Home / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 180 ม่ายพรหมจรรย์กลัวหนุ่มผู้ดี

Share

บทที่ 180 ม่ายพรหมจรรย์กลัวหนุ่มผู้ดี

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
อินชิงเสวียนใจเต้นตุบตับ

"กระหม่อมไปสนามฝึก จากนั้นก็กลับไปที่บ้าน จากนั้นก็ไปยังบ้านที่ฝ่าบาททรงมอบให้กระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ?"

เมื่อหันหลังกลับมาก็พบว่าเย่จิ่งอวี้ได้ยืนอยู่ด้านหลังของนาง ร่างสูงใหญ่ของเขาปรากฏขึ้นเหนือหัวของอินชิงเสวียน ทำให้รู้สึกถึงความกดดันขึ้นในทันใด

"เจ้าไม่ได้ไปที่อื่นจริงๆ ใช่หรือไม่?"

เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงและมองนาง ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา ซึ่งทำให้ไม่กล้าสบตามอง

อินชิงเสวียนครูดถอยหลังหนึ่งก้าว แต่ไร้ซึ่งทางไป นางจึงนั่งลงบนขอบเตียง รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยในใจ

เหตุใดเย่จิ่งอวี้จึงถามเช่นนี้ หรือว่าเขาให้คนสะกดรอยตามตัวเอง?

เมื่อคิดได้ว่าฉินเทียนและหลี่ชีไม่ได้ตามนางไป เพราะเรื่องแบบนี้ดูไม่ใช่วิถีการทำงานของพวกเขา

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง อินชิงเสวียนก็เปลี่ยนคำพูด

"ความจริงกระหม่อมได้ไปอีกที่หนึ่งมา"

นางชี้ไปยังกล่องไม้ที่บรรจุชาคั่ว และก้มหน้าพูดอย่างว่าง่าย "กระหม่อมได้ไปยังจวนอ๋องจิ้ง เพื่อขอบพระทัยท่านอ๋อง"

"หึ เจ้าช่างอยู่เป็นเสียจริง"

"ทั้งหมดเป็นเพราะฝ่าบาททรงสอนไว้พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมติดตามฝ่าบาทมานาน แน่นอนว่าต้องเข้าใจหลักก
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Jirawan Noing
เขียนได้ดี อัพเร็วๆหน่อยจร้า
goodnovel comment avatar
Sanit Khaotung
ชอบมากเลยแต่มีมาน้อยมากแต่ละวันอ่านเพลินเลยเขียนได้ดีชอบมากเรื่องนี้
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่181 ไปเดินเล่นกับข้า

    วันรุ่งขึ้นหลังจากเล่นกับเสี่ยวหนานเฟิงมาตลอดทั้งบ่าย อินชิงเสวียนเหนื่อยจนแทบหมดแรงเด็กๆ มีพลังไม่จำกัดอยู่เสมอ และก็ชอบผมของนางโดยเฉพาะหลักจากที่กล่อมเสี่ยวหนานเฟิงจอหลับ อินชิงเสวียนก็อยากงีบหลับสักหน่อย แต่ทันทีที่หัวถึงหมอน เสี่ยวอานจื่อก็วิ่งเข้ามา“เสี่ยวเสวียนจื่อ ฝ่าบาทให้เจ้ารีบไปที่ห้องหนังสือ ตรัสว่ามีเรื่องด่วน”อินชิงเสวียนลุกขึ้นมาด้วยความมึนงง“ได้ตรัสหรือไม่ว่ามีสิ่งใด?”“ไม่เลย ท่านอาจารย์ของข้าก็บอกกับข้าเช่นนี้เหมือนกัน”“รู้แล้ว”อินชิงเสวียนยืดตัวบิดขี้เกี้ยจ สวมหมวกและจัดระเบียบเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็เดินไปยังห้องหนังสือด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เย่จิ่งอวี้ได้เปลี่ยนไปใส่ชุดลำลองเรียบร้อยแล้วร่างที่สวมเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อน ทำให้ร่างกายสูงและสง่างามของเขาดูเหมือนองอาจห้าวหาญชายเสื้อและปลายแขนปักด้วยด้ายเงิน ทุกท่าทางอิริยบทล้วนเผยให้เห็นถึงความสูงส่งมาแต่กำเนิด“กระหม่อมขอถวายบังคมฝ่าบาท!” อินชิงเสวียนแอบเหลือบมองเขา ต้องยอมรับเลยว่าใบหน้าของเย่จิ่งอวี้หล่อเหลาเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าสามร้อยหกสิบองศาฆ่าไม่ตายจริงๆใบหน้าที่มี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่182 เจ้ายินดีอยู่กับข้าตลอดชีวิตหรือไม่

