หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 551 มีลูกคนเดียวก็ดีแล้ว

แชร์

บทที่ 551 มีลูกคนเดียวก็ดีแล้ว

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-04 16:00:00
เมื่ออินชิงเสวียนมาถึงห้องโถงด้านข้าง เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงก็ตื่นขึ้นพอดี สองแม่ลูกหยอกเย้ากันสักพัก จากนั้นยายหลี่ก็มาอุ้มเจ้าเด็กตัวกลมไปดื่มนม

อินชิงเสวียนเข้าไปอาบน้ำในมิติ เพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย เมื่อออกมาสีหน้าก็ผ่องใสขึ้น

นางรับประทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ จากนั้นจึงเปลี่ยนชุดบุรุษ เตรียมตัวไปยังสำนักศึกษาหลวง

ทันทีที่ออกไป ก็เห็นเย่‍จิ่ง‍อวี้เดินนำหลี่เต๋อฝูเข้ามาจากประตู

“เสวียน‍เอ๋อร์กำลังจะไปแล้วหรือ”

เมื่อเห็นหญิงสาวตัวน้อยสวมชุดบุรุษ บุคลิกองอาจห้าวหาญ ดวงตาของเย่‍จิ่ง‍อวี้เป็นประกาย ช่างเป็นสตรีที่ไม่เป็นรองบุรุษอย่างแท้จริง

“อืม ไม่ได้ไปหลายวันแล้ว หม่อมฉันจึงอยากไปดูเสียหน่อย ประเดี๋ยวใต้เท้าเฒ่าพวกนั้นจะด่าข้าเอา”

อินชิงเสวียนเอามือไพล่หลัง อิสระเสรีดั่งบุรุษ

เย่‍จิ่ง‍อวี้ยื่นนิ้วแตะจมูกเชิดรั้นของนางเบาๆ

“ใครกล้าดุเจ้า ข้าจะถลกหนังเขาเอง”

อินชิงเสวียนเม้มปากยิ้ม แล้วถามว่า “องครักษ์เงาผู้นั้นเป็นอย่างไรบ้างเพคะ”

เย่‍จิ่ง‍อวี้พูดอย่างยินดี “หลังจากดื่มน้ำของเสวียน‍เอ๋อร์ อาการก็ดีขึ้นมาก”

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงภาพหลอนที่เห็นตอนที่อยู่ในมิติของอินชิงเสวียน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 552 เจ้ารู้จักสตรีผู้หนึ่งหรือไม่

    อินชิงเสวียนพยักหน้า“ใช่ หรือเจ้าอยากไปที่ไหนหรือไม่”เย่ไห่ถังกัดริมฝีปาก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เสด็จพี่สะใภ้ ท่าน...ไม่อยากเยี่ยมที่บ้านหรือ”อินชิงเสวียนประหลาดใจ“เจ้าอยากไปบ้านท่านพ่อข้างั้นหรือ”เย่ไห่ถังพยักหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าไม่เคยเห็นว่าคนธรรมดาเป็นอย่างไร เสด็จพี่สะใภ้พาข้าไปดูได้หรือไม่”อินชิงเสวียนไม่ค่อยอยากกลับบ้าน เพราะถ้าอินจ้งเห็นนาง เขาจะถามถึงจูอวี้เหยียนแน่นอนตัวเองไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อจูอวี้เหยียน แต่อินจ้งนั้นแตกต่างออกไป หากเขารู้ว่าจูอวี้เหยียนมีสภาพน่าสมเพชเพียงนั้น แม้จะไม่พูดออกมา แต่ในใจเขาคงจะรู้สึกแย่แน่ๆเย่ไห่ถังแสดงทักษะการออดอ้อนของนางทันที กระตุกแขนเสื้อของอินชิงเสวียนแล้วพูดว่า “ไปนะ ไปดูหน่อยนะเจ้าคะ”อินชิงเสวียนจนปัญญากับท่าทางการอ้อนของนาง จึงพยักหน้าฉินเทียนและหลี่ชีต่างคอยทำตามคำสั่งอินชิงเสวียน ย่อมไม่ถามมาก ครั้นแล้วอีกสิบห้านาทีต่อมา รถม้าก็หยุดที่หน้าประตูจวนแม่ทัพเด็กรับใช้ที่เฝ้าหน้าประตูเข้าไปรายงานทันที ครู่ต่อมา อินปู้อวี่ก็เดินออกจากเรือนเมื่อเห็นว่าเป็นอินชิงเสวียน อินปู้อวี่ก็ดีใจมาก“น้องหญิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-04
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 553 ข้าจะเอาสตรีคนนี้

