หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 177 ฟ้าถล่มดินทลายก็ไม่มีทางแก้

แชร์

บทที่ 177 ฟ้าถล่มดินทลายก็ไม่มีทางแก้

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-08 16:00:01
"คนคนหนึ่ง? หรือท่านทำเพื่อสวีจือย่วน?"

อินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ

อินสิงอวิ๋นประหลาดใจเล็กน้อย "เจ้ารู้จักสวีจือย่วนงั้นหรือ?"

อินชิงเสวียนคิดในใจ แน่นอนสิ ตั้งแต่สมัยโบราณวีรบุรุษต้องเสียใจให้กับสาวงาม!

"ใช่สิ ตอนนี้นางได้เข้าวังแล้ว นอกเสียจากท่านจะลักตัวนางออกมาจากวังได้ มิเช่นนั้น เกรงว่าทั้งชาตินี้คงไม่ได้พบหน้ากันอีก"

สีหน้าของอินสิงอวิ๋นไร้อารมณ์ความรู้สึกในทันที

"ข้าไม่ได้ทำเพื่อนาง"

อินชิงเสวียนถามอย่างแปลกใจ "เช่นนั้นทำเพื่อสิ่งใด?"

"เป็นเพราะว่า..."

อินสิงอวิ๋นพูดครึ่งหนึ่ง และพูดต่อ "เรื่องพวกนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ข้าขอถามเพียงว่า เจ้าอยากออกจากเมืองหลวงหรือไม่?"

"แน่นอนว่าข้าอยากไป แต่ตอนนี้ท่านยังเอาตัวเองไม่รอด แล้วจะพาข้าไปได้อย่างไร?"

อินสิงอวิ๋นยิ้มแล้วถามว่า "เจ้าเห็นข้าเหมือนคนเอาตัวไม่รอดงั้นหรือ?"

"แต่ท่านเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญของราชสำนัก เอ่อ ข้าหมายถึง..."

อินชิงเสวียนไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรแล้ว

อินสิงอวิ๋นไม่ได้รู้สึกโกรธ พลางดึงมือของอินชิงเสวียนและพูดอย่างอ่อนโยน "เจ้าวางใจได้ ข้ายังคงอยู่ในเมืองหลวง และมีหนทางสำหรับการเข้าออก ขอเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 178 เฝ้าสังเกตตำหนักจินหวูอย่างใกล้ชิด

    "พ่ะย่ะค่ะ"อินชิงเสวียนลุกขึ้น และถอยออกไปจากห้องหนังสือเมื่อออกมานอกประตู ก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองกลับเห็นเย่จิ่งอวี้ร่างสูงตระหง่าน ยืนอยู่ด้านหน้าของหน้าต่าง และกำลังมองมาที่นางดวงตาของทั้งสองสบกันในอากาศ และทันใดนั้นบางสิ่งที่อธิบายไม่ได้ก็ปรากฏขึ้นในใจของอินชิงเสวียนยังไม่ทันจับใจความได้ คนก็เดินออกจากห้องหนังสือไปแล้วจนกระทั่งอินชิงเสวียนหายไปจากสายตา เย่จิ่งอวี้จึงกลับไปนั่งบนเก้าอี้รอยยิ้มบนใบหน้าของเขา กลับคืนสู่ความน่ายำเกรงของฮ่องเต้ทันที"ได้อะไรมาบ้าง?"เงาของเจวี๋ยอิ่งปรากฏอยู่ด้านหลังที่บังลม และพูดขึ้นด้วยความเคารพ "เสี่ยวเสวียนจื่อกงกงไปยังจวนอ๋องจิ้ง และได้พบกับคนคนหนึ่งในบ้านที่ฝ่าบาททรงมอบให้ ข้าน้อยไร้ความสามารถ เดิมกระหม่อมอยากตามไปสืบว่าเขาคือใคร แต่กลับถูกพรรคพวกของเขาขัดขวางไว้พ่ะย่ะค่ะ"เย่จิ่งอวี้หยิบพู่กันขึ้นมาเพื่ออ่านฎีกา และถามขึ้นเสียงเรียบ "เห็นชัดหรือไม่ว่าเป็นหญิงหรือชาย?"เจวี๋ยอิ่งก้มหน้าลงและพูดว่า "ผู้ชายพ่ะย่ะค่ะ แต่พรรคพวกของเขาเป็นผู้หญิง"เย่จิ่งอวี้ขานรับ "บนกายของผู้หญิงมักจะมีกลิ่นหอมอยู่เสมอ จมูกของเจ้ามี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-08
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 179 วันนี้เจ้าไปที่ใด

