม่น้อย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 5 เกาะร้าง

    “สี่เสิน เอาเรื่องนี้ก่อน นี่เราลงมาเป็นเด็กกำพร้ากันหรือไร? รอบตัวเราไม่มีผู้คน ไม่มีสิ่งก่อสร้างเลยสักแห่ง”“จริงสิ ไม่มีบ้านเรือนของผู้คนจริงๆ ด้วย แต่อย่างนี้ก็ดีไม่ใช่หรือ เราไม่ได้ถูกกำหนดตัวตนขึ้นมาใหม่แต่ถูกส่งมาอยู่ในสถานที่ ที่ไม่เคยมีใครรู้จักพวกเรา เช่นนี้เราก็ตัดสินใจกันได้ง่ายว่าจะเลือกให้ตัวตนของเราเป็นใคร”เซียนน้อยเหยาจียักไหล่ทีหนึ่งอย่างซุกซน ไม่มีบิดามารดาก็ดี มีสี่เสินอยู่ด้วยนางก็พอใจแล้ว“ที่นี่มีต้นไม้และผลไม้เยอะเลยสี่เสิน แม้จะงดงามไม่เท่าเกาะแก้วของพวกเรา อากาศก็มีกลิ่นแปลกๆ อยู่บ้าง แต่ข้ากลับรู้สึกสดชื่นอย่างแปลกประหลาด” เหยาจีหลับตาพริ้มสูดรับอากาศบนเกาะร้างที่มีทะเลล้อมรอบเข้าปอดไปเต็มลมหายใจ“เจ้าต้องเรียกข้าว่าพี่ชาย ฝึกเรียกให้คล่องปากเอาไว้จะได้ไม่ลืม ว่าแต่เจ้าเถิดก่อเรื่องราวอะไรลงไป เจ้ากินผลท้อสวรรค์ไปจริงๆ ใช่หรือไม่? รีบเล่าให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้เลย"“ข้าไม่ได้กินคนเดียวนะพี่ชาย” เหยาจีรีบโบกไม้โบกมือ พอนึกขึ้นได้ว่าตนเองก็ได้กินผลท้อไปเช่นกัน นางก็ก้มหน้าหลบตาสี่เสิน กวาดเท้าไปที่เม็ดทรายละเอียดยิบริมชายหาด ท่าทางอิดออดคล้ายกำลังปิดบังอะไรบางอย่าง

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 6 ควันไฟ

    อาการปวดหัวและปั่นป่วนในร่างกายของเขายามนี้ทวีความรุนแรงยิ่งกว่าเดิม สี่เสินเข้าใจได้รวดเร็วว่านี่คงเป็นเรื่องปกติธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ยามที่หิวโหย“ข้าก็รู้สึกเหมือนกัน” เหยาจีลูบท้องขึ้นลงไปมา ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด นางไม่เคยหิวมาก่อน อาหารบนสวรรค์ล้วนแล้วแต่กินเข้าไปเพื่อตอบสนองความอยากลิ้มลองและเพื่อความเป็นมงคลทั้งสิ้น“ตามข้ามาเราต้องหาอาหารกินกันแล้วล่ะ” เด็กหนุ่มส่งมือไปให้น้องสาวที่ยังนั่งกองอยู่กับพื้นทรายเหยาจีเงยหน้าขึ้นมองมือเล็กที่ยื่นมาหานาง ช้อนสายตามองขึ้นไปอีกหน่อยก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาของสี่เสินที่ยืนอยู่เหนือศีรษะ เมื่อ 5,000 ปีก่อน สี่เสินยังตัวเตี้ยกว่านี้บอบบางกว่านี้ ภายหลังมหาเทพมู่ซีไม่อนุญาตให้ทูตสวรรค์กลับคืนร่างเดิมนางจึงไม่ได้เห็นสี่เสินมานานเลยทีเดียวยื่นมือออกไปสัมผัสกับฝ่ามือเนียนนุ่มของอีกฝ่าย แรงดึงของสี่เสินเพียงเล็กน้อยกลับยกตัวนางให้ลอยขึ้นได้อย่างง่ายดาย ความรู้สึกที่ได้รับการดูแลและปกป้องในฐานะน้องสาวเป็นครั้งแรกนี่มันดีจริงๆ เหยาจีคิดในใจสองพี่น้องเยาว์วัยหาอาหารใส่ท้องที่หิวจนไส้กิ่วได้อย่างง่ายดาย พวกเขาพบว่าสถานที่ที่ตนเองกำลังยืนอยู่เป็นเกา