    ระหว่างทางกลับ อินชิงเสวียนยังคงระมัดระวังตัวขึ้นสุด จนกระทั่งเข้าใกล้ประตูจิ้งอัน นางจึงผ่อนคลายเล็กน้อยไม่ไกลนัก มีชายคนหนึ่งกำลังตะโกนเรียกลูกค้ามาซื้อขนมเปี๊ยะนึ่ง สายตาจ้องมองไปที่รถม้าเป็นครั้งคราวเมื่อเห็นอินชิงเสวียนเข้าวัง คนผู้นั้นก็เดินเข้าไปในตรอกข้างๆ ทันทีในนั้นยังมีอีกหลายหาบตั้งอยู่ ข้างหาบมีคนอีหลายคนกำลังนั่งยองๆ อยู่“เป็นอย่างไรบ้าง” คนหนึ่งถามชายร่างเตี้ยที่แบกหาบพูดด้วยภาษาของพวกเขาว่า “แปลกมาก เห็นได้ชัดว่าสตรีคนนี้ไม่รู้วรยุทธ์ แต่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งแก่ผู้พบเห็น”อีกคนถามว่า “หรือเจ้าคิดไปเอง สนมในวังจะรู้วรยุทธ์ได้อย่างไร”คนก่อนหน้านี้พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “นางแข็งแกร่งจริงๆ เราจะหุนหันพลันแล่นไม่ได้”คนที่อยู่อีกฟากหนึ่งยิ้มอย่างเหยียดหยาม“ก็แค่ผู้หญิงยิงเรือ มีอะไรต้องกลัว องครักษ์เงาในวังพวกนั้นก็ตายด้วยน้ำมือของเราไม่ใช่รึ”“ที่พูดมาก็มีเหตุผล พระสนมคนนี้ก็เป็นเพียงผู้หญิงยิงเรือ เหล่าซานระมัดระวังเกินเหตุ”คนที่มีตาสามเหลี่ยมจากหนึ่งในนั้นอ้าปาก เลียริมฝีปากแล้วพูดว่า “หญิงผู้นี้หน้าตาสะสวยจริงๆ เมื่อพวกเจ้าถามถึงที่อยู่ของพิณได้แล้ว ก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-05
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 554 เจอคนชั่วระหว่างทาง

    อินชิงเสวียนลุกขึ้นยืนทันที“นางไปนานแค่ไหนแล้ว”ใบหน้าของอวิ๋นฉ่ายซีดลงด้วยความหวาดกลัว“ก็ประมาณ...สิบห้านาทีเพคะ”ใบหน้าของอินชิงเสวียนมืดมน“รีบไปตามหา”ในเวลานี้ จังอวี้จิ่นกำลังอุ้มเด็กยืนตัวสั่นอยู่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่นางได้ทำสิ่งเลวร้ายเช่นนี้ ร่างทั้งร่างสั่นเป็นเจ้าเข้าทรงจังอวี้จิ่นก็ไม่รู้ว่าจะพาเด็กไปที่ไหน นางมาอยู่ในวังไม่นาน ไม่คุ้นเคยกับสถานที่ นางจึงหาสวนเล็กๆ และมาซ่อนอยู่ในนั้นเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงคิดว่าจังอวี้จิ่นกำลังเล่นกับตัวเอง จึงหัวเราะพลางคว้าเส้นผมของนางเล่นเมื่อเห็นเด็กน่ารักเช่นนี้ จังอวี้จิ่นก็ทำไม่ลงอีกเด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ พระสนมก็เป็นคนดี นางแค่ต้องการให้พระสนมมอบตัวอินสิงอวิ๋นผู้ชั่วร้าย ไม่เคยต้องการทำร้ายผู้ใดเมื่อคิดได้ดังนี้ จังอวี้จิ่นก็สงบจิตใจได้มากนางกำลังจะรอนางกำนัล ให้นางไปแจ้งพระสนมที่ตำหนักจินหวูขณะที่กำลังคิดอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจังอวี้จิ่นรู้สึกกระวนกระวายใจทันที กอดเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงไว้แน่นแล้วจึงได้ยินเสียงอ่อนหวานพูดว่า “ดูนี่สิ ดอกไม้ในตำหนักกำลังจะเหี่ยวแห้งไป อีกไม่นานฤดูเหมันต์จะเยือนแล้ว”เสียงหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-05
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 555 หญิงต่ำช้ายังกล้าเรียกข้าอีกรึ

