Share

ตอนที่ 9 แปลกประหลาด

Author: บ.บี
last update Last Updated: 2025-03-19 13:04:20

เกาโหลวรู้ดีว่าชาวบ้านยังคงกลัวความแปลกประหลาดของเกาะลอยอยู่ เขาตัดสินใจคว้าองุ่นลูกหนึ่งส่งเข้าปากเคี้ยวกินต่อหน้าสมาชิกในหมู่บ้านเป็นการทดสอบทันที

โอ เยี่ยมจริงๆ อร่อยมาก เนื้อก็เยอะ” เกาโหลวเอ่ยชมไม่ขาดปาก ทั้งยังรู้สึกว่าตนเองก็ปลอดภัยไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใดจากองุ่นผลนี้

พวกท่านมีเรือมิใช่หรือขอรับ พายตามเราสองคนกลับไปที่เกาะสิ เราจะขอเอาผลไม้บนเกาะแลกเปลี่ยนกับข้าวของเครื่องใช้หรือไม่อย่างนั้นข้าก็ขอแลกเปลี่ยนเป็นเงิน จะได้หาซื้อของได้เองในภายหลัง” มู่สี่เสินตาเป็นประกายเมื่อเห็นว่าหัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยชมผลไม้บนเกาะ เขาค้นพบช่องทางการค้าหาเงินมาใช้ได้แล้ว!

เจ้าแน่ใจจริงๆ หรือว่าจะกลับไปที่นั่น ข้าก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เจ้าฟังแล้วอย่างไร หากกลับไปแล้วเจ้าถูกกระแสน้ำกลืนกินไปเล่า?” เกาโหลวพยายามชักจูงมู่สี่เสินเต็มกำลัง นึกห่วงความปลอดภัยของสองพี่น้องด้วยคุณธรรมน้ำมิตร

มีอะไรต้องกลัวกันท่านอา ที่นั่นปลอดภัยอย่างแน่นอน สัตว์ป่าดุร้ายสักตัวก็ไม่มี มีเพียงสัตว์เล็กๆ อย่างไก่ป่า กระรอก กระต่ายอะไรพวกนี้เท่านั้น เสียดายที่ข้าจับพวกมันมาเป็นอาหารไม่ได้” ยิ่งพูดมู่สี่เสินยิ่งรู้สึกหงุดหงิด หากตนมีอาวุธสักหน่อย เจ้าตัวเล็กเหล่านั้นก็เป็นอาหารอันโอชะและอาจสร้างรายได้ ได้อีกทางเลยทีเดียว

กลุ่มสตรีที่หายเข้าไปในหมู่บ้านก่อนหน้านี้กลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าขนาดที่มู่สี่เสินและมู่เหยาจีสวมใส่ได้คนละ 2 ชุด พร้อมกับหวีไม้เล่มหนึ่ง นอกจากนี้พวกเขายังได้รับถ้วยชามตะเกียบ กระทะใบเล็กบิดเบี้ยวเล็กน้อย 1 ใบ ตะกร้าสานสองขนาดและถังไม้สำหรับตักน้ำอีก 1 ใบอีกด้วย

สี่เสินจัดการให้สตรีเหล่านั้นเลือกปลาและผลไม้เป็นของแลกเปลี่ยนกันตามใจชอบ สร้างความอิจฉาตาร้อนกับชาวบ้านคนอื่น ๆ ไม่น้อย

บนเกาะจิงเหมินมีหมู่บ้านชาวประมงทั้งหมด 4 หมู่บ้านกระจายอยู่รอบเกาะ สิ่งที่พวกเราขาดแคลนย่อมเป็นผักผลไม้ที่ไม่สามารถปลูกได้บนเกาะ ถ้าพวกเจ้ากลับไปแล้วเอามาขายให้เราได้อีก เราก็จะรับซื้อเอาไว้ทั้งหมด หรือหากมีอะไรที่เจ้าสองคนพี่น้องต้องการแลกเปลี่ยนพวกเราก็จะจัดเตรียมเอาไว้ให้ ตกลงไหม" 

เกาโหลวเห็นว่ารั้งตัวสองพี่น้องเอาไว้ไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจจะส่งตัวเด็กๆ กลับไป หากสองพี่น้องอยู่รอดปลอดภัย ตนก็หวังเหลือเกินที่จะได้รับส่วนแบ่งผลไม้เลิศรสบนเกาะเหล่านั้น

มู่สี่เสินหันไปมองแพที่ถูกมัดอย่างง่ายๆ จากท่อนไม้และเถาวัลย์ เขาต้องขยายมันให้ใหญ่กว่าเดิม ต้องใช้เวลาอีกกี่วันกันนะจึงจะรวบรวมท่อนไม้มาได้อีกครั้ง

เกาโหลวมองตามสายตาของเด็กหนุ่มก็เข้าใจได้ “ข้ามีเรือเก่าอยู่ลำหนึ่ง ครั้งนี้จะให้เจ้าขอยืมไปใช้ก่อน จะได้ขนเอาผลไม้กลับมาอีกครั้งได้ง่ายขึ้น”

ขอบคุณท่านอาเกา ข้าคงต้องขอให้ท่านช่วยตีราคาผลไม้แต่ละชนิดให้เราด้วยขอรับ เราต้องใช้ผลไม้มากเพียงใดจึงจะซื้อเรือของท่านได้ลำหนึ่ง” ไม่มีสิ่งใดที่มู่สี่เสินอยากได้มากเท่ากับเรืออีกแล้ว เขาต้องการติดต่อกับชาวบ้าน ต้องการใช้เรือในการขนส่งสินค้าบนเกาะออกมาขาย

เรือลำนั้นถึงแม้จะเก่าแต่ก็ยังใช้งานได้อยู่ ข้าไม่ได้คิดจะขายมันออกไปแต่อย่างใด แต่หากเจ้าต้องการใช้มันจริงๆ ข้ามีเรื่องจะขอร้องสักประโยคได้หรือไม่”

ท่านอาเราเหมือนคนที่ท่านจะขอความช่วยเหลือได้ที่ใดกันขอรับ ขอเพียงท่านอาบอกมาเถิดอะไรที่ข้ากับน้องสาวทำได้ข้ายินดี” 

หากเจ้าสองคนอยู่รอดปลอดภัยเข้าออกเกาะลอยได้จริงๆ ขอให้เจ้าขายผลไม้บนเกาะให้กับหมู่บ้านของข้าเพียงแห่งเดียวเป็นการแลกเปลี่ยนกับเรือลำนี้โดยไม่คิดเงิน”

