หน้าหลัก / รักโบราณ / สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี / ตอนที่ 16 เด็กหนุ่มผู้อ่อนแอ

แชร์

ตอนที่ 16 เด็กหนุ่มผู้อ่อนแอ

ผู้เขียน: บ.บี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-19 13:15:43

“นายท่านสาม” หูกุ้ยเป็นผู้คารวะอีกฝ่ายก่อนทำให้ฝูซีต้องทำตาม

“หลงเอ๋อร์ไม่ให้ข้าเอาผิดจากเจ้า ไม่ต้องกลัวไปอากุ้ย” บุรุษที่ถูกเรียกว่านายท่านสามเอ่ยปากบอกกับเด็กหนุ่ม น้ำเสียงอ่อนโยน 

“ส่วนเจ้า เป็นคนใหม่ของหลวนหลงบุตรชายข้าเช่นนั้นหรือ?”

“ขอรับนายท่านสาม ข้าน้อยฝูซีขอรับ” ฝูซีชำเลืองมองหน้านายท่านสามแวบหนึ่ง บุรุษผู้ดูสุภาพอ่อนโยนใบหน้าเศร้าหมองผู้นี้คือบิดาของหลวนหลงที่อยู่ด้านในแน่แล้ว

“ใกล้วันบูชาเทพประจำตระกูลแล้ว เขาคงเล่าทุกอย่างให้เจ้าฟังแล้วสินะ จำเอาไว้ก็แล้วกันว่าอย่างไรก็ต้องให้เกียรติคุณชายเหล่านั้นไว้บ้าง โดยเฉพาะกับบ้านใหญ่และบ้านรอง หวังว่าเจ้าจะไม่ทำอะไรให้ข้าต้องลำบากใจ” 

ฝูซีโค้งคำนับเงียบๆ แทนการรับคำ ในใจยังมีคำถามนับร้อยพันที่ยังไม่รู้จะถามเอาคำตอบจากผู้ใด แต่ก็พอจะรู้สถานการณ์ของอ๋าวหลวนหลง หรือคุณชายสี่ตระกูลอ๋าวบ้างแล้วว่าชีวิตของเขาไม่น่าจะสบายนัก

“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องรายงานท่านแม่และฮูหยิน โชคดีที่ฝูซีช่วยเหลือหลงเอ๋อร์ได้รวดเร็ว เขาจึงไม่ได้ป่วยหนักอันใด อย่าให้ท่านแม่กับฮูหยินข้าต้องทุกข์ใจเรื่องของหลงเอ๋อร์อีกเลย” 

คำสั่งสุดท้ายของอ๋าวซีซวนนายท่านสามบิดาของอ๋าวหลวนหลงพูดกับสาวใช้ตู้เม่ย แล้วเขาก็ก้มหน้าเดินจากไปเงียบๆ เพียงลำพัง

ฝูซีและหูกุ้ยยังคงต้องรออีกพักใหญ่กว่าท่านหมอจะสั่งยาและแนะนำวิธีการดูแลคุณชายสี่เสร็จ จากนั้นยังต้องยืนฟังสาวใช้ตู้เม่ยบ่นว่าอยู่อีกหลายประโยคกว่าที่ทั้งสองจะได้เข้าไปพบกับอ๋าวหลวนหลงในเรือนพัก

“คุณชาย ท่านลุกขึ้นมาทำไมขอรับ เหตุใดจึงไม่รีบนอนพักเสียก่อน” หูกุ้ยรีบเข้ามาหาเจ้านาย พยายามจะดันร่างของอีกฝ่ายให้นอนลง

“ข้าไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย ก็แค่รู้สึกหนาวเพราะร่างกายเปียกไปหมดเท่านั้น” อ๋าวหลวนหลงผลักหูกุ้ยออกเบาๆ สายตาจับจ้องไปยังฝูซีอย่างรู้ใจกัน

“หูกุ้ย เจ้าไม่ต้องห่วงคุณชายหรอกข้าจะอยู่ดูแลเขาเอาไว้เอง เจ้าต้องไปต้มยาตามที่ท่านหมอสั่งไว้เมื่อครู่ไม่ใช่หรือ”

“จริงสินะ ข้าเกือบลืมไปเลย ฟังแม่นางตู้บ่นยาวจนสติข้าแทบจะหลุดลอยไปแล้ว คุณชายอีกเดี๋ยวบ่าวจะไปต้มข้าวต้มด้วยเลยขอรับ กินข้าวแล้วท่านจะได้กินยาอีกรอบ” 

อ๋าวหลวนหลงพยักหน้าครั้งหนึ่ง ออกปากเร่งให้หูกุ้ยรีบออกไปเร็วๆ

“ท่านเซียน”

“ฝูซี เจ้าคงต้องเรียกข้าว่าคุณชายสี่แล้วกระมัง” อ๋าวหลวนหลงลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางไม่มั่นคงเท่าใดนัก เขาคลายเสื้อออกดูร่างกายที่ผ่ายผอม ผิวเนื้อขาวซีด ทั้งยังมองหาคันฉ่องส่องดูใบหน้าของตน

“เจ้าเด็กนี่ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดน้ำ ข้าเลยได้มาแทนที่เขาเข้าพอดี เช่นนั้นคนอื่น ๆ ก็คงจะลงมาจุติยังโลกมนุษย์ในรูปแบบเดียวกับพวกเรา พวกเขาอาจจะเป็นเด็ก คนชรา หรืออาจเป็นคนพิการ มีความเป็นไปได้ทั้งหมด”

อ๋าวหลวนหลงพลันนึกถึงใบหน้าเล็กและแววตาเด็ดเดี่ยวของเทพธิดาน้อยเหยาจี ไม่รู้ว่านางจะจุติมาบนแดนมนุษย์เป็นผู้ใด หากนางเป็นหญิงชราสูงวัย นางคงอึดอัดเป็นแน่ที่ไม่มีโอกาสได้เที่ยวเล่นซุกซนเหมือนครั้งที่อยู่บนแดนสุขาวดี

“อาจจะไม่เป็นไปเช่นนั้นเสียทุกคนก็เป็นได้ ดูอย่างข้า ข้ายังคงอยู่ในรูปลักษณ์เดิมแต่ถูกกำหนดเป็นตัวตนใหม่ที่ไม่เคยมีผู้ใดรู้จักมาก่อน”

“คงเป็นเช่นนั้น ตระกูลอ๋าวบูชาเทพมังกร สายเดียวกับการบ่มเพาะพลังของข้าบนแดนสวรรค์ ประจวบเหมาะกับอ๋าวหลวนหลงผู้นี้สิ้นอายุขัยพอดี แต่ละคนอาจจะลงมาในแดนมนุษย์ในรูปแบบที่ต่างกัน อาจเป็นตัวแทนของใครคนหนึ่ง หรือถูกสร้างขึ้นมาใหม่เช่นเจ้า”