    เลือดสายหนึ่งพุ่งออกมาจากมือเล็กป้อมของเสี่ยว‍หนาน‍เฟิง เด็กก็เริ่มร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดทันทีลู่จิ้งเสียนรู้สึกหฤหรรษ์อินชิงเสวียน นังสารเลวต้องมีตอนที่ตกอยู่ในกำมือของข้าเข้าสักวันถึงอย่างไรเด็กก็เป็นหญิงชั้นต่ำนี่ขโมยมา แม้ว่าอินชิงเสวียนจะตรวจสอบ ก็ตรวจสอบมาไม่ถึงนางเมื่อนึกถึงตรงนี้ ดวงตาของลู่จิ้งเสียนเย็นชา และแทงแรงๆ อย่างไม่ยั้งมือ...ด้านนอกตำหนักจินหวู อินชิงเสวียนพาเหล่าขันทีนางกำนัลตามหาทั่ววัง ในไม่ช้าเย่‍จิ่ง‍อวี้ก็ทราบเรื่องเมื่อทราบว่าลูกหายตัวไป เขาก็เรียกรวมพลทหารองครักษ์ทันที สั่งการให้ไปตรวจค้นทุกที่“เสวียน‍เอ๋อร์ไม่ต้องกังวล เด็กคนนั้นไม่รู้วรยุทธ์ หนีออกจากวังไม่ได้แน่”อินชิงเสวียนจะไม่กังวลได้อย่างไร แม้ว่านางกับลูกของนางจะไม่มีความสัมพันธ์แม่ลูกที่แท้จริง แต่ก็มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากพอได้อยู่ด้วยกันนานวันเข้า ถึงไม่ใช่แม่ลูก แต่ก็มากกว่าคำว่าแม่ลูกไปไกลแล้วเมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตายังไม่วายแดงก่ำ“จังอวี้จิ่นกับจ้าวเอ๋อร์ไม่มีความแค้นต่อกัน นางไม่มีเหตุผลที่จะลักพาตัวจ้าวเอ๋อร์ไป ต้องถูกใครบางคนหลอกแน่”เย่‍จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-05
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 556 เลือดล้างตำหนักจิ้งอาน

