แชร์

บทที่ 2 สอนใช้ชีวิต

ผู้เขียน: อัญธิญาน์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-02 17:36:06

เกือบ 2 เดือนแล้วที่ไป๋หลานใช้ชีวิตอยู่ที่เผ่าเฟิงอวิ๋นตอนนี้ร่างกายของนางกลับมาแข็งแรงเหมือนคนปกติทั่วไป เฟิ่งตามติดชีวิตของนางตลอดเวลาจนได้ยินเสียงเล่าลือว่าเฟิ่งหวงนั้นมีใจให้นาง

“เจ้าอยู่นี้เองข้าตามหาตั้งนาน” ซินอี้ไม่พอใจที่นางเข้ามาทำให้เฟิ่งหวงหวั่นไหวซินอี้ชอบเขามาเนิ่นนาน

“เจ้ามีธุระอันใดจะคุยกับข้า”

“ออกไปจากชีวิตของท่านพี่เฟิ่งหวง”

“เจ้ามีสิทธิ์อันใดที่มาสั่งคนอื่น” ไป๋หลานรู้นางแอบรักเฟิ่งหวงแต่ไม่ควรที่จะมาสั่งว่าผู้ใดมีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์ที่จะยืนอยู่ข้างกายเขา

“ข้า ข้าเป็นคนสนิท”

“ภรรยาก็ไม่ใช่ น้องสาวก็ไม่ใช่เจ้าควรให้เฟิ่งหวงเลือกเองไม่ใช่ไปบังคับใคร” ไป๋หลานเตรียมตัวจะเดินหนีแต่ถูกนางคว้าไว้และใช้มือตบเข้าไปที่แก้มของไป๋หลาน

“อย่ามาลองดีกับข้า”

เพียะ!

“กรี้ด” เสียงกรีดร้องของซินอี้ทำให้เฟิ่งหวงและเจ๋อหรานออกมาดูเห็นซินอี้กำลังกุมแก้มที่โดนตบเมื่อนางเห็นคนทั้งสองจึงแสร้งทำเป็นคนโดนรังแก

“ท่านน้านางตบข้าเจ้าค่ะ ข้าเจ็บ”

“เจ้าตบนางจริงหรือ”

เจ๋อหรานหันมาถามไป๋หลานเพื่อจะสอบถามความจริงนางจะไม่เข้าข้างใครแต่เหมือนว่าเฟิ่งหวงจะไม่เชื่อว่านางเป็นคนตบซินอี้ก่อนเพราะแก้มนั้นเริ่มแดงขึ้นมา

“ท่านแม่ท่านถามหาความจริงก่อนเถอะเหม่ยเหม่ยนางก็โดนตบเช่นเดียวกัน”

“ตามข้าไปที่กระโจม” ซินอี้นั่งร้องไห้เพื่อให้ทุกคนสงสารโดยเข้าไปอ้อนเจ๋อหรานเพื่อที่จะให้ลงโทษไป๋หลานอย่างสาสมที่ทำร้ายนาง

“ข้าแค่เข้าไปถามอาการป่วยของนางแต่โดนนางต่อว่าและตบเจ้าค่ะ” ซินอี้โกหกขึ้นมาแต่ตอนที่ทั้งสองทะเลาะกันมีคนได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

“ตอนเจ้าทำคนอื่นทำไมเจ้าทำได้ พอโดนทำบ้างกลับมาร้องห่มร้องไห้ขอความสงสาร จิตใจเจ้าหยาบกระด้างนักทำไมท่านแม่ของเจ้าถึงใจเย็นนัก” ไป๋หลานโกรธจนพาลต่อว่าซินอี้ทำให้อี้หรานที่นั่งฟังถึงกับจุกในคอ

“เจ้ากล้าว่าท่านแม่ไม่สั่งสอนข้าหรือ สามหาว!”

“เจ้านั่งลงเถอะซินอี้เรื่องนี้ข้ามีคนรู้เห็น อาเจิง!” เฟิ่งหวงเรียกอาเจิงออกมาเพราะเขาเห็นว่าอาเจิงอยู่บริเวณนั้นก่อนที่เขาจะไปถึง

“เจ้าเล่าความจริงมาเถิด”

“วินอี้ไปต่อว่าแม่นางเหม่ยเหม่ย ไม่ให้ไปยุ่งกับท่านพี่เฟิ่งหวงขอรับ พอแม่นางพูดไม่เข้าหูจึงลงมือก่อน” อาเจิงพูดตามที่ตัวเองได้ยินมา

“โกหกข้าไม่เคยพูดเช่นกัน ท่านแม่เจ้าคะ” ซินอี้หันไปหามารดาเพื่อให้ช่วยเพราะตอนนี้เหมือนทุกคนกำลังปกป้องไป๋หลานและให้นางเป็นคนผิด

“ข้าต้องขออภัยแทนลูกด้วยโปรดให้แม่นางอย่าถือสาเลย ข้าเลี้ยงลูกไม่ดีเอง” อี้หรานเอ่ยขออภัยเพราะนางเองที่ตามใจลูกสาวจนเกินไป

“ท่านน้าอย่าโทษตัวเองเลยท่านเลี้ยงลูกได้ดีทีเดียว”

แต่แค่ซินอี้ไม่เชื่อฟังผู้เป็นมารดาและเอาแต่ใจตัวเองเพราะไม่มีใครดุเวลาทำผิด

“เจ้าไปขอโทษเหม่ยเหม่ยซะ”

“ท่านแม่! ข้า ข้าขอโทษเจ้าด้วย” ซินอี้เก็บความเกลียดชังไว้ในใจและเดินออกไปจากกระโจมด้วยความไม่พอใจแถมยังโดนท่านแม่ต่อว่าอีก

“ขอคุณทั้งน้าทั้งสองที่ไม่ฟังความข้างเดียว”

“ข้าแก่แล้วข้าผ่านโลกมาก่อนเจ้าทั้งสอง” เจ๋อหรานส่งยิ้มให้นางและมองดูลูกชายตนเองที่เหมือนจะตกหลุมรักนางมากขึ้นทุกวัน

“เจ้าไปพักผ่อนเสียเถอะ หวงเอ๋อร์เจ้ารอแม่ก่อน”