“แต่ใบหน้าของท่านก็ยังคงเดิม เราน่าจะจดจำพวกเขาได้นะขอรับ”

“อืม เวลานี้ข้าคงต้องฟื้นฟูร่างกายนี้ให้แข็งแรงขึ้นสักหน่อยแล้ว อ่อนแอชะมัด” อ๋าวหลวนหลงเด็กหนุ่มวัย 15 จามไปแล้วหลายรอบ เวลานี้ยังมีน้ำมูกใสๆ ไหลออกมาจากจมูกอีก

“เมื่อครู่บิดาของข้าปลอบข้าว่า ให้คิดถึงท่านย่าให้มากๆ อย่าทำร้ายตัวเองเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นปีละครั้งเท่านั้น ให้ข้าอดทน เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาหมายถึงอะไร”

“หูกุ้ยเล่าให้ข้าฟังแล้วขอรับ ตระกูลอ๋าวแห่งนี้เป็นบ้านสายหลัก นายท่านผู้เฒ่าท่านปู่ของท่านเสียชีวิตไปนานแล้ว จวนจึงมีผู้นำตระกูลเป็นท่านย่าของท่านกัวฮูหยิน นางมีบุตรชาย 4 คน บุตรสาวออกเรือนไปอยู่ที่อื่นแล้วอีก 3 คน อ๋าวซีซวนบิดาท่านคือนายท่านสาม และท่านเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเขา”

“ดูเหมือนท่านย่าจะรักข้า บิดาข้าก็ดูเป็นคนสุภาพอ่อนน้อม ไม่ได้ดูแคลนว่าข้าเป็นคนอ่อนแอ เหตุใดข้าจึงต้องคิดฆ่าตัวตายด้วยเล่า?”

“ลูกพี่ลูกน้องของท่านที่เกิดจากนายท่านใหญ่ นายท่านรอง และนายท่านสี่มีหลายคน ข้าไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด นอกจากนี้ยังมีญาติพี่น้องจากบ้านสายรองที่อยู่ต่างเมืองอีก ตระกูลอ๋าวเป็นตระกูลผู้ฝึกตน มีท่านเพียงคนเดียวที่ไม่สามารถฝึกฝนได้จึงเป็นที่น่าอับอายของบ้านสายหลัก พี่น้องท่านไม่ชอบหน้าท่านเท่าใดนักขอรับ และน่าจะมีการกลั่นแกล้งรังแกกันเป็นประจำ”

“ผู้ฝึกตนหรือ? แดนมนุษย์เวลานี้ยังมีผู้ฝึกตน?” 

หลวนหลงรู้ดีว่าในอดีตดินแดนมนุษย์เคยมีผู้ฝึกตนและสามารถบำเพ็ญเพียรขึ้นไปสู่ชั้นเซียนได้ ผู้ฝึกตนชั้นเซียนเท่านั้นจึงก้าวเข้าสู่ดินแดนสวรรค์

แต่เป็นเพราะการแบ่งพรรคแบ่งพวก การฆ่าฟันกันเองระหว่างมนุษย์เพื่อไต่เต้าให้ถึงระดับชั้นเซียน ก่อให้เกิดความวุ่นวายไปถึงการหาพวกพ้องในชั้นเทพ สงครามที่เหล่าทวยเทพและมนุษย์ห้ำหั่นกันดึงเอาปีศาจเข้ามาร่วมด้วย มหาเซียนในยุคบรรพกาลแก้ปัญหาด้วยการเลิกติดต่อกับแดนอื่น ต่างคนต่างอยู่เพื่อไม่ให้เกิดสงครามระหว่างสามภพอีกต่อไป

"ในเมื่อมนุษย์ไม่อาจก้าวข้ามเป็นเซียนหรือเทพได้เหมือนก่อน พวกเขาจะฝึกฝนกันเพื่ออะไร?"

“รายละเอียดข้ายังไม่รู้แน่ชัดขอรับ แต่ที่แน่ๆ อีก 1 เดือนจะมีพิธีบูชาเทพมังกร เทพประจำตระกูลอ๋าวของท่าน เวลานั้นทายาทจากทุกสายจะมารวมตัวกันที่นี่ ท่านเกลียดชังพวกเขาและยังเกลียดชังตัวเองจนถึงขั้นคิดสั้น เราต้องเตรียมพร้อมรับมือให้ดี บิดาท่านยังมาสั่งข้าเอาไว้อีกว่าทำได้เพียงปกป้องท่านแต่ไม่อาจล่วงเกินพี่น้องของท่านเหล่านั้น”

หลวนหลงทดลองเดินปราณในร่างแต่ไม่สามารถทำได้ เขาไม่แปลกใจแล้วที่ตนจะถูกผู้อื่นรังแกและเกลียดชัง แดนมนุษย์ยังมีผู้ฝึกตน การเป็นทายาทในตระกูลใหญ่แต่ไร้ความสามารถ มันช่างน่าอับอายจริงๆ 

“หนึ่งเดือนสั้นเกินไปที่เราจะเตรียมการ อย่างมากข้าคงทำได้แค่เพียงทำให้ร่างนี้แข็งแรงขึ้นกว่าเก่าได้เท่านั้นกระมัง”

……….

ตลอดเวลา 1 เดือน คุณชายสี่อ๋าวหลวนหลงไม่เคยย่างกรายออกจากเรือนพักเลยแม้แต่ก้าวเดียว คนในตระกูลอ๋าวทุกคนล้วนเข้าใจว่าคุณชายสี่คงจะแสร้งล้มป่วยอีกตามเคย เมื่อใกล้จะถึงวันพิธีบูชาเทพเขาก็ต้องมีอันต้องเจ็บนั่นป่วยนี่เป็นประจำทุกปี

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวส่งตู้เม่ยมาคอยถามไถ่ชีวิตของหลานรักเป็นประจำด้วยความเป็นห่วง แต่นางก็มิอาจออกหน้ามากเกินไป เพราะหากนางยิ่งประคับประคองอ๋าวหลวนหลงเท่าใด ก็รังแต่จะสร้างความอิจฉาในหมู่พี่น้องที่ต้องการความโดดเด่นมากขึ้นเท่านั้น

คนที่น่าสงสารที่สุดในจวนตระกูลอ๋าวมิได้มีเพียงอ๋าวหลวนหลงคุณชายสี่ผู้อ่อนแอเท่านั้น อ๋าวซีซวนนายท่านสามก็เป็นอีกคนที่ถูกปรามาสไม่ได้รับเกียรติจากพี่น้องชายทั้งสี่เท่าใดนัก 

