หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 579 ข้าอยากย้ายออกไปอยู่ข้างนอก

แชร์

บทที่ 579 ข้าอยากย้ายออกไปอยู่ข้างนอก

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
กวนเซี่ยวไม่นึกว่าท่านปู่ที่รักเขามาโดยตลอด จะลงมือกับเขาได้ เขาถูกตบกระเด็นออกไปหลายก้าว

แต่กระนั้นผู้เฒ่ากวนยังไม่หายโกรธ เขาถลาเข้า เงื้อมือขึ้นตบอีกครั้ง

รองอาจารย์ใหญ่ที่เคยเป็นแม่ทัพขุนนางอาวุโส มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้เฒ่ากวน เมื่อเขาเห็นชายชราบ้าคลั่งทุบตีหลานชาย เขาก็รีบพาคนเข้ามารั้งตัวกวนฮั่นหลินไว้

“เหล่ากวน เจ้าก็แก่แล้ว เหตุใดถึงยังอารมณ์ร้ายอยู่ มีหลานชายเชื่อฟังอย่างเซี่ยวเอ๋อร์ เจ้ายังไม่พอใจอะไรอีก”

ผู้เฒ่ากวนโกรธจัด ดึงมือรองอาจารย์ใหญ่ออก แล้วพุ่งเข้าไปทุบตีเขาอีก

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะโกรธจัดเพียงนี้ ทุกคนต่างก็รู้ว่าเจียงวูและต้าโจวสู้รบอย่างดุเดือดมานาน กวนเซี่ยวกินดีหมีหัวใจเสือมาหรืออย่างไร ถึงได้กล้ามีความรักกับนาง

ถ้าถอยออกมาอีกก้าว แม้ว่าสตรีคนนั้นจะไม่ได้มาจากเจียงวู แต่นางก็ได้เข้าวังแล้ว ไม่ว่าฝ่าบาทจะชอบหรือไม่ นางก็เป็นผู้หญิงของฮ่องเต้ เจ้าเด็กบ้านี่ดันบอกว่าจะไปขอคนจากเขา นี่มันเสียหน้าตระกูลกวนไปกันใหญ่แล้ว

ผู้เฒ่ากวนทำงานโปร่งใสเปิดเผยบริสุทธิ์มาตลอดชีวิต เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ โทสะของเขาแทบจะระเบิดออกมา แทบอยากจะทุบตีกวนเซี่ยวให้ตายไปตรง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Nittaya
จะเลิกอ่านแล้วนะ
goodnovel comment avatar
Nittaya
เมื่อไหร่มา
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 580 ครอบครัว

    อินสิงอวิ๋นเหลือบมองนาง นัยน์ตาเฉยชาฉายแววขอบคุณ“นี่...”อินจ้งทำใจปล่อยลูกชายคนโตไม่ได้ แต่ก็รู้สึกว่าสิ่งที่อินชิงเสวียนพูดนั้นมีเหตุผล ในช่วงนี้เขาเดินไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว บุคลิกเปลี่ยนไปมากจริงๆอินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านพ่อไม่ต้องห่วง พี่ใหญ่แค่สูญเสียความทรงจำ ไม่ใช่ว่าจะดูแลตัวเองไม่ได้เสียหน่อย ถ้าท่านพ่อไม่วางใจ ก็หาเรือนที่ใกล้กับจวนอินหน่อยก็ได้”อินจ้งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “งั้น...งั้นก็ได้ แต่เจ้าอย่าไปอยู่ไกลนักนะ ไง่เช่นนั้นพ่อจะเป็นห่วง”“อืม”อินสิงอวิ๋นพยักหน้า ถือว่ารับปากแล้วอินชิงเสวียนกำลังจะกล่าวลา แล้วแวะไปเยี่ยมสำนักศึกษาหลวง แต่นางเห็นอินจื่อลั่ววิ่งเข้ามาจากด้านนอก เมื่อนางเห็นอินชิงเสวียน ก็รีบวิ่งไปหาอย่างดีใจ“พี่หญิง ท่านกลับมาทำไมไม่บอกข้าสักคำ”อินจื่อลั่วเบะปาก สีหน้าน้อยใจอินชิงเสวียนกอดน้องสาว พลางตบหลังนางเบาๆ “พี่ก็เพิ่งมาถึงเมื่อครู่นี่เอง”อินจื่อลั่วเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า “พี่หญิง ท่านจะกลับไปเล้วหรือเจ้าคะ”“อืม จื่อลั่วมีอะไรหรือเปล่า”เมื่อเห็นเด็กสาวตัวน้อยกอดเอวแน่น อินชิงเสว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 581 เหยียบจมูกขึ้นหน้า

    บนถนนเทียนเต็มไปด้วยของที่น่าตื่นตาตื่นใจ ต้องการสิ่งใดก็มีทุกอย่าง ซึ่งร้านข้าวของเหล่าหลิวไท่ไท่ก็อยู่ที่ด้านบนสุดของถนนเทียนเช่นกันในเมื่อออกมาแล้ว อินชิงเสวียนจึงตัดสินใจแวะเข้าไปดูพอเข้าไปในร้านก็เจอลูกค้ากำลังซื้อข้าว หลานสาวคนโตกำลังช่วยทำงานอยู่ ไม่ได้เจอนางแค่เพียงพริบตาเดียว กิริยาวาจาของต้าฮวาก็เรียบร้อยมากขึ้น มีเด็กน้อยสองคนวิ่งเล่นอยู่ข้างๆ ต่างถือขนมน้ำตาลปั้นอยู่ในมือ เห็นได้ชัดว่าชีวิตเริ่มดีขึ้นจริงๆหลิวเหล่าไท่ไท่เคยเห็นอินชิงเสวียนในชุดบุรุษแล้ว จึงปรี่เข้ามารับอย่างมีความสุขทันที“คุณชายเสวียน เชิญเข้ามานั่งเร็ว”อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่นั่งแล้ว ข้าแค่เข้ามาดูเฉยๆ”หลิวเหล่าไท่ไท่คิดว่านางมาที่นี่เพื่อเก็บเงิน จึงรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็รอข้าสักครู่”หลังจากพูดจบก็วิ่งไปที่เรือนด้านหลัง แล้วหยิบตั๋วเงินออกมาจากถุงข้าวที่มีรหัสลับ“นี่คือรายได้ในช่วงนี้ ข้าไม่ได้เก็บเศษเงินไว้เลย”นางดึงดันจะให้เศษเงินเล็กไปด้วยทุกครั้ง แต่อินชิงเสวียนก็ปฏิเสธทุกครั้ง เหล่าหลิวไท่ไท่จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะรวบรวมเศษเงิน และแลกทั้งหมดเป็นตั๋วเงินให้“ไม่ต้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 582 คราวหน้าเป็นวันตายของเจ้า

    “ไม่เป็นไร แม่รองจะพยายามดูแลอย่างดีที่สุด เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องที่บ้าน”ซูหมิงหลานจับมืออินชิงเสวียน พูดเสียงอ่อนโยน ดวงตาเต็มไปด้วยความรักอันอบอุ่นยิ่งนางมีเหตุผลมากเท่าไหร่ อินชิงเสวียนยิ่งรู้สึกว่าอินจ้งผิดต่อกับสตรีคนนี้มากขึ้นเท่านั้น“ในเมื่อนางเป็นลูกสาวของท่านพ่อ ก็ปล่อยให้เขาจัดการเอง ท่านแม่รองก็ไม่ต้องกังวล ถ้ารู้สึกว่าอยู่ในบ้านเบื่อๆ ข้าจะหาธุรกิจให้ท่านแม่รอง ไม่ทราบว่าท่านแม่รองเต็มใจหรือไม่”ดวงตาของซูหมิงหลานเป็นประกาย“ธุรกิจ?”นางได้เรียนรู้วิธีการทำธุรกิจจากตระกูลซูตั้งแต่ตอนอายุไม่กี่สิบปี ตอนนี้ลืมไปหมดแล้ว แต่ยังคงมีแสงสว่างริบหรี่อยู่ในใจถ้าออกไปได้ ย่อมดีกว่าอุดอู้อยู่ในบ้านแน่นอน“เป็นธุรกิจอะไรหรือ...ข้าจะทำได้หรือไม่”อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านแม่รองเก่งเรื่องการเย็บปักถักร้อย ต้องทำได้แน่ ข้ามีผ้าลายปักมากมายที่ไม่เคยมีมาก่อนในต้าโจว เป็นลวดลายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ท่านแม่รองไม่ต้องปักอะไร แค่หาคนมาตัดตามแบบก็พอ และไม่จำเป็นต้องแสดงตัว จ้างผู้ดูแลร้านที่ไว้ใจได้ แล้วท่านก็เข้าไปดูเป็นครั้งคราว”ซูหมิงหลานพยักหน้าโดยพลัน“เรื่องทำงานข

