แชร์

บทที่ 724 ตายตาไม่หลับ

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
อินชิงเสวียนหันหน้ามา และเห็นรูม่านตาเหล่านั้นของเย่จิ่งอวี้ถูกล้อมรอบด้วยแสงสีแดง

“อาอวี้!”

เมื่อสิ้นเสียงพูด ใต้เท้าของเย่จิ่งอวี้ก็ตวัดภาพติดตาออกมา อินชิงเสวียนเห็นเพียงเงาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เย่จิ่งอวี้ก็มาอยู่ตรงหน้าของจูอวี้เหยียนแล้ว

อินชิงเสวียนตกใจอย่างอดไม่ได้

วิทยายุทธ์ของเย่จิ่งอวี้แข็งแกร่งมากจริงๆ แต่ไม่ได้แกร่งมากถึงขั้นนั้น นี่มันพลังวิชาอะไรกันแน่ หรือว่าเจ้าสำนักเซี่ยวถ่ายทอดวิชาให้เขาแล้ว?

เมื่อคิดดูอีกครั้ง เย่จิ่งอวี้และเจ้าสำนักเซี่ยวแทบไม่พูดจาด้วยกันเลย จะถ่ายทอดวิชาได้อย่างไร?

เวลาเพียงครู่เดียว ก็ได้ยินจูอวี้เหยียนส่งเสียงกรีดร้องออกมา จากนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก

อินชิงเสวียนวิ่งเข้าไปในห้องทันที และหยิบมีดสั้นตัดเชือกที่ผูกหวนไท่เฟยไว้

เย่จิ่งอวี้ยังคงยืนอยู่ที่เดิม และมองจูอวี้เหยียนด้วยสายตาที่เยือกเย็น

จูอวี้เหยียนยกมือสาดควันพิษ เย่จิ่งอวี้ไม่แม้แต่จะขยับ ดวงตายังคงจ้องเลือดที่ริมฝีปากของนางอยู่ตลอด

จูอวี้เหยียนถูกมองจนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที

“เจ้า... เจ้าต้องการจะทำสิ่งใด?”

ทันใดนั้น เย่จิ่งอวี้ก็ยกเท้าเหยียบที่หน้าอ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 725 น่าสนุก

    เย่จิ่งอวี้หิ้วร่างของจูอวี้เหยียนขึ้นมา และพูดอย่างเย็นชาว่า “ผู้หญิงที่ชั่วร้ายเช่นนี้ สมควรให้นำศพของนางไปทิ้งร้างในป่าช้าอย่างไม่ไยดี และปล่อยให้สัตว์ป่ารุมกัดกิน”อินชิงเสวียนไม่ได้พูดอะไร ในใจนึกถึงแสดงสีแดงแปลกประหลาดในแววตาของเย่จิ่งอวี้อยู่ตลอดเวลาเย่จิ่งอวี้ลากร่างของจูอวี้เหยียนมาด้านนอกเรือน อินชิงเสวียนเรียกไป๋เสวี่ยหนึ่งครั้ง และรีบพยุงหวนไท่เฟยที่สลบไสลไม่ได้สติเดินตามมาอย่างว่องไวเย่จิ่งอวี้เดินออกมายังทางเดินหินเขียว ใบหน้าที่หล่อเหลาเปื้อนหยดเลือดจำนวนมาก เขาใช้มือเพียงข้างเดียวหิ้วร่างของจูอวี้เหยียนที่ดวงตาที่โปนออกมาและยังมีเลือดไหลไม่หยุด ตาคมคู่หนึ่งเย็นชาดั่งน้ำแข็ง และเต็มไปด้วยความเกลียดชังรอยเลือดยาวพาดผ่านทางเดินหินสีเขียว และกลิ่นคาวเลือดก็ถาโถมเข้าจมูกเมื่อมองเย่จิ่งอวี้ที่ราวกับอสูรแห่งยมโลก ลูกศิษย์หลายคนของสำนักเซียวเหยาต่างก็ตกใจจนต้องถอยไปหนึ่งก้าวในทันทีอาซือหลานซ่อนตัวอยู่ในความมืดและเฝ้าดูอย่างเย็นชารวมทั้งวิธีการลงมือของเย่จิ่งอวี้ และรูม่านตาที่มีสีแดง เขาเห็นมองเห็นอย่างชัดเจนนี่คือวรยุทธ์ของสำนักใดกัน?หรือเป็นวิชาการต

