หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 549 ความควายเข้ามาแทรก

แชร์

บทที่ 549 ความควายเข้ามาแทรก

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-03 16:00:00
“อวี้จิ่น เจ้าเป็นอะไร?”

อวิ๋นฉ่ายใช้แขนชนนางหนึ่งที

จังอวี้จิ่นตัวสั่นในทันใด

“ไม่ ข้าไม่เป็นไร”

จังอวี้จิ่นซุกหัวไว้บนขา และไม่พูดอะไรอีกเลย

อวิ๋นฉ่ายคิดว่านางง่วงนอน จึงไม่ได้พูดอะไรอีก

ด้านในห้อง เย่จิ่งอวี้อุ้มอินชิงเสวียนขึ้นมา และวางลงบนเตียงใหญ่ที่ปูด้วยฟูกนุ่มนิ่ม

เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหล่าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ อินชิงเสวียนก็เม้มริมฝีปากด้วยความเขินอาย ขนตาที่เรียวยาวสั่นสะท้านอย่างต่อเนื่อง

ท่าทางเขินอายของเด็กสาวตัวน้อย ทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกอึดอัดในลำคอ และกอดนางอย่างแน่นไว้ในอ้อมอก

“เสวียนเอ๋อร์...”

เขาเรียกชื่อของนางเบาๆ ริมฝีปากบางเฉียบจรดลงบนใบหน้าเล็กๆ ของนางที่ขาวนวลราวกับเครื่องเคลือบดินเผาเนื้อดี

แม้ทั้งสองจะไม่ได้ร่วมหอกันเป็นครั้งแรก แต่อินชิงเสวียนยังคงรู้สึกเขินอาย และตื่นเต้นอย่างมาก นางรู้สึกถึงอุณหภูมิของร่างกายเพิ่มขึ้น และการหายใจก็เร็วขึ้นเล็กน้อย

มือใหญ่ของเย่จิ่งอวี้สอดเข้าไปใต้ปกคอเสื้อ ความเย็นยะเยือกเพียงเล็กน้อยทำให้นางรู้สึกสบายใจอย่างมาก จึงแอ่นร่างขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามใจได้ และกอดคอของเย่จิ่งอวี้เอาไว้

ริมฝีปากของทั้งสองอยู่ใกล้กันเพียงคืบเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 550 คนดีและคนเลว

    อินชิงเสวียนรู้ว่าเจวี๋ยอิ่งกำลังสิบคดีคนชราอย่างลับๆ จึงรีบถามขึ้นว่า “จับตัวฆาตกรได้แล้วหรือเพคะ?”“ยังไม่ได้”เย่จิ่งอวี้เล่าเรื่องที่เจวี๋ยอิ่งถูกโจมตีให้นางฟังอย่างง่ายๆ“เช่นนี้นี่เอง หม่อมฉันสะดวกแน่นอนเพคะ ฝ่าบาทเคยเข้าไปในมิติของหม่อมฉันแล้ว ตาบ่อน้ำที่ท่านเห็นก็คือน้ำพุวิญญาณ หม่อมฉันจะเข้าไปตักเดี๋ยวนี้เลยเพคะ”ชีวิตคนสำคัญกว่าทุกสิ่ง อินชิงเสวียนไม่มัวเสียเวลา นางใช้ความนึกคิดและเข้าไปในมิติ จากนั้นก็ตักน้ำพุวิญญาณมาหนึ่งถัง และมอบให้แก่เย่จิ่งอวี้“ขอบพระทัยเสวียนเอ๋อร์ ข้าจะไปสำนักหมอหลวงเดี๋ยวนี้ เจ้าพักผ่อนเสียเถอะ”หลังจากเย่จิ่งอวี้ไปแล้ว อินชิงเสวียนก็ไม่อยากนอนต่อความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรกคนเหล่านี้ทำเพื่อเหตุผลอะไรกัน?แต่สิ่งเล็กๆ ที่ทำให้นางพึงพอใจ นั่นก็คือเย่จิ่งหลานไม่ใช่คนทำเรื่องนี้เพราะเขาเป็นคนบ้านเดียวกันเพียงคนเดียวอินชิงเสวียนในโลกใบนี้ อินชิงเสวียนไม่ต้องการให้มีวันที่เขาถูกลงโทษด้วยกฎหมายของต้าโจวผ่านไปไม่นาน ท้องฟ้าก็สว่างขึ้นอวิ๋นฉ่ายหาวและลุกขึ้นยืน“ฝ่าบาทตื่นค่อนข้างไว ข้าจะไปตักน้ำล้างหน้าก่อน เจ้ารออยู่ที่นี่แหละ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-04
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 551 มีลูกคนเดียวก็ดีแล้ว

