Share

บทที่ 320 ศิษย์คนดี

Penulis: ม่อเยี่ยน
last update Terakhir Diperbarui: 2024-02-12 16:00:00
ในช่วงเวลาวิกฤติ ร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวแวบออกมา และพาเย่‍จิ่ง‍อวี้ออกจากระยะฝ่ามือของชายคนนั้น

ฝ่ามือของชายคนนั้นพลาด เขาก็หันฝ่ามือขึ้น แล้วสะบัดใส่ผู้มาเยือนด้วยความเร็วปานอสุนีบาต

มีเสียงปังดังสนั่น แล้วร่างทั้งคู่ก็แยกออกจากกัน

เย่‍จิ่ง‍อวี้อุทาน “เสวียน‍เอ๋อร์”

ซึ่งผู้ที่ดึงเย่‍จิ่ง‍อวี้ออกไป ก็คืออินชิงเสวียนนั่นเอง

นางรู้จักกับเย่‍จิ่ง‍อวี้มานาน ถึงจะในฐานะเพื่อน นางก็ไม่อาจเห็นเขาได้รับบาดเจ็บได้ อีกทั้งตัวเขายังได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว

เมื่อเห็นชายผมขาวกำลังจะลงมือ นางก็แลกความเร็วและพลังของมิติ เพื่อสู้ฝ่ามือกับชายผมขาวผู้นั้นทันที

เมื่อฝ่ามือนั้นพุ่งออกมา ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงพลังงานและเลือดในอกที่กำลังปั่นป่วน กลิ่นเค็มคาวเลือดก็พุ่งออกมาจากลำคอ ยากที่จะระงับไว้ได้ นางจึงกระอักเลือดออกมาเต็มคำ

ชายคนนั้นหยุดฝีเท้า ดวงตาทั้งคู่จ้องมองอินชิงเสวียนด้วยแววตาลึกล้ำ

ตอนแรกดวงตาที่สงบคู่นั้น คล้ายจะเกิดคลื่นขนาดใหญ่ และค่อยๆ บ้าคลั่ง

“ดีมาก ถ้าเสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องดีใจมากที่ได้พบเจ้าอย่างแน่นอน”

เย่‍จิ่ง‍อวี้ยืนขวางหน้าอินชิงเสวียนไว้

ถามด้วยน้ำเสียงเย็
Bab Terkunci
Membaca bab selanjutnya di APP

Bab terkait

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 321 เสวียนเอ๋อร์จะเบื่อหรือไม่

    “เช่นนั้นก็ดีแล้ว พวกเจ้าดูแลให้ดีด้วย”“กระหม่อมน้อมรับพระบัญชา”“ออกไปเถอะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้โบกมือหมอหลวงเหลียงถอยหลังออกไปหลายก้าว“กระหม่อมทูลลา”หลังจากที่หมอหลวงเหลียงจากไปแล้ว อินชิงเสวียนก็เดินเข้ามาในห้องโถงด้านในนางเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “การต่อสู้เมื่อครู่ คงทำให้ฝ่าบาทมีเหงื่อออกมาก หม่อมฉันได้สั่งให้คนเตรียมน้ำไว้แล้ว ฝ่าบาทไปชำระพระวรกายเถิด”เย่‍จิ่ง‍อวี้ยืนขึ้นทั้งที่สวมชุดคลุม เดินมาหาอินชิงเสวียน แล้วมองสำรวจนางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า“เสวียน‍เอ๋อร์ไม่เป็นไรจริงๆ หรือ”อินชิงเสวียนยักไหล่“หม่อมฉันดูคล้ายคนที่เป็นอะไรงั้นหรือเพคะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้มองดูนางอยู่นาน แล้วจึงพูดด้วยอารมณ์ทอดถอนใจ “ไม่คิดว่าเจ้าจะมีวรยุทธ์เช่นนี้ แม้แต่ข้าก็อาจจะรับฝ่ามือของคนประหลาดผู้นั้นไม่ได้”เขาขมวดคิ้วและถามอีกครั้ง “เสวียน‍เอ๋อร์รู้จักคนประหลาดผมขาวคนนั้นหรือเปล่า”อินชิงเสวียนส่ายศีรษะ “ไม่รู้จักเพคะ หม่อมฉันไม่รู้จักคนผู้นี้จริงๆ”เย่‍จิ่ง‍อวี้ขมวดคิ้วกล่าวว่า “แปลกมาก ทำไมพอเขาเห็นเจ้าถึงเรียกเจ้าว่าศิษย์ แล้วเหตุใดถึงมีวรยุทธ์สูงขนาดนี้”อินชิงเสวียนพูดอย่างไม่รู้จะอธ

    Terakhir Diperbarui : 2024-02-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 322 ข้าจะลงโทษเจ้า