เกาโหลวรู้สึกละอายใจอยู่เล็กน้อย แต่ทำอย่างไรได้เล่า เกาะจิงเหมินมีหมู่บ้านชาวประมงถึง 4 หมู่บ้านอาศัยอยู่รวมกัน ทุกครอบครัวหาเลี้ยงปากท้องด้วยการเป็นชาวประมงเป็นหลัก แต่จำนวนปลาในทะเลก็หายากมากขึ้น พวกเขาเป็นเพียงชาวบ้านที่มีเพียงเรือลำเล็กไม่สามารถออกไปหาปลาในมหาสมุทรที่ไกลกว่านี้

หากหมู่บ้านจิงไห่ของตนมีโอกาสได้นำผลไม้ออกไปขายให้หมู่บ้านที่เหลืออีกสามหมู่บ้าน หรือหากผลไม้มีจำนวนมากเท่าภูเขาอย่างที่มู่เหยาจีกล่าวจริงๆ ก็ยังแบกใส่เรือนำไปต่อขายให้ชาวบ้านที่แผ่นดินใหญ่ได้อีกทาง

นั่นไม่ใช่เรื่องยากเลยขอรับ คนในหมู่บ้านของท่านมีน้ำใจกับพวกเราไม่น้อย ข้ารับรองว่าพรุ่งนี้ข้าจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับผลไม้เต็มลำเรือ” มู่สี่เสินตกปากรับคำอย่างมั่นใจ

ช่วงเวลาที่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุดของคนทั้งหมู่บ้านจิงไห่แห่งเกาะจิงเหมิน ย่อมเป็นช่วงเวลาที่จะได้เห็นสองพี่น้องเดินทางกลับไปที่เกาะลอยตามเดิม

เกาโหลวกับบุรุษชาวประมงที่กล้าหาญอีก 5 คนนำเรือ 3 ลำติดตามเรือเก่าของสองพี่น้องไปห่างๆ เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือหากเกิดเหตุร้ายแรงกับมู่สี่เสินและมู่เหยาจี

เมื่อใกล้เกาะลอยมากขึ้นไปทุกที เรือทั้งสามลำก็หยุดลอยลำคอยดูสถานการณ์ด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ ทั้งหวาดกลัวแทนสองพี่น้องแซ่มู่ ทั้งอยากเห็นกับตาว่าเกาะลอยจะเคลื่อนตัวหนีพวกเขาหรือจะทำปาฏิหาริย์อันใดที่ร้ายแรงขึ้นมาหรือไม่

พี่สี่เสินคิดว่าเรื่องที่พวกเขากล่าวเป็นเรื่องจริงหรือไม่เจ้าคะ”

ไม่รู้สิเหยาจี เวลานี้พวกเราก็ปลอดภัยดีไม่ใช่หรือ แต่ก็เห็นๆ อยู่ว่าบนเกาะไม่เคยมีคนขึ้นมาเก็บผลไม้เหล่านั้น ไม่มีร่องรอยของการสร้างที่อยู่อาศัยมาก่อน ก็อาจจะจริงกระมัง เจ้าอย่าลืมสิ เราสองคนก็เป็นตัวตนที่มนุษย์ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเช่นกันนะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นล่ะ เจ้าระวังตัวด้วย หากเกิดอะไรขึ้นก็กอดท่อนไม้เอาไว้ให้แน่นแล้วรีบว่ายน้ำกลับไปหาพวกเขา”

เรือเก่าของเกาโหลวมีน้ำหนักเบา ไม้พายที่ได้มาพร้อมกับเรือก็ใช้การได้ดีกว่าการใช้ท่อนไม้ถ่อแพมาในคราวแรกหลายเท่าตัว ขากลับมู่สี่เสินถึงกับรู้สึกว่าแม้แต่กระแสน้ำก็ยังเป็นใจกับพวกตน เขาไม่ได้เหน็ดเหนื่อยเหมือนกับคราวแรก เรือก็แล่นตรงเข้าไปยังเกาะลอยราวกับมีคนช่วยลากจูงลำเรือให้แล่นเร็วขึ้น

เกาโหลวเห็นทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตาตนเอง เหลือระยะทางอีกเพียงไม่ถึงครึ่งลี้เด็กแซ่มู่สองคนก็จะถึงชายหาดทรายสีขาวสะอาดอยู่แล้ว

เขาขยับไม้พายในมือเคลื่อนตัวเรือเข้าไปใกล้เกาะลอยมากกว่าเดิม

ไม่แน่ว่าอาถรรพ์ที่เคยเป็นตำนานในอดีตจะถูกลบล้างไปแล้วก็ได้ เราอาจไปถึงเกาะลอยได้เช่นเดียวกับพวกเขา”

กล่าวยังไม่ทันสิ้นคำ เบื้องหน้าของเรือสามลำจากเกาะจิงเหมินก็ต้องพบเจอกับกระแสคลื่นใต้น้ำที่ปั่นป่วนกะทันหันอย่างไร้ร่องรอย ลมทะเลที่นิ่งสนิทผืนน้ำที่เคยสงบราบเรียบอยู่เมื่อครู่ อยู่ดีๆ ก็เกิดคลื่นขนาดใหญ่ออกมาขวางกั้นเส้นทางระหว่างเรือของพวกเกาโหลวกับเกาะลอยเอาไว้

กลับเร็ว พายกลับเร็วเข้า! รีบออกไปจากที่นี่!” บุรุษร่างใหญ่ 6 คน จ้ำพายกันไม่ยั้งมือ ไม่กล้าแม้แต่จะหันหลังกลับไปมองความปลอดภัยของเด็กสองคนด้วยซ้ำ

พวกเขาถอยกลับมาได้ระยะหนึ่งผืนน้ำก็กลับมาเรียบนิ่งดังเดิม เกาโหลวถึงกับหน้าซีดเผือด หันไปมองสหายทั้ง 5 ด้วยใบหน้าตื่นตระหนก

มองกลับไปที่เกาะลอยอีกครั้ง มู่สี่เสินกำลังลากเรือขึ้นไปไว้บนหาดทราย ส่วนมู่เหยาจีก็โบกมือสองข้างไปมาเป็นการบอกกล่าวถึงความปลอดภัย

แค่พวกเขาสองคนจริงๆ ที่เหยียบย่างไปยังเกาะแห่งนั้นได้” เกาโหลวไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ คลื่นบ้าอะไรจะเกิดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ซ้ำยังเฉพาะเจาะจงเข้ามาขวางกั้นเรือสามลำของพวกตนเท่านั้น เรื่องนี้อัศจรรย์เกินกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้มากนัก

เหตุการณ์ทางด้านของเกาโหลว มู่สี่เสินกับมู่เหยาจีต่างก็ได้เห็นกับตาเช่นกัน คลื่นใหญ่เกิดขึ้นเฉพาะบริเวณที่เรือสามลำลอยอยู่อย่างเห็นได้ชัด ตำนานเรื่องเกาะลอยน่าจะเป็นจริงแล้ว แต่เหตุใดจึงไม่เกิดอะไรกับพวกตนแม้แต่นิด? สองพี่น้องได้ครุ่นคิดในใจ

เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว มนุษย์ไม่ได้มีเพียงแค่สี่หมู่บ้านบนเกาะจิงเหมิน ตราบใดที่มีเฉพาะเราสองคนที่เข้าออกที่นี่ได้ เราก็จะปลอดภัยจากอันตรายรอบด้าน” มู่สี่เสินยิ้มกว้างออกมาได้ในที่สุด การค้าที่มีเฉพาะตนที่จะทำได้เพียงผู้เดียวไม่น่าดีใจหรอกหรือ?

