หน้าหลัก / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1125 ความปีติของเย่ไห่ถัง

แชร์

บทที่ 1125 ความปีติของเย่ไห่ถัง

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ออกไปเถอะ จวนของพวกท่านยังว่างอยู่ หากขาดเหลืออะไร สามารถบอกหลี่เต๋อฝูได้ ตราบใดที่ข้ามี จะประทานให้แน่นอน”

เย่จิ่งอวี้ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง เสียงทุ้มลึกนั้น ทำให้ไม่อาจสงสัยสิ่งใดได้อีก

อินจ้งโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมไม่กล้าขออะไรมาก ได้กลับเมืองหลวงก็ซาบซึ่งมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อมองดูเส้นผมสีดอกเลาของอินจ้ง เย่จิ่งอวี้ก็ถอนหายใจเบาๆ

“เหตุการณ์เจียงวูในอดีต ข้ารู้สึกผิดต่อตระกูลอินมาก ข้าทำได้เพียงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดเชยให้ท่าน หากท่านต้องการอะไร อย่าได้เกรงใจ”

อินจ้งกล่าวด้วยความเคารพ “ได้กลับเมืองหลวง อินจ้งก็รู้สึกซาบซึ้งมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเมตตา”

เย่จิ่งอวี้ยิ้มเบาๆ “เช่นนั้นก็ออกไปเถิด”

“กระหม่อม ทูลลา”

สองพ่อลูกโค้งคำนับ ถอยกลับออกจากห้องหนังสือ

เย่จิ่งอวี้ยืนอยู่หน้าหน้าต่างสักพักหนึ่ง แล้วไปที่ตำหนักชิงฮว๋าซึ่งเป็นที่พำนักของเย่ไห่ถัง

เย่ไห่ถังกำลังเล่นกับขวดน้ำหอมขนาดเท่าฝ่ามือด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย

นางไม่รู้ว่าขณะนี้สถานการณ์เป็นอย่างไร นางยังไม่กล้าคุยกับเสด็จพี่ น่าเบื่อจริงๆ

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เย่ไห่ถังก็เงยหน้าขึ้นอย่างเกียจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1126 ยกเลิกตำหนักเย็น

    ประตูไม้บานใหญ่เปิดออกเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดกลิ่นอับชื้นพุ่งออกมาจากตำหนัก ดวงตาของเย่จิ่งอวี้ก็เปียกชื้นทันทีเขากะพริบตาถี่ๆ สะกดก้อนสะอื้นฝาดๆ ในลำคอ“ตำหนักเย็น สามารถยกเลิกได้!”เย่ไห่ถังเดินไปหาเย่จิ่งอวี้อย่างระมัดระวัง แอบสำรวจสีหน้าของเขา“เสด็จพี่ ท่าน...ทำไมจู่ๆ ท่านถึงพูดเรื่องนี้ออกมาล่ะ?”เย่จิ่งอวี้เอามือปิดปาก ไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร แค่คิดว่าไม่จำเป็นต้องให้มีอยู่อีกต่อไป”เย่ไห่ถังคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดเบาๆ “ถูกต้องเพคะ ถูกส่งไปตำหนักเย็น ก็ไม่ต่างจากการรอคอยความตาย อดีตพระชายาได้จากไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้มีอีก หากเสด็จพี่เลือกสนมในอนาคต จะต้องปฏิบัติต่อพวกนางอย่างดี ไม่จำเป็นต้องเนรเทศพวกนางมาที่นี่”เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้น “ข้าจะไม่เลือกสนมอีกแล้ว ไม่ว่าสตรีตระกูลอินจะอยู่ที่นี่หรือไม่ก็ตาม นางจะเป็นฮองเฮาของข้าตลอดไป”“ฮะ!”เย่ไห่ถังอุทาน หรือว่าเสด็จพี่จำได้แล้ว?“เสด็จพี่ ท่าน...”เย่จิ่งอวี้เบือนหน้าหนี ใบหน้าหล่อเหลาประดับด้วยรอยยิ้มจางๆ “ทำไมรึ”เย่ไห่ถังส่ายศีรษะโดยเร็ว“ไม่มีอะไร”เย่จิ่งอวี้งอมือ หมายจะดีดหน้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1127 เด็กน้อยผู้แสนน่ารัก