    เมื่ออินชิงเสวียนมาถึงห้องโถงด้านข้าง เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงก็ตื่นขึ้นพอดี สองแม่ลูกหยอกเย้ากันสักพัก จากนั้นยายหลี่ก็มาอุ้มเจ้าเด็กตัวกลมไปดื่มนมอินชิงเสวียนเข้าไปอาบน้ำในมิติ เพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย เมื่อออกมาสีหน้าก็ผ่องใสขึ้นนางรับประทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ จากนั้นจึงเปลี่ยนชุดบุรุษ เตรียมตัวไปยังสำนักศึกษาหลวงทันทีที่ออกไป ก็เห็นเย่‍จิ่ง‍อวี้เดินนำหลี่เต๋อฝูเข้ามาจากประตู“เสวียน‍เอ๋อร์กำลังจะไปแล้วหรือ”เมื่อเห็นหญิงสาวตัวน้อยสวมชุดบุรุษ บุคลิกองอาจห้าวหาญ ดวงตาของเย่‍จิ่ง‍อวี้เป็นประกาย ช่างเป็นสตรีที่ไม่เป็นรองบุรุษอย่างแท้จริง“อืม ไม่ได้ไปหลายวันแล้ว หม่อมฉันจึงอยากไปดูเสียหน่อย ประเดี๋ยวใต้เท้าเฒ่าพวกนั้นจะด่าข้าเอา”อินชิงเสวียนเอามือไพล่หลัง อิสระเสรีดั่งบุรุษเย่‍จิ่ง‍อวี้ยื่นนิ้วแตะจมูกเชิดรั้นของนางเบาๆ“ใครกล้าดุเจ้า ข้าจะถลกหนังเขาเอง”อินชิงเสวียนเม้มปากยิ้ม แล้วถามว่า “องครักษ์เงาผู้นั้นเป็นอย่างไรบ้างเพคะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้พูดอย่างยินดี “หลังจากดื่มน้ำของเสวียน‍เอ๋อร์ อาการก็ดีขึ้นมาก”ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงภาพหลอนที่เห็นตอนที่อยู่ในมิติของอินชิงเสวียน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-04
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 552 เจ้ารู้จักสตรีผู้หนึ่งหรือไม่

    อินชิงเสวียนพยักหน้า“ใช่ หรือเจ้าอยากไปที่ไหนหรือไม่”เย่ไห่ถังกัดริมฝีปาก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เสด็จพี่สะใภ้ ท่าน...ไม่อยากเยี่ยมที่บ้านหรือ”อินชิงเสวียนประหลาดใจ“เจ้าอยากไปบ้านท่านพ่อข้างั้นหรือ”เย่ไห่ถังพยักหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าไม่เคยเห็นว่าคนธรรมดาเป็นอย่างไร เสด็จพี่สะใภ้พาข้าไปดูได้หรือไม่”อินชิงเสวียนไม่ค่อยอยากกลับบ้าน เพราะถ้าอินจ้งเห็นนาง เขาจะถามถึงจูอวี้เหยียนแน่นอนตัวเองไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อจูอวี้เหยียน แต่อินจ้งนั้นแตกต่างออกไป หากเขารู้ว่าจูอวี้เหยียนมีสภาพน่าสมเพชเพียงนั้น แม้จะไม่พูดออกมา แต่ในใจเขาคงจะรู้สึกแย่แน่ๆเย่ไห่ถังแสดงทักษะการออดอ้อนของนางทันที กระตุกแขนเสื้อของอินชิงเสวียนแล้วพูดว่า “ไปนะ ไปดูหน่อยนะเจ้าคะ”อินชิงเสวียนจนปัญญากับท่าทางการอ้อนของนาง จึงพยักหน้าฉินเทียนและหลี่ชีต่างคอยทำตามคำสั่งอินชิงเสวียน ย่อมไม่ถามมาก ครั้นแล้วอีกสิบห้านาทีต่อมา รถม้าก็หยุดที่หน้าประตูจวนแม่ทัพเด็กรับใช้ที่เฝ้าหน้าประตูเข้าไปรายงานทันที ครู่ต่อมา อินปู้อวี่ก็เดินออกจากเรือนเมื่อเห็นว่าเป็นอินชิงเสวียน อินปู้อวี่ก็ดีใจมาก“น้องหญิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-04
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 553 ข้าจะเอาสตรีคนนี้