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 726 เมล็ดพันธุ์ที่ปลูกมาหลายปี

    เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเขาอย่างเย็นชา“นางจับตัวท่านแม่ของข้า ไม่สมควรถูกฆ่างั้นหรือ?”อาซือหลานถามด้วยความตกใจ “เรื่องนี้... เป็นความจริงหรือ?”“เหตุใดเจ้าสำนักฉุยต้องทำท่าทีเสแสร้งด้วยเล่า เรื่องราวเกิดขึ้นในสำนักเซียวเหยา ข้าไม่เชื่อว่าท่านไม่รู้เรื่อง”ปลายดาบของเย่จิ่งอวี้ขยับไปด้านหน้าอีกหนึ่งคืบ และห่างจากปลายจมูกของอาซือหลานไม่ถึงสามคืบอาซือหลานถอนหายใจพูดว่า “ข้าไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ ข้ารู้ว่าชื่อเสียงของสำนักเซียวเหยาไม่ดีมากนัก ความจริงข้ารู้ว่าไม่สมควรโต้แย้ง แต่ข้ากล้าสาบานต่อฟ้าดินว่า ข้าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ”เขาชะงักไปเล็กน้อยแล้วพูดต่อว่า “วันนั้นหญิงสาวสกุลจูมาที่นี่พร้อมกับของแทนใจท่านอาจารย์ของนาง และข้อร้องให้ข้าช่วยฟื้นฟูวรยุทธ์ของนาง ข้าช่วยนางก็เป็นเพราะชำระบุญคุณที่เคยติดค้างกับท่านอาจารย์ของนาง”อาซือหลานมีสีหน้าจริงใจ ถึงขนาดชูมือขึ้นสาบานต่อฟ้าดินเย่จิ่งอวี้ไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน เพราะเขาพบคนที่สำนักเซียวเหยา ฉุยอวี้มีฐานะเป็นเจ้าสำนัก เขาจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร เพียงแต่ตอนนี้หวนไท่เฟยยังคงหมดสติอยู่ จึงไม่มีประโยชน์อะไ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 727 น้ำพุวิญญาณแสดงอิทธิฤทธิ์

    ณ หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เจ้าสำนักเซี่ยวและผู้คุมตราเซี่ยวถูกยกเข้ามาในเรือน เย่จิ่งหลานใช้เครื่องมือเพื่อตรวจร่างกายทั้งสองคน คนหนึ่งมีอาการบาดเจ็บภายในและอีกคนหนึ่งมีอาการบาดเจ็บที่ผิวหนังภายนอก ทักษะทางการแพทย์ของเขามีประโยชน์เพียงเล็กน้อยอินชิงเสวียนกลับรู้สึกโล่งใจ การไม่ต้องผ่าตัดถือจะจัดการได้ง่ายขึ้นจึงรีบนำน้ำพุวิญญาณสองขวดออกมาจากมิติ และป้อนให้ดื่มคนละขวด จากนั้นก็นำน้ำพุวิญญาณออกมาอีกสองถัง และให้ลูกศิษย์ชายหญิงนำทั้งสองไปแช่น้ำเซี่ยวอิ๋นหวนได้สติและฟื้นขึ้นมาอย่างว่องไว เมื่อรู้ว่าตัวเองกลับมายังหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์แล้ว นางก็รีบคว้ามือของอินชิงเสวียน“อวี้เอ๋อร์เล่า?”อินชิงเสวียนยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า “ท่านแม่วางใจได้เจ้าค่ะ อาอวี้ออกไปทำธุระ อีกสักครู่ก็จะกลับมา”เมื่อพูดจบ เสียงของเย่จิ่งอวี้ก็ดังขึ้นจากด้านนอก“ท่านแม่ของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”อินชิงเสวียนได้ยินเสียงของเขาก็รีบพูดว่า “ท่านแม่ฟื้นแล้วเพคะ กำลังแช่น้ำอยู่ อาอวี้ไม่ต้องเป็นกังวล”เย่จิ่งอวี้สบายใจขึ้นเล็กน้อย เขารู้สรรพคุณของน้ำพุวิญญาณเป็นอย่างดี มีเสวียนเอ๋อร์อยู่ ท่านแม่ของ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 728 งานแต่งที่มาถึง