    เสียงของเย่‍จิ่ง‍อวี้นั้นเย็นชาราวกับยมบาลในนรกภูมิ อันทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวทันใดนั้นเหล่าบ่าวไพร่ก็หวาดกลัว ต่างคุกเข่ากับบนพื้นเพื่อขอความเมตตา หวังว่าฝ่าบาทจะไว้ชีวิตพวกนางแต่กลับถูกเย่‍จิ่ง‍อวี้เตะออกไป พูดอย่างเย็นชา “ประหารได้”องครักษ์รีบรุดเข้ามาราวหมาป่าดั่งเสือทันที ลากคนทั้งหมดเหล่านี้ไปที่ลาน และหยิบไม้กระดานขึ้นมาโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ ชั่วครู่หนึ่ง ตำหนักจิ้งอานก็เต็มไปด้วยเสียงโหยหวน เลือดนองเป็นแม่น้ำเย่‍จิ่ง‍อวี้รับเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงมาอุ้มด้วยสีหน้าปวดใจ เกลือกหน้ากับใบหน้าอันอ่อนนุ่มของเขา“จ้าวเอ๋อร์ไม่ต้องกลัว ข้าจะตามหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้ มารักษาให้จ้าวเอ๋อร์”เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงจับหน้าเย่‍จิ่ง‍อวี้อย่างรู้ความ พูดด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว “คิดถึงเด็จพ่อ~”เมื่อมองดูมือที่บวมแดงของเสี่ยว‍หนาน‍เฟิง น้ำตาของอินชิงเสวียนก็รินไหล“จ้าวเอ๋อร์เจ็บหรือไม่”เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงส่ายศีรษะเล็กๆ “ไม่เจ็บเจ็บ~”เลือดไหลเยอะเพียงนี้ จะไม่เจ็บได้อย่างไรอินชิงเสวียนสูดจมูก พูดว่า “รีบไปเถอะ แม่จะทายาให้เจ้า”อย่างไรก็ตาม เมื่อกลับมาถึงตำหนักจินหวู อินชิงเสวียนรู้สึกประหลาดใจที่พบว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-06
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 557 ทำไมต้องดีกับนาง

    อินชิงเสวียนเหลือบมองท้องฟ้า ก็เห็นว่าเป็นเวลาพลบค่ำแล้วเย่‍จิ่ง‍อวี้จับมือเล็กๆ ของจ้าวเอ๋อร์แล้วจูบอย่างอ่อนโยน“เสวียน‍เอ๋อร์ไม่ต้องไปหรอก จะได้ไม่ต้องทำร้ายความรู้สึกระหว่างพ่อลูกของพวกเจ้า”อินชิงเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายศีรษะถึงอย่างไรก็ต้องเผชิญหน้ากัน อีกทั้งฝ่าบาทไม่ได้ทำอะไรผิดในเรื่องนี้จุดจบของสายลับเต็มไปด้วยความเศร้าสลดเสมอ การไว้ชีวิตจูอวี้เหยียนก็นับว่าเมตตามากแล้ว“ไม่ต้องหรอกเพคะ หลบก็หลบไม่พ้นอยู่ดี”เย่‍จิ่ง‍อวี้จ้องมองนางและถามอย่างอบอุ่น “เสวียน‍เอ๋อร์คงไม่คิดว่าวิธีการของข้าโหดร้ายเกินไปหรอกกระมัง”อินชิงเสวียนคลี่ยิ้ม“ไม่ใช่แน่เพคะ หม่อมฉันไม่ใช่คนที่แยกแยะผิดถูกไม่ได้ ฝ่าบาททรงทำเช่นนี้เพื่อเขียนเสือให้วัวกลัว เป็นการปกป้องความปลอดภัยของต้าโจว”เย่‍จิ่ง‍อวี้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ เขาหอมแก้มของนางเบาๆเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงรีบยื่นหน้าออกไปใกล้ๆ เช่นกัน“เด็จพ่อ จะหอมหอม~”ใบหน้าของอินชิงเสวียนเปลี่ยนเป็นสีแดง พูดค้อนๆ “ฝ่าบาทอย่าสอนเรื่องไม่เป็นเรื่องให้ลูกสิเพคะ”“ไม่ต้องห่วง เขาไม่เข้าใจอะไรหรอก”เย่‍จิ่ง‍อวี้อุ้มเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงอย่างอารมณ์ดี เสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-06
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 558 เจ้าเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบายจริงๆ

