แค่ได้อยู่ใกล้ ๆ จะสถานะไหนหนูก็ยอมได้ทั้งนั้น.... นิยามคำว่ารักของคนอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้... แต่สำหรับ 'เพียงพราว' แล้ว การได้อยู่ข้าง ๆ เขา ไม่ว่าจะในสถานะไหน ขอแค่ในทุกเช้าที่ตื่นมาแล้วได้เห็นหน้าเขาเป็นคนแรกเธอก็ถือว่านั่นคือความสมบูรณ์ที่สุดสำหรับนิยามแห่งคำว่ารักของเธอแล้ว ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเขาจะยังอยู่ภายใต้ของคำว่า 'สถานะที่ซับซ้อน' และถึงแม้มันจะคลุมเครือมายาวนาน และจะยังคงเป็นความลับตลอดไป แต่มันก็คือความสุขเท่าที่หัวใจของเธอจะรู้สึกได้แล้ว แม้ว่าความสุขที่เขามอบให้จะเป็น แค่ภายในห้องนอน บนเตียงหรือที่ระเบียงก็ตาม
View Moreภายในร้านอาหารหรูในเครือตระกูลดังมีหญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มดวงตากลมโตผูกผมเป็นหางม้าประดับด้วยโบว์เล็กสีขาวน่ารักเข้ากับชุดพนักงานสีเดียวกันกำลังเก็บกวาดโต๊ะอาหารจัดเก็บจานและแก้วน้ำใส่รถเข็นอย่างช่ำชอง วันนี้เธอทำมันอย่างรวดเร็วจนเพื่อนร่วมงานตะลึง เพราะภายในไม่กี่นาทีเธอก็สามารถจัดการโซนที่รับผิดชอบจนเสร็จเรียบร้อย
"เสร็จสักที" หญิงสาวบอกกับตัวเองพลางมองนาฬิกาข้อมือ พอเห็นว่าใกล้เวลาเลิกงานแล้วก็รีบเข้ามาเคลียร์ของที่หลังร้านต่อ แน่นอนว่าเธอจัดงานมันภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที จนพี่คนสนิทในครัวเอ่ยแซว "จะรีบอะไรขนานนั้นเพียงพราว ทำอย่างกับมีนัดออกเดทอย่างนั้นแหละ" หญิงสาวได้แต่ยิ้มแทนคำตอบ "หนูไปก่อนนะคะ วันจันทร์เจอกันค่ะพี่ สวัสดีค่ะ" เพียงพราว สาวสวยวัยยี่สิบสองยกมือไหว้แม่ครัวสาวคนสนิทที่ทำงานด้วยกันมาหลายปีอย่างอ่อนน้อม และไม่ลืมไหว้อีกหลายๆ คนที่อยู่ในนั้นด้วย ทุกสายตามองเธอด้วยความเอ็นดูและภาวนาให้เธอได้เจอคนที่ดีๆ อย่าให้คนไม่ดีเข้ามาในชีวิตอีกเลย เพียงพราว เด็กสาวกำพร้า แม่เสียชีวิตด้วยโรคร้ายตอนเธอกำลังจะขึ้นมอปลาย ส่วนพ่อแท้ๆ นั้นเสียชีวิตตั้งแต่เพียงพราวอายุไม่ถึงสามขวบ พ่อที่ตามติดชีวิตเธอเป็นปลิงอยู่ในตอนนี้คือพ่อเลี้ยง แต่ในความโชคร้ายยังมีความดี ที่เพียงพราวได้เจอคนที่ดีกับอย่างคาร่า เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอ คาร่าคือลูกสาวคนเล็กของตระกูลดัง ตระกูลที่ร่ำรวยติดอันดับของประเทศ ครอบครัวของคาร่ามีธุระกิจมากมาย ทั้งธุรกิจสีขาวและธุรกิจสีเทา หรือที่ทุกรู้จักกันในนามมาเฟีย เพียงพราวสนิทกับคาร่าตอนมอต้น ในตอนนั้นเพียงพราวได้ทุนเรียนฟรีที่โรงเรียนหญิงล้วนที่ครอบครัวคาร่าเป็นเจ้าของ ด้วยความที่เป็นเด็กทุนเพียงพราวจึงไม่มีเพื่อนคบ ถึงเธอจะนิสัยดีจริงใจและเอาใจใส่กับคนรอบข้าง แต่ความจนก็ทำลายภาพลักษณ์พวกนั้น ทุกคนมองเธอแค่ภายนอก ต่างจากคาร่าที่ยอมคุยกับเพียงพราว คาร่าบอกตามตรงว่าเธอไม่ชอบคนตอแหลอย่างพวกนั้น เลยคบกับเพียงพราว ทั้งสองคนมีอะไรหลายๆ อย่างที่เข้ากันได้ ถึงนิสัยจะต่างกันสุดขั้วแต่ก็คบกันอย่างจริงใจ อาจจะเป็นเพราะเพียงพรางไม่เคยต้องการอะไรจากคาร่าเลย นอกจากมิตรภาพที่ดี ทำให้ทั้งสองคนคบกันยาวนานจนถึงปัจจุบัน การได้พบเจอคาร่าทำให้ชีวิตของเพียงพราวเปลี่ยนไปมากๆ ราวกับได้ชีวิตใหม่ เธอได้งานที่ดีทำ ได้ที่พักอาศัยที่ปลอดภัยไม่ต้องคอยระแวงพ่อเลี้ยงจอมหื่น แล้วยังได้สังคมที่ดีขึ้น เพราะแบบนี้ไง เธอถึงรักเพื่อนคนนี้มาก ครืดดๆๆๆ Kara (ออกมาได้แล้ว ถ้าไปขึ้นเรือไม่ทะ...) "โอเคๆ ออกไปเดี๋ยวนี้เลย" เพียงพราวตอบคนในสายพร้อมกับวิ่งออกมาจากหลังร้าน มาถึงก็เจอรถคันหรูจอดอยู่ และมักจะมารอแบบนี้อยู่บ่อยๆ ราวกับเป็นรถส่วนตัว "ทำไมต้องตรงเวลาขนาดนี้ด้วย ฉันบอกให้หยุดก็ไม่หยุดถ้าขึ้นเรือไม่ทันละก็..." "ทันอยู่แล้ว ออกรถได้เลยค่ะพี่" เพียงพราวเอ่ยแทรกเพื่อนสนิททันที เมื่อคาร่าเริ่มวีนตามนิสัยเอาแต่ใจของเธอ ขณะการเดินทางคาร่าก็ยื่นกระเป๋าให้เธอทันที ก่อนจะเอ่ยบอกเธอด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ " เปลี่ยนชุดซะเรือจะออกแล้ว" คาร่าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เมื่อวันนี้เป็นวันเกิดของพี่ชายเธอ ที่ชวนแต่คนสนิท ไม่แม้แต่ชวนน้องสาวอย่างคาร่า เพราะไม่อยากปวดหัวกับน้องสาวที่คลั่งเพื่อนสนิทเขาเอามากๆ แต่ไม่มีอะไรเกินความสามารถของคาร่าเพราะเธอสามารถเข้าไปในงานนี้ได้อย่างที่ไม่มีใครรู้ เพียงพราว ใจเต้นแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อนึกถึงเจ้าของงานวันเกิด และของขัวญในกระเป๋าที่เธอเตรียมไว้ให้ผู้ชายที่เธอแอบรักตั้งแต่ปีหนึ่งตอนนี้ก็สามปีแล้วสินะที่เธอแอบรักพี่ชายเพื่อนสนิทอย่าง มาเวลล์ เมื่อมาถึงสถานที่นัดรวมตัวของเพื่อนพี่ชายคนสนิทของคาร่า เพียงพราวทำได้เพียงยืนมองเพื่อนสนิทเธอกำลังทะเลาะกับการ์ดหน้างาน เพราะเขานั้นไม่ยอมให้พวกเธอเข้าไป คาร่าวีนจนทำให้การ์ดแถวนั้นหน้าเสียกันเป็นแถว ถึงจะเป็นคนของพ่อเธอ ทว่าคนพวกนี้ได้รับคำสั่งจากเจ้าของวันเกิดอย่างมาเวลล์ ว่าไม่ให้น้องสาวตัวดี ขึ้นมาบนเรือเด็ดขาดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เพราะเธอนั้นคือตัวปัญหาบ้าผู้ชายจนทำให้พี่ชายอย่างเขาปวดหัว ทว่าความเจ้าเล่ห์ของคาร่านั้นมีมากโขไม่ต่างจากมิราคนเป็นแม่ เธอใช้ไม้เด็ดโดยแสร้งโทรหาคนเป็นพ่อ และรีบวิ่งเข้าไปบนเรือในตอนที่การ์ดเผลอ ก่อนจะแอบในห้องๆ หนึ่ง เป็นเวลาพอดีกับที่เรือออกจากท่า คาร่าบีบแก้มเพื่อนสาวอย่างเพียงพราวด้วยความดีใจ ทั้งสองหัวเราะออกมาพร้อมกัน เมื่อเห็นสภาพตัวเองต้องมาหลบอยู่ใต้โต๊ะ ทั้งสองคนสนิทกันมาก เพราะมีกันแค่สองคน คาร่าค่อนข้างหยิ่งและไม่คบใครง่ายๆ ส่วนเพียงพราวก็ไม่มีใครยอมคบเพราะเธอเป็นคนจนที่มากจากป่าจากดอย -ด้านมาเวลล์- ที่กำลังเทกยาเสพติดชนิดใหม่ตัวหนึ่งอย่างหนักกับเพื่อน ๆ จริง ๆ เขานั้นก็ไม่เสพติดยาชนิดไหน ทว่าวันนี้มันเป็นวันพิเศษเขาจึงจัดหนักจัดเต็มทั้งเหล้าและยา มาเวลล์ในตอนนี้ กำลังลิ้มรสในความสุขอย่างเต็มที่กลิ่นฟิโรโมนคละคลุ้งไปทั่วบริเวณห้อง ก่อนที่ลูกน้องคนสนิทจะเดินเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน " คุณคาร่ากับเพื่อนของเธอแอบขึ้นมาบนเรือครับ" มาเวลล์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันไปเอ่ยบอกเพื่อนสนิทตัวเองด้วยท่าทีเหนื่อยหน่าย " ช่วยไม่ได้ มึงเตรียมปวดหัวได้เลยไอ้พายุ" ตอนแรกมาพระเอกเราก็เทกยาไปเลยสิคะ ฝากเอ็นดูนุงเพียงพราวด้วยนะคะ ^^ คอมเม้น. กดหัวใจ เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์หน่อยนะคะ ทุก ๆ คอมเม้นท์ คือกำลังใจของไรท์นะคะ:) sdsวันเวลาผ่านไปนานถึงสามสัปดาห์งานวิวาห์ก็มาถึง เพียงพราวเดินย่างกรายเข้ามาในโบสถ์ท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่เธอเคยวาดฝันว่าสักวันคงได้มีโอกาสยืนข้างๆ เขา มาเวลล์ยืนมองเรือนร่างหญิงสาวไม่ละสายตา เพียงพราวเริ่มมีท่าทีประหม่าเล็กน้อย เมื่อถูกจับจ้องด้วยสายตาที่ชวนหลงใหลนานเกินไป มือแกร่งค่อยๆ จูงมือเจ้าสาวของตัวเองเข้าพิธีวิวาห์ทันที เพราะตอนนี้ในหัวของชายหนุ่ม มันเอาแต่คิดถึงช่วงเวลาเข้าหอแล้ว มิราและเควิน ต่างมองลูกชายตัวเองด้วยสายตาดีใจ เพราะเขานั้นเข้าใจลูกๆ ดี ความเหมาะสมน่ะเหรอ มันไม่มีค่าอะไรเลย ความรักที่แท้จริงต่างหากล่ะ ที่เรียกว่าความสุข ทั้งคู่ไม่สนใจว่าเพียงพราวจะเป็นใครมาจากไหน แค่ทำให้ลูกชายเขามีความสุขได้แค่นั้นก็พอแล้ว คาร่าค่อยๆ เดินย่างกายเข้าไปหาเพียงพราวช้าๆ “ยินดีด้วยนะ” เพียงพราวสวมกอดเพื่อนสนิทด้วยความดีใจ ก่อนจะร่ำไห้ออกมา เธออยากขอบคุณคาร่า ที่ทำให้เธอมาอยู่ตรงนี้ และมอบชีวิตใหม่ให้กับเธอ... วีณาเดินย่างกรายเข้ามาในงานด้วยสายตานิ่งเรียบ ก่อนจะจับจ้องชายหนุ่มตรงหน้าด้วยใจที่ปวดหนึบ แต่ก็พยายามเข้าใจ ว่าตอนนั้นเธอกับมาเวลล์พว