    หลังจากดื่มชาแล้ว เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็แต่งตัวเต็มยศชุดคลุมสีเหลืองอ่อนทำให้เขาดูมีสูงศักดิ์น่าครั่นคร้าม เรียวตาหงส์ดูผ่องใสเย่จั้นยังคงสวมชุดขาวราวกับหิมะ ปราศจากฝุ่นผงแปดเปื้อนเขาเดินเข้าไปในห้องโถงชั้นใน กางเสื้อคลุมออก และคุกเข่าลงข้างหนึ่ง“กระหม่อมเย่จั้น ถวายบังคมฝ่าบาท!”เย่‍จิ่ง‍อวี้ยื่นมือออกไปช่วยเย่จั้นลุกขึ้น พูดอย่างอบอุ่น “ที่นี่ไม่มีคนนอก เหตุใดเสด็จอาต้องมากพิธีเช่นนี้ เชิญลุกขึ้นเร็ว”เย่จั้นยืนขึ้น กวาดสายมองสำรวจร่างกายของเย่‍จิ่ง‍อวี้แล้วถามด้วยความเป็นห่วง “กระหม่อมได้ยินมาว่ามีคนลอบสังหารในวัง ฝ่าบาทก็ได้รับบาดเจ็บจากการใช้กำลังภายในด้วย ตามหมอหลวงมาหรือยังพ่ะย่ะค่ะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “พันแผลเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ข้ามีพลังงานเหลือเฟือ ไม่รู้สึกว่าไม่สบายตรงไหนแม้แต่น้อย เสด็จอาไม่ต้องห่วง”อินชิงเสวียนเหลือบมองใบหน้าของเย่‍จิ่ง‍อวี้ ก็เห็นว่าเขาดูแช่มชื่น สีหน้าดูไม่เลว จึงคิดว่าการแช่ตัวในน้ำพุวิญญาณได้ผลจริงๆช่วงนี้ควรให้เขาแช่น้ำพุวิญญาณทุกวันก็ดี เย่‍จิ่ง‍อวี้ฝึกวรยุทธ์มา ดังนั้นน้ำพุวิญญาณน่าจะช่วยเขาได้เมื่อนึกถึงตรงนี้ อินชิงเสว

    Terakhir Diperbarui : 2024-02-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 323 สวรรค์ตรัสว่าพูดไม่ได้

    เมื่อมองดูใบหน้าหล่อเหลาที่ค่อยๆ ปรากฏชัดในคลองจักษุ อินชิงเสวียนก็ตื่นตระหนกทันที“ท่าน...ท่านจะทำอะไร”ดวงตาของนางเบิกกว้าง ดูคล้ายกระต่ายตัวน้อยที่กำลังตื่นกลัวเมื่อเห็นท่าทางที่น่ารักของอินชิงเสวียน เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็ไม่สามารถควบคุมความหวั่นไหวในหัวใจได้อีกต่อไป ริมฝีปากบางประกบลงไปอย่างแนบแน่นการจูบอย่างกะทันหันทำให้คนไม่ทันระวังตัว การเสียดสีของริมฝีปากและฟัน รวมถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่ไหลรดจมูกของนาง ทำให้สมองของอินชิงเสวียนขาวโพลน นางคว้าเสื้อของเย่‍จิ่ง‍อวี้โดยไม่รู้ตัว กระซิบเสียงแผ่ว “อย่า...”ทว่าเสียงแผ่วบวกกับการเคลื่อนไหวของนาง กลับยิ่งรู้สึกถึงการเชิญชวนบางอย่างเย่‍จิ่ง‍อวี้ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ใช้ลิ้นอันช้ำชองดุนฟันของนางให้แยกออก วงแขนอันแข็งแกร่งกอดกระหวัดเอวเรียวเล็กของอินชิงเสวียนไว้แน่น ราวกับจะรั้งร่างของนางเข้าสิงสู่ร่างกายของเขาจูบของเขาเร่าร้อนและครอบครอง เรียวตาหงส์ค่อยๆ พร่าเลือนเขาหอบหายใจเล็กน้อย แล้วกระซิบข้างหูนาง “เสวียน‍เอ๋อร์ อย่ากลัวเลย...”นิ้วเรียวยาวได้ปลดสายรัดเอวของนางออกแล้ว กระโปรงผ้านิ่มก็เลื่อนหลุดออกไปทันทีความเย็นที่กระทบร่างทำให้อ

    Terakhir Diperbarui : 2024-02-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 324 ตระกูลอินสมควรตายทั้งหมด