    เซี่ยวอิ๋นหวนตอบรับ สายตามองลูกชายและลูกสะใภ้ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความพึงพอใจอย่างมากโดยเฉพาะอินชิงเสวียน นางเกิดมามีหน้าตางดงาม และรู้เหตุรู้ผลเป็นอย่างมาก อาอวี้สามารถพบผู้หญิงแบบนี้ นางก็รู้สึกสบายใจแต่เมื่อนึกได้ว่าเรื่องที่เป่ยไห่ยังไม่ได้แก้ไข เซี่ยวอิ๋นหวนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้หากว่าตัวเองสามารถควบคุมพิณการเวกได้ อินชิงเสวียนและอาอวี้ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่แล้วพวกเขาควรใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวัง ตอนนี้กลับต้องมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมสงคราม นับเป็นภัยพิบัติที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ“พวกเจ้าออกมานานขนาดนี้ ทางด้านราชสำนักจะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เย่จิ่งอวี้พูดปลอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ท่านแม่ไม่ต้องเป็นกังวลนะเจ้าคะ เสด็จอาสิบสามรักษาการณ์อยู่ในราชสำนัก จะต้องเรียบร้อยดีทุกอย่างเจ้าค่ะ”เซี่ยวอิ๋นหวนพยักหน้ารับ “ไม่ว่าเป็นด้านวรยุทธ์หรือการวางแผน ท่านอ๋องสิบสามสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน”ในใจกลับเป็นห่วงว่า เมื่อคนได้รับอำนาจเป็นเวลานานเกินไป จะเกิดความคิดอื่นขึ้นมาหรือไม่แต่ทว่า ทุกสิ่งย่อมมีข้อยกเว้นไม่ใช่ทุกคนบนโลกที่จะชื่นชมอำนาจบารมี เย่จั้นในตอนนี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 729 ฝ่าบาทคือจิ้งอ๋องใช่หรือไม่

    เป่าเล่อเอ่อร์รู้สึกเขินอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าแดงระเรื่อ นางก้มศีรษะลง และจ้องมองที่ด้านหลังเท้าซูหมิงหลานเหลือบมองเหล่าลูกชายและลูกสาวคนเล็ก มุมปากก็เผยรอยยิ้มแห่งความรักใคร่ออกมาหลังงานแต่งของสิงอวิ๋น ปู้อวี่และจื่อลั่วก็คงอีกไม่นานนักตอนนี้ถือว่าตระกูลอินได้ปัดเป่าความขมขื่นและต้อนรับความหอมหวานเข้ามา อีกไม่นานก็จะมีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมืองทุกสิ่งเป็นเพราะคุณงามความดีของเสวียนเอ๋อร์ หากนางไม่พยายามคิดหาทางตอนอยู่ในวัง ตระกูลอินก็คงไม่สามารถกลับจากเมืองซุ่ยหานได้รวดเร็วเช่นนี้ ความจริงควรได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันในงานมงคล ฝ่าบาทกลับส่งนางไปจัดการปัญหาเรื่องน้ำที่ต่างเมือง ไม่รู้ว่าจะกลับมาได้เมื่อใดเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูหมิงหลานก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างอดไม่ได้อินจื่อลั่วจึงถามขึ้นว่า “ท่านแม่คิดถึงท่านพี่อีกแล้วใช่หรือไม่?”ซูหมิงหลานพยักหน้า“การเดินทางครั้งนี้ยาวไกลยิ่งนัก ไม่รู้ว่าท่านพี่ของเจ้าปลอดภัยดีหรือไม่ ตอนนี้ก็ไปได้เดือนกว่าแล้ว แต่ยังไม่มีจดหมายส่งมา แม่เป็นกังวลมากจริงๆ”อินจ้งพูดด้วยความอ่อนโยนว่า “มีองครักษ์ของราชวงศ์ไปด้วย จะต้องคุ้มครองความป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 730 ไม่สามารถยอมรับได้

