หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1444 ชิงฮุยตายแล้วงั้นหรือ

แชร์

บทที่ 1444 ชิงฮุยตายแล้วงั้นหรือ

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-07 16:00:00
ชิงฮุยถูกฝ่ามือของเย่จิ่งอวี้บีบให้เบี่ยงตัวหลบไปอีกด้าน แต่เย่จิ่งหลานกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง โอกาสมาถึงแล้ว!

อินชิงเสวียนนึกในใจ ใบมีดดำทะมึนแห่งมิติก็ลอยออกไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า พุ่งฟันใส่ชิงฮุยด้วยพลังที่บ้าคลั่งและแข็งกร้าว!

ความเร็วนั้นเร็วมาก ภายในชั่วพริบตา คนที่อยู่ข้างหลังยังมองไม่ทันว่าใบมีดลอยออกไปได้อย่างไร จนกระทั่งได้ยินเสียงร้องโอดโอยของชิงฮุย

เมื่อปราณใบมีดกระจายออกไป ก็ไม่มีร่องรอยของชิงฮุยเลย ผงเถ้าสีดำลอยตกลงบนพื้น ซึ่งดูเหมือนเศษเนื้อและเสื้อผ้า

เก่อหงยวนเข้ามาดู ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า “ตายแล้วหรือ”

หรือว่านี่ก็คือคำที่เล่าลือกันว่ากลายเป็นผุยผง?

อินชิงเสวียนสั่นศีรษะ นางก็ไม่รู้

ระหว่างนางกับใบมีดดำทะมึน ไม่มีความรู้สึกเช่นนั้นเลย

ต่งจื่ออวี๋เกาหัว เดินเข้าไปแล้วพูดว่า “กลายเป็นเถ้าถ่านขนาดนี้แล้ว เป็นไปได้มากว่า...ตายแล้ว”

เฮ่อฉางเฟิงกล่าวว่า “ตายซะก็ดี”

อินชิงเสวียนหมุนตัวกลับมา ใบมีดทะมึนแห่งมิติก็มุ่งเป้าไปที่เฮ่อฉางเฟิงทันที

เจ้าเมืองน้อยเฮ่อสะดุ้งเฮือก รีบโบกไม้โบกมือเป็นระวิง

“นี่ไม่ใช่เรื่องตลก อย่าทำแบบนั้นกับพี่สิ”

เก่อหงยวน จู่ๆ ก็หัวเรา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Nana Ten
อัพตอนน้องลง กำลังจะเทไหมแบบนี้
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1445 คราวหน้าเจอกัน นางต้องตาย

    ลั่วสุ่ยชิงขมวดคิ้ว“เรื่องนี้ตอนนี้ข้ายังทำไม่ได้”“ในเมมื่อชิงฮุยไม่ใช่เชื้อสายราชวงศ์ เช่นนั้นวิชาอาคมทั้งหมดของเขา เจ้าก็ควรรู้ทั้งหมดสิ?”อินชิงเสวียนรู้สึกสับสนกับสิ่งนี้มากลั่วสุ่ยชิงจิบน้ำพุวิญญาณ“ในทางทฤษฎีก็เป็นจริงเช่นนั้น แต่ในทางปฏิบัติกลับมีความคลาดเคลื่อนบางอย่าง ข้าไม่เคยเห็นวรยุทธ์หลายอย่างของชิงฮุย และมีบางส่วนที่พบได้ในเคล็ดวิชาลับของราชวงศ์เท่านั้น ข้าไม่รู้ว่าเขาเรียนจากที่ไหน และ...”ลั่วสุ่ยชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เย่จิ่งหลานยังได้เรียนรู้วรยุทธ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของบิดาข้าด้วยซ้ำ ซึ่งจุดนี้ทำให้ข้าสงสัยยิ่งนัก”อินชิงเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ชิงฮุยอาจใช้วิธีการบางอย่างเพื่อถ่ายทอดให้เขา ในเมื่อเขาสามารถควบคุมจิตสำนึกทั้งหมดของเย่จิ่งหลานได้ การถ่ายทอดวรยุทธ์จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก”จากความเข้าใจของอินชิงเสวียน มันก็เหมือนกับคอมพิวเตอร์สองเครื่องที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน การถ่ายโอนไฟล์ถึงกัน ก็คงค่อนข้างง่าย“แต่เป็นไปไม่ได้ที่ชิงฮุยจะได้รู้วรยุทธ์นี้”ยิ่งลั่วสุ่ยชิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าใด นางก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นเท่านั้น นางยังมีความค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-08
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1446 ภาพในห้วงทะเลแห่งจิต