ข้าแทบจะทนไม่ไหวแล้วพี่สี่เสินเรื่องอื่นข้าไม่สนใจ ขอเพียงได้อาบน้ำสวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด เท่านี้ข้าก็พอใจแล้ว" มู่เหยาจีหอบเอาตะกร้าสานที่บรรจุเสื้อผ้าสามชุดของตน วิ่งเข้าไปแนวป่าเป้าหมายเป็นลำธารกระจ่างใสทันที

มู่สี่เสินมองตามร่างเล็กที่วิ่งพรวดพราดออกไปด้วยความขุ่นเคืองใจเล็กน้อย เหยาจีอายุ 12 ปี อีกไม่นานก็จะเติบโตไปตามวัย กิริยาของนางอย่าว่าแต่เป็นมนุษย์เลย อยู่บนแดนสวรรค์ก็ยิ่งไม่งาม แต่จะให้เขาสั่งสอนน้องสาวอย่างไรเล่า ตนเองก็เป็นบุรุษ เรื่องใดควรสอน สอนอย่างไร เด็กหนุ่มสับสนเหลือเกินแล้ว

มู่สี่เสินเอาเชือกที่ติดกับตัวเรือมาผูกไว้กับโขดหินริมชายหาดเอาไว้จนแน่น ทยอยขนของที่เหลือไม่กี่ชิ้นขึ้นมากองไว้ที่แนวชายป่า เขายังไม่คิดกลับเข้าไปในป่าจนกว่าน้องสาวจะอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ และนี่ก็เป็นกฎเดียวกันกับที่ตนสอนเหยาจี ว่าหากพี่ชายจะอาบน้ำ นางก็ต้องรออยู่ในถ้ำห้ามออกมาจนกว่าเขาจะกลับเข้าไปเช่นกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 10 ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

    สองพี่น้องกลับมาอาศัยอยู่ในถ้ำตามเดิม และตื่นแต่เช้าเพื่อเริ่มการค้าของตนกันด้วยความตื่นเต้น แม้จะมีตะกร้าสานและถังไม้มาช่วยในการเก็บผลไม้ได้สะดวกขึ้น แต่การขนพวกมันกลับไปไว้ในเรือก็ยังเป็นเรื่องยากลำบากไม่น้อย มู่สี่เสินต้องลงแรงสร้างลากเลื่อนจากท่อนไม้เล็กหลายอันมาผูกเข้าด้วยกันเพื่อช่วยในการขนส่งผลไม้ได้คราวละมากๆ มู่เหยาจีจะมีหน้าที่เก็บผลไม้สุกที่ร่วงหล่นอยู่ใต้ต้นไม้มากองเอาไว้ที่จุดหนึ่ง ให้พี่ชายทยอยนำตะกร้าผลไม้เอาไปเทใส่เรือแล้วกลับขึ้นมารับเอาไปใหม่ กว่าจะได้ผลไม้เต็มลำเรือสองพี่น้องก็ต้องพักเหนื่อยอยู่หลายรอบและใช้เวลาไปกว่าครึ่งค่อนวัน แต่เมื่อมองเห็นผลไม้กองโตที่ยังเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของจำนวนผลไม้ที่มีเต็มเกาะ ความเหนื่อยล้าทั้งหมดก็ถูกแทนที่ด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุขจนล้นอก“หากแลกเปลี่ยนเก็บสะสมเงินซื้ออุปกรณ์ได้มากพอ ไม่นานข้าคงจะสร้างเรือนหลังเล็กๆ ให้เจ้าสักหลังได้ เจ้าจะมีที่นอน ผ้าห่มที่อบอุ่น อ้อ! อย่าลืมเตือนข้าด้วย เราต้องแลกเอาข้าวสารกลับมาด้วยนะ อีกหน่อยเจ้าต้องเติบโต ต้องกินอาหารแบบมนุษย์จะได้แข็งแรง” มู่เหยาจีเงยหน้ามองพี่ชายที่ผิวเปลี่ยนเป็นสีเข้ม ข้อ

    Last Updated : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 11 ผู้บุกรุก

    เกาะลอย“ขนตะกร้าไปกันเลยเหยาจี เราจะเริ่มเก็บผลไม้ไว้ตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้จะได้เสร็จเร็วขึ้น”“ท่านไม่บอกข้าก็จะทำอยู่แล้วเจ้าค่ะ” มู่เหยาจีเขย่าเงินเหรียญที่ท่านป้าคนหนึ่งมอบถุงใส่เงินให้นางมาผูกไว้กับผ้าคาดเอว รู้สึกว่าการมีเงินนี่มันช่างดีเสียจริงทั้งคู่ช่วยกันคัดเลือกผลไม้ด้วยความละเอียดถี่ถ้วนกว่าเดิม ผลไม้เนื้อแข็งจะถูกวางลงก้นตะกร้าและที่เนื้ออ่อนนุ่มอย่างเช่นมะม่วง ก็จะถูกวางไว้ด้านบน ผลที่มีร่องรอยแตก ช้ำ มีจุดด่างดำเล็กน้อยพวกเขาก็จะแยกเอาไปกองไว้อีกทางไม่นำเอาไปขาย“ฟ้าใกล้จะมืดแล้วเหยาจี เราต้องกลับไปที่อุโมงค์กันแล้วล่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อแต่เช้าก็แล้วกัน” มู่สี่เสินเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เริ่มมืดครึ้ม“เพิ่งเก็บได้แค่ 8 ตะกร้าเอง ข้ายังไม่ทันเหนื่อยเลยเจ้าค่ะ เสียดายจัง” “ไปเถิด ข้าวของตะกร้าอะไรก็วางเอาไว้ที่นี่ทั้งหมดนั่นล่ะไม่ต้องเก็บกลับไป ข้ารับรองไม่มีของสูญหายแน่”“ข้าอยากเห็นแผ่นดินใหญ่ที่พวกเขากล่าวถึงกันจังเจ้าค่ะ ดูเหมือนว่ามันน่าจะเจริญมากกว่าหมู่บ้านบนเกาะจิงเหมินนะเจ้าคะ” “ข้าก็คิดเช่นนั้น เราต้องได้ไปแน่นอนเหยาจี เก็บเงินให้ได้มากๆ กันไว้ก่อน มนุษย์ใช้เง