วันเวลาผ่านไปนานถึงสามสัปดาห์งานวิวาห์ก็มาถึง เพียงพราวเดินย่างกรายเข้ามาในโบสถ์ท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่เธอเคยวาดฝันว่าสักวันคงได้มีโอกาสยืนข้างๆ เขา มาเวลล์ยืนมองเรือนร่างหญิงสาวไม่ละสายตา เพียงพราวเริ่มมีท่าทีประหม่าเล็กน้อย เมื่อถูกจับจ้องด้วยสายตาที่ชวนหลงใหลนานเกินไป มือแกร่งค่อยๆ จูงมือเจ้าสาวของตัวเองเข้าพิธีวิวาห์ทันที เพราะตอนนี้ในหัวของชายหนุ่ม มันเอาแต่คิดถึงช่วงเวลาเข้าหอแล้ว มิราและเควิน ต่างมองลูกชายตัวเองด้วยสายตาดีใจ เพราะเขานั้นเข้าใจลูกๆ ดี ความเหมาะสมน่ะเหรอ มันไม่มีค่าอะไรเลย ความรักที่แท้จริงต่างหากล่ะ ที่เรียกว่าความสุข ทั้งคู่ไม่สนใจว่าเพียงพราวจะเป็นใครมาจากไหน แค่ทำให้ลูกชายเขามีความสุขได้แค่นั้นก็พอแล้ว คาร่าค่อยๆ เดินย่างกายเข้าไปหาเพียงพราวช้าๆ “ยินดีด้วยนะ” เพียงพราวสวมกอดเพื่อนสนิทด้วยความดีใจ ก่อนจะร่ำไห้ออกมา เธออยากขอบคุณคาร่า ที่ทำให้เธอมาอยู่ตรงนี้ และมอบชีวิตใหม่ให้กับเธอ... วีณาเดินย่างกรายเข้ามาในงานด้วยสายตานิ่งเรียบ ก่อนจะจับจ้องชายหนุ่มตรงหน้าด้วยใจที่ปวดหนึบ แต่ก็พยายามเข้าใจ ว่าตอนนั้นเธอกับมาเวลล์พว
บทที่ 50. เป็นห่วงหลังจากที่ออกมาจากคฤหาสน์ทั้งสองก็ขึ้นมาบนรถ ที่ลูกน้องคนสนิทอย่างเชนเตรียมไว้รอก่อนที่คาร่าจะกระซิบบอกเพียงพราวอย่างแผ่วเบา“มีคนอยากเจอเธอ”เธอไม่กล้าพูดดังเพราะกลัวลูกน้องจะเอาไปรายงานมาเวลล์“ใครหรอ”“แทนคุณ เขารอเธอที่ร้านอาหาร อย่าบอกเฮียนะ”เพียงพราวเริ่มเกิดความสงสัยจึงถามคาร่าออกไป“เธอไปรู้จักพี่แทนคุณได้ยังไง แล้วเธอรู้ได้ไงว่าเขารออยู่ที่นั่น”คาร่าเริ่มแสดงท่าทีเลิกลั่กนิดหน่อย ก่อนจะเอ่ยตอบไป“เขาอยากเจอเธอ เลยขอให้ฉันช่วย”เพียงพราวพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ แม้ว่าภายในใจจะยังคงรู้สึกแปลกๆในท่าทีของเธอ แต่ก็เลือกที่จะนั่งสองสาวเดินย่างกรายเข้าไปในห้องวีไอพีภายในร้านอาหารตามที่ได้นัดชายหนุ่มเอาไว้ ลูกน้องคนสนิทของมาเวลล์เดินเข้าไปตรวจก่อนความเรียบร้อยก่อนแต่ไม่เห็นทว่ากลับไร้ร่างคนอื่นเมื่อคนของมาเวลล์เดินออกไป แทนคุณก็เปิดประตูลับออกมาทันทีเพราะว่าร้านนี้เป็นร้านของเขาเอง“หนูสบายดีใช่ไหม? ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า พี่เป็นห่วงหนูมากนะ”แทนคุณเอ่ยถามไถ่เพียงพราวด้วยความเป็นห่วง“หนูหายดีแล้วค่ะ”“พี่คิดถึงหนูนะ คิดถึงมาก...”“ขอบคุณนะคะ”“หนูหิวไหม
