หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 1131 นางมีประโยชน์กับข้ามาก

แชร์

บทที่ 1131 นางมีประโยชน์กับข้ามาก

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-19 16:00:00
“คุณชายน้อยเย่อยู่หรือไม่”

ผู้อาวุโสหันถามขึ้น แทบรอไม่ไหวที่จะผลักประตูหินให้เปิดออก

เย่จิ่งหลานกำลังหลับสนิท เมื่อเสียงฝีเท้าของผู้อาวุโสหันมาถึงข้างเตียง เขาค่อยเปิดผ้าห่มอย่างเกียจคร้าน

“มีอะไรหรือ”

เย่จิ่งหลานลุกขึ้นนั่งกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง มองผู้อาวุโสหันและเหล่าศิษย์ที่อยู่ข้างหลังเขาอย่างง่วงนอน

เมื่อเห็นว่าร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า กางเกงถูกดึงขึ้นเหนือเข่า กางเกงเต็มไปด้วยรอยย่น ดูไม่เหมือนคนเพิ่งนอน ผู้อาวุโสหันรู้สึกโล่งใจ

เขาหัวเราะหึๆ และพูดว่า “เกิดเรื่องขึ้นในตำหนักเทพ ข้าเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณชายน้อยเย่ จึงแวะมาดูหน่อย”

เย่จิ่งหลานขยี้ตา

“ข้าสบายดี ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรือ”

ผู้อาวุโสหันพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มีคนบุกเข้าไปในหอตำราสะสม ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่เป็นไรแล้ว ข้าจะไปดูที่อื่นเดี๋ยวนี้”

“อ้อ ผู้อาวุโสหันกลับดีๆ”

หลังจากที่เย่จิ่งหลานพูดจบก็มุดเข้าไปในผ้าห่ม หันหลังนอนหลับไปอีก

ผู้อาวุโสหันมองย้อนกลับไปที่เขา ปิดประตูหินแล้วออกไป

หลังจากเดินฉับๆ ร่างนั้นก็มาถึงที่พักของอินชิงเสวียน

เมื่อเปิดประตูหิน ทั้งสามคนกำลังหลับอยู่ เมื่อได้ยินเสียงต่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1132 การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์

    “คนล่ะ?”อินชิงเสวียนหยุดยืนอยู่ในป่าไผ่เย่จิ่งหลานยิ้มอย่างภาคภูมิใจ“มีมิติอยู่ เจ้ากลัวอะไร”อินชิงเสวียนกลอกตามองเขา“เจ้าไม่ให้คนเข้าไม่ใช่หรือ”“นั่นเป็นเมื่อวาน”เย่จิ่งหลานหัวเราะแห้งๆ “เมื่อวานยุ่งนิดหน่อย ข้าทำความสะอาดแล้ว เข้าไปกันเถอะ”แสงแวบปรากฏยังเบื้องหน้าของอินชิงเสวียน นางก็ได้เข้ามาในโรงพยาบาลเล็กๆ ของเย่จิ่งหลาน แล้วข้างในไม่มีอะไรพิเศษ ยังเป็นเหมือนเดิมอินชิงเสวียนเดินผ่านทางเดินยาว ทันใดนั้นก็พบคนสองคนถูกห่อด้วยผ้าปูที่นอนสีขาวนอนอยู่ในห้องผู้ป่วย“นี่ใครน่ะ”“ข้าทำแบบจำลองมนุษย์ไว้สองร่าง สิ่งของทางการแพทย์ไม่น่าดูหรอก เจ้าดูแล้วก็มีแต่จะคลื่นไส้ ไปดูธิดาเทพดีกว่า”เย่จิ่งหลานดึงอินชิงเสวียนไปข้างหน้า สีหน้าของอินชิงเสวียนเต็มไปด้วยความสงสัย“จริงรึ”“ข้าจะโกหกเจ้าทำไม เพื่อนจากยุคเดียวกันไม่โกหกกันแน่นอน ธิดาเทพอยู่ในห้องรับแขก”เย่จิ่งหลานเปิดประตู ก็เห็นธิดาเทพในชุดขาวยืนทื่อๆ ตรงกลางพื้นเมื่อเห็นคนสองคนเข้ามาในห้อง ธิดาเทพก็ไม่แปลกใจหรือหวาดกลัวเลย ถึงขนาดที่ว่าไม่มีความรู้สึกใดๆ นางยังคงประสานมือ วางมือทั้งสองข้างขนานกับอก ยืนตัวตรง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1133 แบ่งงานชัดเจน