    ฉินเทียนรีบนำทหารองครักษ์ตามขึ้นมา“เหล่าข้าน้อยจะไปพร้อมด้วยฝ่าบาท!” เย่จิ่งอวี้พูดขึ้นเสียงเรียบ “ไม่จำเป็น หมู่บ้านอยู่ไม่ไกล ให้เสี่ยวเสวียนจื่อและไป๋เสวี่ยไปกับข้าก็พอ”“คือว่า...”ฉินเทียนและคนอื่นๆ ต่างก็สงสัยสีหน้าเย่จิ่งอวี้เคร่งขรึมเล็กน้อย“นี่คือคำสั่ง!” “พ่ะย่ะค่ะ” ฉินเทียนจึงพาคนถอยออกไปทันทีเมื่อได้ยินว่าจะพาไป๋เสวี่ยไปด้วย อินชิงเสวียนก็สบายใจขึ้นมากสุนัขมีขนาดใหญ่ และติดตามอยู่ด้านหลังเหมือนม้าตัวเล็กๆ คนส่วนใหญ่ยังไม่กล้าก้าวเข้าไปใกล้เย่จิ่งอวี้กลับยังคงอยู่ในท่าทางที่สงบเช่นเดิมเสื้อผ้าของเขาปลิวไสว และย่างกรายเดินช้าๆ ไปตามถนนในชนบท ใบหน้าต้านกับสายลมอ่อนๆ เดินเล่นสบายๆ ด้วยท่าทางเอ้อระเหยอินชิงเสวียนและไป๋เสวี่ยเดินตามอยู่ข้างหลังเขา จังหวะช้าเร็วปะปนกันเวลาเพียงสิบห้านาทีก็เดินถึงหน้าหมู่บ้านในเวลานี้คนส่วนใหญ่กำลังทําสวนในไร่นา มีเพียงหญิงชราไม่กี่คนและเด็กหลายคนนั่งอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้านเมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนสวมชุดหรูหรา ทุกคนต่างมองไปยังทั้งสองคนด้วยความประหลาดใจเย่จิ่งอวี้เดินไปด้านหน้า ถามด้วยน้ำเสียงอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่183 ข้าอยากได้ยินความจริง

    อินชิงเสวียนหัวเราะแห้งๆ และถามว่า “ฝ่าบาท... เหตุใดพระองค์จึงถามขึ้นมาเช่นนี้”เย่จิ่งอวี้มองไปข้างหน้า และความคมบนใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นทันทีไม่รอให้อินชิงเสวียนตอบคำถาม เขาก็หันหน้ากลับมา ดวงตาที่ลึกล้ำและแหลมคม“เจ้าโกหกข้ามาหลายครั้ง ครั้งนี้ข้าเพียงอยากเพียงอยากได้ยินความจริง”อินชิงเสวียนเงยศีรษะขึ้น กลับไม่กล้าสบตากับความแหลมคมนั้น จึงก้มหน้าลงอีกครั้ง“กระหม่อม...”นางกัดริมฝีปากและพูดอย่างโหดร้าย “หากว่ามีโอกาส กระหม่อมอยากออกไปจากวังพ่ะย่ะค่ะ”“ทำไม? ข้าไม่ดีกับเจ้ามากพองั้นหรือ?”เย่จิ่งอวี้หันตัวกลับมา สายตาข่มว่าตนเหนือกว่าอินชิงเสวียนถอยหลังหนึ่งก้าวพูดขึ้นอย่างระมัดระวัง “ฝ่าบาททรงดีต่อกระหม่อมมากพอพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมยังคงโหยหาชีวิตฟ้าที่สูงแล้วแต่นกจะบิน ทะเลที่กว้างใหญ่แล้วแต่ปลาจะว่ายวน”เย่จิ่งอวี้เดินไปด้านหน้าหนึ่งก้าว จ้องนางและถามว่า “อยู่ในวังเจ้าโบยบินไม่ได้? หรือว่ายวนไม่ได้งั้นหรือ?”อินชิงเสวียนมองไปที่ปลายรองเท้าของนางแล้วพูดว่า “ในวังมีกฎระเบียบมากเกินไป กระหม่อมเกรงว่าหากไม่ระวังอาจจะไร้เงาหัว”เย่จิ่งอวี้เสียงเข้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่184 อุบัติภัย