    ร่างสูงเดินเข้ามาจากด้านนอกเมื่อเห็นคนนั้น อวิ๋นฉ่ายและยายหลี่รีบคุกเข่าลงพื้น"กระหม่อมขอถวายบังคมฝ่าบาท!""ลุกขึ้นเถอะ เสี่ยวหนานเฟิงเป็นอย่างไรบ้าง?"อินชิงเสวียนกำลังจะอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงที่กำลังวิ่งวุ่นอยู่บนพื้น"ถูกยุงกัดเพคะ""ให้ข้าดูหน่อย"เย่จิ่งอวี้ยื่นมือไปรับตัวเสี่ยวหนานเฟิง เสี่ยวหนานเฟิงหยุดร้องไห้ในทันที แต่ยังคงมีน้ำตาอยู่ในดวงตาที่เหมือนไข่มุกสีดำคู่นั้น ซึ่งดูน่าสงสารมากเย่จิ่งอวี้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดใจ เขาพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน "ไม่ร้องนะ เด็กดี"จากนั้นก็หันไปสั่งเสี่ยวอานจื่อว่า "ไปนำอำพันปลาวาฬมา ขอสิ่งนั้นสามารถป้องกันยุงได้ และจุดรอบๆ ตำหนักจินหวู""พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเดี๋ยวนี้"ยายหลี่อดไม่ได้ที่จะรุ้สึกประหลาดใจอำพันปลาวาฬเป็นสิ่งที่มีเพียงฝ่าบาท ฮองเฮา และไทเฮาที่สามารถใช้ได้ ฝ่าบาทกลับประทานให้แก่เสี่ยวหนานเฟิง ถือเป็นสายใยแห่งพ่อลูกจริงๆเมื่อเห็นฝ่าบาทอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงเข้าไปด้านในตำหนัก ยายหลี่ส่งสัญญาณให้อวิ๋นฉ่าย ทั้งสองจึงออกไปอย่างเงียบๆอินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า หรือเสี่ยวหนานเฟิงรู้ว่าคนที่กำลังอุ้มเขา คือท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-08
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 180 ม่ายพรหมจรรย์กลัวหนุ่มผู้ดี

    อินชิงเสวียนใจเต้นตุบตับ"กระหม่อมไปสนามฝึก จากนั้นก็กลับไปที่บ้าน จากนั้นก็ไปยังบ้านที่ฝ่าบาททรงมอบให้กระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ?"เมื่อหันหลังกลับมาก็พบว่าเย่จิ่งอวี้ได้ยืนอยู่ด้านหลังของนาง ร่างสูงใหญ่ของเขาปรากฏขึ้นเหนือหัวของอินชิงเสวียน ทำให้รู้สึกถึงความกดดันขึ้นในทันใด"เจ้าไม่ได้ไปที่อื่นจริงๆ ใช่หรือไม่?"เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงและมองนาง ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา ซึ่งทำให้ไม่กล้าสบตามองอินชิงเสวียนครูดถอยหลังหนึ่งก้าว แต่ไร้ซึ่งทางไป นางจึงนั่งลงบนขอบเตียง รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยในใจเหตุใดเย่จิ่งอวี้จึงถามเช่นนี้ หรือว่าเขาให้คนสะกดรอยตามตัวเอง?เมื่อคิดได้ว่าฉินเทียนและหลี่ชีไม่ได้ตามนางไป เพราะเรื่องแบบนี้ดูไม่ใช่วิถีการทำงานของพวกเขาหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง อินชิงเสวียนก็เปลี่ยนคำพูด"ความจริงกระหม่อมได้ไปอีกที่หนึ่งมา"นางชี้ไปยังกล่องไม้ที่บรรจุชาคั่ว และก้มหน้าพูดอย่างว่าง่าย "กระหม่อมได้ไปยังจวนอ๋องจิ้ง เพื่อขอบพระทัยท่านอ๋อง""หึ เจ้าช่างอยู่เป็นเสียจริง""ทั้งหมดเป็นเพราะฝ่าบาททรงสอนไว้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมติดตามฝ่าบาทมานาน แน่นอนว่าต้องเข้าใจหลักก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-08
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่181 ไปเดินเล่นกับข้า