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 583 ข้าทำใจไม่ได้

    อินชิงเสวียนมองย้อนกลับไป แต่ก็ไม่เห็นใครอยู่จึงจับมือเล็กป้อมของลูกขึ้นมา แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “จ้าวเอ๋อร์คิดถึงเสด็จพ่อหรือลูก”เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงยังคงชี้ออกไปด้านนอก“เด็จพ่อ มามา~”อวิ๋นฉ่ายวิ่งไปดูที่ประตู แล้วพูดอย่างพิศวง “ไม่มีใครอยู่นะ?”ทันทีที่พูดจบ ก็มีเสียงฝีเท้ามั่นคงดังมาจากนอกประตูมีร่างหนึ่งผลักเปิดประตูเข้ามา ซึ่งก็คือเย่‍จิ่ง‍อวี้ในชุดเสื้อคลุมผ้าสีดำลายสีเข้มเรือนผมสีดำสนิทถูกรวบขึ้นด้วยปิ่นกลัดมวยผมสีดำ ดูสุขุมเรียบร้อย ทำคนทั้งคนมีกลิ่นอายดุดันน่าครั่นคร้ามขึ้นอวิ๋นฉ่ายและจังอวี้จิ่นออกไปทันที พร้อมกับปิดประตูให้อย่างใส่ใจเย่‍จิ่ง‍อวี้อุ้มลูกชายขึ้นมาแล้ว จิ้มจมูกเล็กๆ ของเขา แล้วถามว่า “วันนี้จ้าวเอ๋อร์เป็นเด็กดีหรือไม่”เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงมองดูลวดลายรูปมังกรสีเข้มที่สวยงามบนเสื้อผ้าอย่างสนใจใคร่รู้ แล้วพูดเสียงนุ่มนิ่ม “ดีๆ”เย่‍จิ่ง‍อวี้เขย่าตัวเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงในอ้อมแขนเบาๆแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “จ้าวเอ๋อร์เป็นเด็กดีจริงๆ”อินชิงเสวียนอดสงสัยไม่ได้ว่า เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงแค่พูดส่งเดช หรือเขามีความสามารถในการรับรู้ล่วงหน้า?น่าเสียดายที่ตอนนี้ลูกยังเด็กเกิน

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 584 ขอน้ำพุวิญญาณ

    อินชิงเสวียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยดึกดื่นป่านนี้แล้ว จอมพลเฒ่ามาทำอะไรที่นี่“มาเข้าเฝ้าฝ่าบาทหรือ”องครักษ์กล่าวอย่างพินอบพิเทา “มิได้พ่ะย่ะค่ะ จอมพลเฒ่าต้องการพบกุ้ยเฟย”“โอ้ ข้ารู้แล้ว”จอมพลเฒ่ากวนไม่ใช่คนนอก ดังนั้นอินชิงเสวียนจึงสวมชุกพรางตัวออกจากตำหนักไปที่ทางเข้าประตูจิ้งอาน อินชิงเสวียนเห็นชายชรากำลังเดินกลับไปกลับมาทันใดนั้นนางก็นึกถึงฟางรั่ว จอมพลเฒ่ามาที่นี่ คงจะมาด้วยเรื่องของกวนเซี่ยวแต่ทำไมไม่มาที่นี่ตอนกลางวันล่ะ กลัวโดนหัวเราะเยาะงั้นหรือแม้ว่ากวนฮั่นหลินจะอายุปูนนี้แล้ว แต่เขาก็มีหูตาว่องไว ทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้า ก็หันหน้ามาทันที“กระหม่อมถวายพระพรกุ้ยเฟยพ่ะย่ะค่ะ”อินชิงเสวียนเดินเร็วๆ ไปช่วยประคองผู้เฒ่ากวนลุกขึ้น“อัคราจารย์ไม่ต้องมากพิธี เข้าวังมาดึกขนาดนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ”กวนฮั่นหลินรู้สึกกระอักกระอ่วนเขาเข้าวังมาเพื่อขอน้ำ เนื่องจากความเดือดดาลของเขาทำให้กวนเซี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้กำลังนอนอยู่ที่บ้านกวนฮั่นหลินจำได้ว่าตอนที่ตัวเองได้รับบาดเจ็บ อินชิงเสวียนเคยให้ดื่มน้ำบางชนิด ภายหลังจากนั้นเขาก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วชายชร