    “หากไทเฮาไม่สบายพระทัย กระหม่อมจะส่งคนไปสืบเพิ่มพ่ะย่ะค่ะ”ชุยไห่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “หลังจากเกิดเรื่องเสวียนเจิน ฝ่าบาทก็ไม่น่าจะหาคนเข้าวังมาอย่างส่งเดชอีกแล้ว”ไทเฮาหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “เหตุผลที่เสวียนเจินเต็มใจที่จะอยู่ในวัง ก็เพราะว่าข้าสามารถอ่านความคิดของเขาได้ทะลุปรุโปร่ง ถ้าเขาไม่ใช่หลวงจีน ก็เหมาะสมกับอันไท่ผินอยู่ แต่น่าเสียดาย ที่เขาไร้ความสามารถเกินไป สุดท้ายข้าก็ใช้การไม่ได้ กลับทำให้นังแพศยาดึงดูดความสนใจไปแทน”ชุยไห่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เรื่องนี้...”ไทเฮาแค่นเสียงหึอย่างเย็นชา กล่าวว่า “แม้ข้าจะไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ แต่ก็ยังเห็นสัญญาณบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหลวงจีนก็ดี นักพรตเต๋าก็ช่าง มนุษย์ล้วนหนีไม่พ้น สุรา เมถุน ทรัพย์ และความโกรธหรอก ประเดี๋ยวข้าจะไปดูหน่อย หลวงจีนผู้นี้ชอบสิ่งใด”ความทะเยอทะยานของไทเฮายังไม่สิ้น หลังจากเกิดเรื่องขึ้นกับเสวียนเจิน นางก็เข้าใจด้วยว่าโลกนี้ไม่มีผีหรือปีศาจ ทุกอย่างเป็นเพียงการตบตาคน ใช้เรื่องเหล่านั้นมาเป็นข้ออ้างเท่านั้นนางไม่เชื่อว่าตัวเองจะพ่ายแพ้ให้กับนังแพศยาอินชิงเสวียนทุกครั้งไปหรอกชุยไห่ช่วยประคองไทเ

    Terakhir Diperbarui : 2024-02-13
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 325 ข้าจะไปกับเจ้า

    ณ เมืองหลวงของต้าโจวตำหนักจินหวูชั่วพริบตาเดียวก็เป็นยามเที่ยงแล้ว อินชิงเสวียนคาดว่าเย่‍จิ่ง‍อวี้คงใกล้เลิกประชุมเช้าแล้ว จึงให้อวิ๋นฉ่ายจัดเรียงซาลาเปาใส่ซึงนึ่ง แล้วจุดไฟสามสิบนาทีต่อมา เย่‍จิ่ง‍อวี้ที่เปลี่ยนชุดลำลองแล้วก็เดินเข้ามาจากด้านนอกเมื่อเห็นเขามีสีหน้าสงบ อินชิงเสวียนก็เดาได้ว่าเช้านี้อาจจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น“ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”นางอุ้มเสี่ยว‍หนาน‍เฟิง ยืนยอบการคำนับเขาอยู่หน้าประตูเย่‍จิ่ง‍อวี้พูดด้วยรอยยิ้มว่า “วันนี้เจ้าถวายบังคมข้าด้วย คงไม่ได้มีเรื่องจะขอร้องกระมัง”ในการประชุมเช้าวันนี้ โหราจารย์ได้รายงานเรื่องที่เสวียนเทียนเข้าวังตามที่เขาบอกแล้วซึ่งตาเฒ่าผู้นี้ไม่มีการตั้งคำถามให้มากความ ช่วยให้เย่‍จิ่ง‍อวี้ประหยัดน้ำลายได้มากอีกทั้งคลองส่งอาหารและน้ำได้ผลสำเร็จ ราษฎรผู้พลัดถิ่นได้กลับบ้านเกิดแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขาจริงๆสิ่งเดียวที่รู้สึกอึดอัดอยู่ในใจคือคนประหลาดผมขาวคนนั้นหากเขาหายดีจากอาการบาดเจ็บ เขาอาจไม่แพ้เมื่อคิดได้ดังนี้ เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็สงบลงอีกครั้งอินชิงเสวียนกลอกตามองเขาอย่างไม่เกรงใจ“ถ้าไม่มีเรื่องขอร้องฝ

    Terakhir Diperbarui : 2024-02-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 326 การทดลองสำเร็จ

    อินชิงเสวียนมีมิติสำหรับปกป้องตัวเอง แต่นางเป็นห่วงบาดแผลของเย่‍จิ่ง‍อวี้“สุขภาพของฝ่าบาท...ได้หรือ”เย่‍จิ่ง‍อวี้ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร บาดแผลเกือบจะหายดีแล้ว อีกอย่างอาจไม่ได้เผชิญหน้ากับนักฆ่าทุกครั้งหรอกกระมัง”เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด อินชิงเสวียนกลับยิ่งกังวลมากขึ้นถึงอย่างไรก็ยังจับตัวอาซือหลานไม่ได้ เขาอยู่ในเมืองหลวง จะต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวในวังตลอดเวลาอย่างแน่นอนเมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของอินชิงเสวียน เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็จับไหล่ของนางไว้พูดอย่างอบอุ่น “หากเจ้าเป็นกังวล ข้าจะให้ทหารรักษาพระองค์ตามไปเยอะๆ”“ได้เพคะ!”พาคนไปเยอะ ป้องกันไว้ก่อนจะได้รู้สึกอุ่นใจทุกคนจึงขนของมุ่งหน้าออกจากเมือง หนึ่งชั่วยามต่อมา ก็มาถึงเขตชานเมืองเมื่อยืนอยู่บนเนินเขา ยังคงมองเห็นหลุมลึกที่เกิดจากการระเบิดครั้งล่าสุดได้“ต้องทำอย่างไร ข้าจะให้คนมาช่วยเจ้า” เย่‍จิ่ง‍อวี้เอามือไพล่หลังแล้วถามขึ้นอินชิงเสวียนสั่งอย่างเป็นระเบียบ “ขั้นแรกต้มดินดินประสิว แร่กำมะถันก็ต้องบดเป็นผงด้วย จากนั้นส่งคนไปเผาถ่าน”ส่วนตัวนางก็หยิบผ้าหยาบออกมา แล้วบิดเป็นสายชนวนทหารรักษาพระองค์ถูกแ