“ขอรับท่านแม่” เมื่อทุกคนออกไปหมดแล้วเจ๋อหรานจึงให้ลูกชายเข้ามานั่งใกล้ๆ ยิ่งโตยิ่งเหมือนกับผู้เป็นบิดายิ่งหนักเจ๋อหรานลูบศีรษะลูกชาย

“ลูกรักใครต้องรีบบอกอย่าลังเลเลย”

เพราะนางเคยเจอคนที่เลือกใครไม่ได้สักคนเช่นเดียวกับบิดาของลูกชายที่ไม่เลือกนางแต่เขากับเลือกทำเพื่อบ้านเมืองโดยไม่สนว่าใครจะเจ็บปวด

“ท่านแม่”

“ลูกรักนางก็จงบอกนาง” เจ๋อหรานดูออกว่าลูกชายตกหลุมรักไป๋หลานตั้งแต่แรกเจอนางอยากเห็นลูกมีความสุขไม่อยากให้ลูกทุกทรมานใจเช่นเดียวกับผู้เป็นแม่

“เหม่ยเหม่ยนางเป็นเด็กดียิ่งนักไม่ยอมคนแม่ชอบนาง”

“ลูกขอบใจท่านแม่ที่เข้าใจลูกขอรับ ลูก ลูกรักนางลูกอยู่ใกล้นางแล้วตรงนี้ของลูกเหมือนจะไม่ปกติ” เฟิ่งหวงไปที่หัวใจของตัวเองและกุมไว้

“ลูกตามไปดูนางเสียเถิด”

เฟิ่งหวงไม่รอช้าที่จะออกไปตามไป๋หลานพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าบ่งบอกว่าเขากำลังมีความสุขอย่างมาก

“เจ้ามาอยู่นี้เองตามข้ามา”

“ข้าปล่อยมือข้า” เฟิ่งหวงจับมือของนางและพาเดินเข้าป่าไปพร้อมกับธนูที่อยู่บนหลัง และมาหยุดที่ลานกว้างในป่าใหญ่และให้นางจับคันธนู

“เจ้าลองยิงดูข้าจะสอน” เฟิ่งหวงมายืนช้อนหลังนางยกมือขึ้นมาและจับคันธนูทำให้มือของทั้งสองสัมผัสกัน เฟิ่งหวงและนางอยู่ใกล้กันไป๋หลานได้ยินเสียงลมหายใจของเขา

“มีสติหน่อย” เฟิ่งหวงกระซิบที่ใบหูของนางเพื่อเรียกสติของนางและง้างธนูออกกว้างและเล็งไปที่เป้าหมายก่อนจะปล่อยลูกดอกให้ออกไปที่กลางเป้า

“เย้ๆ เจ้าเก่งมาก” ไป๋หลานดีใจออกมาตั้งแต่นางเป็นเด็กจนโตท่านพ่อก็ไม่เคยให้นางได้จับอาวุธเพราะมัวแต่ส่งไปร่ำเรียนในสมกับเป็นองค์หญิงเพียงองค์เดียวของตระกูลเพราะท่านพ่อมีลูกชายถึง 3 คน

“เจ้ายิงให้เข้าเป้า ข้าจะนั่งดู”

“แล้วถ้าข้ายิงไม่โดน”

“เจ้าก็ไม่ต้องกลับกระโจม” เฟิ่งหวงที่นั่งไปขอนไม้ไปนั่งดูนางที่ตั้งใจฝึกฝนเรียนรู้จนเขาเอ็นดูไม่น้อยแต่จนผ่านไปหนึ่งก้านธูปนางก็ยิ่งไม่เข้าเป้า

“ข้าปวดมือแล้ว”

“เจ้าไม่ตั้งใจเองข้าจะทำให้ดูแค่ครั้งเดียว” เฟิ่งหวงเดินเข้ามาใกล้และหยิบลูกธนูขึ้นมาตอนที่เขายังเด็กเขาฝึกฝนมากกว่าเด็กทั่วไปเพราะในวันข้างหน้าเขาต้องขึ้นมาดูแลชนเผาในฐานะทายาทคนโตและต้องปกป้องมารดา

ลูกธนูปักเข้าที่กลางเป้าอย่างง่ายดายจนไป๋หลานรู้สึกชอบใจจึงให้เฟิ่งหวงยิ่งให้ดูอีกและนางจึงเดินไปนั่งรอที่ขอนไม้และนั่งดูชายหนุ่มอย่างสบายใจ

“เจ้าแกล้งข้าหรือ ถ้ายิ่งไม่เข้าเป้าคืนนี้ข้าจะให้เจ้านอนที่นี่กับเสือไปเลย” เฟิ่งหวงเมื่อรู้ว่าโดนแกล้งจึงโมโหกลบเกลื่อนอาการเขาโดนนางหลอก

“ใจร้ายจังข้าปวดมือแล้วเจ้าพาข้าไปทำอย่างอื่นเถิดนะเจ้าดูมือข้าสิ” นางยกมือขึ้นมาเพื่อให้เฟิ่งหวงดูตอนนี้มือนางแดงเพราะกำคันธนูแน่นเกินไป

“ก็ได้” แค่เห็นนางเจ็บก็ละเลิกที่จะแกล้งนางทันทีและพาเดินเข้าป่าไปไกลมากโขจนมาหยุดที่หน้าผาและให้ไป๋หลานมองลงไปยังเบื้องล่าง

“เจ้าดูชนเผ่าข้าสิมันสวยงามยิ่งนัก”

ไป๋หลานมองไปที่เบื้องล่างจึงเห็นทัศนียภาพทั้งหมดของชนเผ่าละเมฆหมอยที่อยู่ปกคลุมเต็มไปหมด ชนเผ่าเฟิงอวิ๋นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติมากมายและห่วงไกลจากผู้คน

“ข้าไม่เคยเห็นที่ไหนสวยงามเช่นนี้มาก่อน” ไป๋หลานยืนมองไปที่เบื้องหน้า เฟิ่งหวงคงใช้ชีวิตได้อิสรเสรีเพราะไม่มีกฎเกณฑ์อะไรไม่เหมือนกับนางที่ต้องคอยอยู่ในโอวาทของบิดารวมถึงงานแต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น

“ไหนว่าเจ้าจำอะไรไม่ได้”

“เอ่อ ความรู้สึกข้ามันบ่งบอก” นางรีบหาเหตุผลมาแก้ตัวตอนนี้จะให้ใครรู้ตัวตนนางไม่ได้