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 7 เกาะลอย

    “เหยาจี! เราว่ายน้ำข้ามไปไม่ได้! เจ้ารีบกลับขึ้นมาก่อน!” สี่เสินใจหายวาบรีบวิ่งตามมาดึงร่างน้องสาวเอาไว้“ในน้ำมีสัตว์ทะเลอะไรบ้างเราก็ไม่รู้ อันตรายเกินไป เอาไว้ข้าจะคิดหาทางข้ามไปเกาะนั้นเอง อีกอย่างระหว่างที่เรายังหาทางข้ามไปไม่ได้ ไม่แน่ว่ามนุษย์ที่อยู่ทางนั้นอาจจะข้ามมาหาเราเอง เราก็จุดไฟสุมควันส่งสัญญาณให้เขาบ้างก็แล้วกัน”“ข้าจะต่อแพเพื่อข้ามไปที่เกาะนั่น เราต้องช่วยกันขนไม้ที่หักโค่นมาไว้ที่ชายฝั่ง ตัดเถาวัลย์ในป่ามาผูกพวกมัน เจ้าไหวไหม” มองดูมือพี่ชายที่เต็มไปด้วยตุ่มไต ฝ่ามือของสี่เสินไม่ได้อ่อนนุ่มบอบบางเหมือนแต่ก่อนแล้วเหยาจีก็เศร้าใจ การเก็บผลไม้ จับสัตว์มาทำอาหาร จุดไฟ ทุกอย่างล้วนเป็นสี่เสินจัดการให้หมด นางรู้สึกว่าหลายวันที่ผ่านมาความรู้สึกสะดวกสบายทั้งหมดของนางล้วนผ่านมือสองข้างของสี่เสินมาทั้งสิ้น“ไหวเจ้าค่ะ ข้าเอาแต่กินแล้วก็นอน ข้าอยากทำงานจะแย่อยู่แล้ว” เด็กสาวไม่รอช้าเดินลิ่วกลับไปที่ชายป่าตั้งอกตั้งใจเก็บไม้ที่ตนลากไหวมากองรวมกันไว้ หากเหนื่อยนางก็จะเปลี่ยนไปเก็บเถาวัลย์มาเตรียมเอาไว้แทน ปล่อยให้สี่เสินจัดการกับท่อนไม้ขนาดใหญ่เพียงลำพัง“ยังมีเรื่องที่เจ้าต้อง

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 8 แลกเปลี่ยน

    “ลอยไปทางใดก็ไม่ไป กลับลอยมาทางเกาะของเราเสียได้นี่” หญิงชราผู้หนึ่งเอ่ยด้วยความหวาดหวั่น ชาวบ้านบนเกาะจิงเหมินเห็นแล้วว่าเกาะลอยค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาทีละนิด พวกเขายังคิดว่าอีกไม่นานเกาะประหลาดแห่งนี้ก็จะเคลื่อนตัวห่างออกไปเอง ไม่คิดว่ามันจะลอยค้างอยู่ที่เดิมนานนับเดือน เป็นเหตุให้สองพี่น้องสร้างแพออกมาจากเกาะจนสำเร็จ“ความลับบนเกาะหลายร้อยปีที่ผ่านมา เราอาจได้รู้จากปากเด็กสองคนนั้นก็เป็นได้ อย่างไรก็แสดงความเป็นมิตรกับพวกเขาสักหน่อย เด็กสองคนอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนั้นได้ เราจะรอดูกันว่าพวกเขาจะกลับไปอีกครั้งได้หรือไม่” กลุ่มบุรุษที่ถืออาวุธเอาไว้พากันวางอาวุธลงบนพื้น มีชายหนุ่มสี่คนเดินแย้มยิ้มไปช่วยกันลากแพของสองพี่น้องกลับมาขึ้นฝั่งส่งเสียงพูดคุยถามคำถามออกมาด้วยความเป็นมิตรมากกว่าเดิม“พวกเจ้าอย่าหาว่าเราเสียมารยาทเลย เราไม่เคยพบคนที่อาศัยอยู่บนเกาะนั้นเลยสักครั้ง มาพวกเราจะเล่าให้เจ้าฟังว่าเหตุใดมันจึงได้ชื่อว่าเกาะลอย และข้าก็มีคำถามอยากรู้จากพวกเจ้ามากมายนัก” เกาโหลวเชิญชวนให้สองพี่น้องเข้าไปในหมู่บ้านอย่างใจกว้าง“ท่านอาโปรดอภัยเราสองพี่น้องเช่นกันขอรับ เรามีกันเพียงสองพี่น้อง