    ณ ตำหนักเทพหอทองคำอินชิงเสวียนยืนเหม่อลอยอยู่ในมิตินั้น เสี่ยวหนานเฟิงดูเหมือนจะสัมผัสถึงแม่ได้ เงยหน้าขึ้นทันที“เด็จแม่”เขากางแขนเล็กๆ ทันที และวิ่งไปหาอินชิงเสวียน“เด็กดี”อินชิงเสวียนอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้นมา แล้วจูบแก้มจ้ำม่ำของเขา“คิดถึงแม่หรือไม่”เสี่ยวหนานเฟิงพยักหน้าอย่างแรง“คิดถึง”“เด็กดีเก่งมาก”อินชิงเสวียนถูไถใบหน้าเล็กๆ ที่เรียบเนียนของเขาไปมา หัวใจพลันอ่อนยวบลงทันทีเหมยชิงเกอก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ริ้วรอยบนใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้น คนทั้งคนเหมือนจะเยาว์วัยขึ้นหลายปีเมื่อเห็นว่านางมีสีหน้าแช่มชื่น อินชิงเสวียนก็โล่งใจ“สองวันที่ผ่านมาสถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าที่อยู่ข้างนอกตกอยู่ในอันตรายหรือเปล่า”เหมยชิงเกอถามด้วยความเป็นห่วงอินชิงเสวียนอุ้มเสี่ยวหนานเฟิง และพูดว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดี ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล เห็นผู้อาวุโสมีสีหน้าไม่เลว คงดีขึ้นมากแล้ว”เหมยชิงเกอพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “น้ำพุวิญญาณสุดยอดมากจริงๆ ไม่เพียงแต่ร่างกายเท่านั้น แต่จิตใจกำลังวังชาก็เกือบจะฟื้นตัวเช่นกัน”ในตอนแรกนางไม่กล้าใช้น้ำพุวิญญาณมากเกินไป แต่เมื่อเห็นว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1128 ประมือ

    หลังรับประทานอาหาร อินชิงเสวียนพูดคุยกับแม่อยู่พักหนึ่ง แล้วจึงออกจากมิติข้างนอกมืดแล้ว เป็นเวลาประมาณสามทุ่มเมื่อเห็นว่ายังมีเวลาอีกหน่อยกว่าจะถึงเที่ยงคืน อินชิงเสวียนจึงเดินกลับไปที่เตียงหิน นั่งขัดสมาธิ และค่อยๆ ย่อยพลังงานที่ปล้นมาในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ใช้มันให้กลายเป็นของตัวเองเพียงแต่ไม่รู้ว่าตอนนี้นางอยู่ในระดับใดแล้ว เพื่อความปลอดภัย นางยังไม่ต้องการต่อสู้กับผู้อาวุโสหันเมื่อใดที่นางตาย มิตินั้นจะตายพร้อมกับนางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมยชิงเกอและเสี่ยวหนานเฟิงอาจถูกส่งออกจากมิติ หรืออาจหายไปพร้อมกับมิตินั้นแม้จะเป็นอย่างหน้า แต่ก็ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมด้วยพลังของเหมยชิงเกอ ไม่มีทางที่นางจะสามารถปกป้องเสี่ยวหนานเฟิงได้แค่ตัวเองเข้มแข็งพอเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์พูดได้มากพอเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ อินชิงเสวียนก็สงบจิตใจอย่างสมบูรณ์ ในไม่ช้าก็เข้าสู่สภาวะผสานกายใจเป็นหนึ่งเดียวไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด ได้ยินเสียงจิ้งหรีดส่งเสียงร้องข้างนอกอินชิงเสวียนลืมตาขึ้นทันที ลูกตาสีดำตัดกับตาขาวชัดเจนคู่นั้น เปล่งประกายระยิบระยับนางดีดปลายเท้าขึ้นไป ร่างนั้นก็เล็ดลอดออกจากป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1129 ด่าแบบไม่มีคำหยาบ