    วันรุ่งขึ้นหลังจากเล่นกับเสี่ยวหนานเฟิงมาตลอดทั้งบ่าย อินชิงเสวียนเหนื่อยจนแทบหมดแรงเด็กๆ มีพลังไม่จำกัดอยู่เสมอ และก็ชอบผมของนางโดยเฉพาะหลักจากที่กล่อมเสี่ยวหนานเฟิงจอหลับ อินชิงเสวียนก็อยากงีบหลับสักหน่อย แต่ทันทีที่หัวถึงหมอน เสี่ยวอานจื่อก็วิ่งเข้ามา“เสี่ยวเสวียนจื่อ ฝ่าบาทให้เจ้ารีบไปที่ห้องหนังสือ ตรัสว่ามีเรื่องด่วน”อินชิงเสวียนลุกขึ้นมาด้วยความมึนงง“ได้ตรัสหรือไม่ว่ามีสิ่งใด?”“ไม่เลย ท่านอาจารย์ของข้าก็บอกกับข้าเช่นนี้เหมือนกัน”“รู้แล้ว”อินชิงเสวียนยืดตัวบิดขี้เกี้ยจ สวมหมวกและจัดระเบียบเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินไปยังห้องหนังสือด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เย่จิ่งอวี้ได้เปลี่ยนไปใส่ชุดลำลองเรียบร้อยแล้วร่างที่สวมเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อน ทำให้ร่างกายสูงและสง่างามของเขาดูเหมือนองอาจห้าวหาญชายเสื้อและปลายแขนปักด้วยด้ายเงิน ทุกท่าทางอิริยบทล้วนเผยให้เห็นถึงความสูงส่งมาแต่กำเนิด“กระหม่อมขอถวายบังคมฝ่าบาท!” อินชิงเสวียนแอบเหลือบมองเขา ต้องยอมรับเลยว่าใบหน้าของเย่จิ่งอวี้หล่อเหลาเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าสามร้อยหกสิบองศาฆ่าไม่ตายจริงๆใบหน้าที่มี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่182 เจ้ายินดีอยู่กับข้าตลอดชีวิตหรือไม่

    ฉินเทียนรีบนำทหารองครักษ์ตามขึ้นมา“เหล่าข้าน้อยจะไปพร้อมด้วยฝ่าบาท!” เย่จิ่งอวี้พูดขึ้นเสียงเรียบ “ไม่จำเป็น หมู่บ้านอยู่ไม่ไกล ให้เสี่ยวเสวียนจื่อและไป๋เสวี่ยไปกับข้าก็พอ”“คือว่า...”ฉินเทียนและคนอื่นๆ ต่างก็สงสัยสีหน้าเย่จิ่งอวี้เคร่งขรึมเล็กน้อย“นี่คือคำสั่ง!” “พ่ะย่ะค่ะ” ฉินเทียนจึงพาคนถอยออกไปทันทีเมื่อได้ยินว่าจะพาไป๋เสวี่ยไปด้วย อินชิงเสวียนก็สบายใจขึ้นมากสุนัขมีขนาดใหญ่ และติดตามอยู่ด้านหลังเหมือนม้าตัวเล็กๆ คนส่วนใหญ่ยังไม่กล้าก้าวเข้าไปใกล้เย่จิ่งอวี้กลับยังคงอยู่ในท่าทางที่สงบเช่นเดิมเสื้อผ้าของเขาปลิวไสว และย่างกรายเดินช้าๆ ไปตามถนนในชนบท ใบหน้าต้านกับสายลมอ่อนๆ เดินเล่นสบายๆ ด้วยท่าทางเอ้อระเหยอินชิงเสวียนและไป๋เสวี่ยเดินตามอยู่ข้างหลังเขา จังหวะช้าเร็วปะปนกันเวลาเพียงสิบห้านาทีก็เดินถึงหน้าหมู่บ้านในเวลานี้คนส่วนใหญ่กำลังทําสวนในไร่นา มีเพียงหญิงชราไม่กี่คนและเด็กหลายคนนั่งอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้านเมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนสวมชุดหรูหรา ทุกคนต่างมองไปยังทั้งสองคนด้วยความประหลาดใจเย่จิ่งอวี้เดินไปด้านหน้า ถามด้วยน้ำเสียงอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่183 ข้าอยากได้ยินความจริง

    อินชิงเสวียนหัวเราะแห้งๆ และถามว่า “ฝ่าบาท... เหตุใดพระองค์จึงถามขึ้นมาเช่นนี้”เย่จิ่งอวี้มองไปข้างหน้า และความคมบนใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นทันทีไม่รอให้อินชิงเสวียนตอบคำถาม เขาก็หันหน้ากลับมา ดวงตาที่ลึกล้ำและแหลมคม“เจ้าโกหกข้ามาหลายครั้ง ครั้งนี้ข้าเพียงอยากเพียงอยากได้ยินความจริง”อินชิงเสวียนเงยศีรษะขึ้น กลับไม่กล้าสบตากับความแหลมคมนั้น จึงก้มหน้าลงอีกครั้ง“กระหม่อม...”นางกัดริมฝีปากและพูดอย่างโหดร้าย “หากว่ามีโอกาส กระหม่อมอยากออกไปจากวังพ่ะย่ะค่ะ”“ทำไม? ข้าไม่ดีกับเจ้ามากพองั้นหรือ?”เย่จิ่งอวี้หันตัวกลับมา สายตาข่มว่าตนเหนือกว่าอินชิงเสวียนถอยหลังหนึ่งก้าวพูดขึ้นอย่างระมัดระวัง “ฝ่าบาททรงดีต่อกระหม่อมมากพอพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมยังคงโหยหาชีวิตฟ้าที่สูงแล้วแต่นกจะบิน ทะเลที่กว้างใหญ่แล้วแต่ปลาจะว่ายวน”เย่จิ่งอวี้เดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าว จ้องนางและถามว่า “อยู่ในวังเจ้าโบยบินไม่ได้? หรือว่ายวนไม่ได้งั้นหรือ?”อินชิงเสวียนมองไปที่ปลายรองเท้าของนางแล้วพูดว่า “ในวังมีกฎระเบียบมากเกินไป กระหม่อมเกรงว่าหากไม่ระวังอาจจะไร้เงาหัว”เย่จิ่งอวี้เสียงเข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่184 อุบัติภัย