    ชิงฮุยระงับความคิดที่วุ่นวาย หลับตาโคจรลมปราณชั่วพริบตา พระจันทร์ก็เคลื่อนมาถึงยอดไม้แล้วเย่จิ่งหลานยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ข้างๆ ราวกับเป็นศพที่ไร้ชีวิต แม้แต่การสะท้อนขึ้นลงของหน้าอก ยังเนิบช้ายิ่งนักการใช้กำลังภายในระงับ ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของชิงฮุยได้เล็กน้อย จากนั้นก็มุ่งความสนใจไปที่เย่จิ่งหลานทันทีตอนนี้เย่จิ่งหลานถูกชิงฮุยควบคุมอย่างสมบูรณ์ จิตสำนึกถูกบังคับให้เข้าสู่ส่วนที่ลึกที่สุดของห้วงทะเลแห่งจิต หากสามารถยึดครองจิตวิญญาณได้ในเวลานี้ ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาบรรพบุรุษของแคว้นเฟยเหยาเดิมทีมีพลังยิ่งใหญ่ในการบำเพ็ญตบะ ถ้าไม่เช่นนั้น พวกเขาคงไม่สามารถถ่ายทอดเล่ห์กลมนต์คาถามากมายขนาดนี้ได้ ลั่วสุ่ยชิงสามารถปลงสังขาร ฝึกฝนแก่นวิญญาณได้ และชิงฮุยก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันอย่างไรก็ตาม ทันทีที่จิตสำนึกสัมผัสร่างกายของเย่จิ่งหลาน ก็ถูกพลังชนิดหนึ่งทำให้เด้งกลับออกมาชิงฮุยสะดุ้งเล็กน้อย หรือว่าเขาตื่นแล้ว?ครั้นจึงออกคำสั่งในใจกับเย่จิ่งหลานทันทีเย่จิ่งหลานเดินเคลื่อนไหวไปครู่หนึ่ง แล้วหยุดลงสีหน้าของชิงฮุยเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาไม่สามารถควบคุมเย่จิ่งหลานได้อย่างสมบูรณ์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-08
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1447 ภาพทำนายแปลกๆ

    เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงลั่วสุ่ยชิงก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก และล้มตัวลงบนเตียงกระโปรงเปียกโชกราวกับถูกล้างด้วยน้ำ“ลั่วสุ่ยชิง!”อินชิงเสวียนคุ้มครองนางอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นเช่นนี้ก็รีบถ่ายทอดลมปราณไปช่วย หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดลั่วสุ่ยชิงก็ลืมตาขึ้นมาศาสตร์เข้าฝันเป็นวิธีการที่ทำให้แก่นวิญญาณออกจากร่างกาย เว้นแต่ว่าจะเป็นผู้บำเพ็ญที่ยอดเยี่ยม หรือเก่งในวิธีนี้โดยธรรมชาติ ไม่เช่นนั้นก็จะต้องเสียแรงอย่างมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่านางที่ลงมือกับชิงฮุยขณะที่อยู่ในห้วงทะเลแห่ง​​จิตของเย่จิ่งหลาน นี่เป็นความตั้งใจของนางเช่นกัน เมื่อรู้ว่าใบมีดดำทะมึนของอินชิงเสวียนไม่สามารถรักษาบาดแผลได้ ลั่วสุ่ยชิงก็มั่นใจว่าชิงฮุยจะใช้ศาสตร์การช่วงชิงร่างอย่างแน่นอนและผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่อยู่ใกล้ตัวเขา ก็มีเพียงเย่จิ่งหลาน ดังนั้นนางจึงทุ่มพลังทั้งหมด ซุ่มซ่อนอยู่ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน และเนื่องจากทักษะของนางมาจากแหล่งเดียวกันกับหมอกสีดำของชิงฮุย เขาจึงไม่ค้นพบนาง“ข้าสบายดี”ลั่วสุ่ยชิงนั่งเอนหลังบนเตียง เหงื่อเย็นยังคงไหลออกมาอินชิงเสวียนรีบหยิบน้ำพุวิญญาณที่ใช้ได้โดยไม่เสียเงินออก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1448 เจ้ายังอยากหนีอยู่หรือเปล่า