บทที่ 49. สายเปย์หลังจากเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงบ่ายของวัน เพียงพราวก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะหิว ก่อนจะตามด้วยมาเวลล์ เขาถูกฝึกมาตั้งแต่เด็กแน่นอนว่าเขาต้องไวต่อสิ่งรอบข้าง เพียงพราวค่อย พยุงร่างกายอันบอบช้ำเข้าไปห้องน้ำ ก่อนจะอาบน้ำชำระร่างกาย ที่เต็มไปด้วยคราบน้ำรักเกรอะกรังใช้เวลาเพียงไม่นานก็เดินออกมา มาเวลล์ที่จ้องมองหญิงสาวอยู่ ถึงกับต้องตกใจกับใบหน้าซีดเผือดของเธอ และวิ่งไปประคองร่างเธอเอาไว้“หนูเป็นอะไรรึเปล่า...ทำไมหน้าซีดแบบนั้น”“หนูหิว...”เพียงพราวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงงอแงก่อนมาเวลล์จะรีบโทรสั่งลูกน้องคนสนิท ให้โรงแรมเตรียมอาหารขึ้นมาให้เธอใช้เวลาเพียงไม่นาน อาหารต่างๆ ก็มาเสิร์ฟ ก่อนที่มาเวลล์จะเอ่ยขึ้น“กินก่อนเลยนะ เฮียไปอาบน้ำก่อน”ว่าจบก็เดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีก่อนที่เพียงพราว จะจัดการอาหารตรงหน้าด้วยความหิวโซเนื่องจากเมื่อคืนเธอถูกสูบพลังงาน เข้าไปอย่างหนัก...หลังจากเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อย มาเวลล์ก็พาเพียงพราวกลับทันทีทว่าระหว่างทางชายหนุ่มกลับเห็นสีหน้าของหญิงสาวไม่ค่อยดีเนื่องจากเธอดูเพลีย ๆ และอ่อนล้า ไม่พูดจาแปลก ๆรถสปอร์ตคันหรูขับเคลื่อนเข้ามาจอที่
บทที่ 48. โหยหา NC+ 🔞มือแกร่งค่อยๆรั้งร่างหญิงสาวเข้ามาบนตัก ก่อนจะซุกไซร้ลำคอระหงอย่างหื่นกระหายกลิ่นกายสาบสาวสตรีเพศสร้างอารมณ์กระสันให้ชายหนุ่มเป็นอย่างมากกลิ่นกายเฉพาะของหญิงสาวแทบทำเอามาเวลล์ไม่อยากผละใบหน้าออกแม้แต่น้อยกลิ่นกายที่เขาโหยหามาตลอดหลายเดือน ริมฝีปากที่เขานั้นคิดถึงริมฝีปากหยักได้รูป ประกบริมฝีปากเข้าหาหญิงสาวด้วยอารมณ์คิดถึงและต้องการเธอเป็นอย่างมาก“อืม~”เพียงพราวกำคอเสื้อชายหนุ่มไว้แน่นก่อนจะจูบอย่างรู้งานทั้งสองสัมผัสริมฝีปากและแลกน้ำลายกันอยู่นานโนมก่อนจะเป็นเพียงพราวที่ผละริมฝีปากออกเนื่องจากรู้สึกว่าเริ่มขาดอากาศหายใจ“อ่อนวะ”มาเวลล์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันก่อนที่เพียงพราวจะประกบริมฝีปากเข้าหาชายหนุ่มและบดขยี้ริมฝีปากอย่างเร่าร้อน ทำเอาชายหนุ่มรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย มือแกร่งค่อย ๆลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของหญิงสาว ก่อนจะบีบเคล้นสะโพกงอนงามชุดเดรสราคาแพง ค่อย ๆ ถูกเลื่อนซิปลงช้า ๆ ก่อนจะตามด้วยบราเซียไร้สายทันทีที่บราเซียถูกถอดออก หน้าอกใหญ่ก็ดีดเด้งออกมาทันทีชายหนุ่มบีบเคล้นหน้าอกใหญ่ สลับกับขบเม้มริมฝีปากหญิงสาวอย่างเอาแต่ใจก่อนจะผลักเธอลงเตีย