    นิ้วมือของเย่จั้นสั่นไหวเล็กน้อย และหันหน้ากลับมาในทันทีสายตาของอินสิงอวิ๋นจ้องมองเขาอย่างมั่นคงทั้งสองสบตากันอยู่นาน เย่จั้นจึงโบกมือให้เหล่าองครักษ์ถอยออกไป พร้อมพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มจางๆ “พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”อินสิงอวิ๋นน้อมตัวและพูดว่า “แม้ว่ากระหม่อมจะไปมาหาสู่ท่านอ๋องและฝ่าบาทไม่บ่อยนัก แต่ยังสามารถแยกแยะความแตกต่างได้ กระหม่อมได้ยินมาตลอดว่าจิ้งอ๋องเลื่อมใสในการต่อสู้ และรักท่านนายพลเป็นอย่างมาก หากฝ่าบาทมาที่นี่ เขาไม่มีทางเป็นห่วงอัคราจารย์ได้มากเช่นนี้”“อีกอย่าง จิ้งอ๋องกลับเมืองซุ่ยหานอย่างกะทันหัน และน้องใหญ่ก็ออกจากเมืองหลวงด้วยความร้อนใจ หากกระหม่อมเดาไม่ผิด เกรงว่าจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับฝ่าบาท”ในสายตาของเย่จั้นแสดงความชื่นชมเล็กน้อยออกมาในทันที คิดไม่ถึงว่าอินสิงอวิ๋นจะมีความคิดที่รอบคอบเช่นนี้ ตระกูลอินพร้อมด้วยผู้ที่มีความสามารถ ล้วนเป็นเสาหลักทั้งนั้นการคาดเดาของเขาอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงแต่ทว่า เย่จั้นกลับไม่สามารถยอมรับได้เมื่อข่าวรั่วไหลออกไป จะต้องทำให้ประเทศชาติสั่นคลอนแน่นอนเขายิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “เจ้าคิดมากไปแล้ว เดิมทีจิ้งอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 731 เรื่องนี้ให้ข้าจัดการเอง

    “กรี๊ด!”เสียงฟางรั่วกรีดร้อง กวนเซี่ยววิ่งรุดไปทันที“เกิดอะไรขึ้น”ครั้นก้มลงมอง ก็รู้สึกคลื่นเหียนอยากอาเจียน ตรงหน้าคือศพผู้หญิงที่ถูกนกแร้งจิกกัดจนจำสภาพเดิมไม่ได้ มือที่โผล่ออกมากลายเป็นกระดูกสีขาว แม้จะเป็นช่วงกลางวันแสกๆ ที่ท้องฟ้าสดใส ก็ยังน่ากลัวอย่างยิ่ง“รีบไปกันเถอะ”กวนเซี่ยวฝืนระงับอาการคลื่นไส้ กระตุกแขนเสื้อของฟางรั่วฟางรั่วกลับหยุดชะงัก บนแขนของคนผู้นั้นมีรอยตรารูปงูอยู่ ซึ่งนี่เป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ฝึกฝนกู่พิษ หรือว่า...ฟางรั่วผลักกวนเซี่ยวออกไป ค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่ง ใช้กิ่งไม้ยกแขนของศพขึ้น ตรวจดูอย่างละเอียด ครั้นแล้วก็ต้องตกใจนี่คือจูอวี้เหยียน!นางไม่มีทางจำผิดแน่นอน!คิดไม่ถึงว่านางก็มาถึงชายฝั่งทะเลเป่ยไห่เหมือนกัน แถมยังมาตายกลางป่ากลางเขาอีกใครเป็นคนฆ่านางกันนะ เกิดอะไรขึ้นกับนางบนชายฝั่งทะเลเป่ยไห่“มีอะไรรึ”กวนเซี่ยวถามขณะบีบจมูกฟางรั่วทิ้งกิ่งไม้ แล้วพูดเบาๆ “คนผู้นี้คงจะเป็นจูอวี้เหยียน”กวนเซี่ยวก้าวถอยหลังด้วยความประหลาดใจ“อะไรนะ นาง...ทำไมถึงอยู่ที่นี่”“ข้าก็ไม่รู้ ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น รีบไปกันเถอะ จำไว้ เมื่อถึงเป่ยไห่แล้ว จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 732 ยอมหาเรื่องสุภาพชน แต่ไม่ยอมหาเรื่องคนถ่อย