    เมื่อมองดูเสื้อผ้าของเย่จิ่งอวี้ที่ถูกลมพัดปลิว หัวใจของอินชิงเสวียนก็อดที่จะปั่นป่วนไม่ได้หลังจากยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตามไป๋เสวี่ยไปเย่จิ่งอวี้ขึ้นรถไปแล้ว พูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย “กลับวัง”รถม้าก็ออกจากทุ่งข้าวสาลีโดยไวระหว่างทาง สีหน้าของเย่จิ่งอวี้นิ่งดั่งสายน้ำ อินชิงเสวียนจึงไม่กล้าพูดมากโชคดีที่มีไป๋เสวี่ยอยู่ การหยอกล้อกับสุนัขช่วยบรรเทาความลำบากใจได้บ้างหนึ่งชั่วโมงต่อมา รถม้าก็มาถึงหน้าห้องหนังสือฉินเทียนพูดอย่างเคารพ “ฝ่าบาท ถึงห้องหนังสือแล้วพ่ะย่ะค่ะ”อินชิงเสวียนรีบพาสุนัขลงจากรถ พร้อมยื่นมือไปพยุงเย่จิ่งอวี้เย่จิ่งอวี้เลี่ยงมือของนาง และกระโดดลงไปที่พื้นอย่างเรียบร้อยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเล็กน้อย “กลับไปคิดมาเถอะ สามวันนี้เจ้าอยู่ที่ตำหนักจินหวูก็พอ”“พ่ะย่ะค่ะ”อินชิงเสวียนโค้งคำนับและถอยกลับไปหลังรถ จากนั้นเดินอย่างรวดเร็วไปยังตำหนักจินหวูจิตใจสับสนวุ่นวายเหมือนด้ายพันกันนางมีความรู้สึกว่า เย่จิ่งอวี้อาจรู้ตัวตนของนางแล้วอาจถึงขั้นที่เดาได้ว่าเสี่ยวหนานเฟิงเป็นลูกของเขาเองถ้าไม่เป็นเช่นนั้น เหตุใดเขาจึงแต่งตังให้เส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-10
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่185 ผงบนเสื้อผ้า

    อวิ๋นฉ่ายตกใจมาก“พระสนม เสี่ยวหนานเฟิงเป็นอะไรเจ้าคะ?”ยายหลี่ก็เสียสติไปชั่วขณะ“นี่มันอะไรกัน เมื่อครู่ยังดีๆ อยู่เลย”เสี่ยวหนานเฟิงร้องไห้โวยวายหนักขึ้น และดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของอินชิงเสวียน“ไม่ร้องนะ เด็กดี!” อินชิงเสวียนปลอบเสี่ยวหนานเฟิงไปด้วย พลางมองตุ่มสีแดงบนตัวของเขาอย่างใจเย็นนี่มันเรื่องอะไรกัน หรือว่าเย่ไห่ถังทำอะไรลงไป?นางไม่ใช่สนมในวังหลัง แทบไม่จำเป็นต้องทำเรื่องแบบนี้ด้วยซ้ำเมื่อมองไปที่ใบหน้าเล็กๆ ที่มีอาการแดงขึ้นของเสี่ยวหนานเฟิง ในใจของอินชิงเสวียนก็ยิ่งรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย“อวิ๋นฉ่าย เจ้ารีบไปแจ้งให้ทหารองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตู รีบให้พวกเขาไปตามหมอหลวง”อวิ๋นฉ่ายตอบรับ และวิ่งไปยังด้านนอกเสี่ยวหนานเฟิงร้องไห้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเขาเจ็บหรือคันกันแน่ แต่เพียงครู่เดียว ผิวหนังทุกส่วนบนร่างกายของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและร้อนขึ้นมาก“เหมือนลูกจะตัวร้อนขึ้น แบบนี้ควรทำอย่างไรดี?”ยายหลี่สงสารเด็กน้อย น้ำตาค่อยๆ ไหลลงมาอินชิงเสวียนเกิดความสับสนในใจ พูดตำหนิเสียงแข็ง “ร้องไห้แล้วจะได้ประโยชน์อะไร รีบช่วยกันคิดว่าใครโดนตัวเด็กบ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-10