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 9 แปลกประหลาด

    เกาโหลวรู้ดีว่าชาวบ้านยังคงกลัวความแปลกประหลาดของเกาะลอยอยู่ เขาตัดสินใจคว้าองุ่นลูกหนึ่งส่งเข้าปากเคี้ยวกินต่อหน้าสมาชิกในหมู่บ้านเป็นการทดสอบทันที“โอ เยี่ยมจริงๆ อร่อยมาก เนื้อก็เยอะ” เกาโหลวเอ่ยชมไม่ขาดปาก ทั้งยังรู้สึกว่าตนเองก็ปลอดภัยไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดจากองุ่นผลนี้“พวกท่านมีเรือมิใช่หรือขอรับ พายตามเราสองคนกลับไปที่เกาะสิ เราจะขอเอาผลไม้บนเกาะแลกเปลี่ยนกับข้าวของเครื่องใช้หรือไม่อย่างนั้นข้าก็ขอแลกเปลี่ยนเป็นเงิน จะได้หาซื้อของได้เองในภายหลัง” มู่สี่เสินตาเป็นประกายเมื่อเห็นว่าหัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยชมผลไม้บนเกาะ เขาค้นพบช่องทางการค้าหาเงินมาใช้ได้แล้ว!“เจ้าแน่ใจจริงๆ หรือว่าจะกลับไปที่นั่น ข้าก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เจ้าฟังแล้วอย่างไร หากกลับไปแล้วเจ้าถูกกระแสน้ำกลืนกินไปเล่า?” เกาโหลวพยายามชักจูงมู่สี่เสินเต็มกำลัง นึกห่วงความปลอดภัยของสองพี่น้องด้วยคุณธรรมน้ำมิตร“มีอะไรต้องกลัวกันท่านอา ที่นั่นปลอดภัยอย่างแน่นอน สัตว์ป่าดุร้ายสักตัวก็ไม่มี มีเพียงสัตว์เล็กๆ อย่างไก่ป่า กระรอก กระต่ายอะไรพวกนี้เท่านั้น เสียดายที่ข้าจับพวกมันมาเป็นอาหารไม่ได้” ยิ่งพูดมู่สี่เสินยิ่งรู้สึกหง

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 10 ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

    สองพี่น้องกลับมาอาศัยอยู่ในถ้ำตามเดิม และตื่นแต่เช้าเพื่อเริ่มการค้าของตนกันด้วยความตื่นเต้น แม้จะมีตะกร้าสานและถังไม้มาช่วยในการเก็บผลไม้ได้สะดวกขึ้น แต่การขนพวกมันกลับไปไว้ในเรือก็ยังเป็นเรื่องยากลำบากไม่น้อย มู่สี่เสินต้องลงแรงสร้างลากเลื่อนจากท่อนไม้เล็กหลายอันมาผูกเข้าด้วยกันเพื่อช่วยในการขนส่งผลไม้ได้คราวละมากๆ มู่เหยาจีจะมีหน้าที่เก็บผลไม้สุกที่ร่วงหล่นอยู่ใต้ต้นไม้มากองเอาไว้ที่จุดหนึ่ง ให้พี่ชายทยอยนำตะกร้าผลไม้เอาไปเทใส่เรือแล้วกลับขึ้นมารับเอาไปใหม่ กว่าจะได้ผลไม้เต็มลำเรือสองพี่น้องก็ต้องพักเหนื่อยอยู่หลายรอบและใช้เวลาไปกว่าครึ่งค่อนวัน แต่เมื่อมองเห็นผลไม้กองโตที่ยังเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของจำนวนผลไม้ที่มีเต็มเกาะ ความเหนื่อยล้าทั้งหมดก็ถูกแทนที่ด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุขจนล้นอก“หากแลกเปลี่ยนเก็บสะสมเงินซื้ออุปกรณ์ได้มากพอ ไม่นานข้าคงจะสร้างเรือนหลังเล็กๆ ให้เจ้าสักหลังได้ เจ้าจะมีที่นอน ผ้าห่มที่อบอุ่น อ้อ! อย่าลืมเตือนข้าด้วย เราต้องแลกเอาข้าวสารกลับมาด้วยนะ อีกหน่อยเจ้าต้องเติบโต ต้องกินอาหารแบบมนุษย์จะได้แข็งแรง” มู่เหยาจีเงยหน้ามองพี่ชายที่ผิวเปลี่ยนเป็นสีเข้ม ข้อ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 11 ผู้บุกรุก