เป็นเพราะอ๋าวซีซวนนายท่านสามก็เป็นบุรุษที่อ่อนด้อยเรื่องการฝึกฝนผู้หนึ่ง เขาสุภาพเกินไปไม่นิยมชมชอบการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก ซ้ำยังรับเอาฟางลี่หงหญิงชาวบ้านไร้พลังมาเป็นภรรยา นางให้กำเนิดบุตรชายอ๋าวหลวนหลงผู้อ่อนแอมาอีกหนึ่งคน กลายเป็นข้อบกพร่องขนาดใหญ่เพียงครอบครัวเดียวในตระกูลอ๋าวสายหลักที่ยิ่งใหญ่

ศาลบรรพชน พิธีบูชาเทพประจำตระกูล

“เอ๋! นั่นเจ้าเต่าของพวกเรานี่ ครั้งนี้กล้าออกมาตั้งแต่วันแรกเลยเชียวหรือ?” อ๋าวหลวนหย่ง คุณชายห้ามองเห็นอ๋าวหลวนหลงเป็นคนแรก

เสียงซุบซิบและหัวเราะเยาะเบาๆ เริ่มดังขึ้นมาในกลุ่มทายาทสายหลักและสายรอง พร้อมกับสายตาจำนวนมากจากทั้งบุรุษและสตรีเพ่งมองไปยังร่างที่ดูดีกว่าแต่ก่อนของอ๋าวหลวนหลงโดยพร้อมเพรียงกัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 17 ชิงที่นั่ง

    อ๋าวซีซวนหน้าเสียไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขาเห็นแล้วว่าบุตรชายเพียงคนเดียวพยายามกินอาหารและออกกำลังให้ร่างกายแข็งแรงกว่าเดิมมาตลอด เมื่อวานเขายังเข้าไปพูดคุยกับบุตรชายอยู่เลยว่าให้แสร้งป่วยไปก่อนไม่จำเป็นต้องรีบออกมาไม่คิดว่าบุตรชายจะรีบออกมาปรากฏตัวตั้งแต่พิธียังไม่เริ่มด้วยซ้ำ ที่ผ่านมาการกระทำของอ๋าวหลวนหลงก็สร้างความไม่สบายใจให้ตนกับฟางฮูหยินไม่น้อย ด้วยเกรงว่าที่เขาเพียรพยายามออกกำลัง ก็คงทำเพื่อจะมาต่อยตีกับบรรดาพี่น้อง สุดท้ายก็ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปเสียทุกครั้งไปกล่าวตามจริงอ๋าวหลวนหลงก็ไม่ได้มีความมั่นใจถึงเพียงนั้น แต่ตระกูลอ๋าวจะทำพิธีบูชาเทพประจำตระกูลทั้งที ตนจะไม่อยากรู้อยากเห็นวิถีชีวิตของมนุษย์ที่ไม่มีวันจะได้ข้องเกี่ยวกับเหล่าเทพแล้วได้อย่างไร ยังมีเรื่องการเป็นผู้ฝึกตนอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่เขาตัดสินใจมาเข้าร่วมพิธีในวันนี้“คำนับท่านย่า ผู้อาวุโส ท่านลุง ท่านอา…” อ๋าวหลวนหลงเดินเรียงคำนับญาติพี่น้องในตระกูลโดยเริ่มจากผู้นำตระกูลคือกัวฮูหยินผู้เป็นท่านย่า จากนั้นก็เป็นบรรดาน้องชายของท่านปู่ที่เป็นบ้านสายรอง สายสาม สี่ ไล่เลียงไปจนถึงรุ่นบิดาที่ใช่ชื่อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-20
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 18 ศาลเทพมังกร

    พิธีบูชาเทพมังกรของตระกูลอ๋าวเริ่มจากการจุดธูปสักการะปักลงบนแท่นบูชากลางแจ้งขนาดใหญ่ตรงลานกว้างหน้าศาลบรรพชนประจำตระกูล มีผลไม้หลากหลายชนิด บ๊ะจ่างกับนกนางแอ่นย่างเป็นเครื่องถวายเพียงสามสิ่งเท่านั้น พวกเขาสร้างรูปปั้นมังกรเหยียบลูกแก้วสีดำสนิทเป็นตัวแทนในการบูชา กัวฮูหยินผู้นำตระกูลเป็นผู้กล่าวคำสวดเบาๆ ถ้อยคำเหล่านั้นอ๋าวหลวนหลงไม่อาจได้ยินว่าท่านย่าพูดอะไรบ้าง สุดท้ายก็เป็นการขอพรให้กับลูกหลานในสกุลอ๋าว แล้วคนอื่น ๆ จึงได้เข้าไปจุดธูปบูชาตามลำดับขั้นตอนง่ายๆ เพียงเท่านี้แต่กว่าจะแล้วเสร็จก็ใช้เวลาไปนานพอสมควร เพราะทายาทสกุลอ๋าวทั้งสายหลักสายรองที่มาเข้าร่วมพิธีมีราว 300 คน “ต่อไปก็เป็นการไหว้บรรพชน” ผู้อาวุโสหนึ่งคนเดิมประกาศเสียงดังหลังจากที่เห็นว่าทายาททุกคนได้บูชาเทพมังกรกันครบแล้วอ๋าวหลวนหลงรู้สึกอยากรู้อยากเห็นไปเสียหมดในเรื่องการบูชาเทพมังกรของชาวมนุษย์ เขารู้ดีในฐานะที่ตนก็เป็นหนึ่งในสมาชิกแดนสวรรค์ การเคารพบูชาเทพมังกรนี้หาได้ส่งผลไปถึงเบื้องบนแต่อย่างใด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเทพมังกรชอบกินบ๊ะจ่างกับนกนางแอ่นย่าง!เมื่อมาเห็นกับตาก็ยังไม่ได้รู้สึกพิเศษอันใดกับการเคารพเหล่านี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-20
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 19 ท้าทาย