    ระหว่างทางกลับ อินชิงเสวียนยังคงระมัดระวังตัวขึ้นสุด จนกระทั่งเข้าใกล้ประตูจิ้งอัน นางจึงผ่อนคลายเล็กน้อยไม่ไกลนัก มีชายคนหนึ่งกำลังตะโกนเรียกลูกค้ามาซื้อขนมเปี๊ยะนึ่ง สายตาจ้องมองไปที่รถม้าเป็นครั้งคราวเมื่อเห็นอินชิงเสวียนเข้าวัง คนผู้นั้นก็เดินเข้าไปในตรอกข้างๆ ทันทีในนั้นยังมีอีกหลายหาบตั้งอยู่ ข้างหาบมีคนอีหลายคนกำลังนั่งยองๆ อยู่“เป็นอย่างไรบ้าง” คนหนึ่งถามชายร่างเตี้ยที่แบกหาบพูดด้วยภาษาของพวกเขาว่า “แปลกมาก เห็นได้ชัดว่าสตรีคนนี้ไม่รู้วรยุทธ์ แต่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งแก่ผู้พบเห็น”อีกคนถามว่า “หรือเจ้าคิดไปเอง สนมในวังจะรู้วรยุทธ์ได้อย่างไร”คนก่อนหน้านี้พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “นางแข็งแกร่งจริงๆ เราจะหุนหันพลันแล่นไม่ได้”คนที่อยู่อีกฟากหนึ่งยิ้มอย่างเหยียดหยาม“ก็แค่ผู้หญิงยิงเรือ มีอะไรต้องกลัว องครักษ์เงาในวังพวกนั้นก็ตายด้วยน้ำมือของเราไม่ใช่รึ”“ที่พูดมาก็มีเหตุผล พระสนมคนนี้ก็เป็นเพียงผู้หญิงยิงเรือ เหล่าซานระมัดระวังเกินเหตุ”คนที่มีตาสามเหลี่ยมจากหนึ่งในนั้นอ้าปาก เลียริมฝีปากแล้วพูดว่า “หญิงผู้นี้หน้าตาสะสวยจริงๆ เมื่อพวกเจ้าถามถึงที่อยู่ของพิณได้แล้ว ก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-05
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 554 เจอคนชั่วระหว่างทาง