    เกาะลอย“ขนตะกร้าไปกันเลยเหยาจี เราจะเริ่มเก็บผลไม้ไว้ตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้จะได้เสร็จเร็วขึ้น”“ท่านไม่บอกข้าก็จะทำอยู่แล้วเจ้าค่ะ” มู่เหยาจีเขย่าเงินเหรียญที่ท่านป้าคนหนึ่งมอบถุงใส่เงินให้นางมาผูกไว้กับผ้าคาดเอว รู้สึกว่าการมีเงินนี่มันช่างดีเสียจริงทั้งคู่ช่วยกันคัดเลือกผลไม้ด้วยความละเอียดถี่ถ้วนกว่าเดิม ผลไม้เนื้อแข็งจะถูกวางลงก้นตะกร้าและที่เนื้ออ่อนนุ่มอย่างเช่นมะม่วง ก็จะถูกวางไว้ด้านบน ผลที่มีร่องรอยแตก ช้ำ มีจุดด่างดำเล็กน้อยพวกเขาก็จะแยกเอาไปกองไว้อีกทางไม่นำเอาไปขาย“ฟ้าใกล้จะมืดแล้วเหยาจี เราต้องกลับไปที่อุโมงค์กันแล้วล่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อแต่เช้าก็แล้วกัน” มู่สี่เสินเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มมืดครึ้ม“เพิ่งเก็บได้แค่ 8 ตะกร้าเอง ข้ายังไม่ทันเหนื่อยเลยเจ้าค่ะ เสียดายจัง” “ไปเถิด ข้าวของตะกร้าอะไรก็วางเอาไว้ที่นี่ทั้งหมดนั่นล่ะไม่ต้องเก็บกลับไป ข้ารับรองไม่มีของสูญหายแน่”“ข้าอยากเห็นแผ่นดินใหญ่ที่พวกเขากล่าวถึงกันจังเจ้าค่ะ ดูเหมือนว่ามันน่าจะเจริญมากกว่าหมู่บ้านบนเกาะจิงเหมินนะเจ้าคะ” “ข้าก็คิดเช่นนั้น เราต้องได้ไปแน่นอนเหยาจี เก็บเงินให้ได้มากๆ กันไว้ก่อน มนุษย์ใช้เง

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 12 สหาย

    “พี่สี่เสินท่านอย่าลืมว่าเกาะนี้ไม่เคยมีผู้ใดผ่านเข้าออกมาก่อน หากจะมีผู้บุกรุกขึ้นมาบนเกาะก็เป็นเราสองคนต่างหากที่บุกรุก” มู่เหยาจีตั้งข้อสังเกตใหม่“อีกอย่างนะเจ้าคะ หากเราเป็นผู้บุกรุก เจ้าของเดิมสมควรขับไล่เราหาใช่มาช่วยเราเก็บผลไม้ ข้าว่าพวกเขาไม่ได้คิดร้ายกับเราสองคนเจ้าค่ะ”“จริงของเจ้า เอาอย่างนี้คืนนี้เรามาพิสูจน์กัน”สองพี่น้องตัดสินใจล้มเลิกการสำรวจรอบเกาะ แล้วมุ่งหน้ากลับไปที่ชายหาดดังเดิม ช่วยกันแบกตะกร้าเปล่าเข้าป่าไปกองไว้ที่ใต้ต้นมะกอกต้นเดิม พวกเขาเลือกผลไม้ที่สุกงอมมีสีคล้ำไปกองไว้ตามใต้ต้นไม้เพื่อให้มันกลายเป็นปุ๋ยตามธรรมชาติ แต่ไม่ได้เก็บผลไม้ดีใส่ตะกร้าเลยแม้แต่ผลเดียวพอใกล้ค่ำ มู่สี่เสินก็ตะโกนเรียกน้องสาวให้กลับไปพักผ่อนตามปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิด แต่เมื่อถึงจุดลับสายตาร่างสองร่างก็หายเข้าไปในโพรงของต้นไม้เก่าแก่ขนาดใหญ่ต้นหนึ่ง เด็กทั้งคู่ต้องกินผลไม้และน้ำที่เตรียมเอาไว้ด้วยเสียงที่เบาที่สุด ขยับตัวให้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเสียงใดๆ เฝ้ารอให้แสงสว่างรอบข้างเลือนหายไปทีละน้อยด้วยหัวใจที่ลุ้นระทึกผ่านไปนานเท่าใดไม่อาจรู้ได้ ขณะที่ทั้งสองนั่งพ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-19