    “ไม่รู้สิ หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นทุกวันนี้อธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เจ้าอย่าพึ่งวิทยาศาสตร์ไปทุกอย่าง”เย่จิ่งหลานวางแผ่นตรวจมลง “เจ้าอยู่นี่กับนางสักพัก ข้าจะไปดูว่าตัวอย่างเลือดออกมาหรือยัง”อินชิงเสวียนทำอะไรไม่ถูก“ได้”นางยื่นมือออกไปประคองอินหลี พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เขาแค่ช่วยตรวจร่างกายของเจ้า พวกเราจะไม่ทำร้ายเจ้า”อินหลีเป็นเหมือนหุ่นเชิดที่ไม่มีชีวิต ปล่อยให้อินชิงเสวียนเล่นตามสบายอินชิงเสวียนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“ไปนั่งตรงนั้นเถอะ”อินชิงเสวียนพยุงอินหลีไปที่ห้องนั่งเล่น นิ้วเผลอไปแตะข้อมือของนางโดยไม่ตั้งใจ ทันใดนั้นนางก็ตกใจกับกำลังภายในอันทรงพลังในร่างกายของอินหลีอินหลีไม่เป็นวรยุทธ์ แล้วทำไมถึงมีพลังอันทรงพลังเช่นนี้อยู่ในร่างกายขณะที่กำลังตกใจ เย่จิ่งหลานจึงเดินออกจากห้องทดลองพร้อมกับแผ่นทดสอบในมือ“ดูเหมือนว่าข้าเดาถูก พวกเจ้าไม่ใช่ญาติกัน เหตุผลที่หน้าตาคล้ายกัน เป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น”เขาชูผลการตรวจขึ้นสูง โบกไปมาต่อหน้าอินชิงเสวียนในนั้นมีข้อมูลเปรียบเทียบมากมายที่ระบุไว้ แต่อินชิงเสวียนดูไม่รู้เรื่อง เพียงแต่จำประโยคด้านล่างของรายง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1134 การค้นพบอันน่าตกใจ

    ทั้งสองออกจากมิติโดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตอินหลีจะไม่ไปไหนมั่วซั่ว เจ้าโง่ถูกจูงจมูกสองคนนั้นก็ถูกเย่จิ่งหลานทำให้หมดสติ แม้ว่าพวกเขาจะตื่นขึ้นมา ก็ไม่ทำร้ายอินหลี“เจ้าจะไปไหน” เย่จิ่งหลานถามอินชิงเสวียนอ้าปาก ทันใดนั้นก็คิดถึงความเป็นไปได้“เจ้าเปิดมิติอีกหน่อย ข้าอยากเข้าไปดู”ทันทีที่พูดจบ คนก็เข้าไปในมิติอีกครั้งอินชิงเสวียนเดินเข้าไปในห้องประชุมอย่างรวดเร็ว ใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภกับอินหลีโดยตรงทันใดนั้นวรยุทธ์กับพลังภายในส่วนหนึ่งก็ไหลเข้ามาในตัว ซึ่งรวมถึงกำลังภายอีกเล็กน้อยด้วยอินชิงเสวียนแยกแยะทักษะวรยุทธ์เหล่านี้อย่างละเอียด และพบว่าทั้งหมดมาจากตำหนักเทพ“เจ้าพบอะไรหรือเปล่า”เย่จิ่งหลานเอนตัวพิงประตูอย่างไม่ใส่ใจ ยกมือขึ้นกอดอกอินชิงเสวียนปิดประตูเดินออกมา สีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย“ดูเหมือนว่าข้าจะค้นพบความลับเรื่องใหญ่แล้ว หากข้าเดาไม่ผิด พลังของอินหลีอาจมาจากเจ้าตำหนักของตำหนักเทพ”“เจ้าตำหนัก?”เย่จิ่งหลานมองไปที่อินชิงเสวียนด้วยสีหน้าแปลกใจ“แล้วทำไมเขาถึงมอบพลังให้กับอินหลี?”อินชิงเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บางทีอาจเป็นเพราะเหตุผลที่หลีกเลี่ยง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1135 ยุทธภพกำลังจะวุ่นวาย