    อินชิงเสวียนลุกขึ้นยืนทันที“นางไปนานแค่ไหนแล้ว”ใบหน้าของอวิ๋นฉ่ายซีดลงด้วยความหวาดกลัว“ก็ประมาณ...สิบห้านาทีเพคะ”ใบหน้าของอินชิงเสวียนมืดมน“รีบไปตามหา”ในเวลานี้ จังอวี้จิ่นกำลังอุ้มเด็กยืนตัวสั่นอยู่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่นางได้ทำสิ่งเลวร้ายเช่นนี้ ร่างทั้งร่างสั่นเป็นเจ้าเข้าทรงจังอวี้จิ่นก็ไม่รู้ว่าจะพาเด็กไปที่ไหน นางมาอยู่ในวังไม่นาน ไม่คุ้นเคยกับสถานที่ นางจึงหาสวนเล็กๆ และมาซ่อนอยู่ในนั้นเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงคิดว่าจังอวี้จิ่นกำลังเล่นกับตัวเอง จึงหัวเราะพลางคว้าเส้นผมของนางเล่นเมื่อเห็นเด็กน่ารักเช่นนี้ จังอวี้จิ่นก็ทำไม่ลงอีกเด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ พระสนมก็เป็นคนดี นางแค่ต้องการให้พระสนมมอบตัวอินสิงอวิ๋นผู้ชั่วร้าย ไม่เคยต้องการทำร้ายผู้ใดเมื่อคิดได้ดังนี้ จังอวี้จิ่นก็สงบจิตใจได้มากนางกำลังจะรอนางกำนัล ให้นางไปแจ้งพระสนมที่ตำหนักจินหวูขณะที่กำลังคิดอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจังอวี้จิ่นรู้สึกกระวนกระวายใจทันที กอดเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงไว้แน่นแล้วจึงได้ยินเสียงอ่อนหวานพูดว่า “ดูนี่สิ ดอกไม้ในตำหนักกำลังจะเหี่ยวแห้งไป อีกไม่นานฤดูเหมันต์จะเยือนแล้ว”เสียงหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-05
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 555 หญิงต่ำช้ายังกล้าเรียกข้าอีกรึ

    เลือดสายหนึ่งพุ่งออกมาจากมือเล็กป้อมของเสี่ยว‍หนาน‍เฟิง เด็กก็เริ่มร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดทันทีลู่จิ้งเสียนรู้สึกหฤหรรษ์อินชิงเสวียน นังสารเลวต้องมีตอนที่ตกอยู่ในกำมือของข้าเข้าสักวันถึงอย่างไรเด็กก็เป็นหญิงชั้นต่ำนี่ขโมยมา แม้ว่าอินชิงเสวียนจะตรวจสอบ ก็ตรวจสอบมาไม่ถึงนางเมื่อนึกถึงตรงนี้ ดวงตาของลู่จิ้งเสียนเย็นชา และแทงแรงๆ อย่างไม่ยั้งมือ...ด้านนอกตำหนักจินหวู อินชิงเสวียนพาเหล่าขันทีนางกำนัลตามหาทั่ววัง ในไม่ช้าเย่‍จิ่ง‍อวี้ก็ทราบเรื่องเมื่อทราบว่าลูกหายตัวไป เขาก็เรียกรวมพลทหารองครักษ์ทันที สั่งการให้ไปตรวจค้นทุกที่“เสวียน‍เอ๋อร์ไม่ต้องกังวล เด็กคนนั้นไม่รู้วรยุทธ์ หนีออกจากวังไม่ได้แน่”อินชิงเสวียนจะไม่กังวลได้อย่างไร แม้ว่านางกับลูกของนางจะไม่มีความสัมพันธ์แม่ลูกที่แท้จริง แต่ก็มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากพอได้อยู่ด้วยกันนานวันเข้า ถึงไม่ใช่แม่ลูก แต่ก็มากกว่าคำว่าแม่ลูกไปไกลแล้วเมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตายังไม่วายแดงก่ำ“จังอวี้จิ่นกับจ้าวเอ๋อร์ไม่มีความแค้นต่อกัน นางไม่มีเหตุผลที่จะลักพาตัวจ้าวเอ๋อร์ไป ต้องถูกใครบางคนหลอกแน่”เย่‍จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-05
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 556 เลือดล้างตำหนักจิ้งอาน