Bab terbaru

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 45 ตั้งรับ

    “หวางเซี่ย!! เจ้ากระจายข่าวบอกพี่น้องของเจ้าทุกตัวได้หรือไม่ เราต้องคุ้มกันเกาะลอยให้แน่นหนา เจ้าเองก็ต้องเคลื่อนตัวออกห่างจากแผ่นดินใหญ่ได้แล้ว” มู่เหยาจีตะโกนออกคำสั่งทันทีแน่นอนว่าคำกล่าวของมู่เหยาจีเจ้าปูยักษ์และสัตว์เลี้ยงของนางที่อยู่รอบเกาะย่อมได้ยินชัดเจน แต่การสื่อสารตอบกลับของอีกฝ่ายก็ยังต้องพึ่งพามู่สี่เสิน“เวลานี้สัตว์จากแดนสวรรค์มีปลาหมึก 3 ตัวและปูอีก 2 ตัว ส่วนสัตว์อื่นอีก 4 ตัวอยู่ไกลเกินไปพวกเขาไม่รู้สถานที่หลบซ่อนของพวกมัน แต่หวางเซี่ยสามารถขอความช่วยเหลือจากฝูงปลาให้ออกไปตามหาที่พวกเหลือและส่งข่าวให้พวกมันได้" “ห้าตัว น้อยเกินไปหรือไม่เจ้าคะพี่สี่เสิน เราไม่รู้ว่าจะมีผู้ฝึกตนมาที่นี่มากมายเพียงใด อีกอย่างพวกเขาแข็งแกร่งในระดับไหนแล้วก็ไม่รู้”มู่สี่เสินหยุดรอฟังคำตอบจากหวางเซี่ยครู่หนึ่งแล้วจึงมาถ่ายทอดให้กับน้องสาวอีกครั้ง"ตั้งแต่อดีตจนถึงเวลานี้หวางเซี่ยไม่เคยพบเจอผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งมาก่อน พวกผู้ฝึกตนระดับต่ำก็ไม่ได้เข้ามารุกรานเกาะลอยนานมากแล้ว มันเลยไม่แน่ใจเช่นกันว่าผู้ฝึกตนในยุคใหม่จะแข็งแกร่งเพียงใด แต่หวางเซี่ยจะตามฝูงปลาขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ มาคุ้มกันเก

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 44 รายงานตัว

    เกาะลอย “เหยาจี ข้าทำสำเร็จแล้ว!”มู่เหยาจีได้ยินเสียงของมู่สี่เสินตะโกนเข้ามาในเรือนพักของนางตั้งแต่ตัวคนยังมาไม่ถึง หญิงสาวรีบลุกออกจากสมาธิเปิดประตูออกจากห้องมาหาพี่ชายของนางทันที“พี่สี่เสินท่านเก่งที่สุดเลย อย่างนี้ท่านก็สามารถติดต่อกับสัตว์ที่ลงมาจากแดนสวรรค์ได้แล้วสิเจ้าคะ”“ใช่ข้าได้พูดคุยกับสหายของเจ้าที่ลงมาจากแดนสวรรค์แล้วด้วย”ข่าวนี้ทำให้หัวใจของหญิงสาวแทบระเบิดออกมานอกอก นางคิดไม่ผิดที่ว่าปลาหมึกยักษ์ตัวนั้นจะเป็นสหายของนาง แต่นางยังไม่รู้ว่าเหตุใดพวกมันจึงไม่พูดคุยหรือตอบโต้กับนางเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา“พวกมันทุกตัวปลอดภัยดีใช่หรือไม่เจ้าคะ” หญิงสาวถามเสียงสั่น สัตว์เลี้ยงของนางมีตัวอะไรบ้างนางจำได้ไม่หมด แต่ที่แน่ๆ มันไม่ได้มีเฉพาะปลาหมึกเท่านั้น“เหยาจี พวกมันบางตัวลงมายังแดนมนุษย์ก่อนเราสองพันกว่าปีเชียวนะ” มู่สี่เสินส่ายหน้าแทนคำตอบ“เท่าที่ข้าถามความจากปูยักษ์ที่อาศัยอยู่บนแดนมนุษย์มานานที่สุด มันบอกว่ามีสหายของพวกมันที่เป็นสัตว์น้ำ ล้มตายกันไปไม่น้อยแล้ว เท่าที่มันรู้และยังรวมกลุ่มกันอยู่เวลานี้มีทั้งหมด 9 ตัว เป็นปู ปลาหมึก หอย ปลาและเต่า"“เก้าตัว!!” มู่เหยาจีไ

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 42 น่าเป็นห่วง

    จวนตระกูลอ๋าวเมืองหลงเทียน“การรักษาของท่านหมอที่นี่ ห่วยแตกพอๆ กันกับความสามารถในเชิงยุทธ์เลยทีเดียว ข้าต้องพาคุณชายสี่เดินทางไปที่เมืองหยุนไห่”คุณชายสามอ่าวหลวนกังได้ยินคำสบถของฝูซีแล้วก็หน้าเสีย ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ฝูซีมาจากสถานที่ใดกัน ท่านหมอที่เขาเชิญมารักษาอาการของหลวนหลงก็เป็นหมอมือดีที่สุดในเมืองหลงเทียนแห่งนี้แล้วไม่รู้ว่าจะหาท่านหมอจากที่ใดมาได้อีก“นั่นน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้แล้วล่ะฝูซี ท่านหมอรักษาอาการบอบช้ำทางร่างกายได้ก็จริงแต่การบาดเจ็บจากพลังปราณมันใช้เวลานานเกินไป” ผังหนงสนับสนุนอีกเสียง“ที่พวกท่านกล่าวหมายความว่าอย่างไร ที่เมืองหยุนไห่มีท่านหมอที่รักษาอาการบาดเจ็บจากพลังปราณได้รวดเร็วเช่นนั้นหรือขอรับ ให้ข้าไปตามหาแล้วเชิญท่านหมอมาที่นี่ก็ได้ เรายังมีผู้ฝึกตนที่บาดเจ็บต้องพักรักษาตัวยาวนานอยู่อีกตั้งมาก”“เชิญมาไม่ได้ คนผู้นั้นเรายังไม่รู้ว่าจะตามหาพบหรือไม่ คุณชายสามจำได้หรือไม่ว่าเวยวั่งซูกับซินหรูอี้เดินทางไปเมืองหยุนไห่ด้วยเรื่องอะไร”“ผลท้อ? ท่านคิดว่าผลท้อจะรักษาอาการบาดเจ็บได้รวดเร็วกว่าการรักษาของท่านหมอเช่นนั้นหรือ” “ข่าวที่เราได้ยินมาเป็น