    เย่จิ่งอวี้รู้สึกสับสน“นี่หมายความว่าอะไร หรือว่าจิ่งหลานกลับเมืองหลวงแล้ว?”อินชิงเสวียนนึกได้พลัน หรือว่า...นักพรตเทียนชิงสั่นศีรษะ“ถ้าเป็นเมืองหลวง ก็จะปรากฏทิศทางเดินชัด แต่ตอนนี้ไม่มีเลย เขา...อาจจะไม่อยู่ในผืนแผ่นดินของโลกนี้”เย่จิ่งอวี้ดูประหลาดใจ“แล้วเขาจะไปไหนล่ะ? หรือว่า เขาตายแล้ว?”นักพรตเทียนชิงกล่าวอย่างแน่วแน่ “ยังไม่ตาย แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ ดังนั้นอาตมภาพจึงไม่กล้าพูดพูดแน่ชัด พวกเจ้าก็ไม่ต้องกังวลไป วันนี้เวลานี้ อาตมภาพจะลองทำนายอีกครั้ง บางทีอาจจะทราบอะไรเพิ่มเติม”“ถ้าอย่างนั้นต้องรบกวนท่านนักพรตแล้ว”เย่จิ่งอวี้โค้งคำนับและออกจากเรือนเล็ก เมื่อเห็นใบหน้าของอินชิงเสวียนที่ดูครุ่นคิด จึงหลุบตาลงแล้วถามว่า “เสวียนเอ๋อร์ คิดอะไรอยู่หรือ”“ข้าสงสัยว่า เขากลับไปที่เดิมแล้วหรือเปล่า”“หืม?”อินชิงเสวียนดึงเย่จิ่งอวี้ไปที่ลำธารข้างๆ แล้วถอนหายใจ“มีเรื่องหนึ่งที่ข้าปิดบังอาอวี้ไว้ตลอด ที่จริงแล้ว...จิ่งหลานและข้ามาจากที่เดียวกัน”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เย่จิ่งอวี้ก็ตกใจสักพักเขาก็สงบลงอีกครั้งวันนั้นเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสในเมืองหลวง ได้รับการช่วยเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1449 เขาอยู่ไหน

    “เป็นฝีมือของผู้ใด”เจ้าสำนักดาบเดือดก้าวอาดๆ ออกมา คว้าคอเสื้อลูกศิษย์ด้วยอารมณ์ที่ร้อนรุ่มเย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนมองหน้ากัน แล้วเดินไปหาเจ้าสำนักดาบเดือดอย่างรวดเร็วศิษย์คนนั้นพูดด้วยใบหน้าโศกเศร้า “พวกเขาเป็นกลุ่มคนชุดดำ ข้าเห็นพวกเขาใช้วรยุทธ์ของหอเทียนอวิ๋น”“อะไรนะ?”เจ้าสำนักดาบเดือดเบิกตากว้าง โคจรพลังลมปราณไปยังจุดตันเถียน และตะโกนว่า “คนจากหอเทียนอวิ๋น ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ”“เจ้าสำนักอย่าเพิ่งใจร้อน ในบรรดาศิษย์ของแต่ละสำนักล้วนมีทายาทจากแคว้นเฟยเหยา พวกเขาที่จะใช้วรยุทธ์ของสำนักอื่น ย่อมเป็นเรื่องปกติ ในเวลานี้ เราต้องไม่มีความขัดแย้งภายใน เพราะจะทำให้ศัตรูมีโอกาสเข้ามาทำลายได้”กระแสเสียงของอินชิงเสวียนอ่อนโยนราวกับน้ำ ซึ่งทำให้หัวใจอันวิตกกังวลของเจ้าสำนักดาบเดือดสงบลงในทันที“ถูกต้อง พวกกากเดนเฟยเหยาเหล่านี้ ก็จะใช้วิธีการที่ต่ำช้าเลวทรามแบบนี้และ”ในขณะที่กำลังพูด เจ้าสำนักของหอเทียนอวิ๋นก็เหาะออกจากที่พัก สีหน้าดูมีอาการมึนเมาเล็กน้อย การก้าวเดินโซเซเล็กน้อย“เหล่าเลี่ยเตา เจ้าเอะอะโวยวายอะไร”“รังเก่าถูกคนบุกยึดไปแล้ว เจ้ายังดื่มสุราได้อีกนะ ใจกว้างจริ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-10
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1450 ผู้มาเยือนจากต้าโจว

    ในห้องสวีทของโรงแรมหรูระดับห้าดาวชายในชุดคลุมสีดำล้มลงบนเตียงเหมือนปลาที่ตายแล้ว ชายผู้นั้นมีใบหน้าหล่อเหลา มีไฝสีแดงบนคิ้ว ดูลึกลับน่าค้นหาเด็กชายตัวเล็กอายุเจ็ดแปดขวบนอนอยู่ข้างเตียง มองดูใบหน้าของเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น“พี่ชิงเสวียน ทำไมเขาถึงสวมเสื้อผ้าในยุคของเรา”เด็กน้อยกะพริบตาโต มองดูชายหนุ่มรูปงามอายุสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีอย่างพิจารณาหญิงสาวคนหนึ่งสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงยีนส์ขากว้าง เดินเข้ามาจากประตู กระซิบว่า “ชู่ว์ อย่าพูดถึงยุคของเราอีก นายเป็นลูกของคนอื่นแล้ว ถ้าพูดถึงอดีต จะถูกคนอื่นมองเหมือนเป็นสัตว์ประหลาด”เด็กน้อยพยักหน้าอย่างจริงจัง“ผมรู้แล้ว”ถ้าเย่จิ่งอวี้อยู่ที่นี่ ก็คงจะจำได้ทันทีว่าเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้านี้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับเย่จิ่งหลานตอนที่ยังเป็นเด็กตอนนี้เขาเป็นลูกชายของประธานบริหารแห่งเทียนเซิ่งเอ็นเตอร์เทนเมนท์ คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด และอินชิงเสวียนในตอนนี้ เนื่องจากความนิยมในการถ่ายทอดสด ถูกเทียนเซิ่งเอ็นเตอร์เทนเมนท์เล็งเห็น ได้กลายเป็นดาราหญิงชื่อดังของบริษัท เป็นเป็นที่ชื่นชอบของภรรยาประธานบริษัทนอกจากหน้าตาดีและทักษะการแสดง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-10
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1451 เขาคือใคร