“เจ้ารู้ไหมว่าข้าเกลียดอะไรมากที่สุด ข้าเกลียดคนโกหกหลอกลวงเหมือนคนที่ทำให้ข้าเกิดมาที่โกหกท่านแม่ของข้า” เฟิ่งหวงจ้องไปที่ใบหน้าของนางการที่ถูกมันเจ็บปวดที่สุดจนต้องทำให้มารดาเจ็บช้ำจนถึงทุกวันนี้

“ขะ ข้าจะไปโกหกเจ้าของอันใดกัน” นางหลบตาเขาเพียงเพราะว่าไม่อยากรู้สึกผิด

“เจ้าไม่โกหกข้าก็ดีไป”

“เจ้าจะทำอะไรข้า เฟิ่งหวง”

เฟิ่งหวงเชยคางนางขึ้นมาสบตากันทำให้เห็นเงาของกันและกันในแววตาของทั้งสอง พระอาทิตย์กำลังตกดินพร้อมกับจูบแรกที่นางยกให้เฟิ่งหวง

“อื้อออ”

เฟิ่งหวงถอนจูบออกมาและสบตากับนางจูบแรกของเขาได้ยกให้นางไปครอบครองแต่เพียงผู้เดียว

“ข้าชอบเจ้าเหม่ยเหม่ย”

“ขะ ข้า ไม่ใช่เหมันตฤดูทำไมฝนถึงตก”

“รีบหลบเร็ว” เฟิ่งหวงคว้าข้อมือของนางและพาวิ่งหลบฝนเข้าไปในถ้ำที่เขาเข้ามาหลบฝนเป็นประจำ ยิ่งดึกฝนยิ่งกระหน่ำเทลงมาตอนนี้เนื้อตัวของทั้งเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ

“ข้าจะก่อไฟ”

เพราะอากาศเริ่มหนาวทำให้เฟิ่งหวงก่อไฟเพื่อคลายหนาวและกันสัตว์มีพิษในตอนกลางคืน

“เจ้าจะทำอะไร”

“ข้าจะถอดเสื้อเจ้าไม่เห็นหรือว่าเปียกไปหมด”

“เจ้าถอยไปห่างๆ”

ไป๋หลานไปนั่งบนขอนไม้ที่เหมือนกับเตียงไม่มีผิดความหนาวทำให้นางตัวสั่นขึ้นมา จนเฟิ่งหวงต้องเดินเข้ามาใกล้ทำให้นางเห็นแผงอกของเขาอย่างเต็มตา

“เจ้าหันหลังไป”

“ข้าชอบเจ้าเหม่ยเหม่ย เจ้าสบตาข้าสิ”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 3 ฝนเป็นใจ

    เฟิ่งหวงนั่งลงที่ข้างกายของนางและเข้ามาโอบกอดนางไว้เพื่อคลายหนาวใบหน้าทั้งสองอยู่ห่างกันแค่คืบมือ เสียงฝนยังคงกระหน่ำเทลงมา “อื้อออ” เฟิ่งจูบนางอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองที่มีให้นาง มือหนาเริ่มเลื้อยไปมาเหมือนงู “ข้า ข้า...” “เจ้ายอมเป็นของข้าได้หรือไม่เหม่ยเหม่ย” เฟิ่งหวงสบตาของนางอย่างลึกซึ้งหากนางไม่ยินยอมเขาก็จะไม่ทำอะไรนางเด็ดขาด “ขะ ข้ายอม...อื้ออ” พูดไม่ทันขาดคำชายหนุ่มจึงประคองในนางนอนลงบนขอนไม้ขนาดใหญ่เฟิ่งหวงยืนมือไปคว้าเอาเสื้อของตัวเองมาปูไว้เพื่อหญิงสาวได้นอนอย่างสบาย “ข้าจะดูแลเจ้าให้ดี” เฟิ่งหวงยื่นมือมาปลดเชือกที่ชุดของนางออกในล้วงมือเข้าไปจนถึงยอดปทุมถันอันแสนงดงามที่เขาเพิ่งเคยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก “อื้อ..อ่าส์...เฟิ่งหวง” นางครางออกมาเมื่อปลายลิ้นอุ่นๆ แตะสัมผัสกับยอดปทุมถันสีสวย ไป๋หลานสั่นสะท้านไปทั่วร่างกายกับสัมผัสที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อนความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามา “เจ้าสวยเหลือเกิน” เฟิ่งหวงพูดอย่างมาหลังที่ที่ได้สัมผัสยอดปทุมถันคู่นั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 4 รักษาระยะห่าง

    สองวันมาแล้วที่ไป๋หลานหลบหน้าหลบตาเฟิ่งหวงจริงอย่างที่แม่ของเขาบอก สักวันนางต้องกลับบ้านเมืองของนางไม่สร้างความผูกพันกันไปมากกว่านี้ “เจ้าหลบหน้าข้าหรือเหม่ยเหม่ย”เฟิ่งหวงเดินเข้ามาใกล้นางเพราะสองวันที่ผ่านมานางไม่ยอมมาเจอหน้าเขาเลย จนทำให้เขาร้อนใจว่าเขาทำอะไรผิดไป “ข้าไม่ได้หลบหน้าเสียหน่อย” “เจ้าโกหกข้า” เมื่อนางพยายามหลบตาเฟิ่งหวงจึงรู้เพราะนางโกหกไม่เป็นยามที่นางโกหกมักจะสายตาไม่กล้าสู้หน้า “ปล่อยข้าเฟิ่งหวง” นางจะเดินหนีแต่ถูกมือหนาของเขารั้งไว้ไม่ยอมให้ไปไหน “ข้าไม่ให้เจ้าไปไหนทั้งนั้น” “อื้อ!” ปากหนาครอบครองนางไว้มือหนารั้งท้ายทอยไว้เพื่อไม่ให้นางดิ้นไปไหน เฟิ่งหวงร้อนใจกลัวว่านางจะเป็นอะไรพยายามมาดักรอ “ปล่อยข้า” “หวงเอ๋อร์”เจ๋อหรานเข้ามาขัดทำให้ไป๋หลานขอตัวออกไปเพื่อให้แม่ลูกได้คุยกัน เจ๋อหรานส่ายหน้านางคงห้ามผิดคนคนที่จะต้องห้ามควรจะเป็นลูกชายนางมากกว่า “ลูกทำเยื้องนี้กับนางไม่ได้เจ้าทั้งสองยังไม่ได้แต่งงานกัน” “นั้นท่านแม่ก็ให้ข้าแต่งงานกับนางสิ” เฟิ่งห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 5 ออกอาการหวง