    Terakhir Diperbarui : 2024-02-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 327 เสวียนเทียนไต้ซือ

    หอสวดมนต์ในเวลานี้ ไทเฮากำลังสนทนาธรรมกับเสวียนเทียนไต้ซือ หลังจากฟังธรรมมาตลอดทั้งบ่าย นางก็ได้รับประโยชน์มากมายเมื่อคนเข้าสู่ช่วงวัยหนึ่ง มักต้องการทราบชะตากรรมของตนอยู่เสมอไทเฮาก็ไม่มีข้อยกเว้น แม้ว่านางจะรู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องเลื่อนลอยไม่มีหลักแหล่ง แต่นางก็ยังมีความหวังอยู่ในใจเมื่อเห็นว่าแม้ไต้ซือจะอายุไม่มากนัก แต่กลับมีความสง่าน่าเกรงขาม มีความรู้ในทางพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง จึงรู้สึกเชื่ออยู่มิวายนางหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่าฮ่องเต้ไม่เชื่อเรื่องผีสางเทวดา เหตุใดจึงไปเชิญไต้ซือมาจากวัดหลงอิ่นได้”เสวียนเทียนสวดพระนามอมิตภะพุทธเจ้า แล้วกว่าว่า “นักบวชไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก ช่วงนี้อาตมาได้ยินเรื่องความโชคร้ายในราชสำนัก จึงมาตรวจดูที่นี่ แม้ว่าอาตมาจะเข้าสู่โลกทางธรรมแล้ว แต่ข้าวหรืออาหารที่ได้ฉันก็มาจากต้าโจว จึงต้องพยายามเพื่อต้าโจวบ้าง”เขาหยุดชั่วครู่แล้วพูดว่า “วังแห่งนี้มีสิ่งอัปมงคลจริงๆ หากต้องการเปลี่ยนฮวงจุ้ย ควรกำจัดทีละอย่าง”“โอ้? อัปมงคลที่ต้าซือพูดหมายถึง...”“คือสิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่าวิญญาณชั่วร้า

    Terakhir Diperbarui : 2024-02-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 328 ต่างครุ่นคิดกันคนละเรื่อง

    วันถัดมาขุนนางทุกคนมาประชุมเช้า แล้วต่างคนก็ต่างถวายฎีกาสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องหยุมหยิม ทำให้เย่‍จิ่ง‍อวี้ที่ฟังอยู่ก็รู้สึกง่วงนอนหลังจากวันนั้นที่กวนเมิ่งถิงพูดถึงตระกูลอินแล้ว ก็ดูเหมือนเขาจะเงียบเหมือนเป็นใบ้ไปอีกเย่‍จิ่ง‍อวี้เหลือบมองเขา พลางคิดว่าจิ้งจอกเฒ่าผู้นี้อดทนเก่งจริงๆเมื่อเห็นว่าใกล้เที่ยงแล้ว ขุนนางทุกคนก็เริ่มปิดปากเงียบเย่‍จิ่ง‍อวี้จับเศียรมังกร และลุกขึ้นจากบัลลังก์มังกร“พรุ่งนี้เป็นวันพักผ่อน ดอกไม้ในสวนบุปผาหลวงกำลังบานสะพรั่งพอดี ข้าเองก็เตรียมจัดงานเลี้ยงในวัง ขึงขอเชิญขุนนางทุกท่านมาเพลิดเพลินกับบุปผา”ขุนนางทุกคนต่างแสดงสีหน้ายินดีทันที คุกเข่าโขกศีรษะว่า “ขอบพระทัยฝ่าบาท”เย่‍จิ่ง‍อวี้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แล้วพูดเบาๆ “ทุกท่านลุกขึ้นเถิด หากไม่มีฎีกาถวายแล้ว ก็เลิกประชุมได้ พรุ่งนี้ในยามโหย่ว (17.00น.-19.00น.) เรียนเชิญทุกท่านเข้าวังมาร่วมงานเลี้ยงด้วย”“พวกกระหม่อมจะเข้าวังมาให้ตรงเวลา ทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”ขุนนางต่างทยอยออกจากตำหนักจินหลวน กวนเมิ่งถิงเลิกคิ้วขึ้นสูง คิดในใจว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะลอบเข้าวัง เขาควรแจ้งอา‍ซือ‍หลานโดยด่วน...