    “พี่ชิงเสวียน นี่…”เสี่ยวหลานหลานถือป้ายตราสัญลักษณ์ไว้ในมือ ใบหน้าเล็กๆ เปลี่ยนเป็นสีคล้ำอินชิงเสวียนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้เธอเคยคิดว่าผู้ชายคนนี้อาจกำลังแต่งคอสเพลย์เหมือนที่นิยมในยุคนี้ แต่ป้ายตราสัญลักษณ์นี้ เป็นสิ่งของของต้าโจวจริงๆเสี่ยวหลานหลานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และทันใดนั้นก็พูดด้วยสีหน้าสยดสยอง “เขาคงไม่ใช่นักฆ่าที่พี่ใหญ่ส่งมา เพื่อฆ่าเราสองคนใช่ไหม”ในเมื่อพวกเขาสามารถข้ามภพมาที่นี่ได้ คนจากต้าโจวจะมาที่นี่บ้างก็ไม่น่าแปลกอะไรอินชิงเสวียนสั่นศีรษะ กระซิบ “คงไม่หรอก ฝ่าบาท...ถึงแม้จะต้องการฆ่าฉัน แต่ก็จะไม่มีทางฆ่านาย”“ผมจำได้ว่าตอนที่เสด็จพี่ขึ้นครองบัลลังก์ พระองค์ทรงกำจัดฝ่ายกบฏไปมากมาย แม้แต่โอรสที่ชอบด้วยกฎหมายของไทเฮาก็ยังถูกไล่ไปเฝ้าสุสานหลวง ตอนนี้เหลือผมคนเดียวแล้ว พี่ชิงเสวียน ผมกลัวจัง ดูคนนี้สิ แค่ดูก็รู้ว่าต่อสู้เก่ง”ใบหน้าของเสี่ยวหลานหลานขาวซีดขึ้นเล็กน้อยเขารู้ว่าเย่จิ่งอวี้ฝึกฝนองครักษ์ลับไว้มากมายในวัง และทุกคนก็เก่งวรยุทธ์อินชิงเสวียนลูบศีรษะของเขา“ไม่หรอก ถ้าไม่ใช่เพราะความขัดแย้งระหว่างราชวงศ์ ฝ่าบาทคงไม่ใช้วิธีรุนแรงเช่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1452 งานที่มีรายได้สูง

    ทำไมเขาถึงมาที่นี่มีอะไรเกิดขึ้นกับต้าโจวหรือเปล่าหญิงสาวคนนั้น ตอนนี้เป็นยังไงบ้างเธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นาน แล้วก็อดไม่ได้ที่จะถาม “พี่ชายน้อยคนนี้ คุณรู้จักแคว้นต้าโจวไหม”ชายคนนั้นตกตะลึงอีกครั้ง พูดอย่างไม่มั่นใจ “จักรพรรดิเหวินแห่งโจวจีชาง จักรพรรดิอู่แห่งโจวจีฟา?”“วอท?”เสี่ยวหลานหลานพ่นคำภาษาอังกฤษออกมาแม้ว่าเขาจะไม่ชอบภาษาแบบนี้ที่ฟังยากยิ่งกว่าเสียงนกร้องนี้ แต่บิดาจำเป็นของเขาที่นี่ก็ส่งเขาไปโรงเรียนสองภาษาอินชิงเสวียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นี่คือประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ในราชวงศ์สมัยใหม่ หรือว่าเธอและเสี่ยวหลานหลานคิดผิด?“ไม่มี...คนที่ชื่อเย่หรอกเหรอ?”“เย่?”ชายคนนั้นก้มศีรษะลงครุ่นคิด รู้สึกปวดหัวมากอินชิงเสวียนและเสี่ยวหลานหลานมองหน้ากัน ในที่สุดก็ยอมแพ้“คุณพักผ่อนเยอะๆ เถอะ เราหาพยาบาลมาดูแลคุณได้แล้ว ถ้าคุณใช้มือถือไม่เป็นจริงๆ ก็ให้เธอติดต่อมาหาฉันก็ได้”อินชิงเสวียนพยักหน้าไปทางประตู ป้าคนหนึ่งก็เดินเข้ามาชายคนนั้นมองดูทั้งสองคนจากไป แต่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เขานั่งเฉยๆ บนเตียงสักพัก แล้วเอนหลังบนหมอนอย่างเงียบๆตามองดูขวดน้ำที่ห้อยอยู่เหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1509 เข้าสู่เมือง