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 42 กลับใจ

    “อย่าหยุดเดิน! อย่าสนใจเขาน้องห้า! หากพวกนั้นรู้ว่าพี่รองเป็นคนสกุลอ๋าวคงจะเล่นงานพี่รองหนักกว่านี้เป็นแน่"คำกล่าวของอ๋าวหลวนหลงนั้นรวดเร็วพอที่จะห้ามไม่ให้อ๋าวหลวนหย่งหันกลับไปทัน แต่พวกฉีอันเฉิงก็ไม่ได้โง่! วันที่หลวนหลงยืนรอรับผลท้อจากมหาเทพมู่ซี เรื่องราววิชาการฝึกฝนของเขาก็ถูกนำออกมาพูดคุยกันเป็นวงกว้างและรู้ว่าเขาอยู่ในสายเทพมังกรน้ำ แล้วเซียนที่ลงมาแดนมนุษย์ก็มักจะจุติใหม่ในตระกูลหรือกลับกลายเป็นบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับสายการฝึกฝนนั้นๆ อยู่แล้ว เซียนสายเทพมังกรมีเพียงหลวนหลงผู้เดียวเท่านั้นที่อาสาลงมายังแดนมนุษย์!!“อ้อ เจ้ารู้จักมังกรน้ำด้วยเช่นนั้นหรือ แล้วรู้จักมังกรประเภทอื่นๆ ด้วยหรือไม่เล่า?” คำถามของฉีอันเฉิงแม้จะคล้ายว่ากำลังซักถามหลี่หมิงเจ๋อ แต่สายตาของคนทั้งห้ากลับมองตามร่างของอ๋าวหลวนหลงไปด้วยรอยยิ้มแปลกประหลาดจนอ๋าวหลวนตงในคราบหลี่หมิงเจ๋อสะดุ้งในใจ คิดว่าตนคงกล่าวอะไรผิดไปแล้วเป็นแน่ ลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างผุดขึ้นในใจของชายหนุ่ม ร่างที่ผ่ายผอมลงถนัดตาของอ๋าวหลวนตงสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม ไม่กล้าแม้กระทั่งจะอ้าปากตอบคำ“โครม!!” ฉีอันเฉิงถีบเข้าไปที่หน้าอกของ

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 41 โง่ไม่เลิกรา

    ภายในเมืองหยวนเปียว กลุ่มของอ๋าวหลวนหลงทั้ง 7 คนตามหาเหมืองหินแร่กิจการของสกุลเหลาจนพบตามเบาะแสที่อ๋าวหลวนตงส่งให้กับอ๋าวหลวนหย่งจนพบ“พวกเรามาหาหลี่หมิงเจ่๋อ ไม่ทราบว่าพวกท่านจะตามเขามาพบกับพวกเราได้หรือไม่” อ๋าวหลวนหย่งตรงเข้าไปหาบุรุษกลุ่มหนึ่งที่ดูคล้ายว่าจะเป็นผู้ดูแลเหมืองหินเหล่านั้น และบอกชื่อแซ่ที่อ๋าวหลวนตงปลอมตัวเข้ามาอยู่ในเขตของสกุลเหลา“หลี่หมิงเจ๋อ? พวกเจ้าคุ้นหูกันบ้างหรือไม่?”"หลี่หมิงเจ๋อ..ว่าแต่พวกท่านเป็นอะไรกับเขาเช่นนั้นหรือ” บุรุษคนหนึ่งคล้ายจะนึกได้ขึ้นมา แต่เมื่อสำรวจไปที่คนทั้งเจ็ด ทุกคนล้วนแล้วแต่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาแพงท่าทางภูมิฐานไม่น่าจะเป็นญาติกับคนต่ำต้อยเช่นนั้นได้“ตามเขามาให้พวกเราได้หรือไม่ขอรับ หากว่าเป็นเขาจริงๆ เขาก็น่าจะบอกได้ว่าข้าเกี่ยวข้องอันใดกับเขา” อ๋าวหลวนหย่งหน้าเสียไปเล็กน้อย พี่รองบอกกล่าวแน่ชัดว่าเขาแอบอ้างชื่อแซ่นี้และทำงานอยู่ในเมืองหินแร่ในเมืองหยวนเปียว แต่ไม่คิดว่าสถานการณ์ของพี่ชายคนรองจะดูน่าหดหู่เสียเหลือเกิน“ได้สิ เจ้ารอประเดี๋ยวก็แล้วกัน” บุรุษคนเดิมรับปากแล้วหันไปสั่งความกับบุรุษอีกคน พร้อมกับส่งสัญญาณบางอย่างให้อีกฝ่า