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1503 เรื่องราวจบลง

    ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างเย็นชา “แม้แต่เป็นฮ่องเต้ข้ายังไม่สนใจด้วยซ้ำ จะสนใจพระชายาอ๋องได้อย่างไร”“พูดมาก็มีเหตุผล งั้นข้ายังมีที่อื่นที่อยากไป”เย่จิ่งหลานค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง หยิบแผนที่ออกมาจากอกเสื้อ“ตอนที่ข้ากำลังเดินทางไปตงหลิว พบว่ามีหลายแคว้นอยู่ใกล้เคียง ทำไมเจ้ากับข้าไม่พยายามพิชิตพวกเขาทั้งหมดล่ะ”ลั่วสุ่ยชิงสาดน้ำเย็นใส่เขาทันที“ตอนนี้เจ้ายังมีความสามารถนั้นอยู่รึ?”“หากเจ้าเต็มใจที่จะบ่มเพาะร่างกายและจิตวิญญาณกับข้า บางทีวรยุทธ์ของข้าอาจจะกลับคืน”ลั่วสุ่ยชิงถูกเขาทำให้โกรธจนกำลังภายในพุ่งสูงขึ้น กระทั่งจุดที่ถูกจี้สกัดได้คลายออก นางตบศีรษะเย่จิ่งหลานทันที“ไร้ยางอาย”“เจ้าหายแล้ว?”เย่จิ่งหลานมีความสุขมาก เขาพยายามคุกเข่า ฝืนยืนขึ้น ร่างกายโงนเงน ล้มลงตรงหน้าลั่วสุ่ยชิง ฉวยโอกาสกอดเอวของนาง“จอมยุทธ์หญิงลั่ว ข้ายืนไม่ไหว โปรดช่วยพยุงข้าด้วย”ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ยกมือขึ้นผลักเขาลงไปที่พื้น เย่จิ่งหลานล้มหงายหลัง เหมือนกับเต่าที่นอนหงายลั่วสุ่ยชิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะงอหาย เมื่อนางหัวเราะมากพอแล้ว ก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเงียบๆ และบ่นว่า “เสด็จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1502 หน้าด้านหน้าทน

    อินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งหลานแวบหนึ่ง“แน่นอนว่ามีคนไม่อยากให้เจ้าไป”เมื่อเห็นเย่จิ่งหลานมองมาทางนี้ ลั่วสุ่ยชิงก็เริ่มวิตกกังวล“ปล่อยข้านะ!”อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากยิ้มๆ“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถามก่อนว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่”เย่จิ่งหลานลุกขึ้นยืนโดยมีพี่ชายช่วยพยุงขึ้นอินชิงเสวียนเดินเข้าไปถาม“เจ้าสบายดีไหม มิติของเจ้า พังจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานพูดอย่างอ่อนแรง “ยังไงตอนนี้ก็ยังมีลมหายใจอยู่ ถ้ามันไม่พัง ชิงผิงกับชิงอานก็คงไม่ได้ออกมา”อินชิงเสวียนมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ“นี่เป็นเรื่องที่ร้ายแรง”เย่จิ่งหลานถามอย่างไร้ยางอาย “เฮ้ นี่เจ้าไม่คิดจะดูแลข้าแล้วรึ”อินชิงเสวียนกระตุกริมฝีปากยิ้มๆ“ก็มีคนรอดูแลเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ เจ้าไปเองสิ อาอวี้ เรากลับไปดื่มสุรากันต่อเถอะ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและตบไหล่เย่จิ่งหลาน“พวกเราช่วยเจ้าได้แค่นี้”เมื่อเห็นว่าหมู่เมฆหายไป ชาวยุทธ์หลายคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฮ่อยวนแอบโคจรกำลังภายใน พูดเสียงดัง “ตอนนี้เมื่อวิกฤติคลี่คลายแล้ว เฮ่อยวนจึงจัดงานเลี้ยงอีกครั้ง จัดเลี้ยงส่งเพื่อคลายความกังวลให้แก่เพื่อนพ้องในยุทธภพ!”คราวนี้เป็นกา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1501 สายล่อฟ้าปรากฏ

    ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างในชุดสีดำก็เหาะมาจากระยะไกล ลอยอยู่บนอากาศคนผู้นี้รูปร่างโปร่ง ชุดผ้าโปร่งสีดำปลิวไปตามสายลม เรือนผมดำขลับสยายออก ในชั่วพริบตา ร่างนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาสีดำเมื่อเห็นคนผู้นี้ เย่จิ่งหลานก็พยายามลุกขึ้นยืน“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ หนีไป!”ลั่วสุ่ยชิงยกมือขวาขึ้นสู่ท้องฟ้า เผชิญหน้ากับเสียงฟ้าคำรน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เย่จิ่งหลาน เจ้าฆ่าพ่อของข้า ถ้าเจ้าตายแบบนี้ จะไม่ดูถูกเจ้าเกินไปหรือ เจ้าควรจะอยู่ในโลกนี้ต่อไป ทนทุกข์ต่อความเจ็บปวดทีละน้อย!”เย่จิ่งหลานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทุกคำที่นางพูดล้วนเป็นพูดด้วยอารมณ์โกรธ ถ้านางไม่มีใจต่อเขา นางจะกลับมาได้อย่างไรอย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาเหมือนกับเส้นบะหมี่ ที่ไม่สามารถยืนตรงได้ จึงไม่สามารถหยุดยั้งลั่วสุ่ยชิงได้เลยเมื่อมองดูร่างเพรียวบางที่ต่อสู้กับฟ้าผ่า พลันรู้สึกเจ็บปวดกระบอกตา หยาดน้ำตาสองหยดร่วงหล่นกลืนหายไปในสายลมในเวลานี้ มีร่างเพรียวอีกร่างหนึ่งลอยออกมา โดยถือวัตถุที่มีลักษณะคล้ายแท่งไม้ขนาดใหญ่อยู่ในมือ มีปลายโค้งยาวมากซึ่งดูแปลกตา“ลั่วสุ่ยชิง ข้าจะใช้สายล่อฟ้าช่วยเจ้า!”ของสิ่งนั้นห

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1500 มิติพังแล้ว

    “จิ่งหลาน!”เย่จิ่งอวี้คว้าคอเสื้อของเขารวดเร็ว หลบหลีกการโจมตีได้อย่างหวุดหวิดตูม!อสุนีบาตฟาดเปรี้ยง บนพื้นมีหลุมลึกเกิดขึ้น ทุกคนล้วนหวาดกลัวกับฟ้าที่ผ่าลงมา ต่างใช้วิชาตัวเบาหนีไปทุกทิศทางอินชิงเสวียนถามด้วยความตกใจ “นักพรตเทียนชิง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”นักพรตเทียนชิงขมวดคิ้วกล่าวว่า “ชิงฮุยมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ เย่จิ่งหลานฆ่าเขา ศิลาตอบสวรรค์อาจมองว่าเขาเป็นคนชั่วร้ายมาก และออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง”เมื่อเห็นว่ายังมีฟ้าผ่าลงมา อินชิงเสวียนพูดอย่างกังวล “ศิลาตอบสวรรค์ไม่แยกแยะผิดถูกเช่นนี้ได้อย่างไร คนที่เย่จิ่งหลานฆ่านั้นคือคนชั่วร้ายจริงๆ ท่านนักพรตสามารถสื่อสารกับศิลาตอบสวรรค์ได้หรือไม่”นักพรตเทียนชิงส่ายศีรษะ“ไม่ได้ ศิลาตอบสวรรค์มีวิธีการตัดสินใจของตัวเอง”“แล้วต้องทำอย่างไรดี”อินชิงเสวียนเป็นกังวล และทันใดนั้นดวงตาก็พลันสว่างขึ้น“เย่จิ่งหลาน เจ้ารีบหลบเข้าไปในมิติเร็ว”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างวิตกกังวล “เสวียนเอ๋อร์พูดถูก จิ่งหลาน เจ้าเข้าไปหลบในมิติก่อน”เมื่อเห็นด้วยตาตัวเองว่ามีฟ้าแลบฟ้าผ่าเปล่งแสงแปลบปลาบ เย่จิ่งหลานก็รู้สึกชาดิกไปทั้งหนังศีรษะ หากถูกโ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1499 เคราะห์ตอบสวรรค์