    ณ เทือกเขาเชื่อมเมฆา เมืองชิงเหอเย่จิ่งหลานเจอหวังซุ่นที่กำลังรอเขาอยู่“นายท่าน ราบรื่นดีหรือไม่”หวังซุ่นกำลังกินของว่าง ดูหนังสือภาพเล่มเล็ก ท่าทางสบายมากเย่จิ่งหลานพูดด้วยรอยยิ้มอวดๆ “เจ้านายเจ้าออกโรงทั้งที หนึ่งต่อสอง จะไม่ราบรื่นได้รึ”หวังซุ่นหัวเราะเบาๆ พูดอย่างประจบประแจง “ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านมีความสามารถทุกอย่าง ครั้งนี้ได้เจอแม่นางอินบ้างหรือไม่”“แน่นอน ครั้งนี้ข้าจะพาเจ้าขึ้นไปบนภูเขาด้วย มีงานบางอย่างให้เจ้าทำ”เมื่อได้ยินว่าเย่จิ่งหลานมีงานให้ตัวเองทำ หวังซุ่นก็รู้สึกตื่นเต้น รีบวางขนมในมือไว้บนเตียง ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ท่านมีงานอะไรให้ทำก็บอกมาได้เลย บ่าวรับรองว่าจะทำให้เสร็จ”เย่จิ่งหลานหยิบรูปของเจ้าตำหนักจินออกมา“ตามภาพเหมือนคนนี้ เจ้าสามารถสร้างหน้ากากได้หรือไม่”หวังซุ่นรับภาพวาดมาดู ลูบคางแล้วพูดว่า “ภาพนี้ดูค่อนข้างยาก ปกติข้าจะปั้นหน้ากากตามหน้าคนจริงๆ ถ้าปั้นขึ้นตามภาพแบบนี้ ค่อนข้างยากสักหน่อย”“มีความยากก็พยายามทำให้ได้ ข้าดูแลเจ้าเป็นอย่างดี เจ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ”เย่จิ่งหลานตบไหล่เขาอย่างแรง มองหวังซุ่นด้วยแววตาแน่วแน่หัวใจของหวังซ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1136 การเติมเต็มก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง

    เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงเฮ่อฉางเฟิงยืนไพล่หลังอยู่ในสวนยา ถอนหายใจลึกๆ เสียงอ่อนโยนดังมาจากด้านหลัง“ยังคิดถึงแม่นางอินคนนั้นอยู่หรือ”เฮ่อฉางเฟิงหันกลับมาทันที“ท่านแม่ เปล่าขอรับ เพียงแต่เสียดายที่เห็นสมุนไพรทั้งหมดในสวนยา มอบให้กับชาวยุทธ์เหล่านั้น”กงซวินอวิ๋นเฟิ่งยิ้มอย่างอ่อนโยน“นี่เป็นความต้องการของพ่อกับตาของเจ้า พวกเราในอิ๋นเฉิงให้ความสำคัญกับความสงบสุขมาโดยตลอด ไม่อยากใจที่จะมีส่วนร่วมในข้อพิพาทต่างๆ การคลี่คลายความบาดหมางด้วยสมุนไพรก็นับว่าคุ้มค่า”เฮ่อฉางเฟิงกล่าวว่า “ก็จริง แม้ว่าทุกคนในอิ๋นเฉิงจะฝึกฝนวรยุทธ์ แต่ก็สงบเงียบปรองดองมาโดยตลอด จะเรียกว่าแดนสุขาวดี ก็ไม่เกินจริง”ในแง่ของความแข็งแกร่ง ถ้าอิ๋นเฉิงเรียกคนมาไม่กี่คน ก็สามารถเอาชนะชาวยุทธ์อันธพาลเหล่านั้นให้ร้องไห้เรียกหาบุพการีได้ เพียงแต่อิ๋นเฉิงไม่อยากเอาชนะพวกเขาด้วยกำลังเท่านั้นเองกงซวินอวิ๋นเฟิ่งพยักหน้า“ใช่แล้ว ไม่รู้ว่าแม่นางอินอาศัยอยู่ที่ไหน ถ้าเจ้าชอบนางจริงๆ เราก็ไปเยี่ยมนางได้”เฮ่อฉางเฟิงคิดในใจ นางแต่งงานแล้ว ไปเยี่ยมจะมีประโยชน์อะไร“ลูกไม่รู้ ลูกไม่ได้คิดอะไรกับแม่นางอิน ท่านแม่อย่าได้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1137 แต้มจุดแดงที่หว่างคิ้ว

    ในเวลานี้ เย่จิ่งหลานได้กลับมาที่ตำหนักเทพหอทองคำแล้วด้วยสถานะพิเศษของเขา เหล่าศิษย์ของตำหนักเทพจึงให้ความเคารพเขาอย่างมาก เขาพาหวังซุ่นไปยังที่พักของอินชิงเสวียนโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ หวังซุ่นอดไม่ได้ที่จะถาม “นายท่าน แม่นางอินเห็นท่านที่จู่ๆ ก็มีรูปลักษณ์หล่อเหลาเช่นนี้แล้ว นางมีท่าทางอย่างไร”เย่จิ่งหลานกลอกตามองเขา พูดด้วยความโกรธ “เจ้าคิดว่าจะเห็นนางทำหน้าแบบไหน หรือเจ้าคิดว่านางจะตกหลุมรักข้า?”หวังซุ่นหัวเราะแหะๆ พูดว่า “ตอนนี้ท่านหล่อเหลาสง่างาม องอาจดั่งต้นหยก เป็นบุรุษรูปงามเป็นพิเศษ ตอนที่ท่านเดินอยู่ในเมือง ไม่รู้มีแม่นางน้อยใหญ่มากมายเพียงใด ที่สายตาจับจ้องมาที่ท่าน”คำเยินยอนี้ยอได้ดี เย่จิ่งหลานพอใจมากเขายกมุมปากขึ้นแล้วพูดว่า “ถือว่าพวกนางสายตาแหลมคมอยู่บ้าง แต่ไม่สามารถพูดแบบนั้นต่อหน้าสตรีผู้นั้นได้ ข้าและนางเป็นเพื่อนที่บริสุทธิ์ต่อกันจริงๆ ไม่มีความคิดที่ไม่เหมาะสมอื่นใดอีก”หวังซุ่นติดตามเย่จิ่งหลานมานานแล้ว ทั้งสองรู้สักคุ้นเคยกันดี เขาหัวเราะหึๆ แล้วพูดว่า “ตอนที่ท่านฝันยังละเมอเป็นชื่อแม่นางอิน ท่านไม่ชอบนางเลยหรือ”ใบหน้าของเย่จิ่งหลานเปลี่ยนเป็นสีแดง ตบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1138 อันตรายที่แฝงเร้น