    Last Updated : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 12 สหาย

    “พี่สี่เสินท่านอย่าลืมว่าเกาะนี้ไม่เคยมีผู้ใดผ่านเข้าออกมาก่อน หากจะมีผู้บุกรุกขึ้นมาบนเกาะก็เป็นเราสองคนต่างหากที่บุกรุก” มู่เหยาจีตั้งข้อสังเกตใหม่“อีกอย่างนะเจ้าคะ หากเราเป็นผู้บุกรุก เจ้าของเดิมสมควรขับไล่เราหาใช่มาช่วยเราเก็บผลไม้ ข้าว่าพวกเขาไม่ได้คิดร้ายกับเราสองคนเจ้าค่ะ”“จริงของเจ้า เอาอย่างนี้คืนนี้เรามาพิสูจน์กัน”สองพี่น้องตัดสินใจล้มเลิกการสำรวจรอบเกาะ แล้วมุ่งหน้ากลับไปที่ชายหาดดังเดิม ช่วยกันแบกตะกร้าเปล่าเข้าป่าไปกองไว้ที่ใต้ต้นมะกอกต้นเดิม พวกเขาเลือกผลไม้ที่สุกงอมมีสีคล้ำไปกองไว้ตามใต้ต้นไม้เพื่อให้มันกลายเป็นปุ๋ยตามธรรมชาติ แต่ไม่ได้เก็บผลไม้ดีใส่ตะกร้าเลยแม้แต่ผลเดียวพอใกล้ค่ำ มู่สี่เสินก็ตะโกนเรียกน้องสาวให้กลับไปพักผ่อนตามปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิด แต่เมื่อถึงจุดลับสายตาร่างสองร่างก็หายเข้าไปในโพรงของต้นไม้เก่าแก่ขนาดใหญ่ต้นหนึ่ง เด็กทั้งคู่ต้องกินผลไม้และน้ำที่เตรียมเอาไว้ด้วยเสียงที่เบาที่สุด ขยับตัวให้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเสียงใดๆ เฝ้ารอให้แสงสว่างรอบข้างเลือนหายไปทีละน้อยด้วยหัวใจที่ลุ้นระทึกผ่านไปนานเท่าใดไม่อาจรู้ได้ ขณะที่ทั้งสองนั่งพ

    Last Updated : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 13 แรงงานชั้นยอด

    “เอาไปวางไว้ทางด้านนั้น 30 ใบ” มู่สี่เสินออกคำสั่งกับน้องสาว เลือกวางตะกร้าผลไม้เปล่าๆ 30 ใบไว้ยังบริเวณต้นผลไม้นานาชนิดที่พวกตนยังเก็บเกี่ยวไปไม่ถึงบริเวณนั้น “เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” มู่เหยาจีเลือกวางตะกร้าทั้ง 30 ใบให้กระจายไปทั่วๆ จากนั้นก็วิ่งตัวปลิวกลับมาหาพี่ชาย“ไป! เราไปกันอีกทาง” มู่สี่เสินตั้งใจจะทดลองดูว่า หากพวกตนไม่ได้อยู่ใกล้ตะกร้า กระรอกและกระต่ายจะมาช่วยเก็บผลไม้อีกหรือไม่ในเวลากลางวัน พวกเขาจึงซื้อตะกร้ามาเพิ่มใหม่อีก 30 ใบแล้วปล่อยทิ้งไว้โดยไม่สนใจจะไปดูแล สองพี่น้องใช้ตะกร้าเก่า 30 ใบย้ายมาเก็บผลไม้อีกทิศทางหนึ่งกันลำพังแค่สองคน พอเก็บได้ 20 ตะกร้าก็ตัดสินใจพายเรือออกไปส่งที่หมู่บ้านอีกรอบหนึ่งก่อน เพราะหากรอให้ได้ครบ 30 ใบ เวลาอาจจะช้าเกินไป “ข้าตื่นเต้นจะแย่แล้วเหยาจี รู้หรือไม่ว่าหากเป็นไปตามที่เราคิด จากนี้เราจะมีหน้าที่แค่เพียงขนมันลงเรือแล้วพายมาส่งขายเท่านั้น เราอาจทำได้ถึงวันละ 3 รอบทีเดียวเลยนะ นั่นหมายถึงการรับเงินที่มากขึ้นทุกวัน!” ดวงตาของเด็กหนุ่มส่องประกายระยิบระยับ มีเงินมากก็จะสร้างบ้านให้น้องสาวได้อยู่เร็วขึ้น!“ไม่ได้นะเจ้าคะพี่สี่เสิน เรามีกัน

    Last Updated : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 14 สร้างเรือน

    “เข้าใจแล้วท่านอาเกา จากนี้ข้าจะระมัดระวังตัวเพิ่มขึ้นขอรับ”“ดีแล้ว ที่ข้ายังไม่ไปพร้อมกับเจ้าเวลานี้ก็เพราะ หากเจ้าพาเราข้ามไปได้สำเร็จ เราต้องปกปิดเอาไว้ให้มิดว่ามนุษย์คนอื่นสามารถไปถึงที่นั่นได้ เราจะแอบข้ามไปตอนที่ไม่มีคนเห็นและเรื่องนี้ควรเป็นความลับที่รู้กันแค่พวกเราหกครอบครัวเท่านั้น” ประโยคสุดท้ายเกาโหลวหันไปกล่าวกับสหายที่เขาไว้วางใจ“วันนี้รอให้ฟ้ามืดอีกสักนิดข้าค่อยกลับก็แล้วกัน ท่านอาทั้งหกคนเตรียมเสื้อผ้าไปค้างคืนที่นั่นสักคืนเถิด ข้าคงไม่พายเรือกลับมาส่งท่านยามค่ำคืนเป็นแน่”ปากว่ากล้า ว่าอยากลองเสี่ยง แต่เมื่อได้รับคำเชิญให้ไปค้างคืนบนเกาะลอยจากเด็กหนุ่ม ชายฉกรรจ์ทั้งหมดก็ใจเต้นไม่เป็นส่ำกันอยู่หลายอึดใจเลยทีเดียวพอฟ้ามืดเรือสองลำกับแพขนส่งผลไม้ก็เคลื่อนตัวออกไปจากเกาะจิงเหมินอย่างเงียบเชียบ โดยมีบุรุษห้าคนซ่อนตัวนอนราบไปกับพื้นเรือร่วมทางไปกับสองพี่น้องสกุลมู่ด้วย“ถึงไหนแล้วหลานชายหลานสาว” เกาโหลวกับสหายร้องถามออกมาเป็นรอบที่สิบด้วยความตื่นเต้น“ครึ่งทางแล้วขอรับท่านอา อีกไม่นานก็ถึงแล้ว”“หา!! ครึ่งทางแล้วหรือ? ข้างหน้าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าดูให้ดีเริ่มมีคลื