    ทหารที่อยู่ข้างหน้าเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ครั้นแล้วก็มองเห็นชุดเกราะสีแดงรางๆเฉิงเฟิ่งโหลวสะดุ้งเล็กน้อย นี่...อาจเป็นทหารเปลวเพลิงสีชาดของราชาสงครามอาภรณ์ขาวกระมัง?ถ้ามารับเสด็จฮ่องเต้ เหตุใดจึงสวมชุดเกราะ ถืออาวุธหนัก?หรือว่าว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเมืองหลวง อ๋องสิบสาม...ก่อกบฏ?มือที่กุมกระบี่ของเฉิงเฟิ่งโหลวสั่นเทา เขาดึงสายบังเหียนออกทันที แม้ว่าเจ้านายกับนายหญิงจะมีทักษะวรยุทธ์สูง แต่มือเดียวสู้มือหลายไม่ได้ ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเขาดูสิ้นหวัง “ฝ่าบาท เสด็จขึ้นรถม้าเร็วเข้า”เย่จิ่งอวี้หัวเราะเบาๆ แม้ว่าทั่วทั้งโลกจะทรยศเขา แต่เสด็จอาจะไม่มีวันทรยศเขา นี่คือความมั่นใจของเขา การสวมชุดเกราะ ถืออาวุธหนัก ถือเป็นมารยาทสูงสุดของค่ายเปลวเพลิงสีชาดในชั่วพริบตา ทหารม้าขบวนนั้นก็มาถึงเบื้องหน้า พวกเขาควบม้าและเคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นแยกออกจากกันเป็นสองทาง เผยให้เห็นร่างที่สวมชุดคลุมสีขาวชายผู้นั้นมีใบหน้าที่หล่อเหลา ท่วงท่าไม่ธรรมดาสามัญ แต่งกายด้วยชุดสีขาวสะอาดราวกับหิมะ และเสื้อผ้าพลิ้วไหวดุจดั่งเทพเซียนเขาพลิกตัวลงจากม้า เดินเร็วๆ ไปที่รถม้า สะบัดเสื้อคล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1508 กลับสู่เมืองหลวง

    ครึ่งเดือนต่อมา ในที่สุดรถม้าก็มาถึงเมืองหลวงอินชิงเสวียนไม่สามารถทนต่อการโคลงเคลงสั่นสะเทือนได้ นางจึงอยู่ในมิติกับเสี่ยวหนานเฟิงเกือบตลอดเวลาในช่วงเวลาที่อยู่ร่วมกันนี้ นางพบว่าเสี่ยวหนานเฟิงไม่เพียงแต่ฉลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นกล้าที่ยอดเยี่ยมในการฝึกฝนวรยุทธ์อีกด้วยอายุยังน้อยไม่เพียงแต่เรียนรู้บทกวีในสมัยถังและซ่ง ยังมีกำลังภายในลึกล้ำน่าประหลาดใจ มือซ้ายสามารถใช้เคล็ดวิชาใจเพียวเหมี่ยวได้ มือขวาใช้เคล็ดวิชาใจตำหนักเทพได้ แม้กระทั่งเรียนรู้วิชาขลุ่ยลวงใจของเจ้าสำนักเซี่ยว อินชิงเสวียนนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าช่วงที่นางไม่ได้อยู่กับเสี่ยวหนานเฟิงนั้น เขาได้เรียนรู้วิชามาจากทุกคนรอบตัวเขา“แค่กๆ เจ้า...ชอบฝึกวรยุทธ์หรือเปล่า?”จากมุมมองที่เห็นแก่ตัว อินชิงเสวียนไม่ต้องการให้เสี่ยวหนานเฟิงมีฝีมมือสูงส่งเกินไป ท้ายที่สุดแล้ว ยิ่งมีความสามารถสูง ความรับผิดชอบก็ยิ่งสูงตาม ศาสตร์แห่งราชาต่างหาก คือสิ่งที่เขาควรต้องศึกษาเสี่ยวหนานเฟิงกะพริบตาโตแล้วพูดว่า “ชอบสิ รู้วรยุทธ์ ก็สามารถปกป้องท่านแม่ได้”อินชิงเสวียนกอดลูกชายตัวนุ่มนิ่มและมีกลิ่นหอม แล้วพูดอย่างจริงจัง “ต่อจากนี้ไปสิ่งที่เจ้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1507 ขอบคุณศิษย์พี่ลิ่น