    เมื่อมองดูเสื้อผ้าของเย่จิ่งอวี้ที่ถูกลมพัดปลิว หัวใจของอินชิงเสวียนก็อดที่จะปั่นป่วนไม่ได้หลังจากยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตามไป๋เสวี่ยไปเย่จิ่งอวี้ขึ้นรถไปแล้ว พูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย “กลับวัง”รถม้าก็ออกจากทุ่งข้าวสาลีโดยไวระหว่างทาง สีหน้าของเย่จิ่งอวี้นิ่งดั่งสายน้ำ อินชิงเสวียนจึงไม่กล้าพูดมากโชคดีที่มีไป๋เสวี่ยอยู่ การหยอกล้อกับสุนัขช่วยบรรเทาความลำบากใจได้บ้างหนึ่งชั่วโมงต่อมา รถม้าก็มาถึงหน้าห้องหนังสือฉินเทียนพูดอย่างเคารพ “ฝ่าบาท ถึงห้องหนังสือแล้วพ่ะย่ะค่ะ”อินชิงเสวียนรีบพาสุนัขลงจากรถ พร้อมยื่นมือไปพยุงเย่จิ่งอวี้เย่จิ่งอวี้เลี่ยงมือของนาง และกระโดดลงไปที่พื้นอย่างเรียบร้อยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเล็กน้อย “กลับไปคิดมาเถอะ สามวันนี้เจ้าอยู่ที่ตำหนักจินหวูก็พอ”“พ่ะย่ะค่ะ”อินชิงเสวียนโค้งคำนับและถอยกลับไปหลังรถ จากนั้นเดินอย่างรวดเร็วไปยังตำหนักจินหวูจิตใจสับสนวุ่นวายเหมือนด้ายพันกันนางมีความรู้สึกว่า เย่จิ่งอวี้อาจรู้ตัวตนของนางแล้วอาจถึงขั้นที่เดาได้ว่าเสี่ยวหนานเฟิงเป็นลูกของเขาเองถ้าไม่เป็นเช่นนั้น เหตุใดเขาจึงแต่งตังให้เส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่185 ผงบนเสื้อผ้า

    อวิ๋นฉ่ายตกใจมาก“พระสนม เสี่ยวหนานเฟิงเป็นอะไรเจ้าคะ?”ยายหลี่ก็เสียสติไปชั่วขณะ“นี่มันอะไรกัน เมื่อครู่ยังดีๆ อยู่เลย”เสี่ยวหนานเฟิงร้องไห้โวยวายหนักขึ้น และดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของอินชิงเสวียน“ไม่ร้องนะ เด็กดี!” อินชิงเสวียนปลอบเสี่ยวหนานเฟิงไปด้วย พลางมองตุ่มสีแดงบนตัวของเขาอย่างใจเย็นนี่มันเรื่องอะไรกัน หรือว่าเย่ไห่ถังทำอะไรลงไป?นางไม่ใช่สนมในวังหลัง แทบไม่จำเป็นต้องทำเรื่องแบบนี้ด้วยซ้ำเมื่อมองไปที่ใบหน้าเล็กๆ ที่มีอาการแดงขึ้นของเสี่ยวหนานเฟิง ในใจของอินชิงเสวียนก็ยิ่งรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย“อวิ๋นฉ่าย เจ้ารีบไปแจ้งให้ทหารองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตู รีบให้พวกเขาไปตามหมอหลวง”อวิ๋นฉ่ายตอบรับ และวิ่งไปยังด้านนอกเสี่ยวหนานเฟิงร้องไห้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเขาเจ็บหรือคันกันแน่ แต่เพียงครู่เดียว ผิวหนังทุกส่วนบนร่างกายของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและร้อนขึ้นมาก“เหมือนลูกจะตัวร้อนขึ้น แบบนี้ควรทำอย่างไรดี?”ยายหลี่สงสารเด็กน้อย น้ำตาค่อยๆ ไหลลงมาอินชิงเสวียนเกิดความสับสนในใจ พูดตำหนิเสียงแข็ง “ร้องไห้แล้วจะได้ประโยชน์อะไร รีบช่วยกันคิดว่าใครโดนตัวเด็กบ้า