    Terakhir Diperbarui : 2024-02-14

Bab terbaru

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1515 ถูกปิดหูปิดตา

    “อินปู้อวี่ มีคนมาหาท่านน่ะ!”เย่ไห่ถังเดินไปที่ประตูพระที่นั่ง วางมือเท้าสะเอว แล้วตะโกนเข้าไปข้างในอินปู้อวี่กำลังดูแผนที่การป้องกันในพระราชวัง ไม่รู้ข่าวการกลับวังของอินชิงเสวียน เขาเป็นคนหัวโบราณ ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ค่อยซักถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ เมื่อได้ยินเสียงของเย่ไห่ถัง อินปู้อวี่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยตอนนี้เขากลัวที่จะเจอเย่ไห่ถังมาก ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไม รู้แค่ว่าเขารู้สึกสับสนมาก“บอกว่าข้าไม่อยู่”องครักษ์กล่าวด้วยความเคารพ “ผู้บัญชาการ ผู้มาไม่ได้มีเพียงแต่องค์หญิงเท่านั้น แต่ยังมีฮองเฮาด้วยขอรับ”อินปู้อวี่ลุกพรวดขึ้นทันที“น้องหญิงใหญ่กลับมาแล้วหรือ”เขาเดินออกจากประตูพระที่นั่งอย่างรวดเร็ว และเห็นอินชิงเสวียนในเครื่องแบบฮองเฮาสีแดงสด ไม่ได้เจอนางมานานกว่าครึ่งปีแล้ว รูปลักษณ์ของอินชิงเสวียนไม่เปลี่ยนไปเลย มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่สุขุมและมีพลังมากขึ้น“น้อง...”อินปู้อวี่พูดออกมาคำหนึ่ง แต่รู้สึกว่าไม่เหมาะสม จึงรีบคุกเข่าลงบนพื้น“กระหม่อมอินปู้อวี่ ขอถวายพระพรฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”อินชิงเสวียนมีหรือจะยอมให้เขาคุกเข่า จับแขนทั้งสองข้างของเขา แล้วดึงข

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1514 อยากเจอข้าหรืออยากเจอเขา

    อินชิงเสวียนหันกลับไปพูดว่า “ฝ่าบาทเสด็จก่อนเถิดเพคะ หม่อมฉันจะคุยกับไห่ถังสักหน่อย”เมื่อมองดูร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าขบวนเสด็จ เกือบจะร้องไห้ด้วยความน้อยใจ เย่จิ่งอวี้ก็ตัดใจพูดให้มากความไม่ลง เย่จิ่งหลานก็ไม่รู้ว่าไปถึงไหนแล้ว ในเมืองหลวงตอนนี้เหลือเพียงพวกเขาสองคนพี่น้องเท่านั้น“ก็ได้ ถ้าคุยกันจนดึกมาก เสวียนเอ๋อร์จะกลับตำหนักไปพักผ่อนก่อนก็ได้ แล้วข้าจะไปหาเจ้าในภายหลัง”เย่จิ่งอวี้รู้ว่าเย่ไห่ถังชอบอินชิงเสวียน ไม่ได้เจอกันมานาน คงมีเรื่องพูดคุยกันเยอะแยะไปหมด งานเลี้ยงในวังคืนนี้ อินชิงเสวียนอาจไม่สามารถไปได้แล้ว“ทราบแล้วเพคะ”อินชิงเสวียนลงจากเกี้ยวด้วยฝีเท้านุ่มนวล เย่ไห่ถังก็กระโดดเข้าหาอย่างมีความสุขทันที“เสด็จพี่สะใภ้ ท่านกลับมาก็ไม่ยอมบอกข้าเลย หรือท่านลืมข้าไปแล้ว ข้าอยู่ในวังอธิษฐานขอพรให้ท่านทุกวัน ขอให้ท่านกลับมาอย่างปลอดภัย เสด็จพี่สะใภ้ใจร้ายมาก!”เย่ไห่ถังกอดนางครู่หนึ่ง จากนั้นปล่อยมือ และเบือนหน้าหนีอย่างไม่พอใจอินชิงเสวียนที่อยู่ข้างหลังพูดเหย้าแย่นาง “ตกลงว่าเจ้าโกรธข้า หรือโกรธคนแซ่อินกันแน่ เพราะข้ากลับมาไม่ถูกจังหวะพอดี ก็เลยพลอยโดนหางเลขไปด้วยกระมัง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1513 วังหลังของคนเพียงผู้เดียว