    อ๋าวหลวนหลงยืนดูการต่อสู้สั้นๆ ที่ผู้อาวุโสในตระกูลไม่ปล่อยให้มันเลยเถิดเกินไปอยู่อีกหลายต่อหลายคู่ เมื่อมีคนชนะ ก็จะมีทายาทสกุลอ๋าวคนต่อไปเข้ามาท้าชิงไปเรื่อยๆ โดยเริ่มจากเด็กอายุน้อยและเริ่มสูงวัยขึ้นไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย“พี่สาม พวกเขาจะต่อสู้กันไปเช่นนี้แล้วจะสิ้นสุดที่ตรงไหน? ผู้ชนะย่อมเป็นผู้นำตระกูลที่มีวิชายุทธ์สูงกว่าผู้อื่นอยู่แล้วมิใช่หรือขอรับ” อ๋าวหลวนหลงอดรนทนไม่ไหว เขาดูการประลองระหว่างทายาทในตระกูลมานาน หากไม่มีการยุติอย่างไรท่านย่าผู้แข็งแกร่งก็ย่อมชนะ แล้วจะออกมาต่อยตีกันทำไมให้เจ็บตัว“ผิดแล้วหลวนหลง การต่อสู้นี้จะยุติตรงที่รุ่นเรา ผ่านมาหลายปีก็เป็นพี่ใหญ่หลวนเซี่ยเป็นผู้ชนะมาโดยตลอด รุ่นบิดาหรือรุ่นท่านปู่ท่านย่าเคยสลับกันเป็นผู้แพ้ผู้ชนะและได้ทดลองเปิดศาลเทพมังกรกันแล้วทั้งสิ้น แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดออกได้”อ๋าวหลวนหลงเริ่มเข้าใจแล้ว การต่อสู้เพื่อหาผู้ชนะในวันนี้ เป็นเพียงการคัดเลือกผู้ที่จะทำหน้าที่เปิดประตูศาลเทพมังกรนั่นเอง และยังมีกำหนดขอบเขตของรุ่นอาวุโสในสกุล“ยังมีผู้ใดจะเข้าร่วมการประลองอีกหรือไม่ ข้ารออยู่” อ๋าวหลวนตงคุณชายรองบุตรชายของนายท่านรองอ๋าวซี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-20
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 20 ไร้ประโยชน์

    อ๋าวหลวนตงได้พักเหนื่อยไปชั่วครู่ก็เรียกความมั่นใจของตนกลับมาเต็มที่ เขากำหมัดสองข้างเอาไว้แน่น ออกท่าทางวิชายุทธ์ที่ร่ำเรียนมาอย่างยากเย็นอยู่สองสามกระบวนท่าแล้วพุ่งตรงมาที่อ๋าวหลวนหลงด้วยความเร็วและพละกำลังทั้งหมดอ๋าวหลวนเซี่ยยืนอยู่ใกล้คนทั้งสองและเห็นการเคลื่อนไหวทั้งหมดของทั้งสองฝ่าย อ๋าวหลวนหลงเพียงแค่หายใจเข้าออกตามปกติแล้วยืนอยู่กับที่ ในขณะที่น้องรองพุ่งตัวเข้ามาด้วยความรวดเร็ว ภายในใจของคุณชายใหญ่รู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อยเป็นห่วงความปลอดภัยของอ๋าวหลวนหลงที่มีรูปร่างเล็กกว่าอ๋าวหลวนตง แต่นั่นอะไร?อ๋าวหลวนหลงยกขาแล้วก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เหยียดแขนสองข้างออกไปพร้อมกัน ใช้ฝ่ามือตั้งรับแรงกระแทกจากอ๋าวหลวนตงไว้ที่บริเวณหน้าอกของอีกฝ่าย"โครม!! ร่างสูงใหญ่กว่าของอ๋าวหลวนตงชายหนุ่มวัย 19 ปี กระเด็นออกไปไกลราว 20 ก้าว“-”เป็นอีกครั้งที่ผู้คนสกุลอ๋าวต้องเงียบเสียงลืมหายใจกันโดยพร้อมเพรียงคุณชายใหญ่อ๋าวหลวนเซี่ยเบิกตาโพลงอย่างไม่อยากจะเชื่อ น้องสี่แทบจะไม่ได้ขยับร่างกายสักนิด แต่กลับกลายเป็นว่าแรงของน้องรองที่โจมตีเข้าหาเขา ย้อนกลับมากระแทกร่างของอ๋าวหลวนตงให้กระเด็นออกไปชัดๆ“เจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-20
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 21 เปลี่ยนแปลงถ้วนหน้า

    “น้องสี่ โปรดรับคำขอโทษจากข้าเอาไว้ด้วย ที่ผ่านมาพวกเราล้วนผิดต่อเจ้า” อ๋าวหลวนเซี่ยมองซ้ายมองขวาแล้วก็เห็นมีแต่คนกล่าวโทษกันไปมาแต่ไม่มีผู้ใดเอ่ยปากขอโทษอ๋าวหลวนหลงเลยสักคน น้องชายยังคงยืนมองและฟังทุกสิ่งด้วยใบหน้านิ่งขรึมออกจะไปทางสมเพชคนเหล่านั้นด้วยซ้ำ เขาจึงตัดสินใจคุกเข่าลง“พี่ใหญ่ ท่านทำอะไร!” อ๋าวหลวนหลงถอยหลังไปหนึ่งก้าว แต่ด้วยนิสัยและตัวตนในฐานะที่เคยเป็นเซียน เด็กหนุ่มยังคงยืดหลังตรงไม่ยอมเข้ามาพยุงพี่ชายคนโตให้ลุกขึ้น“น้องสี่ได้โปรดสั่งสอนพวกเราทุกคนด้วย ความสำเร็จของตระกูลไม่สามารถเกิดขึ้นจากกลุ่มคนไม่กี่คน แต่ต้องเป็นพวกเราทุกคนที่จะก้าวหน้าไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าบ้านสายหลัก สายรองหรือสายไหนๆ พวกเขาสมควรได้รับโอกาสที่ทัดเทียม”อ๋าวหลวนหลงหัวเราะเสียงดังออกมาอย่างบ้าคลั่ง “พี่ใหญ่เรื่องความทัดเทียมกันในหมู่พี่น้อง คงไม่มีผู้ใดกระจ่างแจ้งเกินไปกว่าข้าแล้วกระมังขอรับ"เด็กหนุ่มจงใจหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้นแล้วปล่อยให้บรรดาคนสกุลอ๋าวไตร่ตรองกันเองในใจ ยามนี้สถานการณ์ในจวนตระกูลอ๋าวมันเปลี่ยนไปแล้ว ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นจึงจะกล่าวเสียงดังได้!!พี่น้องรุ่นหลวนในบ้านสายหลัก คุกเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-20
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 22 เมล็ดพันธุ์