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่186 ความโกรธของฮ่องเต้

    เย่จิ่งอวี้เดินไปที่เตียงอย่างรวดเร็ว และคว้าข้อเท้าของเสี่ยวหนานเฟิงไว้ด้วยมือที่ใหญ่และข้อต่อที่เด่นชัดของเขา“อย่ามัวโอ้เอ้ รีบฝังเข็มเข้าสิ ร้องสักหน่อยคงไม่เป็นไร ชีวิตสำคัญกว่ามาก!” “พ่ะย่ะค่ะ”หมอหลวงเหลียงหยิบเข็มเงินออกมา และทิ่มลงไปบนเนื้อที่อ่อนนุ่มของเสี่ยวหนานเฟิงเด็กน้อยร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้งในทันที ลิ้นสีชมพูสั่นในปากของเขา และน้ำตาก็ไหลออกมาขนานกันสองข้างหัวใจอินชิงเสวียนแทบสลาย นางรู้สึกหน่วงที่จมูก น้ำตาก็ไหลออกมาในที่สุดนางก็เข้าใจความรู้สึกของคนเป็นแม่ ขอเพียงเสี่ยวหนานเฟิงหายดี นางยอมทำทุกอย่างเมื่อเห็นน้ำตาที่ไหลลงบนหน้าอกของเสี่ยวหนานเฟิง ดวงตาของเย่จิ่งอวี้ก็เคร่งขรึมขึ้นมาก“ยังต้องเจาะอีกนานเท่าใด?”“ใกล้เสร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ เหลืออีกหนึ่งเข็ม”หมอหลวงเหลียงหยิบเข็มเงินขึ้นมาด้วยความสั่น และเจาะเข้าไปที่จุดถันจงของเสี่ยวหนานเฟิงไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์จากการฝังเข็ม หรือเสี่ยวหนานเฟิงที่ร้องไห้จนเหนื่อย เสียงเริ่มค่อยๆ เงียบลงอินชิงเสวียนตกใจมาก รีบไปตรวจดูลมหายใจของเสี่ยวหนานเฟิงโชคดี ยังหายใจอยู่เย่จิ่งอวี้ก็ปล่อยมือลงอย่างช้าๆ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่187 อย่ากลัวข้าอยู่นี่

    ไทเฮาตกใจอย่างมาก นางตบโต๊ะหนึ่งฉาดและพูดขึ้นด้วยความโมโห “บังอาจนัก พวกเจ้ากล้าลงไม้ลงมือในตำหนักฉือหนิง หรือว่ามองไม่เห็นหัวข้าแล้ว?”ผู้เป็นหัวหน้าพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “นี่คือคำสั่งของฝ่าบาท เหล่ากระหม่อมเพียงทำตามพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ นำตัวไป!” พวกเขาหิ้วตัวของหลิวหมัวมัวออกไปจากตำหนักฉือหนิงทันทีไทเฮารีบตามออกมาในทันใด “บ่าวจอมโอหัง พวกเจ้าคิดก่อกบฏงั้นหรือ?”ทหารองครักษ์แทบไม่สนใจนาง ลากตัวของหลิวหมัวมัวไปราวกับลากสุนัขที่ตายแล้วไทเฮาตัวเซ และเกือบล้มลงกลางตำหนักชุยไห่รีบเข้ามาพยุงนางไว้ “ไทเฮา ระวังพระวรกายด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ไทเฮารีบพูดขึ้นอย่างรีบร้อน “ยังต้องระวังอะไรอีก รีบตามข้าไปที่ตำหนักจินหวู”หลิวหมัวมัวคอยติดตามรับใช้นางตั้งแต่ยังเล็ก เพียงพริบตาเดียวก็ผ่านไปถึงสี่สิบปีแล้ว จะไม่สนใจได้อย่างไรฝีเท้าของเหล่าทหารองครักษ์ว่องไวมาก เมื่อไทเฮาเสด็จออกมาจากพระตำหนัก ก็ไม่พบเงาของผู้ใดเลยในตำหนักจินหวู เหล่านางสนมยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นดวงอาทิตย์ที่แผดเผากำลังสาดส่องพวกนาง แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรสักคำลู่จิ้งเสียนกลับยิ่งร้อนรนเป็นอย่างมาก นางออกแรงกำผ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่188 เจ้าจะพาลูกไปที่ใด

    อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นทั้งน้ำตา สูดลมหายใจเข้าและถามว่า “ลูก... จะไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่ไหม?”เย่จิ่งอวี้เพิ่งเคยเห็นอินชิงเสวียนเป็นเช่นนี้ครั้งแรก เมื่อก่อนนางมักจะเต็มไปด้วยจิตวิญญาณและวิธีการ วันนี้กลับบอบบางและซีดเซียว อ่อนแอราวกับดอกไม้ที่ละเอียดอ่อน ช่างน่าสงสารยิ่งนักความอ่อนโยนในใจของเย่จิ่งอวี้ถูกสัมผัสได้ในทันที เขาอดไม่ได้ที่จะอ้าแขนออกกว้าง และโอบอินชิงเสวียนไว้ในอ้อมอกลดสายตาลงแล้วพูดว่า “ข้าบอกว่าไม่เป็นไร เสี่ยวหนานเฟิงก็จะต้องไม่เป็นไร”กลิ่นดอกไม้ที่หอมจางๆ พุ่งเข้าสู่จมูกของนาง เมื่อมองไปที่คอเสื้อปักเงินอันงดงามที่อยู่ตรงหน้า อินชิงเสวียนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วผลักเย่จิ่งอวี้ออกไป“ฝ่าบาท... คือว่า... ตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว ฝ่าบาทกลับไปปพักผ่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ”นางลุกขึ้นจากเตียงด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความตื่นตระหนกเย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ข้าไม่ไป คืนนี้ข้าจะอยู่ที่ตำหนักจินหวู”อินชิงเสวียนหันหลังและพูดว่า “เสี่ยวหนานเฟิงป่วยอยู่ ฝ่าบาททรงอยู่ที่นี่ กระหม่อมเกรงว่าจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง”“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าดูแล เจ้าดูแลลูกให

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1457 อย่าพูดจาเหลวไหล

    “แต่ตอนนี้เราไม่ยังตามหาตัวเย่จิ่งหลานไม่พบ ยังมีวิธีอื่นใดที่จะสามารถล่อให้ศิลาตอบสวรรค์ปรากฏตัวได้หรือไม่”อินชิงเสวียนลูบคาง ปัญหาดูเหมือนจะกลับมาที่จุดเดิมนักพรตเทียนชิงกล่าวว่า “ไม่มี ศิลาตอบสวรรค์จะลงโทษคนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางออกจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์”ลั่วสุ่ยชิงก็ขมวดคิ้วเช่นกัน“นี่เป็นปัญหาที่แก้ไขยากจริงๆ”อินชิงเสวียนถามอย่างสงสัย “ศิลาตอบสวรรค์จะมีประโยชน์อะไรกับชิงฮุย”ลั่วสุ่ยชิงกล่าวว่า “เขาต้องการเป็นเซียน”“อ๋า?”อินชิงเสวียนมองไปที่ลั่วสุ่ยชิงด้วยความประหลาดใจลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างใจเย็น “ในแคว้นเฟยเหยา มีตำนานเล่าขานมาตลอด ตราบใดที่ได้รับศิลาตอบสวรรค์ ก็สามารถหลุดพ้นจากปัญจธาตุได้ สามารถข้ามผ่านวิบากกรรมและบรรลุขั้นสูงสุด บรรลุเป็นเซียน เสด็จพ่อของข้ามีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ตามหาที่อยู่ของศิลาตอบสวรรค์มาโดยตลอด เมื่อแคว้นเฟยเหยาถูกบุกโจมตี เคยมีคนกระตุ้นศิลาตอบสวรรค์ แต่ถึงกระนั้น หินก้อนนั้นก็ยังคงหายไป พ่อของข้าติดตามกลิ่นอายนั้นไป จนพบแดนศักดิ์สิทธิ์ และได้สรุปว่าศิลาตอบสวรรค์อยู่ที่นั่น”“ผู้ที่เป็นคนกระตุ้นคือใคร เป็นชิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1456 ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้