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 585 ยอดฝีมือประมือกัน

    แล้วผู้ที่อยู่ตรงข้าม คือผีแคระหลายคนกำลังเฝ้าดูอย่างกระตือรือร้นนี่คือการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือ ทั้งสองฝ่ายต่างมองหาจุดอ่อนของกันและกัน ที่สามารถสังหารได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวในชั่วพริบตา เวลาก็ผ่านไปนานถึงสามสิบนาทีลมหนาวยามค่ำคืนทำให้เสื้อผ้าของหลายๆ คนส่งเสียงพึ่บพั่บดังขึ้น ไม่เพียงแต่ทุกคนจะไม่เคลื่อนไหว แต่การหายใจยังช้าลงเล็กน้อยอีกด้วยในบรรดาคนเหล่านี้ อินปู้อวี่มีนิสัยใจร้อนที่สุด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อมีฝ่าบาทองค์ปัจจุบันและท่านอ๋องยืนอยู่ด้วย หากมีแค่พวกเขาสองพี่น้อง อินปู้อวี่คงลงมือไปนานแล้ว พวกนั้นเป็นเพียงคนตัวเตี้ยที่สูงไม่เท่าไหร่ มีอะไรให้กลัวเมื่อเขาทนไม่ไหวอีกต่อไป สีหน้าของผีแคระที่อยู่ตรงหน้าเขาก็เปลี่ยนไป พูดเป็นภาษาของพวกเขา “มีกลิ่นของสุนัข คนเหล่านี้ต้องมีกำลังเสริม เราต้องรีบจบการต่อสู้โดยระ...”ยังไม่ทันได้เอ่ยคำว่าเร็ว เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็เคลื่อนไหวแล้ว แสงกระบี่นั้นเป็นประกายราวกับน้ำใส ที่ลากแสงอันสุกใสเข้าหาผีแคระหลายตัว“บากะยาโร่ (ไอ้บ้าเอ้ย)!”คนหนึ่งสบถสาปแช่ง แล้วร่างก็หายไปทันที อีกคนแยกออกเป็นสองร่าง ยังมีอีกคนที่กลายร่างเป็นสีเขียว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 586 ศัครูของศัตรูคือมิตร

    ในเวลาเดียวกัน อินชิงเสวียนก็พาไป๋เสวี่ยตามมาถึงนอกชายป่าแล้ว บังเอิญพบกับเย่‍จิ่ง‍อวี้ที่เหาะออกมาจากด้านในพอ“ฝ่าบาท ท่านไม่เป็นอะไรนะ คนอื่นล่ะ”“เสวียน‍เอ๋อร์ ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”เย่‍จิ่ง‍อวี้จรดฝีเท้าอย่างมั่นคง แล้วขมวดคิ้วนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นสนุกผีแคระพวกนี้ชั่วร้ายมาก แม้ว่าพวกเขาจะฆ่าไปสองคน แต่ก็สิ้นเปลืองพลังงานไปมากจริงๆอินชิงเสวียนรู้ว่าเขาเป็นห่วงนาง นางจึงหยิบขวดน้ำแร่ที่บรรจุน้ำพุวิญญาณออกมา เขย่าแล้วพูดว่า “หม่อมฉันเป็นห่วงพวกท่าน จึงนำน้ำพุวิญญาณมาให้ที่นี่ พวกท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่”เขามองดูลูกตาดำที่ตัดกับตาขาวชัดเจนนั้น ดวงตาคู่นั้นเป็นสุกใสราวกับน้ำพุ เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็ต่อว่าไม่ลงในเมื่อเขาเป็นห่วงนาง อินชิงเสวียนก็ห่วงเขาได้เช่นกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามีพี่ชายสองคนของนางมาร่วมศึกในคราวนี้ด้วยเขาพูดด้วยน้ำเสียงเนิบช้าลงเล็กน้อย “เสวียน‍เอ๋อร์ไม่ต้องห่วง ทุกคนเรียบร้อยดี เดิมทีอาจฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้ในคราวเดียว แต่จู่ๆ ควันกำมะถันก็ปรากฏขึ้นในป่า ข้ากลัวจะเกิดการระเบิดหรือเพลิงไหม้ จึงให้เสด็จอาและคนอื่นๆ ถอยออกมาก่อน”อินชิงเสวียนก็ได้กลิ่นกำมะถันเช่น