    นอกห้วงทะเลแห่งจิต อินชิงเสวียนมองไปยังลิ่นเซียวที่ประทับฝ่ามืออยู่บนหลังของเย่จิ่งหลานอย่างประหม่า“อาจารย์ ท่านสัมผัสถึงแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานได้แล้วหรือยัง ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง”“คงจะสำเร็จแล้ว”ลิ่นเซียวถอนมือออก และแน่นอนว่าเพียงครู่หนึ่ง เย่จิ่งอวี้และคนอื่นๆ ก็รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกัน“ชิงเสวียน ผู้อาวุโสลิ่น นี่คือ...”“ศิษย์น้อง ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่”เฮ่ออวิ๋นทงก็ดูประหลาดใจเช่นกัน“ทำไมพวกเจ้าถึงมาที่นี่กันหมดล่ะ เกิดอะไรขึ้น”ทุกคนสูญเสียความทรงจำในช่วงเวลานั้นไป ต่างเพ่งมองไปยังอินชิงเสวียน“ผู้อาวุโสทุกท่านตกอยู่ภายใต้อาคมของชิงฮุย...”อินชิงเสวียนเล่าสั้นๆ อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทุกคนตกใจเมื่อรู้ว่าชิงฮุยได้ช่วงงชิงร่างของลั่วสุ่ยชิงไปเมื่อได้ยินว่าเย่จิ่งหลานกลับมาที่เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงแล้ว และแก่นวิญญาณก็อยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิง ทุกคนก็เป็นกังวลอีกครั้งทุกคนเบิกตากว้าง มองไปยังเย่จิ่งหลานและลั่วสุ่ยชิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ในที่สุดลั่วสุ่ยชิงก็ลืมตาขึ้น ดวงตาหรี่ลง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1498 ชิงฮุยตาย

    เย่จิ่งหลานขบกรามแน่น“ข้าสามารถให้ร่างกายแก่เจ้าได้ แต่เจ้าต้องสาบานอย่างจริงจัง ว่าจะไม่ทำร้ายต้าโจว หากผิดคำสาบาน ลูกหลานชาวเฟยเหยาทั้งหมดรวมทั้งตัวเจ้าเอง จะถูกสวรรค์ลงโทษ ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย!”ในชีวิตนี้ของเขา เขาได้เป็นหมอที่ตัวเองชอบ ได้ข้ามภพ แถมยังได้ข้ามภพมาเป็นท่านอ๋องที่มีสถานะสูง ได้เดินทางจากการต่อสู้แย่งชิงในวังสู่ยุทธภพ และจากการไร้ชื่อเสียงเรียงนาม มาเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งในยุทธจักร ยังได้สัมผัสประสบการณ์การปล่อยให้ความคิดไหลไปในทางที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังอีกครั้งหนึ่ง พอใคร่ครวญดูแล้ว มันก็คุ้มค่าจริงๆหากเขาสามารถยุติสงครามนี้ด้วยชีวิตของตัวเองได้ เย่จิ่งหลานก็ยินดีที่จะทำเช่นนั้นแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่รักตัวกลัวตาย แต่เมื่อเผชิญกับความชอบธรรม เขาก็มีความตระหนักรู้ ในฐานะคนสมัยใหม่ เขาจะต้องไม่แย่กว่าอินชิงเสวียนอย่างแน่นอนยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชาดแห่งบาปในร่างกายของเขาที่ยังไม่ถูกกำจัด หากชิงฮุยกล้าใช้ร่างกายของเขาเพื่อฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ มันจะดึงดูดฟ้าผ่า ผ่าเขาให้เป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอนหลังจากฟังคำพูดของเย่จิ่งหลานแล้ว ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1497 ตัดสินใจไม่ได้

    “ไม่นะ เขาเป็นผู้บริสุทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงเหยียดแขนทั้งสองข้างออก และมาขวางอยู่เบื้องหน้าของเย่จิ่งหลานอีกครั้งเสียงดังปัง ลั่วสุ่ยชิงถูกกระแทกห่างออกไปหลายจั้ง และในไม่ช้าก็จมลงไปในหมอกสีดำหนาทึบ“ลั่วสุ่ยชิง ลั่วสุ่ยชิง!”เย่จิ่งหลานเหาะเข้าไปในหมอกสีดำอย่างกระวนกระวายใจ คลำหาลั่วสุ่ยชิง และช่วยพยุงนางลุกขึ้นชิงฮุยเคลื่อนฝีเท้า และมาปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองอีกครั้ง“ลั่วสุ่ยชิง นังสารเลว วันนี้ข้าขอถามเจ้า ต้องการพ่อ หรือผู้ชายคนนี้?”แก่นวิญญาณของลั่วสุ่ยชิงก็ยังสั่นเทา นางกำเสื้อคลุมไว้แน่น มีเส้นเลือดปรากฏขึ้นที่หลังมือนี่เป็นสิ่งที่เลือกยากมากจริงๆไม่อาจปฏิเสธได้ว่า นางตกหลุมรักเย่จิ่งหลานจริงๆไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากไหน แต่มันค่อยๆ ฝังแน่นอยู่ในใจแล้วอาจเป็นเพราะการเข้าฝัน อาจเป็นเพราะตัวเองเคยเดินทางไปกับเขา หรืออาจเป็นเพราะความใกล้ชิดของแก่นวิญญาณของเขา ลั่วสุ่ยชิงไม่สามารถค้นหาติดตามได้อีกแล้วแม้ว่านางจะเป็นสตรีงดงามแห่งสวรรค์ แต่ก็ไม่มีใครที่เข้าตาของนาง แต่ดันเป็นเย่จิ่งหลานผู้ที่พูดเรื่องไร้สาระทั้งวัน ผู้ที่ไม่มีท่าทีจริงจัง กลับกลายเป็นคนที่อยู่ในใจนาง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1496 ความยึดติดที่ฝังลึกอยู่ในใจ