    “ได้ เช่นนั้นข้าจะทำนายดูอีกครั้ง”นักพรตเทียนชิงหยิบเหรียญอีแปะและกระดองเต่าออกมา เขย่าหกครั้ง ค่อยๆ จัดเรียงเหรียญทีละเหรียญ เขามองดูพวกมันอยู่ครู่หนึ่ง ลูบหนวดเคราแล้วพูดว่า “ภาพทำนายไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย คุณชายน้อยเย่...”“เป็นอย่างไรบ้าง เขากลับมาไม่ได้กระนั้นหรือ”อินชิงเสวียนถามด้วยความประหลาดใจ“พูดยาก ทุกสิ่งในตัวเขาไม่แน่นอนมาก ดอกไม้ไม่ใช่ดอกไม้ หมอกก็ไม่ใช่หมอก เหมือนมองดอกไม้ในสายหมอก ยากที่จะเห็นภาพที่แท้จริง ข้าไม่เคยเห็นภาพทำนายเช่นนี้มาก่อน”นักพรตเทียนชิงมองดูเหรียญอีแปะด้วยสีหน้าประหลาดใจมากอินชิงเสวียนถอนหายใจ“เอาเถอะ ถ้าเขาสามารถกลับไปยังที่ที่เขาอยู่ได้จริงๆ ก็คงจะดี”เดิมทีเย่จิ่งหลานไม่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของยุคนี้มากนัก แทนที่จะเป็นแบบนี้ ไม่สู้ปล่อยให้เขาไปในที่ที่เขาต้องการไปดีกว่าเขาเป็นคนดี ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็สามารถสร้างประโยชน์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้นักพรตเทียนชิงไม่ได้พูด บรรยากาศอึมครึมอยู่พักหนึ่งอินชิงเสวียนรู้สึกเศร้า จากนั้นทำตัวให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาและถามว่า “ท่านนักพรตสามารถทำนายได้หรือไม่ว่าชิงฮุยอยู่ที่ไหน”นัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1455 การทดสอบของพ่อหนุ่มน้อย

    เมื่อเห็นชายคนนั้นอารมณ์ดีขึ้นมาทันที อินชิงเสวียนก็ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว“คุณบอกว่า...คุณชื่อเย่จิ่งหลานไม่ใช่เหรอ”ชายคนนั้นพูดเหมือนกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา “ใช่น่ะสิ ผมชื่อเย่จิ่งหลานแล้วมันขัดแย้งอะไรกับเรื่องที่ผมเป็นหมอล่ะ”เสี่ยวหลานหลานที่อยู่ข้างๆ สั่นศีรษะ พูดอย่างน่ารัก “ก็ไม่ขัดแย้ง”เย่จิ่งหลานยักไหล่“งั้นก็โอเคแล้วไม่ใช่หรือไง ในช่วงสองวันที่ผ่านมาผมอาจเกิดภาวะขาดสารอาหาร ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ขอบคุณสาวสวยคนนี้ที่ช่วยเหลือ เพิ่มเพื่อนในไลน์ได้ไหม”เย่จิ่งหลานสอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ แต่มันก็ว่างเปล่าเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง โทรศัพท์หายไปไหน“แล้วคุณรู้ไหมว่าคุณมาจากโรงพยาบาลไหน”“รู้...”เย่จิ่งหลานพูดขึ้นมาคำหนึ่ง และทันใดนั้นก็รู้สึกปวดหัวอีกครั้งเขาจำได้ว่าตัวเองถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล เหมือนจะไปคลินิกเล็กๆ แห่งหนึ่ง ต่อมาก็ฝันอะไรตั้งมากมาย ในฝันเหมือนเขาจะกลายเป็นอ๋อง แล้วต่อมาก็ได้เป็นจอมยุทธ์เมื่อมองดูเตียงในโรงพยาบาลตรงหน้า จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริงขึ้นมาทันทีเขายกนิ้วขึ้นแตะหัวเตียง ผิวสัมผัสเย็นๆ บอกเขาว่าทุกสิ่งตรงหน้าเป็นเรื่องจริง แต

DMCA.com Protection Status