    วันฉูชี (วันส่งท้ายปี) ซึ่งจัดขึ้นในวันสุดท้ายของเดือน 12 เป็นวันที่ครอบครัวอยู่พร้อมหน้า และร่วมรับประทานอาหารกันตั้งแต่เย็น ร่ำสุราไปจนถึงเช้า เป็นค่ำคืนที่สนุกสนาน “พี่สะใภ้ใหญ่สวยราวกับเทพธิดา” อาเจิงถึงกับตาค้างที่เห็นไป๋หลานสวมชุดสีชมพูสะอาดหน้าใบที่แต่งแต้มจนสวยงาม “ขอบใจเจ้ามาก” ไป๋หลานเตรียมตัวที่จะไปเฉลิมฉลองวันฉูชีวันนี้จะมีเหล่าชนเผ่าออกมาร่ำสุรากันอย่างมากมายทั้งหมูบ้านประดับประดาไปด้วยดอกไม้หลากสีสันมองไปทางไหนก็ทำให้ผ่อนคลายไม่น้อย “ท่านน้าเจ้าคะ” ไป๋หลานเดินเข้ามาหาเจ๋อหรานในกระโจมแต่เห็นนางนั่งมองสร้อยเส้นหนึ่งที่อยู่ในมือแม้จะเรียกเสียงแค่ไหนนางก็ไม่ตอบสนอง “ท่านน้า!” “เจ้ามาตั้งแต่เมื่อไร” เจ๋อหรานรีบเก็บสร้อยเส้นนั้นลงไปไว้ที่กล่องเก่าๆ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของไป๋หลานสร้อยที่ประดับด้วยเพชรพลอยคงจะเป็นของราชวงศ์ชั้นสูง “สร้อยเส้นนั้น...” “เจ้ารู้หรือว่าคืออะไร” เจ๋อหรานไม่แปลกใจเท่าไรเวลานี้นางยอมที่จะให้ทั้งสองแต่งงานกันตามความต้องการของเฟิ่งหวงเพราะนางไม่อยากเห็นลูกต้องเสียใจ “เจ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 6 ร่างกายหัวใจของเจ้าเป็นของข้า

    “เจ้าว่าอะไรนะ โง่” ซินอี้ถึงกับกรีดร้องออกมานางจ้างวานให้เฟยอินเอายาปลุกกำหนัดไปใส่ในเหล้าในเฟิ่งหวงดื่มและจะออกอุบายให้มาหานางแต่ผิดคาด “ข้าก็เอาไปให้แล้วแต่แม่นางเหม่ยเหม่ยเป็นคนกินเข้าไป เจ้าอย่าลืมค่าจ้างข้า” เขาถือว่าทำงานลุล่วงเพราะแค่น้ำยาไปใส่ให้เหล้าใครจะดื่มหรือไม่ดื่มไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา “ทำงานไม่สำเร็จยังจะมาเอาเงินอีกหรือ” “เจ้าแค่สั่งให้ข้าเอายาไปใส่ในเหล้าไม่ได้บอกว่าให้ใครดื่ม เอาเงินมาไม่งั้นข้าจะบอกให้ทุกคนรู้” เฟยอินขู่เข็ญนางเพื่อที่จะได้เงินค่าจ้าง “เอาไปและปิดปากให้เงียบ” ซินอี้ให้เงินเฟยอินไปมากโขแลกกับที่ไม่ต้องพูดเรื่องนี้ ไม่ว่าจะทำอะไรนางก็แพ้ไป๋หลานไปทุกอย่าง “ข้าต้องหาความลับของเจ้าให้ได้” ซินอี้คิดอะไรออกบางอย่างพรุ่งนี้เช้าจะรีบเข้าไปในเมือง ไม่นานนางต้องกระเด็นออกไปจากชนเผ่าเฟิงอวิ่น ทางด้านไป๋หลานตอนนี้กำลังร้อนรุ่มราวกับไฟที่กำลังแผดเผาร่างกายของนาง นางกระชากเสื้อผ้าออกจากตัวโดยไม่สนอะไร “เจ้าอย่าใจร้อนสิ” “ข้าไม่ไหวแล้ว อืมมม” ไป๋หลานครางออกมาอย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 7 แต่งงาน

    วันแต่งงานก็เดินทางมาถึงเฟิ่งหวงอยู่ในชุดชนเผ่าสีแดงสวยอร่ามสมกับเป็นว่าที่ผู้นำชนเผ่าเฟิงอวิ่นใบหน้าแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มบ่งบอกว่าวันนี้กำลังมีความสุขมากเพียงใด “เจ้าดูดีสมกับเป็นว่าที่ผู้นำของชนเผ่า” “ขอบใจท่านแม่มากที่ให้ข้าแต่งงานกับเหม่ยเหม่ย” เจ๋อหรานหน้าถอดสีลงเล็กน้อยแต่พยายามที่จะเก็บความลับของไป๋หลานไว้ แค่ลูกของนางมีความสุขคนเป็นแม่ก็มีความสุขไปด้วย ไป๋หลานอยู่ในชุดเจ้าสาวที่แดงสวยงามเป็นผ้าไหมที่ปักเย็บอย่างประณีตประดับด้วยลวดลายต่างๆ อย่างสวยงามใบหน้าแต่งแต้มสีสันสวยงามและทายาทลงไปเพื่อให้ผิวเปล่งปลั่งฝาดแดงระเรื่อ “แม่นางสวยงามราวกับเทพธิดา” อี้หรานชมนางจากใจเพราะไม่เคยเห็นหญิงคนไหนงดงามเหมือนกับไป๋หลานเพียงแค่นางมองนางก็มั่นใจว่านางไม่ใช่คนธรรมดาหรือชาวบ้านทั่วไป “ขอบใจท่านน้ามากเจ้าค่ะ” “แม่นางอย่าถือโทษโกรธอี้เอ่อร์เลยนะ ข้าตามใจนางจนนางเสียคนตั้งแต่พ่อของนางตายข้าก็เลี้ยงดูนางมาคนเดียวตลอด” “ท่านน้าไม่ผิดอะไรเลยเจ้าค่ะ” นางก็เสียเสด็จแม่ไปตั้งวัยเยาว์เหลือแค่เสด็จพ่อ “ใก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-08
  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 8 ตัวอิจฉา