    ในป่าที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยลี้ แม่นางน้อยที่สวมชุดต่างเผ่ากำลังวิ่งหนีอย่างสุดชีวิตข้างหลังนางมีสุนัขป่าที่หิวโหยกำลังไล่ล่านางนางวิ่งมานานกว่าหนึ่งชั่วยาม ใบหน้าเล็กๆ แดงก่ำจากความกลัวและความเหนื่อยล้าเมื่อเห็นว่าสุนัขป่ากำลังจะตามทัน นางก็ดึงธนูและลูกธนูเล็กๆ ที่ฝังด้วยอัญมณีออกมาจากด้านหลังนี่คือสิ่งที่พี่ใหญ่ของนางอูเอินเป็นคนทำให้นางด้วยตัวเอง ตอนเด็ก พี่ใหญ่ยังสอนวิธียิงธนูให้นางกับมือเมื่อนึกถึงความอบอุ่นของครอบครัว นัยน์ตาของเป่าเล่อเอ่อร์ก็ฉายแววเจ็บปวดในสถานการณ์วิกฤติ นางไม่มีเวลาคิดอะไรมาก นางรีบโน้มธนูและยิงลูกธนูไปอย่างรวดเร็ว ลูกธนูปักร่างของสุนัขป่าเข้าอย่างจังการฝึกฝนมาหลายปี ได้ถูกนำมาใช้ในวันนี้เวลานี้ ลูกธนูเหล็กพุ่งฉิวไปอย่างรวดเร็วปานอสุนีบาตยิงเข้าที่คอของสุนัขป่าอย่างแม่นยำและรุนแรงสุนัขป่านอนอยู่บนพื้น เห่าหอนหลายครั้ง จากนั้นก็กระตุกและแน่นิ่งไปเป่าเล่อเอ่อร์เดินอย่างระมัดระวัง ดึงลูกธนูออกมา พอเห็นว่าฟ้าเริ่มมืดแล้ว จึงรีบวิ่งออกจากป่าตั้งแต่เด็กจนโตนางไม่เคยออกจากเจียงวูเลย ตอนนี้อาศัยแรงรักทั้งหมด คิดในใจว่า หากก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-06
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 559 อาซือหลานชาติสุนัข

    “ลุกขึ้นเถอะ”อินชิงเสวียนนั่งข้างเตียง แล้วถามอย่างอ่อนโยน “ยังเจ็บหรือไม่”จังอวี้จิ่นรีบละล่ำละลักพูดว่า “ไม่เจ็บแล้วเพคะ ทายานี้แล้วอาการบรรเทาลงมาก อาการดีขึ้นแล้วเพคะ”อวิ๋นฉ่ายที่อยู่ข้างๆ กล่าวว่า “นี่คือยาจินชวงที่ฝ่าบาทประทานให้พระสนมเชียวนะ เป็นของล้ำค่ายิ่งนัก”จังอวี้จิ่นคุกเข่าลงอีกครั้งทันที“ขอบพระทัยกุ้ยเฟย หม่อมฉันผิวกายหยาบกร้าน ไม่เหมาะกับยาดีๆ เช่นนี้”“ยาเอาไว้ใช้กับผู้ที่ต้องการ ข้าสบายดีอยู่เช่นนี้ ขืนเก็บไว้ก็เสียของเปล่า อย่าคิดมาก ต่อไปก็ไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้อีก”อินชิงเสวียนพยุงนางขึ้น มองไปยังดวงตาที่บวมแดงของจังอวี้จิ่น เกิดความรู้สึกสงสารขึ้นในใจ“เสื้อผ้าเหล่านี้ก็ให้พวกนางซักไปเถอะ สองวันนี้เจ้าไม่ต้องเข้าเวรแล้ว ดูแลตัวเองให้ดี”แววตาของอินชิงเสวียนอ่อนโยนมาก ครู่หนึ่งจังอวี้จิ่นรู้สึกราวกับแววตาของมารดาตัวเอง ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าลำคอตีบตันกุ้ยเฟยใจดีกับนางมาก แต่นางเกือบฆ่าลูกของนาง สมควรตายจริงๆจังอวี้จิ่นไม่ใช่คนใจร้ายตั้งแต่แรก นางเพิ่งได้ยินชื่ออินสิงอวิ๋น จิตใจจึงมืดบอดด้วยความเกลียดชังไปชั่วขณะ เป็นเหตุให้กระทำสิ่งที่ผิดเช่นนั้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-07

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status