    Last Updated : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 15 คุณชายสี่ตกน้ำ

    ตระกูลอ๋าว เมืองหลงเทียน“คุณชายสี่ตกน้ำ คุณชายสี่จมน้ำไปแล้ว ใครก็ได้รีบมาช่วยที ทางนั้น! เขาอยู่ทางนั้น!” เสียงกรีดร้องจากบ่าวรับใช้หญิงวัยกลางคนดังขึ้นมาจากทางสระบัวขนาดใหญ่ภายในจวนตระกูลอ๋าว บ่าวรับใช้สตรีผู้นี้มาเก็บดอกบัวเพื่อไปบูชาเทพมังกรตามคำสั่งของฮูหยินผู้เฒ่ากัว สตรีหม้ายที่เป็นทั้งผู้นำตระกูล และเป็นท่านย่าแท้ๆ ของคุณชายสี่อ๋าวหลวนหลงนางเห็นคุณชายสี่ยืนอยู่เพียงลำพังบนสะพาน และคิดว่าเขาก็คงจะมาชื่นชมความงามของดอกบัวที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ในสระจึงไม่ได้สนใจมากนัก เพียงครู่เดียวนางก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงแตกกระจายของน้ำและเห็นร่างของอ๋าวหลวนหลงจมลงสู่ก้นสระด้วยตาของตนเองบ่าวรับใช้บุรุษที่กำลังทำงานอยู่โดยรอบ วิ่งกรูกันไปยังทิศทางที่หญิงสาวชี้มือไป แต่เป็นเพราะดอกบัวกำลังบานสะพรั่งอยู่เต็มสระ กอปรกับผิวน้ำไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ทำให้บ่าวรับใช้ยังไม่เห็นว่าคุณชายสี่ของพวกตนจมน้ำไปจากบริเวณไหนกันแน่ก้นสระเซียนหนุ่มหลวนหลงกับทูตสวรรค์ฝูซีกลั้นหายใจกันจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้วแต่พวกเขาก็ยังไม่พ้นจากผืนน้ำของบ่อศักดิ์สิทธิ์กันเสียที จากทิศทางที่ตนเองกระโดดลงมาสองบุรุษผู้กล้าห

    Last Updated : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 16 เด็กหนุ่มผู้อ่อนแอ

    “นายท่านสาม” หูกุ้ยเป็นผู้คารวะอีกฝ่ายก่อนทำให้ฝูซีต้องทำตาม“หลงเอ๋อร์ไม่ให้ข้าเอาผิดจากเจ้า ไม่ต้องกลัวไปอากุ้ย” บุรุษที่ถูกเรียกว่านายท่านสามเอ่ยปากบอกกับเด็กหนุ่ม น้ำเสียงอ่อนโยน “ส่วนเจ้า เป็นคนใหม่ของหลวนหลงบุตรชายข้าเช่นนั้นหรือ?”“ขอรับนายท่านสาม ข้าน้อยฝูซีขอรับ” ฝูซีชำเลืองมองหน้านายท่านสามแวบหนึ่ง บุรุษผู้ดูสุภาพอ่อนโยนใบหน้าเศร้าหมองผู้นี้คือบิดาของหลวนหลงที่อยู่ด้านในแน่แล้ว“ใกล้วันบูชาเทพประจำตระกูลแล้ว เขาคงเล่าทุกอย่างให้เจ้าฟังแล้วสินะ จำเอาไว้ก็แล้วกันว่าอย่างไรก็ต้องให้เกียรติคุณชายเหล่านั้นไว้บ้าง โดยเฉพาะกับบ้านใหญ่และบ้านรอง หวังว่าเจ้าจะไม่ทำอะไรให้ข้าต้องลำบากใจ” ฝูซีโค้งคำนับเงียบๆ แทนการรับคำ ในใจยังมีคำถามนับร้อยพันที่ยังไม่รู้จะถามเอาคำตอบจากผู้ใด แต่ก็พอจะรู้สถานการณ์ของอ๋าวหลวนหลง หรือคุณชายสี่ตระกูลอ๋าวบ้างแล้วว่าชีวิตของเขาไม่น่าจะสบายนัก“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องรายงานท่านแม่และฮูหยิน โชคดีที่ฝูซีช่วยเหลือหลงเอ๋อร์ได้รวดเร็ว เขาจึงไม่ได้ป่วยหนักอันใด อย่าให้ท่านแม่กับฮูหยินข้าต้องทุกข์ใจเรื่องของหลงเอ๋อร์อีกเลย” คำสั่งสุดท้ายของอ๋าวซีซวนนายท่านสามบิดา

    Last Updated : 2025-03-19
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 17 ชิงที่นั่ง

    อ๋าวซีซวนหน้าเสียไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาเห็นแล้วว่าบุตรชายเพียงคนเดียวพยายามกินอาหารและออกกำลังให้ร่างกายแข็งแรงกว่าเดิมมาตลอด เมื่อวานเขายังเข้าไปพูดคุยกับบุตรชายอยู่เลยว่าให้แสร้งป่วยไปก่อนไม่จำเป็นต้องรีบออกมาไม่คิดว่าบุตรชายจะรีบออกมาปรากฏตัวตั้งแต่พิธียังไม่เริ่มด้วยซ้ำ ที่ผ่านมาการกระทำของอ๋าวหลวนหลงก็สร้างความไม่สบายใจให้ตนกับฟางฮูหยินไม่น้อย ด้วยเกรงว่าที่เขาเพียรพยายามออกกำลัง ก็คงทำเพื่อจะมาต่อยตีกับบรรดาพี่น้อง สุดท้ายก็ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปเสียทุกครั้งไปกล่าวตามจริงอ๋าวหลวนหลงก็ไม่ได้มีความมั่นใจถึงเพียงนั้น แต่ตระกูลอ๋าวจะทำพิธีบูชาเทพประจำตระกูลทั้งที ตนจะไม่อยากรู้อยากเห็นวิถีชีวิตของมนุษย์ที่ไม่มีวันจะได้ข้องเกี่ยวกับเหล่าเทพแล้วได้อย่างไร ยังมีเรื่องการเป็นผู้ฝึกตนอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่เขาตัดสินใจมาเข้าร่วมพิธีในวันนี้“คำนับท่านย่า ผู้อาวุโส ท่านลุง ท่านอา…” อ๋าวหลวนหลงเดินเรียงคำนับญาติพี่น้องในตระกูลโดยเริ่มจากผู้นำตระกูลคือกัวฮูหยินผู้เป็นท่านย่า จากนั้นก็เป็นบรรดาน้องชายของท่านปู่ที่เป็นบ้านสายรอง สายสาม สี่ ไล่เลียงไปจนถึงรุ่นบิดาที่ใช่ชื่อน