    เย่จิ่งหลานรู้สึกประหลาดใจอยู่พักหนึ่ง“ข้าเป็นผู้ชายอกสามศอกจะไปแต้มจุดแดงทำไม”หวังซุ่นมองดูและพูดว่า “จริงนายท่าน มีจุดสีแดงเล็กๆ”เย่จิ่งหลานโบกมือ หยิบกระจกบานเล็กออกมาจากมิติ แล้วก็ปรากฏไฝสีแดงขนาดเท่าเมล็ดงาอยู่ระหว่างคิ้วของเขาเขาใช้มือเช็ดออก แต่มันก็ไม่ออกอดไม่ได้ที่จะพึมพำด้วยเสียงแผ่วเบา “นี่มันบ้าอะไร”ทันใดนั้นก็นึกถึงเลือดหยดนั้นของโมริตะคาวาสึบาเมะ รู้สึกตกใจขึ้นทันทีหรือว่าเลือดหยดนั้นปรากฏขึ้นแล้ว?ไม่รู้ว่านี่เป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายสำหรับเขา?อินชิงเสวียนไม่รู้ถึงปัญหานี้ พูดด้วยรอยยิ้ม “ได้ยินจากยายของข้าบอกว่า ไฝมังกรคู่เริงมุกเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งร่ำรวย เย่จิ่งหลาน เจ้ากำลังจะรวยแล้ว”เย่จิ่งหลานหัวเราะแห้งๆ ยกมือขึ้นคำนับแล้วพูดว่า “ขอให้สมพรปาก สักวันหนึ่งข้าจะสวมชุดสีเหลือง ออกไปเป็นไรเดอร์รับส่งอาหาร”อินชิงเสวียนหัวเราะขันกับคำพูดเขา“ถ้าอย่างนั้นข้าจะรอให้เจ้าเริ่มเปิดกิจการยอดเยี่ยมของเจ้าเอง”“ได้เลย ได้เลย”จากนั้นเย่จิ่งหลานพูดว่า “คืนนี้ข้าจะไปกับเจ้า ดูว่าตาแก่หนังเหนียวแซ่หันนั่นมีแผนร้ายอะไร”“ได้ คืนนี้เจอกัน”หลังจากที่อินช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1139 นิสัยของลิ่นเซียว

    เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของอินชิงเสวียน เหมยชิงเกอจึงถามอย่างกังวล “มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า พลังของข้าฟื้นตัวพอควรแล้ว หากแม่นางมีปัญหาที่แก้ไม่ตก ข้าสามารถออกไปช่วยเจ้าได้”อินชิงเสวียนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ผู้อาวุโสถูกขังอยู่ในผาเฟิงเริ่นมาเป็นเวลานาน หากต้องการที่จะฟื้นฟูสู่จุดสูงสุด เกรงว่าจะต้องใช้เวลาพอสมควร ท่านพักผ่อนที่นี่บำเพ็ญตนอยู่ก่อนได้ หากมีวันหนึ่งโค่นล้มผู้อาวุโสหันได้แล้ว ยังต้องให้ผู้อาวุโสรับผิดชอบสถานการณ์โดยรวม”หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เหมยชิงเกอก็ยิ่งกังวลมากขึ้น“ภายนอกผู้อาวุโสหันดูไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่ความจริงมีจิตใจที่ชั่วร้าย หากเจ้าต่อสู้กับเขา เจ้าจะต้องระมัดระวังมากขึ้นเป็นเท่าตัว”“ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล ข้ายังมีที่มิติ พวกเขาทำอะไรข้าไม่ได้ ต้องขอตัวแล้ว”อินชิงเสวียนอุ้มลูกชายขึ้นมาหอมแก้มหลายฟอด จากนั้นออกจากมิติ ตรงไปยังที่พักของลิ่นเซียวลิ่นเซียวกำลังนั่งขัดสมาธิฝึกพลังในถ้ำ มีพลังปราณที่ไร้รูปร่างวนเวียนอยู่รอบตัว ทันทีที่ไปถึงประตู อินชิงเสวียนรู้สึกถึงพลังกดดันอย่างรุนแรงสมแล้วที่เป็นผู้อาวุโสในยุทธจักร มีพลังกดดันอันน่าเกรงขามอินชิงเสวี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-21

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status