    “เจ้าเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงรู้จักวรยุทธ์ของตำหนักเทพ”ผู้อาวุโสหันตะโกนเสียงดัง ใช้นิ้วทั้งห้าเป็นกรงเล็บ หมายขย้ำลำคอของอินชิงเสวียนอินชิงเสวียนไม่ได้พูดอะไร เคลื่อนไหวเร็วขึ้นๆ จนต่อสู้กับผู้อาวุโสหันได้อย่างทัดเทียมผู้อาวุโสหันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว ตำหนักเทพมียอดฝีมือเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ทางด้านของเย่จิ่งหลานก็ต่อสู้อย่างทัดเทียมกับอาคันตุกะสามคนเช่นกันผู้อาวุโสหันตะโกนด้วยโทสะ “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่ มีเจตนาใดถึงมาบุกในตำหนักเทพ?”เย่จิ่งหลานพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ “ทำไม จะมาตำหนักเทพของพวกเจ้าไม่ได้งั้นรึ”“กล้าบุกเข้ามาในตำหนักเทพ ฆ่าไม่เว้น!”อาคันตุกะเซี่ยเฉียนคุนอยู่ในตำหนักเทพมาหลายวันแล้ว แต่ยังไม่เคยประลองยุทธ์ ตอนนี้เมื่อเห็นคนนอก ก็รวบรวมกำลังทั้งหมดเพื่ออวดกำลังของตนทันทีวันนี้ได้รู้ว่ามีของวิเศษที่ขัดกฎธรรมชาติเช่นน้ำพุวิญญาณ ซึ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น การฝึกวรยุทธ์ต้องการแสวงหาเพียงอย่างเดียว นั่นคือการไปถึงจุดสูงสุดของวรยุทธ์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ สามารถทำทุกอย่างได้โดยไม่เลือกวิธีการเย่จิ่งหลานจิ๊ปากพูดว่า “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเล่าจื๊อฮ่องเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1130 พาตัวธิดาเทพไป

    ผู้อาวุโสหันรู้สึกหวาดกลัวคนผู้นี้มีพลังพอๆ กับเขา หรือจะเป็นเจ้าตำหนัก จินตงไหล?“เจ้าคือใคร”อินชิงเสวียนยังไม่ตอบ แสงสีม่วงที่แผ่ออกมาจากตัวเหมือนกับผู้อาวุโสหันไม่ผิดเพี้ยนนางใช้นิ้วเป็นดัชนีกระบี่ แสงระหว่างนิ้วพุ่งขึ้นหลายนิ้ว พุ่งแทงคอของผู้อาวุโสหันรวดเร็วราวกับสายฟ้า“ดี วันนี้ข้าจะดูซิว่าเจ้ามีความสามารถแค่ไหน”ผู้อาวุโสหันพลิกฝ่ามือเป็นมีด ฟาดไปที่ข้อมือขวาของอินชิงเสวียนอินชิงเสวียนมีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย ก็ไม่ใช่ไก่กาที่ไม่รู้เชิงยุทธ์นานแล้ว ขณะที่เปลี่ยนท่าเคลื่อนไหว ก็มีพลังเหลือเฟือ กำหมัดชกไปที่ข้อมือของผู้อาวุโสหันด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาดเมื่อเห็นว่านางเปลี่ยนท่าได้เร็วแค่ไหน ผู้อาวุโสหันก็ตกใจอีกครั้งคนผู้นี้เป็นยอดฝีมือ และมีประสบการณ์การต่อสู้มากมายเฟิงเอ้อร์เหนียงและฉุยอวี้ยังไม่มีความสามารถนี้ แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีทักษะบางอย่าง แต่ก็ไม่รู้จักวรยุทธ์ของตำหนักเทพ แม้ว่านางเคยไปที่หอสะสมตำรา แต่ก็ไปถึงแค่ขั้นล่าง ยังมีพลังภายในอยู่ในระดับเริ่มต้นที่ต่ำกว่าระดับล่าง แม้ว่านางจะเป็นเทพเซียน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกฝนวิชาสุดยอดเช่นนี้ภายในไม่กี่ชั่ว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1131 นางมีประโยชน์กับข้ามาก