    ทางด้านซินอี้กำลังตรอมใจเมื่อคนที่รักได้แต่งงานกับหญิงอื่นไปนางกำลังวางแผนกำจัดไป๋หลานให้ออกไปจากชีวิตของเฟิ่งหวงตลอดกาล “นางต้องหายไปตลอดกาล” “อี้เอ๋อร์มากินข้าวเถอะลูก” อี้หรานยกกับข้าวมาให้ลูกสาวที่หมกตัวอยู่แต่ในกระโจมนางเห็นใจลูกสาวที่รักเฟิ่งหวงมาเนิ่นนานแต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนางไม่โทษใคร “ข้าไม่หิวเจ้าค่ะ” “มากินข้าวแล้วออกไปเดินเล่นบ้างเถิด” “ข้าจะลุกไปกินเจ้าค่ะ” ซินอี้ลุกมากินข้าวกินปลาแต่ภายในใจกำลังเศร้าหมองคิดถึงคำนึงหาแต่เฟิ่งหวง และคิดหาหนทางกำจัดมารหัวใจตลอดเวลา ซินอี้เดินมาที่แม่น้ำที่ชาวบ้านใช้เป็นประจำแต่สายตาก็หันไปเจอเข้ากับไป๋หลานที่นั่งอยู่ริมฝั่งคนเดียวจึงมีแผนร้ายขึ้นมาเมื่อมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นเฟิ่งหวง “มานั่งเศร้าเพิ่งเข้าห้องสามีไม่สนใจหรือไง” “เจ้าอย่ามากวนอารมณ์โมโหข้า” นางกำลังคิดถึงเสด็จพ่อไม่รู้ป่านนี้จะได้เบาะแสนางหรือยัง “ข้าจะทำให้เจ้าอยู่ที่นี้ไม่ได้” ซินอี้จ้องมองนางอย่างโกรธแค้น นางก็สวยไม่แพ้ไป๋หลานใยเฟิ่งหวงถึงไม่มองนางบ้าง นางไม่ยอมแพ้เด็ดขาด “เจ้าก็ควรจะทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 9 ความสุขของเฟิ่งหวง

    ยามเหม่าเฟิ่งงหวงจึงพาไป๋หลานออกเดินทางสู่เมืองใหญ่ยานพาหนะคือม้าที่เฟิ่งหวงเป็นคนควบม้า ตลอดทางข้างทางท้องฟ้ายังมืดสนิทไม่นานพระอาทิตย์ก็โผล่พ้นขึ้นมาส่องแสงสว่างไปทั่วบริเวณ “สวยจัง” เขาพานางมาหยุดรออยู่ที่หน้าผาสูงชันไป๋หลานมองไปที่พระอาทิตย์ที่เพิ่งขึ้นท้องฟ้าสว่างไสวไปทั่วบริเวณและหมอกเมฆที่ปกคลุมไปทั้งบริเวณ “เอาไว้พี่จะพาน้องหญิงมาอีก” “ขอบคุณเจ้าค่ะ” ไป๋หลานใช้ผ้าปกคลุมใบหน้าเพราะกลัวว่าจะมีใครเห็นใบหน้าของนาง บางทีคนร้ายอาจจะยังตามล่าหาตัวนางอยู่ ไป๋หลานอ้างว่านางแพ้อากาศอาจจะทำให้ไม่สบายได้จึงขอใช้ผ้าปิดบังใบหน้าอันแสนงดงามไว้ ซึ่งเฟิ่งหวงก็ไม่ได้ขัดอะไรคืนนี้เฟิ่งหวงจึงชวนนางเข้าพักที่โรงเตี๊ยมหนึ่งคืน “รอตอนเย็นพี่จะพาน้องหญิงออกไปเดินเล่น พักผ่อนเสียเถิด” เฟิ่งหวงเมื่อเห็นว่านางหลับไปแล้วจึงออกมาเดินสำรวจโรงเตี๊ยมแห่งนี้และเห็นเหล่าทหารมากมายเหมือนกำลังออกตามหาอะไรสักอย่าง “เถ้าแก่คนพวกนั้นกำลังหาอะไรหรือ” “เมื่อหลายเดือนก่อนมีองค์หญิงจากแคว้นเป่ยเฟิงถูกดักทำร้ายและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย น่าเสียดายยั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 10 เริ่มสงสัย

    “ส่งม้าเร็วนำข้อความนี้ไปให้ท่านพ่ออีก 2 วันข้าจะไปรับตัวน้องสาวของข้ากลับและจะทูลขอยกเลิกราชโองการ” หลีเหว่ยคงไม่สามารถให้น้องสาวแต่งงานได้เพราะคนร้ายยังคงเก็บตัวเขาเชื่อว่าอีกไม่นานคนร้ายต้องเผยตัว “เจ้าสงสัยใครมากที่สุดมู่เฉิน” “กระหม่อมคิดว่าคงจะเป็นคนในวังหลวงที่ไม่อยากให้การเชื่อมความสัมพันธ์นี้เกิดขึ้นพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ทรงทูลไปตามความคิดและประสบการณ์ของตัวเอง “มีแต่คนเดียวเท่านั้น! เจ้าแอบส่งคนแกะรอยตามคนพวกนั้นและยื่นข้อเสนอที่พอจะให้พวกมันพูดได้” หลีเหว่ยแอบเตรียมกำลังทหารที่จะเข้าไปรับตัวน้องสาวในอีกสองวันข้างหน้า ส่วนคนร้ายตอนนี้เขากำลังหาหลักฐาน “องค์หญิงไป๋หลานต้องปลอดภัยกลับมาข้าไม่มีวันให้นางเข้าพิธีอภิเษกตราบใดที่ยังจับคนร้ายไม่ได้” “พ่ะย่ะค่ะ” ฝั่งด้านคนที่กำลังโดนพูดถึงเมื่อทหารเข้ามารายงานว่าตอนนี้องค์หญิงไป๋หลานยังคงมีชวิตอยู่ถึงกับร้องโวยวายออกมาราวกับคนบ้าคลั่ง “พวกโง่!” “ข้าวางแผนมาตั้งนานทำไมนางถึงยังไม่ตาย” หวางหลานซวนโมโหถึงขั้นสุดหากท่านลุงรู้เข้าเขาคงโดนเนรเทศเพราะฉะนั้นพิธีแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12