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 40 คนโง่เขลา

    อ๋าวหลวนหลงพาอดีตเซียนที่มาเข้าร่วมกับฝ่ายตนเดินทางไปด้วยกันอีกสี่คนไม่นับรวมเขากับฝูซี แต่ไม่ยินยอมให้ทายาทหรือผู้ติดตามคนอื่นจากสกุลอ๋าวร่วมทางมาด้วยอีกเลยนอกจากอ๋าวหลวนหย่งตลอดสามปีที่ผ่านมาด้วยการทำงานหนักของอ๋าวซีเค่อกับอ๋าวหลวนตงที่ออกไปเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลใหญ่ที่เคยรู้จักกันมาก่อน รวมกับภายหลังฝูซีและเวยวั่งซูก็ออกไปรวบรวมท่านเซียนไร้สกุลที่ยังเคว้งคว้างอยู่มาเข้ากลุ่มกันไว้ก็มีไม่น้อย ทำให้ขอบเขตของกองกำลังสกุลอ๋าวยังมีแนวร่วมที่กระจายตัวอยู่ในหลายเมืองในเขตเทือกเขาที่มีทายาทสกุลอ๋าวสายรองมาคอยดูแลอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นอ๋าวหลวนหลงเดินทางผ่านทางมาก็รีบเข้าไปทักทาย“คุณชายสี่ คุณชายห้า พวกท่านกับสหายจะไปที่ใดกันหรือขอรับ”“เรากำลังจะข้ามไปที่เมืองหยวนเปียว ทางนี้มีอะไรผิดปกติหรือไม่” “ไม่มีขอรับ เขตแนวภูเขาฝากนี้มีกองกำลังที่เป็นมิตรกับสกุลอ๋าวของเราไม่น้อย แต่ที่เมืองหยวนเปียวไม่ใช่ว่าเป็นเขตติดต่อของสกุลเหลาหรอกหรือคุณชาย”“ใช่ ข้ามีธุระต้องไปทำแถวนั้นพอดี พวกเจ้าตามสบายเถิดพวกเราจะเร่งเดินทางกันต่อ”“รอก่อนคุณชายสี่! เมืองหยวนเปียวไม่น่าจะปลอดภัยเท่าใดนัก ข้าจะไปตามคนให้ต

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 39 ข่าวลับ

    “แต่ข้ายังไม่เข้าใจอยู่บ้างเจ้าค่ะ หากสัตว์เลี้ยงของข้ายังคงมีอายุขัยยืนยาวดังเดิม พวกมันบางตัวที่ได้กินท้อโอสถแล้วพูดได้ทำไมจึงไม่พูดคุยกับข้าบ้าง”“ทางเดียวที่เราจะรู้คำตอบได้ก็คือข้าต้องรีบรวบรวมลมปราณให้สำเร็จ แล้วฟื้นฟูความสามารถเรื่องการสื่อสารกับพวกมันอีกครั้ง”“ใช่แล้ว!! ท่านเป็นทูตสวรรค์มาก่อนนี่นา ท่านสามารถสื่อสารกับสัตว์เทพและสัตว์ต่างสายพันธุ์บนแดนสวรรค์ได้ พี่สี่เสินของข้ายอดเยี่ยมที่สุดเลย”“เห็นหรือไม่เหยาจี แม้ว่าข้าจะไม่เคยฝึกฝนการต่อสู้แต่ความสามารถในการสื่อสารของข้าก็ยังเป็นประโยชน์ได้ เจ้าเองก็อย่าละเลยเรื่องการรวบรวมปราณเด็ดขาดเลยเชียว”“แต่พี่สี่เสิน ถึงแม้เวลานี้เราจะยังไม่รู้ว่าสัตว์เลี้ยงของข้าจะพูดได้ดังเดิมหรือไม่ แต่ข้าเชื่อว่าพวกมันกำลังปกป้องเราอยู่ แล้วอย่างนี้พี่ยังคิดจะออกจากเกาะไปเรียนวิชายุทธ์อีกหรือเจ้าคะ”“ท่านอาเกาบอกว่าผู้ฝึกตนในยุคนี้ต่างจากยุคก่อน พวกเขาก้าวหน้ามากขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการเข่นฆ่าสังหารกันเกิดขึ้น เรายังวางใจไม่ได้นะเหยาจี”“แล้วเซียนสายพฤกษาอย่างข้าจะฝึกฝนอะไร ความทรงจำเดิมของข้าก็ไม่เคยมีเรื่องที่เกี่ยวกับพลังการโจมตีแม้แต่น้อย