    “เหยาจี หากหิมะละลายจนหมดแล้ว เจ้าคิดว่าพื้นที่ทุ่งหญ้าทางนี้เราจะปลูกผลไม้เพิ่มดีหรือไม่” “ปลูกเพิ่ม? เท่าที่มีก็มากพออยู่แล้วนี่เจ้าคะ เสบียงอาหารที่เราแลกเปลี่ยนมาจากการค้าผลไม้ก็มีพอกินไปอีก 2 ปีเลยทีเดียว พี่สี่เสินอยากได้เงินไปทำอะไรหรือ?”“ข้าก็ยังไม่รู้ ข้ารู้แค่ว่าเงินเป็นของที่ควรมีติดกายไว้ตลอดเวลา เจ้าอย่าลืมสิว่าเกาะลอยอาจพาพวกเราไปยังเมืองอื่น เราอาจต้องเริ่มทำการค้ากับคนกลุ่มใหม่ พวกเขาจะมีน้ำใจและซื่อสัตย์เหมือนอย่างท่านอาเกาหรือไม่ก็ไม่รู้”“ท่านคิดจะใช้แรงงานสัตว์พวกนั้นอีกล่ะสิ!” เด็กหญิงลุกขึ้นนั่งตัวตรง ทำหน้างอไม่พอใจ“ใช่ว่าข้าก็คิดเผื่อพวกมันด้วยหรือไม่เล่า! เราเอาผลไม้ที่ควรเป็นของพวกมันทั้งหมดมาขาย สัตว์บนเกาะต้องมาทนกินผลไม้ที่ถูกมดแมลงเจาะ หรือไม่ก็ลูกที่ไม่สวย หากเราปลูกเพิ่มพวกมันก็จะมีผลไม้ดีๆ กินด้วยนะ”“พื้นที่ทางทุ่งหญ้านี้ไม่ใช่น้อยๆ เลย กระรอก กระต่ายและลิงคงขุดดินไม่เป็นกระมัง พวกมันช่วยเราไม่ได้หรอกพี่สี่เสิน”“ใครว่าบนเกาะมีแค่สัตว์พวกนี้กันเล่า” มู่สี่เสินวางตำราในมือลงแล้วลุกมาหยิบผ้าห่มที่เหยาจีทำหลุดออกจากร่างเมื่อครู่มาห่มให้น้องสาว“มีสัตว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 23 คนเสียสติ

    ชายป่าเมืองหยุนไห่ เมืองเดียวกันกับเกาะจิงเหมิน“วั่งซู ดูนั่น! ทางนั้นมีบ้านเรือนมนุษย์” ซินหรูอี้กระโดดโลดเต้นไปมาหลายรอบจนเวยวั่งซูต้องส่งสายตาตำหนิหญิงสาวข้างกาย“รักษากิริยาของเจ้าไว้หน่อยหรูอี้ อย่าให้มนุษย์มาดูแคลนเซียนอย่างเราได้เชียวว่าไร้มารยาท”“โอย!! เราสองคนซัดเซพเนจรอยู่กลางป่ากลางเขามานานหลายเดือนยังไม่เคยพบมนุษย์เลยสักคน ท่านจะให้ข้าคอยหลบสายตาผู้ใดกัน อีกอย่างเวลานี้เราสองคนหาใช่เซียนไม่ รีบไปเถิดข้าหนาวจะแย่อยู่แล้ว”เวยวั่งซูกลอกตามองสตรีข้างกายอีกรอบหนึ่งด้วยความรู้สึกขัดใจ แต่ก็รีบก้าวขายาวขึ้นให้ทันคนข้างหน้าที่ออกวิ่งไปก่อนแล้วเวยวั่งซูปรากฏตัวยังแดนมนุษย์ในกระท่อมเล็กเก่าผุพังเพียงลำพังกลางป่าเขา ทุกวันเขาจะนั่งบำเพ็ญเพียรตามความเคยชินเพื่อปรับสมดุลของร่างกายและสร้างปราณใหม่ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความหิว เริ่มออกหาอาหารในป่าและเรียนรู้การดำรงชีวิตในฐานะมนุษย์จนกระทั่งเข้าสู่ฤดูหนาวกระท่อมซอมซ่อหลังนั้นก็พังลงจากการรับน้ำหนักหิมะบนหลังคาไม่ไหว เขาจึงต้องออกเดินทางค้นหาบ้านเรือนผู้คน และได้พบกับซินหรูอี้ที่นอนเหน็บหนาวซ่อนตัวอยู่ใต้ใบไม้กองใหญ่ พวกเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21
  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 24 เซียนปล้นทรัพย์

    “เพ้อเจ้อ!” ซินหรูอี้โมโหจนหน้าดำหน้าแดง มนุษย์พวกนี้จะไปรู้อะไร! ตัวนางเองก็บ่มเพาะวิชายุทธ์ในสายเทพสัตว์เช่นกัน เสียงจิ้งหรีดกรีดร้องที่นางฝึกฝนในระดับกลางสามารถทำให้คนหูหนวกได้เลยเชียวนะ! นางยังมีความฝันจะได้เป็นเทพจิ้งหรีดอยู่เลย“หรูอี้ เจ้าใจเย็นลงก่อน” เวยวั่งซูรีบห้ามปราบสตรีผู้กำลังจะบันดาลโทสะไปอีกรอบไม่แปลกที่มนุษย์จะไม่รู้ว่าทวยเทพมีจำนวนมากมายเพียงใด เพราะพวกเขาขาดการติดต่อกับแดนสวรรค์มาเนิ่นนาน ส่วนคนในตระกูลใหญ่ที่พวกเขายังจดจำได้ ก็อาจเป็นเพราะความมั่งคั่งของพวกเขาจึงมีการถ่ายทอดเรื่องราวออกมาเป็นตัวหนังสือหรือสิ่งของบางอย่างส่งต่อมายังคนรุ่นหลังชาวบ้านธรรมดาต้องต่อสู้กับความหิวโหย ละเลยเรื่องการฝึกตนไปหลายต่อหลายรุ่น จนในที่สุดแม้แต่การรวบรวมลมปราณก็ยังมีการสอนกันเฉพาะในตระกูลใหญ่ และเข้าใจผิดไปว่าเป็นเพราะตระกูลใหญ่มีการบูชาเทพจึงได้รับโอกาสให้เป็นผู้ฝึกตนเท่านั้น“เราสองคนไม่ได้ถือกำเนิดจากตระกูลใหญ่โต เราพักอาศัยอยู่ในป่าที่กันดารโดยต้องหาอาหารเลี้ยงปากเลี้ยงท้องด้วยสองมือทั้งสิ้น การฝึกฝนเป็นเรื่องที่คนเราสามารถทำได้ไม่ใช่เป็นเพราะคนเหล่านั้นถือกำเนิดจากตระกูลให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-21