    Last Updated : 2025-03-20

Latest chapter

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 40 คนโง่เขลา

    อ๋าวหลวนหลงพาอดีตเซียนที่มาเข้าร่วมกับฝ่ายตนเดินทางไปด้วยกันอีกสี่คนไม่นับรวมเขากับฝูซี แต่ไม่ยินยอมให้ทายาทหรือผู้ติดตามคนอื่นจากสกุลอ๋าวร่วมทางมาด้วยอีกเลยนอกจากอ๋าวหลวนหย่งตลอดสามปีที่ผ่านมาด้วยการทำงานหนักของอ๋าวซีเค่อกับอ๋าวหลวนตงที่ออกไปเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลใหญ่ที่เคยรู้จักกันมาก่อน รวมกับภายหลังฝูซีและเวยวั่งซูก็ออกไปรวบรวมท่านเซียนไร้สกุลที่ยังเคว้งคว้างอยู่มาเข้ากลุ่มกันไว้ก็มีไม่น้อย ทำให้ขอบเขตของกองกำลังสกุลอ๋าวยังมีแนวร่วมที่กระจายตัวอยู่ในหลายเมืองในเขตเทือกเขาที่มีทายาทสกุลอ๋าวสายรองมาคอยดูแลอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นอ๋าวหลวนหลงเดินทางผ่านทางมาก็รีบเข้าไปทักทาย“คุณชายสี่ คุณชายห้า พวกท่านกับสหายจะไปที่ใดกันหรือขอรับ”“เรากำลังจะข้ามไปที่เมืองหยวนเปียว ทางนี้มีอะไรผิดปกติหรือไม่” “ไม่มีขอรับ เขตแนวภูเขาฝากนี้มีกองกำลังที่เป็นมิตรกับสกุลอ๋าวของเราไม่น้อย แต่ที่เมืองหยวนเปียวไม่ใช่ว่าเป็นเขตติดต่อของสกุลเหลาหรอกหรือคุณชาย”“ใช่ ข้ามีธุระต้องไปทำแถวนั้นพอดี พวกเจ้าตามสบายเถิดพวกเราจะเร่งเดินทางกันต่อ”“รอก่อนคุณชายสี่! เมืองหยวนเปียวไม่น่าจะปลอดภัยเท่าใดนัก ข้าจะไปตามคนให้ต

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 39 ข่าวลับ

    “แต่ข้ายังไม่เข้าใจอยู่บ้างเจ้าค่ะ หากสัตว์เลี้ยงของข้ายังคงมีอายุขัยยืนยาวดังเดิม พวกมันบางตัวที่ได้กินท้อโอสถแล้วพูดได้ทำไมจึงไม่พูดคุยกับข้าบ้าง”“ทางเดียวที่เราจะรู้คำตอบได้ก็คือข้าต้องรีบรวบรวมลมปราณให้สำเร็จ แล้วฟื้นฟูความสามารถเรื่องการสื่อสารกับพวกมันอีกครั้ง”“ใช่แล้ว!! ท่านเป็นทูตสวรรค์มาก่อนนี่นา ท่านสามารถสื่อสารกับสัตว์เทพและสัตว์ต่างสายพันธุ์บนแดนสวรรค์ได้ พี่สี่เสินของข้ายอดเยี่ยมที่สุดเลย”“เห็นหรือไม่เหยาจี แม้ว่าข้าจะไม่เคยฝึกฝนการต่อสู้แต่ความสามารถในการสื่อสารของข้าก็ยังเป็นประโยชน์ได้ เจ้าเองก็อย่าละเลยเรื่องการรวบรวมปราณเด็ดขาดเลยเชียว”“แต่พี่สี่เสิน ถึงแม้เวลานี้เราจะยังไม่รู้ว่าสัตว์เลี้ยงของข้าจะพูดได้ดังเดิมหรือไม่ แต่ข้าเชื่อว่าพวกมันกำลังปกป้องเราอยู่ แล้วอย่างนี้พี่ยังคิดจะออกจากเกาะไปเรียนวิชายุทธ์อีกหรือเจ้าคะ”“ท่านอาเกาบอกว่าผู้ฝึกตนในยุคนี้ต่างจากยุคก่อน พวกเขาก้าวหน้ามากขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการเข่นฆ่าสังหารกันเกิดขึ้น เรายังวางใจไม่ได้นะเหยาจี”“แล้วเซียนสายพฤกษาอย่างข้าจะฝึกฝนอะไร ความทรงจำเดิมของข้าก็ไม่เคยมีเรื่องที่เกี่ยวกับพลังการโจมตีแม้แต่น้อย

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 38 ปีศาจ

    “พวกท่านพายต่อไปหาเหยาจี นางอยู่ข้างหลังข้า!” มู่สี่เสินต้อนเรือเล็กให้เข้ามาในพื้นที่เกาะลอยทีละลำ บนเรือแต่ละลำมีชาวบ้านที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่หลายคนรวมทั้งครอบครัวของหนูน้อยหนิงเอ๋อร์ที่เหยาจีเคยช่วยเหลือเอาไว้ด้วย“ท่านอาหญิงแล้วท่านอาเกาเล่าเจ้าคะ” “สามีข้ากับสหายควบคุมเรือใหญ่ที่บรรทุกเสบียงอาหาร เรือหนักมากมันเคลื่อนตัวได้ช้า ข้าก็ห่วงเขาเหลือเกิน เจ้าสองคนช่วยพวกเขาได้หรือไม่”“ท่านอาหญิงใจเย็นๆ เจ้าค่ะ เราต้องรอให้เขาเข้ามาถึงเขตของเกาะลอย ข้ามั่นใจว่าพวกเขาจะปลอดภัย”“ท่านอา หากคิดว่าไม่ทันท่านโดดลงน้ำว่ายมาหาข้า!! ทิ้งเรือไปเสีย! ทิ้งเรือไป!” เสียงมู่สี่เสินตะโกนซ้ำไปซ้ำมาอยู่เบื้องหน้า เกาโหลวกับกู้หยุนควบคุมเรือร่วมกับสหายลำละสี่คน พวกเขาหันมาสบตากัน แม้ว่าจะมีชาวบ้านเต็มใจจะเข้ามาอาศัยอยู่ที่เกาะลอยไม่ถึง 40 คนเท่านั้น แต่พวกเขาก็ใช้เงินของมู่สี่เสินแจกจ่ายให้ชาวบ้านคนอื่นแยกย้ายกันไปตั้งหลักที่อื่นไม่น้อย เสบียงอาหารในเรือทั้งสองลำที่ซื้อมาด้วยเงินของสองพี่น้องสกุลมู่พวกเขาไม่อาจทิ้งมันไปได้“ออกแรงอีก! อีกนิดเดียวเท่านั้น!”ทางฝ่ายมู่เหยาจีนางและชาวบ้านที่ข้ามเขตมาแ