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 38 ปีศาจ

    “พวกท่านพายต่อไปหาเหยาจี นางอยู่ข้างหลังข้า!” มู่สี่เสินต้อนเรือเล็กให้เข้ามาในพื้นที่เกาะลอยทีละลำ บนเรือแต่ละลำมีชาวบ้านที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่หลายคนรวมทั้งครอบครัวของหนูน้อยหนิงเอ๋อร์ที่เหยาจีเคยช่วยเหลือเอาไว้ด้วย“ท่านอาหญิงแล้วท่านอาเกาเล่าเจ้าคะ” “สามีข้ากับสหายควบคุมเรือใหญ่ที่บรรทุกเสบียงอาหาร เรือหนักมากมันเคลื่อนตัวได้ช้า ข้าก็ห่วงเขาเหลือเกิน เจ้าสองคนช่วยพวกเขาได้หรือไม่”“ท่านอาหญิงใจเย็นๆ เจ้าค่ะ เราต้องรอให้เขาเข้ามาถึงเขตของเกาะลอย ข้ามั่นใจว่าพวกเขาจะปลอดภัย”“ท่านอา หากคิดว่าไม่ทันท่านโดดลงน้ำว่ายมาหาข้า!! ทิ้งเรือไปเสีย! ทิ้งเรือไป!” เสียงมู่สี่เสินตะโกนซ้ำไปซ้ำมาอยู่เบื้องหน้า เกาโหลวกับกู้หยุนควบคุมเรือร่วมกับสหายลำละสี่คน พวกเขาหันมาสบตากัน แม้ว่าจะมีชาวบ้านเต็มใจจะเข้ามาอาศัยอยู่ที่เกาะลอยไม่ถึง 40 คนเท่านั้น แต่พวกเขาก็ใช้เงินของมู่สี่เสินแจกจ่ายให้ชาวบ้านคนอื่นแยกย้ายกันไปตั้งหลักที่อื่นไม่น้อย เสบียงอาหารในเรือทั้งสองลำที่ซื้อมาด้วยเงินของสองพี่น้องสกุลมู่พวกเขาไม่อาจทิ้งมันไปได้“ออกแรงอีก! อีกนิดเดียวเท่านั้น!”ทางฝ่ายมู่เหยาจีนางและชาวบ้านที่ข้ามเขตมาแ

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 37 คืนที่มืดมิด

    “เหยาจี เมื่อครู่ท่านอาเกาบอกเรื่องหนึ่งกับข้าซึ่งเจ้าก็ควรจะรู้ไว้เช่นกัน”มองดูใบหน้างามของน้องสาวแล้วมู่สี่เสินก็รู้สึกเศร้าหมองเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าตนเองและน้องสาวจะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบบนเกาะลอยที่ปลอดภัยได้อยู่แล้วเชียว“บนแผ่นดินใหญ่ยังคงมีผู้ฝึกตนอาศัยอยู่ ดูเหมือนว่าเราจะลงมายังแดนมนุษย์ในช่วงเวลาที่พวกเขากำลังจะฟื้นฟูการฝึกฝนกันเข้าพอดี”“ผู้ฝึกตน? ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ข้าจำได้ว่าท่านมหาเทพมู่ซีบอกว่าแดนสวรรค์ยึดสมบัติเทพ สิ่งของแทนเทพรวมทั้งพืชผักผลไม้เสริมปราณจากแดนมนุษย์ไปหมดแล้ว พวกเขายังอยากจะฝึกฝนกันอยู่อีกหรือเจ้าคะ”“ใช่ นั่นก็เป็นเพียงการคาดเดาของเหล่าทวยเทพในอดีต พวกเขาคิดว่ามนุษย์ไม่สามารถขึ้นมาแดนสวรรค์ได้อีก ก็คงล้มเลิกความคิดในการฝึกฝนไปในที่สุด แต่เวลานี้เราก็ได้รู้แล้วว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น”“นี่คือเรื่องที่ท่านอาร้อนใจจนต้องพายเรือมายามดึกดื่นเพื่อเตือนพวกเราสองคน?”“นั่นก็ใช่อีก จากที่ท่านอาเกาเล่าให้ข้าฟังเมื่อครู่ เมื่อก่อนผู้ฝึกตนก็ต่างคนต่างอยู่ แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาอยู่ดีๆ ก็เกิดสำนักและตระกูลใหม่ที่โดดเด่นขึ้นมาไม่น้อย พวกเขาไม่เคยมีผู้นำจึงกำลั

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status