    “หม่อมฉันน้อมถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ!”อินชิงเสวียนยอบกายน้อยๆ ทำความเคารพอย่างเป็นทางการตามราชประเพณี“ตามสบาย”เย่จิ่งอวี้คว้าตัวอินชิงเสวียนขึ้นเมื่อก่อนที่เคยอยู่ในวังหลวง เย่จิ่งอวี้คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่ข้าราชบริพารจะกราบถวายบังคมเจ้าเหนือหัว ตอนนี้เมื่อได้เดินทางท่องยุทธภพ กลับรู้สึกว่ามันลำบากยุ่งยากจริงๆ“จากนี้ไปเมื่อเสวียนเอ๋อร์พบข้า ไม่จำเป็นต้องทำความเคารพอีก ส่วนพวกเจ้าเมื่อกลับเข้าวังมาแล้ว เช่นนั้นควรปฏิบัติหน้าที่รับใช้ให้ดี เสวียนเอ๋อร์กำลังตั้งครรภ์ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ”เมื่อทั้งหมดรู้ว่าอินชิงเสวียนตั้งครรภ์ ดวงตาของทุกคนก็เปล่งประกายด้วยความดีใจ ในสายตาของพวกเขา การมีลูกหลานมากมายถือเป็นโชควาสนา ทั้งสองพระองค์แต่งงานกันมาเกือบสองปีแล้ว ยังมีแค่เสี่ยวหนานเฟิงคนเดียว ในวังค่อนข้างเงียบเหงาอยู่บ้าง“พวกกระหม่อม/หม่อมฉัน น้อมรับพระบัญชา จะพยายามดูแลพระนางฮองเฮาให้เต็มที่พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ!”“ดีมาก ออกไปก่อนเถอะ”เย่จิ่งอวี้ถอยห่างจากฝูงชน ดึงอินชิงเสวียนไปที่เก้าอี้“เสวียนเอ๋อร์สวมอาภรณ์ฮองเฮาช่างดูดียิ่งนัก”“ฝ่าบาทก็เช่นกัน ชุดมังกรเหมาะกับท่านมาก”อิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1512 หนึ่งวันไม่เห็นเหมือนผ่านไปสามฤดู

    เมื่อเห็นพวกเขา อินชิงเสวียนก็รู้สึกตื้นตันใจเช่นกัน“เสี่ยวอานจื่อ อวิ๋นฉ่าย อวี้จิ่น ยายหลี่ พวกเจ้าอยู่กันทุกคน วิเศษไปเลย ลุกขึ้นมาพูดคุยกันเร็ว!”อินชิงเสวียนช่วยพยุงทุกคนให้ลุกขึ้น ดวงตาชื้นเมื่อเห็นพวกเขา นางก็พลันหวนนึกถึงช่วงเวลาที่เพิ่งข้ามภพมาอยู่ในตำหนักเย็นเป็นครั้งแรก ทุกอย่างเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน“ฮองเฮา ท่านกลับมาช่างดีจริงๆ!”ทั้งหมดต่างมาห้อมล้อมอินชิงเสวียนไว้ตรงกลาง กอดนางเต็มรัก อินชิงเสวียนก็กอดพวกเขาตอบเช่นกัน ทุกคนต่างวุ่นวายกันอยู่พักหนึ่งก่อนจะเข้าวังระหว่างทาง เสี่ยวอานจื่อก็พูดเจื้อยแจ้ว “ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ ตำหนักเย็นถูกรื้อแล้ว ฝ่าบาทสร้างสวนสนุกที่นั่น องค์ชายน้อยมีที่เล่นสนุกแล้ว”อินชิงเสวียนรู้สึกประหลาดใจ“แล้วคนในตำหนักเย็นล่ะ สวีจือย่วนอยู่ที่นั่นไม่ใช่หรือ”ตอนที่นางจากไปเหมือนว่าสวีจือย่วนยังอยู่ในตำหนักเย็นอยู่เลยยายหลี่ลดเสียงกระซิบว่า “หม่อมฉันได้ยินมาว่า นายหญิงสวีฆ่าตัวตาย ร่างถูกโยนลงในสุสานไร้ญาติ”“อ้อ”อินชิงเสวียนเข้าใจแล้วจะเป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่นั้น ไม่ต้องบอกก็รู้แม้ว่าจะถูกเย่จิ่งอวี้ประหารอย่างลับๆ แต่ก็นับว่าส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1511 กระหม่อมคิดถึงท่าน