    “คุณชายน้อยเย่อยู่หรือไม่”ผู้อาวุโสหันถามขึ้น แทบรอไม่ไหวที่จะผลักประตูหินให้เปิดออกเย่จิ่งหลานกำลังหลับสนิท เมื่อเสียงฝีเท้าของผู้อาวุโสหันมาถึงข้างเตียง เขาค่อยเปิดผ้าห่มอย่างเกียจคร้าน“มีอะไรหรือ”เย่จิ่งหลานลุกขึ้นนั่งกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง มองผู้อาวุโสหันและเหล่าศิษย์ที่อยู่ข้างหลังเขาอย่างง่วงนอนเมื่อเห็นว่าร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า กางเกงถูกดึงขึ้นเหนือเข่า กางเกงเต็มไปด้วยรอยย่น ดูไม่เหมือนคนเพิ่งนอน ผู้อาวุโสหันรู้สึกโล่งใจเขาหัวเราะหึๆ และพูดว่า “เกิดเรื่องขึ้นในตำหนักเทพ ข้าเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณชายน้อยเย่ จึงแวะมาดูหน่อย”เย่จิ่งหลานขยี้ตา“ข้าสบายดี ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรือ”ผู้อาวุโสหันพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มีคนบุกเข้าไปในหอตำราสะสม ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่เป็นไรแล้ว ข้าจะไปดูที่อื่นเดี๋ยวนี้”“อ้อ ผู้อาวุโสหันกลับดีๆ”หลังจากที่เย่จิ่งหลานพูดจบก็มุดเข้าไปในผ้าห่ม หันหลังนอนหลับไปอีกผู้อาวุโสหันมองย้อนกลับไปที่เขา ปิดประตูหินแล้วออกไปหลังจากเดินฉับๆ ร่างนั้นก็มาถึงที่พักของอินชิงเสวียนเมื่อเปิดประตูหิน ทั้งสามคนกำลังหลับอยู่ เมื่อได้ยินเสียงต่า

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1132 การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์

    “คนล่ะ?”อินชิงเสวียนหยุดยืนอยู่ในป่าไผ่เย่จิ่งหลานยิ้มอย่างภาคภูมิใจ“มีมิติอยู่ เจ้ากลัวอะไร”อินชิงเสวียนกลอกตามองเขา“เจ้าไม่ให้คนเข้าไม่ใช่หรือ”“นั่นเป็นเมื่อวาน”เย่จิ่งหลานหัวเราะแห้งๆ “เมื่อวานยุ่งนิดหน่อย ข้าทำความสะอาดแล้ว เข้าไปกันเถอะ”แสงแวบปรากฏยังเบื้องหน้าของอินชิงเสวียน นางก็ได้เข้ามาในโรงพยาบาลเล็กๆ ของเย่จิ่งหลาน แล้วข้างในไม่มีอะไรพิเศษ ยังเป็นเหมือนเดิมอินชิงเสวียนเดินผ่านทางเดินยาว ทันใดนั้นก็พบคนสองคนถูกห่อด้วยผ้าปูที่นอนสีขาวนอนอยู่ในห้องผู้ป่วย“นี่ใครน่ะ”“ข้าทำแบบจำลองมนุษย์ไว้สองร่าง สิ่งของทางการแพทย์ไม่น่าดูหรอก เจ้าดูแล้วก็มีแต่จะคลื่นไส้ ไปดูธิดาเทพดีกว่า”เย่จิ่งหลานดึงอินชิงเสวียนไปข้างหน้า สีหน้าของอินชิงเสวียนเต็มไปด้วยความสงสัย“จริงรึ”“ข้าจะโกหกเจ้าทำไม เพื่อนจากยุคเดียวกันไม่โกหกกันแน่นอน ธิดาเทพอยู่ในห้องรับแขก”เย่จิ่งหลานเปิดประตู ก็เห็นธิดาเทพในชุดขาวยืนทื่อๆ ตรงกลางพื้นเมื่อเห็นคนสองคนเข้ามาในห้อง ธิดาเทพก็ไม่แปลกใจหรือหวาดกลัวเลย ถึงขนาดที่ว่าไม่มีความรู้สึกใดๆ นางยังคงประสานมือ วางมือทั้งสองข้างขนานกับอก ยืนตัวตรง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1133 แบ่งงานชัดเจน