บทล่าสุด

  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทส่งท้าย ดวงใจ

    ชนเผ่าอวิ่น ฮ่องเต้เฟิ่งหวงพาฮองเฮากลับมาเยี่ยมบ้านเกิดและองค์รัชทายาทตงหยางพร้อมกับองค์หญิงอ้ายเสิน ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก “ซินอี้” “ถวายบังคมฮองเฮาเพคะ” ซินอี้ก้มลงเพื่อทำความเคารพฮองเฮาที่ครั้งหนึ่งนางเคยคิดจะกำจัด “ตอนนี้อยู่นอกวังเจ้าไม่ต้องมีพิธีอะไรมาก เจ้าสบายดีหรือไม่” ไป๋หลานไม่คิดโกรธเคืองนางเลยสักนิดเวลาผ่านไปคนเราก็สามารถเปลี่ยนกันได้ “หม่อมฉันสบายดีเจ้าค่ะ” “ไทเฮาบอกว่าเจ้ากำลังจะมีลูกน้อย” “เพคะหม่อมฉันกำลังตั้งครรภ์” ซินอี้แต่งงานกับคุณชายแซ่เหลียงและได้ออกไปเปิดโรงน้ำชาด้วยกันจนมีพยานรักที่กำลังเติบโตอยู่ในครรภ์ของนาง “ข้ายินดีกับเจ้าด้วยอดีตผ่านไปแล้วเจ้าก็ได้บทเรียนแล้ว เราแค่ลืมและเดินหน้าต่อไป” “หม่อมฉันขออภัยในครั้งนั้นด้วยเพค่ะ” “ข้าไม่ถือโทษโกรธเจ้าหรอก” ไป๋หลานไม่ใช่คนที่เจ้าคิดเจ้าแคว้นในวันนี้นางคิดได้แล้ว ก็ต่างคนต่างมีชีวิตและเดินตามเส้นทางของตัวเอง “หม่อมฉันขอบพระทัยฮองเฮาเพคะ” ไป๋หลานเดินกลับมาและนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ เฟิ่งหวงที่นั่งดูลูกๆ วิ่ง

  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 24 ลูกน้อยของข้า

    วันเวลาผ่านไปจนครบเก้าเดือนองค์หญิงไป๋หลานได้ให้กำเนิดลูกฝาแฝดโอรสและธิดาสร้างความปีติยินดีให้กับทุกคนโดยเฉพาะเฟิ่งหวงที่เฝ้ารอพระชายาอยู่หน้าตำหนักไม่ยอมไปไหน “หวงเอ๋อร์พระชายาของลูกแค่หลับเพราะเหนื่อยอย่ากังวลไปนักเลย” “ลูกเป็นห่วงนาง” เฟิ่งหวงนั่งไม่อยู่กับที่เขาเดินไปเดินมาเพื่อรอว่าเมื่อไรนางจะฟื้นขึ้นมา ตอนที่เขาได้ยินเสียงกรีดร้องของนางใจเขาแทบขาด “หวงเอ่อร์ลูกจะให้โอรสและธิดาชื่อว่าอะไร” เฟิ่งหวงเดินเข้ามาใกล้ลูกทั้งสองและมองหน้ากันสลับไปมาลูกของเขาทั้งสองเกิดจากความรักของพ่อและแม่ “โอรสให้ชื่อตงหยาง ธิดาให้ชื่ออ้ายเสิน” “ดีๆ พ่อชอบชื่อนี้” ฝ่าบาททรงตามใจลูกในการตั้งชื่ออีกไม่นานเฟิ่งหวงจะต้องขึ้นครองบัลลังก์แทนฮ่องเต้ ไป๋หลานค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดสิ่งแรกที่นางนึกถึงคือลูกทั้งสองนางได้ยินเสียงร้องก่อนที่นางจะหมดสติไป ไป๋หลานพยายามที่จะขยับตัว “พระชายาอย่าเพิ่งลุกเพค่ะ” “น้องหญิงเป็นยังไงบ้าง” เฟิ่งหวงรีบเข้ามาดูอาการทันทีเมื่อเห็นว่านางปลอดภัยเขาก็หายห่วง “ลูกของน้อง...”

  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 23 ความรักขององค์รัชทายาท

    “หม่อมฉันจะไปตามหมอมาให้เพคะ” “ไม่ต้องหรอกหวงเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร” จากที่นางได้ฟังเรื่องราวมาจากไป๋หลานและองครักษ์จึงพอจะเดาได้ว่าเฟิ่งหวงเป็นอะไรถึงได้ไม่สบายแบบนั้น “น้องหญิงแล้วหวงเอ่อร์ไยถึงไม่สบาย” ฮ่องเต้แปลกใจเฟิ่งหวงเกิดอาการแบบนี้มาหลายวันแล้วแต่ก็ไม่มีอาการดีขึ้น “หวงเอ่อร์แค่แพ้ท้องแทนไป๋หลาน คนท้องมักจะชอบกินของรสเปรี้ยวซึ่งหวงเอ่อร์ไม่ชอบและเกลียดส้มจะตาย” เจ๋อหรานรู้ว่าลูกชายชอบหรือเกลียดอะไร เฟิ่งหวงเป็นแบบนี้ก็เพราะแพ้ท้องแทนพระชายา “เฟิ่งหวงจะทรงหายหรือไม่เพคะ” “ไม่ต้องห่วง” ไป๋หลานจึงอยู่ดูแลเฟิ่งหวงเมื่อคิดถึงคำพูดของเจ๋อหรานนางถึงกับหน้าแดงขึ้นมา เจ๋อหรานบอกว่าบุรุษที่แพ้ท้องแทนแม่ของลูกแสดงว่าเขานั้นรักนางมาก “อย่าดื้อกับเสด็จพ่อนะลูก” ไป๋หลานหันไปพูดกับลูกน้อยตอนนี้สีหน้าของเฟิ่งหวงดูซีดเซียวนางจึงคอยดูแลไม่ห่าง กำหนดการเดินทางกลับแคว้นนางคงจะต้องเลื่อนออกไป “น้องไป๋หลาน” “เสด็จพี่” “พี่จะกลับแคว้นแล้วน้องต้องดูแลตัวเอง” “ไยถึงเร็วแบบนั้นเพค่ะ” ไป๋หลานใจหายที่เสด็จพี่จ