บทล่าสุด

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 40 คนโง่เขลา

    อ๋าวหลวนหลงพาอดีตเซียนที่มาเข้าร่วมกับฝ่ายตนเดินทางไปด้วยกันอีกสี่คนไม่นับรวมเขากับฝูซี แต่ไม่ยินยอมให้ทายาทหรือผู้ติดตามคนอื่นจากสกุลอ๋าวร่วมทางมาด้วยอีกเลยนอกจากอ๋าวหลวนหย่งตลอดสามปีที่ผ่านมาด้วยการทำงานหนักของอ๋าวซีเค่อกับอ๋าวหลวนตงที่ออกไปเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลใหญ่ที่เคยรู้จักกันมาก่อน รวมกับภายหลังฝูซีและเวยวั่งซูก็ออกไปรวบรวมท่านเซียนไร้สกุลที่ยังเคว้งคว้างอยู่มาเข้ากลุ่มกันไว้ก็มีไม่น้อย ทำให้ขอบเขตของกองกำลังสกุลอ๋าวยังมีแนวร่วมที่กระจายตัวอยู่ในหลายเมืองในเขตเทือกเขาที่มีทายาทสกุลอ๋าวสายรองมาคอยดูแลอยู่ เมื่อพวกเขาเห็นอ๋าวหลวนหลงเดินทางผ่านทางมาก็รีบเข้าไปทักทาย“คุณชายสี่ คุณชายห้า พวกท่านกับสหายจะไปที่ใดกันหรือขอรับ”“เรากำลังจะข้ามไปที่เมืองหยวนเปียว ทางนี้มีอะไรผิดปกติหรือไม่” “ไม่มีขอรับ เขตแนวภูเขาฝากนี้มีกองกำลังที่เป็นมิตรกับสกุลอ๋าวของเราไม่น้อย แต่ที่เมืองหยวนเปียวไม่ใช่ว่าเป็นเขตติดต่อของสกุลเหลาหรอกหรือคุณชาย”“ใช่ ข้ามีธุระต้องไปทำแถวนั้นพอดี พวกเจ้าตามสบายเถิดพวกเราจะเร่งเดินทางกันต่อ”“รอก่อนคุณชายสี่! เมืองหยวนเปียวไม่น่าจะปลอดภัยเท่าใดนัก ข้าจะไปตามคนให้ต

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 39 ข่าวลับ

    “แต่ข้ายังไม่เข้าใจอยู่บ้างเจ้าค่ะ หากสัตว์เลี้ยงของข้ายังคงมีอายุขัยยืนยาวดังเดิม พวกมันบางตัวที่ได้กินท้อโอสถแล้วพูดได้ทำไมจึงไม่พูดคุยกับข้าบ้าง”“ทางเดียวที่เราจะรู้คำตอบได้ก็คือข้าต้องรีบรวบรวมลมปราณให้สำเร็จ แล้วฟื้นฟูความสามารถเรื่องการสื่อสารกับพวกมันอีกครั้ง”“ใช่แล้ว!! ท่านเป็นทูตสวรรค์มาก่อนนี่นา ท่านสามารถสื่อสารกับสัตว์เทพและสัตว์ต่างสายพันธุ์บนแดนสวรรค์ได้ พี่สี่เสินของข้ายอดเยี่ยมที่สุดเลย”“เห็นหรือไม่เหยาจี แม้ว่าข้าจะไม่เคยฝึกฝนการต่อสู้แต่ความสามารถในการสื่อสารของข้าก็ยังเป็นประโยชน์ได้ เจ้าเองก็อย่าละเลยเรื่องการรวบรวมปราณเด็ดขาดเลยเชียว”“แต่พี่สี่เสิน ถึงแม้เวลานี้เราจะยังไม่รู้ว่าสัตว์เลี้ยงของข้าจะพูดได้ดังเดิมหรือไม่ แต่ข้าเชื่อว่าพวกมันกำลังปกป้องเราอยู่ แล้วอย่างนี้พี่ยังคิดจะออกจากเกาะไปเรียนวิชายุทธ์อีกหรือเจ้าคะ”“ท่านอาเกาบอกว่าผู้ฝึกตนในยุคนี้ต่างจากยุคก่อน พวกเขาก้าวหน้ามากขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการเข่นฆ่าสังหารกันเกิดขึ้น เรายังวางใจไม่ได้นะเหยาจี”“แล้วเซียนสายพฤกษาอย่างข้าจะฝึกฝนอะไร ความทรงจำเดิมของข้าก็ไม่เคยมีเรื่องที่เกี่ยวกับพลังการโจมตีแม้แต่น้อย

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 38 ปีศาจ

    “พวกท่านพายต่อไปหาเหยาจี นางอยู่ข้างหลังข้า!” มู่สี่เสินต้อนเรือเล็กให้เข้ามาในพื้นที่เกาะลอยทีละลำ บนเรือแต่ละลำมีชาวบ้านที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่หลายคนรวมทั้งครอบครัวของหนูน้อยหนิงเอ๋อร์ที่เหยาจีเคยช่วยเหลือเอาไว้ด้วย“ท่านอาหญิงแล้วท่านอาเกาเล่าเจ้าคะ” “สามีข้ากับสหายควบคุมเรือใหญ่ที่บรรทุกเสบียงอาหาร เรือหนักมากมันเคลื่อนตัวได้ช้า ข้าก็ห่วงเขาเหลือเกิน เจ้าสองคนช่วยพวกเขาได้หรือไม่”“ท่านอาหญิงใจเย็นๆ เจ้าค่ะ เราต้องรอให้เขาเข้ามาถึงเขตของเกาะลอย ข้ามั่นใจว่าพวกเขาจะปลอดภัย”“ท่านอา หากคิดว่าไม่ทันท่านโดดลงน้ำว่ายมาหาข้า!! ทิ้งเรือไปเสีย! ทิ้งเรือไป!” เสียงมู่สี่เสินตะโกนซ้ำไปซ้ำมาอยู่เบื้องหน้า เกาโหลวกับกู้หยุนควบคุมเรือร่วมกับสหายลำละสี่คน พวกเขาหันมาสบตากัน แม้ว่าจะมีชาวบ้านเต็มใจจะเข้ามาอาศัยอยู่ที่เกาะลอยไม่ถึง 40 คนเท่านั้น แต่พวกเขาก็ใช้เงินของมู่สี่เสินแจกจ่ายให้ชาวบ้านคนอื่นแยกย้ายกันไปตั้งหลักที่อื่นไม่น้อย เสบียงอาหารในเรือทั้งสองลำที่ซื้อมาด้วยเงินของสองพี่น้องสกุลมู่พวกเขาไม่อาจทิ้งมันไปได้“ออกแรงอีก! อีกนิดเดียวเท่านั้น!”ทางฝ่ายมู่เหยาจีนางและชาวบ้านที่ข้ามเขตมาแ