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 37 คืนที่มืดมิด

    “เหยาจี เมื่อครู่ท่านอาเกาบอกเรื่องหนึ่งกับข้าซึ่งเจ้าก็ควรจะรู้ไว้เช่นกัน”มองดูใบหน้างามของน้องสาวแล้วมู่สี่เสินก็รู้สึกเศร้าหมองเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าตนเองและน้องสาวจะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบบนเกาะลอยที่ปลอดภัยได้อยู่แล้วเชียว“บนแผ่นดินใหญ่ยังคงมีผู้ฝึกตนอาศัยอยู่ ดูเหมือนว่าเราจะลงมายังแดนมนุษย์ในช่วงเวลาที่พวกเขากำลังจะฟื้นฟูการฝึกฝนกันเข้าพอดี”“ผู้ฝึกตน? ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ข้าจำได้ว่าท่านมหาเทพมู่ซีบอกว่าแดนสวรรค์ยึดสมบัติเทพ สิ่งของแทนเทพรวมทั้งพืชผักผลไม้เสริมปราณจากแดนมนุษย์ไปหมดแล้ว พวกเขายังอยากจะฝึกฝนกันอยู่อีกหรือเจ้าคะ”“ใช่ นั่นก็เป็นเพียงการคาดเดาของเหล่าทวยเทพในอดีต พวกเขาคิดว่ามนุษย์ไม่สามารถขึ้นมาแดนสวรรค์ได้อีก ก็คงล้มเลิกความคิดในการฝึกฝนไปในที่สุด แต่เวลานี้เราก็ได้รู้แล้วว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น”“นี่คือเรื่องที่ท่านอาร้อนใจจนต้องพายเรือมายามดึกดื่นเพื่อเตือนพวกเราสองคน?”“นั่นก็ใช่อีก จากที่ท่านอาเกาเล่าให้ข้าฟังเมื่อครู่ เมื่อก่อนผู้ฝึกตนก็ต่างคนต่างอยู่ แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาอยู่ดีๆ ก็เกิดสำนักและตระกูลใหม่ที่โดดเด่นขึ้นมาไม่น้อย พวกเขาไม่เคยมีผู้นำจึงกำลั

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 36 เตือนภัย

    “นั่นสี่เสินแน่แล้ว! เราขยับเข้าไปใกล้กองไฟอีกสักนิดให้เขาเห็นเราชัดๆ จะดีกว่า”มู่สี่เสินจ้องมองตำแหน่งของวัตถุสีขาวที่ขยับไปมาอยู่ตลอดเวลา เมื่อเรือของเกาโหลวและกู้หยุนเคลื่อนที่มาใกล้กองเพลิงเขาจึงได้เห็นว่าเป็นเกาโหลวและกู้หยุนกำลังโบกผ้าสีขาวในมือไปมาอยู่บนเรือ“ท่านอาเกา!! ท่านอากู้!! เกิดอะไรขึ้นขอรับเหตุใดจึงมาที่นี่กลางดึกเช่นนี้” ชายหนุ่มรีบเร่งฝีพายเข้ามาหาคนทั้งคู่และได้เห็นว่าทั้งสองกำลังช่วยกันวิดน้ำดับกองไฟที่จุดเผาเรือลำเก่าที่ตนเคยใช้กันพัลวัน“ช่วยกันดับไฟก่อนที่ใครจะสังเกตเห็นก่อนสี่เสิน เดี๋ยวเจ้าพาเราสองคนเข้าไปที่เกาะลอยแล้วค่อยคุยกัน”ดับไฟและจมซากเรือลำเก่าลงสู้ก้นทะเลแล้ว คนทั้งสามก็ยังคงลอยเรือจับตาดูความเคลื่อนไหวบนผืนน้ำรอบๆ อยู่อีกพักใหญ่ จนเกาโหลวแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดตามมา มู่สี่เสินจึงได้พาคนทั้งคู่กลับมาที่เกาะลอย“ท่านอาเกา ท่านอากู้ เป็นพวกท่านเองหรือเจ้าคะ! เกิดอะไรขึ้นกันแน่ แสงไฟเมื่อครู่เกิดขึ้นได้อย่างไร” มู่เหยาจีย่ำลงน้ำเดินมาหาคนทั้งสามอย่างร้อนใจ“เหยาจี น้ำเย็นมากเจ้าทำไมไม่ไปรอข้างบนฝั่ง รีบกลับขึ้นไปก่อน”“จะให้ข้ายืนรอเฉยๆ ได้อย่างไรพี่สี่เ

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 35 วิตกกังวล

    วันต่อๆ มามู่สี่เสินและมู่เหยาจีก็ได้เรือขนาดใหญ่ลำใหม่จากการช่วยเหลือของหัวหน้าหมู่บ้านเกาโหลวมา 2 ลำ พวกเขาจึงคืนเรือสองลำเดิมรวมทั้งแพให้กับเกาโหลวไป “เรือสองลำนี้เราบรรจุผลไม้ได้ถึง 160 ตะกร้าเลยทีเดียวขอรับ ครั้งนี้การทยอยเอาผลไม้ทั้งหมดออกจากเกาะลอยคงเสร็จเร็วกว่าเก่า”“พวกเจ้าปลูกต้นท้อเอาไว้อีก 200 กว่าต้นมิใช่หรือ ข้าว่าคงจะใช้เวลา 3 เดือนดังเดิมนั่นล่ะ นอกจากเรือแล้วเจ้าอยากได้สิ่งใดบ้าง ข้าจะได้เตรียมการหาซื้อไว้ให้ตั้งแต่เนิ่นๆ"“ข้าวสารขอรับ แล้วก็ผ้า หากลมหนาวมาเยือนอีกครั้งข้าไม่มั่นใจว่าเกาะลอยจะพาเราไปที่ใดอีก และยังไม่รู้ว่าจะนานเท่าใดมันจึงจะยอมเคลื่อนตัวอีกครั้ง เสบียงอาหารของใช้จำเป็นอะไรเพิ่มเติมจากนี้ข้าจะให้เหยาจีจดมาส่งให้ท่านเอง”ระหว่างที่เกาโหลวกับมู่สี่เสินกำลังสนทนากันอยู่ ร่างสามร่างของอู๋ฉ่าง นางลู่และอู๋หนิง ก็เดินถือตะเกียงฝ่าความมืดตรงเข้ามาบริเวณเรือที่รับส่งสินค้า“คุณชายคุณหนู เราสามคนมาขอบคุณพวกท่านขอรับ” อู๋ฉ่างเป็นคนนำภรรยาและบุตรสาวคุกเข่าลงกับพื้นโขกศีรษะคำนับสองพี่น้องด้วยความรู้สึกขอบคุณจากใจ“พี่ชาย พี่สาว!! ท่านลุกขึ้นก่อน! ไม่เห็นต้องทำ