    ในเป่ยไห่ท้องฟ้าสว่างเร็วกว่าปกติมาก หลังจากที่แม่ลูกคุยกันสักพัก ท้องฟ้าข้างนอกก็เริ่มส่องแสงสีเงินยวงแล้วอินชิงเสวียนขยิบตาให้เย่จิ่งอวี้ทันที“อาอวี้ นี่ก็สายแล้ว ให้ท่านแม่รีบพักผ่อนเถอะ!”เย่จิ่งอวี้ยืนขึ้นทันที ในเวลานี้ ประตูก็เปิดออก และเจ้าสำนักเซี่ยวได้ก้าวเข้ามาจากด้านนอกหลังจากอาบน้ำในน้ำพุวิญญาณ เจ้าสำนักเซี่ยวแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ดวงตาทั้งคู่เป็นประกาย ใบหน้าแดงเปล่งปลั่ง“หวนเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”เซี่ยวอิ๋นหวนลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว“พ่อบุญธรรมไม่ต้องเป็นห่วง หวนเอ๋อร์เรียบร้อยดีทุกอย่างเจ้าค่ะ”บาดแผลบริเวณผิวหนังของหวนไท่เฟยตกสะเก็ดแล้ว จึงไม่รู้สึกเจ็บปวดมากนัก ท่าทางมีชีวิตชีวายิ่งนักเจ้าสำนักเซี่ยวพยักหน้า และมองไปที่อินชิงเสวียน“น้ำที่ข้าใช้อาบน้ำแช่ตัว เจ้าก็นำมาจากเมืองหลวงกระนั้นหรือ”อินชิงเสวียนไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “เจ้าค่ะ ยังมีเหลืออยู่บ้าง”จากนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างรวดเร็ว “เหตุใดเจ้าสำนักเซี่ยวจึงหมดสติอยู่ข้างถนน เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ”เซี่ยวอิ๋นหวนรีบถามทันควัน “พ่อบุญธรรม หรือว่าท่านก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน?”เจ้าสำนั

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1468 อย่าได้คืบจะเอาศอก

    “สามวันติดแล้ว ที่ข้าสัมผัสลมปราณของชิงฮุยไม่ได้ หรือว่าเขาจะ...”ที่ด้านบนยอดเขา อินชิงเสวียนหยิบโต๊ะพกพาขนาดเล็กและเบาะที่นั่งสองที่นั่งออกมา ซึ่งบนโต๊ะเต็มไปด้วยน้ำผลไม้และอาหารอร่อยแม้จะบอกว่าออกมาตามหาคน แต่ในเมื่อมีปัจจัยที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ทำไมต้องไปทนทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็นล่ะนางหยิบนมพุทราจีนหนึ่งแก้วขึ้นมา แล้วยื่นให้ลั่วสุ่ยชิง“ว่ากันว่าถ้ากินพุทราจีนประจำ จะไม่แก่เร็ว มาลองกัน”ลั่วสุ่ยชิงหยิบขวดโยเกิร์ตขึ้นมาจิบ มันมีรสหวานอมเปรี้ยวและรสชาติค่อนข้างดี ในช่วงไม่กี่วันที่ออกมาข้างนอกกับอินชิงเสวียน สรรหาของมาให้นางกินจนเคยปากหมดแล้ว“เจ้าเป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆ จนป่านนี้แล้ว ยังมีรสนิยมสูงแบบนี้ได้อีก”อินชิงเสวียนเม้มปากเป็นรอยยิ้ม“คนก็เหมือนเหล็ก อาหารก็เหมือนเหล็ก ถ้าไม่กินข้าวสักมื้อจะหิวโหย เมื่อมีปัจจัยที่เพียบพร้อมเช่นนี้แล้ว ย่อมไม่ควรทำให้ตัวเองลำบาก”“ในมิติของเจ้า มีทุกอย่างจริงๆ หรือ”ลั่วสุ่ยชิงรู้แล้วว่าอินชิงเสวียนมีมิติมาด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะสนใจใคร่รู้อยู่บ้าง“ประมาณนั้น แต่น่าเสียดายที่คนนอกเข้ามาในมิติของข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะได้ให้เจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

DMCA.com Protection Status