    เช้าวันรุ่งขึ้นอินชิงเสวียนออกจากตระกูลอินภายใต้สายตาที่ไม่เต็มใจของทุกคน และผู้ที่คุ้มกันนางกลับวังหลวง ก็คืออินสิงอวิ๋นพี่ชายคนโตเขายังคงหล่อเหลา ทว่านิสัยสุขุมเยือกเย็นมากกว่าปีที่แล้วอินชิงเสวียนเปิดม่านเกี้ยว“พี่ใหญ่ได้เชิญหมอหลวงมาตรวจอาการพี่สะใภ้บ้างหรือยัง”อินสิงอวิ๋นยิ้มอย่างอบอุ่น มองอินชิงเสวียนด้วยสายตาแบบเดียวกับเมื่อก่อน มีความเอาใจใส่เล็กน้อย“หาแล้ว คราวนี้ก็ค่อนข้างดี น้ำพุวิญญาณของเจ้า แทบจะให้พี่สะใภ้ดื่มหมด”อินชิงเสวียนพยักหน้า“ควรเป็นเช่นนี้แล้ว พี่สะใภ้อยู่ไกลบ้าน รอนแรมมาไกลกว่าจะถึงตระกูลอินของเรา เราต้องดูแลนางให้ดีที่สุด อย่าปล่อยให้นางอุดอู้อยู่บ้านทั้งวัน ถ้าท่านมีเวลาว่าง ควรพานางไปเดินเล่นบ่อยๆ คนท้องจะรู้สึกหดหู่โดยไม่รู้ตัว ถ้ามีท่านอยู่ข้างๆ บางทีนางอาจรู้สึกดีขึ้นบ้าง”“อืม คราวนี้แหละ ข้าควรจะหาเวลาได้แล้วจริงๆ”อินสิงอวิ๋นถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก มีหรือที่เขาไม่ต้องการใช้เวลากับเป่าเล่อเอ่อร์ให้มากๆ แต่ในวังหลวงมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย จนเขาไม่กล้าที่จะหย่อนยานตอนนี้ฝ่าบาทและน้องสาวกลับเมืองหลวงแล้ว ก็เหมือนมีกระดูกสันหลัง ทายาทเฟย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1510 อาหารมื้อครอบครัว

    อินชิงเสวียนคำนับทั้งสองคน นางไม่ได้มาจากรัชสมัยนี้ ไม่เห็นความสำคัญของมารยาทระหว่างกษัตริย์และขุนนาง แต่กลับให้ความสำคัญกับจริยธรรมของมนุษย์แม้ว่านางจะยอมรับเหมยชิงเกอ แต่บุญคุณที่ตระกูลอินเลี้ยงดูเจ้าของร่างเดิมมานานกว่าสิบปี ก็ไม่สามารถลืมได้ หากนางไม่รู้สึกขอบคุณผู้มีพระคุณของตัวเอง แล้วจะพูดถึงการมีใจกว้างใหญ่ไพศาลได้อย่างไร“เป็นพ่อหนึ่งวัน ย่อมเป็นพ่อตลอดไป แม่เลี้ยงก็คือแม่แท้ๆ พวกท่านเหมาะสมแล้ว”อินชิงเสวียนมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่น้ำเสียงกลับไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยความรู้สึกห่างเหินเล็กน้อยของอินจ้งนั้นหายไปในทันที จับมือนางแน่นๆ“ดี ดี ลูกสาวคนดี!”ซูหมิงหลานก็หลั่งน้ำตาเช่นกัน แม้ว่านางจะได้รับการยอมรับจากครอบครัวแล้ว แต่หากไม่มีอินชิงเสวียน สถานะนี้ก็ไม่สมบูรณ์ อินหลีที่อยู่ข้างๆ ก็กล่าวโน้มน้าวเบาๆ “ท่านพี่พี่สะใภ้ไม่ต้องร้อง หากมีเรื่องอะไรไว้ค่อยกลับไปพูดที่บ้านเถิด เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าใจผิดกันไปใหญ่โต”อินจ้งรู้สึกตัวเพราะคำพูดนี้ เห็นผู้คนที่เอาแต่ยืดคอมองมาทางนี้ เขาก็พยักหน้าโดยเร็ว“ถูกต้อง เรากลับไปคุยกันที่บ้านนะ”อินชิงเสวียนดึงเป่าเล่อเอ่อร

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1509 เข้าสู่เมือง

    ทหารที่อยู่ข้างหน้าเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ครั้นแล้วก็มองเห็นชุดเกราะสีแดงรางๆเฉิงเฟิ่งโหลวสะดุ้งเล็กน้อย นี่...อาจเป็นทหารเปลวเพลิงสีชาดของราชาสงครามอาภรณ์ขาวกระมัง?ถ้ามารับเสด็จฮ่องเต้ เหตุใดจึงสวมชุดเกราะ ถืออาวุธหนัก?หรือว่าว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเมืองหลวง อ๋องสิบสาม...ก่อกบฏ?มือที่กุมกระบี่ของเฉิงเฟิ่งโหลวสั่นเทา เขาดึงสายบังเหียนออกทันที แม้ว่าเจ้านายกับนายหญิงจะมีทักษะวรยุทธ์สูง แต่มือเดียวสู้มือหลายไม่ได้ ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเขาดูสิ้นหวัง “ฝ่าบาท เสด็จขึ้นรถม้าเร็วเข้า”เย่จิ่งอวี้หัวเราะเบาๆ แม้ว่าทั่วทั้งโลกจะทรยศเขา แต่เสด็จอาจะไม่มีวันทรยศเขา นี่คือความมั่นใจของเขา การสวมชุดเกราะ ถืออาวุธหนัก ถือเป็นมารยาทสูงสุดของค่ายเปลวเพลิงสีชาดในชั่วพริบตา ทหารม้าขบวนนั้นก็มาถึงเบื้องหน้า พวกเขาควบม้าและเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นแยกออกจากกันเป็นสองทาง เผยให้เห็นร่างที่สวมชุดคลุมสีขาวชายผู้นั้นมีใบหน้าที่หล่อเหลา ท่วงท่าไม่ธรรมดาสามัญ แต่งกายด้วยชุดสีขาวสะอาดราวกับหิมะ และเสื้อผ้าพลิ้วไหวดุจดั่งเทพเซียนเขาพลิกตัวลงจากม้า เดินเร็วๆ ไปที่รถม้า สะบัดเสื้อคล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1508 กลับสู่เมืองหลวง