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 587 ข้าตกใจแทบแย่

    “หวังซุ่นยังมีชีวิตอยู่รึ”เย่‍จิ่ง‍อวี้หันกลับไปถามอินชิงเสวียนส่ายศีรษะอย่างไม่แน่ใจ“หวังซุ่นถูกคว้านท้อง สภาพน่าอนาถยิ่งนัก หม่อมฉันให้ฉินเทียนส่งเขาไปยังจวนฝูอี้อ๋องแล้ว หวังว่าจะช่วยให้ฟื้นได้”จากนั้นก็ถามอย่างฉงน “ทำไมหวังซุ่นถึงอยู่ในห้องนั้น ผู้ใดทำร้ายเขากันแน่”เย่‍จิ่ง‍อวี้พูดด้วยสีหน้ามืดมน “คงจะเป็นคนตงหลิวพวกนั้น ตอนที่ข้าและเสด็จอามาถึง หวังซุ่นก็ถูกฆ่าไปแล้ว คนพวกนี้จมูกไว และเคลื่อนไหวเร็วมาก ซ่อนตัวจากเจวี๋ยอิ่งได้ด้วย”อินชิงเสวียนพูดปลอบ “ว่ากันว่าชาวตงหลิวถนัดวิชาต่อสู้นินจา ในเมื่อคนเหล่านี้สามารถบุกทะลวงแนวป้องกันของสำนักต่างๆ มาที่เมืองหลวงได้ พวกเขาคงมีความสามารถพอสมควร โชคดีที่การต่อสู้คราวนี้สามารถกำจัดไปได้สองคน นับว่าเป็นกำไรมหาศาลแล้วเพคะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้พยักหน้า เหลือบมองท้องฟ้า แล้วมองดูทุกคน พูดว่า “ยามนี้พวกเขาซ่อนตัวแล้ว คงไม่พบภายในหนึ่งหรือสองวันอย่างแน่นอน คืนนี้รบกวนทุกคนแล้ว เชิญกลับไปพักผ่อนเถิด ข้าจะให้เจวี๋ยอิ่งสืบตามต่อเอง”ทุกคนประกบมือคำนับพร้อมกัน“พวกกรหม่อมทูลลา”อินปู้อวี่เหลือบมองน้องสาวอย่างเป็นห่วง เดิมทีอยากพูดตักเตือนอีก

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1468 อย่าได้คืบจะเอาศอก

    “สามวันติดแล้ว ที่ข้าสัมผัสลมปราณของชิงฮุยไม่ได้ หรือว่าเขาจะ...”ที่ด้านบนยอดเขา อินชิงเสวียนหยิบโต๊ะพกพาขนาดเล็กและเบาะที่นั่งสองที่นั่งออกมา ซึ่งบนโต๊ะเต็มไปด้วยน้ำผลไม้และอาหารอร่อยแม้จะบอกว่าออกมาตามหาคน แต่ในเมื่อมีปัจจัยที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ทำไมต้องไปทนทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็นล่ะนางหยิบนมพุทราจีนหนึ่งแก้วขึ้นมา แล้วยื่นให้ลั่วสุ่ยชิง“ว่ากันว่าถ้ากินพุทราจีนประจำ จะไม่แก่เร็ว มาลองกัน”ลั่วสุ่ยชิงหยิบขวดโยเกิร์ตขึ้นมาจิบ มันมีรสหวานอมเปรี้ยวและรสชาติค่อนข้างดี ในช่วงไม่กี่วันที่ออกมาข้างนอกกับอินชิงเสวียน สรรหาของมาให้นางกินจนเคยปากหมดแล้ว“เจ้าเป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆ จนป่านนี้แล้ว ยังมีรสนิยมสูงแบบนี้ได้อีก”อินชิงเสวียนเม้มปากเป็นรอยยิ้ม“คนก็เหมือนเหล็ก อาหารก็เหมือนเหล็ก ถ้าไม่กินข้าวสักมื้อจะหิวโหย เมื่อมีปัจจัยที่เพียบพร้อมเช่นนี้แล้ว ย่อมไม่ควรทำให้ตัวเองลำบาก”“ในมิติของเจ้า มีทุกอย่างจริงๆ หรือ”ลั่วสุ่ยชิงรู้แล้วว่าอินชิงเสวียนมีมิติมาด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะสนใจใคร่รู้อยู่บ้าง“ประมาณนั้น แต่น่าเสียดายที่คนนอกเข้ามาในมิติของข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะได้ให้เจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

DMCA.com Protection Status