    ระหว่างเจ้าสำนักเซี่ยวและเจ้าสำนักเฮ่อมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก ทว่าระหว่างเซี่ยวอิ่นหวนและลิ่นเซียวนั้นอยู่ในระดับปานกลาง จนแทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลยบัดนี้เห็นเขาขวางทาง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการตายของศิษย์น้องเฟิ่งอี๋ ทำให้กลายเป็นคนสติเลอะเลือน กระทำการสิ่งใดล้วนไม่ผ่านการใช้ความคิด เป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไปที่จะเข้าใจทันทีว่าเขามีเจตนาอะไรลิ่นเซียวรู้จักนาง พยักหน้าเบาๆ“เฟิ่งอี๋ตายแล้ว ข้ารู้แล้ว”เซี่ยวอิ่นหวนรู้สึกเจ็บปวดในใจ แต่เดิมก็เจ็บปวดจากการพลัดพรากอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเขาพูดถึงศิษย์น้องที่รักดุจน้องสาว หางตาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีริมฝีปากของนางสั่นเทา ลดเสียงลง กดซ่อนความเศร้าไว้ในใจ“ศิษย์พี่ลิ่นควรจะออกมาสู่ความจริงได้แล้ว ถ้าศิษย์น้องอยู่บนสวรรค์มีญาณรับรู้ คงไม่อยากเห็นท่านจมปลักอยู่ที่นี่เพราะนางแน่นอน...”ลิ่นเซียวไม่ต่อคำ แต่พูดต่อว่า “ตาเฒ่าเซี่ยวก็จากไปแล้วเช่นกัน”หัวใจของเซี่ยวอิ่นหวนเจ็บปวดรวดร้าวอีกครั้ง ก้มหน้าสะอื้น“พ่อบุญธรรมเสียชีวิตเพื่อผดุงความยุติธรรมในยุทธจักร ไม่ผิดต่อปณิธานที่ก่อตั้งหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์”ลิ่นเซียวย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1506 เส้นทางที่แตกต่างกัน

    อินชิงเสวียนมอบตั๋วเงินเงินอีกหนึ่งพันตำลึงให้แก่ทั้งสามคน กำชับพวกเขาว่าอย่าใช้ฟุ่มเฟือย หากไม่เจอตัวคน ก็สามารถไปพำนักที่เมืองหลวงได้ทั้งสามพยักหน้าซ้ำๆ ขนของทั้งหมดขึ้นรถม้า และจากไปอย่างมีความสุขอินชิงเสวียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้“นิสัยแบบนี้นี่เข้ากับเย่จิ่งหลานได้เป็นอย่างดี”เย่จิ่งอวี้ก็มองไปที่ทั้งสามคน พูดด้วยรอยยิ้ม “ชาวยุทธ์ ก็ควรจะเป็นอิสระไม่ยึดติดอย่างชาวยุทธ์ นี่แหละคือความเป็นตัวของตัวเองที่แท้จริง!”“เช่นนั้นพวกเราก็ควรจากไปอย่างไม่ยึดติดใช่ไหม”อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้น มองไปยังเย่จิ่งอวี้ ทั้งสองตกลงกันไว้ก่อนแล้ว ว่าแทนที่จะรอให้พวกเขาสร่างเมา พลัดพรากจากกันด้วยความเป็นความตาย มิสู้จากไปอย่างเงียบๆ “ข้าเชื่อเมียข้าอยู่แล้ว”เย่จิ่งอวี้ผิวปาก เงาสีขาวสองเงาพุ่งออกมาจากระยะไกล ตามมาด้วยรถม้าอินชิงเสวียนตะโกนอย่างมีความสุข“ไป๋เสวี่ย เสี่ยวไป๋!”ไป๋เสวี่ยกางอุ้งเท้าใหญ่ แล้วกอดเอวของอินชิงเสวียนอย่างเสน่หาเสี่ยวไป๋ก็กลิ้งหน้าถูขาของอินชิงเสวียน ซึ่งเป็นการแสดงความใกล้ชิดกับคนที่หาได้ยากอินชิงเสวียนลูบหัวอันใหญ่โตของไป๋เสวี่ย จากนั้นลูบหัวของเสี่ยวไป๋

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1505 ความรู้สึกที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้