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 37 คืนที่มืดมิด

    “เหยาจี เมื่อครู่ท่านอาเกาบอกเรื่องหนึ่งกับข้าซึ่งเจ้าก็ควรจะรู้ไว้เช่นกัน”มองดูใบหน้างามของน้องสาวแล้วมู่สี่เสินก็รู้สึกเศร้าหมองเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าตนเองและน้องสาวจะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบบนเกาะลอยที่ปลอดภัยได้อยู่แล้วเชียว“บนแผ่นดินใหญ่ยังคงมีผู้ฝึกตนอาศัยอยู่ ดูเหมือนว่าเราจะลงมายังแดนมนุษย์ในช่วงเวลาที่พวกเขากำลังจะฟื้นฟูการฝึกฝนกันเข้าพอดี”“ผู้ฝึกตน? ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ข้าจำได้ว่าท่านมหาเทพมู่ซีบอกว่าแดนสวรรค์ยึดสมบัติเทพ สิ่งของแทนเทพรวมทั้งพืชผักผลไม้เสริมปราณจากแดนมนุษย์ไปหมดแล้ว พวกเขายังอยากจะฝึกฝนกันอยู่อีกหรือเจ้าคะ”“ใช่ นั่นก็เป็นเพียงการคาดเดาของเหล่าทวยเทพในอดีต พวกเขาคิดว่ามนุษย์ไม่สามารถขึ้นมาแดนสวรรค์ได้อีก ก็คงล้มเลิกความคิดในการฝึกฝนไปในที่สุด แต่เวลานี้เราก็ได้รู้แล้วว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น”“นี่คือเรื่องที่ท่านอาร้อนใจจนต้องพายเรือมายามดึกดื่นเพื่อเตือนพวกเราสองคน?”“นั่นก็ใช่อีก จากที่ท่านอาเกาเล่าให้ข้าฟังเมื่อครู่ เมื่อก่อนผู้ฝึกตนก็ต่างคนต่างอยู่ แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาอยู่ดีๆ ก็เกิดสำนักและตระกูลใหม่ที่โดดเด่นขึ้นมาไม่น้อย พวกเขาไม่เคยมีผู้นำจึงกำลั

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 36 เตือนภัย

    “นั่นสี่เสินแน่แล้ว! เราขยับเข้าไปใกล้กองไฟอีกสักนิดให้เขาเห็นเราชัดๆ จะดีกว่า”มู่สี่เสินจ้องมองตำแหน่งของวัตถุสีขาวที่ขยับไปมาอยู่ตลอดเวลา เมื่อเรือของเกาโหลวและกู้หยุนเคลื่อนที่มาใกล้กองเพลิงเขาจึงได้เห็นว่าเป็นเกาโหลวและกู้หยุนกำลังโบกผ้าสีขาวในมือไปมาอยู่บนเรือ“ท่านอาเกา!! ท่านอากู้!! เกิดอะไรขึ้นขอรับเหตุใดจึงมาที่นี่กลางดึกเช่นนี้” ชายหนุ่มรีบเร่งฝีพายเข้ามาหาคนทั้งคู่และได้เห็นว่าทั้งสองกำลังช่วยกันวิดน้ำดับกองไฟที่จุดเผาเรือลำเก่าที่ตนเคยใช้กันพัลวัน“ช่วยกันดับไฟก่อนที่ใครจะสังเกตเห็นก่อนสี่เสิน เดี๋ยวเจ้าพาเราสองคนเข้าไปที่เกาะลอยแล้วค่อยคุยกัน”ดับไฟและจมซากเรือลำเก่าลงสู้ก้นทะเลแล้ว คนทั้งสามก็ยังคงลอยเรือจับตาดูความเคลื่อนไหวบนผืนน้ำรอบๆ อยู่อีกพักใหญ่ จนเกาโหลวแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดตามมา มู่สี่เสินจึงได้พาคนทั้งคู่กลับมาที่เกาะลอย“ท่านอาเกา ท่านอากู้ เป็นพวกท่านเองหรือเจ้าคะ! เกิดอะไรขึ้นกันแน่ แสงไฟเมื่อครู่เกิดขึ้นได้อย่างไร” มู่เหยาจีย่ำลงน้ำเดินมาหาคนทั้งสามอย่างร้อนใจ“เหยาจี น้ำเย็นมากเจ้าทำไมไม่ไปรอข้างบนฝั่ง รีบกลับขึ้นไปก่อน”“จะให้ข้ายืนรอเฉยๆ ได้อย่างไรพี่สี่เ

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 35 วิตกกังวล

    วันต่อๆ มามู่สี่เสินและมู่เหยาจีก็ได้เรือขนาดใหญ่ลำใหม่จากการช่วยเหลือของหัวหน้าหมู่บ้านเกาโหลวมา 2 ลำ พวกเขาจึงคืนเรือสองลำเดิมรวมทั้งแพให้กับเกาโหลวไป “เรือสองลำนี้เราบรรจุผลไม้ได้ถึง 160 ตะกร้าเลยทีเดียวขอรับ ครั้งนี้การทยอยเอาผลไม้ทั้งหมดออกจากเกาะลอยคงเสร็จเร็วกว่าเก่า”“พวกเจ้าปลูกต้นท้อเอาไว้อีก 200 กว่าต้นมิใช่หรือ ข้าว่าคงจะใช้เวลา 3 เดือนดังเดิมนั่นล่ะ นอกจากเรือแล้วเจ้าอยากได้สิ่งใดบ้าง ข้าจะได้เตรียมการหาซื้อไว้ให้ตั้งแต่เนิ่นๆ"“ข้าวสารขอรับ แล้วก็ผ้า หากลมหนาวมาเยือนอีกครั้งข้าไม่มั่นใจว่าเกาะลอยจะพาเราไปที่ใดอีก และยังไม่รู้ว่าจะนานเท่าใดมันจึงจะยอมเคลื่อนตัวอีกครั้ง เสบียงอาหารของใช้จำเป็นอะไรเพิ่มเติมจากนี้ข้าจะให้เหยาจีจดมาส่งให้ท่านเอง”ระหว่างที่เกาโหลวกับมู่สี่เสินกำลังสนทนากันอยู่ ร่างสามร่างของอู๋ฉ่าง นางลู่และอู๋หนิง ก็เดินถือตะเกียงฝ่าความมืดตรงเข้ามาบริเวณเรือที่รับส่งสินค้า“คุณชายคุณหนู เราสามคนมาขอบคุณพวกท่านขอรับ” อู๋ฉ่างเป็นคนนำภรรยาและบุตรสาวคุกเข่าลงกับพื้นโขกศีรษะคำนับสองพี่น้องด้วยความรู้สึกขอบคุณจากใจ“พี่ชาย พี่สาว!! ท่านลุกขึ้นก่อน! ไม่เห็นต้องทำ