  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 22 ชาตินี้ไม่ขอพบเจอ

    เฟิ่งหวงกำลังจัดการงานต่างๆ ด้วยความยากลำบากเขาทรงงานอย่างหนักเพื่อจะรีบกลับไปหาไป๋หลานที่เขาคิดถึงคะนึงหา ฮ่องเต้ทิ้งให้องค์รัชทายาทต้องเผชิญกับปัญหาและปล่อยให้เขาจัดการกับคนร้าย “องค์รัชทายาทท่านพักผ่อนหน่อยเถิดพ่ะย่ะค่ะ” โม่โฉวเห็นองค์รัชทายาทมุ่งหน้าทำแต่งานที่ประชาชนร้องเรียนมา อีกไม่นานองค์รัชทายาทก็จะได้ขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากฮ่องเต้ “ตอนนี้ท่านอาเป็นอย่างไรบ้าง” “ทุกคนยังคงไว้อาลัยให้องค์ชายหลานซวนพ่ะย่ะค่ะ” เฟิ่งงหวงหยักหน้าเขาเห็นใจหวางไห่เถิ่งที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และเรื่องที่หลานซวนก่อขึ้นมาทำให้วงศ์ตระกูลเสียหายโทษต้องกักขังไปยังญาติพี่น้องแต่เฟิ่งหวงก็ไม่ยอมเพราะหวางไห่เถิงไม่มีส่วนรู้เห็น “องค์รัชทายาท! ตามหมอหลวงเร็วเข้า” โม่โฉวหันไปเรียกกงกงเมื่อองค์รัชทายาททรงเป็นลมไป ทำให้ทั้งตำหนักวุ่นวายไปหมดใบหน้าซีดเผือดขององค์รัชทายาทนอนหลับอยู่บนเตียงกว้าง “องค์รัชทายาทน่าจะทรงงานหนักให้พักผ่อนสักหน่อยจะดีขึ้นเองขอรับ” “ท่านให้คนไปส่งหมอหลวง” “พระชายาไม่อยู่นั้นกระหม่อมจะดูแลท่านเอง” โม่

  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 21 อย่าได้เห็นหน้ากันอีก

    “ท่านพ่อหมายความว่าอย่างไรเพคะ” ลู่เสียนเกรี้ยวกราดขึ้นมาเมื่อแม่ทัพหลิงหยุนมาบอกข่าวร้าย “องค์รัชทายาททรงส่งเจ้ากลับจวน” “กรี๊ดดดด องค์รัชทายาทจะทำแบบนั้นกับข้าไม่ได้” ลู่เสียนกับมาคิดดูแล้วสิ่งที่องค์รัชทายาททำไปก็แค่ใช้นางเป็นเครื่องมือและส่งองค์หญิงออกไปนอกวัง หลอกให้นางดีใจพอเรื่องราวจบก็ส่งนางกลับจวน “ลูกพ่อองค์รัชทายาทยกเลิกที่จะรับลูกเป็นสนม” หลิงยุนไม่มีสิทธิ์โต้แย้งเพราะคือคำขาดจากองค์รัชทายาทในอนาคตก็จะขึ้นครองบัลลังก์ “ลูกไม่ดีตรงไหนทำไมองค์รัชทายาทถึงหลงใหลมันนัก” “ลูก! เจ้าระวังคำพูดด้วย” ลู่เสียนโกรธและพร่ำเพ้อออกมานางเห็นใบหน้าขององค์รัชทายาทครั้งแรก ก็ตกหลุมรักหาวิธีที่จะได้เข้าใกล้และทรงขอร้องท่านพ่อให้เข้าไปกราบทูลฮ่องเต้ให้รับนางเป็นสนมขององค์รัชทายาท นางดีใจจนแทบบ้าที่ได้รับข่าวดี แต่พอมาวันนี้ทุกอย่างเป็นแค่แผนหลอกให้นางไปเสี่ยงตายแต่กับปกป้ององค์หญิงไป๋หลาน “องค์รัชทายาทตรัสไว้ชาตินี้จะไม่รับสนมจะมีแค่พระชายาคนเดียว” “ทำไมนางถึงไม่ตายตั้งแต่ตอนนั้น” ลู่เสียนโกรธแค้นที่สุดท้ายแล้วนาง

  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 20 ภัยร้าย

    ไป๋หลานเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าตำหนักของเฟิ่งหวงนางกำนัลมาแจ้งข่าวว่าเขากำลังจะรับสนมเข้ามาในตำหนักวันนี้ ถึงแม้ไม่อยากจะเชื่อแต่ภาพที่เห็นตรงหน้ากับทำในนางเจ็บปวดไม่น้อย “องค์หญิง” “เจ้ากำลังคิดจะทำอะไรเฟิ่งหวง” ไป๋หลานมองไปที่องค์รัชทายาทด้วยแววตาที่แสนเจ็บปวดที่เห็นเขากำลังนั่งอยู่ใกล้นางสนมคนนั้น “ก็อย่างที่เจ้าเห็นข้าจะรับนางเป็นสนม” เฟิ่งหวงเห็นแววตาที่แสนเจ็บปวดนั้นก็หันใบหน้าหนีเขาใจไม่แข็งพอที่จะเห็นน้ำตาของนาง “หม่อมฉันเลี่ยงซูเพค่ะองค์หญิงไป๋หลาน” “ข้าไม่อยากรู้จักเจ้า! เจ้าตอบข้ามาคำว่ารักที่เจ้าพูดหรือมันแค่หลอกลวง” ไป๋หลานเจ็บปวดเหลือเกินที่เห็นเขาไม่แยแสนางหรือที่เขาทำเพื่อจะแก้แค้นนาง “เจ้าพูดเหมือนไม่เคยหลอกข้า ออกไปข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้า” “เจ้าต้องการแก้แค้นข้าหรือ” ไป๋หลานปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเมื่อคิดว่าที่ผ่านมาเขาจะรักนางแต่ทุกอย่างกับไม่ใช่เขาแค่ต้องการแก้แค้นนาง “หรือหากเจ้ารับไม่ได้เจ้าก็กลับบ้านเมืองเจ้าไปเสียพิธีอภิเษกของเราถือว่ายกเลิก” เฟิ่งหวงพยายามที่จะกลั้นใจพูดออกมาเพื่อให้นางเกลียดเขา