    เฮ่อซือจวินออกแรงดึงอินชิงเสวียนขึ้นมา แล้วกอดนางไว้ พูดเสียงสะอื้น “เจ้ายอมรับข้า ข้ารู้สึกขอบคุณยิ่งนัก ชั่วชีวิตนี้จะพยายามดูแลสุขภาพของท่านพ่อและน้าเหมยอย่างเต็มที่”อินชิงเสวียนโน้มตัวไปใกล้ใบหน้าของนาง แล้วพูดเสียงอ่อนหวาน “ท่านเป็นพี่สาวต่างแม่ของข้า จะแตกต่างจากพี่สาวแท้ๆ ได้อย่างไร หากท่านอยู่ในอิ๋นเฉิงแล้วรู้สึกเหนื่อยล้า ก็ไปหาข้าที่เมืองหลวงได้ ข้าจะพาท่านท่องเที่ยวให้สำราญใจแน่นอน”เฮ่อซือจวินพยักหน้าโดยเร็ว“ได้ ถ้ามีโอกาส ข้าจะไปหาเจ้าแน่นอน”“สนใจแต่พี่สาวของเจ้าเท่านั้น ไม่ต้องการพี่ชายแล้วหรือ”เฮ่อฉางเฟิงเดินเข้ามาจากประตู สวมเสื้อคลุมใบไผ่สีเขียวที่ขับเน้นให้เขาดูหล่อเหลา สง่า และเป็นวีรบุรุษไม่ธรรมดา“ชิงเสวียนคำนับพี่ใหญ่”อินชิงเสวียนโค้งคำนับ เฮ่อฉางเฟิงก็รีบเอื้อมมือไปช่วยพยุงให้ลุกขึ้น“เจ้ากับข้าเป็นพี่น้อง ไม่ต้องมากพิธี ตั้งใจจะออกเดินทางเมื่อไหร่หรือ”อินชิงเสวียนถอนหายใจ“พรุ่งนี้น่ะ ไม่ว่าเราจะอยู่กี่วันก็ต้องไปอยู่ดี ฮ่องเต้จากเมืองหลวงมานานเกินไปแล้ว ในใจพะวงถึงอยู่ตลอด ถึงเวลาต้องกลับไปดูแลแล้ว”เฮ่อฉางเฟิงก็ตัดใจจากน้องสาวไม่ได้ และยังไม่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1504 เศร้าโศกเพราะการจากลา

    ในวันที่สอง สำนักในยุทธ์จักรที่นำโดยเฮ่ออวิ๋นทง ต่างกล่าวคำอำลากับเฮ่อยวนเฮ่อยวนนำลูกศิษย์อิ๋นเฉิงส่งกันไปไกลถึงสิบสิบลี้ ในอิ๋นเฉิง เซี่ยวอิ่นหวนจับมือของอินชิงเสวียน“กลับภูเขาคราวนี้ เกรงว่าจะต้องจัดระเบียบยกใหญ่ ไม่รู้จะได้เจอพวกเจ้าอีกเมื่อไร พวกเจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี ปรึกษาหารือกันทุกเรื่อง หากเผชิญหน้ากับเรื่องใด ต้องพูดมันออกไป อย่าเก็บมันไว้ในใจตัวเอง จะได้ไม่เกิดความขุ่นเคืองสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ”นางถอนหายใจแล้วพูดว่า “แม้ว่าแม่จะเคยเป็นกุ้ยเฟย แต่ไม่รู้หลักการปกครองบ้านเมือง ความรุ่งเรืองและความเสื่อมของต้าโจวล้วนขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว ด้วยความสามารถและการเรียนรู้ของเจ้าทั้งสอง เชื่อว่าในอีกไม่กี่ปี ก็จะสามารถนำความรุ่งเรืองมาสู่ต้าโจวได้ ถ้าแม่มีเวลาว่าง จะไปหาพวกเจ้ากับจ้าวเอ๋อร์ที่เมืองหลวงย่างแน่นอน”อินชิงเสวียนจับมือเย่จิ่งอวี้ แล้วพูดอ่อนโยน “ท่านแม่วางใจ ข้ากับอาอวี้จะรักษาตัวให้ดีอย่างแน่นอน”อีกด้านหนึ่ง เสี่ยวหนานเฟิงดึงชายเสื้อของเซี่ยวอิ่นหวนอย่างไม่เต็มใจ“ท่านย่าจะไปแล้วหรือ”เซี่ยวอิ่นหวนกอดเสี่ยวหนานเฟิง จูบใบหน้ากลมจ้ำม่ำของเขา แล้วพูดด้วยความรัก “ใช

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1503 เรื่องราวจบลง

    ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างเย็นชา “แม้แต่เป็นฮ่องเต้ข้ายังไม่สนใจด้วยซ้ำ จะสนใจพระชายาอ๋องได้อย่างไร”“พูดมาก็มีเหตุผล งั้นข้ายังมีที่อื่นที่อยากไป”เย่จิ่งหลานค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง หยิบแผนที่ออกมาจากอกเสื้อ“ตอนที่ข้ากำลังเดินทางไปตงหลิว พบว่ามีหลายแคว้นอยู่ใกล้เคียง ทำไมเจ้ากับข้าไม่พยายามพิชิตพวกเขาทั้งหมดล่ะ”ลั่วสุ่ยชิงสาดน้ำเย็นใส่เขาทันที“ตอนนี้เจ้ายังมีความสามารถนั้นอยู่รึ?”“หากเจ้าเต็มใจที่จะบ่มเพาะร่างกายและจิตวิญญาณกับข้า บางทีวรยุทธ์ของข้าอาจจะกลับคืน”ลั่วสุ่ยชิงถูกเขาทำให้โกรธจนกำลังภายในพุ่งสูงขึ้น กระทั่งจุดที่ถูกจี้สกัดได้คลายออก นางตบศีรษะเย่จิ่งหลานทันที“ไร้ยางอาย”“เจ้าหายแล้ว?”เย่จิ่งหลานมีความสุขมาก เขาพยายามคุกเข่า ฝืนยืนขึ้น ร่างกายโงนเงน ล้มลงตรงหน้าลั่วสุ่ยชิง ฉวยโอกาสกอดเอวของนาง“จอมยุทธ์หญิงลั่ว ข้ายืนไม่ไหว โปรดช่วยพยุงข้าด้วย”ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงเปลี่ยนเป็นสีแดง ยกมือขึ้นผลักเขาลงไปที่พื้น เย่จิ่งหลานล้มหงายหลัง เหมือนกับเต่าที่นอนหงายลั่วสุ่ยชิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะงอหาย เมื่อนางหัวเราะมากพอแล้ว ก็ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเงียบๆ และบ่นว่า “เสด็จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1502 หน้าด้านหน้าทน

    อินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งหลานแวบหนึ่ง“แน่นอนว่ามีคนไม่อยากให้เจ้าไป”เมื่อเห็นเย่จิ่งหลานมองมาทางนี้ ลั่วสุ่ยชิงก็เริ่มวิตกกังวล“ปล่อยข้านะ!”อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากยิ้มๆ“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถามก่อนว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่”เย่จิ่งหลานลุกขึ้นยืนโดยมีพี่ชายช่วยพยุงขึ้นอินชิงเสวียนเดินเข้าไปถาม“เจ้าสบายดีไหม มิติของเจ้า พังจริงๆ หรือ”เย่จิ่งหลานพูดอย่างอ่อนแรง “ยังไงตอนนี้ก็ยังมีลมหายใจอยู่ ถ้ามันไม่พัง ชิงผิงกับชิงอานก็คงไม่ได้ออกมา”อินชิงเสวียนมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ“นี่เป็นเรื่องที่ร้ายแรง”เย่จิ่งหลานถามอย่างไร้ยางอาย “เฮ้ นี่เจ้าไม่คิดจะดูแลข้าแล้วรึ”อินชิงเสวียนกระตุกริมฝีปากยิ้มๆ“ก็มีคนรอดูแลเจ้าอยู่ไม่ใช่หรือ เจ้าไปเองสิ อาอวี้ เรากลับไปดื่มสุรากันต่อเถอะ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและตบไหล่เย่จิ่งหลาน“พวกเราช่วยเจ้าได้แค่นี้”เมื่อเห็นว่าหมู่เมฆหายไป ชาวยุทธ์หลายคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เฮ่อยวนแอบโคจรกำลังภายใน พูดเสียงดัง “ตอนนี้เมื่อวิกฤติคลี่คลายแล้ว เฮ่อยวนจึงจัดงานเลี้ยงอีกครั้ง จัดเลี้ยงส่งเพื่อคลายความกังวลให้แก่เพื่อนพ้องในยุทธภพ!”คราวนี้เป็นกา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1501 สายล่อฟ้าปรากฏ

    ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างในชุดสีดำก็เหาะมาจากระยะไกล ลอยอยู่บนอากาศคนผู้นี้รูปร่างโปร่ง ชุดผ้าโปร่งสีดำปลิวไปตามสายลม เรือนผมดำขลับสยายออก ในชั่วพริบตา ร่างนั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาสีดำเมื่อเห็นคนผู้นี้ เย่จิ่งหลานก็พยายามลุกขึ้นยืน“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าบ้าไปแล้วหรือ หนีไป!”ลั่วสุ่ยชิงยกมือขวาขึ้นสู่ท้องฟ้า เผชิญหน้ากับเสียงฟ้าคำรน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เย่จิ่งหลาน เจ้าฆ่าพ่อของข้า ถ้าเจ้าตายแบบนี้ จะไม่ดูถูกเจ้าเกินไปหรือ เจ้าควรจะอยู่ในโลกนี้ต่อไป ทนทุกข์ต่อความเจ็บปวดทีละน้อย!”เย่จิ่งหลานจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าทุกคำที่นางพูดล้วนเป็นพูดด้วยอารมณ์โกรธ ถ้านางไม่มีใจต่อเขา นางจะกลับมาได้อย่างไรอย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาเหมือนกับเส้นบะหมี่ ที่ไม่สามารถยืนตรงได้ จึงไม่สามารถหยุดยั้งลั่วสุ่ยชิงได้เลยเมื่อมองดูร่างเพรียวบางที่ต่อสู้กับฟ้าผ่า พลันรู้สึกเจ็บปวดกระบอกตา หยาดน้ำตาสองหยดร่วงหล่นกลืนหายไปในสายลมในเวลานี้ มีร่างเพรียวอีกร่างหนึ่งลอยออกมา โดยถือวัตถุที่มีลักษณะคล้ายแท่งไม้ขนาดใหญ่อยู่ในมือ มีปลายโค้งยาวมากซึ่งดูแปลกตา“ลั่วสุ่ยชิง ข้าจะใช้สายล่อฟ้าช่วยเจ้า!”ของสิ่งนั้นห

DMCA.com Protection Status