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 34 ผลไม้มงคล

    ได้ยินเช่นนี้ทั้งมู่สี่เสินและมู่เหยาจีต่างก็ดีใจกันมาก ครั้งนี้โชคดีที่เกาะลอยยอมเคลื่อนที่มาที่เกาะจิงเหมิน พวกเขาจำเป็นต้องสะสมเสบียงอาหารไว้ให้มากกว่าเดิม ป้องกันการขาดแคลนในอนาคตหากว่าเกาะลอยเคลื่อนตัวไปอยู่กลางมหาสมุทรที่ห่างไกลอีกครั้ง“ดีเลยเจ้าค่ะ อีกครึ่งเดือนผลท้อบนเกาะก็น่าจะพร้อมเก็บเกี่ยวแล้ว เราจะได้เอาพวกมันมาขายด้วย”“ผลท้อ? ผลท้อหน้าตาเป็นอย่างไรหรือหลานสาว"“ก็ลูกสีแดงๆ ขนาดประมาณเท่านี้อย่างไรเจ้าคะ” มู่เหยาจีทำมือกะขนาดให้เกาโหลวดู“นั่นมันผิงกั่ว (แอปเปิ้ล) ไม่ใช่หรือ? ก็ไหนพวกเจ้าว่าบนเกาะลอยไม่มีผิงกั่วอย่างไรเล่า?"“ไม่ใช่เจ้าค่ะ ไม่ใช่ผิงกั่ว ดอก ผล ใบและกิ่งท้อล้วนเป็นสิ่งที่เป็นมงคลทั้งสิ้นท่านอาเกาไม่รู้เรื่องนี้หรือเจ้าคะ”เกาโหลวกับชาวบ้านขมวดคิ้วพยายามคิดถึงผลไม้ดังกล่าว แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีผู้ใดเคยได้ยินชื่อหรือสรรพคุณที่ดีงามของผลไม้ชนิดนี้มาก่อนเลยสักคนเดียว“เอาไว้ข้าข้ามไปแผ่นดินใหญ่แล้วจะลองถามคนที่นั่นดู บางทีอาจเป็นผลไม้ทางเหนือที่เมืองหยุนไห่ของพวกเราไม่เคยรู้จักก็เป็นได้”มู่สี่เสินและมู่เหยาจีตาเป็นประกายขึ้นมาทันที หากผลท้อไม่มีปลูกที่เม

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที่ 33 ความต้องการเดิม

    หลายวันต่อมาสองพี่น้องก็ทำงานร่วมกันได้ตามปกติ มู่เหยาจียังเสนอตัวจะเย็บชุดต่อกันให้กับมู่สี่เสินบ้าง แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธเสียงแข็ง“ให้ข้าใส่ชุดน่าเกลียดเช่นนั้น ข้ายอมแก้ผ้าเดินรอบเกาะยังจะดีเสียกว่า!!”“ท่านมันปากเสีย! ดี แก้ผ้าเดินไปเลย อยู่กับลิงมากท่านก็จะเหมือนลิงเข้าไปทุกทีแล้ว จริงสินะพวกมันก็ไม่ใส่เสื้อผ้าเช่นกันนี่นา!” มู่เหยาจีบ่นไปเรื่อยเปื่อย แต่ลิงน้อยพากันล้มตัวลงนอนแผ่หลาไปกับพื้นกันเป็นแถว พอตั้งสติได้พวกมันก็เข้าไปรุมดึงเสื้อผ้าของมู่สี่เสินคล้ายกำลังประท้วงว่าพวกมันก็อยากใส่เสื้อผ้าเช่นกัน“เหยาจี พวกมันฟังเรารู้เรื่องทุกอย่างเลยใช่ไหมนี่!! เจ้ามาช่วยข้าด้วย!!” มู่สี่เสินส่งเสียงขอความช่วยเหลือจากน้องสาวไป มือก็ปัดป้องต่อสู้กับลิงไป“ลิงน้อย อย่าเสียมารยาทกับพี่ชายสิ พวกเจ้าไม่ใช่มนุษย์ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้า เจ้าดูเอาเถิดเขาน่าเกลียดถึงเพียงนั้นพวกเจ้ายังอยากได้เสื้อผ้าจากเขาอีกหรือ?” ฝูงลิงสิบกว่าตัวหยุดชะงักลงทันใด พวกมันกระโดดลงจากร่างของมู่สี่เสินมายืนอยู่ตรงกลางระหว่างคนทั้งสอง หันมองซ้ายทีขวาที แล้วก็เบ้หน้าทำปากเบี้ยว เสื้อผ้าของมนุษย์สองคนนี้ไม่น่าสวมใส

  • สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี   ตอนที้่ 32 หลบหน้า

    ชั่วพริบตาเดียวเวลาก็ล่วงผ่านไปนานถึง 3 ปี“พี่สี่เสิน ข้าชักอยากให้เกาะลอยเคลื่อนที่บ้างเสียแล้วล่ะ ข้าวสารกับแป้งของเราหมดไปตั้งแต่เมื่อ 6 เดือนก่อนแล้ว ข้ากินแต่ผลไม้ กับพวกกุ้งปลาจนหน้าข้าจะยาวเป็นกุ้งอยู่แล้วเจ้าค่ะ”มู่สี่เสินพรวนดินใต้ต้นท้อที่เติบโตและกำลังออกผลเล็กๆ มากมายต่อไปโดยที่ไม่ได้หันมามองน้องสาว“อีกไม่นานเจ้าก็จะมีผลท้อกินแล้ว พวกมันโตเร็วและมากมายถึงเพียงนี้เจ้ากินได้อีกนานหายเบื่อแน่นอนเหยาจี”“เราอยู่กันแค่สองคน ต่อให้เด็ดลงมาแจกจ่ายให้สัตว์ทั้งเกาะกินด้วยอย่างไรก็กินไม่หมด ข้าอยากขายผลท้อจัง อยากรู้ว่าหัวหน้าหมู่บ้านเกาโหลวจะคิดราคาให้พวกเราเท่าใด”ในที่สุดมู่สี่เสินก็หยุดมือจากการทำงาน ลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงใช้ฝ่ามือหนาปัดฝุ่นที่เลอะเสื้อผ้าออก ยามนี้มู่สี่เสินเป็นชายหนุ่มวัย 17 ปีแล้ว เขาตัวสูงใหญ่จนเสื้อผ้าที่เคยใส่สั้นเต่อมาถึงหน้าแข้ง แขนเสื้อก็ดูคล้ายจะหดสั้นลงจนดูน่าขัน “ข้าก็คิดถึงคนในหมู่บ้านจิงไห่เช่นกัน เสียดายที่ครั้งนั้นข้าเลือกซื้อเสบียงอาหารแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อเรือกลับมา ไม่เช่นนั้นข้าจะพาเจ้าพายเรือออกไปท่องเที่ยวนอกเกาะบ้าง”“ต่อให้เราซื้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status