บทที่ 47. สับสนเพียงพราวเริ่มมีท่าทีเขินอายเมื่อถูกชายหนุ่มจ้องมองด้วยสายตาที่หยาดเยิ้ม และพร้อมจะขย้ำเธอหากสายตาของเขาในตอนนี้คือกรรไกรเสื้อผ้าของเธอคงขาดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว“เฮียจะพาหนูไปไหนเหรอคะ”เพียงพราวเอ่ยถามขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศที่ชวนเสียตัวในครั้งนี้เพราะถ้าหากเธอไม่ทำลายมัน เธอคงได้ไปดินเนอร์บนเตียงเป็นแน่“เซอร์ไพรส์...”มาเวลล์เอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินเข้าไปจูงมือหญิงสาวออกมาจากห้องใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึงร้านอาหารใจกลางเมืองที่สูงเฉียดฟ้าเพียงพราวจ้องมองอาหารสลับกับคนตรงหน้า ด้วยหัวใจที่เต้นแรงเป็นครั้งแรกที่เธอได้มาอยู่ในสถานที่โรแมนติกกับคนที่ตัวเองรักตามแบบที่เคยวาดฝันไว้ในตอนเด็ก“กินสิ”“ค่ะ”เพียงพราวนั่งทานอาหารตรงหน้าด้วยท่าทีปกติทว่าชายหนุ่มกลับนั่งดื่มไวน์ราคาแพงและนั่งจ้องมองเธออยู่อย่างนั้นเสียงเพลงสากลยังคงบรรเลงต่อไปท่ามกลางชายหญิงสองคนแสงเทียนสาดส่องกระทบใบหน้าเกลี้ยงเกลาของหญิงสาวยิ่งทำให้เธองดงามราวกับเจ้าหญิงมากขึ้นไปเพียงพราวเริ่มรู้สึกไม่เป็นตัวเองเมื่อถูกจ้องมองอยู่ตลอด“มีอะไรติดหน้าหนูรึเปล่าคะ”“สวย...”มาเวลล์เอ่ยขึ้นราวกับต้องมนต์สะกด เ
บทที่ 46 รู้ใจตัวเอง“ช่วงนี้อย่าเพิ่งให้คนไข้เครียดหรือใช้สมองหนักเกินไป เพราะจะปวดหัวได้ง่าย”เสียงหมอเอ่ยขึ้นก่อนที่ทุกคนจะรับปาก และเอ่ยขอบคุณหมอพร้อมกับออกไปส่งภายในห้องเงียบสงัดมีเพียงเธอ และมาเวลล์ที่ยังอยู่ภายในห้องมาเวลล์เดินย่างกรายเข้าไปนั่งข้างๆเตียง เพียงพราวจ้องมองใบหน้าชายหนุ่มด้วยความสงสัยว่าชายหนุ่มนั้นต้องการจะทำอะไรมือแกร่งค่อย ๆ กุมมือหญิงสาวอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดมาที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมา“อย่าหายไปไหนอีกนะ ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ”หยาดน้ำตาเอ่อล้นออกมาเป็นทางยาว หัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งในตอนที่ชายหนุ่มเลื่อนมือมากุมแก้มใสของเธอ“ช่วงนี้นอนพักผ่อนเยอะๆ หายดีแล้วค่อยคุยกัน”หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป...เพียงพราวอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ และสามารถช่วยเหลือตัวเองหลาย ๆอย่างได้แล้ว แต่ยังคงอยู่ในความดูแลของหมอภายใต้คำสั่งของมาเวลล์ชายหนุ่มไม่ยอมให้เธอออกไปไหน เพียงพราวทำได้เพียงออกมารับลมริมระเบียงและจ้องมองวิวภายในคฤหาสน์อันไกลโพ้น และ คาร่าก็มาอยู่กับเธอทุกวันหลังจากที่ทั้งสองปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วตอนนี้เพียงพราวกลับมายิ้มได้