    ครึ่งเดือนต่อมา ในที่สุดรถม้าก็มาถึงเมืองหลวงอินชิงเสวียนไม่สามารถทนต่อการโคลงเคลงสั่นสะเทือนได้ นางจึงอยู่ในมิติกับเสี่ยวหนานเฟิงเกือบตลอดเวลาในช่วงเวลาที่อยู่ร่วมกันนี้ นางพบว่าเสี่ยวหนานเฟิงไม่เพียงแต่ฉลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นกล้าที่ยอดเยี่ยมในการฝึกฝนวรยุทธ์อีกด้วยอายุยังน้อยไม่เพียงแต่เรียนรู้บทกวีในสมัยถังและซ่ง ยังมีกำลังภายในลึกล้ำน่าประหลาดใจ มือซ้ายสามารถใช้เคล็ดวิชาใจเพียวเหมี่ยวได้ มือขวาใช้เคล็ดวิชาใจตำหนักเทพได้ แม้กระทั่งเรียนรู้วิชาขลุ่ยลวงใจของเจ้าสำนักเซี่ยว อินชิงเสวียนนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าช่วงที่นางไม่ได้อยู่กับเสี่ยวหนานเฟิงนั้น เขาได้เรียนรู้วิชามาจากทุกคนรอบตัวเขา“แค่กๆ เจ้า...ชอบฝึกวรยุทธ์หรือเปล่า?”จากมุมมองที่เห็นแก่ตัว อินชิงเสวียนไม่ต้องการให้เสี่ยวหนานเฟิงมีฝีมมือสูงส่งเกินไป ท้ายที่สุดแล้ว ยิ่งมีความสามารถสูง ความรับผิดชอบก็ยิ่งสูงตาม ศาสตร์แห่งราชาต่างหาก คือสิ่งที่เขาควรต้องศึกษาเสี่ยวหนานเฟิงกะพริบตาโตแล้วพูดว่า “ชอบสิ รู้วรยุทธ์ ก็สามารถปกป้องท่านแม่ได้”อินชิงเสวียนกอดลูกชายตัวนุ่มนิ่มและมีกลิ่นหอม แล้วพูดอย่างจริงจัง “ต่อจากนี้ไปสิ่งที่เจ้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1507 ขอบคุณศิษย์พี่ลิ่น

    ระหว่างเจ้าสำนักเซี่ยวและเจ้าสำนักเฮ่อมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก ทว่าระหว่างเซี่ยวอิ่นหวนและลิ่นเซียวนั้นอยู่ในระดับปานกลาง จนแทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลยบัดนี้เห็นเขาขวางทาง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการตายของศิษย์น้องเฟิ่งอี๋ ทำให้กลายเป็นคนสติเลอะเลือน กระทำการสิ่งใดล้วนไม่ผ่านการใช้ความคิด เป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไปที่จะเข้าใจทันทีว่าเขามีเจตนาอะไรลิ่นเซียวรู้จักนาง พยักหน้าเบาๆ“เฟิ่งอี๋ตายแล้ว ข้ารู้แล้ว”เซี่ยวอิ่นหวนรู้สึกเจ็บปวดในใจ แต่เดิมก็เจ็บปวดจากการพลัดพรากอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเขาพูดถึงศิษย์น้องที่รักดุจน้องสาว หางตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีริมฝีปากของนางสั่นเทา ลดเสียงลง กดซ่อนความเศร้าไว้ในใจ“ศิษย์พี่ลิ่นควรจะออกมาสู่ความจริงได้แล้ว ถ้าศิษย์น้องอยู่บนสวรรค์มีญาณรับรู้ คงไม่อยากเห็นท่านจมปลักอยู่ที่นี่เพราะนางแน่นอน...”ลิ่นเซียวไม่ต่อคำ แต่พูดต่อว่า “ตาเฒ่าเซี่ยวก็จากไปแล้วเช่นกัน”หัวใจของเซี่ยวอิ่นหวนเจ็บปวดรวดร้าวอีกครั้ง ก้มหน้าสะอื้น“พ่อบุญธรรมเสียชีวิตเพื่อผดุงความยุติธรรมในยุทธจักร ไม่ผิดต่อปณิธานที่ก่อตั้งหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์”ลิ่นเซียวย

DMCA.com Protection Status