    “ไม่รู้สิ หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นทุกวันนี้อธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เจ้าอย่าพึ่งวิทยาศาสตร์ไปทุกอย่าง”เย่จิ่งหลานวางแผ่นตรวจมลง “เจ้าอยู่นี่กับนางสักพัก ข้าจะไปดูว่าตัวอย่างเลือดออกมาหรือยัง”อินชิงเสวียนทำอะไรไม่ถูก“ได้”นางยื่นมือออกไปประคองอินหลี พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เขาแค่ช่วยตรวจร่างกายของเจ้า พวกเราจะไม่ทำร้ายเจ้า”อินหลีเป็นเหมือนหุ่นเชิดที่ไม่มีชีวิต ปล่อยให้อินชิงเสวียนเล่นตามสบายอินชิงเสวียนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“ไปนั่งตรงนั้นเถอะ”อินชิงเสวียนพยุงอินหลีไปที่ห้องนั่งเล่น นิ้วเผลอไปแตะข้อมือของนางโดยไม่ตั้งใจ ทันใดนั้นนางก็ตกใจกับกำลังภายในอันทรงพลังในร่างกายของอินหลีอินหลีไม่เป็นวรยุทธ์ แล้วทำไมถึงมีพลังอันทรงพลังเช่นนี้อยู่ในร่างกายขณะที่กำลังตกใจ เย่จิ่งหลานจึงเดินออกจากห้องทดลองพร้อมกับแผ่นทดสอบในมือ“ดูเหมือนว่าข้าเดาถูก พวกเจ้าไม่ใช่ญาติกัน เหตุผลที่หน้าตาคล้ายกัน เป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น”เขาชูผลการตรวจขึ้นสูง โบกไปมาต่อหน้าอินชิงเสวียนในนั้นมีข้อมูลเปรียบเทียบมากมายที่ระบุไว้ แต่อินชิงเสวียนดูไม่รู้เรื่อง เพียงแต่จำประโยคด้านล่างของรายง

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1458 ขายความน่ารัก

    เสี่ยวหนานเฟิงกางมือเล็กๆ ออก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแหลมใสไร้เดียงสาว่า “ภารกิจอะไรอ่ะ”“ไปหาพี่สาวลั่ว”อินชิงเสวียนหยิบน้ำพุวิญญาณออกมาล้างมือที่สกปรกของเสี่ยวหนานเฟิง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ“อีกประเดี๋ยวเจ้าต้องขายความน่ารัก แม่จะถือโอกาสถามอะไรบางอย่าง”เสี่ยวหนานเฟิงดูสับสน กะพริบตาโตแล้วถามว่า “ขายความน่ารักหมายความว่าอย่างไร ต้องขายให้ได้เงินมากไหม”อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ“ท่าทางตอนนี้ของเจ้าก็น่ารักบ้องแบ๊วอยู่แล้ว ให้เป็นแบบนี้ต่อก็พอแล้ว”เสี่ยวหนานเฟิงตอบว่าอ้อ และทันใดนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้น “พี่สาวลั่วทำหน้าอมทุกข์อยู่ตลอด เราเอาให้ลูกกวาดให้นางก็ได้นะ”อินชิงเสวียนพยักหน้าเห็นด้วย“อื้ม นี่เป็นความคิดที่ดี”นางโบกมือและหยิบถุงลูกกวาดมาจากมิติ“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็มอบให้พี่สาวลั่วนะ”“ตกลง”เสี่ยวหนานเฟิงยื่นมือเล็กๆ ออกมาเพื่อหยิบมัน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่ม “ลูกได้ยินจากเสด็จพ่อบอกว่าอาจิ่งหลานหายไป ท่านแม่หาลุงเจอไหม”อินชิงเสวียนถอนหายใจ “ไม่รู้ บางทีเขาอาจจะกลับไปยังที่ของตัวเองแล้ว สำหรับเขาแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”เสี่ยวหนานเฟิงเอียง

DMCA.com Protection Status