บทที่ 45 เหตุผลในขณะที่ชายหนุ่มกำลังเศร้าและจมอยู่กับความเจ็บปวดทว่ากลับได้ยิน เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากข้างล่างและคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคาร่าเพราะว่าเธอนั้นได้ยินเชนลูกน้องคนสนิทของพ่อรายงานเกี่ยวกับเพียงพราวทันทีที่รู้ว่าเพียงพราวป่วยหนักคาร่าทิ้งข้าวของในมือทันทีก่อนจะวิ่งขึ้นไปหาเธอที่ห้องพักฟื้นโดยที่มาเวลล์ยังไม่อนุญาตคาร่าก็เปิดประตูเข้ามาทันคาร่ายกมือป้องปากด้วยความตกใจเมื่อเห็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอนอนแน่นิ่งอยู่ เธอร้องไห้ออกมาอย่างหนักก่อนจะตรงเข้าไปหาเพียงพราวที่นอนนิ่งอยู่และเอ่ยถามมาเวลล์ทั้งน้ำตา“เพียงเป็นอะไร ทำไมถึงเป็นแบบนี้”“เพียงพราวมีเนื้องอกในสมองมาสามปีแล้ว และเพิ่งได้เข้ารับการผ่าตัดแต่ก้อนเนื้อใหญ่เกินไป ทำให้แผลด้านในค่อนข้างใหญ่ทำให้เธอนอนไม่สติมาหลายวัน”เมื่อได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ จากพี่ชายเล่า อยู่ ๆคาร่าก็นึกไปถึงเหตุการณ์ที่ได้คุยกันล่าสุดที่เพียงพราวนั้นหยิบยาบางอย่างขึ้นมากิน แต่กลับบอกเธอว่ากินยาแก้ปวดคาร่าสวมกอดร่างเพียงพราวทันทีก่อนจะร่ำไห้ออกมาอย่างหนักด้วยความรู้สึกผิด“ขอโทษนะที่ฉันไม่เคยสังเกตว่าเธอป่วย แถมยังไม่ฟังเหตุผลของเธ
บทที่ 44. รู้ความจริงเช้าต่อมา...แทนคุณเดินย่างกรายเข้ามาภายในห้องหญิงสาวเหมือนทุกวัน เพราะวันนี้เขานั้นต้องเข้าไปคุยธุรกิจกับมาเวลล์ จึงต้องการกำลังใจจากเธอ เพียงแค่นึกว่าจะเห็นเจ้าของหัวใจเธอ อาการเจ็บปวดก็แผ่ซ่านเข้ามาในใจ" วันนี้พี่จะไปคุยงานกับคนพวกนั้นแล้วนะ หนูอยากให้พี่ใจดีกับพวกนั้นไหม ถ้าอยากก็รีบฟื้นขึ้นมา"แทนคุณเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ก่อนจะฝังจมูกลงที่มือของหญิงสาว เพราะถ้าหากเธอฟื้นขึ้นมา เขาคงไม่มีโอกาศได้ทำมันแล้ว แม้จะรู้อยู่เต็มอก ว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นมันไม่ถูก แต่ชายหนุ่มก็ยังเลือกที่จะทำหลังจากออกมาจากห้องพักหญิงสาว แทนคุณก็เรียกรวมตัวเหล่าลูกน้องทันที ก่อนจะเอ่ยสิ่งที่สำคัญ" ห้ามให้เฟรญ่า เข้ามาในบ้านเด็ดขาด"แทนคุณเอ่ยสั่งลูกน้องทุกคนด้วยน้ำเสียงดุดัน ก่อนจะนั่งรถออกไปทันทีใช้เวลาเพียงไม่นาน แทนคุณก็มาถึงบริษัทของเควิน โดยมีมาเวลล์และเชนรออยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองทักทายกันตามปกติ แม้ภายในใจจะไม่ค่อยชอบหน้ากันสักเท่าไหร่ ก่อนที่แทนคุณจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยยัน" หายดีแล้วเหรอ ถึงออกมาจากรังได้"คำพูดของแทนคุณ ทำเอามาเวลล์เดือดดาลขึ้นมาทันควัน มาเวลล์เริ่มควบค
Comments