    ชิงฮุยได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมีลั่วสุ่ยชิงที่กำลังต่อสู้กับแก่นวิญญาณของเขา จึงเคลื่อนไหวช้าลิ่นเซียวแทงกระบี่สวน โจมตีจุดถันจงที่อยู่กลางอกของนาง พลังของลั่วสุ่ยชิงถูกยับยั้ง ก้าวหยุดนิ่ง ในเวลาเดียวกัน แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานก็เข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิตของลั่วสุ่ยชิงในหมอกสีดำ ชายและหญิงกำลังต่อสู้กัน เย่จิ่งหลานหลบเข้าไปในวงการต่อสู้ และช่วยลั่วสุ่ยชิงต่อสู้กับชิงฮุย ชิงฮุยตกตะลึง“เป็นเจ้า!”“ใช่ ข้าเอง!”ขณะที่พูด เย่จิ่งหลานได้ซัดฝ่ามือใส่เขาหลายครั้งแล้วการเข้าร่วมวงการต่อสู้ของเขาทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที ชิงฮุยก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธตะโกนด้วยความเดือดดาล “ลั่วสุ่ยชิง เจ้าคิดจะช่วยคนนอกจัดการกับข้าจริงๆ อกตัญญู!”ลั่วสุ่ยชิงตกใจเล็กน้อย วิชาฝ่ามือช้าลงครู่หนึ่ง“เจ้าเป็นใครกันแน่”ชิงฮุยคำรามด้วยความโกรธ“เจ้ารู้คำตอบแล้ว ยังต้องการจะถามอีกรึ”ลั่วสุ่ยชิงตัวสั่นเล็กน้อย“จริงหรือ...เป็นท่าน?”เย่จิ่งหลานไม่รู้ว่าทั้งสองกำลังเล่นปริศนาทายคำอะไรอยู่ แค่อยากจะจัดการกับปีศาจชั่วร้ายนี้โดยเร็ว เขาลงมือรวดเร็ว ล้วนหมายไปยังจุดตายของชิงฮุยชิงฮุยบังคับเย่จิ่งหลานใ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1495 อินชิงเสวียนข้าขอร้องเจ้า

    ขณะที่อินชิงเสวียนกำลังจะลงมือ ดวงตาของลั่วสุ่ยชิงก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง“เขากำลังกลืนกินแก่นวิญญาณของข้า ถ้าเจ้าไม่ลงมือ ข้าก็คงไม่รอดเช่นกัน อินชิงเสวียน เจ้าไม่อยากช่วยสามีและพ่อแม่ของเจ้าหรือ”เมื่อเห็นท่าทางอันเจ็บปวดของลั่วสุ่ยชิง อินชิงเสวียนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ครู่หนึ่งลั่วสุ่ยชิงสามารถทำเพื่อราษฎร ละทิ้งความคิดที่นางยืนหยัดมานับพันปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางควรค่าแก่การเคารพเพียงใด แต่ถ้านางไม่ตาย จะไม่มีใครรอดชีวิตได้เมื่อกวาดสายตามองไปยังร่างของทุกคนที่เหมือนถูกจี้สกัดจุด อินชิงเสวียนก็กัดฟันกรอด และพิณการเวกก็อยู่ในมือของนางแล้ว“ลั่วสุ่ยชิง ข้าขอสาบานในนามของฮองเฮาต้าโจวว่า หลังจากที่เจ้าเสียชีวิต จะจัดพิธีศพให้เจ้าอย่างสมเกียรติระดับแคว้น”ร่างของเย่จิ่งหลานหายวับ และยืนขวางอยู่ตรงหน้าอินชิงเสวียน“ยัยบ้า ข้าไม่เคยขอร้องอะไรเจ้าเลย คราวนี้ข้าขอร้องล่ะ ช่วยไว้ชีวิตลั่วสุ่ยชิงด้วย!”“เย่จิ่งหลาน เจ้า...”อินชิงเสวียนใช้นิ้วกดสายพิณ แต่ในใจกลับไม่เข้าใจว่า ทำไมจู่ๆ เย่จิ่งหลานถึงมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อลั่วสุ่ยชิงขนาดนี้เสื้อยืดสีขาวของเย่จิ่งหลานเปื้อนเลือดแดงฉาน ดวง

DMCA.com Protection Status