  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 19 ของหวงของข้า

    “เฟิ่งหวง อ๊ะ” ไป๋หลานครางออกมาเมื่อเฟิ่งหวงใช้มือกอบกุมเต้าคู่งามไว้และขย้ำหน้าอกของนางอย่างแรงจนนางต้องตีมือเขาไว้ “เจ้าดูมังกรของข้าสิ” เฟิ่งหวงนำมังกรมาถูไถบริเวณแผ่นหลังของนาง “เจ้าคนหื่น” ไป๋หลานได้แต่บนเขาในใจไม่รู้ว่าเฟิ่งหวงอดอยากมาจากไหนถึงได้ตะกละตะกลามกินนางอย่างมูมมามและกินไม่อิ่มเสียที “ไยเจ้าถึงไม่ท้องเสียที มีโอรสหรือธิดาให้ข้า” เฟิ่งหวงขมวดคิ้วอย่างสงสัยเพราะมั่นใจว่าเขาสามารถทำให้นางท้องได้แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าไป๋หลานจะตั้งท้อง “ขะ ข้า” “หรือเจ้ามีอะไรปิดบังข้า” ไป๋หลานเงียบเพราะนางคุมกำเนิดทุกครั้งยามที่สุขสมตอนนี้นางอยากให้ทุกอย่างสงบสุขก่อน “ข้าคุมกำเนิด” “เจ้าทำย่างนั้นทำไมเจ้าไม่อยากมีลูกกับข้าหรือ” เฟิ่งหวงให้นางหันมาเผชิญหน้ากัน เขาเฝ้ารอที่นางจะตั้งท้องแต่ทุกอย่างก็พังลงแววตาเสียใจทำให้ไป๋หลานหันหน้าหนี “บ้านเมืองของเจ้ายังไม่สงบสุขเจ้าคิดว่าหากคนเหล่านั้นย้อนกลับมาทำร้ายข้าและลูกเจ้าจะทำอย่างไร” ไป๋หลานอยากให้เฟิ่งหวงมีเหตุผลมากกว่าที่เป็นอยู่ “ข้าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายเจ

  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 18 องค์รัชทายาทหวางเฟิ่งหวง

    เวลาต่อมาทั้งแผ่นดินของแคว้นหวางป๋อจึงได้รับรู้ว่าได้มีองค์รัชทายาทองค์ใหม่พร้อมกับอีกไม่นานจะมีพิธีอภิเษกระหว่างองค์รัชทายาทเฟิ่งหวงกับองค์หญิงไป๋หลาน “หวางหลิ่วอิน” หลีเหว่ยเดินเข้ามาในหมู่บ้านแห่งหนึ่งพร้อมกับมองไปที่ชายชุดดำที่ถูกมัดมือมัดเท้าไว้ “ท่านอ๋อง” “หลานซวนทำไมถึงคิดก่อกบฏ” ตอนนี้ท่านอ๋องและฮ่องเต้รู้ความจริงกันหมดแล้วว่าหลานซวนคิดจะก่อกบฏตอนนี้พวกเขายังไม่ทำอะไรปล่อยให้คนร้ายตายใจเสียก่อน “ข้าไม่คิดว่าเสด็จพี่จะทรงคิดกำจัดองค์หญิงและองค์รัชทายาท หากเสด็จพ่อรู้เข้าต้องเสียพระทัยอย่างหนัก” หวางหลิ่วอินไม่อยากให้บิดารับรู้แต่สิ่งที่หลานซวนทำนั้นเรื่องใหญ่นัก “อย่าให้ใครรู้เราแยกกันตรงนี้” “ทูลลาท่านอ๋อง” หลีเหว่ยเดินทางกลับเข้ามาในวังหลวงทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “องค์หญิงอยู่ที่ตำหนักองค์รัชทายาทเพค่ะ” “เจ้านั้นคิดจะกักขังน้องไป๋หลานไว้หรือไง” หลีเหว่ยพูดออกมาเมื่อเฟิ่งหวงไม่ยอมปล่อยไป๋หลานกลับตำหนัก เฟิ่งหวงอาการดีขึ้นอย่างมากเพราะมีองค์หญิงไป๋หลานคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง เพราะเฟิ่งห

  • สยบรักมังกรหลงถิ่น   บทที่ 17 ลักหลับ

    เฟิ่งหวงทรงลืมตาขึ้นมาด้วยความยากลำบากและนึกคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านเขาถูกยิงด้วยธนูที่ต้นแขนแล้วไป๋หลานนางปลอดภัยหรือไม่ “องค์รัชทายาทฟื้นแล้วเพค่ะ” นางกำนัลรีบมากราบทูลฮ่องเต้ที่ทรงนั่งรออยู่หน้าตำหนักจึงรีบเข้ามาดูองค์รัชทายาท “หวงเอ๋อร์เจ้าเป็นอย่างไรบ้างหมอหลวงตรวจดูอาการองค์รัชทายาท” “ไป๋หลานทรงปลอดภัยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” หากนาวงเป็นอะไรไปเขาจะอยู่อย่างไร ราวกับมีเข็มเป็นพันหมื่นเล่มทิ่มแทงหัวใจของเขา “องค์หญิงทรงมิได้เป็นอะไรนางเฝ้าไข้ลูกทั้งคืนเพิ่งกลับไปพักผ่อนลูกวางใจเถิด” มุมปากหยักโค้งขึ้นน้อยๆ คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มองค์รัชทายาทถอดแบบมาจากผู้เป็นพ่อไม่มีผิด “ข้าอยากพบหน้านาง โม่โฉวเจ้าไปตามองค์หญิงมา” เมื่อได้ยินดังนั้นความวิตกเล็กน้อยสลายไปจนสิ้น “พ่ะย่ะค่ะ” “ลูกพักผ่อนเสียเถิดเอาไว้หายดีแล้วค่อยมาพูดคุยกัน” ไป๋หลานเดินทางมายังตำหนักของเฟิ่งหวงอีกครั้งสีหน้านั้นเก็บความดีใจไว้ไม่อยู่ “โอ้ยย ไป๋หลานข้าเจ็บเหลือเกิน” เฟิ่งหวงเมื่อเห็นนางเดินเข้ามาจึงแทรกทำเป็นร้องโวยวายออกมาในยามที่หมอหลวงกำลังทำแผล

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status