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 34 ผลไม้มงคล

    ได้ยินเช่นนี้ทั้งมู่สี่เสินและมู่เหยาจีต่างก็ดีใจกันมาก ครั้งนี้โชคดีที่เกาะลอยยอมเคลื่อนที่มาที่เกาะจิงเหมิน พวกเขาจำเป็นต้องสะสมเสบียงอาหารไว้ให้มากกว่าเดิม ป้องกันการขาดแคลนในอนาคตหากว่าเกาะลอยเคลื่อนตัวไปอยู่กลางมหาสมุทรที่ห่างไกลอีกครั้ง“ดีเลยเจ้าค่ะ อีกครึ่งเดือนผลท้อบนเกาะก็น่าจะพร้อมเก็บเกี่ยวแล้ว เราจะได้เอาพวกมันมาขายด้วย”“ผลท้อ? ผลท้อหน้าตาเป็นอย่างไรหรือหลานสาว"“ก็ลูกสีแดงๆ ขนาดประมาณเท่านี้อย่างไรเจ้าคะ” มู่เหยาจีทำมือกะขนาดให้เกาโหลวดู“นั่นมันผิงกั่ว (แอปเปิ้ล) ไม่ใช่หรือ? ก็ไหนพวกเจ้าว่าบนเกาะลอยไม่มีผิงกั่วอย่างไรเล่า?"“ไม่ใช่เจ้าค่ะ ไม่ใช่ผิงกั่ว ดอก ผล ใบและกิ่งท้อล้วนเป็นสิ่งที่เป็นมงคลทั้งสิ้นท่านอาเกาไม่รู้เรื่องนี้หรือเจ้าคะ”เกาโหลวกับชาวบ้านขมวดคิ้วพยายามคิดถึงผลไม้ดังกล่าว แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีผู้ใดเคยได้ยินชื่อหรือสรรพคุณที่ดีงามของผลไม้ชนิดนี้มาก่อนเลยสักคนเดียว“เอาไว้ข้าข้ามไปแผ่นดินใหญ่แล้วจะลองถามคนที่นั่นดู บางทีอาจเป็นผลไม้ทางเหนือที่เมืองหยุนไห่ของพวกเราไม่เคยรู้จักก็เป็นได้”มู่สี่เสินและมู่เหยาจีตาเป็นประกายขึ้นมาทันที หากผลท้อไม่มีปลูกที่เม

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 33 ความต้องการเดิม

    หลายวันต่อมาสองพี่น้องก็ทำงานร่วมกันได้ตามปกติ มู่เหยาจียังเสนอตัวจะเย็บชุดต่อกันให้กับมู่สี่เสินบ้าง แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธเสียงแข็ง“ให้ข้าใส่ชุดน่าเกลียดเช่นนั้น ข้ายอมแก้ผ้าเดินรอบเกาะยังจะดีเสียกว่า!!”“ท่านมันปากเสีย! ดี แก้ผ้าเดินไปเลย อยู่กับลิงมากท่านก็จะเหมือนลิงเข้าไปทุกทีแล้ว จริงสินะพวกมันก็ไม่ใส่เสื้อผ้าเช่นกันนี่นา!” มู่เหยาจีบ่นไปเรื่อยเปื่อย แต่ลิงน้อยพากันล้มตัวลงนอนแผ่หลาไปกับพื้นกันเป็นแถว พอตั้งสติได้พวกมันก็เข้าไปรุมดึงเสื้อผ้าของมู่สี่เสินคล้ายกำลังประท้วงว่าพวกมันก็อยากใส่เสื้อผ้าเช่นกัน“เหยาจี พวกมันฟังเรารู้เรื่องทุกอย่างเลยใช่ไหมนี่!! เจ้ามาช่วยข้าด้วย!!” มู่สี่เสินส่งเสียงขอความช่วยเหลือจากน้องสาวไป มือก็ปัดป้องต่อสู้กับลิงไป“ลิงน้อย อย่าเสียมารยาทกับพี่ชายสิ พวกเจ้าไม่ใช่มนุษย์ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้า เจ้าดูเอาเถิดเขาน่าเกลียดถึงเพียงนั้นพวกเจ้ายังอยากได้เสื้อผ้าจากเขาอีกหรือ?” ฝูงลิงสิบกว่าตัวหยุดชะงักลงทันใด พวกมันกระโดดลงจากร่างของมู่สี่เสินมายืนอยู่ตรงกลางระหว่างคนทั้งสอง หันมองซ้ายทีขวาที แล้วก็เบ้หน้าทำปากเบี้ยว เสื้อผ้าของมนุษย์สองคนนี้ไม่น่าสวมใส

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที้่ 32 หลบหน้า

    ชั่วพริบตาเดียวเวลาก็ล่วงผ่านไปนานถึง 3 ปี“พี่สี่เสิน ข้าชักอยากให้เกาะลอยเคลื่อนที่บ้างเสียแล้วล่ะ ข้าวสารกับแป้งของเราหมดไปตั้งแต่เมื่อ 6 เดือนก่อนแล้ว ข้ากินแต่ผลไม้ กับพวกกุ้งปลาจนหน้าข้าจะยาวเป็นกุ้งอยู่แล้วเจ้าค่ะ”มู่สี่เสินพรวนดินใต้ต้นท้อที่เติบโตและกำลังออกผลเล็กๆ มากมายต่อไปโดยที่ไม่ได้หันมามองน้องสาว“อีกไม่นานเจ้าก็จะมีผลท้อกินแล้ว พวกมันโตเร็วและมากมายถึงเพียงนี้เจ้ากินได้อีกนานหายเบื่อแน่นอนเหยาจี”“เราอยู่กันแค่สองคน ต่อให้เด็ดลงมาแจกจ่ายให้สัตว์ทั้งเกาะกินด้วยอย่างไรก็กินไม่หมด ข้าอยากขายผลท้อจัง อยากรู้ว่าหัวหน้าหมู่บ้านเกาโหลวจะคิดราคาให้พวกเราเท่าใด”ในที่สุดมู่สี่เสินก็หยุดมือจากการทำงาน ลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงใช้ฝ่ามือหนาปัดฝุ่นที่เลอะเสื้อผ้าออก ยามนี้มู่สี่เสินเป็นชายหนุ่มวัย 17 ปีแล้ว เขาตัวสูงใหญ่จนเสื้อผ้าที่เคยใส่สั้นเต่อมาถึงหน้าแข้ง แขนเสื้อก็ดูคล้ายจะหดสั้นลงจนดูน่าขัน “ข้าก็คิดถึงคนในหมู่บ้านจิงไห่เช่นกัน เสียดายที่ครั้งนั้นข้าเลือกซื้อเสบียงอาหารแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อเรือกลับมา ไม่เช่นนั้นข้าจะพาเจ้าพายเรือออกไปท่องเที่ยวนอกเกาะบ้าง”“ต่อให้เราซื้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status