    เสียงของเย่‍จิ่ง‍อวี้นั้นเย็นชาราวกับยมบาลในนรกภูมิ อันทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวทันใดนั้นเหล่าบ่าวไพร่ก็หวาดกลัว ต่างคุกเข่ากับบนพื้นเพื่อขอความเมตตา หวังว่าฝ่าบาทจะไว้ชีวิตพวกนางแต่กลับถูกเย่‍จิ่ง‍อวี้เตะออกไป พูดอย่างเย็นชา “ประหารได้”องครักษ์รีบรุดเข้ามาราวหมาป่าดั่งเสือทันที ลากคนทั้งหมดเหล่านี้ไปที่ลาน และหยิบไม้กระดานขึ้นมาโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ ชั่วครู่หนึ่ง ตำหนักจิ้งอานก็เต็มไปด้วยเสียงโหยหวน เลือดนองเป็นแม่น้ำเย่‍จิ่ง‍อวี้รับเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงมาอุ้มด้วยสีหน้าปวดใจ เกลือกหน้ากับใบหน้าอันอ่อนนุ่มของเขา“จ้าวเอ๋อร์ไม่ต้องกลัว ข้าจะตามหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้ มารักษาให้จ้าวเอ๋อร์”เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงจับหน้าเย่‍จิ่ง‍อวี้อย่างรู้ความ พูดด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว “คิดถึงเด็จพ่อ~”เมื่อมองดูมือที่บวมแดงของเสี่ยว‍หนาน‍เฟิง น้ำตาของอินชิงเสวียนก็รินไหล“จ้าวเอ๋อร์เจ็บหรือไม่”เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงส่ายศีรษะเล็กๆ “ไม่เจ็บเจ็บ~”เลือดไหลเยอะเพียงนี้ จะไม่เจ็บได้อย่างไรอินชิงเสวียนสูดจมูก พูดว่า “รีบไปเถอะ แม่จะทายาให้เจ้า”อย่างไรก็ตาม เมื่อกลับมาถึงตำหนักจินหวู อินชิงเสวียนรู้สึกประหลาดใจที่พบว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-06
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 557 ทำไมต้องดีกับนาง

    อินชิงเสวียนเหลือบมองท้องฟ้า ก็เห็นว่าเป็นเวลาพลบค่ำแล้วเย่‍จิ่ง‍อวี้จับมือเล็กๆ ของจ้าวเอ๋อร์แล้วจูบอย่างอ่อนโยน“เสวียน‍เอ๋อร์ไม่ต้องไปหรอก จะได้ไม่ต้องทำร้ายความรู้สึกระหว่างพ่อลูกของพวกเจ้า”อินชิงเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายศีรษะถึงอย่างไรก็ต้องเผชิญหน้ากัน อีกทั้งฝ่าบาทไม่ได้ทำอะไรผิดในเรื่องนี้จุดจบของสายลับเต็มไปด้วยความเศร้าสลดเสมอ การไว้ชีวิตจูอวี้เหยียนก็นับว่าเมตตามากแล้ว“ไม่ต้องหรอกเพคะ หลบก็หลบไม่พ้นอยู่ดี”เย่‍จิ่ง‍อวี้จ้องมองนางและถามอย่างอบอุ่น “เสวียน‍เอ๋อร์คงไม่คิดว่าวิธีการของข้าโหดร้ายเกินไปหรอกกระมัง”อินชิงเสวียนคลี่ยิ้ม“ไม่ใช่แน่เพคะ หม่อมฉันไม่ใช่คนที่แยกแยะผิดถูกไม่ได้ ฝ่าบาททรงทำเช่นนี้เพื่อเขียนเสือให้วัวกลัว เป็นการปกป้องความปลอดภัยของต้าโจว”เย่‍จิ่ง‍อวี้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ เขาหอมแก้มของนางเบาๆเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงรีบยื่นหน้าออกไปใกล้ๆ เช่นกัน“เด็จพ่อ จะหอมหอม~”ใบหน้าของอินชิงเสวียนเปลี่ยนเป็นสีแดง พูดค้อนๆ “ฝ่าบาทอย่าสอนเรื่องไม่เป็นเรื่องให้ลูกสิเพคะ”“ไม่ต้องห่วง เขาไม่เข้าใจอะไรหรอก”เย่‍จิ่ง‍อวี้อุ้มเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงอย่างอารมณ์ดี เสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-06

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status